นายกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) "TICA"
นายกTICAลั่นปี’67ผูกติดTCEBรุกเทรดโชว์4เมกะอีเวนต์โลก
ดันสมาชิกธุรกิจไมซ์ร่วมวงหนุนไทยHighValueDestination
ลุยปลุกเทรนด์SDGsไมซ์-เร่งหาจุดขายใหม่สปีเชียลเวนิว
รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟดินเนอร์บุฟเฟต์เริ่ม1,750บาท
คิงเพาเวอร์ออนไลน์ฉลอง34ปีแจกช้อปDELIGHTSลด20%
ก.ท่องเที่ยว/ททท./กทม.จัด5อีเวนต์โกยรายได้พ.ย.-ธ.ค.66
บางจาก3บริษัท-มจพ.โหมทำมหาลัยสีเขียว/ปั้นสตาร์ตอัพ
โคราชชวนไปStoneCreek-จองพักหรูอินเตอร์คอนเขาใหญ่
ด่วน!!กินไฟเบอร์มากเกินไปมีผลกระทบแรงดูวิธีรับมือแก้ไข
ลุฟท์ฮันซ่านำA380บิน“ไทย-เยอรมัน/ยุโรป”21เที่ยว/สัปดาห์
ททท./ภูเก็ตบูมยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์เปิดสื่อออนไลน์ได้10ล้านคน
วันอาทิตย์ที่
29 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #TICA #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 เคลื่อนธุรกิจ M-I-C กับ “สุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา
นายกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) “TICA/ทิก้า” นำสมาชิกผนึกแผนตลาด TCEB แน่น โร้ดโชว์ เทรดโชว์ ทั่วโลกเจาะไฮแวลู 4
เมกะอีเวนต์ “AIME
เมลเบิร์น
ออสเตรเลีย-IMEX FRANKFURT-IMEX AMERICA ลาสเวกัส-IBTM World บาร์เซโลนา” พร้อมหนุนเต็มเหนี่ยวนำไทยผงาด High
Value Added Destination ปี67
จัดเต็ม
SDGs ไมซ์ ลดคาร์บอน
ก๊าซเรือนกระจก แนะร่วมกันเพิ่มจุดขายใหม่ Special Venue ใช้งานโลก ICCA Congress 2023 กทม.นำร่องโชว์จัดที่หัวลำโพง
นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) “TICA/ทิก้า” เปิดเผยว่า แผนงานของทิก้าปี 2567 ยังคงเดินหน้าขยายตลาด M-I-C : ส่วนใหญ่จะทำตลาดระยะไกลแถบตะวันตกในยุโรป
ระยะกลางแถบเอเชีย จะผนึกการทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
เน้นการนำสมาชิกสมาคมไปร่วมโร้ดโชว์ เทรดโชว์
รายการขนาดใหญ่ระดับโลกในตลาดระยะไกลที่ผู้ประกอบการไมซ์ของไทยเข้าร่วมมีปีละ 4
งาน ได้แก่ งานที่ 1 AIME 2024 เดือนมีนาคม
2567 ที่เมลเบิร์น
ออสเตรเลีย งานที่ 2 IMEX FRANKFURT 2023 จัดไปแล้วในโซนยุโรปเหนือ
จากนั้นจะเป็น งานที่ 3 IMEX AMERICA 2024 ที่ลาสเวกัส เดือนกันยายน 2567 มีขนาดใหญ่มาก งานที่ 4 IBTM World ที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
รุกเจาะพื้นที่ตลาดเป้าหมายในโซนยุโรปกลางและใต้
รวมถึงงานที่ทางทีเส็บเป็นเจ้าภาพใหญ่คือ
IT&CMA and CTW Asia Pacific จัดไปเมื่อต้นเดือนกันยายน
2566 โดยมีคู่ค้าจากตลาดระยะใกล้
และยุโรปบางส่วนเข้ามาร่วม ซึ่งไทยได้รับความสนใจจากผู้ซื้อกลุ่ม M-I-C เป็นอย่างดี ต่อจากนี้กำลังจะมีโร้ดโชว์ในกลุ่มประเทศ
CLMV กัมพูชา
สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ควบคู่กันไปด้วย
ปี 2567 ธีมการขายไมซ์ M-I-C จะเน้นหนักสถานที่จัดลงไปยัง “ไมซ์ชุมชน-Community
Base” มากขึ้น และ SDGs
:Sustainable Development Goals)
ซึ่งมีลูกค้าถามกับผู้ประกอการไทยถึงกิจกรรมโครงการต่าง ๆ
ที่ได้ทำไปแล้วมีอะไรบ้างทั้งเรื่อง การมีส่วนร่วมทำคาร์บอนต่ำ /Low Carbon
หรือ
การวางรากฐานสู่ลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ /Net Zero ซึ่งทางทีเส็บได้จัดทำระบบฝึกอบรมเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนมากขึ้น
ทางทิก้าเองก็ได้พยายามนำเรื่องราวดังกล่าวไปนำเสนอกับคู่ค้าตลาดนานาชาติอย่างต่อเนื่องตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายสุเมธ กล่าวว่า ปี 2567
เป็นเรื่องดีที่ทีเส็บตั้งเป้าทำแผนขับเคลื่อนไมซ์โดยยกระดับสู่จุดหมายปลายทางไมซ์คุณภาพสูง
“High Value Added Destination”
ถึงแม้ระยะนี้จะขาดแคลนแรงงานภาคบริการ
ทุกฝ่ายได้พยายามตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างเต็มที่ ตอนนี้โรงแรมระดับ 5
ดาว จะขับเคลื่อนได้ก่อนเพราะมีความพร้อมสามารถทำให้งานผ่านพ้นไปด้วย
ส่วนศูนย์ประชุมกำลังเร่งทำการตลาดเพื่อสร้างมูลค่าสูงให้ไปในทิศทางเดียวกัน
ซึ่งบุคลากรไมซ์ที่จะเข้ามาให้บริการจะต้องเพิ่มทักษะความเข้าใจกับความยืดหยุ่นมีฮอสพิทาลิตี้ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทยอยู่แล้วก็ทำให้เต็มที่
เนื่องจากมีลูกค้าฟื้นตัวเติบโตมากขึ้น
ปัจจุบันสามารถกล่าวได้ว่า “ไทย”
เป็นผู้นำเหนืออีกหลายประเทศ ซึ่งมีความพร้อมด้านบริการแล้วสามารถเป็น SpringBroard
of Asia ได้อย่างเต็มศักยภาพ
เพราะเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา สปป.ลาว ได้อานิสงจากไทยพอสมควร
ส่วนสถานที่จัดประชุมไมซ์
ตอนนี้สิ่งที่ควรเพิ่มเพื่อนำเสนอความหลากหลายให้ลูกค้าคือ
“สถาที่พิเศษในการจัดประชุมกลางแจ้ง :Special Venue ซึ่งทีเส็บเดินหน้าประสานงานอย่างเต็มที่กับทางกรุงเทพมหานคร
ตัวอย่าง ไทยได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานประชุมประจำปีสมาชิก ICCA Congress
2023 ระหว่างวันที่ 12-15
พฤศจิกายน 2566 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทาง กทม.จะนำเสนอ Special
Event Venue ได้ข้อสรุปจะจัดที่
“สถานีรถไฟหัวลำโพง” เป็นโชว์เคสสถานที่ใหม่จะนำเสนอให้ลูกค้าได้
ซึ่งสามารถสื่อได้ถึงความเก่าแก่ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของไทย สถาปัตยกรรมโดดเด่นยิ่งใหญ่สวยงามไม่แพ้สถานีรถไฟในแฟรงเฟิร์ต
เยอรมันี
ปี 2567 ทิก้า วางแผนผลักดันให้สมาชิกในอุตสาหกรรมไมซ์ M-I-C เดินหน้า เรื่องที่ 1 ปรับตัวพัฒนาธุรกิจเข้าสู่ไมซ์อย่างยั่งยืน SDGs
ยึดตามแนวนี้
ซึ่งทางผู้ประกอบการไมซ์เข้าร่วมมาตรฐานแล้วนำไปแสดงกับคู่ค้าเพื่อเป็นตัวเลือกที่จะมาใช้บริการ
เรื่องที่ 2 ต่อยอดไมซ์ชุมชนซึ่งมีกรรมการของสมาคมฯ
เข้าไปร่วมเป็นกรรมการพัฒนางานฐานชุมชนเต็มรูปแบบควบคู่กับทีเส็บและท้องถิ่นต่าง ๆ
ได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยมีชุมชนสร้างความพร้อมได้หลายแห่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องที่ 3
การยกระดับซอฟท์ เพาเวอร์ งานเทศกาล
ทางสมาคมทิก้า
กับทีเส็บได้หารือกันมาแล้วกับสมาคมจัดงานเทศกาลแล้วถึงการดึงงานเมกะอีเวนต์ต่าง ๆ
ที่มีขนาดใหญ่คนเข้าร่วมครั้งละหลักหมื่นถึงแสนคน จะต้องเตรียมความพร้อม
ทางด้านห้องพัก จัดระบบการขนส่งมวลชน ทางสมาชิกสมาคม TICA มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว
ก็เป็นศูนย์กลางประสานแต่งานแต่ละส่วนเพื่ออำนวยความสะดวกความสะดวกครบวงจร บริการ
ชัตเติ้ลบัสรับส่งจากโรงแรมไปยังสถานที่จัดงาน
ล็อกห้องพักให้เพียงพอกับความต้องการ และอื่น ๆ
นายสุเมธกล่าวว่า
ต้องการเพิ่มความมั่นใจกับหลายแต่ละภาคส่วนถึงอุตสาหกรรมไมซ์หลังเปิดประเทศสามารถช่วยอุตสาหกรรมต่าง
ๆ และหลายวิชาชีพช่วยขายสินค้าให้กับธุรกิจได้หลากหลาย
ถึงแม้ปัจจุบันการกระจายตัวทางรายได้ของไมซ์อาจจะยังกระจุกตัวผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ไม่เท่าเทียมกันอยู่บ้าง
แต่อนาคตจะสร้างดีทำให้เศรษฐกิจสดใสเหมือนเดิมอย่างแน่นอน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟดินเนอร์บุฟเฟต์เริ่ม1,750บาท
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ชวนมาเต็มอิ่มกับดินเนอร์ “บุฟเฟต์ซีฟู้ดและบาร์บีคิว”
ในกรุงเทพฯ สุดอลังการ ได้ที่ ห้องอาหาร “ควิซีน อันปลั๊ก” ตั้งอยู่ชั้นล็อบบี้
บริการทุกวัน ตั้งแต่ 18.00 – 22.30 น. ราคาเริ่มต้นคนละ
1,750 บาทสุทธิ ให้รางวัลกับตัวเองและครอบครัวด้วยหลากหลายเมนูอาหารทะเลที่สดใหม่เลือกได้อย่างหลากหลาย
เช่น หอยนางรม หอยหมาก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กั้ง กุ้งแดง ปูม้า และกุ้งแม่น้ำ
รวมถึงเนื้อวากิวออสเตรเลีย ขาแกะนิวซีแลนด์ หมูคุโรบูตะ ไก่ออร์แกนิกไทย
รวมถึงหอยนางรมหมุนเวียนกันมาทุกวัน 6 ชนิด ได้แก่ Fine de Claire No.4,
Fine de Claire Verte No.5, Fine de Claire Geay no.4 (Marennes
d’ Oleron), irish Oyster Geay No.4, ASC Speciales Geay No.4 (
Charente-Maritime) และ Normandy No.4
รายการพิเศษ
ทุกวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ ปูอลาสก้า ขาปูหิมะ หอยนางรมฟินเดอแคลร์ หอยนางรมเกาหลี
ขาแกะกิวออสเตรเลียและปลาแซลมอนแอตแลนติกอบเกลือราดซอสแบร์เนส
เอาใจแฟนชาบู
กับมุมชาบู ชาบู ให้ได้ลิ้มลองพร้อมตัวเลือกหลากหลายรายการ เช่น หอยเชลล์
หอยแมลงภู่ ปลาหมึก กุ้งแดง และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ อีกทั้งคู่ตัวเลือกน้ำซุป
ผลัดปลี่ยนสองรสชาติทุกวัน เช่น น้ำซุปเสฉวน
น้ำซุปหม่าล่า น้ำซุปดำ น้ำซุปกระดูกหมู (สีขาวขุ่น) น้ำซุปต้มยำและน้ำซุปไก่
และไม่เพียงเท่านี้เรายังเอาใจคนรักชานมไข่มุก
ที่จะได้ลิ้มลองความหอมหวานพร้อมไข่มุกหนึบหนับแบบไม่อั้น
จองออนไลน์ รับประทานมื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น. รับข้อเสนอพิเศษ วันจันทร์ – วันพุธ ราคา
1,750บาทสุทธิต่อท่าน รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ๊งก์ ชา และกาแฟ วันพฤหัสบดี– วันอาทิตย์ ราคา 2,250
บาทสุทธิต่อท่าน รวมเครื่องดื่ม Soft drinks ชา
และกาแฟ และชำระเพิ่มอีกคนละ
890 บาทสุทธิ เพื่อรับเครื่องดื่ม เบียร์ ไวน์ และสปาร์คกลิ้งไวน์
สิทธิพิเศษ: สมาชิกแอคคอร์ พลัส
รับส่วนลดตามสิทธิประโยชน์จากราคาปกติ เด็กอายุ
0-5 ปีรับประทานอาหารฟรี เด็กอายุ
6-11 ปี รับส่วนลด 50% จากราคาเต็ม
แล้วห้ามพลาด !! อาหารเลิศรสจากทั่วทุกมุมโลกอีกกว่า
50 เมนู เช่น
โซนที่ 1 อาหารญี่ปุ่น มีซูชิหน้าปลาแซลมอน ไข่หวาน
และซาซิมิที่มีทั้งปลาแซลมอน ปลาโทโร่ ปลาหมึก พร้อมข้าวปั้น ข้าวห่อสาหร่ายและอีกมากมาย
โซนที่ 2 อิตาเลี่ยนอบร้อน ๆ อย่าง
พิซซ่า และพาสต้าทำสดใหม่ โซนอาหารรวมดาวเด่น ไทย อีสาน จีน นานาชาติ
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน เค้กนานาชนิด ไอศกรีม ผลไม้ตามฤดูกาล
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ออนไลน์ฉลอง34ปีแจกช้อปDELIGHTSลด20%
มาร่วมเฉลิมฉลองวันเกิดกับ
คิง เพาเวอร์ ช้อปแคมเปญ DELIGHTS & SURPRISES 34th ANNIVERSARY: ONLINE EXCLUSIVE สนุกทุกการเดินทาง อย่ารอช้า
ของมันต้องมี ช้อปได้เลยวันนี้ - 31 ตุลาคม 2566 แล้วรับของได้ที่สนามบิน
เลือกช้อปปิ้งไอเทมดี
ๆ ราคาเด็ด ๆ ดีลพิเศษที่ใครเห็นก็ต้องช็อคเพราะ “ลดแรงมาก” มีสินค้าแบรนด์ดังเข้าร่วมรายการมากมาย
ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง สกินแคร์ แฟชั่นมีครบจบหมดที่นี่ที่เดียว!!
Time
to Shopping : Fashion Brands รวมตัวท็อปไอเทมแฟชั่นที่ควรมี เพิ่มลุคให้ดูมั่นใจ อย่างแบรนด์ COCCINELLE, FURLA , FERRAGAMO, MCM,
COACH, TUMI, DANIEL WELLINGTON และอื่นๆ
1.ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด DSON15
2.พิเศษ!! ลดทันที 3,000 บาท เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท รหัสส่วนลด DS3000
ข่าวที่
3 ก.ท่องเที่ยว/ททท./กทม.จัด5อีเวนต์โกยรายได้พ.ย.-ธ.ค.66
นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่า มีนโยบายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร
และกระทรวงวัฒนธรรม ผนึกกำลังกันใช้พลัง ซอฟ เพาเวอร์ ส่งเสริมและกระตุ้นจัดงานอีเวนต์การท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566
รวมทั้งหมด 5 อีเวนต์ ได้แก่ 1.สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง 2.Amazing Thailand Marathon Bangkok 3.การแสดงแสงสีวิจิตรเจ้าพระยา
4. Amazing Thailand Passport Privileges และ
5.Amazing
Thailand Countdown
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) กล่าวว่า เดินหน้าตอบโจทย์นโยบายของ “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์เพาเวอร์แห่งชาติ”
หรือ ซูเปอร์บอร์ด ซอฟท์ เพาเวอร์ ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
เป็นรองประธาน ร่วมกับผู้บริหารองค์กรต่าง ๆ เตรียมคิกออฟกระตุ้นคนไทยและนานาชาติใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวอีเวนต์ใหญ่ในกรุงเทพมหานคร
5 งาน ได้แก่
งานแรก
Colorful Bangkok นำร่องงานเทศกาลลอยกระทง ไฮไลต์การจัดงานที่คลองผดุงกรุงเกษม
ยาวไปถึงหัวลำโพง
ขณะเดียวกันก็ยังขยายจัดเทศกาลเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงพร้อมกันในภาคต่าง ๆ
ทั่วประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเห็นว่าไทยเปิดแล้วร้อยเปอร์เซนต์ เช่น
ภาคเหนือ เผาเทียนเล่นไฟอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ยี่เป็ง จ.เชียงใหม่ และอื่น ๆ
งานที่
2 วิจิตรเจ้าพระยา ในกรุงเทพฯ และ วิจิตร 5 ภาค แสง สี เสียง ตระการตา ตามเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม โดยจะเริ่มจาก
“วิจิตรเจ้าพระยา” ในกรุงเทพฯ เตรียมจัดตลอดทั้งเดือนเริ่ม 1-31 ธันวาคม 2566 เชื่อมโยงไปถึงงานเคาน์ดาวน์ตอนสิ้นปี
งานที่
3 Amazing Thailand Marathon Bangkok Presented by TOYOTA 2023 จัดในกรุงเทพฯ ระหว่าง 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2566 ซึ่งปีนี้ทางสหพันธ์กรีฑาโลกจะประกาศให้
“กรุงเทพฯ” เป็น World Capital Marathon อย่างเป็นทางการแห่งที่
6 ของโลก ต่อจาก บอสตัน โตเกียว และเมืองอื่น ๆ ที่นิยมไปวิ่งกัน
งานที่
4 จัดงาน Bangkok Countdown 2023 จะเชิญชวนสื่อจากทั่วโลกเข้ามาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ให้กรุงเทพฯ
ของประเทศไทยเป็นเมืองแห่งที่ 3 ของโลกประจำปี 2567
งานที่
5 Amazing Thailand Passport Privileges ททท.จะร่วมกับห้างสรรพสินค้าทั่วกรุงเทพฯ
และเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เสนอให้สิทธิพิเศษเรื่องหนังสือเดินทางจีน หรือ Passport
Privillage เริ่มไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในช่วงระยะเวลาที่กำหนด
รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักในไทย (expat) ทางห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศจะเข้าร่วมให้สิทธิ์ส่วนลดเพิ่มเติมกับนักท่องเที่ยวเข้ามาช้อปปิ้งตามเงื่อนไขมูลค่าใช้จ่ายเงินโดยแต่ละห้างจะมีข้อกำหนดทำให้กิจกรรมนี้มีกระแสตอบรับที่ดี
ข่าวที่
4 บางจาก3บริษัท-มจพ.โหมมหาลัยสีเขียว/ปั้นสตาร์ตอัพ
นายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กรบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ได้นำธุรกิจในเครือบางจากร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน
อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
(มจพ.)นำเทคโนโลยีพลังงานสีเขียว ปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรม มาร่วมพัฒนามหาวิทยาลัยคาร์บอนต่ำและยกระดับร้านกาแฟรักษ์โลก ตามวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือทั้งทางด้านวิชาการและเทคโนโลยีพลังงานสีเขียว
ผ่านนวัตกรรม และปัญญาประดิษฐ์ สนับสนุนยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและคุณภาพของบุคลากรทั้งสององค์กร
โดยมีผู้บริหารในนามบางจากเข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวด้วยอีก
2 บริษัท คือ นายฉัตรชัย ลอยบัณดิษฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการลงทุน บริษัท
บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) นายวิษณุ วงศ์สุมิตร
ผู้จัดการใหญ่ การตลาดและพัฒนาเครือข่ายธุรกิจ บริษัท
บางจาก รีเทล จำกัด
ทางบางจากฯ ยินดีสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเดินหน้าเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวที่ยั่งยืน โดยจะผนวกจุดแข็งของบางจากซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมมาตลอด
มจพ. สถาบันการศึกษาชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และนวัตกรรม ร่วมกันดำเนินโครงการต่าง ๆ เน้นพัฒนาด้านวิชาการ
ด้านการวิจัยและนวัตกรรม พัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสีเขียว
เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robotic) เพื่อใช้งานได้จริง พร้อมกับสนับสนุนโครงการของนักศึกษาที่มีศักยภาพต่อยอดเป็นธุรกิจ Startup กับ มจพ. รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักศึกษา มจพ. ศึกษาดูงานฝึกงานกับกลุ่มบริษัทบางจาก
เพื่อพัฒนาประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมและธุรกิจ
การลงนามครั้งนี้จะนำไปสู่กิจกรรมและโครงการที่เป็นประโยชน์สอดคล้องกับความตั้งใจของบางจากพร้อมส่งเสริมศักยภาพเยาวชน
โดยมีบีซีพีจีช่วยศึกษาศักยภาพ เทคนิค และรูปแบบการนำพลังงานสีเขียวเข้ามาประยุกต์ใช้ตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานของ
มจพ. ครอบคลุม 3 ระบบหลัก ได้แก่ 1.โซลาร์เซลล์ 2.กักเก็บพลังงาน 3.แสดงผลแบบสมาร์ท แล้วบีซีพีจียังจะพิจารณาเป็นผู้ลงทุน
พัฒนา ออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง เป็นเจ้าของระบบ บริหารจัดการ บำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้า
และจำหน่ายไฟฟ้าให้ มจพ. ทั้ง 3 วิทยาเขต คือ กรุงเทพฯ
ระยอง และปราจีนบุรี โดยมีเป้าหมายพัฒนา มจพ. เป็นมหาวิทยาลัยคาร์บอนต่ำ
ส่วนร้านอินทนิล ”ร้านกาแฟสีเขียว” เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะเปิดสาขาใหม่แห่ง
2 ใน มจพ. ผ่านความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่
ๆ มาใช้ออกแบบร้านให้เป็นมากกว่าร้านกาแฟ มุ่งเน้นให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และเปิดเป็นพื้นที่ให้นักศึกษา มจพ. นำผลงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาทดลองปฏิบัติงานจริงในเชิงพาณิชย์ชื่อ
“Career Life and Design Center : Inthanin x KMUTNB” เดินหน้าต่อยอดนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างแท้จริง
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กล่าวว่า มจพ. มีความมุ่งมั่นพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มีพันธกิจผลิตบัณฑิตที่พึงประสงค์ ทำงานวิจัยและพัฒนา บริการวิชาการแก่สังคม
ปลูกจิตสำนึกมหาวิทยาลัยสีเขียว
ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานผ่านค่านิยม Green
University ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทบางจากซึ่งมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืนมาตลอด
สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างองค์กรอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นและเกิดประโยชน์ต่อทั้งสององค์กรและในภาคอุตสาหกรรมของประเทศในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ช่วงที่ 2 ลมหนาวจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พัดมาชวนไป “นครราชสีมา”
เที่ยวสวนบ้านเรากับ Stone Creek 30 ธ.ค.66 เปิดขายแล้วทางไลน์ มีคูปองพิเศษแจกฟรีช่วง Eartybird แล้วเลือกเช็คอินพัก “อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่”
รีสอร์ตดูมีกิจกรรมสนุกมากมาย แล้วฟัง
“กินไฟเบอร์มากเกิน” มีผลกระทบดูวิธีรับมือแก้ไข และเกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก
“ลุฟท์ฮันซ่า” นำฝูงบินใหญ่สุดแอร์บัส A380 กลับมาบิน ไป-กลับ ไทย
เยอรมัน ยุโรป แล้ว ข่าวที่สอง “ททท.ผนึกภูเก็ต” จัดยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์
โปรโมตทางสื่อออนไลน์มีคนเข้าถึง 10 ล้านคน
ท่องเที่ยว
– โคราชชวนไปStoneCreek-พักหรูอินเตอร์คอนเขาใหญ่
เสียงเรียกจากธรรมชาติประตูอีสานเปิดรับนักท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว
ที่ “นครราชสีมา/โคราช” การท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย (ททท.) นครราชสีมา
ชวนเที่ยวอีเว้นท์สวนหลังบ้านของเรา Stone creek ในบรรยากาศครอบครัวอันอบอุ่นใกล้เขาใหญ่ เปิดพื้นที่กว่า 3 ไร่ จัดงานชวนไปเที่ยวกันได้กับ “ Stone Creek Backyard Barbecue “ เตรียมตัวเคาน์ดาวน์กัน ในเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2566 ระหว่าง 16.30 - 22.00
น.
นักท่องเที่ยวเริ่มเข้าไปหาซื้อคูปองได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทางไลน์
Official Line @stonecreek ราคาผู้ใหญ่ 1,500 บาท/คน เด็ก
(อายุต่ำกว่า 12 ปี) 750 บาท/คน ส่วนบัตร Earlybird ซื้อก่อนมีสิทธิ์ก่อน
วันนี้- 30 พฤศจิกายน 2566 ให้เฉพาะคูปองผู้ใหญ่เท่านั้นรับคูปองเพิ่มฟรีอีกคนละ
250 บาท
ซื้อเรียบร้อยแล้วแล้วก็นำใช้แทนเงินสดภายในงานเพื่อซื้ออาหาร
เครื่องดื่ม ทำกิจกรรม แต่แลกเป็นเงินสดกลับคืนไม่ได้
ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้รับเต็มบาราเบล
3 อย่าง เริ่มจาก อย่างแรกฟิน “อิ่มอร่อย”กับ “บาร์บีคิว”
หลากหลายเมนู ย่างโชว์บนเตาถ่านขนาดใหญ่ นำเสนอเมนูไฮไลท์ Whole Roasted
Lamb อย่างที่ 2 เลือก “ลิ้มลองเครื่องดื่ม” จากพันธมิตรไวน์เนอรี่ บริวเวอรี่
ตบเท้าเข้ามาเพิ่มความสุขในงาน อย่างที่ 3 “เพลิดเพลินกับเสียงเพลง”
จากดีเจ และ live band สับเปลี่ยนกันให้ความบันเทิงกับ
เพื่อสร้างประสบการณ์ความประทับใจกับทุกคนส่วน เด็ก ๆ
จะได้สนุกกับกิจกรรมหลายประเภท ทั้ง สไลเดอร์ เกมต่าง ๆ ปลูกต้นไม้ และงานศิลปะ
ปิดท้ายงานนี้ช่วงดึก
ๆ มีโปรแกรม “ดูหนังกลางแปลง” สร้างเซอร์ไพรส์ให้ทุกครอบครัวชมอย่างมีความสุขใต้แสงจันทร์
ท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติเขาใหญ่
เมื่อปักหมุดเที่ยวรับลมหนาวที่โคราชแล้วก็แนะนำให้ลองเลือกแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
กับที่พัก “อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่” รีสอร์ตสุดหรูมีพื้นที่กว่า 118 ไร่ อยู่บริเวณเชิงเขาทางขึ้นอุทยานแห่งชาติ
สถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก รายล้อมด้วยทิวทัศน์เนินเขา
ภูเขาสูง มีทะเลสาบสบายตาถึง 5 แห่ง
มาลองเปิดประสบการณ์พักสุดหรูสไตล์ต่าง
ๆ ได้แก่ “ห้องพักบนรถไฟ”
ออกแบบโดยจำลองเสน่ห์การเดินทางด้วยรถไฟท่ามกลางมหัศจรรย์ธรรมชาติอันเขียวขจี รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
ได้บรรยากาศแบบผู้ดีอังกฤษ แล้วยังได้ดีไซนต์กิจกรรมออกสำรวจสถานที่ต่าง ๆ
ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าพัก เช่น ชิมไวน์บนเชิงเขา
เดินป่าและสำรวจพื้นที่ธรรมชาติแห่งเอเชีย
อินเตอร์คอน
เขาใหญ่ เป็นโรงแรมที่ “บิล เบนสลีย์” สถาปนิกผู้เป็นเจ้าของรางวัลมากมาย
ได้แรงบันดาลใจมาจากยุคทองของการเดินทางด้วยรถไฟในไทย จึงได้นำแนวคิดไปใช้เนรมิตรห้องสวีทและรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมทั่วทั้งรีสอร์ตแห่งนี้
หากต้องการสัมผัสกับกลิ่นอายฝรั่งเศส
และกลิ่นหอมหวานของเค้กและขนมนานาชนิด ในโรงแรมมีบริการ “ตู้ชา”
ทางเชฟจะรังสรรค์ของหวานสุดอร่อยขึ้นเองกินเพลินอร่อยทุกคำ หรือจะเลือก “จิบแชมเปญ”
สร้างประสบการณ์รับประทานอาหารว่างระหว่างวันไม่ธรรมดาและไม่เหมือนใคร
สำรองที่พัก
ติดต่อ 044-082-039 หรือ LINE: @interconkhaoyai
สุขภาพ
– ด่วน!!กินไฟเบอร์มากเกินไปมีผลกระทบดูวิธีรับมือแก้ไข
หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า
ไฟเบอร์ (Fiber) หรือใยอาหารเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพหลายประการ
แต่อาจยังไม่ทราบว่าการกินไฟเบอร์มากเกินไปก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานบางอย่างของร่างกายได้เช่นกัน
โดยเฉพาะระบบขับถ่าย และการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด
ไฟเบอร์ หรือใยอาหารพบได้มากในผักผลไม้
ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่วต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด
ได้แก่ ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (Soluble Fiber) และไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำไม่ได้
(Insoluble Fiber) ซึ่งอาหารแต่ละอย่างก็จะมีปริมาณไฟเบอร์แต่ละชนิดที่แตกต่างกัน
บางอย่างอาจมีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้สูง
แต่บางอย่างอาจมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำไม่ได้อยู่สูง
ไฟเบอร์แต่ละชนิดจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ประโยชน์โดยรวมคล้ายกัน
เช่น ป้องกันอาการท้องผูก และอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด ทั้งนี้
ไฟเบอร์ก็เหมือนกับสารอาหารชนิดอื่น ๆ ที่แม้จะมีโยชน์มากมาย
แต่หากร่างกายได้รับมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดผลเสีย
เราจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสม และวิธีรับประทานให้ปลอดภัย
อาการที่อาจพบได้เมื่อกินไฟเบอร์มากเกินไป
1.ผู้ใหญ่ที่สุขภาพปกติ
ปริมาณการรับประทานไฟเบอร์ที่เหมาะสมในแต่ละวันจะอยู่ที่ประมาณ 25 มิลลิกรัม แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีประวัติป่วยเป็นโรคเซลิแอค (Celiac Disease) ลำไส้อุดตัน โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ หรือโรคใด ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมสารอาหาร
ปริมาณไฟเบอร์ที่ควรรับประทานอาจจะแตกต่างไปบ้าง ซึ่งผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อน
โดยอาการที่อาจพบได้จากการกินไฟเบอร์มากเกินไปมีดังต่อไปนี้ ท้องอืด เรอหรือผายลมบ่อย ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสียหรือท้องผูก
คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักขึ้นชั่วคราว
การกินไฟเบอร์มากเกินไปยังอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดของร่างกายอีกด้วย
เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก
แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งเมื่อกระบวนการดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้มีปัญหา
ร่างกายก็อาจมีภาวะขาดแร่ธาตุจนเกิดอาการบางอย่างตามมาได้ เช่น
รู้สึกปวดตามร่างกาย อ่อนเพลีย และใจสั่น
วิธีรับมือเมื่อเกิดอาการผิดปกติจากการกินไฟเบอร์มากเกินไปเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการ อาจลองทำตามวิธีดังต่อไปนี้
1.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีไฟเบอร์
2.พยายามดื่มน้ำให้มากขึ้น
3.รับประทานรากชิโครี่ หรืออาหารที่มีอินูลิน (Inulin) เป็นส่วนผสม
โดยตัวอย่างอาหารที่มีอินูลินก็เช่น กล้วย หน่อไม้ฝรั่ง หรือหัวหอม
4.ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา
หรือกาแฟ เนื่องจากคาเฟอีนเป็นสารที่อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของลำไส้ได้
5.รับประทานหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีขิงเป็นส่วนผสม
เนื่องจากขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้
6.ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
หากลองทำตามวิธีในข้างต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจลองรับประทาน “ยาระบาย” เพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
แต่ก่อนใช้ควรอ่านวิธีใช้ยาและตรวจดูวันหมดอายุบนฉลากยาก่อน
หรืออาจจะปรึกษาเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
หรือผู้ที่พบอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้สูง ไม่สามารถผายลมออกมาได้
หรืออุจจาระไม่ออกหลังจากกินไฟเบอร์มากเกินไป
ไม่ควรทำตามวิธีในข้างต้นหรือหายามารับประทานเอง ควรรีบไปแพทย์ทันที
เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณภาวะผิดปกติรุนแรงทางร่างกายได้
หลังจากที่อาการต่าง ๆ ดีขึ้นแล้ว ให้กลับไปกินไฟเบอร์อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ให้พยายามกินในปริมาณที่ไม่มากเกินไป
โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณให้ครบ 25 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่แนะนำ “ผู้ใหญ่ที่สุขภาพปกติ”
ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ให้ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณทีละน้อยไปพร้อมกับสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอ
เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับผลกระทบจากการกินไฟเบอร์มากเกินไปซ้ำ
ระหว่างที่ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการกินไฟเบอร์
อาจจะลองใช้วิธีแบ่งปริมาณไฟเบอร์ที่ต้องการกินในแต่ละวันออกเป็นมื้อย่อยหลาย ๆ
มื้อด้วยก็ได้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปกติ
รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วย
เนื่องจากการที่ร่างกายได้รับน้ำที่เพียงพอขณะกินไฟเบอร์
อาจมีส่วนช่วยให้ไฟเบอร์ทำงานได้ดีขึ้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ลุฟท์ฮันซ่านำA380บิน“ไทย-เยอรมัน/ยุโรป”21เที่ยว/สัปดาห์
สายการบินลุฟท์ฮันซ่า รายงานว่า ในฐานะสายการบินแห่งชาติเยอรมนี
ได้กลับมาให้บริการบินแบบประจำ ไป-กลับ เยอรมัน-ประเทศไทย โดยเลือกนำเครื่องบินขนาดบรรทุกใหญ่สุดซูเปอร์จัมโบ้
แอร์บัส A380 พร้อมกับเพิ่มเที่ยวบินตรง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มิวนิก
ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรีย
รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางบินในยุโรปอย่าง ซูริก และเวียนนา (ออสเตรีย)
สัปดาห์ละ 21 เที่ยว
เนื่องจากไทยและเยอรมันเชื่อมความสัมพันธ์กันนานกว่า 64 ปี
ทำให้ลุฟท์ฮันซ่าเลือกกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ฝูงบินยอดนิยม
A380 มอบให้ผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกด้วยห้องโดยสารและบริการชั้นหนึ่งอันน่าประทับใจทุกเที่ยวบิน
สำหรับเครื่องบินแอร์บัส
A380 ภายในมีห้องโดยสาร 2 ชั้น
ลำตัวกว้าง สี่เครื่องยนต์ ผลิตโดยบริษัท แอร์บัส ยักษ์ใหญ่ของโลกได้นำเสนอเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ชั้นบนของเครื่องบินทอดยาวไปตามความยาวของลำตัวเครื่องบิน
โดยมีการจัดที่นั่งผู้โดยสารประกอบไปด้วยที่นั่งชั้นหนึ่ง 8
ที่นั่ง ที่นั่งชั้นธุรกิจ 78 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียม 52
ที่นั่ง และที่นั่งในชั้นประหยัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีก 371 ที่นั่ง
Ms. Anlee Do ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย
เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กลุ่มบริษัท ลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า สายการบินลุฟท์ฮันซ่ากำลังเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางระหว่างไทยกับเยอรมนี
ตอบสนองความต้องการนักเดินทางมีเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน จึงความยินดีจะให้บริการแก่ผู้โดยสารคนไทยที่ต้องการบินตรงสู่มิวนิกด้วยเครื่อง
A380 ซึ่งเป็นกลุ่มสายการบินเดียวที่ให้บริการเส้นทางบินตรงด้วยเครื่องซูเปอร์จัมโบ้จากไทยสู่ทวีปยุโรป
แสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อประเทศไทยอย่างชัดเจน
ทางกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า
มีเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสวิสอินเตอร์เนชั่นแนล และสายการบินออสเตรียน พร้อมให้บริการด้วยเที่ยวบินรหัส
LH773 ระหว่างไทยไปกลับทวีปยุโรป สัปดาห์ละ 21
เที่ยว เพื่อให้ผู้โดยสารเชื่อมต่อโดยตรงกับเมืองสำคัญ ๆ ในยุโรป ทั้งจาก
ซูริค เวียนนา และมิวนิก ได้รับความสะดวกสบยทุกการเดินทาง
ข่าวที่สอง -ททท./ภูเก็ตบูมยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์เปิดสื่อออนไลน์ได้10ล้านคน
นายนิธี
สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.ร่วมกัน 3 พันธมิตร มี ททท.กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
(ทช.) และบริษัท ซีแพค กรีน โซลูชั่น จำกัด เครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) เดินหน้าเชิงรุกโครงการ
“THE ONE FOR NATURE” ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ครั้งที่ 2 เร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
โดยได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มคุณภาพให้เข้ามาเดินทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในไทยตามแนวคิด "Travel with Responsibility in Thailand" มุ่งเน้นสร้างจิตสำนึกการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ
(Travel with Care)
เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล อนุรักษ์ รักษาสิ่งแวดล้อม
ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน
โครงการนี้ททท.ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมออนไลน์ทางwww.tourismthailand.org/theonefornature
และสื่อออนไลน์ทั่วโลกต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคม- กันยายน 2566 ภายในเวลา 1 เดือนสามารถสร้างการรับรู้ได้มากถึง 10,369,360 คน-ครั้ง พร้อมกับจัดกิจกรรมออนกราวนด์ผ่านกิจกรรมคัดแยกขยะเพื่อให้ไปรีไซเคิลแล้วนำกลับมาใช้ใหม่
ตามสถานที่ที่ต่างชาตินิยมไปเที่ยวซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ 1.แหลมบาลีฮาย จังหวัดชลบุรี 2.ถนนคนเดินวัวลายและถนนคนเดินประตูท่าแพ
จังหวัดเชียงใหม่ 3.ถนนคนเดินหลาดใหญ่ จังหวัดภูเก็ต
กิจกรรมไฮไลต์กระตุ้นต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมเดินทางอย่างรับผิดชอบ
ได้แก่ กิจกรรมปลูกปะการังเทียม จากขยะรีไซเคิล โดยหน่วยงานภาครัฐสนับสนุนเต็มที่
ได้แก่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดูแลพื้นที่จัดตั้งบ้านปะการังเทียม กับภาคเอกชนคือ บริษัท ซีแพค กรีน โซลูชั่น
จำกัด ในธุรกิจซิเมนต์ เครือซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี สนับสนุนการผลิตบ้านปะการังเทียมที่ออกแบบเอกลักษณ์ความเป็นไทยเป็นรูปช้าง
6 เชือก จากนวัตกรรม 3D printing และซีเมนต์ที่ได้การรับรองว่าสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ซึ่งสัตว์น้ำสามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์ตามระบบนิเวศทางธรรมชาติได้จริง
พร้อมกับมีโรงแรมเดอะราชา และกลุ่มนักประดาน้ำมืออาชีพอาสาสมัคร ในนาม Racha
master diver อาสาดำเนินการติดตั้งบ้านปะการังดังกล่าว
ลงสู่ใต้ทะเลอ่าวทือ เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ททท. ทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเชิงรุกผ่านโครงการ
“THE ONE FOR NATURE” ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์นั้น
หนึ่งพลังสำคัญช่วยพลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยพึ่งพาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เข้ามาสร้างจิตสำนึกที่ดีในไทย ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวหลากหลายและแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญของทุกภาคส่วนต้องร่วมกันปลูกฝังจิตสำนึกด้านอนุรักษ์สมบัติทางวัฒนธรรม
วิถีชีวิต และธรรมชาติ อย่างเหมาะสม ทำอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นอย่างต่อเนื่องทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทานให้ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
และดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าไทยมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ภูเก็ตแต่สามารถกระจายไปในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ก็จะเป็นผลดีกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาพรวมได้ต่อไป
สำหรับภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของทั่วโลก
มีจุดขายโดดเด่นด้วย 1.สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์
2.วัฒนธรรมอาหารพื้นเมืองและเทศกาลประเพณีเป็นเอกลักษณ์ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้มีความสำคัญกับการสร้างรายได้ไฮซีซัน
ทางภูเก็ตจึงได้ต่อยอดจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ร่วมทำกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ
ควบคู่กับนำแผนพัฒนาด้านต่าง ๆ เข้ามาใช้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่ เช่น ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ
Smart Bus รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวจากสนามบินไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง
ๆ ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการพื้นที่และความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ
โดยมีโครงการ “THE ONE FOR
NATURE” ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์
ของ ททท.ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ภูเก็ต ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของโลกที่ยั่งยืนได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น