ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.รับโจทย์ใหม่ปี67ทำรายได้ท่องเที่ยว 3.5ล้านล้านบาท



ททท.รับโจทย์ใหม่ปี’67ขยับเป้ารายได้ทะยาน3.5ล้านล้าน

ถอดรหัส5NEW6แนวกลยุทธ์นำเที่ยวไทยผู้นำตลาดโลก

บูมโมเดลเดินปั่นล่องลดชดเชยเทรนด์ยั่งยืน20เส้นทาง

ช้อปด่วน11.11คิงเพาเวอร์ปลดล็อกส่วนลด 11,111 บาท

สมัครคิงเพาเวอร์เลือก1ใน3แบบได้ชัวร์ลดสูงสุด5,000บาท

ลดวนไปที่คิงเพาเวอร์ช้อปเซอร์ไพรส์สุวรรณภูมิดอนเมือง

นายกฯดันซอฟท์เพาเวอร์ThailandWinterFest3,000งาน

บางจากQ3ปี’66กำไรสูงสุด39ปี/9เดือนรายได้2.4แสนล้าน

หนาวนี้เที่ยว“วังน้ำเขียว เขาใหญ่4เมืองดอกไม้งามต้องมา

6วิธีนอนให้หลับง่ายๆทำได้ด้วยตัวเองเพื่อสุขภาพดียาวๆ

การบินไทยโชว์9เดือนแรกปี66กำไรเป๋าตุง1.63หมื่นล้าน

กลุ่มดุสิต-ไซโอกรีนนำปริ๊นเซสบุกอินเดียบริหาร4โรงแรม

 

วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #WTM2023  #เที่ยวไทยยั่งยืน #เที่ยวเมืองดอกไม้วังน้ำเขียวเขาใหญ่

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/oeL03tlPua/?mibextid=Nif5oz



ช่วงที่ 1 ถอดรหัสท่องเที่ยวไทย “5 New 6 แนว” เวทีใหญ่ WTM 2023 ติด 5 อาวุธใหม่ “เซกเมนท์/โปรดักซ์/แอเรีย/พาร์ทเนอร์ชิพ/อิมเมจ” ใส่ 6 พลัง “ฟื้นเที่ยวบิน/บูรณาการททท.ยุโรป 8สำนักงาน/เจาะทัวร์เศรษฐีรุ่นใหม่/ทัวร์RTกรีนโลว์คาร์บอน/ซอฟท์เพาเวอร์/จับคู่ตลาดเข้าถึงสินค้าใหม่” สร้างดาวเด่นเที่ยวไทย 20 เส้นทาง ปรับ ลด ชดเชย เช่น ทัวร์เดินตลาดกรุงเทพฯ นั่งเรือเที่ยวคลองดำเนินสะดวก ผจญภัยเพชรบุรี เกาะช้าง ปั่นจักรยานริมโขง อุดรธานี-หนองคาย-เลย ปีนภูเขาทัวร์ป่าทะเลพังงา

 

ปิดฉากลงแล้วมหกรรมท่องเที่ยวโลก WTM : World Travel Market 2023 เมื่อ 6-8 พฤศจิกายน 2566 เป็นอีกเวทีความหวังของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่จะขับเคลื่อนปี 2567 ให้เป็นไปตามเป้าหมายเพิ่มใหม่รวมทั้งหมดเป็น 3.5 ล้านล้านบาท ขยับจากการประชุมแผนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ตั้งไว้เพียง 3 ล้านล้านบาท

 

“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง 8 สำนักงาน โดยมีคณะกรรมการ (บอร์ด) ผู้บริหาร ททท. ผู้อำนวยสำนักงานภูมิภาคยุโรป กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ขานรับเป้าปี 2567 จะต้องทำรายได้ท่องเที่ยวรวมทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ  3.5 ล้านล้านบาท

 

นโยบายหลักปี 2567 “ตลาดต่างประเทศ” 4 ทวีป จะต้องนำนักท่องเที่ยวตลาดภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง มาเมืองไทยให้ได้ 8,500,000-9,000,000 คน สร้างรายได้กว่า 570,000 ล้านบาท จากเป้าหมายรวมรายได้ตลาดต่างประเทศรวมทั้งหมด1.92 ล้านล้านบาท

 

ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด The New Discover in Thailand” ปี 2567 “ตลาดยุโรป” ซึ่งแต่ละปีเดินทางมาไทยกว่า 20 % ของต่างชาติทั้งหมด สูงเป็นอันดับ 2 รองจากเอเชีย มีวันพำนักสูงที่สุด ใช้จ่ายเงินมากสุด ตามสถิติปี 2566 เฉลี่ย18.55 คืน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินกว่า 66,000 บาท/คน/ทริป ปี 2567 จึงมีนโยบายให้ ททท. เร่งขับเคลื่อนส่งเสริมตลาดยุโรปสู่เป้าหมายรายได้กว่า 570,000 ล้านบาท กระตุ้นด้วย 2  ส่วน ได้แก่

 

ส่วนที่ 1    ขับเคลื่อนตลาดด้วยกลยุทธ์ใหม่ 5 New ประกอบด้วย

 

1.New Segment เร่งเจาะกลุ่มตลาดศักยภาพใหม่ อาทิ กลุ่ม Wellness กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม กลุ่มคนรุ่นใหม่มิลเลนเนียล

 

2. New Product สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่เน้นให้ความสำคัญกับการดูแลลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เส้นทางการท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน

 

3. New Partnership แสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงรุกทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางตลาดระยะไกลข้ามทวีป

 

4. New Image ส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย หรือ Meaningful Relationshipและความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน

5. New Area การขยายตลาดสู่พื้นที่ศักยภาพใหม่ เช่น สก็อตแลนด์ ตลาดยุโรปตะวันออก ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นกลุ่มใช้จ่ายเงินสูงในแต่ละทริปที่เดินทางท่องเที่ยว

 

ส่วนที่  2 เติมความสำเร็จด้วย 6 แนวทาง มีนโยบายให้ ททท.สำนักงานภูมิภาคยุโรปเร่งเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้กลับมาเท่ากับปี 2562 ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนมาตรการการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ง่ายรวดเร็วมีประสิทธิภาพ (Ease of Traveling) แก่นักท่องเที่ยวจากตลาดต่าง ๆ  ดังนี้

 

แนวทางที่ 1 ผลักดันเที่ยวบินฟื้นคืนกลับมาไทยโดยเร็ว (Flight Resumption) เน้นทำงานร่วมกับสายการบินพันธมิตรทั้งเปิดเที่ยวบินทั้งตรงและอ้อม ทุ่มเทเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำหรือ Charter Flight จากเมืองใหม่ ๆ เข้าไทย จากต้นทางในสแกนดิเนเวีย และยุโรปตะวันออก

 

แนวทางที่ 2  ททท.ภูมิภาคยุโรปต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน 8 สำนักงาน เพื่อผลิตเป็นโครงการระดับภูมิภาค  Regionwide Project เร่งขายคู่ขนานไปกับสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

 

แนวทางที่ 3 รุกเจาะตลาดกลุ่มคุณภาพและมีศักยภาพในการใช้จ่าย เช่น นักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก/First-time Visitor) กลุ่มคนรุ่นใหม่ /Young Gen กลุ่มหลากหลายทางเพศ/LGBT กลุ่มเดินทางเป็นคู่/Couple

 

แนวทางที่ 4 ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ หรือ RT : Responsible Tourism และการท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือ Green Tourism อย่างต่อเนื่อง 

 

แนวทางที่ 5  ใช้ซอฟท์ เพาเวอร์ เป็นเครื่องมือส่งเสริมตลาด สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าครอบคลุมสินค้าหลักทั้ง 5F ได้แก่ อาหารไทย/Food แฟชั่น/Fashion งานเทศกาล/Festival มวยไทย/Fight และภาพยนตร์ไทย/Film

 

แนวทางที่ 6  สร้างการเข้าถึงหรือ New Approach เลือกสินค้าบริการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของไทย ปูพรมทำให้ตลาดรู้จักกว้างขวางเพิ่มขึ้น เช่น นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือและอีสาน เจาะกลุ่มอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และอีกหลายตลาดที่สนใจเที่ยวเมืองไทย

 

ต่อยอดจาก WTM 2023 ททท.ได้จัดกิจกรรม Amazing Thailand Press Conference 2023 พร้อมกับมอบราวัล Responsible Thailand Awards 2023 ตอกย้ำภาพลักษณ์ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท.ได้พัฒนาห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงวิธีดำเนินกิจการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รณรงค์ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) ร่วมสร้างความมั่นคงและความสมดุลทางการท่องเที่ยวให้เกิดทุกมิติ  ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมุ่งสู่ความยั่งยืน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

 

            นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ยืนยันว่า การมอบรางวัล Responsible Thailand Awards 2023 ททท.ตั้งใจผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน โดยได้พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) 17 เป้าหมาย ต่อยอดจากการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ  เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 

           

ททท.คัดเลือกหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณสมบัติเข้ารับรางวัล 6 สาขา ได้แก่ 1.สาขา Animal Welfare – Mahouts Elephant Foundation 2.สาขา Nature, Marine & Heritage – New Heaven Reef Conservation Program 3.สาขา Community Based Tourism – Kao Thep Pitak 4. สาขา Hotel – Devasom Khao Lak Resort 5. สาขา Eco-Lodge/ Eco-Hotel – Elephant Hills 6.สาขา Green Step – Pattaya Elephant Sanctuary

           

พร้อมกับวางกลยุทธ์รุกเจาะกลุ่มศักยภาพในตลาดสหราชอาณาจักรซึ่งใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวสูง มีระยะพักนาน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักเดินทางที่ชื่นชอบความหรูหรา/Luxury กลุ่มที่ 2 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม/ Wellness กลุ่มที่ 3 นักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มที่ 4 นักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางซ้ำ ๆ และกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก เช่น กลุ่มมิลเลนเนียล กลุ่มที่ 5 นักท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักรตามพื้นที่ศักยภาพใหม่ ๆ

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท.ใช้เวที WTM 2023 เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “Meaningful Relationship” เป็นแคมเปญสื่อสารการตลาดต่างประเทศครั้งแรกในปี 2567  รวมทั้งร่วมมือกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) และ Tourlink ผู้ดูแลโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจัดกิจกรรม Carbon Neutral Tourism in Thailand by TEATA & Tourlink ภายในคูหาประเทศไทย แล้วเชิญธุรกิจท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักรเข้าร่วม 25 ราย

 

ทางเอกชนไทยได้เสนอขายท่องเที่ยวเมืองไทย 20 เส้นทาง ภายใต้แนวคิด ปรับ ลด ชดเชย ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยว เช่น 1.ย่านตลาดน้อย เยาวราช กรุงเทพฯ 2.การใช้จักรยานและเรือท่องเที่ยวในตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 3.การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในจังหวัดเพชรบุรี และเกาะช้าง จังหวัดตราด 4.สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอีสานตอนเหนือด้วยจักรยานใน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย และเลย  5.การท่องเที่ยวภูเขา ป่า และทะเลในจังหวัดพังงา

 

สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุด “Meaningful Relationship”  ททท.มุ่งนำเสนอถึงมิตรภาพและความผูกพัน (Heartfelt Connections) ความยาว 3 นาที 37 วินาที เน้นเล่าเรื่องราวผ่านประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว 3 ชาติ 3 ภาษา ได้แก่ เกาหลี โปรตุเกส และฝรั่งเศส  โดยมีคำบรรยายภาษาอังกฤษควบคู่อยู่ด้วย 

 

ททท.วางแผนเผยแพร่ในต่างประเทศข้ามปีตั้งแต่ 6 พฤศจิกายน 2566 31 ตุลาคม 2567 ผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ และททท. สำนักงานต่างประเทศทั่วโลกทั้ง 29 แห่ง ให้เข้าถึงกลุ่มคุณภาพ มุ่งส่งเสริมการตลาดควบคู่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ กระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศมาไทยภายในปี 2566 ประมาณ 25-30 ล้านคน นำเงินมาเที่ยวเมืองไทยตามเป้า 1.92 ล้านล้านบาท

 

เป็นภาพยนตร์โฆษณาใช้วิธีบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์การท่องเที่ยว 3 รูปแบบ รุกเจาะ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตามกระแสนิยม หรือ Trendy Tourist  กลุ่มที่ 2 ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรมประเพณี หรือ Soulful Explorers  กลุ่มที่ 3 ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม หรือ Conscious Advocate  

 

เลือกพื้นที่จุดขายเชิญชวนนักเดินทางทั่วโลกมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทย 4 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี นครพนม ชุมพร และกรุงเทพมหานคร แต่ละการเดินทางสามารถถักทอเรื่องราวความรัก หลอมรวมผู้คน รสชาติ ความงามของธรรมชาติ บ่มเพาะจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าและความหมาย ระหว่างตัวตนของพวกเขากับผู้คนท้องถิ่น ชุมชน ธรรมชาติ และประเทศไทยในแง่มุมต่าง ๆ 

 

ส่วนเนื้อหาในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ได้สื่อถึงการเพิ่มคุณค่าและความหมายทุกช่วงเวลาเมื่อเดินทางมาเที่ยวมืองไทย ผ่านการมีส่วนร่วมและแบ่งปันประสบการณ์ต่าง ๆ ระหว่างนักท่องเที่ยวกับสิ่งที่พบเจอต่าง ๆ ทั้งเรื่องอาหารการกินอันเป็นเอกลักษณ์ มิตรไมตรีของคนท้องถิ่น ธรรมชาติอันงดงามช่วยเยียวยาจิตใจ เกิดมิตรภาพและความประทับใจ นำไปสู่การแบ่งปันทั้งการให้และการรับ (Give & Get) กลายเป็นความทรงจำและความสัมพันธ์แน่นอันแน่นแฟ้นติดตรึงอยู่ในใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาเยือน กระตุ้นนักท่องเที่ยวให้ระลึกถึง แล้วอยากกลับมาใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นได้ตลอดทั้งปี

 

“นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่าในงาน WTM 2023 มีโอกาสได้พูดคุยกับซีอีโอสายการบินใหม่ Atmosphere Intercontinental Airlines ของอังกฤษ ต้องการจะขยายเส้นทางการบินจึงได้ชวนมาเยี่ยมชมสนามบินนานาชาติกระบี่ เพื่อวางแผนเปิดเที่ยวบินระหว่าง สหราชอาณาจักร/อังกฤษ มายังกระบี่

 

ขณะที่ “บพข.-หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” เป็นอีกหน่วยงานที่เข้าร่วม WTM 2023 แล้วนำเสนอ Concept  CNT: Carbon Neutral Tourism โดยมีทีมมืออาชีพเป็นคณะนักวิจัยหารือร่วมกันถึงเรื่อง การท่องเที่ยวมูลค่าสูง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว Thailand Wellness tourism  รุกเจาะกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูงกลุ่ม พักระยะยาว/Longstay และ Digital Nomad Agent ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลก  โดยเน้นสร้างกิจกรรมและเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ พร้อมกับนำร่องขายการท่องเที่ยว Krabi Wellness Tourism    

 

ปิดท้าย ททท.รายงานสถิติ 10 เดือนแรก ระหว่างมกราคม- 30 ตุลาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวตลาดตลาดระยะไกลเข้าไทยจาก 4 ทวีป 5 อันดับแรก รวม 3,348,503 คน ได้แก่ 1.รัสเซีย 1,092,651 คน 2.สหรัฐอเมริกา 695,258 คน 3.สหราชอาณาจักร (UK) 615,067 คน 4.เยอรมัน 522,591 คน 5.ฝรั่งเศส 422,936 คน

           

ส่วน “รายได้” ททท.รวบรวมช่วง 9 เดือนแรก ระหว่างมกราคม – 30 กันยายน 2566 ตลาดระยะไกล 5 ใช้เงินในไทย 5 อันดับแรก มูลค่ารวม 120,339 ล้านบาท ได้แก่ 1.ยุโรป 70,668 ล้านบาท 2.ตะวันออกกลาง 29,596 ล้านบาท 3.อเมริกา 17,732 ล้านบาท 4.แอฟริกา 2,343 ล้านบาท

 

WTM 2023 ผ่านไปอีก 1 ปี สิ่งที่ ททท.และทุกภาคส่วนจะต้องสานต่อคือ “เป้าหมาย” รายได้เข้าประเทศปี 2567 มูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท ส่วนคนไทยทั้งประเทศก็ควรร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีด้วยเช่นกัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ช้อปด่วน! 11.11คิงเพาเวอร์ปลดล็อกส่วนลดโค้ด 11,111 บาท

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำขบวนสินค้าดิวตี้ฟรีแบรนด์ดังมากมายหลากหลาย ต้อนรับเดือนพฤศจิกายน 2566    ทุกการช้อป “เป็น ไป ได้” ที่คิง เพาเวอร์ ทุกช่องทาง ทุกสาขาหน้าร้านในเมืองที่ รางน้ำ ศรีวารี ภูเก็ต เชียงใหม่ ร้านค้าในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ /Kingpower.com วันนี้ -30 พฤศจิกายน 2566 “ช้อปวนไปไม่รู้จบ” จัดเต็มกับมหกรรมช้อปปลดล็อกส่วนลดปัง ๆ  5 กิจกรรม ดังนี้

 

กิจกรรมที่ 1 ช้อปด่วน !! 11.11 วันเดียวเท่านั้น! วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เท่านั้น เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ วิ่งเลย ช้อปมัน ช้อปฟัน พร้อมโค้ดรับปลดล็อกได้ ส่วนลดรัว ๆ สุดพิเศษ2 ยอด ตั้งแต่ 1,111 และสูงสุดถึง 11,111 บาท ดังนี้

 

1.ปลดล็อก คูปองส่วนลด 1,111 บาท เมื่อซื้อสินค้า 3,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จรับเงิน(สิทธิ์มีจำนวนจำกัด)

2.ปลดล็อก คูปองส่วนลด 11,111 บาท เมื่อซื้อสินค้า 35,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จรับเงิน(สิทธิ์มีจำนวนจำกัด)

 

วันเสาร์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 คิง เพาเวอร์ เปิดไลฟ์สด ๆ แจกโค้ดผ่าน คิง เพาเวอร์ ชวนมาอันล็อกกับโค้ดลับ 11.11 ได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ทาง Live กับสองหนุ่มหล่อ “นาย-กรชิต และ ดิว-จิรวรรตน์” เตรียมตัวให้พร้อมรอรับโค้ดแล้วสนุกกับการปลดล็อกช้อปวนไปได้ไม่สิ้นสุด มีส่วนลดให้สูงสุดถึง 11,111 บาท รับโค้ดสำเร็จแล้วสามารถนำไปใช้สิทธิ์ได้ทุกสาขาที่คิง เพาเวอร์ กับเฟิร์สเตอร์ และคิง เพาเวอร์ ออนไลน์

 

ข่าวที่ 2 สมัครคิงเพาเวอร์เลือก1ใน3แบบได้ชัวร์ลดสูงสุด5,000บาท

 

ได้ชัวร์!! สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต หรือ LINE @KINGPOWER ช้อปแบบไหนก็คุ้ม รับส่วนลดพร้อมสิทธิประโยชน์หลากหลายมากมาย 

               

สมัครด่วน !! สมาชิกคิง เพาเวอร์ สมัครปุ๊บรับปั๊บ “ส่วนลด” ได้สูงสุดถึง 5,000 บาท เลือกได้ 3 บัตร คือ

 

สมัครสมาชิก “SCARLET แล้วเติมเงินเพียง 20,000 บาท ให้แบบไม่ลังเลเมื่อช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ลดทันที 3,500 บาท ตลอดรายการได้คนละ 1 สิทธิ์

 

“ช้อปเพิ่ม” ให้ครบ 20,000 บาท/ใบเสร็จ รับคืนเพิ่มแบบไม่ต้องรอคือบัตรของขวัญหรือ GIFT VOUCHER 1,500 บาท ได้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน

 

สมัครสมาชิก “ONYX แล้วเติมเงินเพียง 150,000 บาท ช้อปแบบจัดหนัก รับทันที! แพ็กเกจท่องเที่ยวสบาย ๆ บินลัดฟ้าไปพักผ่อนในเมืองสวย ๆ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถึง 4 วัน 3 คืน ที่เมืองฉางซา กับจางเจียเจี้ย ให้เดินทางได้ครั้งละ 2 คน/สิทธิ์ สมัครก่อนรับสิทธิ์ก่อน หมดแล้วหมดเลย

               

สมัครสมาชิก “NAVY แล้วเติมเงินเพียง 1,000 บาท เพื่อช้อปแบบเบา ๆ  รับทันที! คูปองส่วนลด 10% เมื่อเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ 1 ชิ้น คูปองหมดอายุภายในวันที่สมัคร ได้รับแล้วรีบใช้ให้คุ้ม

 

ข่าวที่ 3 ลดวนไปที่คิงเพาเวอร์ช้อปเซอร์ไพรส์สุวรรณภูมิดอนเมือง

 

ลดวนไปไม่รู้จบ!! เมื่อมีเที่ยวบินหรือไฟลต์เดินทางต่างประเทศยิ่งเซอร์ไพรส์ ที่ คิง เพาเวอร์ 2 สนามบินนานาชาติหลัก ทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ต่อที่ 1 “คนไทย” รับส่วนลด 500 บาท ต่อที่ 2 สมัครเลยเพื่อรับสิทธิสมาชิกใหม่ NAVY หรือ SCARLET รับส่วนลด 700 บาท เมื่อช้อปสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง ครบ 3,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ สมาชิกใหม่สมัครได้ที่จุดขายและจุดบริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ สาขาสนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมืองเท่านั้น และช่องทาง LINE Official Account : @KINGPOWER

 

รวมทั้งเลือกช้อปจุใจ Travel Exclusive Set จัดไว้นักเดินทางสายบิวตี้ครบจบเซ็ตเดียว มีขายที่ คิง เพาเวอร์ 2 สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ตรงร้านคิง เพาเวอร์ อาคารผู้โดยสารหลัก และนักเดินทางที่จะต้องใช้บริการรถไฟฟ้าอัตโนมัติเพียง 3 นาที ไปขึ้นเครื่องตรงอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ SAT-1 เมื่อถึงก็สามารถแวะช้อปเก็บตกได้อีกรอบ

 

ข่าวที่ 4 นายกฯดันซอฟท์เพาเวอร์ThailandWinterFest3,000งาน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้เป็นประธานเปิดตัวงานใหญ่งานแรก สาขาเฟสติวัล 1 ใน 11 สาขาเป้าหมายในยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ คืองานเทศกาล Thailand Winter Festivals   ซึ่งรัฐบาลต้องการจะประกาศความพร้อม และแสดงศักยภาพการเป็นฮับแห่งเฟสติวัลโลก ทำให้ไทยเป็นประเทศแห่งเทศกาลหรือ Festival Country ภายในงานประกอบด้วย 2 เทศกาล ได้แก่ เทศกาลแรก Thailand Winter Festival และเทศกาลที่ 2  Colorful Bangkok Winter Festival 2023 ภายใน 2 เดือน ระหว่างพฤศจิกายน -ธันวาคม 2566 จะทยอยจัดเทศกาลทั่วประเทศรวมกว่า 3,000 งาน เป็นงานในกรุงเทพฯ  200 งาน

 

ขณะนี้รัฐบาลไทยและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์เพาเวอร์แห่งชาติได้ร่วมมือเริ่มต้นกับทุกภาคส่วนริเริ่มนำร่องนโยบายอย่างชัดเจนโดยการนำสินค้าทางการท่องเที่ยว สร้างแรงดึงดูดด้วยจุดแข็งซอฟท์ เพาเวอร์ ของไทย ซึ่งจะทำให้ระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจแข็งแรง

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า “งาน Thailand Winter Festivals จะเน้นการทํางานแบบบูรณาการอย่างแท้จริง โดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายยกระดับไทยขึ้นเป็นประเทศผู้นําด้านเฟสติวัลของโลก ตามที่คณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติได้เริ่มผลักดัน แก้กฎหมายซึ่งเป็นอุปสรรคการวางรากฐานอุตสาหกรรมให้เติบโต โดยจะเดินหน้าสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงองค์ความรู้ทำใให้อนาคตประเทศไทยเป็น Festival Country โดยการใช้ศักยภาพทางการท่องเที่ยวอีกมากรวมทั้งรัฐบาลมีนโยบายหลายมิติจะสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ ทั้งการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กำลังเริ่มก่อสร้างสนามบินอันดามัน กับนโยบายวีซ่าฟรีก็ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

 

               นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “Thailand Winter Festival” ถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่ที่จะนำการท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล ช่วงตุลาคม- ธันวาคม 2566 เป็นไฮซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากที่สุดเหมาะสมจะเพิ่มแรงส่งทางการท่องเที่ยวด้วยอีเวนต์ขนาดใหญ่ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดย ททท. จึงได้เสนอจัดไฮไลต์การท่องเที่ยว 5 กิจกรรม ได้แก่

 

1.สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566 นําเสนอประเพณีลอยกระทงอันทรงคุณค่า เน้นย้ำความสุขอย่างวิถีไทย  2.Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023 ตอกย้ำความพร้อมของกรุงเทพฯ นำไทยก้าวสู่ประเทศจุดหมายปลายการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลก (Sport Tourism Destination) 3.Amazing Thailand Passport Privileges มอบสิทธิประโยชน์การใช้จ่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยแก่นักท่องเที่ยว ต่างชาติ  

 

4.Vijit Chao Phraya 2023 แต่งแต้มสีสันแนวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนตลอดเดือนธันวาคม 2566 จัดการแสดงหลากทางวัฒนธรรมกระจาย 6 พื้นที่ จากแนวของสายน้ำคดโค้งสู่แลนด์มาร์กของไทย 5.Amazing Thailand Countdown 2024 ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางเคาน์ดาวน์ของโลก หรือ Global Countdown Destination ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

               

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า การนำเสนอไทยแลนด์ ซอฟท์ เพาเวอร์ ด้วยการริเริ่มจัด Thailand Winter Festivals นับจากนี้เป็นต้นไปการจัดเทศกาลทั่วไทยให้เกิดขึ้นถึง 3,000 งาน  เมื่อไปปรากฎอยู่ที่ใดก็ตามก็จะสื่อให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นเมืองไทย เริ่มเดือนพฤศจิกายนนี้เทศกาลลอยกระทง จัดยิ่งใหญ่มายาวนานคือ ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟจังหวัดสุโขทัย ต่อเนื่องปลายเดือนธันวาคมนี้เคาน์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ 2567 กำหนดจะจัดพร้อมกันทั่วประเทศ 70 แห่ง

 

นอกเหนือจากเทศกาลสำคัญ 2 งานนี้ แล้วยังมีเทศกาลดนตรี อาหาร กีฬา รวมถึงสิ่งที่น่าสนใจทางศิลปะต่าง ๆ แต่ละกิจกรรมจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป เป็นแรงส่งไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันไทยยังขาดหน่วยงานกลางเชื่อมโยงงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จึงเป็นที่มาของการริเริ่มจัดงาน Thailand Winter Festivals โดยได้ร้อยเรื่องราวบอกเล่าให้เป็นเรื่องน่าติดตามด้วยการเติมเทคโนโลยีกับนวัตกรรมเข้าไปเพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้ถูกจดจำในฐานะประเทศจุดหมายปลายมาร่วมเฉลิมฉลองความสุขช่วงปลายปีในเมืองไทย รวมทั้งจะอีกเครื่องมือกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายเงิน เศรษฐกิจของประเทศ เพื่อทำให้ประเทศไทยได้ปรากฎอยู่บนแผนที่โลกอีกครั้ง

 

ข่าวที่ 5 บางจากQ3ปี’66กำไรสูงสุด39ปี/9เดือนรายได้2.4แสนล้าน

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 242,931 ล้านบาท มี EBITDA 31,433 ล้านบาท แม้ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันจะได้รับปัจจัยกดดันจาก Operating GRM ครึ่งปีแรกลดลงเพราะราคาน้ำมันลด แต่ได้การลงทุนและขยายธุรกิจส่วนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ ทั้งธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งซื้อ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นบริษัทย่อย และเริ่มรับรู้ผลดำเนินงาน ทำให้ 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทใหญ่กลุ่มบางจากฯ มีกำไรสุทธิ 14,210  ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 10.09 บาท

 

เฉพาะไตรมาส 3 ปี 2566 มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งมา 39 ปี  ทำได้ 11,011  ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.91 บาท โดยมีรายได้ 94,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 39 % และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 20 % มี EBITDA 13,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 % จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 20 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลมาจาก 4 ปัจจัยคือ

 

1.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้มี Inventory Gain 3,598 ล้านบาท 2.ปริมาณการจำหน่ายของธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3.ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ารับรู้การผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว เต็มไตรมาสและรับรู้ปริมาณการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 โครงการ และ 4.รับรู้ผลการดำเนินงานของเอสโซ่ (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 76.34 % ในงบการเงินรวม ตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นมา รวมถึงมีบันทึกกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อที่เกิดจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สิน (PPA)  7,389 ล้านบาท

 

ไตรมาส 3 ปี 2566 แต่ละกลุ่มธุรกิจของบริษัท บางจาก ฯ มีผลการดำเนินงานดังนี้

 

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA 6,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100 % และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 53 % โดยค่าการกลั่นพื้นฐานไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก 14.67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล นับเป็นระดับสูงกว่าค่าการกลั่นในตลาดสิงคโปร์ที่ 9.60  เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นฯ มีกำลังการผลิตเฉลี่ย116.4 พันบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 97 % ของกำลังการผลิต

 

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มี EBITDA 1,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100 % โดยปริมาณการจำหน่าย 1,571 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 13 % เพิ่มขึ้นทั้งตลาดค้าปลีกและตลาดอุตสาหกรรม เพราการผลักดันการจำหน่าย ขยายสถานีบริการ และส่งเสริมการตลาด และตลาดน้ำมันเครื่องบินฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาคท่องเที่ยว

 

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจเอสโซ่ (ประเทศไทย) มี EBITDA 1,281 ล้านบาท ไตรมาส 3 ได้เริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานเอสโซ่ (ประเทศไทย) ในงบการเงินรวมของบางจากฯ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 ซึ่งเดือนกันยายน 2566 โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา หยุดการผลิตเพื่อซ่อมบำรุงตามแผนกับเพื่อติดตั้งและเชื่อมต่ออุปกรณ์โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 รวม 25 วัน

 

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มี EBITDA 1,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน  35 %  และเพิ่มจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 10 % เป็น EBITDA สูงที่สุดใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา เพราะโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาว กลับมาผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเต็มไตรมาส พร้อมกับรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 โครงการ)  โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทยมีปริมาณจำหน่ายไฟเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

 

กลุ่มที่ 5 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 22 % และมากกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน 100 % โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปริมาณการจำหน่ายเพิ่มตามแผนบริหารการขายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของบริษัท

 

กลุ่มที่ 6 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่ มี EBITDA 4,873  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 32 % โดยปริมาณจำหน่ายของ OKEA เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 17 % จากปริมาณจำหน่ายเพิ่มขึ้นของแหล่งผลิต Brage และ Nova (ไตรมาส 2 ปี 2566 ไม่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก 2 แหล่งนี้) ผนวกกับราคาขายเฉลี่ยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวปรับเพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลก  ส่วน OKEA ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐของนอร์เวย์เดินหน้าขยายการลงทุนในแหล่ง Statfjord คาดธุรกรรมจะเสร็จสิ้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

 

            ช่วงที่ 2 หนาวแล้วมาเที่ยวเมืองดอกไม้ใน “วังน้ำเขียว-เขาใหญ่-สีคิ้ว” นครราชสีมา กันดีกว่า ตอนนี้เริ่มทยอยเปิดยาวจนไปถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทั้งที่ “เดอะ ฟลอร่า การ์เด้น-ฟลอร่า พาร์ค-ฮ็อกไกโด-เทศกาลดอกไม้บาน” แล้วลอง “6วิธีนอนหลับได้ง่าย ๆ” ทำได้ด้วยตนเอง เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “การบินไทย” 9 เดือนแรกกำไรเป๋าตุง 1.6 หมื่นล้าน ข่าวที่สอง “กลุ่มดุสิต” แรงไม่หยุดผนึกไซโอกรีนยักษ์อสังหานำแบรนด์ “ปริ๊นเซส” ลุยอินเดียบริหาร 4 โรงแรม เปิดปี 69

 

ท่องเที่ยว –หนาวนี้เที่ยว“วังน้ำเขียว เขาใหญ่4เมืองดอกไม้งามต้องมา

 

เริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวหน้าหนาวแล้ว แนะนำไปเช็คอิน สวนดอกไม้สวย ๆ แถว “วังน้ำเขียว” และ “เขาใหญ่” นครราชสีมา กันได้ตั้งแต่พฤศจิกายน นี้ ต่อเนื่องไปจนถึง กุมภาพันธ์ 2567 ตอนนี้ทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยว ไปชีล แชะ แชร์

 

พิกัดที่ 1 The Forest Garden สวนดอกไม้สไตล์อังกฤษท่ามกลางขุนเขา วังน้ำเขียว ทยอยเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566- มีนาคม  2567 ธันวาคมนี้รอพบกับทุ่งดอกทานตะวันบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ และดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ ส่วนคาเฟ่กับร้านอาหารโซน “การ์เด้น” เปิดทุกวัน 8.00 -20.00 น.

           

พิกัดที่ 2 ศูนย์เรียนรู้ “ฟลอร่า พาร์ค” วังน้ำเขียว ต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบไม่มีวันหยุดตั้งแต่ 8.00-18.00 น. วันนี้-29 กุมภาพันธ์ 2567 เดินทางสู่มิติมหัศจรรย์ดินแดนดอกไม้ ความสูงกว่า 6 เมตร ของกลีบดอกไม้ 3 มิติ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ   ต้องห้ามพลาด 4 ไฮไลต์   สวนดอกไม้ใน ฟลอเรสต์ พาร์ค มีหนึ่งเดียวในเมืองไทย เป็นสวนสไตล์ Virtual Meets Reality Concept  มีดอกไม้ให้ชมความงามทางธรรมชาติกว่า 2 ล้านดอก  

 

ปีนี้แนะนำมาท่องเที่ยวเทศกาลดอกไม้ฤดูหนาว “ENCHANTED FLORA PARK” มิติมหัศจรรย์ดินแดนดอกไม้ @Flora Park วังน้ำเขียวได้ทุกวัน โดยมีค่าบำรุงสวนหรือบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 250 บาท เด็ก และผู้สูงอายุ 150 บาท และเข้าฟรี! เด็กเล็กความสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร พระภิกษุ-สามเณร และผู้พิการ แสดงบัตรประชาชนให้แก่เจ้าหน้าที่หน้าสวนดอกไม้ เพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว

 

ภายใน ฟลอร่า พาร์ค ได้รวบรวมพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร พฤกษชาติ มากมาย พร้อมพันธุ์ไม้ท้องถิ่นให้เรียนรู้อย่างจุใจ รวมทั้งร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชมชนสมุนไพรชีววิถี ตามแนวพระราชดำริเศรฐกิจพอเพียง บ้านคลองปลากั้ง อำเภอวังน้ำเขียว  นำเสนอสวนสมุนไพรกว่า 28 ชนิด และความรู้มากมายเชิงเกษตรที่ยั่งยืน

 

ขณะนี้ทาง ฟลอร่า พาร์ค เปิดให้นักท่องเที่ยวจองเวิร์คช้อปได้เพื่อสร้างหัวใจสีเขียวไปด้วยกัน

 

จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดการท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการ สามารถจองทางออนไลน์ https://www.ticketmelon.com/florapark/enchantedflorapark  หรือโทร: 089-812-8851

 

Google Maps - https://maps.app.goo.gl/v7vneTtmNeaFdMCM9

 

พิกัดที่ 3 เที่ยวเมืองดอกไม้เขาใหญ่ ต่อได้ที่ “ฮอกไกโด ฟลาเวอร์ พาร์ค เขาใหญ่ :Hokkaido Flower Park Khaoyai”  เป็นอีกจุดหมายปลายทางสวยใกล้ชิดธรรมชาติ ปีนี้เปิดให้ชมทุ่งดอกมากาเรตกำลังทยอยบานเต็มพื้นที่

 

ติดต่อเข้าชมได้ทาง FB : Hokkaido Flower Park Khaoyai โทร.098 096 2938

 

Google Maps : https://maps.app.goo.gl/jTPqhKS2pPNjLQkm9

 

พิกัดที่ 4 เที่ยวเทศกาลดอกไม้บาน ทางชาว “อำเภอสีคิ้ว” ชวนเหล่าสาวกสายดอกไม้ เตรียมตัวให้พร้อมรอท่องเที่ยวมหกรรมดอกไม้บาน 8-14 มกราคม 2567 ปีนี้จัดดีกว่า ใหญ่กว่า สวยกว่า ที่ “วิทยาลัยเกษตร” อัดแน่นด้วยมุมดอกไม้สวย ๆ ละลานตา สนุกเฮฮากับกิจกรรมหลากหลายให้เรียนรู้ แล้วก็ชอบเพลินผลิตภัณฑ์พื้นเมืองเกษตรคุณภาพสูง

           

พร้อมแล้ว !! ก็ไปเที่ยว เมืองดอกไม้ วังน้ำเขียว เขาใหญ่ สีคิ้ว กันได้เลย ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567

 

สุขภาพ –6วิธีนอนให้หลับง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

วิธีนอนให้หลับไวและหลับสนิทอย่างมีคุณภาพตลอดทั้งคืน มีดังนี้ 

1. เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา -กำหนดเวลาการเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงกันทุกวัน ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด เพราะจะช่วยให้วงจรจังหวะเซอร์คาร์เดียน (Circadian Rhythm) ซึ่งเป็นวงจรการทำงานของร่างกายที่ควบคุมการนอนหลับทำงานอย่างเป็นระบบและทำให้ร่างกายเคยชินกับเวลาเข้านอน ทำให้หลับง่าย

2. จำกัดเวลาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ -ไม่ควรดูโทรทัศน์ ใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เช่น ถ้าเข้านอนเวลา 22.00 น. ให้งดใช้อุปกรณ์เหล่านี้ก่อน 21.00 น. เนื่องจากแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านี้รบกวนการทำงานของจังหวะเซอร์คาร์เดียน ซึ่งอาจทำให้นอนหลับได้ยาก

3. อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน -เป็นวิธีนอนให้หลับได้ง่ายขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยร่างกายผ่อนคลายแล้ว อุณหภูมิของร่างกายจะลดลงขณะที่นอนหลับ เพื่อส่งสัญญาณบอกสมองว่าถึงเวลานอนหลับแล้ว การอาบน้ำอุ่นจะเร่งกระบวนการที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงได้เร็วขึ้น จึงทำให้นอนหลับได้เร็วขึ้น

 

4. ผ่อนคลายความเครียด -ความเครียดจากชีวิตประจำวันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้นอนไม่หลับ ควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการอ่านหนังสือ นั่งสมาธิ และเล่นโยคะก่อนเข้านอน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและจิตใจสงบ  นอกจากนี้ การฟังเพลงสบาย ๆ หรือฟังคลื่นเสียงที่ทำให้รู้สึกสงบและลดความวิตกกังวล เช่น เสียงที่มีคลื่นความถี่สม่ำเสมอ (White Noise) หรือคลื่นเสียงบำบัดสมอง (Binaural Beats) ซึ่งเป็นการนำคลื่นเสียงความถี่แตกต่างกัน 2 คลื่นมาผสมเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้สมองปรับจูนให้เป็นโทนเสียงใหม่ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

5. ปรับพฤติกรรมการกิน -ก่อนเข้านอนมีผลต่อการนอนหลับเช่นกัน ไม่ควรกินอาหารมื้อเย็นปริมาณมาก ควรกินอาหารก่อนเวลา 19.00 น. หรือก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันอิ่มตัวสูง และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์และคาเฟอีน ซึ่งทำให้นอนหลับยาก

6. ออกกำลังกายเป็นประจำ -นอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง การออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น โดยทั่วไป ควรออกกำลังกายที่ความหนักระดับปานกลางสัปดาห์ละ 150 นาที หรือแบ่งเป็น 5 วัน วันละ 30 นาทีในช่วงเช้า ซึ่งจะช่วยให้วงจรจังหวะเซอร์คาร์เดียนทำงานอย่างเป็นระบบ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายช่วงใกล้เวลาเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ร่างกายตื่นตัวจนนอนไม่หลับ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –การบินไทยโชว์9เดือนปี66กำไรเป๋าตุง1.63หมื่นล้าน

 

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยการบินไทย ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 16,342 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนขาดทุน 11,237 ล้านบาท คาดเมื่อสิ้นสุดปี 2566 จะมีรายได้ 1.5 แสนล้านบาท และปี 2568 เป็นต้นไป จะทำรายได้เกินปี 2562 ก่อนเกิดโควิดเคยทำไว้ปีละ 1.8 แสนล้านบาท

 

เฉพาะ 9 เดือนปีนี้มี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 31,720 ล้านบาท  มี “รายได้รวม” (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 115,897  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนทำไว้รวม 65,567 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 เคยทำได้ 1.8 แสนล้านบาท

 

ภาพรวม 9 เดือนแรกปีนี้ มี “ค่าใช้จ่ายรวม” (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 86,567 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนทำไว้ 66,115 ล้านบาท บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 29,330 ล้านบาท ดีกว่างวดเดียวกันกับปี 2565 ซึ่งขาดทุน 548 ล้านบาท

 

ขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2566 การบินไทยและบริษัทย่อย มี “รายได้รวม” (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 37,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 32,860 ล้านบาท หรือ 12.6% ให้บริการ ”ผู้โดยสารรวม” ทั้งสิ้น 3.27 ล้านคน โดยการบินไทย 2.19 ล้านคน และไทยสมายล์ 1.08 ล้านคน มี “อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร” (Cabin Factor) เฉลี่ย 77.3% แบ่งเป็น การบินไทย 77.1% และไทยสมายล์ 80.9% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทำไว้เฉลี่ย 77.0%

 

มี “ค่าใช้จ่ายรวม” (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 29,289 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนทำไว้ 28,940 ล้านบาท เป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 11,995 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของค่าใช้จ่ายรวม) โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 7,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2565 เคยทำกำไรไว้ 3,920 ล้านบาท

 

นายปิยะสวัสดิ์กล่าวว่า ยังมีความท้าทายในตลาดอีกหลายปัจจัย คือ ปัจจัยที่ 1 สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส (SAS) กลับมาบินเข้าออกไทยอีกครั้ง รวมทั้งเอมิเรตส์ให้บริการเครื่องบินขนาดใหญ่แอร์บัส A380 ปัจจัยที่ 2 สถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง ปัจจัยที่ 3 ผู้โดยสารต่างประเทศที่ได้รับวีซ่า อย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังไม่ได้เพิ่มขึ้น ส่วนคาซัคสถานการบินไทยไม่ได้เปิดบิน ขณะที่อินเดียกับไต้หวันจะต้องดูผลอีกสักระยะ

ภารกิจหลักของการบินไทยที่จะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลางได้ ตามกฎหมายระบุให้ทำตามเงื่อนไขภายในธันวาคม 2567 ให้ครบ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 แปลงหนี้เป็นทุน เรื่องที่ 2 ออกหุ้นกู้เพิ่มทุน แต่การบินไทยก็จะต้องทำให้ผลประกอบการออกมาเป็นบวกในไตรมาส 3 ปี 2568 จึงจะเข้าเกณฑ์การออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ

 

ควบคู่กับ “หาฝูงบินใหม่” เข้ามาเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสารและเพิ่มเส้นทางบินตามเป้าหมาย ตอนนี้เดินหน้าแผนเช่าเครื่องบิน (Operating Leaste) ใช้แล้วมาบริการกำลังทยอยเข้าฝูงรวมทั้งหมด 26 ลำ แบ่งเป็น แอร์บัส A350 รวม 11 ลำ แอร์บัส A330 รวม 2 ลำ โบอิ้ง 787-9 รวม 1 ลำ แอร์บัส A320neo อีก 12 ลำ ในภาพรวมเริ่มส่งมอบแล้ว 3 ลำ กำลังทยอยส่งมอบอีก 23 ลำ ส่วนฝูงบินหลังรวมไทยสมายล์มาอยู่ภายใต้การบินไทยก็โอนเครื่องบินมาด้วย  20 ลำ

               

                นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย กล่าวว่า สถานการณ์ผู้โดยสารตลาดต่างประเทศที่ได้รับวีซ่าฟรีตามนโยบายรัฐบาล เริ่มจาก สาธารณรัฐประชาชนจีนหลังรัฐบาลประกาศนโยบายวีซ่าฟรีมาระยะหนึ่งแล้วการบินไทยมีจำนวนที่นั่งให้บริการไป-กลับระหว่างไทย-จีน ประมาณ 40 % ของปี 2562 ผู้โดยสารจีนยังใช้บริการไม่เต็ม ซึ่งตามแผนเตรียมจำนวนที่นั่งไว้สูงถึง 60 % ตอนนี้คงต้องรอดูสถานการณ์ช่วงเทศกาลตรุษจีนต้นปี 2567 อีกครั้ง เพราะจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงแรมช่วงธันวาคมนี้ยอดจองห้องพักล่วงหน้ายังไม่ได้ขยับเท่าไร

 

ส่วนผู้โดยสารตลาดอินเดีย การบินไทยเพิ่มจำนวนที่นั่งและความถี่ในเส้นทางบิน เดลี กับมุมใบ ขณะที่ตลาดอื่น ๆ ต้องการตลาดอย่างระมัดระวัง คาดการณ์การทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารไตรมาส 4 เดือนตุลาคมจะอยู่ที่ 74-75 % เดือนพฤศจิกายน 75 % เดือนธันวาคม 80 % ขึ้นไป

 

                สำหรับแผนเปิดเที่ยวบินตรง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-อิสตันบูล (ทูร์เคีย/ตุรกี) เริ่ม 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ท่ามกลางสถานการณ์ความท้าทายจากเหตุการณ์สู้รบในอิสราเอล/ตะวันออกกลาง นั้น การบินไทยยังคงเดินหน้าทำตามแผนปกติ เนื่องจากต้องการใช้ศักยภาพของอิสตันบูลเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายผู้โดยสารแลกเปลี่ยนใน 3 ทวีป ได้แก่ ยุโรป แอฟริกา เข้าเอเชีย แล้วใช้ไทยเป็นเกตเวย์กระจายผู้โดยสารดังกล่าวต่อไปยังตลาดอื่น ๆ ในเส้นทางบินแถบเอเชียเพิ่มขึ้นได้

 

ข่าวที่สอง -กลุ่มดุสิต-ไซโอกรีนนำปริ๊นเซสบุกอินเดียบริหาร4โรงแรม

 

            มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีประกาศเซ็นสัญญาบริหารโรงแรม (Hotel Management Agreement : HMA) และบริหารเรสซิเดนซ์ (Residential Management Agreement) ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ไซโอกรีน จำกัด หรือ “ไซโอกรีน ไพรเวท” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในบังกาลอร์ อินเดีย เพื่อบริหารจัดการโครงการโรงแรมและเรสซิเดนซ์รวม 4 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสของรัฐกรณาฏกะ อยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย โดยจะแบรนด์ “ดุสิต ปริ้นเซส” โดยทุกโครงการ คาดจะเปิดบริการช่วงกลางปี 2569 เป็นต้นไป

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงกลุ่มดุสิตธานีมุ่งมั่นขยายธุรกิจในอินเดีย ในทำเลที่มีความสวยงามทางธรรมชาติพร้อมการบริการอย่างไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี มั่นใจโครงการแห่งใหม่ทั้ง 4 นี้จะเป็นจุดหมายปลายทางสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ผู้มาเยือนและยังเป็นส่วนหนึ่งช่วยสร้างมูลค่าความยั่งยืนให้ชุมชนได้ด้วย

 

โครงการใหม่ในอินเดียทั้ง 4 แห่ง โดยทุกโครงการมีห้องพักรวมทั้งหมด 450 ห้องจะเปิดตัวภายใต้แบรนด์ ‘ดุสิต ปริ้นเซส’ แบ่งเป็น เขตคอร์ก 2 โครงการ และเมืองบาเกปัลลิอีก 2 โครงการ ซึ่งอยู่ในกรณาฏกะเป็นรัฐขนาดใหญ่สุดในอินเดียใต้ มีมรดกทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมน่าทึ่ง รายล้อมด้วยป่าอันเขียวชอุ่ม สัตว์ป่า และธรรมชาติงดงาม  

สำหรับในเขตคอร์กมีจุดเด่นด้านทัศนียภาพสวยงาม อากาศหนาวสบาย ป่าเขียวชอุ่ม ไร่กาแฟ และเป็นแหล่งมรดกโลก เช่น ทาลาคาเวรี แหล่งกำเนิดของแม่น้ำกาเวรี ทำให้คอร์กมักถูกเรียกว่า ‘สก็อตแลนด์ของอินเดีย ซึ่งจะเปิด 2 โครงการแรก ประกอบด้วย 1.โรงแรมดุสิต ปริ้นเซส คอร์ก มีห้องพักรวม 100 ห้อง และ 2.โรงแรมดุสิต ปริ้นเซส เรสซิเดนเซส คอร์ก’ แบ่งเป็นวิลล่า 50 หลัง ห้องพัก 100 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 182,000 ตารางเมตร ท่ามกลางเทือกเขาธรรมชาติอันร่มรื่น

ส่วนในเมืองบาเกปัลลิ จะอยู่ภายในโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เน้นเวลเนสแบบสุขภาพองค์รวม บนพื้นที่ขนาด 283,000 ตารางเมตร เปิดอีก 2 โครงการ ประกอบด้วย 1.ดุสิต ปริ้นเซส รีสอร์ท บาเกปัลลิ มีห้องพักรวม 100 ห้อง และ 2.ดุสิต ปริ้นเซส เรสซิเดนเซส บาเกปัลลิ นำเสนอวิลล่ารองรับตลาดผู้สูงอายุโดยเฉพาะรวม 150 หลัง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย 

และเทวารัณย์ เวลเนส พร้อมนำเสนอประสบการณ์ผ่านโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมภายใต้แนวคิด การหยุดนิ่ง “Pause” การมีสมาธิ “Focus” และการเติบโต “Growth” รวมถึงการรักษาด้วยสมุนไพร การรักษาอายุรเวท และหลักการรักษาแบบไทยโบราณ ภายใต้บรรยากาศที่เอื้ออำนวยกับการพักผ่อนอย่างมาก เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยงามสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำชิตราวาธีเงียบสงบ เดินทางสะดวกสบายอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติบางกะลอร์ ใช้รถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง