TCEBส่งท้ายปี’66เร่งจัดเพิ่ม4บิ๊กอีเวนต์โลก
ICCAแจ้งเกิดปฎิญญากรุงเทพอาหารยั่งยืน
โร้ดโชว์จีนอานิสงแรง5งานใหญ่เฮจัดในไทย
ช้อปคิงเพาเวอร์กิฟท์เซตแบรนด์/ลุ้นบินฟรี
คิงเพาเวอร์ผนึกบัตรเครดิตแจกเงินคืน18%
เฟิร์สเตอร์บายคิงเพาเวอร์ลดเบอร์ใหญ่15%
“สุดาวรรณ”ถกยูนานดึงจีนทัวร์รถยนต์/รถไฟ
บางจาก2แชมป์หุ้นยั่งยืนSET ESG/CGR5ดาว
ลอยกระทงกทม./อยุธยา/สระบุรี6พิกัดเด่น
7 วิธีง่ายและดีรู้ไว้เตรียมพร้อมรับมือหน้าหนาวปีนี้
AOTแจกสิทธิ์แอร์ไลน์เพิ่มรับวีซ่าฟรีดันการบินโต
ททท.18แห่งร่วมขายไทยแลนด์การ์ดเป้าหมื่นล้าน
วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #BangkokPledgeOnGastronomySustainabilitybyICCA #KoratExpo2029 #ลอยกระทง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/onYRrEfaJQ/?mibextid=Nif5oz
ช่วงที่
1 เร่งเครื่องไมซ์ท้ายปีกับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ
อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/ทีเส็บ” ตุนรายได้ 4 บิ๊กอีเวนต์ อีเวนต์แรก“ICCA” โกย 4 ความสำเร็จ แจ้งเกิดปฏิญญา ปฏิญญากรุงเทพฯ
เพื่อการจัดการอาหารอย่างยั่งยืน : Bangkok Pledge on gastronomy
sustainability by ICCA” อีเวนต์ 2 อานิสง
“โร้ดโชว์จีน” เฮมาไทย 5 งาน 1. China-ASEAN Fair 2. Green Technology Expo 3.Quanzhou Premium Maritime Exhibition 4. CAC Asia Summit 5. China Machinery and Intelligent Manufacturing Brand Show อีเวนต์ 3 ลุยต่อประมูลงาน Korat Expo 2029 :
มหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2572” ลุ้น มี.ค.67 อีเวนต์ 4 AFECA Annual General Meeting 2023 ช่วง 21-23 พ.ย.นี้ ทำเงิน 2,000
ล้าน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/ทีเส็บ” เปิดเผยว่าหลังเสร็จสิ้นเจ้าภาพจัดประชุมสมาชิก ICCA Congress 2023 สมาคมหลักด้านการประชุมนานาชาติของโลก จัดตั้งมากว่า 60 ปี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุม ปัจจุบันมีสมาชิก 91 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ เลือกไทยเป็นสถานที่จัดงานระหว่าง 12-15 พฤศจิกายน 2566 ที่กรุงเทพฯ โดยมีผู้เชี่ยวชาญ ธุรกิจโรงแรม ศูนย์ประชุมนานาชาติ ผู้รับผิดชอบการจัดไมซ์ระดับโลก เดินทางเข้าร่วมงานกว่า 1,100 คน ทำสถิติสูงที่สุดในเอเชีย แปซิฟิก ปี 2565 จัดที่โปแลนด์เข้าร่วมเพียง 900 ราย
สำหรับงาน ICCA
Congress 2023 จัดเป็นครั้งที่ 62 และในไทยเวียนมาจัดเป็นครั้งที่
3 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ICCA Congress 2023’
legacy - Bangkok Pledge on gastronomy sustainability by
ICCA
คุณประโยชน์ต่อเนื่องหรือ legacy จัดทำร่าง “ปฏิญญากรุงเทพฯ เพื่อการจัดการอาหารอย่างยั่งยืน : Bangkok Pledge on gastronomy sustainability by ICCA“ ทาง ICCAจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการปี 2567 ซึ่งมีรายละเอียดเรื่องลดคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ ใช้วิธีต่อยอดการจัดการอาหารตามแนวทางของงานครั้งนี้ออกแบบเมนู จัดหาวัตถุดิบ และจัดการการสิ้นเปลืองด้านอาหาร ตลอดงานได้รับความร่วมมือจาก องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) “อบก.” กระทรวงมหาดไทย (มท.) และบริษัทผู้เชี่ยวชาญการคำนวณเรื่องคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ซึ่งเป็นครั้งแรกสามารถจัดได้
ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากงาน ICCA ต่อเนื่องในอนาคตทางด้านตลาดไมซ์ ได้แก่
ส่วนที่
1
ผู้เข้าร่วมงานเป็นระดับซีอีโอและผู้มีบทบาทในสมาคมใหญ่ ๆ อย่าง สมาคมแพทย์
สมาคมวิจัย แต่ละคนมีเครือข่ายลูกค้าอยู่ในมือคนละกว่า 10,000 ราย
ส่วนที่
2
เป็นโชว์เคสให้ไทยได้แสดงศักยภาพของศูนย์ประชุมนานาชาติที่มีอยู่ทั้ง
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์นิทรรศการแสดงสินค้าไบเทค และอื่น ๆ
จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกัน
ส่วนที่
3 ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองใช้บริการระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางบก
และทางน้ำ สามารถเข้าถึงสถานที่ตามความสนใจและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ส่วนที่
4 ได้กลุ่มใหม่ ๆ
ระหว่างประเทศหลังโควิดสงบลงตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจซึ่งสนใจเมืองไทยเพิ่มขึ้นทั้งสมาคมพลังงาน
เครื่องมือทางการแพทย์ และอื่น ๆ มองหาสถานที่จัดงานพุ่งเป้ามายังประเทศแถบเอเชีย
ไทยมีโอกาสมากกว่าเพราะเปิดประเทศก่อนและเร็วกว่าชาติอื่น ๆ
นายจิรุตถ์กล่าวว่าอีกงานไมซ์ระดับโลกคือ
ทีเส็บเป็นผู้ประสานงาน “การประมูลสิทธิ์การจัดงาน Korat
Expo 2029 : มหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ. 2572” หลังจาก “อุดรธานี” ประสบความสาเร็จได้รับสิทธิ์จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก
ระดับ B ปี 2569 : Udon Thani Expo 2026 จากคณะกรรมการพืชสวนระหว่างประเทศ หรือ AIPH เจ้าของสิทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้ “นครราชสีมา” ในนามประเทศไทยกำลังยื่นประมูลสิทธิ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก
ประเภทงาน A1
ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ เมื่อปี
2549 ต่อคณะกรรมการ AIPH กำหนดจะจัดปี 2572
ประเทศไทยเสนอ
“อำเภอคง” จังหวัดนครราชสีมา เป็นสถานที่จัด Korat
Expo 2029 ใน ธีม“Nature and Greenery : Envision
the green future”
ที่ตอบโจทย์เรื่องความสาคัญของพืชสวน ด้านความมั่นคงทางอาหาร
และการพัฒนาเกษตรยั่งยืน
ตามแผนเตรียมความพร้อมช่วง
3 เดือน ระหว่างธันวาคม 2566 – กุมภาพันธ์
2567 ทางกรม
วิชาการเกษตร
และสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกทั่วโลกกว่า 30
ประเทศ 42 องค์กร
หากไทยได้รับสิทธิ์จาก AIPH ให้จัดงานระดับ A1 ขั้นตอนต่อไปจะนำเสนอสมาชิก BIE รับรองอย่างเป็นทางการ
สำหรับ
“ขั้นตอนยื่นประมูลสิทธิ์” ของไทยเริ่มเมื่อกันยายน 2566
โดยได้ยื่นเอกสารพร้อมชำระค่าธรรมเนียมสมัคร (Application
Fee) เรียบร้อยแล้ว โดยมีคณะกรรมการ AIPH เดินทางลงสารวจพื้นที่
(Site
Inspection) และร่วมประชุมกับจังหวัดนครราชสีมา
โดยมีทีเส็บนำเสนอข้อมูลความพร้อมด้านต่าง ๆ ต่อด้วยปลายเดือนกันยายนได้แนะนำเมือง
(City Introduction) ต่อสมาชิก AIPH แล้วเช่นกัน
ที่เมืองชุนชอน เกาหลี โดยจะจัด Korat Expo 2029 ในธีม“Nature
and Greenery : Envision the green future” ตอบโจทย์เรื่องความสำคัญของพืชสวนด้านความมั่นคงทางอาหาร
และการพัฒนาเกษตรยั่งยืน
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวไทยอาจจะมีคู่แข่งจาก
“เมืองมินนิโซต้า”
สหรัฐอเมริกายื่นเจตจำนงจะเสนอประมูลสิทธิ์ปีเดียวกัน เพียงแต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารประมูลสิทธิ์ตามที่
AIPH กำหนดไว้ (คาดอาจจะยื่นในเดือนมกราคม
2567 ก็ได้
สำหรับในไทยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอหนังสือสนับสนุนต่อ
“นายกรัฐมนตรี” เพื่อลงนามก่อนจะนำส่ง AIPH โดยเร็วที่สุด
เพื่อสร้างความมั่นใจและแสดงถึงความพร้อมในการจัดงานของประเทศไทย
แล้วต้นเดือนมีนาคม
2567 ไทยจะต้องนำเสนอความพร้อมระดับประเทศ (Country Presentation) ต่อสมาชิก AIPH เพื่อจะลงคะแนนเลือกแล้ววันถัดไปก็จะประกาศชื่อประเทศเจ้าภาพที่จะจัดงานพืชสวนโลก
ปี 2572
นายจิรุตถ์กล่าวว่าหากอำเภอคง
นครราชสีมา มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงาน Korat Expo 2029
หลังจากคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแล้วเห็นศักยภาพที่จะจัดงานได้
โดยมีคำท้วงติงเรื่องหลักคือ “ระบบคมนาคม” ในพื้นที่
ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมายืนยันปี 2569 มอเตอร์เวย์สเปิดใช้งานได้แล้ว
กับกระทรวงคมนาคมตอบเรื่องระบบบริการรถไฟ
ควบคู่กับการเรื่องความพร้อมด้านที่พักซึ่งอำเภอคงอยู่ใกล้เขาใหญ่ กับบุรีรัมย์
ตอนนี้จะต้องทำการบ้านเพื่อหาข้อมูลไปตอบสมาชิก AIPH ในเดือนมีนาคมปีหน้า พร้อมกับประเมินแนวทางของคู่แข่งจากประเทศอื่นด้วย
ส่วนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยในตลาดโลก
ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
ทีเส็บได้อานิสงจากการไปโร้ดโชว์สาธารณรัฐประชาชนจีนช่วงกันยายน ล่าสุดมีกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
หรือ I : Incentive จีนมาใช้บริการสวนนงนุชจำนวนรวมกว่า 10,000
คน โดยจะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ส่วน Lead จัดประชุมและอินเซนทีฟ
ทั้ง MI หรือ Meeting &
Incentive ให้องค์กรคอร์ปอเรตขนาดใหญ่แต่ละครั้งจำนวนมากถึง 55,000
คน มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ยุโรป ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566
จะมีกรุ๊ปอินเซนทีฟยืนยันเดินทางมาไทยแล้วเกิน 35,000 คน
ทั้งนี้ทีเส็บได้รับการสนับสนุนหลังโร้ดโชว์จากรัฐบาลจีนกำหนดนำงานสำคัญ 5 งานเข้าจัดในไทย โดย
CCPIT นำธุรกิจไมซ์เลือกมาจัดในไทยรวม 18,000 ตารางเมตร 5 งาน ได้แก่ 1. China-ASEAN (Thailand)
Commodity Fair 2. Green Technology Expo
3. งานภาษาจีน 泉州优品海丝行(泰国站)展览会 ส่วนภาษาอังกฤษยังไม่ได้เป็นทางการอาจใช้ชื่อ
Quanzhou Premium Maritime Silk Road (Thailand Station) Exhibition 4. CAC Asia Summit และ 5. China Machinery and Intelligent Manufacturing Brand Show
(Thailand)
นายจิรุตถ์กล่าวว่า จะมีเพิ่มมาจัดในไทยรายการใหญ่อีกงานคือ AFECA Annual General Meeting 2023 จะจัดระหว่าง 21 - 23 พฤศจิกายน 2566 เป็นการจัดประชุมสามัญประจำปีของสมาพันธ์สมาคมงานแสดงสินค้าและการประชุมแห่งเอเชีย มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ จากทั่วเอเชีย 16 ประเทศ 150 องค์กร เข้าร่วมประชุมมากกว่า 200 ราย ในไทย 50 ราย คาดจะสร้างมูลค่าการจัดงานไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
คาดไทยจะประโยชน์จากการจัดงานไมซ์รายการนี้ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องที่ 1 ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยได้มีเวทีเจรจา แลกเปลี่ยน ต่อยอดธุรกิจ ร่วมกับผู้นำในอุตสาหกรรมงานประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติ (Convex :Convention & Exhibition) เรื่องที่ 2 ประเทศไทยได้แสดงศักยภาพเป็นการจัดงานประชุมระดับสากลแสดงถึงความพร้อมเป็นจุดหมายปลายทางจัดงานแสดงสินค้า และงานไมซ์อื่น ๆ
เรื่องที่ 3 สร้างความประทับใจให้ผู้นำระดับภูมิภาคเอเชียในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าและงานประชุมที่เข้าร่วมงาน เพื่อเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการทั่วทั้งเอเชียรับรู้ถึงความพร้อมและศักยภาพการของไทย เป็นอีกช่องทางการประชาสัมพันธ์ประเทศในวงกว้างไปยังกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจในการนำงานแสดงสินค้า การประชุม มาจัดในไทย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 ช้อปคิงเพาเวอร์กิฟท์เซตแบรนด์/ลุ้นบินฟรี
“คิงเพาเวอร์
ดิวตี้ฟรี” หรือ TRAVEL RETAIL กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากร ช้อปทุกความเป็นไปได้
ต่อยอดแรงบันดาลใจ สู่โลกกว้างกว่าที่เคย เพราะการช้อปปิ้งช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทาง
จึงได้รวบรวมสินค้าแบรนด์ดัง ทั้งคอลเลคชั่นยอดฮิตและรุ่นลิมิเตดจากทุกมุมโลกมาให้เพลิดเพลินเดือนพฤศจิกายนนี้
2 กิจกรรม
กิจกรรมแรก
จัด “INSPIRING
SAVING HOLIDAY GIFT” คัดสินค้าพิเศษต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปี
มาให้ช้อปผ่านทางออนไลน์คลิกเลือกได้ที่ www.kingpower.com
เริ่มตั้งแต่วันนี้- 30 พฤศจิกายน 2566 ส่งต่อช่วงเวลาแห่งความสุขก่อนหยุดยาว
โดยได้นำ “กิฟท์เซ็ต/ GIFTSET” มาให้เลือกซื้อฝากเป็นของขวัญคนพิเศษ กับแบรนด์ดังทั้งน้ำหอมเครื่องสำอาง จะซื้อไว้ใช้เองหรือให้เป็นของขวัญก็มีความสุข เสร็จเรียบร้อยแล้วรอรับของที่สนามบินได้ทั้งขาเข้าและขาออกทุกทริปการเดินทาง
กิจกรรมที่สอง
“สมัครฟิน บินฟรี! ท่องเที่ยวต่างประเทศ” ครั้งเดียวในรอบปี เพียงสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ONYX
และเติมเงินไว้ใช้ช้อป 150,000
บาท วันนี้-30
พฤศจิกายน 2566 ได้สุดพิเศษ! แพ็กเกจท่องเที่ยว
เมืองฉางซา-จางเจียเจี้ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ช้อปก่อนมีสิทธิ์ก่อน แพกเกจมีจำนวนจำกัด
แล้วยังได้สิทธิ์ส่วนลดทุกการช้อปอีก 15% สมัครได้ที่จุดบริการสมาชิก คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ผนึกบัตรเครดิตแจกเงินคืน18 %
คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษสุดๆ !! ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2566 เมื่อช้อปสินค้าคิง เพาเวอร์ และร้านต่าง ๆ
ในเครือ แล้วจ่ายผ่าน “บัตรเครดิต” ธนาคารและสถาบันการเงินที่พันธมิตร
ให้นักช้อปรับเงินคืนสูงสุดได้ถึง 18 %
ทันทีที่มีตั๋วเครื่องพร้อมจะบินต่างประเทศช่วงสิ้นปี 2566 รีบวางแผนช้อปเลยได้ที่ทั้ง คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพื่อรับสิทธิ์คืนคุ้มเป็นเครดิตเงินคืนสูงสุด 18% หรือแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน
ช้อปทุกช่องทางที่ “คิง
เพาเวอร์” รับ 4
สิทธิ์แบบง่ายตามกติกาได้ดังนี้ 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด
10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด
11,000 บาท 3.เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ห้ามพลาดรับส่วนลด
200 บาท
4.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท
(สุทธิ)
ข่าวที่
3 เฟิร์สเตอร์บายคิงเพาเวอร์ลดเบอร์ใหญ่15%
คิง
เพาเวอร์ แนะนำเลือกซื้อสินค้าได้ที่กลุ่มค้าปลีก/RETAIL “FIRSTER By King Power”
ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2566 ช้อปไม่ต้องมีขั้นต่ำลด
10 % และช้อปมีขั้นต่ำ
3,000 บาท/ใบเสร็จ
ลดทันที 15 % ช้อปทุกความเป็นไปได้ 3
ช่องทาง คือ 1.คิง
เพาเวอร์ มหานคร 2.สยามสแควร์
ซอย 7
หรือ 3.ช้อปออนไลน์ สนุกกับเพิ่มประสบการณ์ใหม่
ๆ โดยไม่ต้องมีไฟลต์บิน ละลานตากับสินค้าไม่ได้อยู่ในร้านดิวตี้ฟรี (Non-Duty Free)
ซึ่ง “คิง เพาเวอร์”
สามารถคัดมาให้ช้อปได้กับแบรนด์บิวตี้และไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกของไทยและต่างประเทศกว่า
650
แบรนด์ สินค้า 90,000
รายการ กับเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์เฉพาะที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้นอีก 8
แบรนด์ ได้แก่ Amuse,
Balmain Paris Hair Couture, Beigic, Chantecaille, Culti Milano, Hince, Verso
Skincare และ Woods Copenhagen
และ “เป็น ไป ได้” ยิ่งกว่าเมื่อช้อป “FIRSTER By King Power”
ทุกไอเทมเรียบร้อยแล้ว รอรับสินค้าซึ่งมีบริการ Wส่งตรง” ให้ถึง “ที่พักหรือโรงแรม”ในไทยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างสะดวก
ส่วนคนไทยช้อปแล้วถือกลับบ้านไปได้เลย
ข่าวที่
4 สุดาวรรณถกยูนานดึงจีนทัวร์รถยนต์/รถไฟ
รมว.สุดาวรรณ
นำ ททท.ใช้เวทีร่วมงานใหญ่ Hello!China “Yunnan
Night Cultural & Tourism Promotion Festival”
หารือนอกรอบรัฐบาลท้องถิ่นยูนาน คุนหมิง หนุนจีนเที่ยวไทยทางรถยนต์ รถไฟ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
นำทีมผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กับคณะเดินทางเข้าร่วมงาน Hello! China
“Yunnan Night Cultural & Tourism Promotion Festival” ที่โรงแรมคุนหมิง
อินเตอร์เนชั่นแนล ไชน่า มีโอกาสได้พบกับคณะผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลมณฑลยูนนาน
สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงานส่งเสริมการขายรายการใหญ่ที่สุดของจีนคือ
CITM : China
International Travel Mart 2023 ระหว่างวันที่
14-16 พฤศจิกายน 2566
ซึ่งมีเอกชนท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมเจรจาการซื้อขายท่องเที่ยวกับคู่ค้าของจีนด้วย
ระหว่างงานมีโอกาสพบปะร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับมณฑลยูนาน
คุนหมิง เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลสาธารณัฐประชาชนจีน 3 เรื่อง
ได้แก่ เรื่องแรก แนวทางส่งเสริมพัฒนานักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเติบโตทั้งจำนวนคนและรายได้
เรื่องที่ 2 ความคืบหน้าการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่
เรื่องที่ 3 การเปิดบริการเดินรถไฟความเร็วสูงรวมทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมอื่น
ๆ
รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า
การพูดคุยกันทั้ง 3 เรื่อง
มีความสำคัญเพราะจะเป็นโอกาสทางการท่องเที่ยวของไทยในการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเป็นอย่างมาก
ได้ขยายช่องทางจากเครื่องบินทางอากาศที่มีอยู่แล้ว โดยเพิ่มวิธีเดินทางทางบกหรือทางถนนด้วยคารวานรถยนต์และรถไฟความเร็วสูงได้ด้วย
ปัจจุบันจีนเชื่อมการเดินทางมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่าน สสป.ลาว สู่หนองคาย
กระจายสู่จังหวัดอื่น ๆ และทางภาคเหนือก็สามารถขับรถจากจีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยได้เช่นกัน
ซึ่งแต่ละท้องถิ่นที่จีนขับรถท่องเที่ยวจะสามารถนำเสนอสินค้าช่วยเพิ่มรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในอนาคต
ขณะนี้ไทยพร้อมนำเสนอศักยภาพด้านการพัฒนาระบบบริการคมนาคมโลจิสติกส์รองรับการเดินทางทั้งทางอากาศ
ทางบก/ถนน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างไทย-จีน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งการส่งเสริมและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยได้อย่างสะดวกสบายเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น
บวกกับสร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสสินค้าและบริการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของไทย
สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน
โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่หรือมิลเลนเนียลทั่วโลกหันมาสนใจให้ความสำคัญกับการเดินทางด้วยประสบการณ์อย่างมีคุณค่าและความหมาย
พร้อมจะใช้โอกาสในแต่ละการเดินทางมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นด้วย
ข่าวที่
5 บางจากคว้า2แชมป์หุ้นยั่งยืนSET ESG/CGR5ดาว
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) รายงานว่า ในประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี
2566 ประเมินในรูปแบบเรตติ้งเป็นปีแรก
โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศให้ “บางจาก” ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET
ESG Rating ระดับ “AAA” (คะแนนรวม
90-100) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร
(Resources) สะท้อนให้เห็นถึงการกำกับดูแลกิจการได้อย่างดีเยี่ยมตามที่บริษัทได้คำนึงถึงผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย
รวมทั้งมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนทั้งทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แบบครบวงจร
ผลการประเมิน SET ESG Ratings โดยบางจากอยู่ที่ระดับ
“AAA” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ESG
Leader และสะท้อนความสำเร็จด้านพัฒนานวัตกรรมธุรกิจควบคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม
การบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างครอบคลุม
รวมทั้งยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบโดยให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลด้านต่าง
ๆ สร้างองค์กรเติบโตยั่งยืนตามวิสัยของบริษัทโดย
“รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว”
รวมถึงบางจากฯ
ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยหรือ CGR 5 ดาว
ระดับ “ดีเลิศ” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD) และการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น AGM Checklist ระดับเกณฑ์สูงสุด
ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน (5 เหรียญ)
จากส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) เป็นหนึ่งใน 60 บริษัทจดทะเบียนที่สามารถทำคะแนนเต็มได้รับทั้ง
5 ดาว และ 5 เหรียญ
จากทั้งหมด 800 บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้บางจากได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในดัชนี
Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือรายชื่อหุ้นยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนับตั้งแต่ริเริ่มจัดทำดัชนีมาตั้งแต่ปี 2558
เป็นปีที่ 9
ในฐานะหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
มีความรับผิดชอบต่อสังคม และบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล หรือ ESG : Environmental, Social
and Governance เป็นส่วนสำคัญควบคู่กับการดำเนินธุรกิจเพื่อพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน
ช่วงที่ 2 พร้อมเที่ยวไทยไปงาน “ลอยกระทง” ร่วมประเพณีวิถีไทยในกรุงเทพฯ 4 พิกัด คลองผดุง ไอคอนสยาม ริมเจ้าพระยา 10 แห่ง
และปริมณฑลอีก 2 พิกัด “พระนครศรีอยุธยา” ลอยตาลปัตร
“สระบุรี” ลอยที่ตลาดน้ำแบบวิถีไท-ยวน ตอนนี้อากาศเย็นลงแล้วฟัง “7วิธี” รับมือหน้าหนาวปีนี้ พร้อมข่าวเด่น ๆ ข่าวแรก “AOTแจกสิทธิ์แอร์ไลน์สรับวีซ่าฟรี” เพิ่ม 2
เรื่องยาวถึง 31 มี.ค.66 ข่าวที่สอง
“ททท.ต่างประเทศ18 สำนักงาน” ร่วมขายบัตรไทยแลนด์
พริวิเลจการ์ด ปี67 หวังรายได้เพิ่ม 10,000 ล้าน
ท่องเที่ยว
–ลอยกระทงกทม./อยุธยา/สระบุรี6พิกัดเด่น
ใกล้เทศกาลเที่ยวงานประเพณีวิถีไทย “ลอยกระทง”
คืนเพ็ญเดือนสิบสอง ในกรุงเทพมหานคร แนะนำพื้นที่ติดแม่น้ำลำคลอง
และพื้นที่ใกล้กรุงต้อง พระนครอยุธยา กับสระบุรี
พิกัดที่ 1 “คลองผดุงกรุงเกษม” 24-27 พฤศจิกายน 2566 ชมแสงสีเสียงตระการ
ผสมผสาน ความทันสมัยของสื่อผสม และเทคโนโลยี ชวนร่วมประสบการณ์ AmazingExperience
มอบความสุขและคุณค่าใหม่ประเพณีลอยกระทงใส่ใจสิ่งแวดล้อม
พิกัดที่
2 ไอคอนสยาม กับธีม ICONSIAM
CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY ลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง 27 พฤศจิกายน 2566 เปิดระเบียง ริเวอร์พาร์ค
ริมเจ้าพระยา ให้สถานฑูตต่างประเทศในไทยนำแรงบันดาลใจตามอัตลักษณ์มาออกร้านขายกระทงจากวัสดุธรรมชาติ พร้อมโชว์เคสให้ชมลอยกระทงตามอัตลักษณ์ไทย
5พื้นที่ ยี่เป็งเชียงใหม่ เผาเทียนเล่นไฟสุโขทัย ลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จังหวัดตาก
ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลองสมุทรสงครามและประเพณี สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป
จังหวัดร้อยเอ็ด
ตลอดงานเปิดให้ร่วมตกแต่งกระทงจากวัสดุธรรมชาติ
200 ใบ เพลิดเพลินกับการแสดงมินิคอนเสิร์ต
“ตั๊กแตน ชลดา” ชมขบวนแห่นางนพมาศ จากดารานักแสดงสวย ๆ ไป
พิกัดที่ 4 Bangkok River
Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย วันที่ 25-27 พฤศจิกายน เลือกแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
มาให้เลือก 10 พื้นที่ ได้แก่
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
ท่ามหาราช ท่ายอดพิมาน ล้ง 1919 สุขสยาม
และเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
ส่วนรอบปริมณฑล ร่วมลอยกระทงแบบง่าย ๆ
สบาย ๆ สไตล์เมืองเก่า และวิถีชุมชน ได้อีก 2 พิกัด
พิกัดที่
5 “พระนครศรีอยุธยา”
ร่วมลอยกระทงตาลปัตร 27 พฤศจิกายน ที่วัดสามเรือน อ.บางปะอิน ไปขอพรผ่านอุโมงค์บุญ
ชมนิทรรศการและชมวิถีจ้าลอง ดูการแสดงอาบน้ำคืนเพ็ญ การแสดงเพลงเรือรำวงย้อนยุค การประกวดตกแต่งเรือสวยงามสาธิตประดิษฐ์กระทงจากต้นตาลปัตร
และประกวดหนูน้อยนพมาศ
พิกัดที่
6 “สระบุรี” ตื่นตาสนุกสนานไปกับงานลอยกระทงสืบสานและส่งเสริมประเพณียี่เป็ง
ไท-ยวน ประจำปี 2566
องค์การบริหารส่วนต้าบลดาวเรือง 27 พฤศจิกายน ที่บริเวณบึงป่าสัก (ตลาดน้ำดาวเรือง)
อ.เมือง
เดินชมตลาดน้ำช้อปสินค้าพื้นบ้านไท-ยวน ชมสาธิตการประดิษฐ์กระทงด้วยวัสดุธรรมชาติ ตื่นตากับแสดงศิลปวัฒนธรรม
ต่างๆ ของชาวไท-ยวน
เตรียมเลือกทำเล “ลอยกระทง” เหมาะ ๆ
ร่วมเที่ยวเมืองไทยอย่างสบายกาย สบายใจ 6 พิกัด ได้เลย
สุขภาพ
–7 วิธีเตรียมพร้อมรับมือหน้าหนาวปีนี้
หน้าหนาวเป็นฤดูที่สำคัญ
ทุกๆคนควรดูแลสุขภาพกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง เพราะอากาศที่เย็นและชื้นจะทำให้ร่างกายเกิดปัญหาด้านผิวพรรณ
และการเจ็บป่วยได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด
ไข้หวัดใหญ่และโรคต่างๆอีกมากมายที่มากับหน้าหนาว
ดังนั้นทางที่ดีเราก็ควรจะเตรียมตัวรับมือกับฤดูหนาวเพื่อให้มีสุขภาพดี
ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วย 7 ข้อปฏิบัติดี ๆ ดังนี้
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
2.เลือกรับประทานวิตามินเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
3.เลือกเครื่องดื่มซึ่งมีคุณสมบัติให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
4.ต้องทำให้มือและเท้าต้องอุ่นไว้ก่อนเสมอ
5.หมั่นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
6.ไม่อาบน้ำอุ่นจัดและนานเกินไป
7.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หน้าหนาวปีนี้อย่าลืมมาดูแลสุขภาพ
เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและมีผิวพรรณที่ดี สุขกาย สุขใจ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
– AOTแจกสิทธิ์แอร์ไลน์เพิ่มรับวีซ่าฟรีดันการบินโต
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด) บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (AOC : Airlines Operation Committee) ถึงการสนองนโยบายรัฐบาลเรื่องวีซ่าฟรี
รวมถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ให้สนามบินเข้าร่วมสนับสนุนวีซ่าฟรี ระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 กับนักเดินทาง 4 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน คาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน ล่าสุด AOT
จึงได้จัดทำโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินหรือ Performance-Based Incentive Scheme เพิ่มเติมให้สายการบินต่าง
ๆ ที่บินขึ้น-ลงตามท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง
เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและกระตุ้นสายการบินเพิ่มปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ซึ่งจะให้สิทธิเพิ่มกับเที่ยวบิน 3 แบบ ได้แก่
1.แบบประจำระหว่างประเทศ (International
Scheduled Flight) 2.เที่ยวบินพิเศษ (Extra
Flight) และ 3.แบบไม่ประจำหรือเช่าเหมาลำระหว่างประเทศ
(Charter Flight)
ได้รับสิทธิเพิ่มเริ่มตลอดฤดูการบินฤดูหนาวตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 31 มีนาคม
2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน ตามเกณฑ์ 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ให้ส่วนลดสายการบินที่สามารถเพิ่มเที่ยวบินนอกเหนือจากจำนวนเที่ยวบินของสายการบินตนเองตามตารางการบินที่ได้รับอนุมัติตั้งแต่
8 กันยายน 2566
ส่วนที่ 2
สายการบินจะได้รับส่วนลดจากสนามบินเรื่องค่าบริการขึ้น-ลง 175 บาท
การเพิ่มผู้โดยสาร 1 คน ทั้งนี้ ส่วนลดค่าบริการจะต้องไม่เกิน 75 % ของค่าบริการขึ้นลงยังสนามบินด้วยเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
นายศิโรฒน์กล่าวว่า AOT ให้สิทธิสายการบินเพิ่มเติมต่อจากเดิมช่วงสถานการณ์โควิด-19 ปี
2562 เป็นต้นมาส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรมการบินภาพรวม
ทั้งต่อจำนวนผู้โดยสารและปริมาณเที่ยวบินลดลง จึงได้ทำโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินให้สายการบินที่เปิดเส้นทางการบินใหม่
(New Routes to Airlines) มายังท่าอากาศยาน ทอท.
ทั้ง 6 แห่ง เพื่อส่งเสริมสร้างเครือข่ายการบิน
และเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ตัดสินใจเปิดบริการเส้นทางใหม่และฟื้นอุตสาหกรรมการบินให้เร็วขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้สิทธิ์สายการบินต่าง ๆ ระหว่าง1 พฤศจิกายน 2566-31
ตุลาคม 2568 ไว้ 2 ส่วน เช่นกันคือ
ส่วนแรก ให้ส่วนลดสายการบินในเส้นทางการบินใหม่
เมื่อเปรียบเทียบกับเส้นทางการบินของสายการบินตนเอง ที่เคยบินช่วง1 พฤศจิกายน 2560
-31 ตุลาคม 2562
ส่วนที่สอง สายการบินจะต้องทำการบินหลังวันเริ่มตารางการบินฤดูหนาว
2023 แล้วต้องเป็นเที่ยวบินแบบประจำระหว่างประเทศและภายในประเทศ
รวมทั้งเที่ยวบินพิเศษที่ขนส่งผู้โดยสาร (Passenger Flight) เท่านั้น
นายศิโรตม์ กล่าวว่า ขณะนี้สนามบินในสังกัด AOT
ทุกแห่งพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวโดยได้ประสานข้อมูลกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวเพื่อเตรียมความพร้อม
ทั้งด้านบุคลากร สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในสนามบินพื้นที่ส่วน Landside และ Airside รองรับผู้โดยสารผ่านเข้า-ออก
ได้รับความสะดวก รวดเร็วที่สุด โดยมาตรการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน
ทั้งผู้ใช้บริการ ประชาชน อุตสาหกรรมการบิน
ตลอดจนการท่องเที่ยวจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยแล้วยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถทอท.
เพื่อมุ่งสู่การเป็นสนามบินชั้นนำระดับโลกอย่างยั่งยืนได้ด้วย
นายธีระ บัวศรี ประธาน AOC กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนสายการบินที่ทำการบินในไทย ขอขอบคุณ
รัฐบาล และ ทอท.อย่างยิ่งที่ทำโครงการกระตุ้นการตลาดการบินครั้งนี้
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสายการบิน ทาง AOC หวังให้มาตรการที่ได้รับจะส่งผลทำให้ไทยมีปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น
กระตุ้นให้อุตสาหกรรมการบินของประเทศกลับมามีเสถียรภาพเทียบเท่าหรือมากกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดังนั้นจะเร่งพิจารณานำมาตรการรายละเอียดทั้งหมดของ AOT ดำเนินการต่อไป
ข่าวที่สอง
-ททท.18แห่งร่วมขายบัตรไทยแลนด์การ์ดเป้าหมื่นล้าน
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า เป็นประธานประชุม ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก 16 สำนักงาน
กับ ซีอีโอ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (TPC : Thailand Privilege Card) เจ้าของโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ
“ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด”
เพื่อร่วมกันหารือถึงการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ไปใช้พัฒนาประชาสัมพันธ์ทำตลาดท่องเที่ยวเชิงรุกเนื่องจากทีพีซีอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ
ททท. ปีงบประมาณ 2567 จะต้องปรับโฉมองค์กรใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ขึ้นเป็น
“ผู้นำระดับโลก” ให้บริการด้านสิทธิพิเศษแก่บุคคลสำคัญเพื่อการพำนักระยะยาวในประเทศไทย
หวังดึงรายได้เข้าประเทศกว่า 10,000
ล้านบาท
โดยนำร่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์บัตร “Thailand
Privilege Card” ให้สมาชิกแต่ละคน
4 แพคเกจใหม่ ประกอบด้วย บัตรโกลด์ อายุ 5 ปี
ราคาสมาชิก 900,000 บาท/คน
บัตรแพลทินัม อายุ 10 ปี ราคา 1,500,000
บาท/คน บัตรไดมอนด์ อายุ 15 ปี
ราคา 2,500,000 บาท/คน และ บัตร Reserve อายุ 20++ ปี ราคา
5,000,000 บาท/คน สมาชิกบัตรแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิพิเศษ
ได้แก่ 1.วีซ่าระยะยาว 2.บริการช่องเข้า-ออก ประเทศ
ที่สนามบินนานาชาติของไทย (Airport VIP Services) และบริการไลฟ์สไตล์อื่น ๆ
ตั้งเป้ารุกขยายตลาดลูกค้าเป้าหมายเป็นนักเดินทางต่างชาติเข้าออกเมืองไทย
5 กลุ่มหลัก
ได้แก่ 1.Affluent
Travelers 2.นักธุรกิจรุ่นใหม่/Entrepreneurs 3.นักลงทุน/Investors 4.คนวัยเกษียณ/Retirees
5.ต่างชาติพำนักอยู่ในไทย/Expats 6.คนทำงานด้วยดิจิทัล/Digital
Nomads ชูจุดขายภายใต้แนวคิด Freedom of
Choices วางกลยุทธ์บุกตลาดหลัก สาธารณรัฐประชาชนจีน
ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ทีพีซีเป็นบริษัทลูก
ททท. ถือหุ้น 100 % มีศักยภาพทำรายได้ทางการท่องเที่ยวให้ประเทศ
โดยจะใช้ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ตามนโยบายรัฐบาล จึงได้ให้ความสำคัญเรื่องส่งเสริมการขายบัตร
ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์บัตร เพิ่มช่องทาง ททท. ส่งเสริมการขายตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพกระจายในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น