TOCAปลุกเครือข่ายเกษตรอินทรีย์บูมท่องเที่ยวอาหารรุกBCG Modelปี66
แปลงโฉมพื้นที่10ไร่จัดใหญ่ “สังคมสุขใจ”17-19ก.พ.66หน้าสวนสามพราน
รวมพลังสมาคมTEATAเปิดเส้นทางขายทัวร์โลว์คาร์บอนภูเก็ต-เชียงใหม่
คุ้มกว่า!!สมัครบัตรคิงเพาเวอร์NAVY+SCARLETรับสิทธิ์ใหญ่วันนี้-31ธ.ค.66
ฉลองวาเลนไทน์“พูลแมนคิงเพาเวอร์”รับ6พิเศษจิบชาคู่รักที่เดอะสแตนดาร์ด
ททท.บูมท่องเที่ยวรักษ์โลกกรีนคอนเสิร์ตเขื่อนขุนด่านนครนายก12ก.พ.66
บางจากติดอันดับ12ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากสุดปี66กับสุข100เท่า
TCEBชูขายเทศกาลChiang Mai Blooms”–Flowers on the Tableก.พ.-5มี.ค.66
พิกัดเที่ยว“ย่านบางโพ”วัฒนธรรมไทยจีนชมถนนสายไม้แห่งสุดท้ายในกรุง
กาตาร์แอร์เวย์สนำทั่วโลกทัวร์ไทยบิน7เที่ยว/วันเพิ่มโดฮา-ภูเก็ต3เที่ยว/วัน
เปิดแล้ว!!ตลาดโมเดลต้นแบบเศรษฐกิจชุมชน“เจเจ กรีน เอ็กซ์
มาร์เก็ต”
วันอาทิตย์ที่
5 กุมภาพันธ์ 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #สังคมสุขใจ17ถึง19กุมภาพันธ์66 #ย่านบางโพชุมชนไม้แหล่งสุดท้ายในกรุง
ฟังสดจากลิงค์ https://fb.watch/iuWl7unCyP/
ช่วงที่ 1 ดันเกษตรอินทรีย์ต่อยอด BCG ท่องเที่ยวกับ “อรุษ นวราช” กรรมการผู้จัดการ
สวนสามพราน และประธานสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA-Thai Organic
Consumer Association)
เปิดพื้นที่กว่า 10 ไร่
จัดมหกรรม “สังคมสุขใจ” 17-19 ก.พ.นี้
รวมกลุ่มเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์เข้าร่วมกว่า 200 บูธ เพิ่มประสบการณ์เด่น 8 ไฮไลต์ หวังผลสำเร็จ 3 เรื่อง “กระตุ้น” ผู้ผลิตกับผู้ซื้อกลุ่มโรงแรม
ร้านอาหารเลือกจับคู่ค้าขาย “สร้างออร์แกนิก ฮีโร่” ถ่ายทอดอาชีพ “เปิดเทรนด์ BCG
Economy Model” ผนึก 2 สมาคม TOCA กับ TEATA ประยุกต์แพลตฟอร์มเดินหน้าขาย “ท่องเที่ยวโลว์
คาร์บอน” คัดเส้นทางต้นแบบนำร่อง 2 จังหวัด
ภูเก็ต เชียงใหม่
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สวนสามพราน
และประธานสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA-Thai Organic Consumer
Association) เปิดเผยว่า
ปี 2566 วางแผนจัดมหกรรมงาน
“สังคมสุขใจ” ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่
17-19 กุมภาพันธ์ 2566
จัดต่อเนื่อง 3 วัน แต่ละวันจะเปิดเข้าฟรีตั้งแต่ 9.00-17.00
น. ที่บริเวณตลาดสุขใจ สวนสามพราน
นครปฐม
เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของกลุ่มภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมเกษตรอินทรีย์กว่า
200 บูธ มีทั้ง
“ผู้ประกอบการ” โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และ “ผู้บริโภค”
ประชาชนคนทั่วไปเข้าฟรีเพื่อร่วมประสบการณ์ ช้อปปิ้งสินค้า เสวนาเชิงวิชาการ
อบรมการทำเกษตรอินทรีย์อย่างง่าย คาดจะมีผู้เข้าร่วมวันละหลายพันคน
ใช้พื้นที่รวมกว่า 10 ไร่
ตั้งแต่บริเวณตลาดสุขใจต่อเนื่องไปถึงหมู่บ้านปฐม
โดยมีไฮไลต์ให้ทุกคนที่เข้างานได้เพิ่มประสบการณ์พิเศษ 8 กิจกรรม
ตั้งเป้าหมายสร้างความสำเร็จ
3 เรื่องหลัก เรื่องที่
1 กระตุ้นผู้ผลิต
ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคซึ่งอยู่ในห่วงโซ่เกษตรอินทรีย์
มาร่วมหาคู่ค้าซึ่งจะเปิดให้ทำการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างกัน วันเสาร์ที่ 18
กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น. ด้วยขั้นตอนการ “ลงทะเบียน” ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ เพจเฟซบุ๊ค สังคมสุขใจ
หรือสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA)
เรื่องที่ 2 เปิดโลกเทรนด์ใหม่ให้ผู้บริโภคสามารถมาหาความรู้ได้อย่างหลากหลาย
ได้จัดเตรียม “Organic Hero”
คัดเกษตรกรที่มีความรู้เฉพาะทางมาให้คำปรึกษาได้ฟรี
สามารถเดินเข้ามาในงานจะมีปฏิทินกิจกรรมรายวันให้เลือกตามความสนใจได้อย่างเต็มที่
เรื่องที่ 3 นำสังคมและสินค้าเกษตรอินทรีย์ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ
BCG Economy Model ตลอดห่วงโซ่
เกษตร อาหาร ท่องเที่ยว โดยเฉพาะการทำเกษตร ตามหลักชีวภาพ
โดยใช้ทรัพยากรมาหมุนเวียนตามแนว Circular และสร้างสิ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสีเขียวหรือ
Green Economy
อีกทั้งยังได้จับมือกับสมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์การท่องเที่ยว
(TEATA)
เปิดขายเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำตามพื้นที่ชุมชนเกษตรอินทรีย์
โดยมีพันธมิตรธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาเสริมทัพด้วย เช่น รักษวิลเลจ เครือเซ็นทรัล
และอีกหลายกลุ่ม เพื่อร่วมมือกันลดคาร์บอน เรียนรู้การจัดสรรขยะในชีวิตประจำวัน
ทั้งสถานประกอบการ หรือขยะภายในบ้านของแต่ละครอบครัว เรื่อยไปจนถึงการให้คำแนะนำ
วิธีทำธุรกิจเพื่อดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
โดยมีสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทยนำข้อมูลต่าง
ๆ มาให้ทุกคนได้เรียนรู้ในหลายมิติด้วยกัน
ปี 2566
ทางสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) นำร่องพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ภูเก็ต และเชียงใหม่ สร้าง “แพลตฟอร์ม TOCA”
เพื่อเป็นเครื่องมือให้เกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่
มาเลือกซื้อวัตถุดิบ หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้งานด้านการเปิดดูพื้นที่ท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์ตามจังหวัดที่เดินทางเข้าไปพักผ่อน
ทำให้ทุกกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวได้ใช้งานแพลตฟอร์มอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ช่วงปลายปี
2566 วางแผนผนึกความร่วมมือกันทั้ง
2 สมาคม คือ TOCA
กับ TEATA จะบูรณาการแพลตฟอร์มคัดเลือกเส้นทาง “ท่องเที่ยว
โลว์คาร์บอน” มาจัดวางไว้เป็น “โมเดลต้นแบบ”
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางไปยังภูเก็ต และเชียงใหม่
เป็นกลยุทธ์การสร้างโมเดลต้นแบบ เพื่อจะนำไปต่อยอดในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ
นายอรุษกล่าวว่า
ปี 2566 ภาคธุรกิจตื่นตัวที่จะหันมาพัฒนาการลงทุนธุรกิจด้วยการใส่ใจ
BCG Model โดยมีเครื่องมือวัดผลได้
เพื่อเผยแพร่สร้างเครือข่ายดึงลูกค้า ผู้บริโภค
เข้ามามีส่วนร่วมกับผู้ผลิตและผู้ขาย
สร้างห่วงโซ่ตั้งแต่ต้นทางกลางทางถึงปลายทางได้บนแพลตฟอร์ม TOCA ทุกกลุ่ม
รวมทั้งยังสามารถเชื่อมโยงการค้นหากิจกรรมทางการตลาดร่วมกัน
สำหรับงาน
“สังคมสุขใจ” ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์
2566 ที่บริเวณพื้นที่
10 ไร่
ในตลาดสุขใจเชื่อมต่อกับปฐมวิลเลจ สวนสามพราน จ.นครปฐม
จะเปิดประสบการณ์ให้ทุกกลุ่มได้เพิ่มความแปลกใหม่สังคมอินทรีย์ไฮไลต์ 8
กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 เลือกช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดีจากทั่วประเทศกว่า
200 บูธ มีทั้ง ข้าว ผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป งาน Art & Craft ต่างๆ
กิจกรรมที่ 2 ร่วม เวิร์คช็อปสุดชิค
สนุกได้ทุกวัย เน้นสอนจริง ทำเองเป็น ลงมือเพื่อเรียนรู้และเข้าใจนำไปใช้ในชีวิต
กิจกรรมที่ 3 Business Matching
เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร จับคู่ธุรกิจ
ซื้อสิ้นค้าอินทรีย์ตรงจากเกษตรกรกว่า 20 ราย
กิจกรรมที่ 4 แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง
กิจกรรมที่ 5 ร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ง่ายๆ
ผ่าน แอพพลิเคชั่น TOCA Platform
กิจกรรมที่ 6 สนุกกับกิจกรรมสะสม Earth
Points แต้มรักษ์โลก แลกรับสิทธิมากมายภายในงาน
กิจกรรมที่ 7 พบกับ Organic
Hero และคนอินทรีย์ต้นแบบหลากหลายด้าน
ที่ยินดีมาแบ่งปันความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ
กิจกรรมที่ 8 นิทรรศการความรู้
และเวทีเสวนาในหัวข้ออินเทรนด์ต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ
การจัดการขยะอาหาร ขยะพลาสติก Carbon Farming และ
Bio Dynamic กับการทำเกษตรอินทรีย์
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คุ้มกว่า!!สมัครบัตรคิงเพาเวอร์NAVY+SCARLETรับสิทธิ์ใหญ่วันนี้-31ธ.ค.66
คุ้มสุด
ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ ทางกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ชวนสมัครบัตรสมาชิกเพื่อรับสิทธิประโยชน์หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของตัวเราเอง
ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2566 กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และพันธมิตรมากมาย ทั้งส่วนลด พร้อมแลกรับสิทธิประโยชน์พิเศษจาก
กะรัต รีวอร์ด ได้ทุกการช้อป
1.สมัครสมาชิก NAVY และเติมเงิน 1,000 บาท* สมัครสมาชิก SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาท* ได้ส่วนลด ที่มากกว่ารับส่วนลดทันทีทุกการช้อป ตลอดอายุสมาชิก
สูงสุด 10% และสะสมยอดช้อปครบ ปรับสถานะสมาชิกทันที
รับส่วนลดสูงสุด 15%
2.สิทธิประโยชน์ ที่มากกว่า 1.พิเศษ! สิทธิ์วันเกิด
รับ CASH BACK 25% x 2 สิทธิ์ 2.สิทธิ์การเข้าใช้บริการ
KING POWER LOUNGE และ KING POWER SPACE 3.คุ้มค่ากว่าด้วย กะรัต รีวอร์ด ทุกการช้อป 100 บาท
รับ 1 กะรัต ใช้กะรัต แทนเงินสด 1
กะรัต = 1 บาท
3.สมัครง่าย ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา หรือ สมัครทางออนไลน์ ผ่าน @KINGPOWER
ไฮไลต์การใช้สถานที่แฮงเอาท์
ที่ “KING POWER
SPACE”
สมาชิกบัตรทุกประเภทสามารถเข้าใช้บริการ คิง เพาเวอร์ สเปซ จะนับจากการเข้าใช้บริการ
คิง เพาเวอร์ สเปซ ทุกครั้ง ทุกสาขา สูงสุดวันละ1 สิทธิ์/ ครั้ง/ และสามารถให้สิทธิ์แก่ผู้ติดตามเข้าใช้บริการ ครั้งละ วันละ 1 สิทธิ์/ ครั้ง ด้วยเช่นกัน
ข่าวที่
2 ฉลองวาเลนไทน์“พูลแมนคิงเพาเวอร์”รับ6พิเศษจิบชาคู่รักที่เดอะสแตนดาร์ด
โรงแรม
พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ในเครือของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนมาฉลองเทศกาล
#วันวาเลนไทน์ กับคนพิเศษสุดโรแมนติกที่น่าจดจำ ในวันที่
14 กุมภาพันธ์ 2566 เลือกความพิเศษได้ได้ถึง
6 รายการ ดังนี้
1.ซื้อคูปองสุดคุ้ม ลด 15% จากราคาปกติ ได้ตั้งแต่วันนี้
- 10 กุมภาพันธ์ 2566 แล้วนำคูปองใช้ได้ได้ในวันพิเศษ
14 ก.พ.นี้
2.ซื้อได้เลยบุฟเฟต์ซีฟู้ดและบาร์บีคิววาเลนไทน์มื้อค่ำ ที่ห้องอาหารควิซีน
อันปลั๊ก กับมื้อพิเศษ 18:00 – 22:30 น.ราคาคนละ 2,125 บาทสุทธิ ลดราคาจากปกติคนละ 2,500 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่ม
Soft drink และค็อกเทล 1 แก้ว
3.คอร์สโอมากาเสะ ที่ห้องอาหารเท็นโกะ Tenko Omakase Bangkok สำหรับ 2 คน มีให้เลือกดังนี้ “มื้อกลางวัน” ราคารวม 6,800 บาทสุทธิ มี 12 เมนู (ราคาปกติ
8,000 บาทสุทธิ) “มื้อค่ำ”
ราคา 13,600 บาทสุทธิ มี 16
เมนู (ราคาปกติ 16,000 บาทสุทธิ)
4.ชุดเมนูอาหารญี่ปุ่น 5 คอร์ส ที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ
เวลา 18:00 – 22:30 น.ราคาชุดละ 1,487.50 บาทสุทธิ (ราคาปกติ 1,750 บาทสุทธิ)
5.เซตของขวัญวันวาเลนไทน์ หมีเท็ดดี้และช็อกโกแลต ที่ เดอะจังชั่น สามารถรับของได้ตั้งแต่วันที่
14 -28 ก.พ. 66 เวลา 07:00 –
21:30 นไซต์ S ช็อกโกแล็ต 6 ชิ้น ราคาเซ็ตละ 756.50 บาทสุทธิต่อเซ็ต (ราคาปกติ 890 บาทสุทธิ) ไซต์ L ช็อกโกแล็ต 12 ชิ้น ราคาเซ็ตละ 1,011.5 บาทสุทธิ (ราคาปกติ 1,190 บาทสุทธิ)
6.ฟรีถ่ายรูป Photo Booth เมื่อแสดงใบเสร็จที่มาใช้บริการร้านอาหารภายในโรงแรม
ได้ตรงจุดบริการหน้าห้องอาหารควิซีน อันปลั๊กสอบถามเพิ่มเติม โทร 02 680
9999
ส่วนที่ “โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด
มหานคร แบงค็อก” ต้อนรับวันแห่งความรักด้วยชุดน้ำชายามบ่ายสุดโรแมนติกจาก Tease ทั้งเมนูเค้กแสนอร่อยและเมนูของคาวที่ไม่อยากให้คุณ
คนรู้ใจ หรือเพื่อนสาวพลาดพร้อมเสิร์ฟตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ ราคาเพียงเซ็ตละ 1,200++ บาท พร้อมเลือกเอนจอยเพิ่มเครื่องดื่มแชมเปญเวอร์ชั่นสเปนอย่าง
Cava เพียงแก้วละ 275++ บาทสำรองที่นั่งโดยแอดไลน์ @TheStandardBangkok
ข่าวที่ 3 ททท.บูมเที่ยวรักษ์โลกกรีนคอนเสิร์ตเขื่อนขุนด่านนครนายก12ก.พ.66
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานว่า
ได้ร่วมกับ นิตยสาร กรีนไลฟ์พลัส จัด "กรีนมิวสิค"
มหกรรมบทเพลงเพื่อชีวิต "ฟรีคอนเสิร์ต"
ร่วมปลุกจิตสำนึกนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ในวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566
โดยได้เปิดลานกิจกรรมเขื่อนขุนด่านปราการชล ตั้งแต่
"เที่ยงวันยันเที่ยงคืน" ให้ได้ชมการแสดงคอนเสิร์ตอย่างเต็มอิ่ม
พร้อมระบบแสง สี เสียงสุด
อลังการ
จากศิลปินวงดังระดับตำนาน 6 ศิลปิน
นำโดย หงา คาราวาน, สีเผือก คนด่านเกวียน,
ซูซู, แฮมเมอร์, บรรพชน และ ต่อ-อุทก
ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมไฮไลต์ที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทางกระแสใหม่ที่จะเข้าร่วมชม
ช้อป และร่วมลดโลกร้อนกับรถไฟฟ้าเทรนด์ใหม่ ได้กับ 3 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมที่
1 ชมการแสดง “ว่าวบินสวยงามนานาชาติ”
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาคมนักบินว่าวแห่งประเทศไทย
จะมาร่วมสร้างสีสันตลอดทั้งงาน
กิจกรรมที่
2 ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์การออกร้านชุมชนของดีนครนายก
และสินค้าพื้นเมืองโอท็อปท้องถิ่นหลากหลายร้านด้วยกัน
กิจกรรมที่
3 Test Drive กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Deco นำเสนอรถไฟฟ้าประหยัดพลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้จัดแคมเปญพิเศษ
ลดทันที 18,000 บาท ขานรับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ในฐานะผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่ได้รับมาตรฐานการผลิต
โดยมีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการครบวงจรทั่วประเทศกว่า 300
สาขา
นักท่องเที่ยวสามารถร่วม
“กรีนมิวสิค ฟรีคอนเสิร์ต มหกรรมเพลงเพื่อชีวิต”
ได้ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล โทร. 089-123-4450
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับเศรษฐกิจ
BCG ของรัฐบาลที่จะเริ่มอย่างเข้มข้นตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป
ข่าวที่ 4 บางจากติดอันดับ12ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากสุดสุข100เท่า
นายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ ได้รับรางวัล Top 50 Employers in
Thailand 2023 หรือ รางวัล 50
องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2566
โดยมี Mr. Jens Pold ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ เป็นผู้มอบรางวัล ซึ่งบางจากได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 50 องค์กรที่น่าทำงานของคนรุ่นใหม่
ติดต่อกันตั้งแต่ปี 2561 มาจนถึงตอนนี้ปี 2566 ได้รับรางวัลลำดับที่ 12 ขยับอันดับดีมากขึ้นจากเมื่อปี
2565 อยู่ในลำดับที่ 17 เท่านั้น
รางวัลที่ได้รับล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงสะท้อนถึง
“บางจากฯ” เป็นองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ในการทำงาน
ทั้งในด้านประสบการณ์การเข้าร่วมงานและความสามารถในการเข้าหา เข้าถึง เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
โดยบางจากฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ควบคู่กับการเติบโตขององค์กร โดยมีแนวทางการดูแลพนักงาน 100XHappiness เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความสุข 100 เท่า และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
100 ปี หรือ Bangchak100X
สำหรับ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คือผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
ดำเนินงานภายใต้ 5 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน
เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery ทันสมัย โดยปรับเป็น Niche
Products Refinery เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ low emission
กลุ่มที่
2 ธุรกิจการตลาด
มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,300 แห่ง กับธุรกิจพาณิชย์ที่ไม่ได้มาจากน้ำมันหรือ
Non – oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio และ
EV charger
กลุ่มที่
3 ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดย
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) รุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่เพื่อนำมาใช้ในระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่
กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดยมี บริษัท บีบีจีไอ
จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
กำลังขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง
กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่
เป็นการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์
ได้การยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ
(BiiC) เป็นผู้ลงทุน Corporate Venture Capital
เน้นลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และช่วยสร้างระบบนิเวศน์สร้างนวัตกรรมสีเขียว
ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
อีกทั้งยังได้ก่อตั้ง
Carbon Markets Club เดินหน้าส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio
Consortium ด้วย
ข่าวที่ 5 “TCEB”ชูขายเทศกาลChiang Mai
Blooms”–Flowers on the Tableก.พ.-5มี.ค.66
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ทีเส็บ ร่วมสนับสนุนงาน “เทศกาลเมืองเชียงใหม่-
Chiang Mai Blooms” – Flowers on the Table” ขานรับเชียงใหม่ได้รับการประกาศเป็นเมืองแห่ง
อีเวนต์ เฟสติวัล ระดับโลก หรือ World Festival and Event Cities จึงหนุนจัดเทศกาลรับปี 2566 ดึงดูดนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้สนใจเข้าไปร่วมชมความยิ่งใหญ่ได้ตั้งแต่วันนี้
- 5 มีนาคม 2566
มีไฮไลต์คือมหกรรมรวมสุดยอดความอร่อยแสนสวยงามกับหมู่มหัศจรรย์แห่งงานกับงาน
“Flower on the Table” ในวันที่ 26
กุมภาพันธ์ นี้ ที่ I Love Flower Farm เปิดต้อนรับนักชิมทั้งหลายที่ชื่นชอบอาหารรสเลิศจากการสร้างสรรค์ของเชฟ
บาร์เทนเดอร์ คนขายดอกไม้ พร้อมศิลปินมากมาย มาร่วมกันปรุงรสชาติสุดแสนอร่อย
ตกแต่งสถานที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากดอกไม้
และดื่มด่ำเสียงเพลงอันไพเราะระหว่างจิบค็อกเทลออกแบบรสชาติพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
โดยมีทัพบุปผชาติปีเถาะ
2566 งาน “Chiang Mai Blooms 2023”
Magic Moment เทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน อันอบอวนด้วยดอกไม้ทั่วเมือง
เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ตลอดเทศกาลอย่างเพลิดเพลินกับ
14 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรม
Blooms Photo Contest , Blooms Photo Exhibition, Blooms Installation X หอภาพถ่ายล้านนวันนี้- 28
ก.พ. 66 ณ หอภาพถ่ายล้านนา
กิจกรรม
Blooms Wisdom X Chiang Mai Learning City วันที่ 3 - 6
และ 10 ก.พ. 66 ณ 3 ชุมชนเมืองเก่า (ควรค่าม้า / ล่ามช้าง / ช้างม่อย)
กิจกรรม
Blooms Chef's Table วันที่ 10 ก.พ. ที่รติ ล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์
เชียงใหม่ (Blackitch Artisan Kitchen x Rati Lanna Riverside Spa Resort
Chiang Mai) วันที่ 17 ก.พ. 66 ที่ จิโนเรลลา เชฟ เทเบิล Ginorella
บาย เชฟ GINO วันที่ 22 ก.พ. 66 ที่ Sipolle (Sipolle
X Aquila) วันที่ 24 ก.พ. ที่ ออกซิเจน ไดนิ่ง ครอส เชียงใหม่
ริเซอร์ไซด์
กิจกรรม
Blooms in the Afternoon tea วันที่ 4 ก.พ. 66 ณ Lamour’s
café วันที่ 11 ก.พ. ที่ คาเฟ่ เดอ โอเอซิส แอนด์ โทนี’ส พิซซ่า วันที่ 18 ก.พ. 66 ที่
ไทม์ ริเวอร์ฟรอนท์ ครุยซีน แอนด์ บาร์ ริรันด์ โรแมนติก บูติก รีสอร์ต วันที่ 25
ก.พ. ที่ เดอะ เซอร์วิส 1921 Anantara Chiang Mai
Resort
กิจกรรม Blooms Nightlife (Blooms
Signature Cocktail) วันที่
11 ก.พ. 66 ที่ บับเบิ้ลส์ บาร์
อนันตรา เชียงใหม่
กิจกรรม Blooms in the Jungle วันที่
11 - 18 ก.พ. ที่ชุมชนบ้านบวกเต๋ย
กิจกรรม
Blooms Coffee & Tea วันที่ 18 ก.พ. 66 ที่ ไฮ ที
แอด รามมิ่ง ที เฮาส์ สยาม ศิลาดล ท่าแพ
วันที่ 22 - 26 ก.พ. 66 ที่เชียงใหม่ คอฟฟี่ วีค 2023
กิจกรรม Blooms Run x อำเภอแม่ออน
วันที่ 18 ก.พ. 66 ณ อำเภอ แม่ออน
กิจกรรม Blooms Beat วันที่ 25
ก.พ. ที่สวนดอกไม้ไอเลิฟฟลาวเวอร์
(บัตรราคา 299)
กิจกรรม Blooms Market วันที่
11 - 15 ก.พ. เทศกาลอยู่หอมและวันที่ 17 - 21 ก.พ. เทศกาลกินหอม 66 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล
เชียงใหม่
กิจกรรม
Blooms Bazaar วันที่ 4 - 5 ก.พ. ที่ตลาดเกษียณมาร์เก็ต
วันที่ 18 - 19 ก.พ. 66 ที่ตลาดโหล่งฮิมคาว
วันที่ 4 - 5 มี.ค. 66 ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต
กิจกรรม Blooms Wellness วันนี้ - 28 ก.พ. 66 ณ
โรงแรมและสปาชั้นนำที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด
กิจกรรม
Flowers on the Table วันที่ 26 ก.พ. ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์
กิจกรรม
Blooms Journey ที่ทำให้ทุกคนร่วมสัมผัสประสบการณ์ไปพร้อมกับ
Chiang Mai Blooms ที่คัดสรรมาไว้ที่เดียว ทั้งที่พัก
ร้านอาหาร และกิจกรรมท่องเที่ยวชมสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ในแพ็คเกจท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของเทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยได้ทุกวัน
เปิดพิกัด “ย่านบางโพ” สัมผัสพิพิธภัณฑ์ชีวิตกับวัฒนธรรมไทยสู่จีนของช่างฝีมือดีถือเป็นชุมชนถนนสายไม้แห่งสุดท้ายในกรุงเทพฯ
แล้วเกาะติดข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “กาตาร์แอร์เวย์ส”บูมเที่ยวไทยบิน7เที่ยว/วันเพิ่มโดฮา-ภูเก็ต 3เที่ยว/วัน ข่าวที่สอง
“เปิดแล้ว!! โมเดลต้นแบบตลาดเศรษฐกิจชุมชน-เจเจ กรีน เอ็กซ์
มาร์เก็ต” ประชาชื่น
ท่องเที่ยว -พิกัดเที่ยว“ย่านบางโพ”วัฒนธรรมไทยจีนชมถนนสายไม้แห่งสุดท้ายในกรุง
วันนี้การท่องเที่ยวในกรุง
ตามชุมชนย่านเศรษฐกิจดั้งเดิม เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง วันนี้จะเปิดพิกัด “ย่านบางโพ”
พาไปพบกับชุมชนคนไทย เชื้อสายจีน ซึ่งจากย้ายจากวัดญวณ สะพานขาว มาอยู่ตรง “ซอยประชานฤมิตร”
ได้นำทั้งทักษะฝีมืองานช่าง และการแกะสลัก ผนวกเข้ากับ “วัฒนธรรม”
ความเชื่อและวิถีชีวิตไทยเชื้อสายจีนเคลื่อนย้ายมาสู่บางโพด้วย เห็นได้ชัดเจนจาก “ศาลเจ้าแม่ทับทิม”
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจคนภายในชุมชน และบุคคลภายนอกทั่วไทยผู้มีความศรัทธาต่างพากันกราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
มาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบางโพได้ในงาน Bangkok
Design Week 2023 ถนนสายไม้บางโพ ชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนเชื่อมสองวัฒนธรรม
ได้จนถึง 12 กุมภาพันธ์ 2566
มาเยี่ยมชม “ย่านบางโพ” ถนนสายวัฒนธรรม
เป็นดังพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่เปิดกว้างให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ชมคถ่ายทอดเรื่องราวอาชีพช่างไม้ของคนไทยเชื้อสายจีน
เก็บรักษาภูมิปัญญางานไม้ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น แหล่งสุดท้ายของกรุงเทพฯ
ชมความยิ่งใหญ่แหล่งผลิตไม้ และเฟอร์นิเจอร์ เต็มสองฝั่งซอย
บน “ถนนสายไม้บางโพ” นับเป็นจุดเชื่อมต่อ
ระหว่างไอเดียนักออกแบบกับภูมิปัญญาช่างไม้ไทย ที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Main
Pavillian โดยนักออกแบบ แนวหน้าอย่างบริษัท Plan
Associate ปลุกตำนานถนนสายไม้บางโพอีกครั้งผ่านผลงาน 'FILLING
THE GAP' ผ่านแนวคิด จุดเชื่อมต่อ ผ่าน Installion
Art ที่ทำจากโคมไม้ ที่เข้าเดือยตามแบบฉบับช่างไม้ไทย
มาสัมผัสความงดงามและตำนานช่างไม้ไทยได้ในงาน Bangkok Design Week 2023 :
BANGPHO WOOD STREET LIVING MUSEUM ถนนสายไม้บางโพตํานานที่มีชีวิต
เป็นครั้งแรกของชุมชนประชานฤมิตรที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาสัมผัสกิจกรรมเวิร์กช็อปงานไม้ภายในชุมชนจริง
และกิจกรรมเวิร์กช็อปนี้ได้นำเอาวัสดุไม้เหลือใช้จากการแปรรูปมาประกอบเพื่อสร้างสรรค์ผลงานกรอบรูปไม้
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถศึกษาการนำเอาวัสดุไม้มาประกอบเป็นชิ้นงานที่สวยงาม
อีกทั้งยังสามารถนำชิ้นงานที่ตนได้ทำขึ้นกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วย BangPho Craftivity สร้างสรรค์งานไม้
ด้วยมือคุณ 1 สิริวโร Golden Wood , สร้างสรรค์งานไม้
ด้วยมือคุณ 2 บริษัท เอส.ยู.คลาสสิค จำกัด สร้างสรรค์งานไม้ ด้วยมือคุณ 3 ร้านบุลินร์พรเฟอร์นิเจอร์
พบกับ “The Gate of Bangpho” ซุ้มประตูไม้ประชาคมประชานฤมิตร
(ถนนสายไม้บางโพ) อันงดงามด้วยลายไม้ฉลุหาดูได้ยากยิ่ง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประชาคมประชานฤมิตรอย่างแท้จริง
อีก 1 ใน 10 กว่าโปรแกรมของงาน Bangpho
Wood Street - the Living Museum ในเทศกาล Bangkok Design Week 2023
ซุ้มประตูไม้ประชาคมประชานฤมิตร
(ถนนสายไม้) สร้างขึ้นเมื่อปี 2540 สร้างด้วยซุ้มประตูไม้ 2
ฝั่ง “ทางเข้า” ติดกับซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 24
และ “ทางออก” ติดกับซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 5 เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชน
โดยมี “อาจารย์สุดสาคร ชายเสม”
ศิลปินผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตรกรรม ประติมากรรมไทย เป็นผู้ออกแบบ
จัดสร้างขึ้นโดยการระดมทุนจากเจ้าของร้านค้าในประชาคมประชานฤมิตร แล้วช่างไม้ที่มีความเชี่ยวชาญก็มาร่วมมือร่วมใจกันสร้างขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา
โดยผู้ออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากซุ้มประตูทางเข้าเวิ้งนาครเขษมเก่า
เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ตัวซุ้มประตูลายไม้ฉลุประดับต่าง ๆ
เป็นแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ส่วนความงดงามของลายไม้ฉลุมีลักษณะโค้งงอ
ขดขมวดพลิ้วไหว เป็นแบบขนมปังขิง ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมยอดนิยมในสมัยรัชกาลที่
5 ส่วน “ตราสัญลักษณ์” รูปช้างสีทองพื้นสีแดงในวงกลมออกแบบจากตราประทับอำเภอบางซื่อเก่าสมัยรัชกาลที่
5 ลายพื้นหลังแผงไม้
ตาข่ายรอบทั้งสี่มุมที่ติดตัวอักษรเป็นแบบลายราชวัตร ปลายหัวเสากลึงเป็นแบบลูกนัท
ขนาดซุ้มประตู สูงประมาณ 8 เมตร กว้างประมาณ 10
เมตร
ลองแวะมาเยี่ยมชุมชน
“ถนนสายไม้ย่านบางโพ” สักวัน
เพื่อซึมซับกลิ่นอายวัฒนธรรมแหล่งช่างไม้ย่านสุดท้ายในเมืองกรุง
อย่างมีความหมายและคุณค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก – กาตาร์แอร์เวย์สนำทั่วโลกทัวร์ไทยบิน7เที่ยว/วันเพิ่มโดฮา-ภูเก็ต3เที่ยว/วัน
เบนเน็ต สตีเฟ่นส์ ผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน กาตาร์ แอร์เวย์ส
เปิดเผยว่า ในฐานะสายการบินเจ้าของรางวัลระดับโลกยินดีที่จะได้เพิ่มเที่ยวบินตรงเข้าสู่ประเทศไทย
ไป-กลับ เส้นทาง โดฮา (ประเทศกาตาร์)-ภูเก็ต (ประเทศไทย) อีกวันละ 3 เที่ยว
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
เมื่อรวมกับเที่ยวบินปัจจุบัน จะมีบริการบิน โดฮา-กรุงเทพฯ วันละ 4 เที่ยว รวมแล้วจะทำให้มีเที่ยวบินวันละ 7 เที่ยว
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
นับเป็นพันธกิจก้าวสำคัญของกาตาร์แอรเวย์สในไทย ที่จะได้มอบประสบการณ์การเดินทางอันดีเยี่ยมและปลอดภัย
เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารได้บินสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก พร้อมทั้งหวังจะมีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเลือกเดินทางกับสายการบินนี้เพิ่มขึ้นด้วยในอนาคต
ซึ่งขณะนี้มีเครือข่ายเชื่อมโยงเส้นทางบินทั่วโลกแล้วกว่า 150 แห่ง
โดยเฉพาะเที่ยวบินข้ามทวีปไปยัง ลอนดอน แมนเชสเตอร์ แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส ซูริค
นิวยอร์ก และอื่น ๆ
โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเครื่องบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ได้ออกแบบเก้าอี้ที่นั่งมาเพื่อมอบความสะดวกสบายอย่างเต็มที่
พร้อมบริการอาหารรสเลิศ มีระบบความบันเทิงให้เลือกมีมากถึง 4,000 รายการ
ผู้โดยสารที่จองซื้อตั๋วโดยสารกาตาร์แอร์เวย์สด้วยบัตรวีซ่ารับสิทธิ์ส่วนลดสูงสุด10% ส่วนสมาชิกใหม่ของสายการบินที่เข้าร่วมโปรแกรมสะสมคะแนน
Privilege Club เมื่อจองบัตรโดยสารเที่ยวบินภายใน 31 ธันวาคม 2566 ให้สิทธิ์ใช้โค้ด PCSEA23 เพื่อรับโบนัส Avois สูงสุดถึง 4,000 คะแนน แล้วเก็บไว้ใช้แลกตั๋วเครื่องบินเดินทางได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ตรวจสอบข้อมูลทาง www.qatarairways.com/th.
สำหรับเที่ยวบินของกาตาร์ แอร์เวย์ส ไป-กลับ ระหว่างประเทศไทยกับกาตาร์ ประกอบด้วย ภูเก็ต
– โดฮา (ทุกวัน) ออกจากต้นทางที่ภูเก็ตรหัสเที่ยวบิน 1.QR 979 HKT – DOH ออกเวลา
09:45 ถึงปลายทาง 12:50 น. 2.QR
843 ออกเวลา 20:50 ถึงปลายทาง 23:55 น. 3.QR 841 ออกเวลา 22:30 ถึงปลายทาง
01:35+1
ส่วน โดฮา – ภูเก็ต (ทุกวัน) ออกจากโดฮา ด้วยรหัสเที่ยวบิน 1.QR 840 เวลา 02:15
ถึงปลายทาง 12:45 น. 2.QR 978 DOH –
HKT ออกเวลา 09:30 ถึงปลายทาง 20:00 น. 3.QR 842 ออกเวลา 21:15 ถึงปลายทาง
07:45+1 น.
ทั้งนี้ “กาตาร์ แอร์เวย์ส”
เป็นหนึ่งในสายการบินพันธมิตรที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ให้การสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดร่วมมือกันหลายโครงการ
เนื่องจากมีศักยภาพด้านขยายบริการความความถี่เที่ยวบินตรงเข้าประเทศไทยต่อเนื่องมาตลอดทุกปี
นอกจากจะนำนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางเดินทางมาเที่ยวแล้ว
ยังมีผู้โดยสารตลาดยุโรปนิยมใช้บริการต่อเครื่องมาไทยด้วยเช่นกัน
ข่าวที่สอง -เปิดแล้ว!!ตลาดโมเดลต้นแบบเศรษฐกิจชุมชน“เจเจ กรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต”
ดร.ชนิสรา
ดาอ่อน ประธานเครือข่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากชุมชน
ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาโครงการเจเจกรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต เปิดเผยว่า
กลุ่มเครือข่ายเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน ร่วมกับคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ตลาดเจเจกรีน
สแควร์ เดินหน้าฟื้นฟูพื้นที่และพัฒนาตลาดนัดย่านถนนประชาชื่นกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งในรูปแบบมาร์เก็ตเพลสแนวใหม่ในชื่อ
“เจเจ กรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต” สร้างต้นแบบตลาดวิถีใหม่ กรุงเทพมหานคร ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการธุรกิจการค้าและบริการ
ด้วยการคัดสรรธุรกิจที่มีคุณภาพเข้ามาให้บริการกับกลุ่มลูกค้าอย่างตรงเป้าหมาย ส่งเสริมงานด้านศิลปะ
วัฒนธรรมจากสินค้าชุมชนฐานราก ชาติพันธ์และชนเผ่าจากทั่วประเทศ
แผนงานเปิดตลาดนัด
“เจเจกรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้บูรณาการความร่วมมือกับหลายภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าให้สามารถอยู่รอด
อยู่เป็น อยู่อย่างยั่งยืน ตามเงื่อนไขสุดพิเศษที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ร่วมกัน
รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากภาคีพันธมิตรเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย มีทั้ง
ธนาคารออมสิน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สภาธุรกิจไทย-จีน สมาคมการค้านักธุรกิจสากล สถาบันอาหารสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เครือข่ายตลาดน้ำคลองลัดมะยม สำนักมาตรฐานการอาชีวะและวิชาชีพ และ
ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วย
นายศุภอัชฌ์
ชาตรูปะวณิช กรรมการบริหารด้านการตลาด โครงการเจเจกรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต กล่าวว่า วางกลยุทธ์ผลักดันโครงการ “เจเจ กรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต” เป็นต้นแบบตลาดวิถีใหม่
กรุงเทพมหานคร คัดเลือกทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ออนไลน์และออฟไลน์เต็มรูปแบบ โดยแปลงโฉมพื้นที่ขนาด 28 ไร่ ไปสู่ตลาดต้นแบบ (Sandbox) นำแนวคิดพัฒนาตลาดขานรับนโยบายรัฐบาลเรื่อง
พลัง “Soft Power 5 F : Food, Film, Festival, Fashion และ Fighting” เข้ามาต่อยอด
ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวการรวบรวมสินค้าและบริการจากชุมชนทั่วประเทศ
โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดเป้าหมาย
ประกอบด้วย กลุ่มคนในเมืองหลวง กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยได้เตรียมวางโซนการขายสินค้าให้ชัดเจนเข้าถึงง่าย
ได้แก่ โซนที่ 1 แฟชั่น โซนที่ 2 สุขภาพและความงาม โซนที่ 3 ของที่ระลึกและของสะสม โซนที่ 4 สินค้าเกษตรอินทรีย์ โซนที่ 5 วัฒนธรรมสินค้าจากชุมชนต่างๆ โซนที่ 6 ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจสู่ความเป็นมืออาชีพแบบครบวงจร
เฟสต่อไปจะพัฒนาพื้นส่วนอื่นจัดทำในรูปแบบพิเศษอีกไม่น้อยกว่า
5 โครงการ เช่น โครงการส่งเสริมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้พื้นที่ต้นแบบด้านการเกษตรตามแนวทางพระราชดำริ “เกษตรกษัตริย์”
โครงการเกษตรผสมผสานที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โครงการแปลงสาธิตเกษตรดิจิทัลและเกษตรคนเมืองที่จะเป็นแหล่งต้นทุนด้านการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยในรูปแบบต่าง
ๆ เพื่อรองรับการให้บริการกับประชาชนในพื้นที่เมืองหลวง และอื่น ๆ
สำหรับโครงการดังกล่าว
จะช่วยเสริมแนวคิดด้านการพัฒนาบุคคลากรของประเทศในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านคุณภาพชีวิตและรายได้ให้กับกลุ่มดังกล่าวสามารถดำรงอยู่ควบคู่กับการพัฒนาโครงการก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเข้มแข็งยั่งยืน
นายนันทวัฒน์ เปรมชัยพร กรรมการบริหารด้านการขาย โครงการเจเจ
กรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเปิดรับพันธมิตรร้านค้าที่สนใจจะทำธุรกิจในพื้นที่เฟสแรกแล้ว
ซึ่งทางคณะกรรมการจะคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสู่การเป็นตลาดต้นแบบแต่ละกลุ่มธุรกิจในลำดับต่อไป
พื้นที่ตลาดเฟสที่ 1 เปิดบริการช่วงกลางคืน ทุกวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์
ระหว่าง 18.00-24.00น. ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มเปิดพื้นที่ให้บริการช่วงกลางวัน
ทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์ใน สนใจร่วมให้บริการในพื้นที่โครงการ โทร. 095-459-2915
ทั้งนี้การเปิดโครงการ“เจเจ กรีน เอ็กซ์ มาร์เก็ต” เฟสที่ 1 ได้รับเกียรติจาก ดร.กอบศักดิ์
ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เป็นประธานเปิดตลาดดังกล่าว
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น