ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สุวรรณภูมินำAuto Chanelบริการผู้โดยสารเทศกาลปีเก่า66ปีใหม่2567


กิตติพงศ์ กิตติขจร 

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” 

AOTจัดแถวสนามบินสุวรรณภูมิฤดูหนาวเที่ยวบินโตดี

เพิ่มระบบAutoChanelบริการผู้โดยสารเทศกาลปีใหม่

SAT-1คึกคักหลังต้นปี67บิ๊กแอร์ไลน์สย้ายไปให้บริการ

คิงเพาเวอร์ต้อนรับลมหนาวช้อปไปวน4ผลิตภัณฑ์ใหม่

 ฉลองปีใหม่ที่คิงเพาเวอร์“พูลแมน-เดอะสแดนตาร์ด”

ททท.ลงนามFliggyจีนดึงผู้ใช้500ล้านรายเที่ยวไทย

บางจากฯชี้ใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ตอบโจทย์โลกยั่งยืน

TCEBดันยี่เป็งเชียงใหม่ขึ้นชั้นเมืองไมซ์เทศกาลโลก

4วิธีกินผลไม้ช่วยให้ปลอดน้ำตาลลดเสี่ยงเบาหวาน

สุขที่ลพบุรี”ทุ่งทานตะวัน/พิพิธภัณฑ์การบิน/แพะสลุง

“เอ็ม บี เค”ทุ่มพันล้านเปิดใหม่รร.ทินิดีฯถนนข้าวสาร

ททท.-GWMบูมขับรถยนต์ไฟฟ้าทัวร์คาราวาน5ภาค

วันอาทิตย์ที่  26 พฤศจิกายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #AOT  #ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ #ทุ่งทานตะวันลพบุรี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...ฟังจากลิงค์...https://fb.watch/oyv-xSNIv9/?mibextid=Nif5oz

 


ช่วงที่ 1 เช็คความพร้อมกับ “กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” จัดแถวรับไฮซีซันการบินไตรมาส 4 คึกคัก “ระหว่างประเทศ” เที่ยวบินพุ่ง 670 เที่ยว/วัน เพิ่ม 10 % ผู้โดยสาร 1.5 แสนคน “ในประเทศ” ผู้โดยสารโต 5% ยุโรปเคลียร์สล็อตจ่อบินเพิ่ม ส่วน SAT-1 หลังปีใหม่เพิ่มอีก 3 แอร์ไลน์ส และเปิดแผนรับมือเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่พร้อมแล้ว 5 เรื่อง ไฮไลต์ หลัง 15 ธ.ค.นี้ เคาน์เตอร์ ตม.ลดขั้นตอนตรวจพาสปอร์ต หันเพิ่มบริการ Auto Chanel บริษัทขนสัมภาระกระเป๋าจัดคนรอแล้ว แนะผู้โดยสารลองใช้ระบบเช็คอัตโนมัติสะดวกเร็วช่วยลดคิวได้มาก

 

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า สถานการณ์ในสนามบินสุวรรณภูมิเข้าสู่ไฮซีซันตารางบินฤดูหนาวไตรมาส 4 เริ่มตุลาคม-ธันวาคม 2566 กับไตรมาส 3 ปีนี้ (กรกฎาคม-กันยายน 2566) “ภายในประเทศ” มีเที่ยวบิน 238 เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 2.5 % ผู้โดยสาร 32,000 คน/วัน เพิ่มขึ้น 5 % ใกล้เคียงกับก่อนโควิดปี 2562 แล้ว “ระหว่างประเทศ” ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม นี้ มีเที่ยวบินเฉลี่ย 670 เที่ยว/วัน เพิ่ม 10 % จำนวนผู้โดยสาร 150,000 คน/วัน

 

โดยมีสายการบินนานาชาติให้บริการเที่ยวบินที่เข้ามาเสริมทัพ 6 สายการบิน ประกอบด้วย “ตลาดระยะใกล้/shorthaul” จากแถบเอเชียมีรายใหม่เข้ามาเพิ่ม 3 สายการบิน เช่น สายการบินมองโกเลีย หยุดบินเข้าไทยมานาน แล้วก็มีโลว์คอสต์อย่าง 9Air จากกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน “ตลาดระยะไกล/Longhaul” น้องใหม่ล่าสุดคือ SAS หรือสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส ห่างหายจากสุวรรณภูมินานเช่นกัน บินตรงจากโคเปนเฮเก้น มายังสุวรรณภูมิ แล้วยังมีอีก 2 สายการบินจากโปแลนด์ กับนอร์เวย์ส

 

ขณะนี้ยังมีอีกหลายสายการบินระหว่างประเทศ ขอเปิดบินตรงเข้ามายังสุวรรณภูมิ กำลังอยู่ในขั้นตอนการขอสล็อตเวลาทำการบินขึ้นลงส่วนใหญ่จะมาจากยุโรป ซึ่งสล็อตยังมีเพียงพอโดยจะสามารถจัดให้สายการบินต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะต้องเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้าทางคณะกรรมการสล็อตก็พยายามพิจารณาอย่างรอบคอบ

 

ส่วนอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ SAT-1 เริ่มเปิดบริการอย่างเป็นทางการผ่านเข้าสู่เดือนที่สองยังคงมีผู้ใช้บริการ 3 สายการบิน ได้แก่ ไทยเวียตเจ็ท เฉลี่ย 4-8 เที่ยว/วัน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 13 เที่ยว/วัน การบินไทย 13 เที่ยว/วัน แล้วทยอยเพิ่มความถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยให้บริการแตกต่างจากสายการบินอื่นคือ เที่ยวบินขาเข้าจะใช้อาคารผู้โดยสารหลังหลักหรือ Main terminal ส่วนขาออกจะใช้อาคาร SAT-1 หลังปีใหม่ 2567 จะย้ายเที่ยวบินขาออกไปใช้ SAT-1 วันมากขึ้น รวมทั้งหลังปีใหม่ไปแล้วจะมีไปเพิ่มอีก 3 สายการบิน ได้แก่ มหันต์แอร์ สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส และเตอร์กีสแอร์ไลน์ส

 

ผลตอบรับทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน SAT-1 ตอนนี้เป็นเรื่องการเร่งรัดสร้างเลาจน์ ไฮไลต์เป็นของสายการบินเอมิเรตส์ลงทุนสร้างขนาดใหญ่อันดับ 2 รองจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นฐานการบินหลักซึ่งมีเลาจน์หลักของสายการบินยักษ์ใหญ่ดังกล่าว ประมาณกลางปี 2567 จะแล้วเสร็จก็จะย้ายจากอาคารผู้โดยสารหลักไปยัง SAT-1 ขณะเดียวกัน “ร้านค้าเชิงพาณิชย์” ภายในอาคารหลังใหม่มีเพียงพอให้บริการ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการ SAT-1 ยังไม่หนาแน่นมีเฉลี่ย 4,500 คน/วัน

 

ผอ.กิตติพงศ์ กล่าวว่าช่วงใกล้เทศกาลเดินทางหนาแน่นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่นี้ เตรียมความพร้อมรับมือปริมาณผู้โดยสารจำนวนมากไว้แล้ว ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 บริการเช็คอินสายการบินมีนโยบายให้พร้อมทุกเคาน์เตอร์ รวมทั้งระบบเครื่องเช็คอินอัตโนมัติที่เพิ่งติดตั้งใหม่ เรื่องที่ 2 ความพร้อมของบุคลากรได้ประสานกับทางผู้ให้บริการภาคพื้น (ground handing) ทั้ง 3 บริษัท ตอบรับเป็นอย่างดีมีพนักงานเพียงพอขนสัมภาระผู้โดยสาร

 

เรื่องที่ 3 บริการรถสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ ขณะนี้มีเพียงพอวันละประมาณ 4,500 คัน จากเดิมเคยขาดแคลนมากมีคิวรอยาวมากทางสุวรรณภูมิได้ประสานงานเรียบร้อยกับทางกรมขนส่งทางบก

เรื่องที่ 4 ประสานกับหน่วยความมั่นคงเน้นมาตรการความปลอดภัยตามเกณฑ์ปฏิบัติสากล

 

เรื่องที่ 5 บริการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ในสุวรรณภูมิ ได้ประชุมแล้วเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป การตรวจหนังสือเดินทางของผู้โดยสารจะลดขั้นตอนลง โดยได้นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาแทนมากขึ้น ระบบตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือจะสะดวกรวดเร็วขึ้น เพื่อทำให้จราจรการตรวจหนังสือเดินทางคล่องตัวเร็วขึ้น โดยคำนึงถึงเกณฑ์มาตรฐานสากล ส่วนอัตรากำลังพล สตม.จัดคนเข้ามาเตรียมบริการช่วงเทศกาลปีใหม่

 

รวมทั้ง ทอท./AOT ลงทุนจัดหาอุปกรณ์บริการแบบอัตโนมัติหรือ Auto Chanel ซึ่งเป็นการตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัต ปัจจุบันมีบริการเฉพาะหนังสือเดินทางคนไทย เมื่อเข้าประเทศจะมีเครื่องดังกล่าวบริการ ประมาณไตรมาส 3 ปี 2567 จะนำเครื่องมาติดตั้งให้ใช้บริการบริเวณ “ขาออก” ทำให้รวดเร็วมากขึ้น เหมือนกับหลายประเทศทำกัน

 

ผอ.กิตติพงศ์ กล่าวว่าปัจจุบันนโยบายใหญ่ของ AOT จัดทำแพกเกจมอบสิทธิพิเศษทุกสนามบินที่อยู่ในความดูแลให้กับสายการบินลูกค้า โดยได้พูดคุยกับทางสมาคมตัวแทนสายการบิน หรือ AOC ถึงค่าธรรมเนียมบริการนำเครื่องขึ้น-ลง (landing fee) ลานจอด (parking fee) การใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกแต่ละรายการซึ่งจะช่วยดึงดูดให้สายการบินนานาชาติสนใจเลือกมาไทยมากขึ้น

 

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ตอนนี้บรรดาร้านค้าเชิงพาณิชย์ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ช้อปปิ้ง ที่เคยปิดไปช่วงโควิดจะกลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบ รวมทั้งขอรณรงค์ให้หันมาเลือกใช้ “Auto Chanel” ทดลองใช้การเช็คอินจากตู้อัตโนมัติด้วยตนเอง ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 30 % ตามเป้าต้องการให้ใช้ถึง 50% เพราะสายการบินต่าง ๆ จะทยอยลดพนักงานเคาน์เตอร์เช็คอินลง เพราะหลายประเทศอย่างสิงคโปร์ก็พัฒนาเป็นสนามบินให้บริการตนเองโดยใช้เทคโนโลยีอัตโนมัตเกือบทั้งหมดแล้ว สนามบินของ AOT โดยเฉพาะสุวรรณภูมิเองก็มีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่สนามบินที่ใช้ระบบอัตโนมัติให้ได้มากที่สุดเช่นกัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ต้อนรับลมหนาวช้อปไปวน4ผลิตภัณฑ์ใหม่

 

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปวนไปไม่สิ้นสุด ต้อนรับลมหนาว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ !! จากทัพแบรนด์ดัง ลิปบาล์ม ความงาม  น้ำหอม และเปิดแล้ว Versace Boutique

 

ผลิตภัณฑ์แรก “ลิปบาล์มสุดหรู” ทัพสินค้าแบรนด์ดังดาหน้ามาให้เลือกทั้ง YVES SAINT LAURENT , TOM FORD, NARS, GIVENCHY , CLÉ DE PEAU BEAUTÉ, ESTÉE LAUDER 

ผลิตภัณฑ์ที่  2 ส่องไอเทม “ความงาม/Beauty เพิ่มเติมทางออนไลน์ kingpower.com ตลอด 7 วันสุดท้าย วันนี้-30 พฤศจิกายน 2566 ช้อปครบ 3,500 บาท  พร้อมทั้งมีแคมเปญ “INSPIRING SAVING HOLIDAY GIFT  ให้ช้อปของขวัญบิวตี้กิฟท์เซตก่อนบิน ของแบรนด์ KIEHL’S , LA MER, SHISEIDO, CLÉ DE PEAU BEAUTÉ , SULWHASOO,  L'OCCITANE  

          ผลิตภัณฑ์ที่ 3 New Items! อัพเดทน้ำหอมใหม่ จากแบรนด์ KENZO, BURBERRY , CHLOÉ , TOM FORD ,YVES SAINT LAURENT, GUCCI, CALVIN KLEIN  

คิง เพาเวอร์ จัดเต็มให้ทุกการช้อปออนไลน์ทั้งบิวตี้และน้ำหอม แจกไม่ยั้งดีลพิเศษวันนี้ -30 พฤศจิกายน 2566 ช้อปครบ 3,500 บาท  ลดสูงสุด 10% กดรับรหัสส่วนลด NOV10 หรือช้อปครบ 8,000 บาท ลดสูงสุด 15%  พิเศษ! ช้อปครบ 10,000 บาท ลดเพิ่มอีกทันที 5% กดรหัสส่วนลด NOV20

 

ผลิตภัณฑ์ที่ Versace Boutique เปิดใหม่แล้วที่ “คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ” ฝั่งผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน East พร้อมให้แฟนคลับนักเดินทางเลือกช้อปในราคาดิวตี้ฟรี ทั้งเสื้อผ้า Ready-to-wear กระเป๋า รองเท้า

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดฉลองปีใหม่ “พูลแมน-เดอะสแดนตาร์ด”

 

โรงแรม “พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ” ชวนมาฉลองเทศกาลความสุขเดือนธันวาคม 2566 กับ 2 เทศกาล “คริสต์มาสและปีใหม่” ให้ครอบครัวรวมถึงพาคนพิเศษมาร่วมสนุกกับ “เดอะ กิฟท์ ออฟ วันเดอร์ส” ลุ้นรับของขวัญชิ้นพิเศษจากโรงแรมและแบรนด์ชั้นนำที่ร่วมรายการกว่า 400 รางวัล ท่ามกลางการประดับดวงไฟสุดตระการตา สอบถามเพิ่มทาง Line: PullmanBangkok

 

Festive Fantasies at The Standard, Hua Hin เตรียมความพิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ “โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน” ครบรอบ 2 ปี จัด Two’s A Party Brunch ที่ห้องอาหาร Lido ลุ้นรับรางวัลใหญ่มูลค่าถึง 134,000 บาท และหาซื้อของขวัญได้ในงาน Holiday Bazaar ได้รวมร้านค้าท้องถิ่นมาให้ได้ช้อปสุดชิล โดยมีมื้ออาหารแสนอร่อยริมทะเลวันคริสต์มาสและปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า

 

สำรองบัตรเข้าร่วมก่อน 8 ธันวาคม 2566 จะได้รับส่วนลด Early Bird ทุกมื้ออาหาร จองที่Facebook & LineOA: @thestandardhuahin หรือโทร. 032-535-999

 

ข่าวที่ 3 ททท.ลงนามค่ายใหญ่Fliggyดึงผู้ใช้500ล้านรายเที่ยวไทย

 

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ระหว่างนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ Mr. Tyrion Tong รองประธานบริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology ในเครือยักษ์ใหญ่อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) เพื่อผนึกกำลังกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน และสร้างเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย   

 

โดย ททท.พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับแอปพลิเคชั่น Fliggy ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางช่วยเสริมมาตรการยกเลิกการตรวจลงตราทางการท่องเที่ยวให้นักเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐบาลไทยช่วง 5 เดือน เริ่มเมื่อ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกับได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในตลาดจีน ใช้ดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของไทยให้พร้อมรองรับนักเดินทางกลุ่มคุณภาพจากจีนด้วย

 

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ททท. กล่าวว่า ได้ลงนามหนังสือเจตจำนงครั้งนี้ จะเป็นผลดีเพิ่มขึ้นที่จะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยปัจจุบันโครงสร้างเปลี่ยนแปลงไป นักท่องเที่ยวจีนเดินทางอิสระโดยลำพัง (FIT :Free Individual Travel ) มีสูงถึง 86 เป็นกลุ่มศักยภาพมีกำลังซื้อ พำนักเฉลี่ย 7.88 คืน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเฉลี่ย 56,000 บาท/คน/ทริป สูงขึ้นกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ส่วนข้อมูลจาก Alipay บริษัทในเครืออาลีบาบากรุ๊ปยืนยันนักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินผ่านบริการอลีเพย์เพื่อการท่องเที่ยว ยังไม่รวมค่าที่พักสูงถึง 20,000 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้น 80 % เมื่อเทียบกับปี 2562

 

ดังนั้นการลงนามของ ททท.กับแอปพลิเคชั่น Fliggy แพลตฟอร์มบริการด้านท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมของจีนซึ่งมีบัญชีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านบัญชี และมีบริการครบวงจร หรือ One Stop Service ครอบคลุม ตั้งแต่การสำรองตั๋วโดยสารเครื่องบิน ที่พัก ทัวร์ส่วนตัว จะเพิ่มโอกาสให้ไทยได้นำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพในตลาดจีนผ่านแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพได้รับความนิยมสูง ไปพร้อมกับเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เชิงบวก ฟื้นฟูความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทยในตลาดจีน เร่งกระตุ้นรายได้ตลาดจีนสูงขึ้นด้วย

 

ตามเป้าหมายการลงนาม LOI ระหว่าง ททท. กับแอปพลิเคชัน Fliggy ครั้งนี้ จะร่วมมือกันขับเคลื่อนครอบคลุม 5 เรื่อง ได้แก่ 1.จะร่วมกันนำสมาร์ทเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับประสบการณ์ในการท่องเที่ยว 2.บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง การนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยบนแพลตฟอร์ม Fliggy 3.ส่งเสริมและนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพแก่นักท่องเที่ยวจีน 4.ร่วมกันผลิตและเผยแพร่เนื้อหาประชาสัมพันธ์สำหรับตลาดจีน 5.ร่วมกันจัดแคมเปญส่งเสริมตลาดด้วยอีเว้นท์ และเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน Golden Week และอื่น ๆ

 

ซึ่งทางผู้บริหารแอปพลิเคชั่น Fliggy จะจัดทีมบริการให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวจีนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในรูปแบบออนไลน์และศูนย์ให้บริการข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ที่กำหนด ส่วน ททท. จะสนับสนุนจัดการอบรมและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ของ Fliggy ทำงานเคียงข้างกันอย่างเข้มแข็งต่อไป

 

 

ขณะที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรายงานข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 พฤศจิกายน 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยแล้วประมาณ 3 ล้านคน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของต่างชาติไทยมากที่สุด ดังนั้น ททท.มุ่งส่งเสริมความเชื่อมั่นและกระตุ้นการขายในตลาดจีนต่อเนื่อง เร่งส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกผ่านการจัดกิจกรรมแฟมทริป นำศิลปินผู้มีชื่อเสียงร่วมเดินทางและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในตลาดจีน และร่วมกับพันธมิตรจีนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเร่งผลักดันรายได้ตลาดนี้ได้ตามเป้าหมาย

 

 

ทั้งนี้การลงนาม LOI ของ ททท.กับแอปพลิเคชั่น Fliggy มีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ Mr. Zhuoran Zhuang รองประธานบริหารอาลีบาบา กรุ๊ป และประธานบริหาร บริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology ให้เกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานร่วมกัน

 

นับจากนี้เป็นต้นไปก็จะใช้แอปพลิเคชั่น Fliggy เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมในตลาดจีน บริษัทในเครือ Alibaba กรุ๊ป รุกเจาะเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเป้าหมายเลือกเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2566 เป็นต้นไป

 

ข่าวที่ 4 บางจากฯชี้ใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ตอบโจทย์โลกยั่งยืน

 

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้จัดงานสัมมนาครั้งใหญ่แห่งปี 2566 Bangchak Group Greenovative Forum ครั้งที่ 13 ในหัวข้อ “Regenerative Fuels: Sustainable Mobility” นำเสนอประเด็นหลัก “เชื้อเพลิงอนาคตที่จะตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน” โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกและประเทศร่วมสะท้อนมุมมองต่าง ๆ มีผู้เข้าร่วมรับฟังที่อาคารเอ็มทาวเวอร์ เกือบ 300 คน และทางออนไลน์กว่า 2,700 คน พร้อมทั้งได้รับเกียรติจากนางแอสทริด เอมิเลีย เฮลเลอ เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสไกร คงธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วย

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Regenerative Fuels: Sustainable Mobility” ชี้ถึงเชื้อเพลิงอนาคตจะตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืนว่าด้วยสภาวะปัจจุบันโลกให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดมากขึ้น อย่างไฮโดรเจนถูกมองเป็นทางเลือกแห่งอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการผลิตและนำไปใช้งานจริงในราคาและต้นทุนแข่งขันได้ จากความต้องการใช้เชื้อเพลิงของโลกตอนนี้อยู่ในระดับสูงถึงวันละ 220 ล้านบาร์เรล ซึ่ง “เชื้อเพลิงเหลว หรือ Liquid Fuels จะเป็นรูปแบบพลังงานหลักที่สำคัญ จาก 2 ปัจจัย คือ ความหนาแน่นของพลังงาน (energy density) สูงและการขนส่งที่สะดวก 

 

สำหรับการเดินทางและการขนส่งจะยังคงต้องการการใช้เชื้อเพลิงปริมาณมาก ดังนั้นเชื้อเพลิงที่จะตอบโจทย์ความยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือ การเลือกใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Regenerative Fuels ซึ่งเป็นโมเลกุลสะอาดไม่ก่อให้เกิดการปลดปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพ (biofuels) สิ่งสำคัญคือ การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีจะช่วยบริหารจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture Utilization and Storage - CCUS) ทำให้โลกอยู่กับเชื้อเพลิงฟอสซิลสะอาดและยั่งยืนขึ้นได้

 

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบิน ตอนนี้โลกกำลังพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel) เป็นทางเลือกพลังงานตอบโจทย์ภาคขนส่งอย่างยั่งยืนสอดคล้องตามเป้าหมาย Net Zero ปี ค.ศ. 2050 ทางกลุ่มบริษัทบางจากก็เดินหน้าบุกเบิกธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิง SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil) โดยมีหน่วยผลิต SAF ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ผลิตน้ำมันภาคการบินทั่วโลกนำมาใช้ทดแทนได้ทันทีโดยไม่ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ 

 

การจัดงานใหญ่ครั้งนี้ บางจากฯ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรด้านพลังงานชั้นนำระดับโลกมาร่วมนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเชื้อเพลิงอนาคตเพื่อตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน นำโดย Mr. Ji Yang Lum, Associate Director, Biofuels Research and Analytics, S&P Global Commodity Insights บรรยายเรื่อง “Global Transportation with Sustainable Fuel Market” และบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีกระบวนการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน ปิโตรเคมี และเชื้อเพลิงอนาคต Mr. Michael Spivey Sales Director, Honeywell UOP บรรยายเรื่อง “A Total Solution for Low Carbon Intensity Renewable Fuels ” และ Mr. Jeff Caton Commercial Director – Asia Pacific, Axens Group บรรยายเรื่อง “Solutions for Energy Transition by Innovated Technologies”

 

รวมทั้งวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการร่วมเสวนา Pioneering Sustainable Aerospace: พลิกโฉมน่านฟ้า สู่การบินยั่งยืน” ได้แก่ ..ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), Dr. Kan Ern Liew, Head of Technology, Airbus Malaysia, นายยงยุทธ ลุจินตานนท์ Area Manager IATA Thailand, Laos, Cambodia and Myanmar, นายปิยะชาติ อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด และแขกรับเชิญพิเศษ นางสาวอินทิพร แต้มสุขิน (แม็กซีน) ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์สายกรีน

 

พร้อมด้วย นายสุวิกรม อัมระนันทน์ (เปอร์) พิธีกร และ CEO บริษัท แบล็คดอท จำกัด ดำเนินรายการโดย นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ (หนุ่ย แบไต๋) และการสะท้อนมุมมองของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งสายการบิน ผู้ให้บริการและผู้ส่งเสริมมาตรฐานในธุรกิจการบิน นักธุรกิจและนักเดินทางให้ความสนใจประเด็นการขับเคลื่อนเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) กับแนวทางการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะทำให้การบินด้วย SAF เข้าถึงได้ง่ายและยกระดับการใช้งานช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภาคการบิน เดินหน้าสู่การเป็นอุตสาหกรรมที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม

 

ข่าวที่ 5 TCEBดันยี่เป็งเชียงใหม่ขึ้นชั้นเมืองไมซ์เทศกาลโลก

 

 

        นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บวางกลยุทธ์ยกระดับการจัดยี่เป็งเชียงใหม่ กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2566 ให้เป็นงานเทศกาลนานาชาติหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศปี 2567 และเป็นซอฟท์ เพาเวอร์สำคัญ ด้วยการใช้ ต้นทุน ทางสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ สร้างมูลค่า สร้างให้ประสบการณ์ที่มีอัตลักษณ์ อย่างมีคุณค่า เป็นจุดขายใหม่ของไมซ์ไทย ทีเส็บจึงพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในช่วงที่ผ่านมาก็ได้สนับสนุนงานเทศกาลกว่า 100 งาน สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้ประเทศกว่า 50,000 ล้านบาท

 

 คาดเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ปี 2566 จะดึงนักเดินทางและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้ถึง 62,500 คน แบ่งเป็นคนไทยกว่า 50,000 คน และต่างชาติกว่า 12,500 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นได้ถึง 375 ล้านบาท

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บกับองค์กรเกี่ยวข้องวางเชียงใหม่ให้เป็นเมืองนำร่องด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาไมซ์ซิตี้ ก้าวสู่การเป็นเมืองแห่งเทศกาลระดับโลกภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดงาน 12 เดือน 12 แนวคิดเทศกาล (12 Months 12 Festival Themes) ตามกรอบแนวทางทำการตลาดและประชาสัมพันธ์งานเทศกาลเมืองไทยมุ่งสร้างการรับรู้และจดจำแก่นักเดินทางที่เข้าร่วมงานจากทั่วโลก ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ต่อยอดจัดทำเส้นทางสายไมซ์ รวมถึงการพัฒนาสินค้าบริการและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานในแต่ละเดือน เพื่อให้นักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศสามารถวางแผนเข้าร่วมงานเทศกาล หรืองานแสดงสินค้า การจัดประชุมองค์กร การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และกิจกรรมของหน่วยงานต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาลและกิจกรรมไมซ์สำคัญของเมือง ช่วยเพิ่มรายได้ กระจายเม็ดเงินเข้าพื้นที่ผ่านการจัดงานตลอดปี และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้จังหวัดมากยิ่งขึ้นได้

         

ดังนั้นทีเส็บจึงร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ต่อยอดยกระดับงานเทศกาลของจังหวัดขึ้นเป็นงานเทศกาลระดับโลก ประเดิมงานแรกด้วยงานยี่เป็งซึ่งเป็นเทศกาลดั้งเดิมของชาวล้านนา ผลักดันเป็นงานเทศกาลแห่งแสงไฟระดับนานาชาติ (Light Festival) โดยสนับสนุนด้านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนางานเทศกาลของไทย และงานเทศกาลยี่เป็ง พร้อมทั้งสนับสนุนงบประมาณการจัดงานยี่เป็งในกิจกรรม Yi-Peng Night Tour และอำนวยความสะดวกด้านการประสานงานระหว่างหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ขับเคลื่อนงานไปด้วยกัน

 

ส่วนงานเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน นี้ ภายในงานประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่

กิจกรรมที่ 1 Pokémon GO Yi-Peng นำเสนอ Virtual Tourism Experience ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกผ่านเกม Pokémon GO

 

กิจกรรมที่ 2 Yi-Peng Night Tour ชมเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมล้านนา

 

กิจกรรมที่ 3 Yi-Peng Product คัดเลือก พัฒนา สินค้าและบริการพิเศษสำหรับเทศกาลยี่เป็ง

กิจกรรมที่ 4 Yi-Peng Communication ร่วมพัฒนาช่องทางและการประชาสัมพันธ์กิจกรรม สินค้าและบริการสำหรับเทศกาลยี่เป็งสู่กลุ่มเป้าหมาย

กิจกรรมที่ 5  Yi-Peng Illumination ประดับแสงไฟในพื้นที่สาธารณะ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์เทศกาลยี่เป็งในฐานะ Night-Light Festival

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองไทย ยิ่งเดินทาง ยิ่งสุขทันที หนาวนี้ไปพื้นที่ใกล้กรุง “ลพบุรี” 3 พิกัด “ทุ่งทานตะวัน” สวย ๆ กำลังบานไปจนถึงมกราคม 2567 “พิพิธภัณฑ์การบินทหารบก” แหล่งเรียนรู้ฟิน ๆ และ “แพะสลุง” อันซีนผจญภัยใหม่ แล้วฟัง “4วิธีกินผลไม้” ปลอดน้ำตาลลดเสี่ยงเบาหวาน และข่าวดี ๆ ข่าวแรก “เอ็มบีเค” ทุ่มพันล้านเปิดโรงแรมนิดิตี้ข้าวสาร ข่าวที่สอง “ททท-GWM” บูมขับรถยนต์ไฟฟ้าเที่ยวโลว์คาร์บอน 5 ภาค

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวสุขที่ลพบุรี”ทุ่งทานตะวัน/พิพิธภัณฑ์การบิน/แพะสลุง

 

สุขทันทีที่ได้เลือกเที่ยวเมืองไทย ชวนปักหมุดเช็คอินพื้นที่ใกล้กรุง “ลพบุรี” หนาวนี้มีแหล่งท่องเที่ยว “ทุ่งทานตะวัน” หรือจะแวะไป “พิพิธภัณฑ์ทหารบก” อำเภอเมือง หรือจะไปสำรวจ UNSEEN แห่งใหม่แพะเมืองสลุง ม่านหินธรรมชาติ” ตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนานิคม ได้ตามพิกัดดังนี้

 

พิกัดที่ 1 ท่องเที่ยวทุ่งทานตะวัน  จังหวัดลพบุรี ที่กำลังบานสะพรั่ง สีเหลืองสดใส รอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว มาร่วมเก็บภาพแห่งความประทับใจกันท่ามกลางสายลมหนาวได้แล้ว ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 - มกราคม 2567

 

ไฮไลต์ที่ไร่คุณรำยอง ตำบลมะนาวหวาน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ของ นายรำยอง รื่นสนธ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเที่ยวชมทุ่งทานตะวันได้ในทุ่งกว้างกว่า 75 ไร่ ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้- 30 พฤศจิกายน 2566

 

ปักหมุด : ไร่คุณรำยอง . 24 สายจัตวา https://maps.app.goo.gl/DeRsArXkiFMMM3xD7

 

ส่วนในเขตพื้นที่อำเภอเมือลพบุรี มีทุ่งทานตะวันของอีกมากกว่า 10 แห่ง พร้อมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ละไร่จะมีดอกทานตะวันทยอยบานสะพรั่งไล่เรียงกันไป

 

 

พิกัดที่ 2  พิพิธภัณฑ์การบินทหารบก อยู่ใน ศูนย์การบินทหารบก ค่ายสมเด็จพระศรีนครินเทรา ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เป็นพิพิธภัณฑ์แบบผสมผสาน จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ทั้งวัตถุ และประวัติศาสตร์ด้านการบิน มีการจัดแสดงทั้งในร่ม และกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นเหล่งเรียนรู้ของชุมชน ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายเหมาะกับการปูพื้นฐานให้แก่เยาวชนด้านการบินอีกด้วย

 

พิพิธภัณฑ์จัดแสดงไฮไลต์ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 อาคารพิพิธภัณฑ์ในร่ม จัดแสดงวิวัฒนาการด้านการบิน ประวัติศาสตร์ของการบินทหารบก ส่วนที่ 2  จัดแสดงอากาศยานกลางแจ้ง จัดแสดงอากาศยานของกองทัพบกในอดีต และได้ปลดประจำการแล้ว

 

ภายในพื้นที่มีบริการร้านกาแฟวิวสวย ท่ามกลางอากาศยานกลางแจ้ง แวดล้อมไปด้วยอากาศยานของกองทัพบกที่ได้ปลดประจำการแล้ว

 

เปิดให้บริการเวลา 09.00 - 16.00 น. วันหยุดราชการปิด (ยกเว้นการเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะที่ติดต่อล่วงหน้า)

 

ติดต่อ แผนกกิจการพลเรือน กองยุทธการและการข่าว ศูนย์การบินทหารบก โทร 036-486925 ถึง 29 ต่อ 39429 หรือ 39664 หรือสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวค่ายสมเด็จพระศรีนครินทรา โทร  036-486925 ถึง 29 ต่อ 39777

 

พิกัดที่  3 UNSEEN “แพะเมืองสลุง ม่านหินธรรมชาติ” แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแห่งใหม่ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาพลวง หมู่ที่ 7 ตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีลักษณะเป็นเสาหินงอกตามธรรมชาติ คล้ายผ้าม่านม้วนเป็นคลื่น โค้งเว้า สวยงาม ตั้งอยู่เรียงราย มีระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร โดย นายสมชาย ดิสสลุง พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสลุง ค้นพบพื้นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตอนนี้การเดินทางเข้าถึง อาจจะยังไม่สะดวกนัก ทางองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสลุง กำลังเร่งนำงบประมาณมาปรับปรุงให้เดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวกเป็นจุดขายใหม่ในเร็ววันนี้

 

ติดต่อก่อนเข้าไปเที่ยวได้ที่ นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอพัฒนานิคม โทร. 081-8674273 นายรัชพล เอื้อสลุง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสลุง โทร. 095-2829291

 

                สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ ททท.สำนักงานลพบุรี โทร. 036-770096-7 หรือ Facebook Fanpage : ททท.สำนักงานลพบุรี : TAT Lopburi https://www.facebook.com/TATLopburiOffice

 

 สุขภาพ 4วิธีกินผลไม้ช่วยให้ปลอดน้ำตาลลดเสี่ยงเบาหวาน

 

องค์การอนามัยโลก มีคำแนะนำให้เราให้บริโภคผักและผลไม้ไม่ต่ำกว่าวันละ 400 กรัมต่อวัน เพื่อผลในการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ

4 หลักในการกินผลไม้

 

1. หวานน้อยไม่ได้ดีเสมอไป หลายคนมีหลักการพื้นฐานในการเลือกบริโภคผลไม้ว่า ให้เลือกบริโภคผลไม้ที่หวานน้อยเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ในทุกกรณี เพราะผลไม้บางประเภท แม้รสหวานน้อย แต่กลับมีส่วนประกอบของน้ำตาลกลูโคส และ ซูโครส ในสัดส่วนที่สูง หากบริโภคโดยไม่ระมัดระวัง ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือเป็นโรคเบาหวานอาจเกิดอันตรายได้ เช่น แก้วมังกร กล้วยหอม กล้วยเล็บมือนาง ข้าวโพดเหลืองต้ม สละ ระกำ ลูกท้อ สับปะรดภูแล

 

 2. ผลไม้อบแห้งก็ต้องระวัง ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด ลูกพลับ พุทราจีนแห้ง อินทผลัม ฯลฯ นั้น แม้ว่าเป็นชนิดที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการเติมน้ำตาล เช่น การนำไปแช่อิ่ม กวน หรือ คลุกพริกกะเกลือ ก็ต้องบริโภคอย่างพอดี     เช่น พุทราจีนแห้ง 100 กรัม มีน้ำตาลอยู่ถึง 13 ช้อนชา อินทผลัมน้ำหนักเท่ากัน มีน้ำตาล 14 ช้อนชา

 

3. ผลไม้สดดีที่สุด คำแนะนำให้บริโภคผลไม้สม่ำเสมอเป็นประจำมุ่งที่ผลไม้สดเท่านั้น และไม่อาจทดแทนได้ด้วยผลไม้แปรรูป เช่น ผลไม้แช่อิ่ม กวน หรือคลุกเกลือน้ำตาล รวมทั้ง น้ำผลไม้สำเร็จรูป เพราะวิตามินและสารที่มีคุณค่าในผลไม้จะสูญสลายไปตามอายุและการได้รับความร้อน อีกทั้ง ในผลไม้แปรรูปและน้ำผลไม้ยังมีการเติมน้ำตาลเพื่อปรุงรสให้ชวนบริโภคเข้าไปอีกจำนวนมาก และอาจรวมถึงสารเคมีต่างๆ อีกด้วย

 

4. กินผักให้มากกว่าผลไม้ ในการปฏิบัติตามข้อแนะนำให้บริโภคผักผลไม้วันละ 400 กรัม เพื่อสร้างเสริมสุขภาพและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ควรเลือกบริโภคผักก่อนเป็นอันดับแรก และผลไม้เป็นส่วนเสริม เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่กลายเป็นการ “หนีเสือปะจระเข้” จากการได้รับน้ำตาลจากผลไม้ล้นเกิน จนกลายเป็นการเร่งให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมานั่นเอ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –“เอ็ม บี เค”ทุ่มพันล้านเปิดใหม่รร.ทินิดีฯถนนข้าวสาร

 

นางสาวอาทร วนาสันตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว บริษัท เอ็ม บี เค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม จำกัด เปิดเผยว่า มีนโยบายขยายการลงทุนโรงแรมและการท่องเที่ยวเพราะไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก ล่าสุดเข้าซื้อโรงแรมไอบิส สไตล์ ข้าวสาร เวียงใต้ หรือเวียงใต้เดิม มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท โดยปรับปรุงใหม่เปิดบริการในชื่อ “โรงแรมทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพ ข้าวสาร” แห่งแรกในย่านบางลำพู-ข้าวสาร และเป็นโรงแรมแห่งที่  7  ของเอ็ม บี เค เนื่องจากเห็นศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังโควิด เห็นได้จากผลประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวเครือ เอ็ม บี เค เติบโตช่วงงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรกว่า 200 ล้านบาท  

 

สำหรับช่วงเปิดตัวโรงแรม “ทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพ ข้าวสาร” ระหว่างวันที่ 1 – 23 ธันวาคม 2566  มีโปรโมชั่นห้องพักลดถึง 30% จากราคาเข้าพักที่สามารถยืดหยุ่นดีที่สุด ดูรายละเอียดทาง www.tinideekhaosan.com และจองห้องพักโดยตรงโทร. 0-2280-5434 หรืออีเมล tndbk.rsvn@tinidee.com

 

ภายในโรงแรมสร้างด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เน้นเสน่ห์แนววินเทจขานรับกับมรดกแห่งประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ ประกอบด้วย

 

ส่วนที่ 1 ห้องพักตกแต่งร่วมสมัยจำนวนถึง 215 ห้อง เหมาะกับตลาดนักท่องเที่ยว กลุ่มคู่รัก เพื่อนฝูง หรือครอบครัว  

 

ส่วนที่ 2 ห้องอาหาร Rhyme Cafe ตกแต่งแนวไทยร่วมสมัยอย่างงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บริการเสิร์ฟเมนูอาหารไทยท้องถิ่นและอาหารนานาชาติ และเครื่องดื่ม

 

ส่วนที่ 3 สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ห้องประชุมขนาดใหญ่รองรับผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 200 คน เพื่อจัดอีเวนต์และการประชุมทางธุรกิจ พร้อมห้องประชุมขนาดเล็กรับได้ครั้งละ 60 คน

 

สำหรับจุดเด่นของโรงแรม “ทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพ ข้าวสาร” ตั้งอยู่ทำเลยอดนิยมของทั้งคนไทยและต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดีบนถนนรามบุตรี ย่านถนนข้าวสารและบางลำพู เดินทางสะดวกทั้งรถสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว แต่เดิมโรงแรมเวียงใต้แห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2496 เป็นแห่งแรกในย่านบางลำพู-ข้าวสาร กระทั่งปัจจุบันมีห้องพักโรงแรมบูติกเข้ามาลงทุนจำนวนมากเพราะกระแสตอบรับดีจากทั่วโลก

 

โดยเฉพาะถนนข้าวสารมีจุดขายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานเข้ากับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยมีแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงรอบเกาะรัตนโกสินทร์เข้าถึงได้อย่างสะดวก ได้แก่ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดารามวัดอรุณราชวราราม และอีกหลายแห่ง

 

ข่าวที่สอง -ททท.-GWMบูมขับรถยนต์ไฟฟ้าทัวร์คาราวาน5ภาค

 

 

นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน และสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยานยนต์พลังงานใหม่ ขยายผลต่อเป็นปีที่ 2 เพิ่มเส้นทางท่องเที่ยวอันซีนแปลกใหม่ (Unseen Destinations) ทั้งในไทยและประเทศใกล้เคียง ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนพร้อมจะร่วมมือกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยกระดับการท่องเที่ยวไทยด้วยนวัตกรรมอุตสาหกรรมยานยนต์และผลักดันประเทศก้าวสู่เป็นธรรมาภิบาลคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง

 

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงสนับสนุน ททท.กับเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำแผนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และสร้างความร่วมมือทางธุรกิจเลือกท่องเที่ยวด้วยยานยนต์พลังงานใหม่ พร้อมกับหวังประชาสัมพันธ์ซอฟท์ เพาเวอร์ ด้านวัฒนธรรมไทยที่นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาตินิยม เชื่อมโยงเข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ภูมิภาคต่าง  และนำการท่องเที่ยวเข้าไปช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศด้วย

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. วางแผนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ใช้รถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จากต่างประเทศระยะใกล้ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน เพิ่มการจัดกิจกรรมคาราวานขับรถท่องเที่ยวด้วยรถยนต์พลังงานใหม่เข้ามาทางภาคอีสานของไทย 100 คัน เจาะกลุ่มลูกค้า GWM TANK รถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงชื่นชอบการขับรถท่องเที่ยวตามเส้นทางที่ท้าทาย จึงได้ผนวกแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เข้าไปด้วยกับการเสริมสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างเป็นรูปธรรมทำให้แข็งแกร่งได้มาตรฐานระดับสากล
และทำให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งดูแลสิ่งแวดล้อมตามกลยุทธ์ขององค์กรด้วยอีกทาง

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด ประจำภูมิภาคอาเซียน เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ ททท. นำการท่องเที่ยวเข้ามาส่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้งในอาเซียนและไทยให้ทัดเทียมระดับสากล เน้นใช้รถยนต์พลังงานสะอาดบริการผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพ เพิ่มการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยคึกคักมากขึ้น โดยการเลือกจุดหมายปลายทางใหม่ที่จะเพิ่มสีสันการเดินทาง พร้อมกับสะท้อนความตั้งใจขององค์การที่เดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน

 

 

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมกับพันธมิตรทั่วกรุงเทพฯ 20 แห่ง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร หรือสินค้าและการบริการต่าง ๆ มอบสิทธิพิเศษ หรือ GWM Privileges ให้ลูกค้าเกรท วอลล์ มอเตอร์ ผ่านแอปพลิเคชัน GWM ส่งมอบไลฟ์สไตล์และประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดเอ็กคลูซีฟ โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสม GWM Point แลกเป็น E-Voucher เข้ารับบริการต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดพิเศษในโปรแกรม GWM Privileges มอบส่วนลดการแลกคะแนนสุดคุ้ม (Special Redemption Discount) เพิ่มเติมให้ลูกค้าด้วย

สำหรับ E-Voucher ดังกล่าวสามารถใช้ได้ที่จุดหมายปลายทางได้ทันที เริ่มสะสมคะแนนสะสมและแลกรับ E-Voucher ต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน 2566 -31 ธันวาคม 2566 หรือจนกว่าสิทธิพิเศษ E-Voucher จะหมด

 

 

สำหรับคาราวานยานยนต์ไฟฟ้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางทั่วไทย กระจาย 5 เส้นทาง 5 ภูมิภาค กับ GWM ภายใต้แนวคิด “สุขกาย สุขใจ สุขทันที ที่เที่ยวไทย”  

 

เส้นทางที่ 1 ภูมิภาคภาคกลาง  ลุยธรรมชาติ กับรถ GWM TANK off road SUV สุดเท่ จังหวัดกาญจนบุรี

เส้นทางที่ 2 ภูมิภาคภาคเหนือ เส้นทาง UNESCO อโยธยา สู่ ทวาราวดี ศรีเทพ ย้อนรอยประวัติศาสตร์กับ GWM HAVAL H6 HEV จังหวัดพระนครศรีอยุธยา - ลพบุรี เพชรบูรณ์

เส้นทางที่ 3 ภูมิภาคภาคอีสาน เส้นทาง GEO PARK ตามรอยจูราสสิคพาร์ค มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานกับ GWM HAVAL JOLION HEV จังหวัดสระบุรี นครราชสีมา

เส้นทางที่ 4 ภูมิภาคภาคใต้ เส้นทางตามหาสมบัติบนเขาใต้ท้องทะเลอ่าวไทย กับ GWM HAVAL H6 HEV จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร

เส้นทางที่ 5 ภูมิภาคภาคตะวันออก เส้นทาง 3 สมุทร กับน้องแมวสุดคิ้วท์ GWM ORA จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai