ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ยุโรปปี67ตั้งเป้า4ทวีปเที่ยวไทย8ล้านคน


นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร 

รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ททท.ทำสำเร็จWTM2023ใส่เกียร์เร่งตลาดไกล4ทวีป

ปี’67รุกเบอร์ใหญ่แผนAirlines&Sustainable Tourism

ข่าวดี!!บริติแอร์/EVAรอบินเพิ่มไทยเข้าเป้า8ล้านคน

พูลแมนคิงเพาเวอร์ฉลองเทนโก๊ะ5ปีโอมากาเสะญี่ปุ่น

สมัครเลย!!สมาชิกคิงเพาเวอร์รับ2คูปองลดเยอะ20%

ททท.นำท่องเที่ยวพัทยา/ชลบุรีปี’67โกย2.7แสนล้าน

บางจากผนึก2แบรนด์243สาขาชูโครงการทอดไม่ทิ้ง

สุขทันทีเที่ยวลอยกระทงทั่วไทยใน5อัตลักษณ์5พิกัด

วิธีเลือกยาทาแก้ปวดเมื่อยอย่างไรดี แบบเย็น/ร้อน

บางกอกแอร์ไตรมาส3ปี66ปลื้มสุดกำไรพุ่ง582.4%

“ดูไบ”ยูเออีตีปีกจีนแห่เที่ยว8เดือนปี66โตแรง309%

วันอาทิตย์ที่  19 พฤศจิกายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #บางจาก #TATEurop  #ลอยกระทง #ซอฟท์เพาเวอร์ #ศิริปกรณ์เชี่ยวสมุทร

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/ophcUcAOwY/?mibextid=Nif5oz

ช่วงที่ 1 ใส่เกียร์แรงกับ “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใช้ WTM 2023 รุกตลาดปี’67 ทุ่มทำ 2 เป้าใหญ่ 1.Airlines Focus กอดคอแอร์ไลน์ส 4 ทวีปเปิดบินตรงเพิ่มความถี่ทุกจุด ต้นปีหน้า บริติชแอร์เวย์สกลับมาบินเข้าไทย EVA เตรียมขยับเป็น 2 เที่ยว/วัน ไทยแจ้งเกิดเทรนด์เที่ยวยั่งยืนปั้นทองธุรกิจ DMC สถิติทัวร์ข้ามทวีป 10เดือนแรก ปี’66 มาไทยใกล้ 7 ล้านคน ปี’67 ตั้งเป้าทะลุ 8 ล้านคน

 


นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ความสำเร็จของไทยในงาน WTM :World Travel Market 2023 ทุกแห่งเริ่มกลับมาจัดเต็มร้อยแล้ โดยเฉพาะไทยเป็นประเทศที่เข้าร่วมงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 42 รวมถึงเปิด ททท.สำนักงานลอนดอนเป็นอันดับ 2 ในต่างประเทศ เพราะให้ความสำคัญกับตลาดยุโรปสูงมาก ผนวกกับมีทั้งกลุ่มคู่ค้าตัวแทนผู้ซื้อจากทั่วโลกมีทั้งนัดหมายและวอล์คอินตอนเอกชนไทยมีช่วงว่างอยู่อย่างไม่ขาดสายตลอดงาน

 

สอดคล้องกับแผนการตลาดนักท่องเที่ยวจะต้องอยู่นานวันและใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย สถิติมีนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (longhaul) ทั้ง 4 ทวีป เดินทางเที่ยวเมืองไทยสะสม 10 เดือน 12 วัน ระหว่าง 1 มกราคม – 12 พฤศจิกายน 2566 จำนวนรวมทั้งสิ้น 6,669,720 คน จากสหภาพยุโรป 4,788,587 คน อเมริกา 1,017,762 คน ตะวันออกกลาง 767,344 คน และแอฟริกา 96,027 คน

 

ในภาพรวมปี 2566 ททท.ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศไว้รวมทั้งสิ้น 25-28 ล้านคน จะต้องเป็นตลาดระยะไกล/longhaul 8 ล้านคน ตอนนี้ 10 เดือนเศษ มาแล้ว 6.7 ล้านคน มั่นใจสิ้นปีนี้สามารถทำจำนวนได้เข้าเป้าอย่างแน่นอน 8 ล้านคน รวมทั้งยังใช้จ่ายเงินสูงขึ้น ต่อเนื่องถึงปี 2567 จะทำได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมโดยใช้เงินเพิ่มขึ้น พร้อมกับจำนวนคนก็จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญด้วย

ส่วนความสำเร็จของ ททท.กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เดินทางไปร่วมส่งเสริมการขายและทำตลาดเชิงรุกในงาน WTM 2023 ปูพรมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในตลาดระยะไกลได้ประโยชน์เพิ่ม 4 เรื่อง ได้แก่

เรื่องที่ 1 ปี 2566 ททท.ลงทุนขยาย “พื้นที่คูหาประเทศไทย” เพิ่มเป็น 450 จากเดิม 420 ตารางเมตร ต่อยอดนำเสนอท่องเที่ยวยั่งยืน Sustainable Management ในคูหาประเทศไทย โชว์ผลงานออกแบบตกแต่งโดยการนำวัสดุใช้แล้วจากงาน WTM 2022 เมื่อพฤศจิกายน 2565 งาน ITB 2023 เบอร์ลินเดือนมีนาคม 2566 กลับมาใช้ใหม่อีกครั้งใน WTM 2023 เมื่อ 6-8 พฤศจิกายน 2566 ตอกย้ำให้คู่ค้าทั่วโลกเชื่อมั่นถึงการลงมือทำอย่างจริงจังของ ททท.และประเทศไทยด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมนำการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

เรื่องที่ 2 ได้รับความสนใจเพิ่มจากผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 30 % โดยมี “ผู้ประกอบการ” เป็นตัวแทนการขายท่องเที่ยวไทยไปร่วมงาน 38 ราย โดยมีโรงแรมบริษัทจัดนำเที่ยวกลุ่มใหม่เข้ามาเสริมทัพ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการจัดเส้นทางกับโปรแกรมท่องเที่ยวเมืองไทยหรือ  DMC :Destination Management Company ซึ่งนับจากนี้ไปจะเป็นเทรนด์สำคัญมากตลาดระยะไกลต้องการใช้บริการสูง บ่งบอกถึง “โอกาส” ร่วมมือกับทางโรงแรมสามารถดีลจองห้องพักโดยตรงได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง จึงตอบโจทย์ทัวร์โอเปอเรเตอร์ประเทศระยะไกลข้ามทวีป (longhaul)

รวมถึงต้องการบริษัท DMC หลังสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเสี่ยงหลายอย่างซึ่งมีโอกาสผิดพลาดทั้งเรื่องการจองห้องพัก โปรแกรมท่องเที่ยว ดังนั้นจึงต้องการพึ่งพาบริการจาก DMC เข้ามาดูแลช่วยจัดการทุกปัญหาอย่างเป็นระบบไม่ว่าเกิดเหตุใด ๆ ขึ้นก็ตาม จะมีคนเจรจาเลื่อนและจัดทำให้ทุกการเดินทางสะดวกราบรื่นได้ ลักษณะจะคล้ายกับการทำประกันที่ต้องมีตัวแทนเข้ามาดูแลจัดการสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้ทั้งหมด

                เรื่องที่ 3 จำนวนนัดหมายระหว่างผู้ขายของไทยกับคู่ค้าต่างประเทศมีสูงมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ระหว่าง 6-8 พฤศจิกายน 2566 ทำให้เกิดการเซนต์สัญญาใหม่ขึ้นทันทีกว่า 45 % เพื่อจองใช้ห้องพักและบริษัทจัดการนำเที่ยว ถือเป็นผลตอบแทนการลงทุนทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน

                เรื่องที่ 4 ผู้ประกอบการไทยได้พิสูจน์ถึงเกณฑ์มาตรฐานการทำธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีโอกาสได้นำเสนอการจัดการพลังงาน ไฟฟ้า ระบบน้ำใช้ และอื่น ๆ ภายในโรงแรม ร้านอาหาร และบริษัทจัดการนำเที่ยวของตนเอง ซึ่งทุกฝ่ายเดินมาถูกทางตอบโจทย์เรื่องการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมของประเทศ และตอบสนองผู้บริโภคที่กำลังมองหาสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้

 


                นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ททท.ได้ใช้เวทีจับคู่ธุรกิจงาน WTM 2023 มองหาตลาดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มหรือ Segmentation เพิ่ม 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้สูงวัยเกษียณอายุแล้วแต่ยังแข็งแรงมีเงินบำนาญเลี้ยงดูที่เรียกว่า Senior Active เป็นนักเดินทางที่มองหาความสะดวกสบายด้านที่พักมีทางลาดและบริการเข้าถึงง่ายอื่น ๆ กลุ่มนี้มีเงินและเวลาพร้อมไปพักผ่อนยาว ๆ ได้ โดยเฉพาะช่วงอากาศในบ้านเมืองตนเองอากาศหนาว ค่าไฟฟ้าแพง จะหันมามองอาหาแหล่งท่องเที่ยวอากาศอบอุ่นซึ่งไทยเป็นทางเลือกที่ดีอบอุ่นทั้งอากาศและมิตรภาพ

ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการในไทยผู้ให้บริการที่พักโรงแรม ร้านอาหาร หันกลับไปริเริ่มทำอย่างจริงจังคือ

1.พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มซีเนียร์ แอคทีฟ ที่พร้อมใช้เงินจ่ายค่าบริการสูงเป็นกลุ่มคุณภาพ

2.เทรนด์ของโลกโดยเฉพาะในสหภาพยุโรปมีกฎหมายนำมาตรการความยั่งยืนเข้ามาพิจารณาตลอดการเดินทาง เรื่องมาตรฐานสีเขียวและการบริหารอย่างยั่งยืน (Green and Sustainable Management) ไม่ว่าจะเป็น ระบบห้องพัก คมนาคมขนส่ง/โลจิสติกส์ อาหาร และการจัดการต่าง ๆ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะต้องพิสูจน์ด้วยการปรับตัว ง่ายสุดคือหาหลังพิงมาตรฐานที่มีอยู่แล้ว ตามที่ ททท.ได้ทำ 7 Green รวมทั้งขยับเพิ่มเป็น Carbon Neutral Tourism การท่องเที่ยวนำไปสู่ เป็นกลางคาร์บอน

ตลอดห่วงโซ่การเดินทางจะต้องสามารถหักออกได้ด้วย Carbon Credit ซึ่งเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกับท้องถิ่นนำวัตถุดิบมาทำอาหารเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก รวบรวมได้ว่าเป็นโรงแรมที่บริหารจัดการที่พัก อาหาร ลดการสร้างขยะให้เป็นศูนย์ได้ หรือน้ำสามารถนำกลับมาใช้เป็นพลังงานความร้อน บำรุงรักษาสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นเรื่องอนาคตต้องเริ่มทำให้เร็วที่สุด ซึ่ง ททท.กำลังทำ STGs :Sustainable Tourism Goals ล้อไปกับแผนปฏิบัติการโลกยั่งยืน SDGs : Sustainable Development Goals ขององค์การสหประชาชาติ แล้ว ททท.ยังทำงานร่วมกับองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA)

 กลุ่มที่ 2 ตลาดท่องเที่ยวคนวัยทำงานรุ่นใหม่ หรือ Mellenial เป็นกลุ่มนักเดินทางมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่ละกลุ่มจะต่างกันไป เช่น เพิ่งจบมหาวิทยาลัยเข้าทำงานจะมองหาการท่องเที่ยวเชิงบำเพ็ญประโยชน์ หรือ Voluntourism มาเที่ยวแล้วสร้างคุณค่าในสังคม ทำกิจกรรมเป็นประโยชน์ร่วมกับชาวบ้านในแต่ละชุมชน

นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ททท.ใช้แผนความร่วมมือทางการบิน Airlines Focus เป็นเครื่องมือหลักเพิ่มตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล เนื่องจากต้องพึ่งพาการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นหลัก โดยมีสายการบินทยอยกลับมาบินไป-กลับ ต้นทางสู่ประเทศไทยแล้วเกินกว่า 80 % ของปี 2562 ช่วงตารางบินฤดูหนาวปี 2566/2567 เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2566 สายการบินจากทวีปไกลส่วนใหญ่มียอดจองตั๋วโดยสารเกิน 80 % และมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเข้าไทยเฉลี่ย 95 % ขึ้นไป จึงทำให้ “เที่ยวบินไม่เพียงพอ” เป็นโอกาสที่ได้เห็นสายการบินเร่งทำ 3 เรื่อง คือ 1.เพิ่มความถี่เที่ยวบิน 2.เลือกใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มที่นั่งแต่ละเที่ยวบิน 3.เปิดจุดบินใหม่

 

ขณะนี้ตลาดสหราชอาณาจักร สายการบินบริติช แอร์เวย์ส กำลังพิจารณากลับมาบินประจำ ระหว่างอังกฤษ-ไทย อีกครั้ง รวมถึงการบินไทย และ EVA ไต้หวัน กำลังหารือกันเพื่อเพิ่มเที่ยวบินจากยุโรปเข้าไทยเป็นวันละ 2 เที่ยว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสของการท่องเที่ยวไทย ททท.กับทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำให้เป็นจริงที่จะเพิ่มนักท่องเที่ยวซึ่งกำลังมีความต้องการเป็นจำนวนมาก

 

ขณะนี้สายการบินนานาชาติในยุโรปเร่งปรับกลยุทธ์ “บินตรง” เข้าแต่ละจังหวัดในไทยมากขึ้น เช่น กรุงเทพฯ อู่ตะเภา ภูเก็ต เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะไม่ต้องการรอเวลาต่อเนื่องนาน ๆ อีกต่อไป

 

นายศิริปกรณ์ กล่าวว่าตามนโยบายของนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ ททท.เดินหน้าด้วย 5 New 6 แนวทาง นั้นสอดคล้องกับแผนการตลาดปี 2567 ของ ททท.เน้นทำคู่กัน 2 ส่วน คือ

 

ส่วนที่ 1 High Value เพิ่มรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง โดยลงมือทำทันทีทั้งเพิ่มคุณค่าและมูลค่า ค่าใช้จ่าย ความประทับใจ โดยใช้ 2 คำ คือ Airlines Focus & Sustainable Tourism หากนักท่องเที่ยวอยากมาก็ต้องมีเที่ยวบินตรงเข้ามาได้ ตัวอย่าง สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส (SAS) กลับมาบินกรุงเทพฯ แล้ว

 

ส่วนที่ 2 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism ชูการเดินหน้าทำเป็น Hub & Hook พัฒนาเที่ยวเมืองหลักเป็นศูนย์กลางแล้วกระจายไปยังเมืองท่องเที่ยวรองให้ได้มากที่สุด

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 พูลแมนคิงเพาเวอร์ฉลองเทนโก๊ะ5ปีโอมากาเสะญี่ปุ่น

 

“โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ” ซอยรางน้ำ ชวนฉลองครบรอบ 5 ปี ที่ห้องอาหาร “เท็นโกะ” เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 17 ธันวาคม 2566 มอบความเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเมนูโอมากาเสะ 16 รายการ คิวชู โนะ ทาคาระหาคำตอบได้จากรายการวัตถุดิบพิเศษกับ “เชฟไดสุเกะ นิชิมูระ”  นักปรุงและออกแบบอาหารมืออาชีพได้คัดสรรสิ่งที่ดีเกาะคิวชูญี่ปุ่นลัดฟ้ามาปรุงให้รับประทานถึงกรุงเทพฯ

พบไฮไลต์วัตถุดิบความอร่อย 5 อย่าง ได้แก่ อย่างที่ 1 เนื้อปูทาเคะซะกิ ขึ้นชื่อของจังหวัดซะกะ  อย่างที่ 2 หอยเชลล์และคาเวียร์ มาไกลจากฮอกไกโด อย่างที่ 3 รากบัวมัสตาร์ดเลื่องชื่อของ คุมาโมโตะ อย่างที่ 4 ปลาทะเลสดใหม่เมืองนางาซากิ อย่างที่  5.สตรอว์เบอร์รีหวานฉ่ำเมืองฟุกุโอกะ และอีกมากมายหลากหลายเมนูอร่อย แฟนคลับอาหารญี่ปุนสำรองที่นั่งด่วน  สอบถามและสำรองที่นั่ง โทร.02-680-9999

 

ข่าวที่ 2 สมัครเลย!!สมาชิกคิงเพาเวอร์รับ2คูปองลดเยอะ20%

 

สิ้นปีนี้! สมัครสมาชิกที่สนามบิน รับทันทีคูปองส่วนลด เริ่มตั้งแต่วันนี้ ข้ามปีไปจนถึง 1 มกราคม 2567  

 

1.สมัคร SCARLET และเติมเงินไว้ใช้ช้อป 20,000 บาท รับคูปองส่วนลด 20% x 2 ใบ

 

ใบที่ 1 สำหรับซื้อสินค้า 1 ชิ้น ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา

 

ใบที่ 2 สำหรับซื้อสินค้า 1 ชิ้น ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

 

พร้อมกับรับส่วนลดทุกการช้อป 10% และรับฟรี! 50 กะรัต* ทันทีที่สมัคร

 

2.สมัคร NAVY และเติมเงินไว้ใช้ช้อป 1,000 บาท รับคูปองส่วนลด 10% สำหรับซื้อสินค้า 1 ชิ้น รับส่วนลดทุกการช้อป 5% รับฟรี! 50 กะรัต ทันทีที่สมัคร

           

สมัครง่าย 2 ช่องทางที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต อู่ตะเภา และ LINE Official Account : @KINGPOWER  

 

ข่าวที่ 3 ททท.นำท่องเที่ยวพัทยา/ชลบุรีปี’67โกย2.7แสนล้าน

 

ททท.เปิดแผนปี’67 พัทยา ชลบุรีผนึกธุรกิจในพื้นที่นำท่องเที่ยวทำเงิน 2.7 แสนล้านบาท ปั้นสินค้าซอฟท์ เพาเวอร์ เพิ่มวันพัก ความถี่เที่ยวซ้ำ ใช้เงินเพิ่มต่อทริป ชูจุดขายมาแรง 5 โครงการ

            นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทาง ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้จัดงาน Chonburi Meaningful Travel 2024 ขึ้นเพื่อนำเสนอทิศทางการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีกับพันธมิตรทางการตลาดร่วมกันสนับสนุน ททท.สำนักงานพัทยา ขับเคลื่อนรายได้ปี 2567 เข้าพื้นที่ตามเป้ากว่า 270,000 ล้านบาท  พร้อมกับรณรงค์เข้าร่วมโครงการ STAR : Sustainable Acceleration Rating พัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เปิดเวทีบรรยายให้ภาคธุรกิจรับรู้แนวทางการตลาดปี 2567 ใน 2 หัวข้อหลัก คือ

 

หัวข้อแรก Meaningful Marketing for Sustainable Tourism โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันติธร ภูริภักดี  หัวข้อที่ 2 แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดนักท่องเที่ยวจีนในสถานการณ์ปัจจุบัน โดย Ms. Diane Cui, Marketing Director, Thailand and CLM จาก Trip.com Group แพลตฟอร์ม Online Travel Agency ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน

  

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. กล่าวว่าปี 2567  ททท. มีภารกิจขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยโดยมีแผนปฎิบัติการตลาดท่องเที่ยวภูมิภาคภาคตะวันออก ภายใต้ธีมสบ๊ายสบายภาคตะวันออก” ทำควบคู่กับส่งเสริมประสบการณ์ท่องเที่ยว “สุขทันทีที่เที่ยวภาคตะวันออก” เพิ่มความสุขแบบไร้ขีดจำกัดด้วยกลยุทธ์ 3 ด้าน คือ

ด้านที่ 1 กระตุ้นการเดินทาง โดยเพิ่มความถี่ กระจายนักท่องเที่ยวทั้งให้ได้ทั้งเรื่องช่วงเวลาและพื้นที่ ทำให้ภาคตะวันออก ”เที่ยวง่าย เที่ยวใกล้ เที่ยวได้สะดวก-สบาย” แล้วออกแบบให้แต่ละจังหวัดมีจุดขายต่างกัน ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสนุกมีความสุขเที่ยวได้ตลอด365วัน

 

ด้านที่ 2 ขยายวันพักค้าง โดยเพิ่มกิจกรรม เปลี่ยนจุดแข็งให้เป็นจุดขายพิเศษ จูงใจนักท่องเที่ยวพักค้างคืนนานวันมากขึ้น

 

            ด้านที่ 3 ใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น โดยคัดจุดขายใหม่ ๆ เจาะตลาดไฮเอนด์ นำเสนอมีสินค้าท่องเที่ยวและบริการใหม่ ๆ กับซอฟท์ เพาเวอร์ สินค้าท่องเที่ยวชุมชนศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์ STG :Sustainable Tourism Goals กระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่าใส่ใจสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน

 

 ปี 2567 ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้นำเสนอ 4 จุดขาย ประกอบด้วย 1.ยืนหนึ่งเรื่องกิน 2.สุดฟินเรื่องเที่ยว 3.เต็มเหนี่ยวเที่ยวสายศรัทธา (สายมู) 4.เรียนรู้เรื่องรักษ์

 

นางสาวอโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพัทยา กล่าวว่า “ ปี 2567 พัทยา วางเป้าหมายสร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าชลบุรี 2.7 แสนล้านบาท มีจำนวนไม่น้อยกว่า 27 ล้านคน-ครั้ง แบ่งเป็นคนไทยและต่างชาติ 50:50 จะเน้นส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยว 5F plus 1G (Food, Film, Festival, Fashion, Fight plus Green) สอดแทรกในแผนปฏิบัติการไปพร้อมกับรณรงค์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบสู่ความยั่งยืนผ่านผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่อไป

 

ททท.พัทยา มีแผนปฏิบัติการปี 2567 โดยใช้ซอฟท์ เพาเวอร์ เป็นสินค้าท่องเที่ยวหลัก สร้างแม่เหล็กดึงดูดรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2.7 แสนล้านบาท  จาก 5 โครงการ  ได้แก่

 

โครงการแรก 365 วัน มหัศจรรย์ชลบุรี เน้นกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยผ่านเทศกาลของ ททท. และพันธมิตร ผนวกกับสร้างกระแสเดินทางตามรอยฟิล์ม โลเกชั่น ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในชลบุรี เพื่อแสดงศักยภาพความพร้อมของเมืองพัทยาซึ่งกำลังเสนอยูเนสโก้พิจารณาเป็นเมืองสร้างสรรค์ทางด้านภาพยนตร์หรือ City of Film ปี 2570 พร้อมทั้งจัด Loyalty Package ขายนักท่องเที่ยวเดินทางมาชลบุรีซ้ำ โดยร่วมกับที่พักได้ รับดาวความยั่งยืน : STGs Star และรางวัล Thailand Tourism Awards

 

โครงการ 2  Chonburi Green Kitchen Story เน้นกระตุ้นนักท่องเที่ยวศักยภาพที่ชื่นชอบการสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษผ่านอาหารหรือFood ด้วย เมนูอาหารถิ่นกินตามฤดูกาล” ของชลบุรี

โครงการ 3 Chonburi Happy Stay More เน้นขยายวันพักผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวหลายรูปแบบ เช่นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือเวลเนส ท่องเที่ยวเชิงกีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ

           

โครงการ 4 Chonburi Meaningful Travel เน้นท่องเที่ยวอย่างมีความหมายในวันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ส่งเสริมกลุ่มประชุม อบรม สัมมนา เดินทางมาท่องเที่ยวควบคู่ไปทำกิจกรรมซีเอสอาร์ในพื้นที่

 

โครงการ 5 Chonburi Amazing New Chapters เน้นส่งเสริมการขายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายหลักของชลบุรี โดยวิธีเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย เทรดโชว์ โรดโชว์ และกระตุ้นชาวต่างชาติที่พำนักในไทย (Expat) เลือกมาพักผ่อนในชลบุรี

 

ข่าวที่ 4 บางจากผนึก2แบรนด์243สาขาร่วมโครงการทอดไม่ทิ้ง

 

กลุ่มบริษัทบางจากผนึก2แบรนด์ใหญ่ “ซีพีเอฟ/ร้านไก่ย่าง 5 ดาว-S&P” โหมโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” รับซื้อน้ำมันใช้แล้วทั่ว กทม.และปริมณฑล รวมกว่า 243 สาขา ไปผลิต SAF น้ำมันเครื่องบินลดคาร์บอนขนส่งทางอากาศ

 

นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบางจากร่วมมือกับพันธมิตรเดินหน้าขยายผลโครงการ ““ทอดไม่ทิ้ง” รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารผ่านการใช้แล้วมาบริหารจัดการผลิตเป็นน้ำมัน SAF ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคการบิน ตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจ BCG ทั้ง Bio-Circular-Green Economy ครบวงจร รวมทั้งสามารถช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม และสุขภาพผู้บริโภคได้ด้วย

 

โดยมีกลุ่มธุรกิจอาหารรายใหญ่ของเมืองไทยเป็นพันธมิตรใหม่โครงการด้วย 2 กลุ่ม ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ภายใต้ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารแบรนด์ “ไก่ 5 ดาว”   และ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จํากัด(มหาชน) ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเบเกอรี่แบรนด์ S&P ร่วมกันเดินหน้าโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” จากการเริ่มรวบรวมน้ำมันใช้แล้วแบรนด์ร้านอาหารทั้ง 2 พันธมิตร ไม่ต่ำกว่า 243 สาขา คือ จากร้านไก่ 5 ดาว กว่า 130 สาขา ครอบคลุมพื้นที่จำหน่ายทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เริ่มตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2566  เป็นต้นไป กับร้านอาหารและเบเกอรี่ S&P จำนวน 113 สาขา เข้าร่วมโครงการเฟส 1 มาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน

 

ระหว่างการลงพื้นที่ทำโครงการทอดไม่ทิ้ง มีผู้บริหารของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมทำกิจกรรมดี ๆ ช่วยกันรวบรวมน้ำมันใช้แล้วให้ได้มากที่สุด โดยมีตัวแทนกลุ่มบางจาก ประกอบด้วย นายนิพนธ์ เลิศทัศนีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารโครงการวิศวกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหารและพนักงานบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบางจากฯ กับบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ธนโชค ออยล์ไลท์ จำกัด นำโดยนาย ธนวัฒน์ ลินจงสุบงกช กรรมการผู้จัดการ ก็เข้ามาร่วมงานด้วย

 

ขณะที่ตัวแทนพันธมิตร ประกอบด้วย นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจห้าดาว บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) นางมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร และ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จํากัด(มหาชน) ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเบเกอรี่แบรนด์ S&P ร่วมมือกันรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว นำไปผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel) ขยายฐานสู่อุตสาหกรรมการบินลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นสีเขียวเพิ่มมากขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต

 

            ช่วงที่ 2 ปฏิทินเที่ยวทั่วไทยสุขใจไป “ลอยกระทง” 5 พื้นที่อัตลักษณ์ 5 พิกัด เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม ร้อยเอ็ด แล้วฟัง “วิธีเลือกยาทาแก้เมื่อย” แบบเย็นกับร้อนใช้อย่างไร ฟังข่าวดี ๆ ข่าวแรก “บางกอกแอร์” ไตรมาส 3 ปี’66 กำไรอู้ฟู่โต 582.4% ข่าวที่สอง “ดูไบ” ยูเออีตีปีกรับทัวร์จีน8เดือนแห่เที่ยวเพิ่ม 309 %

 

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวลอยกระทง5อัตลักษณ์5พิกัด

 

ทำตัวให้ว่างแล้วออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยไป “ลอยกระทง” ใน 5 พื้นที่อัตลักษณ์ มีกิจกรรมแบบยาว ให้เที่ยว 5 พิกัด

 

พิกัดที่ 1 เที่ยวประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566   26-28 พฤศจิกายน 2566 บริเวณเมืองเชียงใหม่ เนรมิตบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ต้อนรับประเพณีลอยกระทงตามความเชื่อล้านนา

 

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 พบกับพิธีขอขมาแม่น้ำปิง กิจกรรมประกวดโคมยี่เป็งล้านนา  และพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ 2566 เวลา 18.00 น. ณ ข่วงประตูท่าแพ ภายใต้แนวคิด เชียงใหม่นครแห่งความสุข และความสง่างาม ค่ำคืนแห่งสายนที วิถีวัฒนธรรมล้านนา ตลอด 26-28 พฤศจิกายน ชมการประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ พิธีปล่อยกระทงสายล้านนา กิจกรรมความสุขแห่งสายน้ำ ยี่เป็งเชียงใหม่ และการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ เวลา 20.30 น. ที่ท่าน้ำศรีโขง

 

วันที่ 27 พฤศจิกายน เริ่ม18.00 น. เป็นต้นไป ชมงานประกวดขบวนแห่สะเปาล้านนา การประกวดหนูน้อยยี่เป็งเชียงใหม่ 

 

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 พบกับการประดวกชบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานฯ เวลา 19.00 น. ณ ท่าแพ สำนักงานเทศบาล

 

พิกัดที่ 2 ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย 18-27 พฤศจิกายน 2566ที่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

          

           กิจกรรมภายในงานตื่นตาตื่นใจกับไฮไลต์การแสดงแสง เสียง ณ วัดมหาธาตุ เมืองมรดกโลกสุโขทัย ย้อนอดีตสู่ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย ผ่านการถ่ายทอดจากนักแสดงนาฏศิลป์กว่า 400 ชีวิต ชมขบวนช้างยุทธหัตถี การละเล่น พลุตะไล ไฟพะเนียง ไฟไทยแบบโบราณ สุดตระการตา วันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น.

             

              ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เพิ่มรอบเวลา 20.30 น. การแสดงการจุดพลุ ตะไล ไฟ พะเนียง ดอกไม้ไฟ แบบสุโขทัย ทุกวัน เวลา 22.30 น. การจำลองวิถีชีวิตสมัยกรุงสุโขทัย ตลาดโบราณ ตลาดแลกเบี้ย ตลาดบ้าน ทุกวัน เวลา 16.00 -22.00 น., การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ บริเวณหลังวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 21.00 น., การแสดงแสง เสียง ชุดตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ บริเวณตระพังตระกวน ทุกวัน เวลา 22.00 น. ทุกวัน 16.00-23.00 น.ชมเพลิน ๆ ประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ โคมชัก โคมแขวน จัดแสดง บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง และตระพังตาล

 

              รวมทั้งกิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทงสุโขทัย โซน ททท. จัดแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก สุโขทัย กิจกรรม DIY การแสดงวัฒนธรรม และจุดถ่ายภาพ Landmark ณ บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 16.00-22.00 น.

 

              วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พบกับขบวนแห่ทางวัฒนธรรมงานประเพณีลอยกระทงสุโขทัย กระทงใหญ่ โคมชักโคมแขวนจาก 4 ปากประตูเมืองสุโขทัย

 

              พิกัดที่ 3 ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จังหวัดตาก 24-27 พฤศจิกายน 2566 ที่ เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก

 

                วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่  16.00 น. ที่ลานภูมิปัญญากระทงสาย เปิดขายกระทงกะลาของนักเรียน และกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ สักการะบูชาพระอุปคุต รอยพระพุทธบาท พระแม่คงคา น้ำมนต์จันทร์เพ็ญวัดวาสะเดาะเคราะห์ กาดกระทงสาย การประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ดาวรุ่งลูกทุ่งกระทงสายชิงถ้วยพระราชทานฯ และการแข่งขันมวยไทยและมวยคาดเชือก

 

              วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่ 16.00 น. ร่วมกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และขบวนแห่อัญเชิญพระประทีป พระราชทานฯ ขบวนแห่เรือกระทงสาย ทั้ง 4 สาย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ และพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประดิษฐานบนเวทีกลางน้ำปิง  และพิธีเปิดงาน 20.00 น. พร้อมการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง

 

              วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เริ่ม 16.00 น.แล้วจากนั้น 19.00 น.ชมกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ) ที่เวทีกลางน้ำปิง ส่งท้ายคืนด้วยการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง

 

                  วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เริ่ม 16.00 น. จากนั้นตั้งแต่ 19.00 น.ร่วมกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ) พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ, ชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง

และพิธีปิดงาน ที่เวทีกลางน้ำปิง 21.00 น.ชมการแสดงพลุ ส่งท้าย 24.00 น.ร่วมใส่บาตรพระอุปคุต เที่ยงคืน อาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ

                 

           พิกัดที่ 4 ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง 25-27 พฤศจิกายน 2566 จัด 2 แห่ง ได้แก่ อุทยาน ร.2 จ.สมุทรสงคราม และ18 -27 ที่วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จ.สมุทรสงคราม

 

                   อุทยาน ร.2 มีกิจกรรมประกวดกระทงชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดรำวงตามบทร้อง (พื้นบ้าน) ชิงถ้วยพระราชทานฯ  พิธีอาบน้ำเพ็ญ การแสดงจากยุวศิลปินของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น, นิทรรศการอาหารบ้านฉัน นิทรรศการกระทงกาบกล้วย  กิจกรรมเวิร์กชอปกระทงกาบกล้วย อาหารและขนมพื้นเมือง

 

                  ร่วมเพลิดเพลินโซนตลาดสินค้าชุมชนและของที่ระลึก สาธิตและการออกร้านอาหารและขนมไทยเมืองอัมพวา รวมทั้งสินค้าเพื่อสุขภาพต่าง ๆ เช่น  อาหารสุขภาพ นวด สปา เครื่องหอม สมุนไพร

 

                  “วัดภุมรินทร์กุฎีทอง” ชมริ้วขบวนแห่พระประทีป พระราชทาน การลอยกระทงกาบกล้วย 200,000 ใบ การประกวดนางนพมาศ  การออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน และการแสดงเชิงวัฒนธรรม

 

                  พิกัดที่ 5 ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีปครั้งที่ 25 ประจำปี 2566 26–27 พฤศจิกายน  2566 ทีสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด

 

                  วันที่ 26 พฤศจิกายน เริ่ม 13.00 น.ชมประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป เวลา 15.00 น.การแสดงดนตรีพื้นบ้านอีสาน (หมอลำ) โดยศิลปินแห่งชาติ แม่ฉวีวรรณพันธุ์ 18.00 น. ตื่นตากับขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน ณ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด รำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป จำนวน 5,000 คน เวลา 18.00 น. และชมการแสดง แสง เสียง และ 20.00 น.สนุกกับการแสดงของศิลปินท้องถิ่น

 

วันที่ 27 พฤศจิกายน เริ่ม 8.30 น.ร่วมพิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดร้อยเอ็ด ช่วงเย็น 17.30 น.มีพิธีเปิดงานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” ครั้งที่ 25 เวลา 18.00 น.ชมขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน เวลา 20.00 น.ขบวนแห่กระทงประทีป 12 เมืองร่วมสมัย และไฮไลต์ขบวนอัญเชิญไฟพระราชทานนำหน้าพระประทีปพระราชทานลงลอยในบึงพลาญชัย เวลา 20.30 น. เชิญชวนประชาชนร่วมลอย “กระทงข้าว”

 

                สุขทันที่ได้เที่ยวลอยกระทง ทั่วไทย 6 อัตลักษณ์ ตั้งแต่วันนี้ 27 พฤศจิกายน 2566

 

สุขภาพ – วิธีเลือกยาทาแก้ปวดเมื่อยอย่างไรดี แบบเย็นร้อน

วิธีเบื้องต้นการเลือก “ยาทาแก้ปวดเมื่อย” ให้เหมาะสมกับอาการ สามารถใช้ระยะเวลาหลังบาดเจ็บเป็นตัวกำหนดในการเลือกใช้ยาทาแต่ละประเภทได้ ดังนี้

1.ยาทาแก้ปวดเมื่อยที่ให้ความรู้สึกเย็น เหมาะสำหรับอาการบาดเจ็บหรืออาการปวดที่เกิดขึ้นไม่เกิน 48 ชั่วโมงหรือภายหลังการบาดเจ็บทันที เช่น การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา การออกกำลังกาย หรือการบาดเจ็บทั่วไปในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย โดยฤทธิ์เย็นจะเข้าไปช่วยลดการไหลเวียนของเลือดที่ทำให้เกิดอาการบวม

 

2.ยาทาแก้ปวดเมื่อยที่ให้ความรู้สึกร้อน เหมาะสำหรับอาการบาดเจ็บและอาการปวดที่เกิดขึ้นในช่วง 4872 ชั่วโมงหลังการบาดเจ็บ โดยนอกจากจะช่วยบรรเทาปวดแล้ว ฤทธิ์ร้อนยังกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซึ่งลดอาการบวมและช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีขึ้น

 

สำหรับรูปแบบของยาทาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและความสะดวก เช่น การใช้แผ่นแปะแก้ปวดเมื่อยสำหรับอวัยวะส่วนที่สามารถแปะแผ่นยาได้ ส่วนยาในรูปแบบครีมหรือเจลสามารถใช้นวดหรือทาบริเวณที่ไม่เหมาะกับการใช้แผ่นแปะ อย่างหัวเข่า ข้อศอก และข้อต่อต่าง ๆ 

 

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคผิวหนัง โรคตับ ภาวะเลือดออกผิดปกติ หรืออยู่ระหว่างการใช้ยาอื่น นอกจากนี้ ควรใช้ยาตามฉลากและคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ หลีกเลี่ยงการทายาลงบนผิวหนังที่เป็นผื่นหรือมีแผล หลีกเลี่ยงการใช้ยาทาแก้ปวดหลายชนิดพร้อมกัน เพราะอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ล้างมือทุกครั้งหลังใช้ยา และควรดูแลตนเองด้วยการพักการใช้งานอวัยวะที่บาดเจ็บหรือปวดเมื่อย

อาการปวดและการบาดเจ็บบางรูปแบบอาจมีวิธีเลือกยาทาแก้ปวดและวิธีรักษาที่ต่างกันออกไป หากเกิดอาการบาดเจ็บและอาการปวดที่รุนแรง เกิดอาการบวม เลือดออก ขยับอวัยวะที่บาดเจ็บไม่ได้ ควรไปพบแพทย์ทันที หรือหากพบอาการไม่รุนแรง แต่เป็นเรื้อรัง ใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือพบความผิดปกติหลังใช้ยา ควรไปพบแพทย์ด้วยเช่นกัน

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –บางกอกแอร์ไตรมาส3ปี66ปลื้มกำไรพุ่ง582.4%

 

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นำสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,625.5 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 42.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2565 และมีกำไรสุทธิ  1,910.4 ล้านบาท เติบโต 582.4% ขนส่งผู้โดยสารได้รวมทั้งสิ้น 0.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.9%

 

มาจาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่ 1 ทิศทางภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2565  ปัจจัยที่ 2 อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บวกกับอุปสงค์การท่องเที่ยวตลาดต่างชาติเดินทางเข้าไทยที่ขยายตัว บางกอกแอร์เวย์สยังคงให้บริการเส้นทางหลักรองรับผู้โดยสารต่างประเทศร่วมกับสายการบินพันธมิตรหลัก เช่น กรุงเทพ-สมุย กรุงเทพ-ภูเก็ต และกรุงเทพ-เชียงใหม่

 

ส่งผลให้ไตรมาส3 ปี 2566 บริษัทฯ ขนส่งผู้โดยสารเกือบ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.9% คิดเป็น 70.4 % ของผู้โดยสารก่อนเกิดโควิด ช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 ให้บริการผู้โดยสารทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านคน

 

 

            นายพุฒิพงศ์ กล่าวเพิ่มว่า 9 เดือน ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 3,456.6 ล้านบาท มาจาการดำเนินงาน 3,183.6 ล้านบาท ดีขึ้น 367.2% ทำรายได้ตั๋วโดยสารของธุรกิจสนามบิน และรายได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินเป็นหลัก  “ค่าใช้จ่าย” สูงขึ้น 34.3% ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นคือค่าน้ำมันเชื้อเพลิง กับค่าซ่อมบำรุงอากาศยาน

 

ขณะที่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 ได้กลับมาบิน กรุงเทพ- มัลดีฟส์ และสมุย-ฮ่องกง และเปิดเส้นทางบินใหม่ ลำปาง - แม่ฮ่องสอน เดือนสิงหาคม 2566 เข้าร่วมทำสัญญาความตกลงเที่ยวบินร่วม (Code Share Agreement) กับสายการบินพันธมิตรเพิ่ม 1 สายการบิน ได้แก่ สิงคโปร์แอร์ไลน์ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสายการบินทำความตกลงเที่ยวบินร่วมรวมทั้งสิ้น 28 สายการบิน

 

รวมทั้งได้ประกาศข้อตกลงร่วม (Interline Agreement) กับแอร์อินเดีย ด้านการขนส่งผู้โดยสาร กระเป๋าสัมภาระ และตั๋วโดยสาร อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารแอร์อินเดียบินกรุงเทพฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ และเชื่อมต่อไปยังปลายทางยอดนิยมในและต่างประเทศ 10 จุดหมาย ผ่านเที่ยวบินของบางกอกแอร์เวย์ส ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ตราด เกาะสมุย กระบี่ สปป.ลาว (หลวงพระบาง) กัมพูชา (พนมเปญ เสียมเรียบ)

 

ข่าวที่สอง -“ดูไบ”ตีปีกจีนแห่เที่ยว8เดือนปี66เพิ่ม309%

 

Mohamed Al Rais รองกรรมการผู้จัดการ Al Rais Travel เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทผู้เชี่ยวชาญการตลาดท่องเที่ยว (DMC :Destination Management Company)  ซึ่งเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการมหกรรม ATM : Arabian Travel Market งานชั้นนำในตะวันออกกลางเชี่ยวชาญด้านจัดการเดินทางและการท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออก เห็นถึงสัญญาณแนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และประเทศอื่ในกลุ่มตะวันออกกลางหรือ GCC :Gulf Corporation Countries  มีกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวตลาดสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

            เพราะแบรนด์ ดูไบได้รับความไว้วางใจคนทั่วโลก ส่งผลทำให้ประเทศฟื้นตัวได้ดีหลังนับโควิด-19 ช่วงครึ่งแรกปี 2566 สามารถทำสถิติดีที่สุดนำนักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งสลับกันขึ้น 5 อันดับแรก ประกอบด้วย “จีน” แม้จะเพิ่งจะกลับเข้ามาช่วงไตรมาส 1 แต่ขยับติด 1 ใน 5 ของการเที่ยวดูไบ เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดกระทรวงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว (DET) ดูไบ ยืนยันพันธมิตรที่เข้าร่วมซื้อขายในงาน ATM 2023 เช่น กลุ่มสายการบินเอมิเรตส์ โรงแรมเครือ IHG Hotels & Resorts ล้วนได้รับอานิสงที่ดีโดยมีนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศใช้บริการเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจนตลอดช่วง 8 เดือนแรก  ระหว่างมกราคม-สิงหาคม 2566 เป็นอัตราเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ได้แก่ ได้แก่ 1.สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มขึ้น 309%  อันดับ 2 อินเดีย เพิ่มขึ้น 44% อันดับ 3 สหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น 14% 

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวสะท้อนถึงแนวโน้มตลาดการท่องเที่ยวของทั้งซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศได้มากกว่าการแข่งขันกันเอง ลักษณะคล้ายคลึงเช่นเดียวกับแถบยุโรปกลางซึ่งมีนักท่องเที่ยวท่องเที่ยวหลายประเทศเลือกท่องเที่ยวระหว่างการเดินทางครั้งเดียว ดังนั้นจึงเป็นจะประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนหลายแห่งในตะวันออกกลางด้วยเช่นกัน

มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับที่ “Abdullah bin Touq Al Marri” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศนโยบายจะใช้วีซ่าเดียวหรือ Single Visa แบบทั่วไปใบเดียวเดินทางในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง GCC เริ่มปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกสามารถเดินทางในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างสะดวกราบรื่น ลดความซับซ้อน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นจุดหมายปลายทางเลือกใหม่ได้เป็นอย่างดี

Mohamed Al Rais กล่าวว่าถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดีทางการท่องเที่ยวไม่เฉพาะกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่ม GCC ทั้งหมดด้วย ในการต้อนรับผู้เยี่ยมเยือนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะสามารถเดินทางไปยังประเทศใดก็ได้ในกลุ่ม GCC แล้วท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในทุกประเทศนั่นเอง

 

และเพื่อให้สอดคล้องกับธีมจัดงาน ATM อนาคตซึ่งทางดูไบเจ้าภาพหลักจะพลิกโฉมผู้ประกอบการและยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตามเป้าหมายปี 2574 อีก 8 ปีข้างหน้า มุ่งพัฒนาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตามที่ Al Rais Travel กำลังทำงานร่วมกับสายการบินต่าง ๆ ขยายจุดบินและเส้นทางใหม่ ๆ เชื่อมโยงการบินเข้ายังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกันผลักดันยุทธศาสตร์ใหม่ให้ประสบความสำเร็จได้

Danielle Curtis ผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการ ATM : Arabian Travel Market กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้แสดงสินค้าการท่องเที่ยวจำนวนมากปรับกลยุทธ์สร้างธีมงานหลักให้เข้ากับงานของเรา ซึ่งได้ตอกย้ำเพิ่มเติมจากการมีส่วนร่วมด้านคุณค่าหน่วยงานการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคแล้วหันมาบุกเบิกแนวทางทำการตลาดรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก้าวสู่อนาคตเติบโตอย่างรวดเร็ว และในฐานะผู้รับผิดชอบภารกิจขยายฐานตลาดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความคิดริเริ่มอันหลากหลายครอบคลุมถึงเรื่องการเข้าสู่ยุคสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีล้ำสมัย โซลูชั่นที่พัก และนวัตกรรมการขนส่งด้วย

ดังนั้นการจัดงาน ATM 2024 ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคม 2567 ที่ ดูไบ เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ Dubai จะเน้นจัดภายใต้ธีม “Transforming Travel Through Entrepreneurship ต้อนรับนโยบายผู้นำในอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทางจากทั่วตะวันออกกลางและที่อื่น ๆ อีกครั้ง โดยสนับสนุนประเทศสมาชิกสร้างความสัมพันธ์ใหม่ แลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยนวัตกรรมที่สามารถกำหนดอนาคตการเดินทางและการท่องเที่ยวทั่วโลก เริ่มตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพไปจนถึงแบรนด์ที่มีชื่อเสียง จะพร้อมใจกันเน้นย้ำเรื่องนักนวัตกรรมสามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าขับเคลื่อนประสิทธิภาพ

พร้อมทั้งเร่งนำความก้าวหน้าสู่อนาคตร่วมกับตามแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ตามแนวคิด 'Working Towards Net Zero' ต่อเนื่องจากงาน ATM 2023 เน้นการเดินทางอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะถือเป็นประเด็นสำคัญกำลังเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ 

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai