ททท.ชวนเที่ยวภาคเหนือหน้าหนาวปลายปี66

 

ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่

ผอ.ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ททท.ทำรายได้ภาคเหนือปี66ดีเกินเเป้าหมื่นล้าน

หนาวนี้บูม“ทะเลหมอก-ดอกไม้-ชุมชน-SkyWalk”

ปี’67ชูMarketingEventเข้าเป้า1.8แสนล้านโต18%

คิงเพาเวอร์รางน้ำCelebration2024ลด25-26พ.ย.

ร่วมสนุกkingpowerFBลุ้นรับฟรีบัตรมอเตอร์โชว์

สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับ2สิทธิใหม่ช้อปคุ้ม

ททท.ร่วมฑูตไทยทั่วโลกทำตลาดท่องเที่ยวปี’67

กลุ่มบางจากรับ4รางวัลSETAwards2023เด่นยั่งยืน

สุขที่เที่ยวโคราช4อำเภอสูงเนิน/โชคชัย/เมือง/สีคิ้ว

"น้ำดื่มทางเลือก"ตามสภาวะเพื่อคนรักสุขภาพ

AOTจ่อขึ้นค่าPSCผู้โดยสารขาออกเริ่ม1เม.ย.67

บินไทย-2องค์กรดันซอฟท์เพาเวอร์ThaiSELECT

 

วันเสาร์ที่  25 พฤศจิกายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ทททภาคเหนือ  #สุขทันทีเที่ยวโคราช 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/oxcCtHzWz_/?mibextid=Nif5oz

ช่วงที่ 1 “นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  นำท่องเที่ยวภาคเหนือปี’66 ทำรายได้ 1.6 แสนล้านเกินเป้าไป 10,000 ล้าน ปี’67 ขยับเพิ่มเต็มคาราเบล 1.8 แสนล้าน โตแรง 18 % หนาวนี้จัดทัพปลุกตลาด 4 กิจกรรม ทัวร์“ทะเลหมอก-เมืองดอกไม้-วิถีชุมชน-สกายวอล์คชมวิว” เสริมพิเศษ 3 แนว “เส้นทางSTGs-เคาน์ดาวน์-ซอฟท์เพาเวอร์ ซับ คัลเจอร์” Food/Fashion/Festival ไตรมาส 1-2 ปี’67 อัดฉีด Event Marketing ดาหน้าบูม “ลอยกระทง-ตรุษจีน-มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ 365 วัน

 

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวภาคเหนือในภาพรวมสามารถทำอัตราการเข้าพัก/OR :Occupacy Rate จากนักท่องเที่ยวกระจายในพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 60 % ใกล้สถานการณ์ปกติปี 2562 แล้ว คาดตลอดทั้งปีระหว่างมกราคม-ธันวาคม 2566 จะมีอัตราพักเฉลี่ย 56-60 % กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวได้ตามจำเนวน 35 ล้านคน-ครั้ง เกินเป้าไป 1 ล้านคน จากที่ตั้งไว้ 25 ล้านคน-ครั้ง ส่วนรายได้แนวโน้มจะถึง 1.6 แสนล้านบาท เกินเป้าราว 10,000 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 1.5 แสนล้านบาท

 

จากนั้นต้องเดินหน้ากระตุ้นตลาดปีงบประมาณ 2567 ท่ามกลางความท้าทายโดยได้ขยับเป้าหมายสูงขึ้นไปด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 15 % และสร้างรายได้ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่ม 18 % ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการนำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเร่งสร้างเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

ตอนนี้ ททท.ภูมิภาคภาคเหนือวางกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยวต้อนรับฤดูหนาวช่วงปลายปี 2566 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2567 ด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่

 

กิจกรรมที่ 1 ชมทะเลหมอก ในพื้นที่ไฮไลต์สวยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะใน 5 จังหวัด ได้แก่

 

“จังหวัดเชียงใหม่” ได้แก่ จุดชมวิวดอยดำ จ.เชียงใหม่ เคยส่งเข้าประกวดเป็น Unseen New Chapters อุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก ม่อนเงาะ กิ่วแม่ปาน/ดอยอินทนนท์ ตอนนี้เปิดเส้นทางเดินชมธรรมชาติ หรือจะขยับดอยสูงขึ้นไปที่

 

“จังหวัดแม่ฮ่องสอน” นำโดย “กลอเซโล” ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย ซึ่งเป็นหมู่บ้านแนวชายแดนโอบล้อมด้วยขุนเขาจุดชมวิวชมทะเลหมอกสองแผ่นดินไทย-เมียนมา และที่ ดอยปุ้ยโค หยุนไหล มีวัฒนธรรมวิถีจีนดั้งเดิม ส่วนสายชอบผจญภัยมากขึ้นแนะเดินทางไป

 

“จังหวัดพะเยา” ชมทะเลหมอกเต็มรูปแบบที่ “ดอยดอกภูลังกา” อยู่ในวนอุทยานภูลังกา ตำบลช้างน้อย อำเภอปง เป็นเทือกเขาสลับซ้อนกันอยู่ตามแนวเทือกเขาสันปันน้ำด้วยระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 900-1,720 เมตร

 

“จังหวัดอุตรดิตถ์” ปักหมุดการเดินทางไปชมความงดงามได้ที่ “ภูสอยดาว” ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด 

“จังหวัดอุทัยธานี” มีจุดชมวิว “บ้านชายเขา” ได้ชื่อว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ใกล้กรุง รอบพื้นที่รายล้อมด้วยหุบเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนเขียวสดชื่นทอดตัวเป็นแนวยาว โดยได้จัดทำระเบียงชมวิวยกสูให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์รอบทิศทาง

 

กิจกรรมที่ 2 เส้นทางชมดอกไม้เมืองหนาว ใน “เชียงใหม่” กระจายการเดินทางท่องเที่ยวได้หลายอำเภอ เริ่มเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ผู้ประกอบการเปิดพื้นที่ชวนไปเที่ยวสวนดอกไม้ใน อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง  ไฮไลต์ชมดอกไม้สวยที่ “วัดจันทร์”  อำเภอกัลยาณิวัฒนา อายุกว่า 300 ปี บรรยากาศเงียบสงบร่มรื่นมีถาวรวัตถุและสิ่งสำคัญมากมาย  “อ่างขาง” อยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง เป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง เริ่มเปิดเมื่อปี 2512 มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1,400 เมตร  และยอดดอยสูงสุดถึง 1,928 เมตร  แล้ววางแผนไปชมนางพญาเสือโคร่งใน “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่” อำเภอเวียงแหง ได้โดยจะต้องรอประมาณเดือนมกราคม 2567

สำหรับ “เชียงราย” มีจัดเทศกาลดอกไม้อาเซียน ในอำเภอเมือง และเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองดอกไม้ไฮเดรนเยียสวย ๆ หรือจะเลือก “จ.เพชรบูรณ์” บริเวณเขาค้อก็มีดอกไม้หลากหลายสีสดใสบานต้อนรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน

 

กิจกรรมที่ 3 ท่องเที่ยววิถีชุมชน ต้องที่ 3 จังหวัด ได้แก่ “จ.แม่ฮ่องสอน” ปักหมุดเที่ยว 4 หมู่บ้าน นำโดย “บ้านรักษ์ไทย” ของชาวจีนยูหนาน หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง อดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) มาบุกเบิกกระทั่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม “บ้านผาฮี้”บนดอยผาฮี้  อำเภอแม่สาย เขตรอยต่อชายแดนไทยกับเมียนมาใกล้พระตำหนักดอยตุง มีชุมชนเขาเผ่าอาข่าทำอาชีพเกษตรกรรมปลูกใบชาและกาแฟมายาวนาน แล้วก็ยังมี “บ้านผาหมี” หมู่บ้านเล็ก ๆ ในตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย มีชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่าตั้งถิ่นฐานเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโฮมสเตย์ อากาศเย็นสบายอยู่สูงสุดกว่าระดับน้ำทะเลราว 1,400 เมตร

“จ.สุโขทัย”  “บ้านนาต้นจั่น”  ตั้งอยู่ในตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีวิถีชีวิตแบบชาวบ้านแห่งล้านนา มีโฮมสเตย์ 39 หลัง ราคาเริ่มต้น 600 บาท  มีกิจกรรมชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกตรงห้วยต้นไฮ นั่งรถอีแต๊กชมวิถีชีวิตในหมู่บ้านได้  

 

กิจกรรมที่ 4 สกายวอล์ค แหล่งท่องเที่ยวแมนเมดหรือมนุษย์สร้างขื้น ใน “จ.ลำปาง” มีสกายวอล์คแม่เมาะ จัดให้ชมธรรมชาติทั่วเมืองเพลิดเพลินกับทุ่งดอกบัวตอง “จ.เชียงราย” มี 3 แห่ง 1.วัดพระธาตุดอยเวา อำเภอเเม่สาย  2.สกายวอร์คดอยสะเก็น อยู่ตรงถนนสะเก็ด กาดและชุมดอยสะเก็น ในเขตเทศบาลนครเชียงราย  3.วัดแสงแก้วโพธิญาณ อำเภอแม่สรวย “จ.พะเยา” มีสกายวอล์ควัดพระธาตุจอมทอง ในพื้นที่ท่องเที่ยวโบราณสถาน ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง  ได้เปิดจุดชมวิวหรือสกายวอล์คชมเมืองด้วย

 

ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเหนือแนะนำ เส้นทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ ททท. หรือ STGs :Sustainable Tourism Goals เช่น “จ.เชียงใหม่” ไฮไลต์ 2 แห่ง คือ แห่งที่ 1 ดอยปูหมื่น ปัจจุบันเป็นพื้นที่ปลูกชาที่มีเรื่องราวการพลิกชีวิตผู้คนซึ่งเคยปลูกฝิ่นแล้วหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจแทน กระทั่งได้รับรางวัลแปลงสภาพพื้นที่สีเทาสู่สีเขียวได้สำเร็จ ทั้งดอยเต็มไปด้วยทุ่งชาทั้งหมด แห่งที่ 2 ชุมชนออนใต้ นำวัตถุดิบมาทำเมนูอาหารถิ่น

 

“จ.เชียงราย” มีชุมชนเชียงแสน มีชุมชนได้รับรางวัลการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และอีกหลายแห่ง สามารถติดตาม facebook ททท.สำนักงานเชียงราย ซึ่งมีสถานที่เข้าร่วมโครงการ STGs เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

ส่วนพิกัด “ท่องเที่ยวเคาน์ดาวน์” ส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา หลังศาลากลางจังหวัด สีสันไฟสวยงามอิลูมิเนชั่น “ลำปาง” 28 ธ.ค.66- 1 ม.ค.67 จัดที่บริเวณสวนสาธาณะเขลางค์นคร “เชียงราย” 30 ธ.ค.2566 -1 ม.ค.2567จัดที่ สิงห์ปาร์ค “เพชรบูรณ์” จัดหนาวนี้ที่เขาค้อ เคาน์ดาวน์ “สุโขทัย” จัดตรงบริเวณแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ หรือทุ่งทะเลหลวง “อุทัยธานี” จัดที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไฮไลต์อีกแห่ง “นครสวรรค์” จัดเทศกาลหุ่นโคมไฟ ตั้งแต่ 22 ธ.ค.2566-2 ม.ค.2567 ที่เกาะกลางนครสวรรค์ นอกจากนั้นแต่ละจังหวัดจัดตามประเพณีคือสวดมนต์ข้ามปีเพื่อให้สายบุญร่วมกิจกรรม

 

กลุ่มเป้าหมายหลักของภาคเหนือช่วงปี 2566-2567 เน้น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Gen Y เลือกเดินทางได้ด้วยตนเอง นิยมค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ กลุ่มที่ 2 สูงวัยมีเวลาสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขณะนี้เริ่มหันมาเที่ยวตาม Gen Y เลือกสถานที่เช็คอินความสวยความงามทางธรรมชาติ ร้านกาแฟชิค ๆ

 

กลุ่มที่ 3 Gen Z มีความสนใจทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งในภาคเหนือเริ่มมีนวัตกรรม ความร่วมสมัย ต่าง ๆ ล่าสุดเพิ่งจัด Wakening Chaingmai 2023 เมื่อ 10-19 พ.ย.66 ที่ถนนช้างม่อย กับท่าแพ ได้นำเสนอนวัตกรรมแสงสีมาชวนเที่ยวกลางคืนย่านชานเมือง หรืองานคอนเสิร์ต กับอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง

 

ตอนนี้นักท่องเที่ยวในประเทศยัง “สนใจกิจกรรมท่องเที่ยวพิเศษ” ในรูปแบบที่เรียกว่า “วัฒนธรรมย่อยหรือSub Culture” ได้แก่ กลุ่มที่ 1 คนขับรถบิ๊กไบค์ รถหรูราคาแพง กลุ่มที่ 2 คนรักชากาแฟ ททท.กำลังดำเนินงานส่งเสริมการตลาด ส่วนสินค้าซอฟท์ เพาเวอร์ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของภาคเหนือดึงมาขายได้คือ

 

1.Food :อาหารเหนือ มากกว่าขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่อง ซึ่งส่วนใหญ่คนคุ้นเคยอยู่แล้ว โดยจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ขึ้นห้างขึ้นหิ้ง เป็น Chef Table รังสรรค์เปลี่ยนรูปแบบให้มีความหลากหลายทันสมัย และเน้นอาหารกินตามฤดูกาลเพราะสามารถช่วยเรื่องความยั่งยืน รวมทั้งการส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นำเสนอกินอาหารเป็นยา อาหารโบราณ

 

2.Fashion : ผ้าพื้นเมืองเหนือมีเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดภาคเหนือ แล้วยังมีผ้าของชาวชาติพันธุ์อย่าง ผ้าปะกากะญอ มูเซอ  โดย ททท.มีโครงการ Fashion to The World นำผ้ามาดีไซน์ให้เกิดความร่วมสมัยสามารถใส่ไปงานราตรี ไปทำงาน  และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

 

3.Festival :งานเทศกาลงานประเพณี ตามความเชื่อทางศาสนา เริ่มมกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปีจะมีเทศกาลสักการะพระธาตุต่าง ๆ  ต่อเนื่องถึงงานบุญอีกมากมาย วิสาขบูชา มาฆบูชา ซึ่งจะมีรูปแบบการเวียนเทียนดั้งเดิมที่มีความขลังตามอัตลักษณ์พื้นที่ หรือเวียนเทียนกลางน้ำ กว๊านพะเยา

 

ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า แผนใช้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจเติบโตเร่งด่วน Quick Win ปลายปี 2566 ใช้สิ่งแรกด้วย “Event Marketing” เริ่มงานที่ 1  ปลายเดือนเทศกาลลอยกระทง ซึ่งภาคเหนือมีหลายจังหวัด แสงสีสุโขทัย ยี่เป็งเชียงใหม่ ปีนี้พิเศษร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต่อยอดจัดแสงหลวง ที่วัดเจดีย์หลวง ซึ่งมีรอยหักไม่สมบูรณ์จึงได้ใช้นวัตกรรมเลเซอร์สร้างเรื่องราวยิงขึ้นไปให้เห็นภาพจริง งานลอยกระทงสาย จ.ตาก งานที่ 2 ตรุษจีน ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์

 

งานที่ 3 มหกรรมมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ 365 วัน ทำปฏิทินเปิดเส้นทางคนรักกาแฟเที่ยวได้ทุกวัน โดยมีเมนูซิกเนเจอร์ของภาคเหนือ เช่น กาแฟมะขาม ในเพชรบูรณ์ กาแฟส้มที่เชียงราย และทำกิจกรรม Coff and Hop เลือกร้านกาแฟในเชียงใหม่ เชียงราย น่าน สุโขทัย พิษณุโลก ออกแบบเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวสะสมสแตมป์ในฐานะคอชากาแฟตัวยงสไตล์รักษ์โลก เมื่อเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ใดก็ให้สะสมสแตมป์ซึ่งจะออกแบบเป็นพิเศษโดยศิลปินภาคเหนือ เมื่อครบ 3 สติกเกอร์ จะได้รับเสื้อยืดออกแบบพิเศษจะแจกในงาน Thailand Coffee Fest 2023 จะจัดกลางเดือนธันวาคม 2566 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

นอกจากนั้นจะแนะนำบริการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในภาคเหนือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเดินทางเร่งด่วนได้ช่วงไตรมาส 1 และ 2 ปี 2567 เช่น ไปเที่ยว Flower Deal จ.ลำพูน ทัวร์ถ้ำศิลป์แห่งใหม่ ในวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย กับเชียงราย อาร์ต ฟินนาเล่ วันที่ 9 ธ.ค.2566-เม.ย.2567 ไปนั่งรสบัส Hop and Go จ.เชียงใหม่ เป็นบริการเที่ยวชมเมืองโดยไม่จำกัดเวลาและจำนวนครั้ง หรือไปเที่ยว ม่อนแกะ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หรือนั่งรถรางชมเมืองยามค่ำคืน จ.น่าน กับ จ.พิษณุโลก หรือนั่งรถม้าลำปางชมไนท์ไลฟ์ และอื่น ๆ

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์รางน้ำCelebration2024ลดใหญ่25-26พ.ย.

 

กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ รายงานว่า พร้อมจัดแคมเปญ “King Power Celebration 2024” วีกเอนด์นี้ มีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษเฉพาะ 3 วันเท่านั้น!” ระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชวนขาช้อปนักเดินทางมาร่วมเฉลิมฉลองความสุขทุกจุดหมายปลายทางพิเศษยิ่งกว่าเดิม กับ “ความพิเศษ” ที่นี่ที่เดียว เพียงช้อปครบ 3,000 บาท รับเซอร์ไพรส์ส่วนลดทันที 1,000 บาท 

 

และทุกการช้อปครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมมากมาย เช่น  บริการชุดไทยเอาใจขาช้อปสายโซเชียล หรือเลือกเติมความสดชื่นกับไอศกรีมสามมิติ “Flower of Dawn” ลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณฯ สุดชิค

 

 ห้ามพลาด !! นักช้อปสามารถรับสิทธิ์ “นวดไทยฟรี” เมื่อช้อปสินค้าในแผนกผลิตภัณฑ์ของไทยหรือ Thai Product ครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ 

 

บรรดาขาช้อปนักเดินทางทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมคิง เพาเวอร์ พร้อมทำให้ทุกอย่าง “เป็น ไป ได้” ให้แต่ละคนได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ช้อปเซอร์ไพรส์สุด ๆ แบบจัดเต็มต่อเนื่อง 3 วัน ระหว่าง 24 - 26 พฤศจิกายน 2566 แวะมาได้เลยที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ 

 

สามารถตรวจสอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพียง Add LINE Official Account: @KINGPOWER หรือช้อปผ่านช่องทาง CALL TO SHOP เพียงโทร.02-338-7870 และ CHAT TO SHOP เพียง Add LINE Official Account: @KP_ChatToShop 

 

ข่าวที่ 2 ร่วมสนุกkingpowerFBลุ้นรับฟรีบัตรมอเตอร์โชว์

 

คิง เพาเวอร์ จัดกิจกรรมให้นักช้อปร่วม ลุ้นรับฟรี  10 รางวัล รางวัลละ 2 ใบ ผ่านช่องทาง kingpower facebook แจกบัตรเข้างานมอเตอร์ โชว์ 2566 ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่าง วันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2566 ทุกคนสามารถร่วมสนุกกับคิง เพาเวอร์ ได้ตั้งแต่วันนี้- 29 พฤศจิกายน 2566 แล้วรอฟังประกาศผลผู้โชคดี 30 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น.

 

กติกาง่ายมากเพียงแชร์ “ภาพโมเมนต์เที่ยวสนุกกับทริปที่ใช่ของคุณ” แล้วคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าว อย่าลืม !! บอกเหตุผลความประทับใจ ก่อน LIKE&SHARE โพสต์นี้ พร้อมกับตั้งค่าเป็นสาธารณะ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้สนุกด้วย

           

ข่าวที่ 3 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับ2สิทธิใหม่ช้อปคุ้ม

 

สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับทันที “ 2 สิทธิประโยชน์ใหม่” จัดใหญ่จัดแรงให้ได้รับความสุขแบบคุ้มค่าจริง เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ หรือ ช้อปแล้วจ่ายเงินผ่านบัตรร่วมของพันธมิตร ดังนี้

 

สิทธิประโยชน์ใหม่แบบที่ 1  “ช้อปด้วยบัตรเดบิต JOURNEY” ที่คิง เพาเวอร์ ให้สุดยิ่งกว่า เมื่อช้อปขั้นต่ำ 5,000 บาท/ครั้ง รับเงินคืนรัว  ๆ ครั้งละ 100 บาท ช้อปปุ๊ปรับเงินคืน (Cashback) ได้เลย แถมไม่ต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยาก สมัครง่ายๆ ผ่าน K PLUS แล้วรอรับบัตรส่งตรงถึงที่ภายใน 7 วัน สมัครได้ตั้งแต่วันนี้- 31 ธันวาคม 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ สาขาในเมือง รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต  และ 2 สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ กับดอนเมือง

           

สิทธิประโยชน์ใหม่แบบที่ 2 คิง เพาเวอร์ร่วมกับแอปพลิเคชั่นโรบินฮู้ด  เพียงจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักต่างประเทศทาง Robinhood Application ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2567 รับสุดเอ็กซ์คลูซีฟสิทธิ์สมัครสมาชิก SCARLET ที่จุดบริการ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รับทันที 3 อย่าง 1.ดีลราคาสมาชิกสุดพิเศษ 2.บัตรกำนัลหรือกิฟท์การ์ดมูลค่า 5,000 บาท 3.คูปองส่วนลด 20% อีก 1 ใบ

 

ข่าวที่ 4 ททท.ร่วมฑูตไทยทั่วโลกทำตลาดท่องเที่ยวปี’67

  

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้นำเสนอแผนตลาดการท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2567 ให้ทางเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ของไทยกว่า 97 คน ที่เดินทางมาร่วมประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ของกระทรวงการต่างประเทศประจำปี 2566 โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โดยได้ใช้โอกาสระหว่างขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ “แผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและความคาดหวังจากบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ”  

 

ททท.ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเป็นกำลังสำคัญช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการขยายตลาดในต่างประเทศทั่วโลกให้สอดคล้องกับแผนการท่องเที่ยวปี 2567   ซึ่งสามารถผนึกความร่วมมือกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 6 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1 ช่วยกระตุ้นการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามายังเมืองไทย สร้างเม็ดเงินกระจายสู่พื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง

 

เรื่องที่ 2 สนับสนุนการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ด้วยการรักษาเสถียรภาพ และเพิ่มศักยภาพการเดินทางระหว่างประเทศ

เรื่องที่ 3 แนะนำกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่สอดคล้องตามพฤติกรรมของนักท่อเที่ยวในแต่ละตลาด เพื่อนำรายได้เข้าประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

 

เรื่องที่ 4 ประสานการขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวไทย ผ่านพันธมิตร ที่มีศักภาพและคุณภาพ กลุ่มใหม่ ๆ เช่น พ่อค้า นักธุรกิจ นักลงทุน กลุ่มผู้มีอิทธิพลต่อนักเดินทางในแต่ละประเทศหรือ influencer

 

เรื่องที่ 5 ร่วมมือส่งเสริมมาตรการที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ (ease of travelling) ให้หันมาเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางการพักผ่อนและท่องเที่ยวต่อเนื่องทั้งปัจจุบันและอนาคต

 

เรื่องที่ 6  ส่งเสริมภาพลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย ซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญด้านการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ด้วย

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ ย้ำว่า หลังเสร็จสิ้นการปาฐกถาก็ยังได้ร่วมพูดคุยหารือกับเอกอัครราชฑูต กงศล พร้อมทั้งแชร์ข้อมูลกับประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางขับเคลื่อนตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเป้าหมายของรัฐบาลไทยต่อไป เพื่อจะได้สร้างรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกปี 2567 จากตลาดต่างประเทศรวมทั้งสิ้นจะให้ได้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาทขึ้นไป

 

ข่าวที่ 5 กลุ่มบางจากคว้า4รางวัลSETAwards2023เด่นยั่งยืน

  

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า กลุ่มบริษัทบางจากสามารถคว้า 4 รางวัลแห่งปี สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทย SET Awards 2023 โดยได้รับรางวัลสูงสุด 2 ด้าน คือ ด้านการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Excellence - Best Sustainability Award) และด้านความเป็นเลิศในการดำเนินงานธุรกิจ (Business Excellence - Best Investor Relations Award)  โดยมี ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบรางวัล ในงานประกาศผลรางวัล SET Awards 2023 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร

นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับ รางวัล Sustainability Awards of Honor รางวัลเกียรติยศสูงสุดในกลุ่ม Sustainability Excellence ต่อเนื่องปีที่ 4 (เป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่เคยได้รับรางวัล Best Sustainability Awards ติดต่อกันตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป) และได้รับรางวัล Best Sustainability Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ก่อนหน้านี้ บางจากฯได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ระดับ “AAA” (คะแนนรวม 90-100) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร (Resources) จากประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings 2023

 

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม หรือ Best Investor Relations Awards ในกลุ่ม Business Excellence สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด สูงกว่า10,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท จากความโดดเด่นในการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ต่างๆ

 

นายก้องเกียรติ กาญจนพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี  บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือบางจาก รับรางวัลในกลุ่ม  Business Excellence ประเภท นักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น (Outstanding Investor Relations Award) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า10,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีไอ จำกัด (มหาชน) ในเครือบางจาก รับมอบรางวัล Commended Sustainability Awards กลุ่ม Sustainability Excellence ซึ่งนับเป็นการได้รับรางวัลครั้งแรก หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว 

 

รางวัล SET Awards 2023 ทั้ง 4 รางวัลสะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในกลุ่มบริษัทบางจากในการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดำเนินงานตามแนวทาง ESG คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้านเพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตควบคู่กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีกิจกรรมและบริหารงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ที่สามารถสร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้อย่างดีเยี่ยม

 

            ช่วงที่ 2 หนาวนี้เที่ยวอีสานก็สุขได้ที่ “โคราช” วันเดียวเที่ยว 4 อำเภอ ได้ครบถึง 5 พิกัด สถานีรถไฟสูงเนิน พระนอวัดธรรมเสมา อุทยานนักรบไทย ปราสาทพนมวัน อ่างเก็บน้ำเขายายเที่ยง เควสตา ตามด้วย “ดื่มน้ำทางเลือก” สายสุขภาพ อัพเดทข่าวดี ๆ ข่าวแรก “AOTจ่อขึ้นค่า PSCผู้โดยสาร” ทุกสนามบิน 1 เม.ย.67 ข่าวที่สอง “การบินไทย” ร่วมวงซอฟท์เพาเวอร์ ThaiSELECT

 

ท่องเที่ยว –สุขที่เที่ยวโคราช4อำเภอสูงเนิน/โชคชัย/เมือง/สีคิ้ว

 

1.สถานีรถไฟสูงเนิน I 2.พระนอนหินทรายทวารดีวัดธรรมเสมา อ.สูงเนิน I 3.อุทยานนักรบไทย อ.โชคชัย I 4.ปราสาทพันปีพนมวัน อ.เมือง I 5.อ่างพักน้ำเขายายเที่ยง เทือกเขาเควสต้า อ.สีคิ้ว

 

สุขทันทีที่ได้ท่องเที่ยวเมืองไทยไป “เมืองจีโอพาร์ค 3 มรดกโลก : Triple Heritage City” นครราชสีมา 

วันเดียวเที่ยวครบ 4 อำเภอ 5 พิกัด ออกจากกรุงเทพฯ ราว 7.30 น.ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง ไปถึงจุดหมายเมืองย่าโมเวลาราว ๆ  10.30 น.

 

จุดแรกที่ “อำเภอสูงเนิน” มีสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงบ่งบอกถึงความประวัติศาสตร์เข้าถึงได้ง่ายมาก   2 พิกัด

 

พิกัดที่ 1 “อนุสรณ์สถานสถานีรถไฟสูงเนิน” สายแรกของเมืองไทย ให้บริการ ไป-กลับ กรุงเทพน-นครราชสีมา ระยะทางกว่า 265 กิโลเมตร สร้างโดย “นายจี.มูเร แคมป์เบลล์” ชาวอังกฤษ เมื่อ 9 มีนาคม 2434 – 21 ธันวาคม 2443 ขณะนี้ได้รับการอนุรักษ์ปรับปรุงเป็นแหล่ง ศึกษาประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยว สวนสุขภาพ และพิพิธภัณฑ์นำเสนอวิถีชีวิตของชาวอำเภอสูงเนิน รวมทั้งได้นำเรือนไม้โบราณระเบียงเดินถึงกันได้ 3 หลัง ภายในบอกเล่าเนื้อหาอธิบายไว้รายละเอียดไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จมายังสถานีรถไฟแห่งนี้ พร้อมเรื่องเล่าที่น่าสนใจอีกหลายส่วนด้วยกัน

 

พิกัดที่ 2 “วัดธรรมจักรเสมาราม” ภายในวัดแห่งนี้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบทวารวดีผสมกับศิลปะพื้นเมืองอายุกว่า 1,300 ปี มีไฮไลต์ที่สายมูต้องมาสักการะเยี่ยมชม “พระพุทธไสยาสน์” เป็นพระนอนหินทรายอายุเก่ามีใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างด้วยหินทรายแดงขนาดใหญ่หลายก้อนวางเรียงร้อยสวยงาม ตั้งอยู่ในเรือนเปิดโล่ง บรรยากาศภายในเงียบสงบ อยู่ใจกลางชุมชนเมืองเก่า นักท่องเที่ยวสายศิลปะวัฒนธรรมต้องไปเยือนสักครั้ง จะสัมผัสได้ถึงคุณค่าที่มีมานานนับพันปี

 

จุดที่ 2 “อำเภอโชคชัย” ออกจากอำเภอสูงเนินเดินทางต่อไปเพิ่มความรู้และประสบการณ์ที่อุทยานประวัติศาสตร์นักรบไทย พร้อมกับเรื่องราวอันทรงพลังต้องเดินทางมาชมด้วยตนเองคือ

 

พิกัดที่ 3  “มูลนิธินักรบไทย ไทรทองเทพนิมิต”   มีอีกหนึ่งสถานที่ต้องแวะสักการะพระบรมรูปวีรกษัตริย์ 3 พระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา ในพื้นที่ติดถนนใหญ่กว่า 300 ไร่ ได้ชื่อว่าเป็น “อุทยานประวัติศาสตร์นักรบไทย”   สร้างขึ้นเมื่อปี 2547 แล้ว ค่อย ๆ ขยายพื้นที่ โดยมีเทวาลัย พิพิธภัณฑ์สะสมกรุพระโบราณ

 

 

ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการ “ศึกษาประวัติศาสตร์” ปลูกจิตสำนึกให้คนไทยได้มีโอกาสถวายกตัญญูตาสักการะวีรกษัตริย์ไทย โดยได้ประดิษฐาน พระบรมรูปวีรกษัตริย์ 3 พระองค์ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระสุพรรณกัลยา โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2547

 

“มูลนิธินักรบไทย” ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ มีพระราชประสงค์ให้พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์และภริยา คุณกุลิสรา บุญทับ วางแผนงานและผู้ควบคุมการจัดสร้างอนุสรณ์สถานเทวาลัย ไทรทองเทพนิมิต ขึ้นเพื่อถวายกตัญญุตา สักการะดวงพระวิญญาณทั้ง 3 พระองค์ ร่วมรำลึกชัยชนะการกระทำยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้กอบกู้ชาติไทย

การท่องเที่ยวตลอดช่วงเช้าที่สูงเนินกับโชคชัย 3 พิกัดแรก ใช้เวลา รวม ๆ ราว 3 ชั่วโมง

 

“มื้อเที่ยง” แนะนำแวะรับประทานอาหารที่ร้าน “ขนมจีนประโดก ครูยอด” เป็นร้านรางวัลมิชลิน บิ๊บกูร์มองด์ ซึ่งมี “ครูยอด” อดีตอาจารย์สอนดนตรี ผู้อนุรักษ์ดนตรีและอาหารท้องถิ่น เปิดบริการมากว่า 20 ปี  นำเสนอเมนูยอดนิยม “ขนมจีนกับเซ็ตสารพัดแกงโฮมเมด” กินคู่กับปีกไก่หมักน้ำปลาทอดกรอบเป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลยทีเดียว

 

จุดที่ 3 อำเภอเมือง หลังจากเติมพลังเรียบร้อยแล้วช่วงบ่าย 3 เดินทางเข้าตัวเมืองนครราชสีมา มีไฮไลต์รวมอยู่ในเส้นทาง “โคราชจีโอพาร์ค” ต้องห้ามพลาด 1 พิกัด

 

            พิกัดที่ 4 “ปราสาทพนมวัน” อายุนับพันปีเป็นปราสาทหินขนาดใหญ่อันดับ 5 ของเมืองไทยสร้างขึ้นครั้งแรกพุทธศตวรรษที่ 15 เป็นปรางค์อิฐ และถูกสร้างทับใหม่เป็นปรางค์หินทราย ในพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 ถือเป็นสิ่งบ่งบอกได้ว่าคนโบราณรู้จักเลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้าง ส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว และหินทรายสีแดง

 

            จุดที่ 4 อำเภอสีคิ้ว จุดหมายปลายทางธรรมชาติ มีไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวมาแรงชมพระอาทิตย์ตก อีก 1 พิกัด

 

            พิกัดที่ 5 “อ่างเก็บน้ำตอนบนเขายายเที่ยง โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา” เป็นไฮไลต์จุดชมวิวดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าผ่านเทือกเขาเควสตา หรือเขารูปมีดอีโต้ลดระดับลงสู่ลำตะคอง สถานที่ยอดนิยม มีวิวถ่ายรูปสวย ๆ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ สามารถปั่นจักรยาน นั่งรถกอล์ฟ ที่มีบริการ ขึ้นไปยังสันเขื่อนของโรงไฟฟ้าแล้วถ่ายความงามของดวงอาทิตย์ไล่โทนเฉดสีแดงแสดส้มเหลืองเข้มอ่อนพร้อมแสงเงาสวยเกินบรรยาย บวกกับมีลมพัดเย็นสบายยามเย็นจนถึงค่ำ

 

หลัง 3 ทุ่ม นักท่องเที่ยวทยอยลงจาก เพื่อแยกย้ายกันกลับลงมาพักผ่อนยังโรงแรมตามพื้นที่ต่าง ๆ ในนครราชสีมา

 

            สุขทันทีที่ได้เที่ยวเมือง 3 มรดกโลก “ วันเดียวครบ 4 อำเภอ 5 พิกัด ตลอดเส้นทาง “โคราชจีโอพาร์ค” จังหวัดเดียวในเมืองไทย

 

สุขภาพ –"น้ำดื่มทางเลือก"ตามสภาวะเพื่อคนรักสุขภาพ

           

การดื่มน้ำถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญกับคนเรา วันนี้มีข้อมูลมาบอกกันถึง “น้ำดื่มทางเลือก” หรือ "Infused Water" สำหรับสายสุขภาพ ซึ่งในทางการแพทย์แล้ว ให้ดื่มตามสภาวะของร่างกายได้ด้วย แต่จะต้องไม่ผสมน้ำตาลลงไป โดยมีน้ำดื่มทางเลือกที่เหมาะกับสภาวะของร่างกายดังนี้

 

1.ตัวบวม ระบบปัสสาวะมีปัญหา - ดื่มชากระเจี๊ยบ

2.อาการร้อนใน - ดื่มน้ำใบบัวบก

3.ลดอาการไข้ - ดื่มน้ำซาวข้าว

4.แก้อาการท้องอืด - ดื่มน้ำขิง

5.นอนไม่หลับ - ดื่มชาคาโมมายล์

6.ลดไขมัน - ดื่มชาดอกคำฝอย

 

ข้อดีของการดื่ม "น้ำ" ให้เพียงพอ นั่นก็คือ เมื่อร่างกายได้รับ "น้ำ" ในปริมาณที่เพียงพอจะมีเรื่องดี ๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น น้ำเป็นตัวช่วยในการไหลเวียนของเลือด ทำให้ระบบเลือดทำงานได้ดียิ่งขึ้น และน้ำยังช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ขับของเสียออกจากร่างกายได้ และยังช่วยลดโอกาสการเกิดนิ่ว หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ แล้วน้ำยังมีสรรพคุณเพื่อความงาม โดยช่วยลดความเหี่ยวย่นลง ทำให้ผิวพรรณและใบหน้าเต่งตึง พร้อมทั้งยังทำให้ภูมิต้านทานแข็งแรงอีกด้วย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก – AOTจ่อขึ้นค่าPSCผู้โดยสารขาออกเริ่ม1เม.ย.67

 

AOT เดินหน้าขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร PSC ขาออก “ในประเทศและต่างประเทศ” เริ่ม 1 เม.ย.2567  บินในประเทศจ่าย 130 บาท/คน/ครั้ง ต่างประเทศ 730 บาท/คน/ครั้ง

 

 

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า   AOT เตรียมจะขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges: PSC) เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป กับผู้โดยสารขาออกทั้งต่างประเทศและในประเทศอีกคนละ 30 บาท/ครั้ง แบ่งเป็น “ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ”   คนละ 730 บาท/ครั้ง จากปัจจุบันคนละ 700 บาท/ครั้ง และ “ผู้โดยสารขาออกในประเทศ” เป็นคนละ 130 บาท/ครั้ง จากปัจจุบันคนละ100 บาท/ครั้ง

 

เนื่องจาก AOT ได้นําระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing Systems: CUPPS) มาให้บริการตามท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความปลอดภัย มากขึ้น สอดคล้องกับมติที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ได้กำหนดนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศในการนำเทคโนโลยีระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) มาใช้ในสนามบินเพื่อให้บริการแก่สาธารณะ ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล

 

ปัจจุบัน AOT มีบริการระบบ CUPPS ติดตั้งอุปกรณ์อัตโนมัติใหม่ จึงส่งผลให้เกิดต้นทุนค่าบริการเพิ่มขึ้น  โดยมีอุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายในสนามบินทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่

 

ส่วนที่ 1 บริการตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Terminal Equipment: CUTE) นำเข้ามาช่วยยกระดับบริการเคาน์เตอร์เช็กอินให้ผู้โดยสารได้รับบริการบนมาตรฐานเดียวกันกับสนามบินระดับสากล (

 

ส่วนที่ 2  บริการเช็กอินด้วยตัวเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารไม่ต้องรอแถวและเช็กอินล่วงหน้าได้ก่อนเดินทาง  6 – 12 ชั่วโมง ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน)

ส่วนที่ 3  บริการรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) ให้ผู้โดยสารสามารถโหลดสัมภาระได้ด้วยตนเอง  

 

ดร.กีรติ ยืนยันว่า กระบวนการพิจารณาปรับปรุงค่า PSC ดังกล่าว AOT ได้เสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุมัติเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับวิธีเรียกเก็บค่าบริการระบบ CUPPS ซึ่ง กพท.พิจารณาแล้วเห็นว่าจะเรียกเก็บจากผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ใช้บริการระบบ CUPPS รวมทั้งค่าบริการดังกล่าวเกี่ยวกับการบิน (Aeronautical charges) ดังนั้น AOT จึงควรนำค่าบริการ CUPPS มาคำนวณรวมเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของค่า PSC ตามมาตรา 56 (1) แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศฯ เพื่อให้ถูกต้องตามประเภทของค่าบริการและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในบริการต่างๆ ที่สนามบินจัดทำขึ้น

 

เพื่อเรียกเก็บค่าบริการจากผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ใช้ประโยชน์ ตามวัตถุประสงค์การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินตามความในมาตรา 60/37 เป็นเจตนารมณ์สำคัญที่ผู้ดำเนินงานสนามบินอนุญาตที่ให้บริการแก่สาธารณะสามารถเรียกเก็บค่า PSC ได้ และอัตราที่จัดเก็บเพิ่มก็ได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

 

ดร.กีรติ กล่าวว่ารายได้จากการจัดเก็บค่า PSC ตามกฎหมายกำหนดให้ผู้บริหารท่าอากาศยานนำไปใช้พัฒนา จัดหาและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และการบำรุงรักษาด้านความปลอดภัยท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งพัฒนาด้านเทคโนโลยีในท่าอากาศยานทุกแห่ง จะเกิดประโยชน์ต่อผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัย ความสะดวกสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นำมาให้บริการ

 

ข่าวที่สอง -บินไทย-2องค์กรดันซอฟท์เพาเวอร์ThaiSELECT

 

การบินไทยแท็กทีม 2 องค์กร “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ-ททท.” ดันซอฟท์ เพาเวอร์อาหารและร้านไทยภายใต้ตรา Thai SELECT ผนวกจุดขายการค้าและท่องเที่ยวไทยนำผงาดในตลาดโลก

 

 

 นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 2 องค์กร คือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชื่อมโยงการค้ากับการท่องเที่ยว  พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารไทยและร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT  โดยได้รับเกียรติจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการบินไทย เข้าร่วมด้วย

 

กิจกรรมนี้มีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ร่วมลงนามข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากทั้งการบินไทยและพันธมิตรมุ่งเน้นบูรณาการการทำงานการสื่อสารสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย ส่งเสริมการตลาด เชื่อมโยงระหว่างการค้ากับการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ

 

ระหว่างลงนามได้จัดบูธประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะการบินไทยจับมือกับผู้ประกอบการในประเทศนำเสนอสินค้าเชิงคุณภาพ เช่น  กาแฟ Black Silk Blend สูตรพิเศษมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จากโครงการพัฒนาดอยตุง กระเป๋าพร้อมชุดสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทางหรือ Amenity Kit จากแบรนด์จิม ทอมป์สัน ชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย และช็อกโกแลตสัญชาติไทยจากแบรนด์กานเวลา

 

ทั้งนี้การบินไทย ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ต้องการตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญที่จะสนับสนุน ส่งเสริม เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยมีช่องทางการพัฒนาตลาด ขับเคลื่อนธุรกิจอยู่บนระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างแข็งแกร่งยั่งยืนเติบโตไปด้วยกัน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.