ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ลุยต่อครม.สัญจรขาย55เมืองรองปี67



ททท.ต่อยอดครม.สัญจรครึ่งปีแรกลุยขาย365วัน55เมืองรอง

ทำ3โปรเจกต์-ดึงแอร์เอเชียแจกโปรตั๋ว-จัดเต็มวันธรรมดา

เปิดใหม่72เส้นทาง5ภาค“วัดดัง/มัสยิดสวย/ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์”

นายกฯเศรษฐาปลื้มคิงเพาเวอร์ไทยเนสสเตชั่นบุกตลาดโลก

แถลงการณ์!สโมสรเลสเตอร์ซิตี้P&Sยันยึดกฎกำไรและยั่งยืน

คิงเพาเวอร์ออนไลน์2วันสุดท้าย23-24มี.ค.ลด3ระดับ10-20%

ททท.ฉลอง64ปีลุย3พันธกิจท่องเที่ยวชาติ SmartTourism

บางจากเพิ่ม162ปั๊มซื้อทอดไม่ทิ้งผลิตน้ำมันเครื่องบินSAF

สุขทันทีเที่ยวเชียงใหม่สงกรานต์ป๋าเวณีปี๋ใหม่4-16เม.ย.67

5 พฤติกรรมทำร้ายไตที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนรีบแก้ไขด่วน

ฮ็อปอินน์นำโรงแรมทั่วไทย1ทศวรรษแจกทั้งปีทอง/ตั๋วญี่ปุ่น

BDMSลุยลงทุนโรงพยาบาลใหม่ในEECดันไทยเมดิคัลฮับ

 

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #  #

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/q_4Ag5OtF1/?mibextid=Nif5oz

 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำ ททท.ลุยต่อยอดหลัง ครม.สัญจร กระหน่ำขายเที่ยว 55 เมืองรอง “ภาคเหนือ” พะเยาแจ้งเกิด 3 สุข ทั่วไทย จัดใหญ่ 3 โปรเจกต์ “โปรตั๋วบินแอร์เอเชีย-เที่ยววันธรรมดา-ทัวร์พหุวัดธรรมสายศรัทธา 72 แห่ง “วัดเกจิดัง-ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์-มัสยิดสวยงาม” จัดระบบเที่ยวไทย 2 แนว เน้นโลจิสติกส์สะดวกและคุ้มค่าเงิน ปิด 3 จุดอ่อนเที่ยวเมืองรอง “เพิ่มกิจกรรมกลางคืน -ปรับห้องพักสบาย-สุขาสะอาด” พ่วง “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” พีอาร์โหมมหาสงกรานต์มรดกโลก5ภาค

 

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมคณะการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคเหนือ โดยเลือกพื้นที่เมืองรอง ช่วยทำให้การท่องเที่ยวได้รับประโยชน์มากเป็นพิเศษ 3 ส่วน คือ ส่วนแรก มีช่องทางการสื่อสารทั้งในและต่างประเทศให้เห็นถึงวิถีชุมชน ความงดงามของแหล่งท่องเที่ยว ตามจังหวัดต่าง ๆ  ส่วนที่สอง เกิดการบอกต่อเชิญชวนให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามเส้นทางใหม่ ๆ ส่วนที่สาม เพิ่มรายได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่มีหน่วยงานและคณะ ครม.เข้าไปประชุมในจังหวัดนั้น ๆ

 

สอดคล้องตามที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบาย ททท.บูรณาการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ช่วยกันเร่งยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลักด้วย เพิ่มอาชีพสร้างรายได้ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็ง ตัวอย่างที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงในภาคเหนือตอนบน 2 จังหวัดพะเยา สามารถเปิดจุดขายแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในตลาดคนไทยและต่างประเทศได้ด้วย แล้ว ททท.ก็นำมาต่อยอดผลิตเส้นทางตัวอย่าง “สุขทันที...ที่เที่ยวพะเยา” แบ่งเป็น 4 สไตล์ 4 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางสไตล์แรก สุขกาย นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหารอร่อย มีหลากหลายให้เลือก มีร้านจำนวนมาก เส้นทางสไตล์ที่ 2 สุขใจ ไหว้พระ 9 วัด เส้นทางสไตล์ที่ 3 สุขตา มีอุทยานทางธรรมชาติ ซึ่งจะเดินหน้าเพิ่มจุดขายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป

 

ตามแผนจะเพิ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวเมืองรองช่วงครึ่งปีหลัง 2567 จะจับมือกับพันธมิตรนำงบประมาณที่ได้มากระตุ้นการเดินทางเที่ยวในประเทศระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2567 ร่วมกันพันธมิตร 3 โครงการ ได้แก่

 

โครงการแรก จับมือกับไทย แอร์ เอเชีย ทำโปรโมชั่นตั๋วโดยสารเครื่องบิน เนื่องจากมีริการบิน ไป-กลับ แบบประจำ สู่เมืองรองทั่วประเทศ  ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดความสนใจแต่ละกลุ่มแตกต่างกันไป

 

โครงการที่ 2 จับมือกับสายการบินอื่น ๆ ทำแพกเกจขาย “วันธรรมดา น่าเที่ยว” เพื่อปิดช่องว่างโลว์ซีซัน เนื่องจากกันยายนเป็นฤดูฝนเดินทางลำบาก แต่ทางฝั่งทะเลอ่าวไทยยังสามารถเที่ยวได้ ททท.ก็จะจับมือกับผู้นำตลาดที่มีเครือข่ายสมาชิกเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากแต่ละแบรนด์มีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ทำแพกเกจขายท่องเที่ยวราคาพิเศษ เช่น อโกด้า ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โลตัส แมคโคร ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง GWM :Great Wall Motor เน้นการเดินทางใช้พลังงานสะอาดโลว์คาร์บอน และอีกหลากหลายพันธมิตร

 

โครงการที่ 3 เปิดเส้นทางทัวร์วัดในเมืองรองทั่วไทย 72 วัด เชิญชวนสายศรัทธา และมูเตลู เลือกไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ไม่เฉพาะวัดทางพุทธศาสนาเท่านั้น ททท.จะแนะนำเส้นทางพหุวัฒนธรรม สักการะศาลเจ้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นสถานที่มีชื่อเสียงชาวจีนส่วนใหญ่นับถือมายาวนาน หรือมัสยิดของชาวมุสลิมที่มีความงดงามหลายแห่งด้วยกัน เรื่อยไปจนถึงวัดของพุทธศาสนิกชน

นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ต้องเดินหน้าควบคู่กันไปผลักดันการท่องเที่ยวโครงการ 365 มหัศจรรย์เมืองไทย เข้าไปอยู่ในทุกโครงการย่อยอย่าง เช่น เที่ยวเมืองรอง วันธรรมดาน่าเที่ยว เที่ยวข้ามภาค เส้นทางสายศรัทธา ผนวกขายผ่านสินค้าท่องเที่ยว ซอฟท์ พาวเวอร์ 5F ได้แก่ อาหาร แฟชั่นผ้าพื้นเมือง แหล่งถ่ายทำภาพยนตร์ ศิลปะการต่อสู้ และงานเทศกาล โดยจะจัดระบบเที่ยวในประเทศเพิ่มป้องกันการแข่งขันกันด้วยวิธีดั๊มราคาแพกเกจ จึงจะเพิ่มอีก 2 แนวทาง

แนวทางที่ 1 เน้นความสะดวกสบายการเดินทางด้วยระบบโลจิสติกส์จากต้นทางถึงปลายทาง หลังจากจับมือกับพันธมิตรสายการบินแล้ว กำลังจะร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสนับสนุนกิจกรรมขับรถท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ระบบไฟฟ้า

แนวทางที่ 2 เที่ยวเมืองรองด้วยความรู้สึกในประสบการณ์มีความสุข คุ้มค่า และเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เช่น การท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนนี้มีเที่ยวบินเข้าถึงสะดวกสบาย ประการสำคัญคือแต่ละจังหวัดมีความลุ่มลึกทางวัฒนธรรม อย่างปลานิลในยะลา ปัตตานี นราธิวาส ด้วยลักษณะของน้ำสะอาดจึงเกิดรสชาติดีกว่าจังหวัดอื่น ๆ บทบาทของ ททท.จะต้องสร้างข้อความสื่อสารความหมายลึกซึ้งเหล่านี้ไปถึงนักท่องเที่ยว แม้กระทั่งในแหล่งท่องเที่ยวเดิม ๆ ก็จะเฟ้นหาสิ่งที่คนยังไม่เคยรู้มาก่อนมานำเสนอด้วย

 

ขณะนี้ ททท.ได้เชิญ ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด มูลนิที่สถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ มาทำวิจัย “การท่องเที่ยวเมืองรองของไทย” ค้นหาปัญหาที่แท้จริง เพราะเดิมรัฐบาลไทยประกาศเมืองรองบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์จนถึงปี 2580 เพียงแต่ตอนนี้เมืองรองยังไม่ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ทั้งที่แต่ละปีการท่องเที่ยวเติบโตสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ ปี 2567 ได้ค้นพบจุดอ่อนใหญ่ 3 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1 มีวันพักเฉลี่ยพักค้างคืนน้อยมาก เนื่องจากขาดกิจกรรมการท่องเที่ยวกลางคืน เช่น ถนนคนเดิน กิจกรรมแสงสีความสวยงาม 

 

เรื่องที่ 2 บริการห้องพัก ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ถึงแม้จะมีห้องพักจำนวนมาก จังหวัดละ 2,000-3,000 ห้อง แต่มีห้องที่สอดคล้องตามความต้องการของนักท่องเที่ยวจังหวัดละไม่ถึง 100 ห้อง ดังนั้นจึงต้องพูดคุยกับผู้ประกอบการแต่ละจังหวัดทำความเข้าใจ สร้างเสน่ห์ให้ชัดเจน

 

เรื่องที่ 3 ห้องน้ำบริการสาธารณะ และในแหล่งแวะพักระหว่างเส้นทางท่องเที่ยว Rest Area ต้องสร้างให้เหมาะกับผู้กลุ่มนักเดินทาง

 

ส่วนการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายท่องเที่ยวเมืองรองก็ต้องเดินหน้าโดยไม่ต้องรอการแก้ไขจุดอ่อนทั้ง 3 เรื่อง ปี 2567-2568 ททท.จะทุ่มเททำการขาย 2 แบบ คือ แบบที่ 1 การท่องเที่ยวเมืองหลักเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวเดินทางไหลไปสู่เมืองรองในบริเวณใกล้เคียงให้ได้มากที่สุด  แบบที่ 2 ขายเมืองรองด้วยกันโดยจัดทำเส้นทางเชื่อมเป็นกลุ่มจังหวัด เช่น 3 จังหวัดชายแดนใต้ กลุ่มภาคเหนือตอนบน ตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง ก็จะทำในลักษณะเดียวกัน

 

นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ททท.จะนำเมืองรองมานำเสนอความโดดเด่นในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม -1 เมษายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เตรียมนำ “แลนด์มาร์กเมืองรอง” ของแต่ละภูมิภาคมาจำลองไว้ตามหมู่บ้าน 5 ภาค เช่น หอนาฬิกา อาหารหรือสินค้าขึ้นชื่อ พร้อมกับสร้างแรงจูงใจให้คนที่เข้ามาชมงานจัดทำ QR CODE สแกนแหล่งท่องเที่ยวได้ทันที แล้วก็ตั้งเป้าสร้างรายได้งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยไว้ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก รายได้จากการซื้อขายภายในงานตั้งเป้าประมาณ 90 ล้านบาท ส่วนที่สอง การท่องเที่ยวต่อเนื่องหลังเสร็จสิ้นงานเลือกเดินทางต่อไปตามสถานที่ชอบของแต่ละคน เพื่อสร้างรายได้ตลอดทั้งปีอีกประมาณ 1,500 ล้านบาท

 

สำหรับเทศกาลมหาสงกรานต์ ก็นำมาใช้กระตุ้นนักท่องเที่ยวด้วยการใช้งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยวันสุดท้าย 1 เมษายน 2567 หมู่บ้าน 5 ภาค นำเสนองานประเพณีสงกรานต์ตามนโยบายรัฐบาลมุ่งยกระดับสงกรานต์กลุ่มจังหวัดเสนอชื่อขึ้นทะเบียนยูเนสโกเป็นงานมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จึงจะใช้การส่งต่อความยิ่งใหญ่เฉลิมฉลองปีใหม่ไทย แต่งกายด้วยผ้าไทยพื้นเมือง พร้อมขบวนแห่สงกรานต์ เปิดให้ประชาชนได้สรงน้ำ ช่วง 16.00 น.

 

เมื่อเข้าสู่มหาสงกรานต์จริง เริ่มวันที่ 11 เมษายน 2567 ททท.จะจัดขบวนรถแห่สงกรานต์จาก 16 จังหวัด บริเวณถนนราชดำเนินตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าเข้าไปสู่ท้องสนามหลวง เผยแพร่ให้ประชาชนเห็นถึงเอกลักษณ์ความสวยงามของจังหวัดต่าง ๆ นำเสนอรายละเอียดความเชื่อและศรัทธา โดยจะนำรถแห่ทั้งหมดไปตั้งไว้ให้ประชาชนมาร่วมสรงน้ำพระ เล่นสงกรานต์ กลางท้องสนามหลวง จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2567

กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างการรับรู้ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้ง ททท.จะทยอยปล่อยข้อมูลเส้นทางตัวอย่างท่องเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ จัดทำเป็นแพกเกจเลือกเดินทางได้ทุกวัน

 

นางสาวสมฤดีกล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรก 2567 ตัวเลขจำนวนและรายได้ตลาดในประเทศ เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ต้องการเน้นรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยอย่างรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   ปลุกจิตสำนึกที่ดีช่วยกันคนละไม้ละมือทำให้เกิดความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 นายกฯเศรษฐาปลื้มคิงเพาเวอร์ไทยเนสสเตชั่นบุกตลาดโลก

 

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาชมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนจากทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ Thainess Station สินค้าไทย ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมใจกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนภูมิปัญญาไทย โดยมีโอกาสนำคณะผู้บริหารต้อนรับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ด้วย

 

ขณะนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมขานรับนโยบาย ซอฟท์ พาวเวอร์ ของรัฐบาลไทย เดินหน้าผลักดันและต่อยอดสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยผ่านโครงการ Thainess Station/ไทยเนส สเตชั่น คัดสรรพร้อมกับนำผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภาคต่าง  ๆ เพื่อเสนอขายผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้เข้าถึงตลาดนักช้อปคนไทย และนักท่องเที่ยวนานาชาติ นำโดย ผ้าขาวม้า ผ้าย้อมคราม งานหัตถกรรมกระจูด ผักตบชวา จากชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น กลุ่มแปรรูปผ้าขาวม้า อำนาจเจริญ ชุมชนบ้านหนองป่าพง พะเยา กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านบุ่งเลิศ ร้อยเอ็ด

 

พร้อมทั้งจัดพื้นที่วางจำหน่ายตามร้านสาขาดิวตี้ฟรีสาขาหลักทั้งในเมือง ( Duty free Downtown) คิง เพาเวอร์ 4 สาขาหลัก ได้แก่ รางน้ำ  ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และ ท่าอากาศยาน (Duty free Airport) 3 แห่ง ได้แก่  คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกฝั่งตะวันออก และตะวันตก คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง พื้นที่อาคารผู้โดยสารขาออก และคิงเพาเวอร์ ท่าอากาศยานภูเก็ต อาคารผู้โดยสารขาออก มุ่งเน้นสนับสนุนนำสินค้าไทยให้ทั่วโลกรู้จักแพร่หลาย สร้างรายได้กระจายถึงมือประชาชน และชุมชนผู้ผลิตสินค้าดี มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้าไปเพิ่มขึ้นมีอาชีพที่ยั่งยืนตามแนวทางของรัฐบาลไทยปัจจุบัน

 

นายอัยยวัฒน์ ย้ำว่า ตลอดกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มีกลยุทธ์การทำงานร่วมกับชุมชน ภาครัฐ และเอกชน โดยได้เข้าไปร่วมสนับสนุนควบคู่กับช่วยพัฒนาสินค้าภูมิปัญญาไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การดีไซน์สินค้า การผลิต แล้วก็ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนแบ่งปันองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการในชุมชน พัฒนาร่วมกันในโครงการ “COMMUNITY GOLD BY KING POWER”  เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การคัดสรรสินค้าจากชุมชนมาจำหน่ายในโซนสินค้าไทย แล้วก็ผลักดันผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ความเป็นสากล ร่วมกับสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ละปีได้จัดทำคอลเลกชันพิเศษไปวางขายที่ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เดินหน้ายกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นพลังท้องถิ่น ฝีมือคนไทย ที่สามารถทำให้ เป็น ไป ได้ อย่างโดดเด่นไม่แพ้ชาติใดในโลก  

 

ข่าวที่ 2 แถลงการณ์!สโมสรเลสเตอร์ซิตี้P&Sยันยึดกฎกำไรและยั่งยืน

 

                สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรฟุตบอลของคนในไทยยุโรป ที่มี “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานสโมสร ออกแถลงการณ์ระบุ รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่พรีเมียร์ลีกได้ตั้งข้อหากับสโมสรในช่วงเวลานี้ถึง “เรื่องของการบริหารจัดการสถานะกำไรและความยั่งยืน” เพราะที่ผ่านมาทางสโมสรฯ พยายามจะเข้าไปทำความเข้าใจกับพรีเมียร์ลีกในประเด็นดังกล่าวอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และแม้ปัจจุบันสโมสรฯ จะไม่ได้อยู่ในพรีเมียร์ลีกก็ตาม

                สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ยินดีให้ความร่วมมือกับพรีเมียร์ลีก และ สมาคมฟุตบอลลีกของอังกฤษ (“English Football League” หรือ “EFL”) เพื่อหาแนวทาง และมาตรการที่เหมาะสมในการแก้ไขข้อกล่าวหาที่อาจเกิดขึ้นจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในเวลาที่เหมาะสม

 

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ น้อมรับคำแนะนำอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับจุดยืนของสโมสรฯ แต่หากหน่วยงานฟุตบอลยังคงพยายามที่ใช้อำนาจนอกเหนือขอบเขตโดยมิชอบดังเช่นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สโมสรฯ จำเป็นจะต้องใช้มาตรการปกป้องตนเองจากการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายอย่างถึงที่สุด

               

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้แสดงความมุ่งมั่น และปฏิบัติตามกฎผลกำไรและความยั่งยืน (“Profit & Sustainability” หรือ “P&S”) มาโดยตลอด ผ่านโครงสร้างการดำเนินงาน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้สโมสรฯ ยังคงยึดมั่นในเป้าหมายด้านกีฬา ดังเห็นได้จากความสำเร็จของสโมสรฯ อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานั้น ทั้งการแข่งขันในประเทศและในยุโรป นอกจากการแสดงจุดยืนของสโมสรฯ แล้ว สโมสรฯ ยังมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรมในการบรรลุเป้าหมายที่ยั่งยืนของทุกสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่สิ่งเหล่านี้ได้รับการจัดการอย่างสมเหตุสมผลและยุติธรรม

 

                สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ขอขอบคุณแฟนบอลที่เข้าใจเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนที่มีให้ทีมด้วยดีเสมอมา  โดยมีเป้าหมายหลัก คือผลงานในสนาม  และความสำเร็จของทีมในช่วงสุดท้ายของฤดูกาล   

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์ออนไลน์2วันสุดท้าย23-24มี.ค.ลด3ระดับ10-20%

 

คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ จัดเต็ม 23-24 มีนาคม 2567 เสาร์-อาทิตย์ 2วันสุดท้าย!! กับ SUMMER IS CALLING ดีลฉ่ำรับซัมเมอร์ ให้ทุกการช้อปของคุณคุ้มค่ารับหน้าร้อนนี้ด้วยโปรพิเศษสุดคุ้ม ราคา DUTY FREE มีไว้ให้นักเดินทางที่พร้อมเที่ยวแล้วก็อย่าลืมกดช้อปสินค้าแบรนด์ดังขนมาลดราคาจุใจ จะสายบิวตี้ สกินแคร์ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ มีให้เลือกทั้งหมด กดช้อปสินค้าใส่ตะกร้าได้เลย และรอรับของที่สนามบินขาออกประเทศ ลดแรงตามความชอบ 3 ระดับ ดังนี้

 

ระดับที่ 1 ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รหัสส่วนลด SCMAR10

 

ระดับที่ 2 ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท  รับรหัสส่วนลด SCMAR15

 

ระดับที่ 3 ลดสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท รหัสส่วนลด SCMAR20

 

                พิเศษ 1.Free! กระเป๋า King Power - 31 มี.ค. 67 นี้เท่านั้น เฉพาะลูกค้าที่ช้อปครบ 9,000.- ขึ้นไป *แถมจนกว่าของจะหมด 2.รับโค้ดส่วนลด 100 บาทสำหรับสั่งซื้อ Sim2Fly เมื่อซื้อแพ็กเกจตามเงื่อนไขเท่านั้น โค้ดส่วนลดมีจำนวนจำกัด

 จัดส่งทาง SMS เมื่อรายการสั่งซื้อสำเร็จเก็บโค้ดส่วนลดไว้ใช้ได้จนถึง 30 เม.ย. 67

 

สำหรับสินค้าดิวตี้ฟรีสุดฮอตของเมืองไทย มีไฟลต์บินแล้วรีบช้อปเลย เสร็จแล้วไปรับสินค้าที่สนามบิน

 

ข่าวที่ 4 ททท.ฉลอง64ปีลุย3พันธกิจท่องเที่ยวชาติ Smart Tourism

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ได้จัดงานในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาองค์กรครบ 64 ปี ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2567 ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมด้านการตลาดท่องเที่ยวมีความมุ่งมั่นและตั้งใจขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3 พันธกิจหลัก นำโดย พันธกิจแรก ทำให้เกิดความสมดุลการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน (Drive Demand) พันธกิจที่ 2 ยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ (Shape Supply) พันธกิจที่ 3 สร้างนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวสู่ Smart Tourism ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีทางการท่องเที่ยวผ่านแบรนด์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์

 

ประกอบด้วย ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ผลักดันรายได้และจำนวนนักเดินทางเติบโตภายใต้แนวคิด “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ส่วนตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศนำเสนอ “Amazing Thailand : Your Stories Never End”  การเดินทางด้วยเรื่องราวที่ไม่สิ้นสุด ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันภายในองค์กรมุ่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความเป็นเลิศเรื่องการปฏิบัติงาน ปรับปรุงกระบวนการทำงานโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อาจจะเกิดทันท่วงที ควบคู่การประสานความร่วมมือกับพันธมิตรรอบทิศเดินหน้าเคียงข้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยก้าวสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STGs ขับเคลื่อนระบบนิเวศน์ด้านการท่องเที่ยวให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ขององค์กร 

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ได้กิจกรรมในโอกาสคล้ายวันสถาปนาองค์กร ครบ 64 ปี ตลอดเช้าวันที่ 18 มีนาคม 2567 มีพิธีบวงสรวงพระนางจามเทวีและพิธีสักการะพระพุทธชัยวัฒน์ ประทานพร รูปเหมือนจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และทำบุญประจำปีเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงานและทุกคนใน ททท. โดยมีหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างต่อนเอง จากนั้นช่วงบ่ายจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่พนักงานและลูกจ้าง ททท. ที่ปฏิบัติงานครบ 25, 30 และ 35 ปี    และมอบเข็มเชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณขององค์กรประจำปีงบประมาณ 2566 บริเวณห้องประชุมจารุวัสตร์ อาคาร ททท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ

 

แล้ว ททท. ยังได้เชิญชวนหน่วยงานพันธมิตรร่วมบริจาคเงินสบทบทุนโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี มูลนิธิรามาธิบดี โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์สุพัตรา ลีลาภิวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ รับมอบเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 368,964 บาท

 

ข่าวที่ 5 บางจากเพิ่ม162ปั๊มซื้อทอดไม่ทิ้งผลิตน้ำมันเครื่องบินSAF

 

นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด เปิดเผยว่า นำผู้บริหารบางจากเดินหน้าขยายโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” ต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไปจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ 162 สถานี เปิดเป็นจุดรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil) แล้วนำไปผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF)  โดยจะเชิญชวนประชาชนนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาขายตามปั๊มบางจากได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สร้างการเรียนรู้ให้ประชาชนเห็นคุณค่าของน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วสามารถนำมาใช้ประโยชน์ผลิตพลังงานสะอาด อีกกลไกสำคัญช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคอุตสาหกรรมการบิน

 

ตามแผนงานจะมี บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิต SAF จากน้ำมันใช้แล้วจากการทำอาหารเป็นรายแรกในประเทศไทย ควบคู่กับรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ทิ้งน้ำมันใช้แล้วสู่พื้นที่สาธารณะ โดยไม่ผ่านกระบวนการทิ้งอย่างไม่ถูกวิธี แล้วยังส่งต่อสุขภาพที่ดีร่วมกันสร้างโลกที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมด้วยวิธีง่าย ๆ ทำได้ทุกคน

 

สำหรับโครงการทอดไม่ทิ้ง นำร่องโดยกลุ่มบริษัท ธนโชค หนึ่งในผู้ร่วมทุนใน บีเอสจีเอฟ และ บีเอสจีเอฟ นำมาต่อยอดขยายเครือข่ายเปิดรับน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารแล้วนำไปผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) เร็ว ๆ นี้ทางบางจากประกาศรายชื่อสถานีน้ำมันสาขาเพิ่มที่จะรับซื้อน้ำมันทอดที่ใช้แล้ว

 

ในวันเปิดตัวโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” เดือนมีนาคม 2567 มีผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และพันธมิตรร่วมสนับสนุนครบทุกองค์กร ได้แก่ นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด นางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร และ นายนิพนธ์ เลิศทัศนีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารโครงการวิศวกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน นายวัฒนา พรพัฒน์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานค้าปลีกน้ำมัน สายงานธุรกิจองค์กรและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น บมจ. บางจากฯ และนายธนวัฒน์ ลินจงสุบงกช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธนโชค

 

            ช่วงที่ 2 จัดคิวเที่ยวปีใหม่ไทยไปเช็คอินสงกรานต์พื้นที่แรก “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” สุขทันที่เที่ยวเชียงใหม่ 4-16 เม.ย.นี้ ไฮไลต์ 3 พิกัด แล้วต้องฟัง “5พฤติกรรม” อาจทำให้เป็นโรคไตโดยไม่รู้ตัว และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ฮ็อปอินน์” นำโรงแรมสุดประหยัดฉลอง 10 ปี แจกทั้งปีทองคำกับตั๋วบินญี่ปุ่น ข่าวที่สอง “BDMS” ลุยลงทุนโรงพยาบาลดันEECฮับสุขภาพ

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวเชียงใหม่สงกรานต์ป๋าเวณีปี๋ใหม่4-16เม.ย.

 

สงกรานต์นี้ ชวนเช็คอินเที่ยวปีใหม่ไทย กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขึ้นเหนือไปร่วม ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” ทั่วเมืองเชียงใหม่เปิดเมือง 4-16 เมษายน 2567 แบบยาว ๆ 2 สัปดาห์ ดื่มด่ำสัมผัสอัตลักษณ์ชาวล้านนาหนึ่งในกลุ่มจังหวัดของกระทรวงวัฒนธรรมเสนอขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก  ปี 2567 ปักหมุดเที่ยวสงกรานต์ล้านนา 3 พิกัด

 

พิกัดแรก “พิธีอัญเชิญน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ระหว่างวันที่ 4 - 9 เมษายน 2567 จะอัญเชิญน้ำทิพย์จากแหล่งน้ำ 9 แหล่ง ได้แก่ 1.วัดพุทธเอ้น อำเภอแม่แจ่ม 2.อ่างกาหลวง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จากแหล่งสูงสุดในเมืองไทย 3.วัดผาลาด อำเภอเมือง 4.วัดเจดีย์เหลี่ยม เมืองเก่าเวียงกุมกาม อำเภอสารภี 5.ขุนน้ำแม่ปิง อุทยานแห่งชาติผาแดง อำเภอเชียงดาว เป็นต้นน้ำแม่ปิงเหนือสุดของไทย  6.วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ อำเภอแม่แตง 7.วัดป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ 8.วัดบุพพาราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ 9.วัดดับภัย อำเภอเมืองเชียงใหม่ มาประกอบพิธีหุงน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมือง แจกจ่ายประชาชนและนักท่องเที่ยว

 

พิกัดที่ 2 งานสืบฮีต สานฮอย ย้อนรอยปี๋ใหม่เมือง ระหว่างวันที่ 6 – 8 เมษายน 2567 เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่ แสงสีเสียง ยามค่ำคืน เปิดกาดหมั้วครัวฮอม การแสดงดนตรีและวัฒนธรรมล้านนา บริเวณวัดเจดีย์เหลี่ยม

 

พิกัดที่ 3 จัดกิจกรรม สรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญของเมืองเชียงใหม่ 11 วัด ระหว่างวันที่ 7 – 16 เมษายน 2567 เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสักการะสรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ วัดเชียงยืน วัดเจ็ดลิน วัดโลกโมฬี วัดป่าเป้า วัดเชียงมั่น วัดยางกวง วัดอินทขีลสะดือเมือง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดล่ามช้าง วัดพันอ้น และวัดศรีสุพรรณ

 

โดยจะมี 1.ขบวนแห่ไหว้สาจุมสะหรีปี๋ใหม่เมือง วันที่ 12 เมษายน 2567 เปิดให้ทุกคนร่วมสักการะบูชาพร้อมอัญเชิญน้ำทิพย์ประทับเตรียมนําร่วมสรงน้ำในขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์และพระสําคัญ ที่วิหารลายคํา วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร 2.พิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ วันที่ 13 เมษายน 2567 อัญเชิญจากวัดพระสิงห์วรมหาวิหารประดิษฐานบนรถบุษบกและพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองเชียงใหม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล   

 

                สงกรานต์เชียงใหม่เที่ยวต่อเนื่องได้ถึง 2 สัปดาห์ 3 พิกัด ต้อนรับปีใหม่ไทยด้วยทัวร์บุญสักการะสิ่งศักดิ์ได้ทั่วอาณาจักรล้านนาในภาคเหนือเมืองไทย

 

สุขภาพ –5 พฤติกรรมทำร้ายไตที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนรีบแก้ไขด่วน

 

เมื่อพูดโรคถึง “โรคไต” หลายคนคงคิดว่า เพราะกินเค็มมากเกินไป” แต่จริง ๆ แล้ว รู้หรือไม่ ? ว่าไม่ใช่อาหารรสเค็มเท่านั้น ที่เป็นสาเหตุของโรคไต แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคไตได้  ทางเพจ ALL PharmaSee มีข้อมูลมานำเสนอพฤติกรรม ที่อาจทำร้าย “ไต” ของเราได้ ปรับหรือแก้ไขด่วน  ๆ ดังนี้

 

พฤติกรรมที่ 1 ทานอาหารรสจัด ไม่ใช่แค่รสเค็มจัด แต่รวมไปถึงอาหารหวานจัด เผ็ดจัด หรือมันจัดด้วย

 

พฤติกรรมที่ 2 ดื่มน้ำน้อย  จะทำให้ ปัสสาวะมีสีเข้มมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำจนทำให้ไตต้องทำงานหนัก อาจเสี่ยงภาวะไตวาย และโรคในระบบทางเดินปัสสาวะได้

 

พฤติกรรมที่ 3  กินอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารกระป๋อง  เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนใหญ่จะมีปริมาณโซเดียมมากกว่าปกติ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการทำงานของไต

 

พฤติกรรมที่ 4  น้ำหนักมากเกินไป จะก่อให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน อย่างเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ป่วยที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคไต

 

พฤติกรรมที่ 5 ซื้อยารับประทานเอง  เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายจากร้านขายยาไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบันหรือยาสมุนไพรบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดโรคไตได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนรับประทานยาทุกครั้

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ฮ็อปอินน์นำโรงแรมทั่วไทย1ทศวรรษแจกทั้งปีทอง/ตั๋วญี่ปุ่น

 

                นลินี กฤษฎาวิวัฒน์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มฮ็อป อินน์ เป็นโรงแรมภายใต้การดูแลของ บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด ได้จัดแคมเปญ “บินลัดฟ้าฉลองเปิดฮ็อป อินน์ เจแปน”  และจัดในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี เริ่มตั้งแต่ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤศจิกายน 2567  เอาแฟนคลับ ฮ็อป อินน์ ไทยแลนด์ ได้ลุ้นรับสิทธิประโยชน์ต่อเนื่องทุกเดือน ล่าสุดได้นำผู้บริหารฮ็อป อินน์ ทั่วประเทศ จับรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป/กลับ กรุงเทพ-โตเกียว พร้อมที่พักโรงแรม ฮ็อป อินน์ ในญี่ปุ่น สำหรับ 2 คน พักได้ 3 คืน 4 วัน มอบให้ผู้โชคดี 2 รางวัล​ เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าผู้จงรักภักดีต่อแบรนด์ฮ็อปอินน์มาตลอด

 

แต่ละเดือนจึงได้จัดกิจกรรมให้ผู้จองใช้บริการได้ร่วมลุ้นรับ 2 ต่อ ได้แก่

ต่อที่ 1 รับทองคำทุกเดือนเพียงเลือกมาเข้าพักที่โรงแรมฮ็อป อินน์ ทุกแห่งในเมืองไทย  

ต่อที่ 2   ลุ้นรับทริปเดินทางไปญี่ปุ่น เป็นรางวัลตั๋วเครื่องบินไป/กลับ กรุงเทพ-โตเกียว พร้อมที่พักโรงแรม ฮ็อป อินน์ ในญี่ปุ่น     

 

                ปัจจุบัน โรงแรม ฮ็อป อินน์ อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด (เอราวัณ ฮ็อป อินน์) บริษัทในเครือของ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด หรือ budget Hotels ขณะนี้ทั่วเมืองไทยเปิดบริการแล้ว 51 แห่ง และต่างประเทศก็มี ฟิลิปปินส์ 7 แห่ง ญี่ปุ่น  4 สาขา ตามแผนพร้อมจะขยายเครือข่ายการลงทุนและบริหารโรงแรมครอบคลุมทั่วเอเชียแปซิฟิก เน้นศักยภาพความได้เปรียบทางการแข่งขัน และมีเครือข่ายซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้เข้าพักยอมรับเรื่องคุณภาพบริการเป็นอย่างดีมาตลอด 10 ปี

 

                สำหรับ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “ERWหรือ “เอราวัณ” บริษัทแม่ เป็นผู้ลงทุนและพัฒนาธุรกิจโรงแรมในไทยและฟิลิปปินส์ เน้นด้วยมาตรฐานห้องพักระดับสากลระดับ 5 ดาว ลงมาจนถึงโรงแรมราคาประหยัด สิ้นปี 2565 มีพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมในไทยและต่างประเทศรวม 76 โรงแรม นับจากปี 2567 เป็นต้นไป ยังคงเดินหน้าแผนขยายการลงทุนทั่วเอเชียแปซิฟิกรองรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเชิงธุรกิจที่เติบโตอย่างคึกคัก

 

ข่าวที่สอง -BDMSลุยลงทุนโรงพยาบาลใหม่ในEECดันไทยเมดิคัลฮับ

 

พญ.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (จำกัด) มหาชน หรือ “BDMS” เปิดเผยว่า BDMS มุ่งมุ่นขยายธุรกิจการแพทย์ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ร่วมผลักดันให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานโลก โดยลดความเหลื่อมล้ำเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือครอบคลุมทั่วไทยกว่า 50 แห่ง ล่าสุดได้ขยายอีก 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา 2 ของกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล บนเขตพื้นที่ศรีราชา รองรับประชาชนและการเติบโตภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี รับมือความต้องการทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่เพียงตอบสนองตลาดและการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรเป็นผู้นำด้านบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ EEC

 

การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจของกลุ่มโรงพยาบาล มุ่งหวังช่วยพัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศและรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามนโยบายรัฐบาล รับมือความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาในระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

 

พญ. ปรมาภรณ์ ย้ำว่า BDMS จัดเป็นองค์กรที่มีสถานะแข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่อีอีซีมีวิสัยทัศน์ชัดเจนจะเป็นผู้นำด้านบริการทางการแพทย์และดูแลสุขภาพเป็นเลิศด้วยมาตรฐานสากล รวมถึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง สร้างการยอมรับและเชื่อถือเป็นวงกว้างเรื่องการให้บริการสุขภาพในเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงนี้ในอีอีซีพัฒนาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสร้างโอกาสให้ชุมชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาด้านการแพทย์และการลงทุน โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สามารถกระตุ้นให้เศรษฐกิจพื้นที่เติบโตในระยะยาวได้ด้วย

 

นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล กล่าวว่า เดือนมีนาคม 2567 BDMS เปิดตัวโรงพยาบาลทั่วไปพญาไทศรีราชา 2  ให้รองรับผู้ป่วยนอกได้มากถึง 1,500 คนต่อวัน และผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 113 เตียง มุ่งให้บริการสุขภาพของประชาชนในชลบุรีและใกล้เคียง ต่อยอดความสำเร็จจากโรงพยาบาลพญาไทศรีราชาสาขาแรกเปิดมากว่า 28 ปี เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ในเครือพญาไท-เปาโล ด้วยบริการแพทย์เฉพาะทางหลายสาขา สร้างคุณภาพสูงสุดให้ประชาชนในพื้นที่ ทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ประกันตน จนได้รับความไว้วางใจในเขตอุตสาหกรรมอีอีซี  

 

โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ของโรงพยาบาลเครือพญาไท-เปาโล ได้สรรหาบุคลากรทางการแพทย์สาขาต่างๆ พร้อมมอบทุนการศึกษากับแพทย์และพยาบาล จัดระบบการเรียนการสอนพิเศษให้ทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ เพื่อเพิ่มความชำนาญในการรักษาโรคให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้ครอบคลุมโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรักษาถึงในกรุงเทพฯ

 

ขณะนี้ได้นำแอปพลิเคชัน Health Up เข้ามาใช้เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายจบในคลิกเดียวบนมือถือ เช่น ดูประวัติการรักษา นัดหมายแพทย์ ข้อมูลความรู้สุขภาพ บริการเทเลแคร์สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในเขตอีอีซีมีประชากรหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในพื้นที่กว่า 400,000 คน และคนยุคใหม่มีไลฟ์สไตล์การดูแลสุขภาพมากขึ้น

 

ส่วนโรงพยาบาลพญาไทศรีราชาแห่งแรก เปิดตั้งแต่ปี 2538 เริ่มเปิดให้บริการประกันสังคมครั้งแรกปี 2542 เน้นคุณภาพและมาตรฐานทำให้เพิ่มยอดผู้ประกันตนได้มากถึง 250,000 คน เมื่อปี 2566 ได้รับรางวัลโรงพยาบาลประกันสังคมในดวงใจ ปี 2567 ได้รับโควต้ารับประกันสังคมเพิ่มอีก 115,000 คน เพราะผู้ใช้บริการต้องการเพิ่มจึงได้ขยายโรงพยาบาลแห่งที่ 2 รองรับในเขตอีอีซีที่พัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจต่อเนื่องความต้องการดูแลสุขภาพก็สูงขึ้นด้วย ทั้งกลุ่มผู้ทำงานและกลุ่มแรงงาน

 

ดังนั้นเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล จึงลงทุนขยายพญาไทศรีราชา 2 เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลเดิมและมีความตั้งใจพัฒนาเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางการแพทย์ในอนาคต ปี 2568 เครือ รพ. พญาไท-เปาโล วางแผนลงทุนเปิดโรงพยาบาลแห่งที่ 3 ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน ขนาด 225 เตียง เพื่อเป็นที่พึ่งพาด้านสุขภาพของชลบุรีและบริเวณใกล้เคียงในอนาคต

 

นายแพทย์ชาญชัย ลี้สมประสงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไทศรีราชาแห่งแรกเปิดมาเกือบ 3 ทศวรรษ ได้พัฒนาทักษะและความรู้ทางการแพทย์อันทันสมัยอย่างไม่หยุดยั้งจนกลายเป็นที่พึ่งพาของประชาชนในพื้นที่ และผู้ประกันตนได้รับบริการอย่างคุ้มค่า แล้วยังมุ่งมั่นเป็นที่พึ่งพาของประชาชนในเขตอีอีซีให้บริการด้วยคุณภาพและราคาเหมาะสม มีระบบปลอดภัย น่าเชื่อถือ เครือข่ายเข้าถึงได้ง่ายทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเป็นเขตอุตสาหกรรมพร้อมบริการดูแลประชากรอย่างทั่วถึง จึงขยายการรองรับผู้ประกันตนประมาณ 500,000 คน

 

ส่วนโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 2 เปิดขึ้นเพื่อรองรับผู้ประกันตนและผู้ป่วยทั่วไป ส่วนพญาไทศรีราชาแห่งแรกจะพัฒนาเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการแพทย์  ปรับปรุงพื้นที่ใหม่รองรับผู้ใช้บริการระดับพรีเมียมและผู้ประกันตนที่ต้องการการรักษาโรคเฉพาะทางหรือโรคซับซ้อน เริ่มให้บริการรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัด การผ่าตัดหัวใจ และขยายศูนย์การผ่าตัดผ่านกล้องทุกระบบ รวทั้งขยายศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย และอีกหลายสาขาที่มีแพทย์เฉพาะทางสาขาต่าง ๆ กว่า 280 คน

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai