ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ยุโรปเปิดแผนรับมือสถานการณ์อิสราเอลปี'67ทำรายได้35%


นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร

รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา

ททท.เปิดแผนรับมือเหตุการณ์อิสราเอล4ทวีปไกลไปต่อ

ปี’67ยืนเป้ารายได้35%-ส่งความห่วงใยผูกแอร์ไลน์สแน่น

WTMนำทัพขายเที่ยวยั่งยืนไร้คาร์บอนย้ำโลกไทยเอาจริง

คิงเพาเวอร์ฉลอง34ปีลุยแจกไม่รู้จบDelights&Surprises

โปรใหญ่!!ที่คิงเพาเวอร์เสาร์21-อาทิตย์22ต.ค.ช้อปวนไป

เซอร์ไพรส์!สมาชิกคิงเพาเวอร์ลด30%-ฟรีทัวร์ไอซ์แลนด์

นายกฯเศรษฐานำททท.LOIจีน8บริษัทดึงมาไทย4ล้านคน

บางจากทำสำเร็จซื้อหลักทรัพย์เอสโซ่ถือหุ้นใหญ่76.34%

เที่ยวงานประเพณีชาวมอญลอยผ้าป่าทางเรือแม่น้ำลพบุรี

กินผัก6ชนิดป้องกันคอเลสเตอรอลลดโรคหัวใจขาดเลือด

บินไทยบินฤดูหนาวทั่วโลก51เส้นทางปักหมุดเอเชีย41จุด

เลอเมอริเดียนสุวรรณภูมิชูWeekendEscapeพักหรูอิ่มฟรี

วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ศิริปกรณ์เชี่ยวสมุทร  #ประเพณีลอยผ้าป่าทางเรือลพบุรี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/nPCCEHmD24/

ช่วงที่ 1 เกาะติด 4 ทวีป กับ “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท.ชูแผนบริหารตลาดท่ามกลางสถานการณ์สู้รบอิสราเอล-ฮามาส ยืนหนึ่งเป้ารายได้ปี’67 ให้ถึง 35 % เดินหน้าทำ 3 เรื่อง “แสดงความห่วงใยพันธมิตร-ทำงานใกล้ชิดแอร์ไลน์-เกาะติดนักท่องเที่ยวตกค้าง” เปิดตัวเลขเที่ยวบินไกลมีผู้โดยสารเต็ม 95% ตารางบินฤดูหนาว 29 ต.ค.66 มีไฟลต์เข้าไทยเพิ่ม 20 % ได้แรงหนุน 4 แอร์ไลน์สใหม่ SAS แอสตานา แอร์แคนาดา ซาอุเดียแอร์ไลน์ พร้อมลุยงาน WTM 2023 ผนึก TEATA ตอกย้ำไทยเอาจริงเปิดจุดขาย “เที่ยวยั่งยืนไร้คาร์บอน” นำร่อง 20 เส้นทาง

 


นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.วางกลยุทธ์บริหารจัดการตลาดในสถานการณ์ความรุนแรงการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาสโดยต้องขอแสดงความเสียใจกับความสูญเสียของทุกฝ่ายในมิติของการท่องเที่ยวยังคงต้องพุ่งเป้าหมายทำภารกิจการตลาดอย่างรอบคอบ เบื้องต้นจะเน้น 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

เรื่องที่ 1 แสดงความห่วงใยกับพันธมิตรในประเทศนั้นซึ่งมีทั้งสายการบิน บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยว สื่อมวลชน ประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ในไทยจะเดินทางไปดูแลครอบครัว และคนไทยที่อยู่ในอิสราเอล จะสามารถช่วยเหลือกลับประเทศอย่างไรได้บ้าง

เรื่องที่ 2 ติดตามสายการบินแห่งชาติอย่างใกล้ชิดคือ แอลอัลแอร์ไลน์ส (ELAL) ปัจจุบันยังคงบริการบินตามปกติ ไป-กลับ ระหว่าง เมืองเทลอาวีฟ (อิสราเอล) มายังไทย 2 เส้นทาง กรุงเทพฯ และภูเก็ต สัปดาห์ละ 10 เที่ยวบิน มีรายงานอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยวบินทั้งขาไปและกลับ โดยมีผู้โดยสารเป็นชาวอิสราเอลพำนักในไทย และคนไทยในอิสราเอล ใช้บริการเป็นจำนวนมาก

เรื่องที่ 3 ติดตามนักท่องเที่ยวสะสมหรือตกค้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวอิสราเอลมาไทยใช้เวลาพำนักอยู่นานวันเฉลี่ย 18-19 วัน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินเฉลี่ยกว่า 80,000 บาท/คน/ทริป ฉนั้นนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่อยู่เมืองไทยขณะนี้จึงยังจะไม่นับเป็นจำนวนผู้ตกค้างเพราะส่วนใหญ่ใช้สิทธิการได้รับยกเว้นวีซ่า (Visa Exemption) พักอาศัยอยู่ในไทยได้ตามกำหนด 30 วัน

ในช่วงเวลา 9 เดือนครึ่ง ตั้งแต่ 1 มกราคม -15 ตุลาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวอิสราเอลเดินทางมาไทยแล้วกว่า 194,023 คน มีจำนวนรวมสูงกว่ายอดรวมตลอดทั้งปี 2562 เรียบร้อยแล้ว 

ส่วนภาพรวมตลาดทั้ง “ภูมิภาคตะวันออกกลาง” ขณะนี้ 1.เที่ยวบิน ไป-กลับ ยังคงให้บริการด้วยจำนวนความถี่เที่ยวบินตามปกติทุกสายการบิน โดยเฉพาะ “สล็อตเที่ยวบิน” ระยะไกลข้ามทวีป (longhaul) ช่วงเดือนตุลาคม 2566 แอร์ไลน์สส่วนใหญ่ยังคงเดินหน้าเพิ่มความถี่อย่างต่อเนื่องทำให้มี“ยอดจองซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้า” แล้วกว่า 80 %  ด้วยอัตราบรรทุกผู้โดยสารจริงเที่ยวละเกินกว่า 95 % ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป มีข่าวดีของตลาดข้ามทวีปจาก 2 สายการบิน ได้แก่ 1.สแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ส หรือ SAS กลับมาเปิดบินแบบประจำ ไป-กลับ เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ระหว่างสวีเดน-ไทย และ 2.แอร์แคนาดา จะกลับมาบินเส้นทาง ไป-กลับ แวนคูเวอร์-กรุงเทพฯ อีกครั้ง



แนวโน้มช่วงตารางบินฤดูหนาว ตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2566- 31 มีนาคม 2567 จะมีสายการบินยื่นขอเพิ่มความถี่เที่ยวบินและเปิดเส้นทางบินใหม่เข้ามายังไทยเติบโตเพิ่มขึ้นจากตารางบินฤดูร้อนไม่ต่ำกว่า 20 % หลายสายการบินนานาชาติยังคงทยอยเพิ่มความถี่เที่ยวบินต่อเนื่อง ๆ อย่าง แอร์อัสตานา (Astana) คาซัคสถาน ซาอุเดียแอร์ไลน์ (SV) ซาอุดิอาระเบีย แล้วยังมีสายการบินประจำขอเพิ่มความถี่เที่ยวบินด้วยเช่นกัน ทั้งเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอื่น ๆ

ขณะที่ผลสำรวจ “ยอดจองพักโรงแรม” ในไทยส่วนใหญ่มีตลาดนักท่องเที่ยวข้ามทวีปใช้บริการจองล่วงหน้าช่วงไฮซีซัน พฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ เกือบเต็ม 100 % แล้ว บางโรงแรมจะต้องรอห้องว่างช่วงต้นปี 2567 แต่สิ่งที่ ททท.จะต้องช่วยเอกชนคือการกระจายนักท่องเที่ยวไปพักให้ครอบคลุมพื้นที่อื่น ๆ มากขึ้น เนื่องจากตลาดไกลทั้ง 4 ทวีป ยุโรป ตะวันออกกลาง อเมริกา แอฟริกา สถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมดยังอยู่ในแดนกลางและบวก โดยไม่มีสัญญาณติดลบจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาส

นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ตามปกติตลาดระยะไกลเคยมีทำส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยว 4 ทวีปมาไทยประมาณ 23 % ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด สร้างรายได้ราว 30 % ปีงบประมาณ 2567 ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 5 % ขยับเป็น 28-30 % ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด คาดหวังทำรายได้ 35 % ซึ่งจะได้มาพร้อมกับอีก 2 เรื่อง คือ 1.เพิ่มวันพักเฉลี่ย 2.เพิ่มรายได้ต่อคนต่อทริป

จากที่ไทยเคยผ่านสถานการณ์ความท้าทายหลากหลายเรื่องด้วยกัน ส่วนเหตุการณ์สู้รบในอิสราเอลครั้งนี้ จะเน้นที่ ททท.สามารถบริหารจัดงานได้ เรื่องที่ 1 ความปลอดภัยและผู้ต้องการเดินทางไป-กลับ โดยเครื่องบิน เรื่องที่ 2 ททท.จะทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องกับทาง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทอท./AOT กระทรวงคมนาคม หากสายการบินต้องการสล็อตเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทย เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

 


นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ภารกิจใหญ่ที่จะต้องนำผู้ประกอบการเข้าร่วมมหกรรมซื้อขายท่องเที่ยวงานระดับโลก WTM : World Travel Mart 2023 ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 มีขนาดใหญ่อันดับสองของโลกรองจาก ITB เบอร์ลิน เยอรมัน ซึ่งปีนี้ไทยจะเน้นไฮไลต์การนำเสนอให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน

เรื่องที่ 1 เปิดคูหาประเทศไทยโดยลงทุนเช่าใช้พื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมเป็นประมาณ 450 ตารางเมตร จากเดิม 420 ตารางเมตร พร้อมกับจะเพิ่มคุณภาพสินค้าท่องเที่ยวโดยเลือกนำเสนอตั้งแต่เรื่องโครงสร้าง/ฮาร์ดแวร์ คือ 1.เลือกวัสดุนำกลับมาใช้ซ้ำจากงาน ITB เบอร์ลินปีก่อน มาทำคูหาประเทศไทยในงานเวิลด์ แทรเวล มาร์ต ครั้งนี้ 2.คัดเลือกผู้ประกอบการท่องเที่ยวหรือซึ่งเป็นทางด้านซอฟท์แวร์มีจำนวน 38 ราย ผ่านเกณฑ์การมีส่วนร่วมทำธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้สิทธิ์เข้าร่วมงานโดยผ่านมาตรฐาน 3 เกณฑ์ ได้แก่ 1.ภายในสถานที่พักโรงแรมห้ามใช้พลาสติกครั้งเดียวแล้วทิ้ง 2.เป็นสถานประกอบการเข้าโครงการท่องเที่ยวสีเขียว 3.เดินหน้าทำโครงการคาร์บอนเครดิตหรือคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อแสดงให้ประเทศคู่ค้าต้นทางให้เห็นถึงไทยเป็นประเทศทำอย่างจริงจังเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน แล้วจะร่วมมือกับ ททท.นำอุตสาหกรรมก้าวสู่ Carbon Neutral Tourism ในอนาคตด้วย 3.เลือกนำวัสดุเหลือใช้ แห อวน และอุปกรณ์ต่าง ๆ มาดีไซน์ประยุกต์เป็นกระเป๋า ถุงผ้า สะพายใช้งาน

 

เรื่องที่ 2 ลงลึกเชิงกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ททท.จับมือกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) มีกลุ่มสมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยวดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้จัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวเส้นทางไร้คาร์บอน หรือ Carbon Neutral Tourism กระจายทั่วประเทศ นำร่อง 20 เส้นทางหลัก ไปนำเสนอกับคู่ค้าทั่วโลกในงาน WTM 2023 โดยมีตัวอย่างเส้นทางจริงให้นักท่องเที่ยวได้มาพิสูจน์ โดย ททท.กับเอกชนจะเคลื่อนต่อเนื่องในอนาคตด้วย

 

สำหรับตัวอย่างเส้นทางการท่องเที่ยวไร้คาร์บอนอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1.เดินชมตลาดน้อย กรุงเทพฯ 1 วัน :walk Across Asia, in Busting Bangkok 2.เยาวราช กรุงเทพฯ ครึ่งวัน :Step Behind the Neon Lights in Chinatown, Bangkok 3.ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ปั่นจักรยาน และนั่งเรือท่องเที่ยว 1 วัน  : Deep in Damnoensaduak by Bike and Boat 4.เพชรบุรี 2 วัน สูดอากาศบริสุทธิ์ กินอาหารสดใหม่ :Fresh Air , Fresh Food Adventure at Baan Krang

 

5.เกาะช้าง จ.ตราด ครึ่งวัน : ZIP Through tree of Koh Channg Island 6.เที่ยวอีสานเหนือ 5 วัน ปั่นจักรยานสัมผัสวิถีชีวิตอันงดงาม 3 จังหวัด อุดรธานี-หนองคาย-เลย: Peddle to the People Experience the Joyfull life of North Isan by BIKE   7.พังงา 1 วัน ท่องทะเล ป่าเขา อันดามัน :Wonderland of Seas , Forests & Mountains at Phang-Nga เพื่อพิสูจน์การลดคาร์บอน และช่วยดูแลธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป

โดย ททท.พร้อมจะพิสูจน์ตั้งแต่นโยบายระดับรัฐบาล มาจนถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องมุ่งตอบโจทย์ตลาดในงาน WTM 2023  เรื่องที่ 1 ไทยเป็นประเทศทีมีสินค้าท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสามารถจับต้องได้จริง และมีความพร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกและคนไทยเข้ามามีส่วนร่วมได้ เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำในแหล่งชุมชนท่องเที่ยวสามารถผลิตวัตถุดิบอาหารจากฟาร์มาจนถึงโต๊ะอาหารหรือ Farm to table ได้ เมื่ออาหารเหลือก็นำไปทำปุ๋ยในฟาร์ม ซึ่งตอบโจทย์ความยั่งยืน เรื่องที่ 2 เรื่องความปลอดภัยทางสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานความมั่นคงของประเทศ ทำหน้าที่ดูแลอย่างเข้มข้นด้วยดีมาตลอด ทั้งโหมดการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร หากไทยจับมือกันเหนียวแน่นอย่างนี้ตลอดไป จะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ดึงดูดทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้

 

นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า เอกลักษณ์ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่จะขอให้คนไทยรักษาไว้อัธยาศรัยไมตรี ความใส่ใจห่วงใยในความเป็นฮอสพิทาลิตี้ที่อยู่กับเสน่ห์คนไทยซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกนำเงินมาใช้จ่ายปีละหลักล้านล้านบาทได้ ดังนั้นจึงขอให้ช่วยกันรักษาจุดแข็งดังกล่าวนี้ไว้ เพื่อทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างแท้จริง

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ฉลอง34ปีแจกไม่รู้จบDelights&Surprises

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนมาฉลองครบรอบ 34 ปี อะไรก็เป็นไปได้ กับแคมเปญ 34thAnniversary Delights & Surprises ช้อปวนไป เป็นไปได้ไม่รู้จบ

นางเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” ผู้บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำทีมเปิดแคมเปญ34thAnniversary Delights & Surprises ช้อปวนไป เป็นไปได้ไม่รู้จบ  เริ่มเปิดงานแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพฯ จัดอย่างยิ่งใหญ่กิจกรรมไฮไลท์ KING POWER CELEBRATION DAY ชวนนักช้อปและแฟนคลับมาพบกับ THE POSSIBILITIES MAKERS เจฟ ซาเตอร์, เจเลอร์, ต้าเหนิง และ 4EVE เดินทางมามอบความสุขผ่านเพลงพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 34 ปี คอนเซ็ปต์ #เป็นไปได้ไม่รู้จบ กับซิงเกิล อยากรู้จักไม่รู้จบ เปิดตัวบนเวทีครั้งแรกอย่างเป็นทางการ พร้อมมินิคอนเสิร์ตแบบจัดเต็มจากวง 4EVE, เจเลอร์-ต้าเหนิง และ เจฟ ซาเตอร์     ปิดท้ายด้วยการจับรางวัลมอบให้แฟนคลับแบบใกล้ชิดเพื่อความสุขของทุกคน

 

 

ส่วนกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษภายในงานเปิดให้ช้อปแล้วได้ไม่สิ้นสุด ในแต่ละโมเมนท์เป็นไปได้ที่คิง เพาเวอร์ ไฮไลต์ 6 กิจกรรม ดังนี้

 

กิจกรรมที่ 1 ICEฟิน ช้อปแล้วฟินเป็นไปได้ เพียงเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับฟรีไอศกรีมรส “THE POWER OF POSSIBILITIES” รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจาก After You

 

กิจกรรมที่ 2 TRAVEL POSSIBILITIES ห้ามพลาดมาร่วมสนุกกับ Next Travel Destination การทำนายสถานที่ท่องเที่ยว

 

กิจกรรมที่ 3 ENDLESSLY LUCKY ช้อปครบลุ้นรับของรางวัลพิเศษ ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้ผู้ที่ชื่นชอบได้รับสิ่งที่ดี ๆ มากมาย

 

กิจกรรมที่ 4 NUMBER SURPRISES ช้อปครบลุ้นรับคูปองส่วนลดสูงสุด 50%

 

กิจกรรมที่ 5 TRAVEL LUGGAGE STICKER เพียงแอดไลน์ @KINGPOWER รับทันทีสติกเกอร์ติดกระเป๋าลายพิเศษ

 

กิจกรรมที่ 6 MORE & MORE DELIGHTS ช้อปครบ ลุ้นรับฟรีขนมมากมาย เช่น ไดฟูกุ หรือ ขนมถังหูลู่ และขนมคุณภาพดี รสชาติอร่อย อีกหลายชนิดด้วยกัน

 

ข่าวที่ 2 โปรใหญ่!!ที่คิงเพาเวอร์เสาร์21-อาทิตย์22ต.ค.ช้อปวนไป

 

คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษตลอดเสาร์-อาทิตย์ นี้ เปิดให้ร่วมกิจกรรม LIVE Streaming, Meet & Greet พร้อมรอชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ช้อปวนไป แล้วชมอย่างมีความสุข

 

วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566 พบกับ ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ และภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน

 

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 พบกับ ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง และ บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล

 

รวมทั้งชวนมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษช้อปแบบไม่รู้จบกับโปรโมชั่นดีที่สุดแห่งปี ระหว่างวันนี้ -23 ตุลาคม 2566 ทุกการช้อปที่ คิง เพาเวอร์ ครบ 50,000 บาท (สุทธิ) ลุ้นรับอีก 4 รายการ ได้แก่

 

รายการที่ 1 รับส่วนลดทันทีสูงสุด 30% เมื่อช้อปสินค้าดิวตี้ฟรีตามสาขาของคิง เพาเวอร์ 

 

รายการที่ 2 ลุ้นรับสุดยอดรางวัลพิเศษ รถยนต์ไฟฟ้า LEXUS RZ 450e และลุ้นรับฟรีของรางวัลอื่น ๆ เช่น สายการบินเอทิฮัด มอบตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจ ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่จุดหมายปลายทางประเทศยอดนิยมในยุโรป โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน มอบห้องพักพูลวิลล่า 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้าและอาหารเย็นหนึ่งมื้อพิเศษรับประทานได้ถึง 4 คน

 

รายการที่ 3 รับบัตรกำนัล ทั้ง Gift card คะแนนสะสม CARAT Rewards พร้อมรางวัลแบรนด์เนม เมื่อช้อปทุก 50,000 บาท (สุทธิ)

 

รายการที่ 4 ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับฟรีทันที ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง 1 ที่นั่ง หรือ ช้อปครบ 150,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันที ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น 1 ที่นั่ง

 

ข่าวที่ 3 เซอร์ไพรส์!!สมาชิกคิงเพาเวอร์ลด30%-ฟรีทัวร์ไอซ์แลนด์

 

เซอร์ไพรส์ !! สมาชิกคิง เพาเวอร์ 3 ประเภทแรก ได้แก่  NAVY, SCARLET และ ONYX รับสิทฺธิพิเศษได้ใกล้ชิดแบบคนพิเศษ! กับศิลปิน เจเลอร์, ต้าเหนิง, 4EVE เพียงสะสมยอดซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไขสูงสุด 34 อันดับแรก ของสมาชิก คิง เพาเวอร์ แต่ละประเภท 1 สิทธิ์ เข้าร่วมกิจกรรมได้ถึง 2 คน

 

ส่วนสมาชิก คิง เพาเวอร์ อีก 2 ประเภท ได้แก่ CROWN และ VEGA ช้อปครบ 3,000,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) แล้วทำยอดช้อปสูงสุด 20 คนแรก รับทันทีเอ็กซ์คลูซิฟทริปการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ใหม่ในประเทศไอซ์แลนด์

 

พิเศษ!! สมัครสมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ แล้วเติมเงิน ระหว่างวันนี้– 23 ตุลาคม 2566 รับลดสูงสุด 30% หรือ รับลดเพิ่มสูงสุด 10% จากส่วนลดสมาชิกภายในวันที่สมัคร และได้รับเพิ่มคูปองส่วนลดทันที 1,500 บาท พร้อมรับฟรีทันที 50 กะรัต รวมทั้งมีพันธมิตรเข้าร่วมรายการพร้อมแจกสิทธิพิเศษมากมาย เช่น คิง เพาเวอร์ มหานคร โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ร้านอาหารนาราไทย คูซีน โรบินฮู้ดแทรเวล และ โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบ็งคอก มหานคร

 

ข่าวที่ 4 นายกฯเศรษฐานำททท.LOIจีน8บริษัทดึงมาไทย4ล้านคน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระหว่างการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับพันธมิตรชั้นนำในสาธารณรัฐประชาชนจีน 8 บริษัท ที่โรงแรม Kerry กรุงปักกิ่ง โดยมี นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ร่วมลงนามกับผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Technologies, Trip.com Group, Meituan.com, Spring Airlines, Sina News, Alipay, iQIYI และ Jego Trip เร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างรอบด้าน ตอบสนองนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพจีนเลือกกลับมาท่องเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นให้ได้ตามเป้าหมายโดยเร็วตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

 

ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญด้านการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและจีนต่อเนื่องมาตลอด ครอบคลุมทุกมิติทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อช่วยยกระดับและกระชับความสัมพันธ์อันดีระดับประชาชน เน้นอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวจีนเรื่องการเดินทางด้วยมาตรการยกเว้นวีซ่ามีผลไปจนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567

 

สำหรับพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง ททท. และพันธมิตรชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้กับ 8 บริษัท แสดงให้เห็นถึงรัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อพันธมิตรที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว มุ่งสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ควบคู่กับพัฒนาการท่องเที่ยวไทยเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นตลาดจีนกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

  โดย ททท. เชื่อมั่นการลงนามความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยเสริมสร้างแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวข้องให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และสร้างโอกาสสำคัญร่วมกันส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพตลาดจีนเดินทางเข้ามาเมืองไทยตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 200,000 ล้านบาท ทำให้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 2566 เข้าเป้า 25 ล้านคน

 

            สถิติล่าสุด ททท.ได้สรุปสถานการณ์ 9 เดือน 15 วัน ปี 2566 ระหว่าง 1 มกราคม-15 ตุลาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเมืองไทยรวมทั้งสิ้น 2,645,885 คน มากเป็นอันดับ    2 รองจากมาเลเซีย

 

          นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่าการจัดทำ LOI ครั้งนี้ถือว่าเป็นการลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่โดยครอบคลุมกับธุรกิจพันธมิตรทางการท่องเที่ยวตลาดจีนมากที่สุด พร้อมจะผนึกการทำงานไปด้วยกันเพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวจีนกับ 8 ธุรกิจ ประกอบด้วย

 

ธุรกิจที่ 1 Huawei Technologies ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ชั้นนำระดับโลก ซึ่งหัวเว่ยทั้งในไทยและจีนพร้อมจะแนะนำบริการและมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยเชิงคุณภาพรูปแบบใหม่ในกลุ่มผู้ใช้งานและนักท่องเที่ยวในจีน

 

ธุรกิจที่ 2  iQIYI แพลตฟอร์มวิดีโอเอนเตอร์เทนเมนท์ออนไลน์ บริษัทลูกของ Baidu, search engine อันดับ 1 ของจีน  

 

ธุรกิจที่ 3  Sina Cooperation บริษัทสื่อออนไลน์และเทคโนโลยี มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านแอคเคาท์ทั่วโลกและเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม weibo หนึ่งในโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีน

           

ธุรกิจที่ 4  Trip.com ผู้ให้บริการจองการท่องเที่ยวออนไลน์มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในจีนและทั่วโลก

 

ธุรกิจที่ 5 Meituan.com แอปพลิเคชั่นรีวิว มีความโดดเด่นด้านคูปองส่วนลดยอดนิยมของจีน

 

            ธุรกิจที่ 6  Jego Trip แพลตฟอร์มทางการท่องเที่ยวภายใต้ China Mobile เน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนและการท่องเที่ยวแบบเจาะลึกเฉพาะกลุ่มเป้าหมายคุณภาพสูงหรือ exclusive

 

            ธุรกิจที่ 7 Spring Airlines สายการบินสัญชาติจีนที่มีเส้นทางบินบริการ ไป-กลับ ระหว่างจีนกับไทยมากที่สุด

           

ธุรกิจที่ 8  Ant International (Alipay) ผู้ให้บริการออนไลน์แบงค์กิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอาลิบาบา มีผู้ใช้ในจีนมากกว่า 600 ล้านคน จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินเพิ่มในไทยของสะดวกยิ่งขึ้น

 

ความร่วมมือระหว่าง ททท. กับพันธมิตรทั้ง 8 ธุรกิจ นั้น จัดทำขึ้นครอบคลุมตลอดเส้นทางของผู้บริโภค (Customer Journey) ตั้งแต่ต้นทางสร้างการรับรู้ไปจนถึงการเดินทางสู่ไทย รวมทั้งการอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทางอยู่ในไทยด้วย

 

พันธมิตรของ ททท.ทุกธุรกิจพร้อมจะได้ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจสำคัญ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ช่วยกันประชาสัมพันธ์และพัฒนาระบบเพื่อช่วยส่งเสริมความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวตลอดทริปมาเที่ยวเมืองไทย ส่วนที่ 2 จัดกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นในระยะต่อไปด้วย

 

ข่าวที่ 5 บางจากทำสำเร็จซื้อหลักทรัพย์เอสโซ่ถือหุ้นใหญ่76.34%

 

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ("บางจากฯ”) ได้เสร็จสิ้นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “เอสโซ่ (ประเทศไทย)” เรียบร้อยแล้ว ตามขั้นตอนดำเนินการระหว่าง 5 กันยายน – 12 ตุลาคม 2566 โดยมีผู้แสดงเจตนาขายจำนวน 358,407,198 หุ้น จากจำนวนหุ้นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 1,177,108,000 หุ้น ส่งผลให้ภายหลังเสร็จสิ้นการทำคำเสนอซื้อฯ ดังกล่าว บางจากฯ มีสัดส่วนการถือหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 76.34 %

 

 ตามที่เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ทางบางจากฯ เข้าถือหุ้น 65.99 % ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทั้งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลืออีกจำนวน 1,177,108,000 หุ้น คิดเป็น 344.01 % ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) ในราคา 9.8986 บาทต่อหุ้น จนถึงขณะนี้ถือว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จทุกขั้นตอนอย่างสมบูรณ์ โดยบางจากฯ ได้ชำระค่าให้ผู้ถือหุ้นของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

 

ส่งผลทำให้ปัจจุบัน บางจากฯ ถือหุ้นเอสโซ่ (ประเทศไทย) รวมจำนวน 2,642,157,198 หุ้น (หุ้นที่ถืออยู่เดิมรวมกับหุ้นที่มีผู้แสดงเจตนาขาย) หรือคิดเป็น 76.34 % ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด

 

สำหรับ “จำนวนหุ้น” ที่ได้มาจากทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ คิดเป็นมูลค่า 3,547,729,490 บาท ทางบางจากฯ ได้ใช้เงินกู้จากวงเงินสินเชื่อระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชนซึ่งเป็นพันธมิตรสนับสนุนบางจากฯ เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ตามขั้นตอนภายหลังใช้เงินกู้ครั้งนี้แล้ว บางจากฯจะมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับไม่เกิน 1.1 เท่า สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางฐานะการเงินของบริษัทด้วย

 

นับจากนี้เป็นต้นไปบางจากพร้อมจะเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ ก้าวสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกันอย่างเข้มแข็ง นำธุรกิจพลังงานของไทยมั่นคงยั่งยืนต่อไป

 

            ช่วงที่ 2 สายบุญเที่ยวเมืองไทย ลองไปร่วมงานประเพณีชาวมอญตำบลบางขันหมาก “ลอยผ้าป่าทางเรือ” ล่องแม่น้ำลพบุรี หลังออกพรรษา 22 ตุลาคม นี้ แวะทำบุญได้ถึง 6 วัด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี แล้วรีบเลย “กินผัก 6 ชนิด” ป้องกันคอเลสเตอรอลลดหัวใจขาดเลือด แล้วฟังข่าวดี ๆ ข่าวแรก “การบินไทยเปิดบินฤดูหนาวทั่วโลก 51 เส้นทาง” ยึดหัวหาดเอเชีย 41 เส้นทาง ข่าวสอง “โรงแรมเลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิฯ” จัดเต็ม Weekend Escape พักหรูอิ่มฟรีบุฟเฟต์เช้าค่ำ

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวงานประเพณีชาวมอญลอยผ้าป่าทางเรือแม่น้ำลพบุรี

 

เที่ยววันหยุดใกล้กรุง กับ ททท.สำนักงานลพบุรี ไปชมงาน “สืบสานประเพณีลอยผ้าป่าทางเรือ ประจำปี 2566 อาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 ที่วัดอัมพวัน ตำบลบางขันหมาก อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จัดเตรียมท่าเรือไว้ต้อนรับ เพื่อให้สายบุญได้ลงเรือบริเวณท่าน้ำ วัดเชิงท่า 15.30 น.

 

“ลอยผ้าป่าทางเรือ” เป็นประเพณีของชาวมอญบางขันหมาก ทำสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้วยการจัดขบวนผ้าป่าล่องไปตามแม่น้ำลพบุรี ซึ่งเป็นสายน้ำประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ใช้สัญจรทำการค้าและการทูตสร้างความรุ่งเรืองอย่างมากในยุคสมัยนั้น

 

ปีนี้ขบวนผ้าป่าทางเรือได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากท่าน้ำวัดเชิงท่า แล้วร่วมกันแห่ผ้าป่าทางเรือไปตามสายน้ำในแม่น้ำลพบุรี ระหว่างทางก็จะผ้าป่ากลางน้ำทอดตามบริเวณวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลพบุรี 6 วัด ได้แก่ วัดเชิงท่า วัดพรหมมาสตร์ วัดมะปรางหวาน วัดอัมพวัน วัดโคกหม้อ วัดโพธิ์งาม

 

ประเพณีนี้ หาชมได้ เป็นการถวายเป็นพุทธบูชาไปพร้อม ๆ กับ การฟื้นฟูอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและอนุรักษ์แม่น้ำลพบุรี ให้วัดเป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังได้ร่วมรักษาประเพณีดีงามนี้ไว้สืบต่อไป

 

ตามประเพณีลอยผ้าป่าทางเรือยุคก่อน ๆ จัดขึ้นหลังออกพรรษาช่วงเดือน 11-12 ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของชุมชนมอญบางขันหมากมีพื้นที่ลุ่ม พอถึงฤดูน้ำหลากน้ำท่วมทุกปี สมัยก่อนบรรดาหนุ่มสาวจึงนิยมนัดแนะรวมตัวกันนำเรือที่มีอยู่ในบ้านแล้วตั้งตะเกียงเจ้าพายุหัวเรือ ตั้งกองผ้าป่าสามัคคีขึ้นพร้อมกับร้องรำทำเพลง ทวนแม่น้ำลพบุรีบอกบุญตามริมตลิ่ง หรือตามบ้านต่าง ๆ

 

เป็นประเพณีที่จัดขึ้นหลังวันออกพรรษาของทุกปี สร้างสนุกสนานสามัคคีให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งริมแม่น้ำลพบุรี จะพากันแต่งกายด้วยชุดไทย ชุดประจำชาติชาวมอญบางขันหมากและไทยรามัญ ตกแต่งเรือพื้นบ้านเข้าร่วมกิจกรรมสืบสานงานประเพณีอย่างสวยงาม

 

สอบถาม ททท.ลพบุรี โทร. 036-770096-7 facebook.com/TATLopburiOffice

 

สุขภาพ –กินผัก6ชนิดป้องกันคอเลสเตอรอลลดโรคหัวใจขาดเลือด

 

รู้หรือไม่หากเราบริโภคอาหารจำพวก “คอเลสเตอรอล” มากเกินไป จะส่งให้เกิดคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิด โรคหัวใจขาดเลือด!!! อย่างมาก

 

โรคหัวใจขาดเลือด รักษาไม่ทัน อันตรายถึงชีวิต ภาวะที่หัวใจได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เกิดขึ้นได้ทั้งขณะทำงาน เล่นกีฬา หรือแม้แต่ขณะพักผ่อน จึงมีเคล็ดลับเรื่องการกินช่วยให้หัวใจแข็งแรง ป้องกันหัวใจขาดเลือด ผัก 6 ชนิด ดังนี้

 

1.กระเจี๊ยบเขียว ช่วยลดการดูดซึมของไขมัน และคอเลสเตอรอล เพราะตัวกระเจี๊ยบเขียวจะมีเมือกไปจับกับน้ำดี และช่วยกำจัดไขมันออกไปจากร่างกายได้

 

2.อะโวคาโด อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ ช่วยลดไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ในหลอดเลือด มีส่วนช่วยทำให้คอเรสเตอรอลน้อยลงได้ 

 

3.ต้นอ่อนทานตะวัน อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด หรือไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ได้

 

4.พริกหวาน ช่วยเพิ่มคอเลสตอรอลชนิดดี (HDL) ลดระดับคอเลสตอรอลชนิดไม่ดี และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด

 

5.ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดและร่างกาย และยังช่วยลดระดับน้ำตาลชนิดไตรกลีเซอไรด์อีกด้วย

 

6.ต้นหอม สรรพคุณที่ดีต่อหัวใจ เพราะช่วยป้องกันไขมันไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –บินไทยบินฤดูหนาวทั่วโลก51เส้นทางปักหมุดเอเชีย41จุด

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ช่วงตารางบินฤดูหนาว ปี 2566 พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยม เริ่มวันที่ 29 ตุลาคม 2566 – 30 มีนาคม 2567 รองรับผู้โดยสารตามเส้นทางบินทั่วโลก  51 เส้นทาง ดังนี้

 

ยุโรปและออสเตรเลีย รวมทั้งหมด 10 เส้นทาง ได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่เมืองปลายทาง หลัก ๆ ดังนี้

 

1.มิวนิก บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 2.แฟรงก์เฟิร์ต บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 3.อิสตันบูล บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว เริ่มบิน 1 ธันวาคม 2566 4.สตอกโฮล์มบินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 5.โคเปนเฮเกน บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 6.ซูริกบินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 7.ปารีส บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 8.ลอนดอน บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว

 

9.เมลเบิร์น บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 10.ซิดนีย์ บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว

 

ภูมิภาคเอเชียรวมทั้งหมด 41 เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่เมืองปลายทาง ในแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย

 

       1.เอเชียตะวันออก มีบริการบิน 5 ประเทศ 15 เส้นทาง ดังนี้

 

       “ญี่ปุ่น” 6 เส้นทาง ได้แก่ 1.ซัปโปโร บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 2.โตเกียว (นาริตะ) บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 3.โตเกียว (ฮาเนดะ) บินวันละ สัปดาห์ละ 14 ที่ยว 4.นาโกยา บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 5.โอซากา บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 6.ฟุกุโอกะ บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 

 

         “สาธารณรัฐประชาชนจีน” 5 เส้นทาง ได้แก่ 1.ปักกิ่ง บินสัปดาห์ละ 6 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันจันทร์ พุธพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไปจะบินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 2.เซี่ยงไฮ้ บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 3.กวางโจว บินทุกวันสัปดาห์ละ 7 เที่ยว 4.เฉิงตู สัปดาห์ละ 2 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป จะบินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 5 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์ 5.คุนหมิง บินสัปดาห์ละ 3 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป จะบินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 5 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์

 

         “ไต้หวัน”  2 เส้นทาง ได้แก่ 1.ไทเป บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จะบินเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 2.เกาสง บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว

 

         “เกาหลีใต้” 1 เส้นทาง ได้แก่ กรุงโซล บินวันละ 3 เที่ยว สัปดาห์ละ 21 เที่ยว

 

         “ฮ่องกง” 1 เส้นทาง ได้แก่ ฮ่องกง บินวันละ 3 เที่ยว สัปดาห์ละ 21 เที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 จะบินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 28 เที่ยว

 

2.เอเชียใต้มีบริการบินสู่จุดหมาย 4 ประเทศ 13 เส้นทาง ดังนี้

           

         “อินเดีย” 8 เส้นทาง ได้แก่ 1.อาห์เมดาบัด บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 2.มุมไบ บินสัปดาห์ละ 11 เที่ยว 3.เดลี บินสัปดาห์ละ 22 เที่ยว 4.เบงกาลูรู บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 5.ไฮเดอราบัด บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 6.เจนไน บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 7.คยา บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว เริ่มบิน 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป  8.กัลกัตตา บินทุกวัน สัปดาห์ละ เที่ยว

      

           “บังกลาเทศ” 1 เส้นทาง ได้แก่ 1.กรุงธากา บินสัปดาห์ละ 14 เที่ยว

      

              “เนปาล” 1 เส้นทาง ได้แก่ 1.กาฐมาณฑุ  บินสัปดาห์ละ 7 เที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป จะบินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 14 เที่ยว

     

           “ปากีสถาน” 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ละฮอร์ บินสัปดาห์ละ 5 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์   และอาทิตย์  2.อิสลามาบัด บินสัปดาห์ละ 4 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และเสาร์  3.การาจี บินสัปดาห์ละ 5 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ 

       

3.อาเซียน” มีบริการบินสู่จุดหมาย 8 ประเทศ 12 เส้นทาง ดังนี้

        

            “ฟิลิปปินส์” 1 เส้นทาง  ได้แก่ 1.กรุงมะนิลา บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว

 

สิงคโปร์”  1 เส้นทาง ได้แก่ สิงคโปร์ (ชางยี) บินวันละ 3 เที่ยว สัปดาห์ละ 21 เที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป จะบินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 35 เที่ยว

 

“อินโดนีเซีย” 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.จาการ์ตา บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 2.เดนปาซาร์ บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว

 

“มาเลเซีย” 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.ปีนัง บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว 2.กัวลาลัมเปอร์  บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว

 

“กัมพูชา”  2 เส้นทาง ได้แก่ 1.เสียมราฐ บินทุกวัน สัปดาห์ละ 7 เที่ยว เริ่มบิน 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป 2.พนมเปญ บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว

 

“เวียดนาม” 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.โฮจิมินห์ บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว 2.ฮานอย บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว

 

“สปป.ลาว” 1 เส้นทาง ได้แก่ เมืองเวียงจันทน์ บินวันละ 2 เที่ยว สัปดาห์ละ 14 เที่ยว

 

“เมียนมา” 1 เส้นทาง ได้แก่ 1.ย่างกุ้ง บินสัปดาห์ละ 14 เที่ยว

 

4.ตะวันออกกลาง” มีบริการเพียง 1 ประเทศ 1 เส้นทาง

             

              “ซาอุดิอาระเบีย” 1 เส้นทาง ได้แก่ 1.เจดดาห์ บินสัปดาห์ละ 3 เที่ยว ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์

 

ข่าวที่สอง-เลอเมอริเดียนสุวรรณภูมิชูWeekend Escapeพักหรูอิ่มฟรี

 

โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา รายงานว่า เปิดบริการแพกเกจ Weekend Escape รองรับตลาดนักเดินทางพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ โดยมีบริการบุฟเฟ่ต์เลิศรสมื้อเช้าและมื้อค่ำโดยเฉพาะบุฟเฟ่ต์นานาชาติต้อนรับสุดสัปดาห์จัดเตรียมเป็นพิเศษเมนูเลิศรสและจานเด็ดจากทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เพื่อสร้างประสบการณ์ท่ามกลางธรรมชาติเลือกย่านบางนาเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางการพักผ่อนของทุกคน โดยได้รวมสิทธิประโยชน์หลักไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าพักรวม 3 รายการ ใช้บริการได้ 2 คน เช่น บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ Weekend Dinner Buffet  ห้องพัก 1 สไตล์ห้องแกรนด์ ดีลักซ์ ขนาดพื้นที่ 48 ตารางเมตร 

 

บริการเด่น ๆ ในแพกเกจ Weekend Escape คือผู้เข้าพักจะได้อิ่มอร่อยกับ “บุฟเฟ่ต์มื้อเช้า” ที่ห้องอาหารเลเทส เรซิพี ซึ่งได้รวบรวมจานเด็ดเมนูนานาชาติไว้ให้เลือกเติมพลังด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ต่อด้วย “บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ” ในสไตล์ Weekend Dinner Buffet เฉพาะช่วงค่ำคืนวันศุกร์หรือวันเสาร์ พาเหรดจานยอดนิยมทางตอนใต้ของฝรั่งเศสมารังสรรค์เมนูอร่อย ๆ ให้รับประทาน เพียบพร้อมด้วย บาร์บีคิวเนื้อนำเข้า อาหารทะเลสด ๆจากแหล่งท้องถิ่นทั้งกุ้งแม่น้ำ ปูม้า ปลาหมึก กั้ง หอยหวาน หอยนางรม ซูชิและซาชิมิ ของหวานนานาชนิด เคร็ปซูเซ็ทรสส้มสุดสดชื่น ชีส โคลคัทส์ สลัดบาร์ พาสต้าปรุงใหม่ และอีกมากมายหลากหลายเมนูอร่อย

สำหรับ โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ย่านบางนาใกล้กรุงเทพฯ เป็นรีสอร์ท 5 ดาว สามารถเช็คอิอย่างสะดวกสบายในรีสอร์ทสไตล์สนามกอล์ฟเขียวขจี โดยมีไฮไลต์ห้องพักเรียบหรูบริการพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เติมพลังในวันหยุด ด้วยขนาดห้องพักกว้างขวางมากว่าทั่วไป พื้นที่เริ่มต้นห้องละ 48 ตารางเมตร แต่ละห้องมีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่รับวิวสนามกอล์ฟทุกห้อง ภายในห้องมีอ่างอาบน้ำ เตียงขนาดใหญ่หนานุ่มทั่วบริเวณรีสอร์ทยังมีบริการฟรีอินเตอร์เน็ตไร้สาย

สำรองห้องพักหรือติดต่อทาง Facebook and Instagram: @LeMeridienSuvarnabhumi  และLINE official : @LMSuvarnabhumi

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai