ททท.ล็อกเป้ารายได้ปี67ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ1 ล้านล้านบาท

สมฤดี จิตรจง 

รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ททท.ล็อกเป้าใหม่เที่ยวไทยเล่นใหญ่ปั๊มรายได้1ล้านล้าน

ลุย!QuickWinพลิกมุมขายซอฟท์เพาเวอร์5FรับGEN ME

รุก!เพิ่มจัดงานยาว5ภาค-บูม55เมืองรอง-เร่งเที่ยวยั่งยืน

อัยยวัฒน์1ใน5ศิลปินไทยจัดแสดงBE@RBRICKทั่วโลก

บินฟรี!!ช้อปคิงเพาเวอร์เป็นไปได้รับตั๋วบินฮ่องกง/ญี่ปุ่น

ททท.ร่วม3กระทรวงฟื้นเชื่อมั่นจีน/ต่างชาติเที่ยวไทย

“บางจาก-กรุงไทย”เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล3พันล้าน30ต.ค.

ตลุยชุมชนไมซ์ “บางใบไม้”200ปีที่สุราษฎร์มีของดีให้ทำ

เที่ยวกรุง2พิกัด“วัดอรุณ-สะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน

4 วิธีรักษาปลายประสาทอักเสบรับมือเท้าชาแบบง่ายๆ

พังงาจัดยิ่งใหญ่เที่ยว9วันร่วมกินเจ9วัน 14-23 ต.ค.66

AWC-อี้อูเปิดเออีซีฟู้ดจัดแสดงสินค้าตรงจากจีน8-9ต.ค.

วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #365วันเที่ยวไทยไม่ต้องรอ  #ThaisAlwaysCare

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/nxVFMP9ZRP/

ช่วงที่ 1 ปั๊มเที่ยวไทยกับ “สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภารกิจปลุกกระแส “365วันเที่ยวไทยไม่ต้องรอ” สร้างรายได้ปี’67 ตามเป้า 1 ล้านล้านบาท ปั้นสินค้า 5F “อาหาร” ปลอดภัยทำรายได้ ดึงเกษตรอินทรีย์ พลิกท่องเที่ยว วิน วิน ทั้งคนปลูก คนกิน คนเที่ยว ดูแล “อากาศ” ปกป้องโลกร้อน เล็งเป้ากำลังใหม่เพิ่ม 2 ตลาด E-Sport สายเต้นอิสระ แจ้งเกิด 55 เมืองรองต้องเที่ยว เพิ่มจุดขาย 2 กลยุทธ์ “เพิ่มระยะวันจัดงานทั่วไทย-เพิ่มตลาดเทรนด์ใหม่ GEN ME” เร่งกระตุ้นเทศกาล 5 ภาค นำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ นำไปสู่การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจยั่งยืน

 

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวในประเทศตามแผนงบประมาณปี 2567 ทั้งคนไทยและต่างชาติพำนักอยู่ในไทย ตามที่ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ 1 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 200 ล้านคน-ครั้ง ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 4,000 บาท/คน/ทริป โดยจะทำการกระตุ้นท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด 365 วันเที่ยวได้ไม่ต้องรอ หรือเที่ยวได้ทุกวันตลอดทั้งปี ท่ามกลางภาวะการแข่งขันสู. เพราะหลังสถานการณ์โควิดทั่วโลกก็แข่งกันทำโปรโมชั่นแย่งชิงนักท่องเที่ยวคนไทยด้วยเช่นกัน

จึงได้คัดเลือกสินค้า Soft Power 5F เพื่อนำมาเพิ่มรายได้หรือค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกับผนวกใช้เครื่องมือนวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การฟื้นเศรษฐกิจระยะสั้นแบบเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการเล็งเป้าหมายตลาดครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว ยังเตรียมขยายเพิ่มอีก 2 กลุ่มใหม่ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 E-Sport กลุ่มเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันเกมซึ่งมีคนเข้าร่วมจำนวนครั้งละมาก กลุ่มที่ 2 นักเต้นอิสระ ช่วงที่ผ่านมามีเทรนด์นี้เติบโตมีกำลังซื้อสูง ล่าสุดมีกลุ่มเต้นลีลาศ และอื่น ๆ

ดังนั้นการนำจุดขายพลังซอฟท์ เพาเวอร์ อย่าง FOOD/อาหาร นอกเหนือจากเมนูทั่วไป ก็ต้องลงลึกถึงวัตถุดิบเมนูอาหารเกษตรอินทรีย์ หรือ FASHION/แฟชั่นผ้า ต้องสร้างสรรค์เรื่องราวให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้นด้วย ททท.ยังคงแผนขยายการท่องเที่ยว 55 จังหวัดเมืองรอง ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นับจากปี 2566 ไปจนถึงปี 2580

ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ททท.จะยกระดับการขาย 55 จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ภายใต้แนวคิด “ประสบการณ์ใหม่ เที่ยวเมืองรอง ไม่รู้ลืม” นำเสนอเรื่องราวเนื้อหาการท่องเที่ยวแต่ละเมืองให้ลึกมากขึ้น แล้วนำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกให้การเดินทางเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถแอพลิเคชั่น และนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการจองหรือค้นหาแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น ททท.ตลาดในประเทศจะจับมือทำงานร่วมกับศูนย์สารสนเทศอย่างเต็มที่ โดยจะนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวอย่างง่ายด้วยความแม่นจำด้านข้อมูล

 

จะใช้สินค้าท่องเที่ยว ซอฟท์ เพาเวอร์ เป็นแกนหลัก บวกเข้ากับการจัด “กิจกรรม” อีเวนต์ต่าง ๆ เช่น วิจิตร 5 ภาค เทศกาลงานประเพณีรายการสำคัญ จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างทรงพลังมากขึ้น รวมทั้งจะจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวต้อนรับฤดูท่องเที่ยวปลายปี 2566 ต่อเนื่องถึงเทศกาลตรุษจีนต้นปี 2567 นำท่องเที่ยวมาทำให้เกิดเศรษฐกิจแบบ Quick Win ได้ตามนโยบายรัฐบาล

 

“กิจกรรม” ที่จะนำมาใช้กระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศ ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ตุลาคม 2566-มีนาคม 2567 จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว จะใช้กลยุทธ์ใหม่ด้วย 2 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

กลยุทธ์ที่ 1 “เพิ่มระยะเวลาจัดงานเทศกาลประเพณี” จากปกติ 1-2 วัน ปีนี้จะเพิ่มจำนวนหลายวันขึ้น เพื่อเป้าหมาย 1.เพิ่มวันพักค้างคืนในพื้นที่จัดงาน 2.เพิ่มค่าใช้จ่ายนำรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น

 

โดยจะไฮไลต์นำเสนอขายงานประเพณียอดนิยมจัดทำโมเดลต้นแบบของแต่ละภาค “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง คลองผดุงกรุงเกษม” จัดระหว่าง 25-27 พฤศจิกายน นี้ เชื่อมโยงเข้ากับงานสีสันท่องเที่ยวหัวลำโพง งานที่ 2 เทศกาลกินเจภาคใต้ 15-23 ตุลาคม นี้ อีสาน จัดเทศกาลออกพรรษา งานแห่ต้นกระธูป จังหวัดชัยภูมิ ระหว่าง 25-28 ตุลาคม งานบั้งไฟพญานาคโลก จังหวัดหนองคาย ระหว่าง 21 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน

 

“ภาคเหนือ” งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2566 บริเวณข่วงประตูท่าแพ / ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ ร้อยเรียงต่อเนื่องจากประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย วันที่ 18-27 พฤศจิกายน ที่อุทยานประวัติศาสตรสุโขทัย

“ภาคตะวันออก” มีงานไฮไลต์เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา Pattaya International Fireworks 2023 วันที่ 24-25 พฤศจิกายน ที่ชายหาดพัทยา เทศกาลงานดนตรี Wonderfruit Festival 2023 มีชื่อเสียงติดตลาดโลกแล้ว จัดระหว่าง วันที่  14-18 ธันวาคม 2566

 

กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มตลาดเทรนด์ใหม่ GEN ME ซึ่งแตกต่างจากก่อนสถานการณ์โควิด ททท.จะเน้นเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม GEN X, Y มิลเลนเนียล/คนรุ่นใหม่ แต่พอหลังสถานการณ์โควิดพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปแบบฉับพลัน จึงต้องเร่งศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยว GEN ME ซึ่งเป็นกลุ่มมีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น ทรงผม หน้าตา เพื่อนำมาปรับปรุงทางด้าน “ผู้ประกอบการ :Supply Side” ซึ่งจะพึ่งหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องเดินไปพร้อมกันทุกส่วนโดยเฉพาะเอกชน ขณะนี้ในหลายประเทศเปลี่ยนแล้ว ไทยเองก็ต้องเร่งทำให้ทันสถานการณ์ด้วยเช่นกัน

 

ส่วนเรื่องขอการสนับสนุนจากรัฐบาลผลักดันนโยบายให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อทำให้รายได้เข้าเป้าปีหน้า 1 ล้านล้านบาท เรื่องที่ 1 โครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ ระบบบริการเครือข่ายรถสาธารณะ เรื่องที่ 2 ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบินต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาขาดทุนจากโควิดต่อเนื่องมาถึง 4 ปี จึงส่งผลทำให้ขณะนี้ “ราคาตั๋วเครื่องบินในประเทศ” ราคาสูงมากใกล้เคียงกับตั๋วบินต่างประเทศ ซึ่งจะต้องหาวิธีร่วมกันทำให้เกิดความลงตัวโดยเร็ว

 

ขณะนี้รัฐบาลวางแผนใส่งบประมาณ “กระตุ้นการท่องเที่ยว” เข้ามาเพิ่มในช่วงระยะเร่งด่วน ซึ่งจะช่วยสร้างความคึกคัก เพื่อให้คนมีอารมณ์ความรู้สึกอยากจะออกมาเดินทาง แต่ก็ยังต้องพึ่งพาความร่วมมือจากทุกส่วนจากกลุ่มผู้ประกอบการด้วย สะดวก สะอาด ปลอดภัย ราคายุติธรรม ทุกอย่างจะต้องเดินหน้าไปด้วยกัน

 

นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ททท.มีภารกิจต้องสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนควบคู่กัน 2 ทาง ทั้งผู้ให้บริการและนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ต้นน้ำเรื่อง “อาหาร” รสชาติอาหารไทยอร่อยตอบโจทย์แล้ว แต่วัตถุดิบจากต้นทางของเกษตกรเพาะปลูกพืชผักต่าง ๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์ที่จะต้องเร่งมือ เพราะหลายประเทศเริ่มโฆษณาแล้วว่าเป็นประเทศอาหารปลอดภัยไร้สารเคมี ไทยเองก็ต้องเข้าร่วมขบวนนี้ด้วย รวมทั้งการให้ความสำคัญกับ “อากาศ” เรื่องการลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งมีผลต่อภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรงที่กำลังเป็นเรื่องที่ทั่วโลกพากันวิตกกังวลและพยายามหาวิธีร่วมมือกันลดปัญหาเหล่านี้ให้เบาบางลง ดังนั้นการท่องเที่ยวของไทยก็ต้องตื่นตัวหันมาเริ่มลงมือเช่นเดียวกัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 อัยยวัฒน์1ใน5ศิลปินไทยจัดแสดงBE@RBRICKทั่วโลก

 

นางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำทีมผู้บริหารคิง เพาเวอร์ และคิง เพาเวอร์ มหานคร พร้อมพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติร่วมกันจัดยิ่งใหญ่นิทรรศแสดงงาน “BE@RBRICK WORLD WIDE TOUR 3 IN BANGKOK  : แบร์บริค เวิร์ล ไวด์ ทัวร์ 3 อิน แบงค็อก” ขึ้นเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งสร้างการท่องเที่ยวมิติใหม่ด้วยการนำเสนอ “พิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่จัดแสดงศิลปะประติมากรรมหมี : BEAR ” ตลอด 1 เดือนเต็ม เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม -วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00-00.00 น.โดยใช้พื้นที่ลอยฟ้าในอาคาร “คิง เพาเวอร์  มหานคร” ชั้น 74 ใจกลางกรุงเทพมหานคร  จุดชมวิวสูงสุดของเมืองไทย

 

คิง เพาเวอร์ เดินหน้าเปิดเทรนด์ใหม่ในการชม “นิทรรศการแสดงพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่” ซึ่งพร้อมจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย เข้าถึงทั้ง 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มนักสะสมหมีแบร์ กลุ่มศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมป๊อบอาร์ต (Pop Art Culture) และกลุ่มคนทั่วไปที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ จึงได้เนรมิตชั้น 74 บนอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร ตกแต่งสถานที่เสมือนกำลังเดินท่องโลกอยู่ท่ามกลางเมืองดอกไม้สวยงามอลังการโดยมีประติมากรรมหมีแบร์เรียงรายให้ชื่นชมอย่างเพลิดเพลิน ด้วยอัตลักษณ์การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินระดับนานาชาติ นำผู้ชมก้าวข้ามทุกขอบเขตวัฒนธรรมผ่าน BE@RBRICK ขนาด 1000% สูงประมาณ 70 เซนติเมตร จำนวนมากถึง 105 สไตล์ 105 ชิ้นงาน อีกทั้งยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจตลอดงานอีก 2 ไฮไลต์พิเศษ คือ

 

ไฮไลต์พิเศษแรก !! ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป บริษัท อาร์ต เวิร์กส์ เวิลด์ไวด์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงรักแบร์ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ “BE@RBRICK ตัวพิเศษ” ออกแบบสไตล์เอ็กซ์คลูซีฟมีเฉพาะงานนี้งานเดียวเท่านั้น อีกจำนวน 8 ชิ้นงาน ราคาชิ้นงานละห้าหลักขึ้นไป คาดจะได้รับความสนใจจากนักสะสมเข้ามาแข่งขันเสนอราคาซื้ออย่างคึกคักแน่นอน

 

ไฮไลต์พิเศษสอง !! มีประติมากรรมออกแบบโดยศิลปินไทยเป็นตัวชูโรง 5 ผลงาน ได้นำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในงานนี้ด้วย จากนั้นทางผู้รับผิดชอบจัดงานจะออนทัวร์นำไปจัดแสดงร่วมอยู่ทุกแห่งใน BE@RBRICK WORLD WIDE TOUR 3 ในประเทศอื่น ๆ ต่อไปด้วย ได้แก่

 

ผลงานชิ้นที่ 1 Art Works Worldwide Co., Ltd. (บริษัท อาร์ต เวิร์กส์ เวิลด์ไวด์ จำกัด) ผลงานชิ้นที่ 2 King Power Mahanakhon (คิง เพาเวอร์ มหานคร) ผลงานชิ้นที่ 3 ของ Boy Pakorn Chatborirak (บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ผลงานชิ้นที่ 4 Greenie & Elfie (กรีนนี่ แอนด์ เอลฟี่)  และผลงานชิ้นที่ 5 Vanus Couture (วนัช กูตูร์)

 

            แต่ละผลงานของศิลปินไทยที่ได้ออกแบบตามแนวคิด ล้วนสะท้อนถ่ายทอดเรื่องราวบอกเล่าถึงจินตนาการผ่านนักสร้างสรรค์จัดทำออกมาเป็นสุดยอดประติมากรรมอย่างพิถีพิถัน มาทำความรู้จักกับ 5 ผลงานได้ดังต่อไปนี้

 

            ผลงานชิ้นที่ 1 BE@RBRICK Muay Thai Limited Edition ของบริษีท อาร์ต เวิร์กส์ เวิลด์ไวด์ จำกัด นำเสนอ 2 ดีไซน์ เพื่อบอกให้โลกรู้ตัวแทนคนไทยคือนักสู้ชีวิตอยู่ทุกวัน บางวันแพ้ บางวันชนะ แต่ไม่เคยท้อแท้กับการใช้ชีวิต ทุกวันคือประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ผ่านนักมวยสวมกางเกงมวยไทยสวมนวมหนังออกแบบพิเศษ 2 สี 2 สไตล์ ที่ศรีษะสวมมงคลและมีประเจียดรัด ต้นแขนเป็นเครื่องประดับทุกอย่างออกแบบและผลิตโดย บริษัท แฟร์เท็ก จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์มวยไทยระดับโลก

 

            ผลงานชิ้นที่ 2  King Power Mahanakhon (คิง เพาเวอร์ มหานคร) ของ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้นำอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงที่สุดในประเทศไทย 314 เมตร มีความโดดเด่นด้วยรูปทรง “Pixel Skyscraper” อันเป็นเอกลักษณ์ผลงานออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน Ole Scheenren นำมาย่อส่วนวางใน BEA@RBRICK สีใส ใจได้ออกมากเป็น BE@RBRICK สุดพิเศษ สื่อถึงกรุงเทพฯ เมืองทันสมัยเต็มไปด้วยชีวิตชีวามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังได้เฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปี คิง เพาเวอร์ มหานคร ไปด้วย

 

            ผลงานชิ้นที่ 3 Boy Pakorn Chatborirak ของศิลปินดาราแถวหน้าของเมืองไทย “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” โดยบอยได้รวมทุกความสนใจใส่ไปใน BE@RBRICK โดยเฉพาะเครื่องเกมตักตุ๊กตาที่เขารักและยังเป็นเกมยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เขาจึงเลือกสิ่งนี้มาเป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบเพื่อให้เข้าถึงใจผู้คนจำนวนมาก รวมทั้งสอดแทรกดีไซน์ “หน้าเป็ด” ตามรูปลักษณ์ของเจ้าตัวที่แฟนคลับหยอกล้อด้วยความรักและเอ็นดูมาเป็นแรงบันดาลใจอยากใส่ภาพเป็ดลงไปในผลงาน แล้วยังวางแผนต่อยอดไปยังผลงานชิ้นอื่น ๆ ต่อไปด้วย

 

ผลงานชิ้นที่ 4 Greenie & Elfie (กรีนนี่ แอนด์ เอลฟี่) ผู้ออกแบบได้เชิญชวนให้ลองจินตนาการภาพกำลังสัมผัสธรรมชาติเหมือนนั่งในป่ากว้างใหญ่ ที่มีเวทมนตร์เยียวยาจิตใจและมีภูติพิทักษ์ออกมาทักทายให้จิตใจเบิกบาน ผลงานนี้มุ่งถ่ายทอดความแฟนตาซีแสนน่ารักที่ทำให้หัวใจอบอุ่น ยิ่งมาอยู่ในงานสร้างสรรค์ BE@RBRICK ด้วยแล้วจะยิ่งเปิดโลกสู่จิตนาการอันกว้างไกลไร้ขอบเขตได้อย่างเหลือเชื่อจริง ๆ

 

ผลงานชิ้นที่ 5 Vanus Couture (วนัช กูตูร์) : Wedding Dress Maker for Thai Traditional Wedding Dress and Western Wedding Gown ได้ถ่ายทอดความงดงามแบบไทยผ่าน “ชุดแต่งงาน” จาก “วนัชกูตูร์” ห้องเสื้อแต่งงานชั้นนำของเมืองไทย โดย “ชุดเจ้าสาว” ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายชุดไทยอันโด่งดังของ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ผสมผสานองค์ประกอบทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ โดยใช้ผ้าไหมทอมือทั้งชุดและใช้เทคนิคเพื่อสร้างลวดลายสีที่สวยงามซับซ้อน ขณะที่ “ชุดเจ้าบ่าว” ออกแบบเป็นเสื้อราชปะแตสีกลีบบัวให้เข้ากับโทนสีของชุดเจ้าสาว BE@RBRICK สร้างความภาพความประทับใจไม่รู้ลืม

 

ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2566 เลือกจุดหมายปลายทางพักผ่อนและเรียนรู้โลกใหม่ ไปกับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเคลื่อนที่ลอยฟ้า ชั้น 74 คิง เพาเวอร์ มหานคร ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไป ซื้อบัตรได้ที่ https://bit.ly/Book-Ticket-BEARBRICK โทร 02 677 8721 หรือ https://kingpowermahanakhon.co.th  มีให้เลือก 3 ประเภท ดังนี้

 

ประเภทที่ 1 บัตรเข้าชมงาน BE@RBRICK WORLD WIDE TOUR 3 in Bangkok ที่ชั้น 74 จุดชมวิวภายในอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ราคาคนละ 500 บาท

 

ประเภทที่ 2 บัตรเข้าชมงาน BE@RBRICK WORLD WIDE TOUR 3 in Bangkok พร้อมบัตรขึ้นชมมหานคร สกายวอล์ค ชั้น 78 เวลา 10.00 – 16.00 น. ราคาคนละ 1,100 บาท

 

ประเภทที่ 3 บัตรเข้าชมงาน BE@RBRICK WORLD WIDE TOUR 3 in Bangkok พร้อมบัตรขึ้นชมมหานคร สกายวอล์ค ชั้น 78 เวลา 16.00 – 19.00 น. ราคาคนละ 1,300 บาท

 

ข่าวที่ 2 บินฟรี!!ช้อปคิงเพาเวอร์เป็นไปได้รับตั๋วบินฮ่องกง/ญี่ปุ่น

 

คิง เพาเวอร์ ฉลอง 34 ปี “บินฟรี...เป็นไปได้! ไม่ว่าจะไปฮ่องกง หรือญี่ปุ่น ตั้งแต่วันนี้ – 31 ต.ค. 66 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยาและภูเก็ต เพียงร่วมกิจกรรมช้อป ดังนี้

 

1.ซื้อ Cash Card 20,000 บาท รับเพิ่มฟรี Gift Card  3,000 บาท ยังไม่เป็นสมาชิก ได้รับทันที!สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET รับส่วนลดทุกการช้อป 10%

 

2.ซื้อ Cash Card 50,000 บาท รับเพิ่มฟรี Gift Card 5,000 บาท

บินฟรี!! ฮ่องกง กับการรับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง 1 ที่นั่ง ยังไม่เป็นสมาชิก ได้รับทันที! สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET รับส่วนลดทุกการช้อป 10%

 

3.ซื้อ Cash Card 150,000 บาท รับเพิ่มฟรี Gift Card 12,000 บาท พร้อมได้บินฟรี ญี่ปุ่น ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น 1 ที่นั่ง ยังไม่เป็นสมาชิก ได้รับทันที!  สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ ONYX รับส่วนลดทุกการช้อป 15%

 

 

ข่าวที่ 3 ททท.ร่วม3กระทรวงฟื้นเชื่อมั่นจีน/ต่างชาติเที่ยวไทย

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ตุลาคม 2566 เข้าร่วมประชุมเชิงบูรณาการภารกิจเยียวยาและสร้างความมั่นใจถึงมาตรการความปลอดภัย หลังเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน โดยได้หารือกัน 3 กระทรวง ได้แก่ การท่องเที่ยวและกีฬาร่วมประชุม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

 

ขณะนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจท่องเที่ยว ได้อำนวยความสะดวกให้ญาติของนักท่องเที่ยวจีนและพนักงานชาวเมียนมา ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สยามพารากอน เบื้องต้นจะมีเงินเยียวยารวมผู้เสียชีวิตรายละ 6.2 ล้านบาท จากรัฐบาลไทยมอบเงินเยียวยาให้คนละ 1.2 ล้านบาท และทางศูนย์การค้าสยามพารากอนมอบให้อีกรายละ 5 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 5 ราย เมื่อออกจากโรงพยาบาลจะได้รับเงินเยียวยารวมรายละ 3.5 แสนบาท จากภาครัฐ 5 หมื่นบาท และศูนย์การค้าสยามพารากอนรายละ 3 แสนบาท รวมทั้งทาง บริษัท กิฟฟารีน จำกัด ประสงค์มอบเงินสมทบให้ภาครัฐนำไปร่วมเยียวยาสมทบอีก 1 ล้านบาท  โดยจะมีรายละเอียดต้องพิจารณาต่อไป

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตลอด 9 เดือน ระหว่างมกราคม-กันยายน 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า  20 ล้านคน ตามข้อมูลระหว่างวันที่ 1-5  ตุลาคม 2566 ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยต่อเนื่อง ททท.คาดนักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 4.4 ล้านคน และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบนักท่องเที่ยวทั่วโลกยกเลิกการเดินทางเข้าเมืองไทย แต่ยอมรับสถานการณ์ในจีนได้นำเสนอข่าวความรุนแรง และอาจส่งผลกระทบให้จีนเดินทางมาไทยชะลอตัวลงบ้างนั่นเอง

 

ขณะนี้ ททท. เร่งมาตรการสื่อสารไปยังสื่อต่าง ๆ แล้วถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแล้ว รวมทั้งทางสำนักงาน ททท.ประจำอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ได้เร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับชาวจีนเพื่อสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันคลี่คลายไปในทางที่ดีโดยเร็ว

 

ข่าวที่ 4 “บางจาก-กรุงไทย”เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล3พันล้าน30ต.ค.

 

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บางจากฯร่วมกับธนาคารกรุงไทย เตรียมออกและ
เสนอขาย “หุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก” ผ่านบริการซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท
ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ซื้อขายแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เป็นทางเลือกลงทุนโดยสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.45% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 3 ปี รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อ 28 กันยายน 2566 สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจอันแข็งแกร่งของบางจากฯ การผสานพลังทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นหลังเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของเอสโซ่ประเทศไทย และประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี

 

“หุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก” เตรียมเปิดให้จองซื้อผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ตั้งแต่ 08.30 น. วันที่ 30 ตุลาคม  จนถึง 1  พฤศจิกายน 2566 ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 บาท เพื่อให้ผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนยุคดิจิทัล เข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพิ่มทางเลือกร่วมลงทุนกับบางจากฯ ผู้นำในธุรกิจโรงกลั่นของไทย โดยจะรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ สร้างความมั่นคงทางการเงิน สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทด้วย

 

          นางสาวภัทร์ภูรี กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากเป็นครั้งที่ 2 คาดจะมีการตอบรับที่ดีหลังปี 2565 ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการที่ผู้ลงทุนจองซื้อหุ้นกู้เต็มวงเงิน 3,000 ล้านบาท ภายใน
3 นาที 18 วินาที เท่านั้น ขณะนั้นอันดับเครดิตยังอยู่ระดับ A- ส่วนครั้งนี้หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ A สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจของบางจากฯ ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน มีธุรกิจหลากหลายครอบคลุมต้นน้ำสู่ปลายน้ำ บูรณาการธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจการตลาด พร้อมขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ต่อเนื่อง  โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจควบคู่การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม บางจากฯ มุ่งหวังให้การระดมทุนนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้บริษัทแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

 

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับบางจากฯ เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนบนช่องทางดิจิทัล ยกระดับตลาดทุนไทย และสนับสนุนเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงบริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ ซึ่งหุ้นกู้ดิจิทัลบนแอปฯ เป๋าตัง จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนซื้อขายได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ลงทุนจะได้รับหุ้นกู้ทันทีที่ซื้อ และได้รับเงินทันทีที่ขาย ตลอดจนแสดงข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย ครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์การออมและการลงทุนได้ครบทุกมิติ สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้าและประชาชนได้อย่างยั่งยืน

 

ผู้สนใจซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวสามารถลงทะเบียนวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ “เป๋าตัง” และทำแบบประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เตรียมเปิดจองซื้อพร้อมกันตั้งแต่ 08.30 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2566 จนเต็มจำนวนที่เสนอขาย กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกินรายละ 50 ล้านบาท จัดสรรในรูปแบบจองซื้อก่อนมีสิทธิก่อนนั่นเอง

 

ข่าวที่ 5 ตลุยชุมชนไมซ์ “บางใบไม้”200ปีที่สุราษฎร์มีของดีให้ทำ

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” พาสำรวจชุมชนไมซ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีก 1 เมืองไมซ์ซิตี้ มีชุมชนเก่าแก่ที่สามารถเก็บรักษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่นดั้งเดิมให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา คือ ‘ชุมชนบางใบไม้’ อายุกว่า 200 ปี ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำตาปีบริเวณโดยรอบมีลำคลองและต้นไม้น้อยใหญ่จำนวนมาก ทำให้ในคลองมีใบไม้ลอยทับถมกันกลายเป็นที่มาของชื่อชุมชน

 

คนในชุมชนได้อนุรักษ์วิถีชีวิตริมฝั่งคลองอันเรียบง่าย เต็มไปด้วยเสน่ห์รองรับการทำ “กิจกรรมไมซ์” ได้มากมาย ไฮไลต์ต้องยกให้ กิจกรรม “ล่องคลองร้อยสาย” ลอดอุโมงค์ต้นจาก “แปรรูปมะพร้าว” เป็นผลิตภัณฑ์ของกินของใช้นานาชนิด แล้วชวนกันไปชมบ้านโบราณเก่าแก่กว่า 200 ปี ร่วมศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นหลากรูปแบบ ดูการทำน้ำตาลมะพร้าว การเย็บจากที่นำมาใช้มุงหลังคาบ้านพักอาศัยแบบฟินฟิน

 

ใน “ชุมชนบางใบไม้” ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมให้ร่วมเรียนรู้ และตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ ก็กำลังรอต้อนนักเดินทางไมซ์ไปเยี่ยมชมพร้อมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ประจำชุมชน กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตำบลบางใบไม้

 

ทีเส็บยังมีชุมชนต่าง ๆ ให้นักเดินทางไมซ์ได้เลือกไปทำกิจกรรมดี ๆ ให้ผู้ร่วมทางในวงการไมซ์ได้เลือกใช้บริการเพื่อคืนประโยชน์สู่สังคม สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรง

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวใกล้ เที่ยวงาน ในกรุงเทพฯ สบาย ๆ 2 พิกัด ฟิน ๆ ที่ “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ค้นหาความยิ่งใหญ่พระปรางค์ริมแม่น้ำเจ้าพระสูง 81.85 เมตร แล้วไปออกกำลังกายที่ “สะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน” จากนั้นฟังชัด ๆ “4วิธีรักษาปลายประสาทอักเสบ” ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน และข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “พังงาจัดใหญ่” กินเจ 9 วัน เที่ยว 9 วัน เมืองในตำนาน 8 พิธีศักดิ์สิทธิ์ ข่าวที่สอง “AWC-อี้อู” ผนึกจัดแสดงสินค้าส่งตรงจากจีน 8-9 ต.ค.นี้

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวนกรุง2พิกัด“วัดอรุณ-สะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน

 

สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ชาวต่างชาติและคนไทย ที่จะนำมาเสนอวันหยุดนี้ 2 พิกัด เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวแบบฟินและชิลได้ภายในวันเดียว

 

พิกัดแรก “วัดอรุณราชวารามราชวรมหาวิหาร”  หรือเรียกสั้น  ๆ ว่า “วัดอรุณ” ส่วนใหญ่จะเห็นภาพกันจนคุ้นตาล่าสุดมีกระแสแต่งไทยไปกินไอศรีมกัน ภายในวันเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 08.00-18.30 น.อยู่ตรง 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เป็น โบราณสถานมีสถาปัตยกรรม “พระปรางค์หน้าวัด” สูงตระหง่านงดงามติดแม่น้ำ

 

สำหรับ “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา องค์ที่เห็นปัจจุบันนี้ ไม่ใช่พระปรางค์องค์เดิมตั้งแต่แรก “องค์เดิม”นั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สูงเพียง 8 วา หรือราว16 เมตร เท่านั้น ส่วน “พระปรางองค์ปัจจุบัน” ต่อเติมขึ้นใหม่รัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งหมดมีขนาดความสูงจากฐานถึงยอด 81.85 เมตร  

 

องค์พระปรางค์ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ฐาน เรือนธาตุ และเรือนยอด มีสัณฐานดุจเขาพระสุเมรุ ด้วยความกว้างราว 234 เมตร ได้แก่ “ตัวเรือนฐาน” ทำการย่อมุมลง “เรือนยอด”  ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ขึ้นไป แต่ละชั้นมีช่องรูปกินนรและกินรี เชิงบาตรเหนือช่องมีรูปมารแบกกระบี่แบกสลับกัน เหนือขึ้นไปเป็นซุ้มคูหารูปพระพายทรงม้า เหนือขึ้นไปเป็นยอดปรางค์มีรูปครุฑยุดนาคและเทพนมอยู่เหนือซุ้มคูหา ส่วนยอดปรางค์เป็นพระมหามงกุฎนภศูล

 

กลุ่มพระปรางค์ ประกอบด้วย  ปรางค์ประธาน สูง 81.85 เมตร และปรางค์ทิศ 4 ปรางค์ เป็นปรางค์องค์เล็กก่ออิฐถือปูนประดับกระจกเคลือบสีแบบเดียวกับพระปรางค์องค์ใหญ่ ปรางค์ทิศตั้งอยู่มุมทักษิณชั้นล่างของปรางค์องค์ใหญ่ทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ทิศละองค์

 

“วิธีเดินทาง” ไปเที่ยววัดอรุณ วิธีที่ 1“นั่งMRT รถไฟใต้ดิน” ไปลงที่สถานีอิสรภาพ แล้วใช้ทางออก 1 ต่อรถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือจะเดินก็ได้ราว 900 เมตร หรือจะลง “สถานีสนามไชย” นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียนแล้วเดินเที่ยวชมจุดอื่น ๆ ในย่านท่าเตียนได้

 

วิธีที่ 2 นั่งเรือในแม่น้ำเจ้าพระย มีบริการหลายสายไปยังวัดอรุณฯ ได้แก่ “เรือด่วนเจ้าพระยา” เลือกนั่งเรือธงฟ้ามาลงถึงท่าวัดอรุณ หรือ “เรือธงส้ม” มาลงท่าเตียน แล้วต่อเรือข้ามฟากไปวัดอรุณ

 

วิธีที่ 3  “เรือไฟฟ้า” ใช้บริการ City Line (สีเขียว) จากไอคอนสยาม มาลงยังท่าเรือวัดอรุณ ได้แบบสะดวกสบาย โทรสอบถามได้ที่ 02 891 2185

 

พิกัดที่ 2 “สะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน” เปิดบริการฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 น. - 18.00 น.เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงนิเวศป่าชายเลนผืนสุดท้ายชานเมืองกรุงเทพฯ   สามารถจะไปเดินชมป่าชายเลนบนสะพานไม้ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ภายในสถานที่ท่องเที่ยวมีกิจกรรมทำได้หลายอย่าง เช่น เช่าเรือออกไปชมทะเล ชมธรรมชาติของป่าโกงกาง หรือจะออกกำลังกาย เดิน วิ่งปั่นจักรยาน ค่าเช่าจักรยานราคาเริ่มต้นคันละ 30 บาท   

 

แนะนำสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ “นั่งมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า” หรือ EV Bike  เช่ามอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า เริ่มต้น คันละ 250 บาท ขับไปสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมกับถ่ายรูปชิล ๆ ไปพร้อม ๆ กับเข้าไปชมและศึกษาความเป็นมาของป่าแห่งนี้ได้ที่ศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน

 

เที่ยวเมืองไทยในกรุงเทพฯ วันสบาย ๆ เดินทางง่าย ๆ ไปเช้ากลับเย็น ก็เป็นอีกประสบการณ์ความสุขที่หาได้ไม่ต้องรอ   

 

สุขภาพ –4 วิธีรักษาปลายประสาทอักเสบรับมือเท้าชาแบบง่าย ๆ

  

หากมีอาการชามือหรือชาเท้าอย่าเมินเฉย ควรรีบหาวิธีรักษาปลายประสาทอักเสบ เพราะอาการชาตามปลายมือหรือปลายเท้าที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณของโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งหากไม่ได้รักษาอย่างเหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวได้ อย่างไรก็ตาม โรคปลายประสาทอักเสบมีวิธีการรักษาง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านหลายวิธี

 

1. รับประทานวิตามินบี 1 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ร่วมกัน เพราะการกินจากอาหารอาจไม่เพียงพอ การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้เสริมในปริมาณที่สูง โดยขนาดการรักษาใน 1 วันที่ผู้ป่วยควรได้รับคือ วิตามินบี 1 ประมาณ 100–300 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 ประมาณ 100–600 มิลลิกรัม และวิตามินบี 12 ประมาณ 400–2,000 ไมโครกรัม

 

คุณสมบัติ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ช่วยบำรุงเส้นประสาท โดยจะทำงานเสริมกันช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ประสาททำงานได้เป็นปกติ จึงใช้รักษาอาการจากโรคปลายประสาทอักเสบได้ ซึ่งคุณสมบัติหรือหน้าที่ของวิตามินแต่ละชนิดมีดังนี้

 

วิตามินบี 1 ช่วยทำให้เกิดพลังงานภายในเส้นประสาท ช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานของระบบประสาท

 

วิตามินบี 6 ช่วยสร้างสารสื่อประสาทในระบบประสาท ช่วยให้สามารถควบคุมการทำงานของระบบประสาทได้ดีขึ้น

 

วิตามินบี 12 ช่วยสร้างเสริมการทำงานของปลอกหุ้มประสาท ช่วยให้เซลล์ประสาทที่ถูกทำลายสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ

2. ดูแลสุขภาพเท้า  -ผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ สามารถทำได้โดยสวมถุงเท้าผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มอยู่เสมอเพื่อปกป้องเท้า ทาครีมบำรุงผิวที่เท้าเพื่อป้องกันไม่ให้เท้าแห้งแตกประคบเย็นบริเวณเท้าครั้งละ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหมั่นสังเกตรอยแผลพุพอง หรือผิวหนังที่มีลักษณะหนาและด้านซึ่งเกิดขึ้นบริเวณเท้าอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

 

3. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต -จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่มักส่งผลให้เกิดอาการของโรคปลายประสาทอักเสบได้ เช่น เลิกสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด ปัญหาเกี่ยวกับเท้า และภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับระบบประสาทอื่น ๆ  หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เพราะจะส่งผลให้เกิดการขาดวิตามินบี  หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง รวมทั้งการพิงหรือเท้าข้อศอก  ติดตามและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองอยู่เสมอ  รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วนและหลากหลายตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ

4. ออกกำลังกาย -จะช่วยลดอาการปวดเส้นประสาทและช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยการออกกำลังกายที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ เช่น การเดินเร็วสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที การเล่นโยคะ การรำไท้เก๊ก หรือการว่ายน้ำ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –พังงาจัดยิ่งใหญ่เที่ยว9วันกินเจ9วัน 14-23 ต.ค.66

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา รายงานว่า ททท.สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาเชิญชวนสายมูทั่วประเทศร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์กับพิธีกรรมแบบดั้งเดิม “กินเจ 9 วัน เที่ยว 9 วัน” เสริมความดวงดี การเงินปัง ในงาน "ประเพณีถือศีลกินผัก พังงา 2566" ระหว่างวันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2566 ซึ่งจะได้ตื่นตาสัมผัสกับพิธีดั้งเดิมหาชมได้ยาก แต่ละปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่จะได้ร่วมความศักดิ์สิทธิ์ 8 พิธี ได้แก่ “ขึ้นเสาโกเต้ง -โก้ยเฉ่งอิ๋ว -โข้กุ้น-โก้ยห่า- อาบน้ำร้อน ต้มยา-โก้ยโห้ย -อิ้วเก้ง-ส่งพระ”

 

ตลอดการท่องเที่ยวเทศกาลกินเจในพังงาทั้ง 9 วัน สามารถร่วมทำบุญถือศีลกินผักได้อย่างมีความสุขตลอดเทศกาลแห่งความเชื่อและความศรัทธากับชาวพังงาได้ทั่วทั้งจังหวัด ผนวกการได้เรียนรู้เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์งานประเพณีกินผักของชาวพังงา "อิ่มบุญ อิ่มใจ" เดินทางมาร่วมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ไปด้วยกัน

 

ข่าวที่สอง – AWC-อี้อูเปิดเออีซีฟู้ดจัดแสดงสินค้าตรงจากจีน8-9ต.ค.

 

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) “AWC” รายงานว่า เตรียมเปิดพื้นที่ เออีซี ฟู้ด โฮเซล ประตูน้ำ (AEC Food Wholesale Pratunam)  จับมือทาง “อี้อู” (Yiwu) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดรายใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู สาธารณรัฐประชาชนจีน  จัดมหกรรมแสดงสินค้าแห่งปี “AWC X CCC YIWU PRODUCTS FEST” วันที่ 8 - 9 ตุลาคมนี้ ที่ เออีซี ฟู้ด โฮลเซล ประตูน้ำ  โดยนำเสนอขายในราคาต้นทางจากจีน พร้อมกับดึงดูดผู้ซื้อในไทยได้เลือกสรรรวมถึงจะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ผู้ค้าปลีก-ค้าส่ง พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตจากจีนโดยตรง สร้างธุรกิจเติบโตร่วมกันอย่างไร้ขีดจำกัด

 

            ภายในงาน AWC X CCC YIWU PRODUCTS FEST จะได้รวบรวมผู้ประกอบการและผู้ค้าส่งรายใหญ่จากจีน โดยคัดเลือกแบรนด์คุณภาพสินค้าครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องครัว มาจัดแสดงมากมาย เช่น  Haoyu Industry & Trade อุปกรณ์ครัว และภาชนะเคลือบ, Xindaxing อุปกรณ์ชุดถ้วย ช้อนส้อม มีดพกพา, Yiwu Bodhi Tree Home Textile หมอน ผ้าปูโต๊ะ ผ้ากันเปื้อน, Hengshan Clothes Hanger ไม้แขวนเสื้อ, Eliza Home Textile พรมปูพื้น, Xinxin Shoes รองเท้า, Chengwen Hat หมวก และ Aoge Umbrella ร่มกันแดด กันฝน และอื่น ๆ

           

พบกับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะวันงานเท่านั้น ในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2566 เวลา 9:00-16:00 น.และวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา 9:00-15:00 น. ที่ AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM  ทางผู้จัดงานเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://rb.gy/ck9yg  รับฟรี! แก้วเก็บความเย็นสุดเก๋ มูลค่า 590 บาท

 

ขณะเดียวกันตลอดงาน 2 วัน เตรียมจัดให้บริษัทชั้นนำระดับโลกขึ้นเวทีเสวนาร่วมแชร์ประสบการณ์ทางธุรกิจแบบเจาะลึก เช่นYunExpress, WorldFirst และ Bank of China และอีกหลากหลายผู้นำในวงการค้าส่งของจีน

        

สำหรับ เออีซี ฟู้ด โฮลเซล ประตูน้ำ ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร สามารถใช้บริการรถสาธารณะได้อย่างเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี รถไฟใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี รถประจำทางหลากหลายสาย ภายในอาคารสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวมาได้ ภายในโครงการมีพื้นที่รองรับที่จอดรถขนาดใหญ่ได้จำนวนมาก

 ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.