ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่า ททท.นำทัพท่องเที่ยวพลิกโฉมตลาดปี66-67


ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ 

ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ผู้ว่าฯ ททท.นำทัพตลาดท่องเที่ยวสู่โฉมใหม่ไฮซีซันปี’66-67

งัดใช้แผนหยินหยาง“สั้น-กลาง-ยาว”ปั๊มตลาดจีน5ช่องทาง

ผนึกทั่วไทยยกระดับปลอดภัย-กอดคอกทม.จัด4บิ๊กอีเวนต์

ลดใหญ่!!ที่คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ/ดอนเมืองวันนี้-30 พ.ย.นี้

รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์แจกใหญ่แพกเกจฮันนีมูน28-29ต.ค.66

ช้อปด่วน!คิงเพาเวอร์SURPRISES BRAND WEEKลดทะลุ25%

“ททท.-AIS”งัดWelcomeBackแจก1ล้านซิมดึงต่างชาติทัวร์ไทย

บางจากคว้ารางวัลนวัตกรรมดีเด่น-ประกวดโลโก้40ปีแจก3แสน

TCEBดึงไมซ์เอเชียเข้าไทย405งานปี66-71โกยรายได้5,364ล้าน

เที่ยวงานบุญใหญ่แห่งปีถือศีลกินผักภูเก็ต9วัน9คืน15-25 ต.ค.นี้

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแก้ไขได้ด้วยวิธีเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

AWCเปิดKissuisenดันสีลม-สุรวงศ์ผู้นำย่านท่องเที่ยวกินอร่อย

รร.อินเตอร์คอนนำแจ๊สโลกดึงกำลังซื้อตลาดที่พักหรูกรุงเทพฯ

วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์  #เทศกาลกินเจ

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...

ช่วงที่ 1 พลิกโฉมท่องเที่ยวกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขับเคลื่อน ททท. 5  แห่ง พลิกโฉมตลาดจีน “ระยะสั้น” งัดใช้ 2 กลยุทธ์ “หยิน” ฟื้นรายได้ เจาะกลุ่มตลาดใหม่ “หยาง” เข้มเที่ยวยั่งยืนผนวกสินค้าเกรดดี เน้นปลอดภัยมีคุณภาพเพิ่มประสบการณ์ “ระยะกลาง” โหมสื่อสาร 5 ช่องทาง “ระยะยาว” เดินหน้า 4 กลยุทธ์ “ผนึกแพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าใหญ่-Joint Promotion กับแอร์ไลน์ส-แจก Passport Privilageร่วมกับห้างทั่วไทยลดไม่ยั้ง-เปิด Fandom Marketing ลุยปั๊มไฮซีซัน ไตรมาส 4 ปี’66 กระตุ้นผู้ประกอบการทุกสถานที่ “ยกระดับมาตรการความปลอดภัย” ผนึก กทม.จัด4 อีเวนต์ใหญ่ “คัลเลอร์ฟูล ลอยกระทง-วิจิตรเจ้าพระยา-แบ็งคอก มาราธอน-เคาน์ดาวน์ติด 1 ใน 3 ของโลก”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลอดฤดูท่องเที่ยวไฮซีซันปลายปี 2566 เร่งสร้างความเชื่อมั่นตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนตามที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ให้ยาแรงเปิดนโยบายวีซ่าฟรีจีนมาตั้งแต่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 ผนวกกับหลังเกิดเหตุการณ์สยามพารากอนเมื่อ 3 ตุลาคม 2566 ททท.สำนักงานจีน 5 เมือง ทั้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉินตู คุนหมิง รวมทั้งสำนักงานใหญ่ได้ติดตามการนำเสนอข้อมูลไทยในพื้นที่ต่าง ๆ เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นตามลำดับ จึงต้องเดินหน้าสื่อสารเร่งด่วน 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 สร้างความมั่นใจ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจท่องเที่ยวต่อเนื่อง ส่วนที่ 2 มาตรการเยียวยาฟื้นฟูได้สื่อสารให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ส่วนที่ 3 จัดทำแผนกระตุ้นการเดินทางระยะสั้น/ระยะกลาง/ระยะยาว

 

แผนระยะสั้น ของ ททท.พร้อมขับเคลื่อนใช้กลยุทธ์ “หยิน-หยาง” ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มทั้งจำนวนและรายได้กลับมาโดยเร็วที่สุด ควบคู่กับการปรับภาพลักษณ์ท่องเที่ยวของไทยโฉมใหม่สร้าง New Look  เพื่อสร้างรายได้ด้วยกลยุทธ์หยางกับตลาดจีน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านที่ 1 เจาะตลาดใหม่ ๆ กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก First Visit กลุ่มคนรุ่นใหม่ Millenial กลุ่มเดินทางโดยใช้เทคโนโลยีระหว่างทำงาน Digital nomad ด้านที่ 2 เสริมทัพสินค้าท่องเที่ยวมูลค่าสูง เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ และท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์

ส่วนกลยุทธ์หยินตลาดจีน ททท.พุ่งเป้านำเสนอการท่องเที่ยว 2 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable tourism) ได้จัดทำภาพลักษณ์ที่ได้นำร่องโครงการทำให้ไทยเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้านที่ 2 คัดสรรสินค้าท่องเที่ยวคุณภาพตั้งแต่ระดับสากลลงไปสู่ชุมชน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีนให้คำแนะนำถึงนโยบายของจีนกำลังมองหาสินค้าท่องเที่ยวครบทั้ง 3 ประเภท คือ ความปลอดภัย คุณภาพ และโดยเฉพาะประสบการณ์ ชาวจีนนิยมเลือกไปยังแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับภารกิจของ ททท.เร่งทำการกระจายรายได้ท่องเที่ยวสู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างเข้มข้นนั่นเอง

 

แผนระยะกลาง ของ ททท.โหมสื่อสารการตลาด 5 ช่องทาง ได้แก่

 

ช่องทางที่ 1 ร่วมมือกับ Influencer กลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดการตัดสินใจดึงตลาดเป้าหมายมาเที่ยวเมืองไทย โดยใช้ช่องทางตามกระแสนิยมอย่าง Douyin, webio และอื่น ๆ นำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์

 

ช่องทางที่ 2 ใช้ช่องทางออนไลน์ และแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยมีกระแสมาแรงที่จีนกำลังสนใจคือ “ซีรีย์ วาย” ซึ่งจะใช้ศิลปินตัวแทนซีรีย์วายดึงแฟนดอมจีนกลับมาเที่ยวเมืองไทย

 

ช่องทางที่ 3 ผลิต VDOคลิปไวรัล ชาเลนจ์ เพราะขณะนี้คนจีนชื่นชอบทำคอนเทนท์ผ่านวิดีโอต่าง ๆ

 

ช่องทางที่ 4 ทำแฟมทริปนำอินฟลูเอนเซอร์และผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนมาลงสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมายในไทย โดยเน้นเพิ่มความถี่ เพิ่มช่วงเวลาการจัด กระจายไปตามพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ

 

ช่องทางที่ 5 ลงทุนสร้าง Co-Brand ระดับนานาชาติหรือNationwide อาจจะนำ Amazing Thailand ไปทำโคแบรนด์ร่วมกับอาหารค่ายดังในจีน หรือทำกับ Union Pay ซึ่งมีสมาชิกชาวจีนเป็นกลุ่มวัย 25-50 ปี หรือจะทำโคแบรนด์กับทางสายการบินขนาดใหญ่อย่าง Spring Airlines และอีกหลากหลายการทำโครงการร่วมกับแบรนด์แถวหน้าของจีน

 

แผนระยะยาวของ ททท.เดินหน้ากระตุ้นตลาด 4 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

 

กลยุทธ์ที่ 1 ร่วมกับ แพลตฟอร์ม Online เจ้าใหญ่ระดับสากล เดินหน้าโปรโมตเพิ่มสิทธิพิเศษให้นักท่องเที่ยวได้รางวัลการเดินทาง (Incentive) ของจีนซึ่งตามรายงานไม่ได้ยกเลิกหรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ช่วงที่ผ่านมาซึ่งเกิดขึ้นในไทยกลุ่มอินเซ็นทีฟคุณภาพยังเดินทางมาไทยตามปกติ

 

กลยุทธ์ที่ 2 จัดทำโปรโมชั่นท่องเที่ยว (joint promotion) ซึ่งทาง ททท.ในจีน 5 สำนักงาน กำลังเจรจากับสายการบินในจีนทำโครงการ Thailand Better Heart เพื่อให้ได้ตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษไป-กลับ ระหว่างเมืองต่าง ๆ ในจีนมาเที่ยวเมืองไทย

 

กลยุทธ์ที่ 3 ททท.จะเสนอให้สิทธิพิเศษเรื่องหนังสือเดินทางจีน หรือ Passport Privillage ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในช่วงระยะเวลาที่กำหนด หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักในไทย (expat) ทางห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศจะเข้าร่วมให้สิทธิ์ส่วนลดเพิ่มเติมกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาช้อปปิ้งตามเงื่อนไขมูลค่าใช้จ่ายเงินที่แต่ละห้างกำหนด

 

กลยุทธ์ที่ 4 Fandom Marketing กระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมย่อยร่วมกับคนอื่น ๆ  ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ซึ่งเป็นการตบอสนองความต้องการของกลุ่มแฟนดอม โดยใช้ศิลปิน ดารา ที่กลุ่มเป้าหมายคลั่งไคล้เข้ามาเป็นสื่อกลางดึงดูดกำลังซื้อการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งปัจจุบันแฟนคลับกลุ่มนี้ทรงพลังมาก ใช้เงินจ่ายซื้อของต่าง ๆ สูงมาก โดยเฉพาะสายเอนเตอร์เทนเมนท์ เอนเตอร์เนอร์ นักร้องนานาชาติที่เข้ามาจัดการแสดงในไทย

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า นอกจากตลาดจีนแล้ว ททท.ยังจะต้องกระจายเพิ่มนักท่องเที่ยวตลาดอื่น ๆ ในเอเชียและแปซิฟิกมากขึ้น โดยใช้หลัก “บริหารความเสี่ยง-Risk Management” ให้เกิดประโยชน์ เนื่องจากขณะนี้ไทยได้รับประโยชน์ตรงจากการใช้มาตรการวีซ่าฟรีจีน จึงต้องมีตลาดทดแทนขยายการขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไปยังตลาดในประเทศและนานาชาติ ตามปีงบประมาณ 2567 จะมีกลุ่มใหม่ที่จะเข้าไปเล่นด้วย เช่น อาเซียน กับตลาดเติบโตแบบก้าวกระโดดต้องทำตลาดต่อเนื่อง มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้

 

ส่วนการ “สร้างความเชื่อมั่น” ททท.จะทำควบคู่กันทั้งมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยจะจับมือเหนียวแน่นกับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว ที่นำเสนอสถานที่ประกอบการทั่วประเทศหันมาตื่นตัวสร้างมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มข้น หลังเกิดเหตุการณ์สยามพารากอนผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับ “การยกระดับความปลอดภัย” เรื่องสำคัญ ๆ คือ ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม รวมทั้ง ททท.ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการขอให้นักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการ “แชร์ประสบการณ์ยกระดับความปลอดภัย” ตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพราะอิทธิพลของโซเชียลจะช่วยทำให้น้ำดีไล่น้ำเสียออกไปได้

 

ในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา ททท.กับทางนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายให้ใช้การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญ ตอนนี้ ททท.จัดทำแคมเปญใหม่ชื่อ Thais Always Care สามารถสื่อความหมายถึงความเป็นจริงเรื่องจุดขายอัธยาศรัยไมตรีคนไทยอย่างชัดเจนอยู่ใน 4 ตัวอักษร ได้แก่ C : Compassion เห็นอกเห็นใจ A : Assistance พร้อมดูแลช่วยเหลือทุก ๆ เรื่อง R :Relief จัดการปัญหาเยียวความรู้สึก การมาเที่ยวเมืองไทยก็เหมือนกับได้มาผ่อนคลายฮีลใจ E :Elevate ยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัย คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวให้ทุกคน พร้อมเชิญชวนทั่วโลกมาร่วมเทศกาลงานประเพณีที่กำลังเตรียมจัดช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้

 

ช่วงฤดูท่องเที่ยวไฮซีซันปลายปี 2566 ททท.ได้สื่อสารกับทางตำรวจท่องเที่ยว บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สถานประกอบการทั่วประเทศนำมาตรการความปลอดภัยเข้ามาใช้อย่างเข้มข้นจริงจัง รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวก็ได้กำชับให้พื้นที่ชุมชน สถานที่จัดงาน ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป เช่น “ภาคใต้” จัดเทศกาลกินเจ และถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต “ภาคอีสาน” จัดเทศกาลบุญออกพรรษา ไหลเรือไฟแม่น้ำโขง จ.นครพนม

 

รวมทั้ง ททท.ต้องการกระตุ้นคนไทยเที่ยวข้ามภาคสนับสนุนกิจกรรมซอฟท์ เพาเวอร์ เป็น F ตัวที่ 6 คือ Faith :ท่องเที่ยวตามศรัทธาและความเชื่อ ขณะนี้เตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ วิ่งผ่านเมืองและปั่นตามเมืองพญานาค โปรโมตอีสานเป็นเมืองแห่งศรัทธาพญานาค ซึ่งมีเรื่องราวมากมายให้เดินทางไปสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายร่วมกัน

 

จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2566  ททท.จับมือกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตอบโจทย์นโยบายของ “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์เพาเวอร์แห่งชาติ” หรือ ซูเปอร์บอร์ดซอฟท์ เพาเวอร์ เตรียมคิกออฟดึงดูดคนไทยและนานาชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวอีเวนต์ใหญ่ 4 งาน ได้แก่

 

งานแรก Colorful Bangkok นำร่องงานเทศกาลลอยกระทง ไฮไลต์ที่คลองผดุงกรุงเกษม ยาวไปถึงหัวลำโพง ขณะเดียวกันก็ยังขยายจัดเทศกาลเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงพร้อมกันในภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเห็นว่าไทยเปิดแล้วร้อยเปอร์เซนต์ เช่น ภาคเหนือ เผาเทียนเล่นไฟอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ยี่เป็ง จ.เชียงใหม่ และอื่น ๆ

 

งานที่ 2 จัดงานวิจิตร 5 ภาค แสง สี เสียง ตระการตา ตามเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม โดยจะเริ่มจาก “วิจิตรเจ้าพระยา” ในกรุงเทพฯ จัดตลอดทั้งเดือนเริ่ม 1-31 ธันวาคม 2566 เชื่อมโยงไปถึงงานเคาน์ดาวน์สิ้นปี

 

งานที่ 3 Amazing Thailand Marathon Bangkok Presented by TOYOTA 2023 จัดในกรุงเทพฯ ระหว่าง 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2566 ซึ่งปีนี้ทางสหพันธ์กรีฑาโลกจะประกาศให้ “กรุงเทพฯ” เป็น World Capital Marathon อย่างเป็นทางการแห่งที่ 6 ของโลก ต่อจาก บอสตัน โตเกียว และเมืองอื่น ๆ ที่นิยมไปวิ่งกัน

 

งานที่ 4 จัดงาน Bangkok Countdown 2023 จะเชิญชวนสื่อจากทั่วโลกเข้ามาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ให้กรุงเทพฯ ของประเทศไทยเป็นเมืองแห่งที่ 3 ของโลกประจำปี 2567

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า อยากจะฝากถึงไทยทุกคนหันมาร่วมกันสร้างความสุขให้ตัวเอง โดยการออกมาเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ทำหน้าที่เป็น “ผู้เยี่ยมเยือนที่ดี” และ ทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปพร้อมกับการเป็น “เจ้าบ้านที่ดี” และเฝ้าระวังเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเน้นดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติดำรงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ลดใหญ่!!ที่คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ/ดอนเมืองวันนี้-30 พ.ย.

 

คิง เพาเวอร์ ชวนไปช้อปเดือนตุลาคม 2566 มีไฟลต์ยิ่งเซอร์ไพรส์ นักเดินทางคนไทย “รับส่วนลด” วนไปไม่รู้จบที่ คิง เพาเวอร์ 2 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ และดอนเมือง ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2566 รับส่วนลด 500 บาท และ 700 บาท สมาชิกใหม่ NAVY หรือ SCARLET  เมื่อช้อปสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง ครบ 3,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

หากยังไม่ได้เป็นสมาชิก รีบสมัครได้ทันทีเลยที่ จุดขายและจุดบริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ สาขา สุวรรณภูมิ และดอนเมือง และ LINE Official Account : @KINGPOWER

 

ข่าวที่ 2 รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์แจกแพกเกจฮันนีมูน28-29ต.ค.66

 

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ เปิดพื้นที่จัด “Timeless Ties Wedding Showcase” ส่งท้ายปีด้วยข้อเสนอแต่งงานดีที่สุดพร้อมของขวัญวิวาห์สุดอลังการ แล้วพบกัน 28-29 ตุลาคม 2566 มาร่วมช้อป “แพ็กเกจห้องพักฮันนีมูน” 3 วัน 2 คืน ที่โรงแรมและรีสอร์ท พูลแมน ทั่วเอเชีย ทั้งโตเกียว ดานัง สิงคโปร์ บาหลี  และอีกหลายจุดหมายสุดโรแมนติก โดยเข้ามาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ที่ https://bit.ly/3YPpEtz แล้วรับฟรีทันที! บัตรของขวัญ 2,000 บาท

 

 

โดยมีสิทธิพิเศษมากมายจากแพ็กเกจแต่งงาน เริ่มต้นเพียง 450,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท 1.สมนาคุณห้องพักสำหรับคู่บ่าวสาวและครอบครัว  2.บัตรกำนัลอาหารและเครื่องดื่มภายในโรงแรม  3.บริการด้านสถานที่ถ่ายภาพแต่งงาน พรีเวดดิ้ง  4.บริการซุ้มอาหารหรือตัวเลือกเครื่องดื่มพิเศษ 5.บริการถ่ายภาพแบบโฟโต้บูธตลอดเวลางาน 6.ส่วนลดบริการนำเข้าการตกแต่งและวงดนตรี

 

ข่าวที่ 3 ช้อปด่วน!คิงเพาเวอร์ SURPRISES BRAND WEEKลด25%

 

คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ชวนช้อป LAST CHANCE! SURPRISES BRAND WEEK รอบสุดท้ายแล้ว ตั้งแต่วันนี้ - 18 ตุลาคม 2566 ต้องรีบจัดไอเทมเด็ดสุดคุ้ม ดีลพิเศษจากแบรนด์ดังมากมาย พาเหราดมาลดราคาต่อเนื่องไม่หยุดโปรปัง ห้ามพลาดสินค้าแบรนด์ราคาดี ๆ !! คลิกปุ๊บลดปั๊บทันที 25% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด SBW225

 

ด่วน !! สินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก

โดย 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน โดยมียอดช้อปตามที่กำหนด 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,200 บาท 3.รับฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง ช้อปก่อนมีสิทธิก่อนเพราะของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ 4.รับเลย! ส่วนลด 200 บาทเมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์  5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)

 

ข่าวที่ 4 “ททท.-AIS”งัดWelcomeBackแจก1ล้านซิมดึงทัวร์ต่างชาติ

 

นายฉัททันต์  กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า  ททท. จับมือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  นำเครือข่ายสื่อสาร AIS 5G จัดทำแคมเปญใหญ่ “Welcome Back to Thailand” กระตุ้นท่องเที่ยวรับไฮซีซั่นปลายปี 2566ส่งมอบประสบการณ์และอำนวยความสะดวกด้วยบริการดิจิทัลและระบบสื่อสารที่ดีที่สุดในไทยผ่าน Amazing Thailand SIM ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่ง The Fastest Network in Thailand  และแบรนด์ Amazing Thailand เติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวครอบคลุมทุกมิติกับสุดยอดสิทธิพิเศษจากพันธมิตร Premium Lifestyle ที่ได้ร่วมกับคู่ค้าตัวแทนชั้นนำในต่างประเทศผู้ขายท่องเที่ยวผ่านออนไลน์หรือ OTA : Online Travel Agent บริการตั้งแต่ก่อนนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย

 

โดยจะได้นำโครงข่ายสื่อสารครอบคลุมทั่วประเทศที่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านแคมเปญ “TAT x AIS 5G: Welcome Back to Thailand” มอบแพ็กเกจซิมโทรศัพท์มือถือ 1 ล้านซิม และสิทธิพิเศษจากพันธมิตรด้วยคูปองอิเลกทรอนิก ( e-voucher) ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยตั้งแต่ 17 ตุลาคม 2566 - 31 มีนาคม 2567 แจกผ่านสำนักงาน ททท. ภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิกใต้ สร้างเครื่องมือการตลาดร่วมกับบริษัทนำเที่ยวออนไลน์ หรือ OTA สายการบิน สมาคมต่าง ๆ ในต่างประเทศ ตั้งแต่ก่อนนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์การเดินทางอันน่าประทับใจ แล้วเลือกมาไทยเพิ่มขึ้นต่อไป

 

นายฉัททันต์ กล่าวว่า ททท. พร้อมขานรับนโยบายของรัฐบาลนำการท่องเที่ยวเข้ามาพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ด้วยการนำมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยว (Ease of Traveling) เมืองไทยซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของทั่วโลก ระหว่าง 9 เดือนแรกปี 2566 ไทยต้อนรับต่างชาติแล้วกว่า 20.3 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้มากที่สุดถึง 14.7 ล้านคน เช่น จีน มาเลเซีย อินเดีย ล่าสุดจึงเพิ่มแรงส่งนำระบบสื่อสารและบริการดิจิทัลมาใช้สนับสนุนพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักเดินทางยุคใหม่ให้ได้รับความสะดวกสบายและถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านโลกออนไลน์ได้มากขึ้น

 

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า การท่องเที่ยวคือหัวใจสำคัญที่สุดที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลมีเป้าหมายหลักมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบสื่อสารประเทศอย่างแข็งแกร่ง จึงพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ดีที่สุดทุกด้านตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางถึงและตลอดการใช้เวลาอยู่ในไทย ปัจจุบันจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการทุกด้านผ่านทางช่องทางดิจิทัล ทั้งทำธุรกรรมการเงิน จองที่พัก, ช้อปปิ้ง ใช้บริการของภาครัฐเอง

 

รวมทั้งมีกลุ่มทำงานผ่านดิจิทัลได้ทุกหนแห่งหรือ Digital Nomad นิยมเดินทางท่องเที่ยวและทำงานจากที่ใดก็ได้ (Work From Anywhere) จากทุกมุมโลก ดังนั้นสิ่งสำคัญสูงสุดคือโครงข่ายดิจิทัลเทคโนโลยีจะช่วยเชื่อมต่อออนไลน์อย่างไม่สะดุด ราบรื่น รวดเร็ว AIS จึงไม่เคยหยุดพัฒนาโครงข่ายทั้ง 5G , Fixed Broadband พร้อม WiFi ที่มีคุณภาพดีที่สุดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งกว้างสุด ไกลสุด สูงสุด ลึกสุดในไทย โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หรือ Unseen

 

ดังนั้นจึงได้ร่วมมือกับ ททท. เปิดแคมเปญ Welcome Back to Thailand โดยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเชื่อมต่อสัญญาณได้ตลอดเวลาที่อยู่ในไทยด้วย “Amazing Thailand SIM” พร้อมแพ็กเกจการใช้งานคุ้มค่าสุดพิเศษดีที่สุดเท่าที่เคยมี โดยมีสุดยอดพันธมิตร Premium Lifestyle ร่วมมอบสิทธิพิเศษครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ให้แก่นักท่องเที่ยว ประกอบด้วย Bangkok Insurance, Central Group, Central Retail, Central Pattana, Centara Hotels & Resorts, Grab Thailand, King Power, Siam Piwat, Singha Park Chiang Rai, SIXT, และ TAGTHAi

 

นายปรัธนายืนยันว่า เครือข่ายสื่อสารที่ดีนอกจากจะสนับสนุน อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังเป็นสื่อกลางการประชาสัมพันธ์ประเทศผ่านมุมมองของนักท่องเที่ยวที่ Share ประสบการณ์ผ่านโซเชียล มีเดียด้วย ที่สำคัญ AIS ขอยืนยันเป็นเครือข่ายปลอดภัยในระหว่างนักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่เมืองไทย จากการทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อเตือนภัยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สร้างความมั่นใจสามารถเที่ยวเมืองไทยอย่างปลอดภัยแน่นอน

 

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่วางแผนเดินทางมาไทย สามารถร่วมแคมเปญ Welcome Back to Thailand ผ่านพันธมิตร OTA ชั้นนำในแต่ละประเทศ เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการในแพลตฟอร์ม รับคุ้มดังนี้ 1.รับซิมฟรี Amazing Thailand SIM แจกอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 8GB ทดลองใช้งานฟรี 2.ติดตามข่าวช่อง BBC NEWS ช่องกีฬา beIN SPORTS CONNECT ผ่าน AIS PLAY 3.ใช้ AIS 1 Point แลกรับฟรีหรือส่วนลดร้านสตรีทฟู้ด ช้อปปิ้งจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น ถนนเยาวราช พร้อมรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย 4.ประกันการเดินทาง มูลค่าสูงสุด 50,000 บาท 5.ส่วนลดช้อปปิ้ง โรงแรมที่พักและร้านอาหารชื่อดัง จากพันธมิตรชั้นนำ ครอบคลุมทุกมิติการเดินทางตั้งแต่ 17 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567

 

ข่าวที่ 5 บางจากคว้ารางวัลนวัตกรรมดีเด่น-ประกวดโลโก้40ปีแจก3แสน

 

นายรวี บุญสินสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจใหม่และนวัตกรรม บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดเป็นตัวแทนบางจากที่ได้รับ “โล่รางวัลเกียรติคุณ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ ประจำปี 2566 :Merit Prize for Innovative Organization Excellence for Large Private Sector Organization 2023 ในงานรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2566 National Innovation Awards 2023  ในฐานะบางจากฯ เป็นองค์กรมีระบบการบริหารจัดการวางแผนพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการและผลงานด้านนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ทั้งภายในและนอกองค์กร ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมสร้างสรรค์สิ่งที่ดีในการขับเคลื่อนพลังงานของประเทศให้มั่นคงยั่งยืนทั้งปัจจุบันและอนาคต   

 

สำหรับรางวัลดังกล่าว ทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดขึ้น โดยมี รศ. นพ. สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ  เป็นผู้มอบให้หน่วยงานต่าง  ๆ จัดที่ พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน กรุงเทพฯ

 

โดยเฉพาะรางวัล “นวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น”  มุ่งเน้นคัดเลือกเพื่อมอบให้หน่วยงานที่มีระบบบริหารจัดการโดยการใช้ความรู้ เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดการสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่องค์กร ตั้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ กระบวนการ ไปจนถึงระดับโครงสร้าง ตามกรอบแนวทางการพัฒนาศักยภาพนวัตกรรมองค์กร (Innovative Organization Model: IOM) ผ่านแนวคิดหลัก 2 ประการ คือ 1) เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับด้านนวัตกรรมจากสาธารณะ และ 2) เป็นองค์กรที่มีการจัดการนวัตกรรมในองค์กรอย่างโดดเด่น ใน 8 ด้าน คือ 1) ด้านยุทธศาสตร์นวัตกรรม 2) ด้านการมุ่งเน้นธุรกิจ 3) ด้านบุคคลากร 4) ด้านองค์ความรู้ 5) ด้านวัฒนธรรมองค์กร 6) ด้านทรัพยากร 7) ด้านกระบวนการนวัตกรรม 8) ด้านผลผลิตจากนวัตกรรม

 

รวมทั้ง “บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ได้ใช้โอกาสก้าวสู่ปีที่ 40 ชวนร่วมประกวดออกแบบโลโก้ ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 300,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้- 20 ตุลาคม 2566 ดูหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่าง ๆ ในการประกวดได้ทางเว็บไซต์บางจากhttps://www.bangchak.co.th/en/newsroom/bangchak-news/1190/4 กิจกรรมนี้เปิดกว้างให้ตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป สามารถออกแบบส่งผลงานเข้าร่วมประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ (โลโก้) 40 ปีบางจาก (40th Anniversary) เพื่อคัดเลือกแล้วนำมาใช้จริงตั้งแต่ปลายปี 2566 - 2567 ภายใต้วิสัยทัศน์บริษัท “รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว”  

 

สำหรับโครงการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและบุคคลทั่วไป  มีส่วนร่วมออกแบบ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพสู่ความเป็นมืออาชีพ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะก้าวสู่ปีที่ 40 กับบางจากฯ จึงจะใช้โลโก้ที่สะท้อน “ความเป็นผู้นำพลังงานแห่งอนาคต” ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน คงความสมดุลแห่งความมั่นคงทางพลังงานไว้ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การกำกับดูแลกิจการอย่างมีความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วนเดินไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน

 

ข่าวที่ 6 TCEBดึงไมซ์เอเชียเข้าไทย405งานปี66-71โกยรายได้5,364ล้าน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/สสปน.” เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมกับสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA กับเมืองไมซ์ซิตี้หลัก ๆ ทั้ง พัทยา ขอนแก่น นครราชสีมา และอุดรธานี เข้าร่วมงาน IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2023 เมื่อ 27-28 กันยายน 2566 สามารถคว้าจำนวนงานที่มีศักยภาพหรือ lead สนใจเลือกไทยเป็นสถานที่จัดต่อเนื่องอีกมาก 405 งาน ซึ่งจะทยอยเข้ามาจัดในไทยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566-2571 ครอบคุลมทั้งงานประชุมองค์กร/M : Meeting กลุ่มได้รางวัลการเดินทาง/I :Incentive และงานประชุมนานาชาติ/C :Convention คาดจะดึงไมซ์ตลาดต่างประเทศทั้ง M-I-C ได้ไม่น้อยกว่า 80,732 คน สร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มอีกกว่า 5,364 ล้านบาท

 

เป็นจำนวนยอดสรุปทั้งหมดที่มาจากการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยจำนวน 74 ราย จากทั้งหมด 10 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา   หัวหิน สมุย เขาหลัก ปราจีนบุรี ขอนแก่น อุดรธานี และนครราชสีมา กับคู่ค้าไมซ์จากตลาดต่างประเทศแถบเอเชียเป็นหลัก

 

ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากทุกฝ่ายในไทยร่วมมือกันนำเสนอจุดขายภายใต้คอนเซ็ปต์ “มนต์เสน่ห์สู่ความสำเร็จไมซ์ไทย :Thailand MICE: Meet the Magic ควบคู่แคมเปญ Thailand MICE to Meet You Year 2023 ของทีเส็บซึ่งมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจและขับเคลื่อนไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางไมซ์ระดับโลก พร้อมเสนอบริการด้วยมาตรฐานสูงและการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในไทยให้ผู้มาร่วมประชุมทุกกลุ่มอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ซึ่งทางทีเส็บได้จัดคูหานิทรรศการประเทศไทยหรือ THAILAND PAVILION ภายในงาน IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2023 โดยจัดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการไมซ์ 40 ราย ประกอบด้วย โซนที่ 1 เมืองพัทยาจัดทำเป็น PATTAYA CITY 24 ราย โซนที่ 2 ไมซ์แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดทำเป็น  ISAN MICE มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 10 ราย จาก 3 เมืองไมซ์ ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี

 

ตลอดงานผู้ประกอบการไมซ์ได้เจรจาธุรกิจภายในคูหาประเทศไทยโดยได้รับความสนใจจากคู่ค้าตลาดสำคัญ ได้แก่ อินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ บังกลาเทศ ได้รับจำนวนยอดงานที่มีศักยภาพหรือ lead 135 งาน คาดเมื่อเกิดการจัดงานจริงจะนำผู้เข้าร่วมงานเข้ามาไทยได้ถึง 26,732 คน สร้างรายได้ 1,764 ล้านบาท

 

ขณะที่ คูหา PATTAYA CITY ได้รับความสนใจจากคู่ค้าตลาด อินเดีย เกาหลี รัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับยอดจำนวนงานที่มีศักยภาพหรือ lead 150 งาน สามารถนำผู้เข้ามาร่วมได้ไม่น้อยกว่า 30,000 คน สร้างรายได้ 2,000 ล้านบาท

 

ส่วนคูหานิทรรศการ ISAN MICE ได้รับความสนใจจากคู่ค้าตลาดอินเดีย โปแลนด์ ฟิลิปปินส์ และจีน ได้รับยอดจำนวนงานที่มีศักยภาพหรือ lead 120 งาน สามารถนำผู้เข้าร่วมงานราว 24,000 คน สร้างรายได้ 1,600 ล้านบาท

 

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ทีเส็บกับผู้ประกอบการไมซ์ไทยสามารถสร้างยอดจำนวนงานที่มีศักยภาพหรือ lead 405 งาน  IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2023  ตรงกับช่วงทีเส็บปิดปีงบประมาณ 2566 พอดี จึงจัดทำสรุปผลงานการประมูลสิทธิ์จัดงานประชุมนานาชาติที่ดึงเข้ามาในไทยทำได้มากถึง 23 งาน กำหนดจะจัดตั้งแต่ปี 2566 ต่อเนื่องไปจนปี 2571 คาดการณ์จะมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลกเบื้องต้นเป็นการงานประชุมการแพทย์มากถึง 14 งาน จะทำให้เกิดการนักเดินทางไมซ์มาไทยทั้งหมด 23 งาน รวมไม่น้อยกว่า 50,000 คน

 

รวมทั้งยังเป็นงานสำคัญที่ทีเส็บสามารถดึงมาจัดในไทยได้ อย่างการประชุมสมาชิกฟีฟ่าทั่วโลก ประจำปี 24567 การประชุมใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ/ธนาคารโลกประจำปี 2569 ซึ่งแต่ละงานทีเส็บและประเทศไทยภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้สถานที่จัดแต่ละงานขนาดใหญ่ระดับโลก เพราะจะมีส่วนช่วยยกระดับภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นเมืองไทยกับประชาคมโลกในฐานะจุดหมายปลายทางจัดงานประชุมรายการสำคัญในอนาคตต่อไป

 

            ช่วงที่ 2 เริ่มแล้ว เที่ยวไทยงานบุญใหญ่แห่งปี “ถือศีลกินผักภูเก็ต” 9 วัน 9 ตั้งแต่ 15-25 ตุลาคม นี้ เลือกพักโรงแรมใกล้ศาลเจ้า ตลุยกินผัก งดเนื้อสัตว์ ประเพณีที่ทำสืบต่อมานานกว่า 200 ปี แล้วฟัง “ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง” แก้พฤติกรรมการกินด่วน เกาะติดข่าวดี ๆ ข่าวแรก “AWCเปิดKissuisen” บูมสีลม สุรวงศ์ ดึงนักท่องเที่ยวสายกิน ข่าวที่สอง “โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล” ทุ่มจ้างแจ๊สโลกดึงลูกค้าใช้จ่ายเพิ่มใจกลางกรุง

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวงานบุญใหญ่ถือศีลกินผักภูเก็ต9วัน9คืน15-25 ต.ค.นี้

 

ได้เวลาเที่ยวไทยทางบุญ เปี่ยมศรัทธาที่จะชวนไปร่วมงานประเพณี “ถือศีลกินผัก” ที่ “ภูเก็ต” จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ปีนี้จัดขบวนแห่อ๊าม(ศาลเจ้า) กว่า 30 อ๊าม ทุกปีจัดขึ้นตามปฏิทินจีน ช่วงวันขึ้น 19 ค่ำ เดือน 9 ปีนี้ตรงกับวันที่ 15 – 25 ตุลาคม 2566 รวม 9 วัน 9 คืน เสน่ห์งานบุญจัดต่อเนื่องยาวนานกว่า 200 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2368 ด้วยจิตแห่งการนับถือและบูชาเทพเจ้า งดรับประทานเนื้อสัตว์ พร้อมทั้งมีพิธีกรรมต่าง ๆ ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาท่องเที่ยวอย่างมีความสุข

 

ประเพณีถือศีลกินผัก “เจี๊ยะฉ่าย” ในภูเก็ตจัดสืบต่อกันมากว่า 200 ปี โดยมีไฮไลต์เชิญชวนผู้คนมาร่วมกินผักและงดเว้นเนื้อสัตว์ ชมพิธีทรงเทพเจ้าซึ่งปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ ซึ่งแต่ละบุคคลต่างมีความเชื่อ และความศรัทธา ในหลายมิติด้วยกัน

 

พิธีสำคัญจะเริ่มจาก “ยกเสาโกเต้ง” เป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นถือศีลกินผัก ตามมาด้วย “อิ้วเก้ง” พิธีแห่พระรอบเมือง พิธีปัดเป่าความโชคร้ายอย่างลุยไฟ “โก้ยโห้ย” พิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ “โก้ยห่าน” พิธีที่ม้าทรงรับเคราะห์หรือรับความเจ็บปวดแทนมนุษย์ที่มาร่วมพิธีกรรมช่วงเทศกาล 

 

เมื่อมาถึง “ภูเก็ต” เมืองท่องเที่ยวที่ทางยูเนสโก้ยกให้เป็นสถานที่มีความสร้างสรรค์ทางด้านอาหารตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งในปี 2566 ตลอดเทศกาลถือศีลกินผักทางจังหวัดได้จัดเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพหารับประทานยากหลายชนิดไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน รสชาติอร่อยทั้งอาหารเจ นมถั่วเหลือง เต้าหู้ขาว ผัก ผลไม้ ข้าว และอีกมากมาย ถูกใจสายไมซ์ สายบุญ สายเที่ยว สายกิน อย่างแน่นอน

 

ช่วงการท่องเที่ยวเชิงศรัทธางานประเพณี “ถือศีลกินผัก” ในภูเก็ต มีโรงแรมต่าง ๆ เตรียมต้อนรับการเดินทางช่วงพิเศษ ใกล้  ๆ ศาลเจ้า “เจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง” มีโรงแรมแบรนด์บีทูเป็นทางเลือกให้พักอยู่ 2 แห่ง คือ ภูเก็ต พรีเมียร์  กับภูเก็ต บูติค แอนด์ บัดเจท

 

แห่งที่ 1 โรงแรมบีทู ภูเก็ต พรีเมียร์ เป็นโรงแรมในเมืองออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัยแบบ ชิโน-โปรตุกิส หรูหราคลาสสิก ใกล้ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเพียง 10 นาที ราคาที่พักจับต้องได้ มีห้องพักทั้งหมด 74 ห้อง เลือกพักได้ 7 สไตล์ ได้แก่ 1.ซูพีเรียร์ พรีเมียร์ 2.ดีลักซ์ ทริปเปิล 3.ลักซ์ชัวรี ซูพีเรียร์ 4.ลักซ์ชัวรี ทริปเปิล 5.จูเนียร์ สวีท และ 6.เพรสซิเดนเชียล สวีท สิ่งอำนวยความสะดวกครบ

 

แห่งที่ 2 โรงแรมบีทู ภูเก็ต บูติค แอนด์ บัดเจท ใกล้ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเพียง 10 นาที ที่พักดีไซน์ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ราคาเริ่มต้นเพียง 600 บาท/ห้อง/คืน บริการเตียงนอนขนาดคิงไซส์ ทีวี โต๊ะทำงาน พื้นที่วางสัมภาระ ค้างคืนหลายวัน มีห้องพักให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ 1.ซูพีเรียร์ 2.ดีลักซ์ ทริปเปิล 3.สวีท เดินทางง่าย  

 

            สำหรับการเข้าร่วมชมงานประเพณีจีน 1.พิธีอิ้วเก้ง (แห่พระ) 2.พิธีโก้ยห่าน (สะเดาะเคราะห์) 3.พิธีโก้ยโห้ย (ลุยไฟ) 4.พิธีองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ (ส่งพระ) เป็นคืนวันสุดท้ายมักจะส่งกันที่หน้าเสาโกเต้งช่วง 22.30 น.

 

ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กับทางจังหวัดภูเก็ต จัดทำคู่มือเป็นแผ่นพับแจกฟรีเที่ยวงาน “ประเพณีถือศีลกินผัก” ปี 2566 ขอรับได้ที่ ททท. สำนักงานภูเก็ต (ข้างลานมังกร)  ทุกวันจันทร์ - ศุกร์  (ยกเว้นวันพุธ) 08.30 - 16.30 น. รวมทั้งกระจายแจกตามศาลเจ้า (อ๊าม) แห่งละ 100 ฉบับ และตาม โรงแรม บริษัททัวร์ หรือสถานประกอบการละ 20 ฉบับ ประชาชนทั่วไป หรือ นักท่องเที่ยว คนละ 1 ฉบับ

 

ลองเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวงานประเพณี “ถือศีลกินผักภูเก็ต” สักครั้ง ร่วมเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้ชีวิตสักครั้ง 1 ปี มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

 

สุขภาพ –ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแก้ไขได้ด้วยวิธีเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

 

‘น้ำตาล’ และ ‘คาร์โบไฮเดรต’ เป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายขาดไม่ได้ และยังเป็นส่วนผสมสำคัญประกอบอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มแทบทุกเมนู หากบริโภคมากเกินความจำเป็นต่อวัน อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น จนนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้

 

รู้จักกับ “ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง” ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หรือหากวัดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลจะได้ผลที่มีค่าสูงเกิน 100 มก./ดล. (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) หลังอดอาหาร 8 ชม. ถ้าปล่อยไว้ ไม่ทำการรักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต

 

สำหรับ “ความผิดปกติของอินซูลิน...สาเหตุของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง”  ตามปกติแล้ว หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน “อินซูลิน” จากตับอ่อน ทำหน้าที่นำน้ำตาลในหลอดเลือดไปเผาผลาญเป็นพลังงานให้กับเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ซึ่งจะควบคุมให้ร่างกายรักษาระดับน้ำตาลให้เป็นปกติ

 

สัญญาณเตือน! ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง 1.กระหายน้ำมาก ต้องดื่มน้ำบ่อย 2.ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน

3.ปวดศีรษะ 4.มีปัญหาทางสายตา หรือมองเห็นไม่ชัด (ภาวะเบาหวานขึ้นตา) 5.หอบเหนื่อยง่าย

 

                ระดับน้ำตาลเท่าไหร่ถึงไม่ปกติ? วิธีตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเหมาะสมที่สุด “ก่อนตรวจ” จะต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง ผลที่ได้ออกมาจะเป็นค่ามิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งอ่านค่าได้ ดังนี้

 

1.ค่าระดับน้ำตาลอยู่ระหว่าง 70-100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ถือว่าอยู่ในระดับปกติ

2.ค่าระดับน้ำตาลอยู่ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ถือว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

3.ค่าระดับน้ำตาลมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ถือว่าเป็นโรคเบาหวาน

 

สำหรับ “ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงรักษาได้...แค่เปลี่ยนพฤติกรรม” การรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ ตามขั้นต้นสามารถรักษาได้โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร” ได้แก่

 

1.ลดการทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง ร่วมกับดื่มน้ำให้มากขึ้น 2.ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ควรระวังในการเลือกประเภทของการออกกำลังกาย โดยสามารถขอคำแนะนำได้จากแพทย์ผู้ดูแลเพิ่มเติม 3.ปรึกษาแพทย์ก่อนทานยาบางชนิด เพื่อหลีกเลี่ยงการทานยาที่ส่งผลต่อระดับอินซูลินในร่างกาย

 

4.หมั่นจดบันทึกและตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูเฝ้าระวังความผิดปกติของร่างกาย 5.ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง และพบแพทย์เป็นประจำ 6.หากพบความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือด ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –AWCเปิดKissuisenดันสีลม-สุรวงศ์ผู้นำย่านท่องเที่ยวกินอร่อย

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) “AWC เปิดเผยว่า ลงทุนเปิดตัวบริการใหม่ คิสซึอิเซน : Kissuisen “ เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมแห่งแรก ตั้งอยู่ในโรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ซึ่งมีจุดขายโดดเด่นด้านการรวมแก่นแท้เรื่องวัฒนธรรมการรับประทานอาหารอันงดงามและหลากหลายของญี่ปุ่น โดยเชฟชาวญี่ปุ่น คัดสรรอาหารรสเลิศอย่างพิถีพิถันร่วมเสริมศักยภาพพื้นที่ย่าน สีลม-สุรวงศ์ สู่แหล่งรวมความสุขและความอร่อยระดับโลก ภายใน คิสซึเอเซน ได้นำเสนอเมนูสูตรต้นตำรับสุดพิเศษไว้ในที่เดียวกัน 4 ร้าน 4 สไตล์ ได้แก่

 

ร้านที่ 1 CHI IZAKAYA BAR & DINING สไตล์อิซากายะมีชีวิตชีวา ร้านที่ 2 KAEN TEPPANYAKI AND GRILL เสิร์ฟอาหารสไตล์เทปันยากิ กับศาสตร์แห่งไฟในการปรุงอาหาร ร้านที่ 3 SEIFU OMAKASE BAR สไตล์โอมากาเสะ จากวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาล ในห้องอิซากายะ ห้องไพรเวทไดนิ่งรูม ห้องเทปันยากิ ห้องโอมากาเสะ เปิดบริการทุกวัน แบ่งเป็น ช่วงกลางวัน 11.30 – 14.30 . และช่วงเย็น 18.00 22.00. ร้านที่ 4  MIZU SAKE BAR” สาเกบาร์พร้อมนำเสนอสาเกหายากจากโรงกลั่นสุราในญี่ปุ่น เปิดช่วงเย็น ระหว่าง17: 00 น.จนถึงเที่ยงคืน

โดยได้เน้นการลงทุนห้องอาหาร “Kissuisen” เน้นถ่ายทอดจิตวิญญาณความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ นำเสนอความหลากหลายอาหารญี่ปุ่นไว้ในที่เดียว ประกอบด้วย

 

ร้านที่ 1 CHI IZAKAYA BAR & DINING (ดิน) อยู่บริเวณชั้น 1 และชั้นลอย นำเสนออาหารญี่ปุ่นในสไตล์อิซากายะที่มีชีวิตชีวา สร้างสรรค์และปรุงพิเศษจากถ่านบินโจตัน ถ่านไม้เกรดพรีเมี่ยมให้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการยกย่องถึงความบริสุทธิ์และถือเป็นหัวใจสำคัญของร้านอาหารอิซากายะชั้นนำมากมาย มีเมนูไฮไลท์ เช่น ทูน่าทาทากิย่างถ่าน หรือกิวคารูบิยากิ

 

ซึ่งมีพื้นที่ PRIVATE DINING ROOMS ห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว อยู่บริเวณชั้น 2 ของร้านอาหาร ซึ่งตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ 3 ห้อง รองรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือพบปะทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอชุดอาหารกลางวันแบบเบนโตะ และชุดอาหารเย็นแบบโอเซ็น รวมถึงเมนูอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับอีกหลากหลายชนิด จึงได้ตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ “ดิน น้ำ ลม ไฟ” จากแรงบันดาลใจของธาตุทั้งสี่ตามปรัชญา “โกได (Godai)”  ประกอบด้วยวัสดุและดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ เพื่อมอบประสบการณ์รับประทานอาหารญี่ปุ่นอย่างน่าประทับใจให้ตลาดหลักทั้งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ  

 

ร้านที่ 2 KAEN TEPPANYAKI AND GRILL (ไฟ) อยู่บริเวณชั้น 3 นำเสนออาหารญี่ปุ่นในสไตล์เทปันยากิ มอบประสบการณ์แห่งรสชาติด้วยศิลปะการแสดงและการทำอาหารอย่างสร้างสรรค์จากศาสตร์แห่งไฟและทักษะของเชฟผู้มากประสบการณ์ รวมถึงส่วนผสมของวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาล เช่น ล็อบสเตอร์จากภูเก็ต และเนื้อมัตสึซากะได้ชื่อว่าเป็นเนื้อวัวคุณภาพสูงของญี่ปุ่น

 

ร้านที่ 3 SEIFU OMAKASE BAR (ลม) อยู่บริเวณชั้น 4 นำเสนออาหารญี่ปุ่นในสไตล์โอมากาเสะ จากแรงบันดาลใจของลายเส้นอันสวยงามบนผนังร้านที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสายลมแห่งฤดูกาลที่ได้พัดพาเอาผลิตผลชั้นเลิศจากแหล่งผลิตไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้สดจากเทือกเขา ไปจนถึงวัตถุดิบสดใหม่จากตลาดอาหารทะเล ที่ได้รับเลือกมานำเสนอสู่โต๊ะอาหารเพื่อถ่ายทอดศิลปะแห่งรสชาติอย่างประณีตบรรจงโดยฝีมือของเชฟ ยูอิชิ มิตซุย ในราคา Standard Course มื้อกลางวันและมื้อค่ำ 12 คำ ราคา 4,588++ บาท และ Exclusive Course มื้อค่ำ 15 คำ ราคา 8,888++ บาท

 

ร้านที่ 4 MIZU SAKE BAR (น้ำ) สาเกบาร์ ตั้งอยู่บริเวณดาดฟ้าชั้น 5 พร้อมเปิดประสบการณ์แห่งศาสตร์ของเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นด้วยสาเกบริสุทธิ์หายากหลากชนิดจากโรงกลั่นสุราในญี่ปุ่น และค็อกเทลสูตรพิเศษที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากสาเกคุณภาพ พร้อมจับคู่กับเมนูอาหารว่างแบบญี่ปุ่นปิดท้ายค่ำคืนแสนพิเศษ

 

ข่าวที่สอง -รร.อินเตอร์คอนนำแจ๊สโลกเพิ่มกำลังซื้อตลาดที่พักหรูกรุงเทพฯ

 

โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ รายงานว่า ได้ใช้กลยุทธ์นำการแสดงดนตรีแจ๊สที่จะจัดแสดงแบบประจำของ “โคโค่ ลาชุน : Coco LaShaun” เข้ามากระตุ้นการใช้จ่ายเงินในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีนักร้องสาวชาวอเมริกันพร้อมจะมาร้องเพลงขับกล่อมด้วยเสียงร้องนุ่ม ๆ เป็นเอกลักษณ์ มอบความสุขให้กลุ่มตลาดเพื่อนฝูง คู่รัก และกลุ่มต่าง ๆ  ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการที่ห้องอาหารและบาร์ของโรงแรมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

“โคโค่ ลาชุน” พร้อมศิลปินในวงพร้อมจัดการแสดงสุดพิเศษในโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ มอบให้กับผู้ที่หลงไหลเสียงร้องนุ่ม ๆ และดนตรีแจ๊ส ตามห้องอาหารและบาร์ของโรงแรมซึ่งสามารถเลือกชมได้ตลอดทั้ง 3 พื้นที่ ได้แก่

 

พื้นที่  1 บัลโคนี่ เลาจน์ : Balcony Lounge พื้นที่ให้บริการเครื่องดื่มโปรดปรานไปพร้อม ๆ กับการฟังเพลงขับกล่อมจาก โคโค่ ในบรรยากาศสบาย ๆ ได้ทุกค่ำคืน วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ สำหรับวันอาทิตย์แสดงเฉพาะวันที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน แต่ละวันจะเริ่มตั้งแต่ 19.00 น.-21.45 น.

 

พื้นที่ 2 ห้องอาหาร ไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์ ฟังเพลงแจ๊สขับกล่อมพร้อมอิ่มอร่อยมื้ออาหารค่ำสุดพิเศษ ได้ทุกวันพฤหัสบดี เริ่มตั้งแต่ 19.00-21.45 น.

 

พื้นที่ 3 ห้องอาหาร เอสเพรสโซ่ จัดแสดงพิเศษทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน ศิลปินโคโค่ จะมามอบความสุขระหว่างการรับประทานบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ หรือ Sunday Brunch ตั้งแต่ 12.00 -14.45 น.

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai