ททท.รุกไฮซีซันนายกฯเศรษฐานำเปิดThailandWinterFest
งัดพลังซอฟท์เพาเวอร์โกยรายได้“ลอยกระทง-เคาน์ดาวน์”
ดึง77เส้นทาง55เมืองรองขายปีใหม่-บูมจีโอพาร์คโคราช
คิงเพาเวอร์แจกผู้โดยสารไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ลดรัวๆ30%
ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์Exploreรับดีลพิเศษถึง30พ.ย.นี้
RALLY MOVEMENTเปิดแล้วชอปชั้น3คิงเพาเวอร์รางน้ำ
ททท.ปลื้มSASเข้าไทยไฟลต์แรกปี66โกยสแกน4หมื่นล้าน
บางจากเฮนักลงทุนหญิงแชมป์ซื้อหุ้นกู้ล็อตสอง3พันล้าน
เที่ยวปังไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย9ธ.ค.66-30เม.ย.67
ด่วน!!ต้องรู้วิธีรับมือ“ภาวะเปราะบาง”
ภัยเงียบในผู้สูงอายุ
บินไทยเปิดกรุงเทพฯ-อิสตันบูลเชื่อม3ทวีปชิง5โอกาสทอง
เปิดสนามบินเชียงใหม่24ชม.Q4ปี’66ผู้โดยสารโตทันที30%
วันเสาร์ที่
4 พฤศจิกายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #สมฤดีจิตรจง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/o5vWEBTDy2/
ช่วงที่ 1 กางแผนเที่ยวไทยกับ “สมฤดี จิตรจง”
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดันจุดขายไฮซีซันเปิด
Thailand Colorful นายกฯ
เศรษฐา ทวีสิน นำทีมคลิกออฟ 9 พ.ย.66
ชูโรง ซอฟท์ เพาเวอร์
2 เทศกาลใหญ่
“ลอยกระทง-เคาน์ดาวน์” เที่ยว 5 ภาค
โฉมใหม่คึกคักทั่วไทย เร่งสำรวจมุมใหม่ “55 เมืองรอง” มัดรวมพื้นที่คนเที่ยวน้อย 77 เส้นทาง วางขายออนไลน์ช่วงปีใหม่ งัดจุดขายโลก
“จีโอพาร์ค โคราช” ลำตะคอง เควสต้า เขายายเที่ยง ขยายพื้นที่เที่ยวออกจากเขาใหญ่
ปากช่อง เร่งสร้างซัพพลายไซด์ยั่งยืน รักษาอันดับเมืองไทยติดท่องเที่ยว 1 ใน 5 ของโลกไว้
นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 256ททท.มีเป้าหมายจะต้องเดินหน้านำรายได้ท่องเที่ยวรวม
2.3 ล้านล้านบาท
จากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ 135 ล้านคน-ครั้ง
30 ล้านคน
โดยเฉพาะกลยุทธ์กระตุ้นการใช้จ่ายเงินในประเทศรับฤดูการเดินทางปลายปีระหว่างพฤศจิกายน-ธันวาคม
2566
ด้วยกิจกรรมหลากหลายโดยยังคงมีนักเดินทางเคลื่อนตัวเป็นอย่างดีทำได้ตามเป้าหมาย
รวมทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะเปิดตัวกิจกรรม Colorfull Thailand ทั่วไทยจะสนุกสนานตามฤดูกาลท่องเที่ยว
งานใหญ่จะครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ ๆ จะเริ่มคลิกออฟ งานที่ 1 ลอยกระทง 5 ภูมิภาค
เริ่มจากเผาเทียนเล่นไฟอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต่อด้วย “ยี่เป็ง” เชียงใหม่
กระทงสาย จ.ตาก งานโคม จ.ลำพูน และลอยกระทงตามภาคต่าง ๆ
สำหรับกรุงเทพฯ
จะนำเสนอ Colorfull Thailand ลอยกระทง
24-27 พฤศจิกายน 2566 บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม
ประดับตกแต่งไฟสวยงามยาวไปจนถึงหัวลำโพง
ส่วนกรุงเทพมหานครลอยกระทงตกแต่งไฟสวยสะพานพระราม 8 พร้อมสีสันจังหวัดรอบปริมณฑล เช่น
ลอยกระทงกาบบัวเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม และพื้นที่อื่น ๆ
งานที่
2 เคาน์ดาวน์/Countdown ททท.จัดทำไฮไลต์ “วิจิตรเจ้าพระยา” โดยมีศูนย์การค้าไอคอนสยาม
มาช่วยเติมเต็มการแสดงพลุ ปี 2566 จะคึกคักกว่าเดิมโดยจะห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ
เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมกับ ททท. เช่น เซ็นทรัลชิดลม จัดเทศกาลดอกไม้ ฟอร์จูนถนนรัชดา
ตกแต่งสีสันตลอดแยกฟอร์จูน ห้างอื่น ๆ ก็ร่วมมือทำให้กรุงเทพฯ น่าสนใจ
ส่วนต่างจังหวัด ก็มี ขอนแก่น หาดใหญ่ (สงขลา) ผนวกกับกิจกรรมงานบุญ
“สวดมนต์ข้ามคืน” ปลุกกระแสท่องเที่ยวสายศรัทธา
“ภาคเหนือ”
จังหวัดเชียงรายจัดมหกรรมไฮไลต์ “ไทยแลนด์ เบียนเนเล่ เชียงราย 2023” เปิดตัว 19 พฤศจิกายน 2566 จากนั้นจะเริ่มจัดแสดงงานคาร์นิวัล อาร์ต
งานศิลปะเชียงรายทั้ง 18 อำเภอ
เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าไปชมต่อเนื่องถึง 5 เดือน ระหว่าง 9 ธันวาคม 2566-30 เมษายน 2567
“ภาคใต้”
เริ่มเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอันดามัน ประจำปี 2566 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
ททท.จะขยายผลเน้นการท่องเที่ยวมากกว่าทะเล นั่นคือซอฟท์ เพาเวอร์ อาหารอร่อย
ขณะนี้
ททท.กำลังให้ ททท.สำนักงานแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ 45 แห่ง เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2566
ทำสำรวจในอำเภอหรือจังหวัดเล็ก ๆ
ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยอยู่
ก็จะรวบรวมมาผูกเป็นเส้นทางท่องเที่ยวต้อนรับปีใหม่ 2567 โดยจะนำเสนอไว้บนเว็บไซต์ Thailandtourism.org
เพื่อเป็นทางเลือกให้คนออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยกระจายตามพื้นที่นอกเหนือจากทั่วไปเพื่อลดความแออัด
พร้อมทั้งจะมีเบอร์โทรศัพท์แนะนำที่พัก ร้านอาหาร รวมอยู่ด้วย
จากนั้นหลังเดือนมกราคม 2567 ก็จะเริ่มจับมือกับสายการบินในประเทศทำโปรโมชั่นแพกเกจตั๋วเครื่องบินกับโปรแกรมท่องเที่ยวเมืองไทยทยอยวางตลาดแต่ละเดือน
นางสาวสมฤดี
กล่าวว่า การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ตามกรอบปัจจุบัน จะยังคงกำหนดให้ไว้ในจำนวนเท่าเดิมตามแผนยุทธศาสตร์จนถึงปี
2580 แต่จะคัดเลือกสินค้าการท่องเที่ยวเด่น
ๆ ผ่านโครงการ “เปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวเมืองรอง ไม่รู้ลืม”
ทำกิมมิกด้วยภาษาวัยรุ่นคือ “เมืองรอง ต้องคราฟท์”
เปรียบเทียบกับงานคราฟท์คือแมนเมดมีเอกลักษณ์แตกต่างไม่เหมือนกัน ดังนั้น
ททท.แต่ละสำนักงานจะต้องค้นหาจุดเด่นของเมืองรองแล้วนำเสนอกับนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน
แล้วจะพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป
เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเมืองรองเติบโตอย่างยั่งยืน
ล่าสุดเมื่อวันที่
1 พฤศจิกายน 2566
ทางยูเนสโก
ประกาศเมืองสร้างสรรค์หรือ Creative City Network ประจำปี 2566 ไทยผ่านฉลุยเข้ารอบด้วย 2 เมืองรอง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย
เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ City of Design กับ จังหวัดสุพรรณบุรี เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี City
of Music ซึ่ง
ททท.สามารถนำเสน่ห์ดังกล่าวมาต่อยอดขยายตลาดท่องเที่ยวในประเทศ อย่างการจัดงาน
ไทยแลนด์ เบียนเนเล่ เชียงราย 2023 นำโดยอาจารย์เฉลิมชัย
โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ
กับศิลปินพร้อมขรัวศิลปะทั่วจังหวัดมารวมตัวกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่
ส่วน
“ภาคกลาง”ก็มีงานจัดแสดงไฟสวยงาม ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี
ขยายงานยาวข้ามปี “ภาคตะวันออก” ก็มีผลไม้กับอาหารเป็นซอฟท์ เพาเวอร์ ที่แข็งแรง
“ภาคเหนือ” นำเสนอเส้นทางชา กาแฟ ชิค ๆ
นางสาวสมฤดี
กล่าวว่า ระหว่าง 4-6 พฤศจิกายน 2566
ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดขาย “จีโอพาร์ค”
ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นแหล่งภูมิศาสตร์ทางธรวิทยา แหล่งธรรมชาติสวยงาม ซึ่งทางยูเนสโกยกมีภาคบังคับให้จะต้องมีเรื่องการบริหารชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งร่วมมือกันอนุรักษ์พื้นที่ทางธรณีวิทยา
ตามแผนที่ครอบคลุมค่อนข้างกว้างมาก จากลุ่มน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน
อ.ขามทะเลสอ ข้ามไปจนถึงเควสต้า เขารูปอีโต้ ดังนั้นการทำท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา
บางแห่งทำยากเพราะเป็นพื้นที่ภูเขาซึ่งแตกต่างจากมรดกวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์
ขณะนี้
ททท.ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และจังหวัดนครราชสีมา กำหนดจีโอพาร์ค นครราชสีมา
แบ่งเป็น 7 เส้นทาง
ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
แหล่งท่องเที่ยวจีโอพาร์ค แหล่งท่องเที่ยวที่คนคุ้นเคย แหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่าง ๆ
ซึ่งสามารถเลือกมาเพียงบางส่วนเพราะสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เพียงพอ
จึงนำเสนอขายได้ก่อนเพียง 2-3 เส้นทาง
ได้แก่ เส้นทางที่ 1 พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
แหล่งซากดึกดำบรรพ์เฉลิมพระเกียรติ ล่องเรือแพที่ลำน้ำมูล โครงการช้างดึกดำบรรพ์
เรือโบราณ อุทยานไทรงาม ศูนย์การเรียนรู้จีโอพาร์คบริเวณโรงเรียน เส้นทางที่ 2
อ่างพักน้ำตอนบนเขายายเที่ยง
โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
จีโอพาร์ค
โคราช
จะเป็นสินค้าที่นำมาสร้างเส้นทางเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางแบบกระจายตัวไปจากเดิม
ๆ คือ เขาใหญ่ ปากช่อง ต่อเนื่องไปถึงอำเภอเมือง กับจีโอพาร์ค ด้วย
ตอนนี้เอกชนเริ่มเข้ามาส่งเสริมการขายโดยจับมือกับชุมชนปลูกพืช “เกษตรอินทรีย์”
เป็นครัวต้นกำเนิดแหล่งวัตถุดิบอาหารไปยังครัวของที่พัก ร้านอาหาร
ซึ่งสามารถสร้างเรื่องราวแล้วนำสินค้ามาวางขายได้ ตามแผนปี 2567 จะเน้นการเกื้อกูลกันไปก่อนเพื่อทำให้ทางฝั่งผู้ผลิตสินค้ากลุ่มประกอบการกับคนในชุมชนหรือ
supply side มีความแข็งแรงก่อนจะเดินหน้าขายการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบในอนาคต
นางสาวสมฤดีกล่าวว่า
ปัจจุบันไทยยังคงครองอันดับสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติด 1 ใน 5 ของโลก
ฉนั้นจึงจะกระตุ้นให้หันมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ควบคู่กับการทำหน้าที่
“เจ้าบ้านที่ดี” เพราะยังต้องพึ่งพารายได้หลักจากการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ซึ่งนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
คนในพื้นที่ต้องเร่งรณรงค์ลดปริมาณขยะ ลดคาร์บอนไดออกไซด์
เลือกการเดินทางที่ใช้พลังงานทางเลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รักษาธรรมชาติให้คงความสมบูรณ์ไว้เหมือนเดิม
เพื่อรักษาไทยให้เป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลกไว้ต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์แจกผู้โดยสารไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ลดรัวๆ30%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับนักช้อป
สำหรับนักเดินทางที่มีไฟลต์ไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี และสัมผัสอากาศสุดชิล ตลอดเดือน
วันนี้ -30 พฤศจิกายน 2566 เมื่อใช้บริการสายการบินไทย
แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ยิ่งแฮปปี้ เพราะผู้โดยสารจะได้สัมผัสประสบการณ์ใช้ประตูทางออกจากอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่
1 หรือ SAT 1 : SATELLITE-1 เมื่อเช็กอินตั๋วรับบัตรผ่านขึ้นเครื่องหรือบอร์ดดิ้งพาสส์เรียบร้อยแล้ว
รับทันที! คูปองส่วนลดสูงสุด 30% จากเคาน์เตอร์เช็กอินของไทย
แอร์ เอเชีย เอ็กซ์ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
รับปุ๊บรีบนำไปใช้เลือกช้อปปั๊บ
“สินค้า ดิวตี้ ฟรี” ที่ร้านคิง เพาเวอร์
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายในอาคารหลังหลักหรือ MAIN
TERMINAL ขาออกสุวรรณภูมิได้1 ชิ้น กับสินค้าที่ร่วมรายการ
ได้คนละ1 สิทธิ์ /เที่ยวบิน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์Exploreรับดีลพิเศษถึง30พ.ย.
คิง
เพาเวอร์ ชวนมา EXPLORE YOUR NEW JOURNEYจะสายช้อปก่อนเที่ยว
หรือเที่ยวก่อนช้อปทุกการช้อปเป็นไปได้ง่ายๆ ที่ คิง เพาเวอร์
ออนไลน์เท่านั้น
ส่งตรงดีลพีเศษตั้งแต่วันนี้
-30 พฤศจิกายน 2566 สินค้าน้ำหอม
เครื่องสำอาง แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ มีทั้งหมดที่นี่ที่เดียว
รีบกดลงตะกร้าก่อนรับสิทธิ์ส่วนลดก่อน พร้อมรอรับสินค้าง่ายๆสะดวกสบายที่สนามบิน
ได้ทั้งขาเข้าและขาออก กดช้อปเลย
1.ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทรหัสส่วนลด NOV10
หรือ 2.ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทและ 3.พิเศษ! ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท รับรหัสส่วนลด NOV20
สินค้า
Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก รับสิทธิ์
1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ
จากแบรนด์ดัง(ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
4.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)
ข่าวที่
3 RALLY
MOVEMENTเปิดแล้วช้อปชั้น3คิงเพาเวอร์รางน้ำ
เปิดแล้ววันนี้
RALLY MOVEMENT IS HERE ร้านใหม่แบรนด์ดังช้อปได้ที่ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
รีบมาอัพคอลเลคชั่นใหม่และไอเทมที่ต้องมีทั้ง เสื้อผ้า เชิ้ตปักโลโก้ RM กางเกง
และแอกเซสซอรีสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์ในสไตล์ของแต่ละคน
สมาชิก คิง เพาเวอร์ ตัดสินใจด่วนช้อปสินค้าแบรนด์
RALLY MOVEMENT เพื่อรับส่วนลดเพื่อรับส่วนสูงสุด 20%
ขึ้นอยู่กับสถานภาพสมาชิก หรือเลือกรับส่วนลดสูงสุด 3,000 (หรือ 3,500 บาท เมื่อสมัครสมาชิกใหม่ประเภท
SCARLET) วันนี้ - 30 พ.ย. 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
เพิ่มเติมคลิก: https://bit.ly/3tYtgic
แนะนำให้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรหัสสินค้า
(SKU) ที่ร่วมรายการ ที่จุดขาย พร้อมทั้งติดตามเงื่อนไขของบริษัทและสินค้าให้ชัดเจน
ข่าวที่
4 ททท.ปลื้มSASเข้าไทยไฟลต์แรกปี66โกยสแกน4หมื่นล้าน
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา
ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
นำทีมบริหารไปต้อนรับสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส (SAS) ได้กลับมาเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เข้าไทยที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรกในรอบ
10 ปี ด้วยรหัสเที่ยวบิน SK973 จำนวน 300 ที่นั่ง บริการบินตรงจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ส่งสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตลาดท่องเที่ยวตลาดระยะไกล
(Long-Haul Market) ตั้งแต่ไฮซีซัน ปี 2566 เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้าไทย
ททท. คาดเมื่อสายการบิน SAS เปิดบินตรง
ไป-กลับ กรุงเทพฯ(ไทย)-โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) จะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งเที่ยวบิน (Seat
Capacity) เข้าไทยได้ไม่ต่ำกวา 20,100 ที่นั่ง
จะเพิ่มโอกาสการขยายฐานตลาดระยะไกลเป็นทางเลือกให้เลือกเดินทางเข้ามาไทยเติบโตเพิ่มมากขึ้น
ส่งผลดีที่จะนำนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวียเข้าไทยได้ตามเป้าหมายปี 2566 ตั้งไว้ 404,452 คน และสร้างรายได้ 39,312 ล้านบาท
ระหว่าง 9 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-กันยายน 2566 มีนักท่องเที่ยวคุณภาพระยะไกลจากตลาดสแกนดิเนเวีย
3 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน เข้ามาไทยแล้วทั้งสิ้น 254,417 คน สูงกว่าช่วงเดียวกันกับปี
2565 ถึง 149.66 % ประกอบด้วย กลุ่มอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป Active Senior นิยมเดินทางเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน
คู่รัก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางกลับมาท่องเที่ยวซ้ำ
(Revisit) มีวันพักค้างคืนในไทยเฉลี่ย 18 วัน/คน/ทริป
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 5,400 บาท/คน/วัน นิยมเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวทะเลและชายหาด
ใน 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี
Mrs. Tina Szczyrbak ผู้จัดการด้านการส่งเสริมแบรนด์ สายการบิน SAS กล่าวว่า สายการบิน SAS วางแผนเปิดบริการบินจากประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียเข้ากรุงเทพฯ
มานานกว่า 64 ปี กระทั่งปี 2556หยุดบินไป 10 ปี เพิ่งกลับมาบินเที่ยวบินแรกมาถึงเมืองไทยเมื่อ
31 ตุลาคม 2566 จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้กลับมาบินตรงสู่กรุงเทพฯ อีกครั้ง
ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของไทยในการส่งเสริมภาพลักษณ์ในฐานะจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวีย ทั้งกลุ่มธุรกิจและการท่องเที่ยวพักผ่อน
(leisure) รวมทั้งสะท้อนความพร้อมของไทยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
สายการบิน SAS
มีโปแกรมบินตรงช่วงตารางบินฤดูหนาว ระหว่าง กรุงโคเปนเฮเกน-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่มจากต้นทางเมื่อ 30 ตุลาคม 2566 – 2 เมษายน
2567ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A350 รองรับผู้โดยสาร 300 คน/เที่ยว ขาออกจากกรุงโคเปนเฮเกน
ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์เวลา 23.30 น. ถึงสุวรรณภูมิทุกวันอังคาร
พฤหัสบดี และเสาร์ เวลา 17.05 น. ตามลำดับ ส่วน “เที่ยวบินขากลับ” ออกจากกรุงเทพฯ วันเดียวกัน เวลา 23.45 น.
ถึงกรุงโคเปนเฮเกนวันถัดไปเวลา 06.35 น.
สำหรับการต้อนรับผู้โดยสาร SAS ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เที่ยวบินแรก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีผู้บริหารร่วมครบทีมทั้ง นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร พร้อมด้วย นายนิธี สีแพร
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. และผู้บริหารต่าง ๆ Mrs. Tina
Szczyrbak ผู้จัดการด้านการส่งเสริมแบรนด์ สายการบิน Scandinavian Airlines (SAS) และ Mr.
Anders Wahlstrom หัวหน้าฝ่ายขายเอเชียและแปซิฟิก สายการบิน SAS
ร่วมกันสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม
มอบของที่ระลึก Amazing Thailand ตอกย้ำถึงมิตรภาพและความร่วมมืออันดีของทั้งสองฝ่ายที่มีต่อกันมายาวนาน
ข่าวที่
5 บางจากเฮนักลงทุนหญิงแชมป์ซื้อหุ้นกู้ล็อตสอง3พันล้าน
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มงานบัญชีและการเงินบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้การเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก
ครั้งที่ 2 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังธนาคารกรุงไทย
ประสบความสำเร็จสูง ผู้ลงทุนตอบรับจำนวนมาก สามารถปิดการจองซื้อเต็มจำนวน 3,000 ล้านบาท ในช่องทางที่เข้าถึงการลงทุนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เงินที่ได้ครั้งนี้ทางบริษัทจะนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนต่อไป โดยให้ความสำคัญเรื่องการรักษาสมดุลระหว่างการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศ
กับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ทุกภาคส่วนต่อไป
บางจากขอบคุณกระแสตอบรับการเข้าซื้อกู้ดิจิทัลบางจาก
ซึ่งขายหมดในเวลาอันรวดเร็วครั้งนี้ ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัท
ด้วยสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบางจากฯ การผสานพลังทางธุรกิจหลังเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของเอสโซ่ประเทศไทย
รวมถึงประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้น ตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน
เป็นการขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน
และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราผลตอบแทน 3.45% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง
จำกัด เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน
ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน
ตอบโจทย์ลูกค้าและประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกใช้ช่องทางดิจิทัลเข้าถึงง่าย
ใช้งานสะดวก ปลอดภัย พร้อมสนับสนุนให้คนไทยวางแผนการออมและลงทุนเพื่ออนาคตอย่างมั่นคง
ส่วนความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ครั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจาก 1.ผู้ลงทุนเชื่อมั่นในธุรกิจของบางจากฯ
ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจพลังงาน 2.ช่องทางการลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น
“เป๋าตัง” ตอบโจทย์ทำให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สามารถทำให้หุ้นกู้ดิจิทัลกระจายตัวครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ
แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 63.3% และต่างจังหวัด 36.7% เป็นนักลงทุนผู้หญิงสูงถึง 63.9% กระจายตัวทุกช่วงอายุระหว่าง 20-91 ปี โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน (Office Worker) 20-40 ปี สัดส่วนสูงถึง 25.24% และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 24.35% ตอกย้ำการเข้าถึงการลงทุนได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเสมอภาค
ทางธนาคารกรุงไทย จึงขอขอบคุณบางจากฯ
ที่ให้โอกาสธนาคารร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จอีกครั้ง โดยได้มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน
ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มต่อเนื่อง ผ่านช่องทางดิจิทัลเข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก
และปลอดภัย สามารถต่อยอดความสำเร็จการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนบนช่องทางดิจิทัล
ยกระดับตลาดทุนไทย และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยส่งเสริมให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม
ลดความเหลื่อมล้ำ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)
ของสหประชาชาติ ทั้งการลดความเหลื่อมล้ำ
การนำนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยต้องไปแล้ว กลับมาจัดแล้ว “ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ เชียงราย 2023” สายศิลปะชมได้แบบยาว 5 เดือน 9 ธ.ค.66-30 เม.ย.67 แล้วฟัง
“วิธีรับมือภาวะเปราะบาง” เมื่อเข้าสู่สูงวัย และข่าวฮ็อต ข่าวแรก
“การบินไทยเปิดบินกรุงเทพฯ-อิสตันบูล”โดยตลาด3ทวีปชิง 5 โอกาสทอง ข่าวที่สอง “เปิดสนามบินเชียงใหม่” 24 ชั่วโมง
ดันผู้โดยสารไฮซีซันโตทันที 30 %
ท่องเที่ยว
–เที่ยวปังไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย9ธ.ค.66-30เม.ย.67
เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่ได้แล้ว
สายซอฟท์ เพาเวอร์ แนะนำวางแผนเดินทางมาชมงานศิลปะระดับโลกกันที่ “เชียงราย”
เตรียมจัดสุดปังอลังการ “Thailand Biennale, Chiang Rai 2023”
งานที่ ศาสตรเมธี ดร. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินขัวศิลปะเชียงราย
ผู้อำนวยการสร้างได้ผนึกความร่วมมือกันกับหน่วยงานเกี่ยวข้องชวนนักท่องเที่ยวมาชมต่อเนื่อง
5
เดือน เริ่ม 9 ธันวาคม 2566 – 30 เมษายน 2567 เตรียมพร้อมตื่นตากับขบวนศิลปะร่วมสมัย
ภายใต้แนวคิด “เปิดโลก 18 อำเภอ” มุ่งเชื่อมโยงและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงการจัดงานศิลปะร่วมสมัย
นานาชาติ ไทยแลนด์ เบียนนาเล่, เชียงราย 2023
รอชมขบวนศิลปะร่วมสมัยหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งนำร่องด้วย
“Chiang Rai 2023 Art Carnival” เรียกน้ำย่อยก่อนในวันที่
19 พฤศจิกายน 2566 ที่บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ
ถนนบรรพปราการ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. จะมีริ้วขบวนศิลปะร่วมสมัยรังสรรค์ตัวแทนศิลปินและชุมชนในพื้นที่ในเชียงรายทั้งหมด
18 อำเภอ มาถ่ายทอดความงดงามที่หาชมได้ยากของแต่ละอำเภอ ให้ได้เห็นความยิ่งใหญ่ขบวนคาร์นิวัล
อาร์ต โดยเน้นความร่วมสมัยเป็นศิลปะผสมผสานความสนุกสานของผู้เข้าร่วมขบวน
รวมทั้งสีสันการแต่งกายอันหลากหลายของพี่น้องชาติพันธุ์ในเชียงรายกว่า 32
ชาติพันธุ์
นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานจะได้เห็นคาร์นิวัล
อาร์ต ยาวตลอดเส้นทางจากบริเวณโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ผ่านถนนบรรพปราการ
หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ(เวทีกลาง) แล้วไปสิ้นสุดตรงสวนตุงและโคมเทศบาลนครเชียงราย
รถประติมากรรมจะจอดให้ทุกคนที่สนใจได้ชมถึง 23.00 น. จากนั้นจะนำประติมากรรมทั้ง
18 ผลงาน ไปจัดแสดงไว้ตรงลานประติมากรรม 18 อำเภอ ริมแม่น้ำกก สวนไม้งามริมน้ำกก ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายกำหนดจัดแสดงศิลปะดังกล่าวไว้จนถึง
30 เมษายน 2567
งาน Thailand Biennale, Chiang
Rai 2023 มีเจ้าภาพร่วมกันจัด ได้แก่ สมาคมขัวศิลปะ
กระทรวงวัฒนธรรม
โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จังหวัดเชียงราย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลนครเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในเชียงราย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มที่
สมาคมขัวศิลปะ โทร. 053-166623 ยกเว้นวันจันทร์ และทาง Facebook “ขัวศิลปะ”
สุขภาพ
–ด่วน!!วิธีรับมือ“ภาวะเปราะบาง”
ภัยเงียบในผู้สูงอายุ
เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
ก็มักจะมีโรคตามมาด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ข้อเสื่อมและกระดูกพรุน
และอื่นๆ แถมตอนนี้ยังมีอีกภัยเงียบในผู้สูงอายุ ที่ทุกคนควรรู้จักไว้คือ
“ภาวะเปราะบาง : Frailty” ปัจจุบันพบได้มากถึง
20% ของกลุ่มผู้สูงอายุ
ผศ.
พญ.ฐิติมา ว่องวิริยะวงศ์ และ รศ. พญ.วราลักษณ์ ศรีนนท์ประเสริฐ อายุรแพทย์ด้านผู้สูงอายุ
รพ.ศิริราช มีข้อแนะนำเกี่ยวกับ “ภาวะเปราะบาง”
หรือ “Frailty” คือ ภาวะการเสื่อมถอยของอวัยวะและระบบต่าง ๆ
ในร่างกาย รวมถึงสมรรถภาพของบุคคลนั้น ๆ
ทำให้ปรับตัวและทนต่อความเจ็บป่วยได้ไม่ดีนัก
มีความเสี่ยงเจ็บป่วยรุนแรงกว่าผู้สูงอายุทั่วไป ฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยช้าลง
หากตรวจพบเนิ่น ๆ ดูแลอย่างเหมาะสม จะทำให้อาการย้อนกลับเป็นปกติ
หรือลดความรุนแรงลงได้
มี 5 วิธีสังเกตุ “ผู้สูงอายุอาจกำลังมีภาวะเปราะบาง”
ดูได้จากมีอาการทางร่างกาย 3 ใน 5
ข้อต่อไปนี้
1. น้ำหนักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ (ประมาณ 5% ของน้ำหนักตัว
ใน 1 ปี) 2. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง 3. เดินช้าลง4.
รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง จากที่เคยทำกิจวัตรประจำวัน
ที่เคยทำได้ด้วยตัวเอง เช่น ขึ้นลงบันได เดินระยะสั้น 5. มีโรคประจำตัวหลายโรค
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเปราะบางในผู้สูงอายุได้ด้วยหลากหลายวิธีง่าย
ๆ และใกล้ตัว
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-ผู้สูงอายุจำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
โดยผู้สูงอายุควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
และระยะเวลาในการออกกำลังกายควรอยู่ในช่วงเวลา 20-30 นาที
จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การทรงตัวดีขึ้น
ลดการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มที่เป็นสาเหตุของกระดูกหัก
และยังช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอื่น ๆ อีกด้วย
2. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
และเน้นการเพิ่มโปรตีนให้หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
หรือประมาณวันละ 1.2-1.5 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กินทั้งโปรตีนจากสัตว์และพืช เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
ป้องกันภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
3. เลี่ยงการใช้ยาที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้ม ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
ซึ่งอาจทำให้กระดูกหักจนไม่สามารถกลับมาเดินได้และจำเป็นต้องใช้รถเข็นไปตลอดชีวิต
จึงควรหลีกเลี่ยงการกินยาที่ไม่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงหกล้ม เช่น ยานอนหลับ
ยาต้านซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิต หรือหากมีความจำ ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป
และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
4. งดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มีผู้สูงอายุจำนวนมากสูบและดื่มเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ
ทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดมีปัญหา เป็นโรคถุงลมโป่งพอง เส้นเลือดหัวใจตีบ
รวมถึงแอลกอฮอล์ยังส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
ผู้สูงอายุจึงควรงดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เพื่อการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–บินไทยเปิดกรุงเทพฯ-อิสตันบูลเชื่อม3ทวีปชิง5โอกาสทอง
นายชาย
เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทย ร่วมกับเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐทูร์เคียประจำประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานแนะนำเครือข่ายเส้นทางบินใหม่ ไป-กลับ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย กับ เมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เคีย (ตุรกี) สัปดาห์ละ 7 เที่ยว จะเริ่มบริการตั้งแต่วันที่
1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป แต่ละเที่ยวบินจะเสิร์ฟเมนูอาหารว่างที่มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยและตุรกีมาให้บริการด้วย
พร้อมวางแผนใช้ศักยภาพความเมืองศูนย์กลางเชื่อมโยงการเดินทางของผู้โดยสาร
และนักท่องเที่ยวระหว่าง 3
ทวีป คือ เอเชีย ยุโรป แอฟริกา จุดหมายปลายทางประเทศใหม่
ๆ ที่มีเขตรอยต่อกับตุรกีรวมถึงกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออก หันมาใช้บริการบินด้วยเครือข่ายสายการบินพันธมิตร
สตาร์ อัลไลแอนซ์ และการบินไทยที่กำลังจะเปิดบินต้นเดือนธันวาคมนี้
การบินไทยจัดทำตารางบินบริการไป-กลับ
กรุงเทพฯ-อิสตันบูล เป็นประจำทุกวัน วันละ 1 เที่ยว ประกอบด้วย เที่ยวบิน TG900
ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 23.45 น. ถึงอิสตันบูล ตามเวลาท้องถิ่นเช้าวันถัดไป 06.05 น. และเที่ยวบิน
TG901 ออกจากอิสตันบูลตามเวลาท้องถิ่น 16.30 น.
ถึงกรุงเทพฯ เช้าวันถัดไปเวลา 05.35 น.
การเปิดเส้นทางบินใหม่
กรุงเทพฯ-อิสตันบูล ครั้งนี้ การบินไทยจะได้เพิ่มทั้งโอกาสทางธุรกิจเติบโตครอบคลุม
5 ส่วนหลัก
ได้แก่ ส่วนที่ 1
เพิ่มทางเลือกใหม่การเดินทาง ส่วนที่ 2 เพิ่มบริการเชื่อมต่อเที่ยวบินและการขนส่งสินค้า
ส่วนที่ 3 ยกระดับเป็นสายการบินที่มีเครือข่ายเชื่อมต่อเที่ยวบินทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและออสเตรเลีย
ส่วนที่ 4 สนับสนุนนโยบายทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับตุรกีและประเทศอื่น
ๆ ในแถบยุโรปตะวันออก ส่วนที 5
ส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนของทั้ง
2 ประเทศ
กระจายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติเนื่องจากตุรกีมีประชากรรวมกว่า 85.3 ล้านคน
และมีขนาดเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 906,000
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายกรกช
ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า การบินไทยจัดทำตั๋วโดยสารเครื่องบินแนะนำเส้นทางใหม่
กรุงเทพฯ-อิสตันบูล โดยร่วมกับบัตรมาสเตอร์การด์แจกส่วนลดพิเศษเมื่อใช้บัตรจองซื้อแล้วจ่ายผ่านเว็บไซต์
thaiairways.com เริ่มตั้งแต่วันนี้-30
พฤศจิกายน 2566 เพื่อนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566-31 มีนาคม
2567 เส้นทาง
ขาออก “กรุงเทพฯ-อิสตันบูล” จะได้ส่วนลด 2,000 บาท เพียงใส่รหัสส่วนลด "TGMCBKKIST"
และขาเข้า “อิสตันบูล-กรุงเทพฯ” รับส่วนลด 50 ดอลลาร์สหรัฐ/ครั้ง ใส่รหัสส่วนลด
"TGMCISTBKK"
ทางด้าน บริษัท ทัวร์เอื้องหลวง จำกัด ของการบินไทย
ก็ได้จัด “แพ็กเกจท่องเที่ยว” บินตรงสู่เมืองอิสตันบูลพร้อมแนะนำแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตุรกีอย่างคุ้มค่าสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สอบถามและสำรองที่นั่งโทร. 0-2545-3252 หรือ LINE ID : roh.tg หรือดูรายละเอียดตารางการบิน เพื่อสำรองซื้อตั๋วเครื่องบินโดยสารได้ที่
thaiairways.com หรือ
สำนักงานขายการบินไทยและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน
2566 การบินไทยร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวบริการเส้นทางใหม่
กรุงเทพฯ-อิสตันบูล โดยมีผู้เข้าร่วมทั้ง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์
ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยนางแซรัป
แอร์ซอย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐทูร์เคียประจำประเทศไทย นายอสิ ม้ามณี
อธิบดีกรมยุโรป นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา
ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายพรชัย ฐีระเวช
ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ และผู้บริหารจากแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่สอง -เปิดสนามบินเชียงใหม่24ชม.Q4ปี’66โตทันที30%
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่
1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป สนามบินนานาชาติเชียงใหม่จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จากเดิมเปิดเพียงวันละ
18 ชั่วโมง หรือตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น. แนวทางใหม่นี้สอดคล้องตามนโยบายนายเศรษฐา
ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ให้เดินหน้าใช้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน Quick Win ด้วยการทำให้สนามบินหลักเพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศเดินทางเข้าและออกไทยหลังเที่ยงคืนอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้นักท่องเที่ยวง่ายและมากขึ้น
(Ease of Travelling) เพื่อให้สายการบินพิจารณาเพิ่มตารางบินและเที่ยวบินทั้งจากตลาดระยะใกล้และระยะไกลเข้าสู่เชียงใหม่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญของโลก
ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางกระจายนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือได้ด้วย
คาดการณ์เมื่อสนามบินนานาชาติเชียงใหม่เปิดบริการตลอด
24 ชั่วโมง ต้อนรับฤดูเดินทางหรือไฮซีซันตั้งแต่ไตรมาส 4
เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
จะสามารถเพิ่มเที่ยวบินและผู้โดยสารเข้าออกเติบโตเพิ่มอีก 30 % เนื่องจากการปลดล็อคข้อจำกัดด้านเวลาการเดินทางทางอากาศตามเส้นทางการบินระหว่างประเทศ
สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตลาดระยะใกล้และระยะไกล
รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า คณะผู้บริหาร
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ร่วมทำกิจกรรมแจกของที่ระลึกผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินไทยเวียตเจ็ทตั้งแต่วันแรก
1 พฤศจิกายน 2566 เที่ยวบิน VZ 822 เชียงใหม่-โอซาก้า (ญี่ปุ่น)
ออกจากเชียงใหม่เมื่อ 00.30 น. (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) ถึงสนามบินนานาชาติคันไซ (โอซาก้า) ตามเวลาท้องถิ่น 07.50
น.
ปัจจุบันสนามบินนานาชาติเชียงใหม่รองรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้นวันละ
150 เที่ยว มีผู้โดยสารเฉลี่ย21,537 คน/วัน จากเที่ยวบินในประเทศ
12 เส้นทาง และระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง ต้นทางเมืองหลัก ได้แก่ ไทเป (ไต้หวัน) อินชอน (เกาหลี) คุนหมิง และปักกิ่ง (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ฮ่องกง คาดเดือนเมษายน 2567 จะเพิ่มเส้นทางบินตรง จากอินเดียได้อีก 2 เมือง คือ
มุมไบและนิวเดลี รวมถึงจะขยายขีดความสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารเพิ่มเป็นปีละ 16.5
ล้านคน จากปัจจุบันรับได้ 8 ล้านคน ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการศึกษาและออกแบบโครงการพัฒนา
เฟสที่ 1 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายดังกล่าว
โดยมี ทอท.เป็นหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเกี่ยวกับการจัดเตรียมความพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่ ระบบคมนาคมขนส่ง จัดสรรพื้นที่ภายในสนามบินให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนนำสินค้าชุมชนมาวางขายสร้างรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง
และร่วมกับสายการบินกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง พิจารณาจัดตารางการบินอย่างเหมาะสม
เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมทั้งมาตรการดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น