บิ๊กTCEBปี67ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย
ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้
3-7มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี!!ไทยเจ้าภาพKorat
Expo2029
ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67
คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO”ช้อป3อย่างลด25%
ททท.นำร่องจัดAIR-MAZINGไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67
บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม&บางจากมอบ2โปรดี
สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด
AWCปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ
Trip.com-ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล.
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #สุขทันทีที่เที่ยวนราธิวาส
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/qzIBCHLDXz/?mibextid=UyTHkb
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา”
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เร่งเครื่องไมซ์ ไตรมาส 1 ปี67 “ตลาดต่างประเทศ” กระหน่ำโร้ดโชว์ เทรดโชว์ MI-C
สิงคโปร์
เกาหลี 6-7 มี.ค.67
ร่วมประชุมโดฮาชี้ชะตาไทยเจ้าภาพพืชสวนโลก
Korat Expo 2029 อำเภอคง
นคราชสีมา ปี’72 “ในประเทศ”
เตรียมเปิดแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” เปิดตัว
พ.ค.67 กระตุ้นดีไซน์ลงฐานรากไมซ์ชุมชน
ผนึก องค์กรท้องถิ่น หอการค้า
คัดสุดยอดผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ระดับชาติ และพร้อมหนุนวิสัยทัศน์รัฐบาล 2
ฮับ ท่องเที่ยว กับศูนย์การแพทย์และสุขภาพ
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า เตรียมแผนส่งเสริมไมซ์ต่างประเทศ ตลาด “MI :Meeting &Incentive” กลุ่มประชุมสัมมนาและเดินทางเพื่อเป็นรางวัล จะเน้นเดินสายโร้ดโชว์และเทรดโชว์ 4 งาน เริ่มที่ไต้หวัน 12-13 มีนาคม สาธารณรัฐเกาหลี 26-27 มีนาคม เทรดโชว์ Meeting Show Asia สิงคโปร์ 17-18 มีนาคม และจัด TIME 2024 วันที่ 16-22 มิถุนายน นี้ มุ่งเจาะผู้ซื้อ 40 ราย ในตลาดระยะใกล้ และระยะไกล โดยทำแฟมทริปมายังกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เพื่อช่วยช่วงที่กำลังเข้าสู่โลว์ซีซัน
ตัวอย่างเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เป็นครั้งแรกที่เกาหลีนำงานมาจัดนอกประเทศ จัดประชุมงาน Pinnacle Awards Asia Conference 2024 ของ International Festivals and Events Association – Asia (IFEA – Asia) ที่พัทยา โดยมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้จัดงานแล้วจากนั้นก็ทีเส็บก็จะไปโร้ดโชว์ในเกาหลีต่อไป
ส่วนตลาดประชุมขนาดใหญ่ หรือ Convention จะกระตุ้นสมาคมวิชาชีพในประเทศ นำร่อง 12 สมาคม ช่วยกันดึงงานประชุมระหว่างประเทศเข้ามาจัดในไทย ทั้งสมาคมการแพทย์ การค้า พร้อมจะทำเป็นทริปลงพื้นที่สำรวจสถานที่จัดงานและผู้ให้บริการสถานที่จัดงาน ในกรุงเทพฯ แบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 6 สมาคม ครั้งแรก เดือนเมษายน ครั้งที่สอง เดือนมิถุนายน 2567
สำหรับแผนงานชิงประมูลเจ้าภาพจัดงาน หรือ bidding ช่วงสัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 มีนาคม 2567 ทีเส็บและองค์กรเกี่ยวข้องทั้งหมดนำโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธาน ตัวแทนภาคีภาครัฐ เอกชน จะเดินทางร่วมกับทางอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ไปประชุมที่โดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อนำเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพงาน พืชสวนโลก Korat Expo 2029 เป็นงานจัดแสดงด้านพืชสวนโลกยิ่งใหญ่สุดในโลกระดับ A1 หรือ World Horticultural Exhibition โดยนครราชสีมา พร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ภายใต้สมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ (AIPH) ตามกำหนดประเทศที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจะจัดงานได้รวม 110 วัน ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2572 -28 กุมภาพันธ์ 2573
ประเทศไทยจะรู้ผลภายในวันที่ 6-7 มีนาคม 2567 สามารถช่วยสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่ไทยเคยประสบความสำเร็จการจัดงานพืชสวนโลกราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ซึ่งครั้งนั้นเคยดึงคนในประเทศและทั่วโลกเข้าร่วมได้กว่า 4 ล้านคน
หัวใจสำคัญในการประมูลเป็นเจ้าภาพจัดงาน
พืชสวนโลก Type A 2029 จะจัดช่วงปี 2572-2573 ความพร้อม ในพื้นที่
เชื่อมโยงกับระบบโครงข่ายคมนาคมเข้าถึงได้อย่างสะดวก
กับเรื่องความสามัคคีของทุกหน่วยในจังหวัดทั้งรัฐและเอกชน
เพราะงานนี้จะมีผู้เข้าร่วมสร้างพาวิลเลี่ยนไม่ต่ำกว่า 40 ประเทศ
ทางด้าน “ตลาดในประเทศ” กำลังจะจัดแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” กำหนดให้เจ้าของงาน ผู้จัดงาน ออกแบบการจัดงานที่สร้างประโยชน์แก่ชุมชนท้องถิ่น ทางทีเส็บได้งบประมาณพัฒนาสินค้าชุมชน เส้นทางไมซ์ชุมชน ร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
แคมเปญ
“ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” จะเริ่มเปิดตัวได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 โดยมีผู้อำนวยการตลาดไมซ์ในประเทศ หรือ Domestic
MICE เป็นแกนกลางทำโปรโมชั่น
เช่น ภาคใต้
มีชุมชนทำงานร่วมกับองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(อพท.) ช่วยกันดูสินค้า เช่น ของที่ระลึกเพื่อนำมาใช้กับงานไมซ์
หรือทำเส้นทางท่องเที่ยวโดยชูเรื่อง 7 Theme บูรณาการร่วมกับหอการค้าจังหวัดต่าง ๆ
ล่าสุดมีโอกาสประชุมกับนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้า กับ ทีเส็บ ภาคใต้ ได้คัดเลือกไมซ์เมืองรองตามนโยบายหอการค้าที่เสนอนายกรัฐมนตรีทำเมืองหลักสู่เมืองรอง โดยได้เลือกจังหวัดเป็นพื้นที่ทำโครงการนำร่องเป็นต้นแบบตัวแทนฝั่งทะเลอันดามัน
นายจิรุตถ์ กล่าวต่อถึงการขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand Vision เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลก 8 ศูนย์กลาง ทางทีเส็บได้ประชุมร่วมกันแล้วไมซ์ถือเป็นแพลตฟอร์มในฐานะหน่วยงานส่งเสริมทุกอุตสาหกรรม เช่น วิสัยทัศน์ที่ 1 “เมืองศูนย์กลางท่องเที่ยว” ทีเส็บจะใช้งานการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (incentive) เข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น จะทำมากกว่าเดิมเน้นสนับสนุนเพียงอย่างเดียวก็จะเข้าไปช่วยด้านพัฒนาดีไซน์สินค้า ขยายวันจัดงานเพิ่มรายได้เข้าพื้นที่มากขึ้น หรือ วิสัยทัศน์ที่ 2 ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ ทีเส็บจะพยายามดึงงานเวลเนสนานาชาติมาจัดในไทย
หลัก ๆ
จะมีการส่งเสริมธุรกิจการจัดประชุมสัมมนา (Meeting) เช่น งาน FIFA Congress 2024 การประชุมสามัญประจำสมัยที่ 74 ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ครั้งแรกในอาเซียน
งานจัดนิทรรศการหรือ Exhibitions
เริ่มต้นปี 2567 ด้วยงานแรก Thailand
International Boat Show 2024 ที่ภูเก็ต
เป็นการแสดงเรือครั้งในเอเชียในรอบ 3 ปี
งานที่สอง China-ASEAN (Thailand) Community Fair เป็นงานแสดงสินค้าเพื่อการส่งออกและนำเข้าที่ใหญ่สุดของจีนกับเอเชีย
งานที่สาม LogiMAT/Intelligence Warehouse
เป็นมหกรรมแสดงสินค้าชั้นนำด้านนวัตกรรมระบบคลังสินค้า
และการยกระดับคลังสินค้าแห่งอนาคต
นายจิรุตถ์
กล่าวว่า
ทีเส็บยังคงเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC
:Eastern Economic Corridor) ภายใน 2 ปีหน้า ปี 2567 นำร่องจัด Mini EEC Fair โดยได้ประชุมร่วมกันแล้วจะจัดปลายปีนี้ที่ศูนย์ประชุม
Peach โรงแรมรอยัลคลิฟฟ์
พัทยา ต่อเนื่องจากปีที่แล้วทีเส็บได้ไปร่วมจัดงาน EEC ที่สวนนงนุช
เป็นเวทีแนะนำบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
ส่วนปีนี้จะเริ่มทำกิจกรรมการตลาดเพิ่มมากขึ้น
จัดคอนเฟอร์เรนซ์ทางด้านไมซ์ให้โดดเด่นชัดเจน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ เริ่มแล้ว ซัมเมอร์ช้อปมันส์! ช้อปกระหน่ำดับร้อน วันนี้ - 31 มีนาคม 2567 ที่ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
มันส์ที่
1 SUMMER FRESH สดชื่นดับร้อน
รับเครื่องดื่มชาตรามือฟรี! จำนวน 1 แก้ว ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์
ได้คนละ 1 สิทธิ์/วัน เมนูที่ร่วมรายการ ชาไทย ชาเขียวนม
ชามะนาว ชาดำเย็น วันนี้ - 31 มีนาคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เท่านั้น
มันส์ที่
2 รับส่วนลดเพิ่มช้อปดับร้อน รับส่วนลดตามสถานะสมาชิกสูงสุด
20% รับส่วนลด ON TOP สูงสุด 2,500 บาท
สิทธิ์แรก
-รับส่วนลดทันที 600 บาท เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ
สิทธิ์สอง
-รับส่วนลดทันที 2,500 บาท เมื่อช้อปครบ
30,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ
มันส์ที่
3 แลกกระหน่ำดับร้อน เมื่อช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) แลก 500 กะรัต รับ GIFT
VOUCHER 2,500 บาท ได้คนละ 1 สิทธิ์ / วัน
เพื่อนำไปช้อปครั้งถัดไป ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
มันส์ที่
4 รับรางวัลดับร้อน TOP SPENDER 12 คนแรก ที่ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต รับรางวัลพิเศษ เมื่อสะสมยอดซื้อสินค้าตลอดรายการครบ
500,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ยอดช้อปอันดับที่ 1
รับบัตรกำนัลที่พัก The Standard, Huruvalhi Maldives 3 คืน
สำหรับ 2 คน และยอดช้อปอันดับที่ 2-12
บัตรโดยสารเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น 1 ที่นั่ง
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO”ช้อป3อย่างลด25%
คิง
เพาเวอร์ จัดเต็ม “3.3 BEAUTY TRIO” ลดพิเศษ 5 วันเท่านั้น
คลิกตุนไอเทม สกินแคร์ น้ำหอม เครื่องสำอาง ยกทัพมาลดแบบจุก ๆ กดช้อปเลย “คิง
เพาเวอร์ ออนไลน์” ที่เดียว
ช้อปสินค้า
PERFUMES & COSMETICS มาพร้อมดีลพิเศษ ช้อปคุ้มสะใจ
กดช้อปของแท้ Duty Free แบบไม่ตกเทรนด์ละลานตากับแบรนด์ชั้นนำ
พร้อมรอรับของได้ที่สนามบินขาออกประเทศ
ช้อป
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ทุกออเดอร์! ลดสูงสุด 25% เมื่อช้อปครบ 3 ชิ้นขึ้นไป
รหัสส่วนลด BTRIO25 รีบเลย
- 5 มีนาคม 2567
ข้อเสนอพิเศษ!
รับโค้ดส่วนลด 100 บาท เมื่อสั่งซื้อ Sim2Fly -
31 มีนาคม นี้ ในแพ็กเกจตามเงื่อนไขเท่านั้น
โค้ดส่วนลดมีจำนวนจำกัด โค้ดจะถูกจัดส่งทาง SMS เมื่อรายการสั่งซื้อสำเร็จทุกขั้นตอน
รับโค้ดส่วนลดแล้วเก็บไว้ใช้ได้ถึง 30 เมษายน 2567
ข่าวที่
3 ททท.นำร่องจัดAIR-MAZINGดันไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ขานรับนโยบาย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประกาศวิสัยทัศน์นำประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ((Tourism
Hub) และศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub)
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะใช้ยุทธศาสตร์ Airline Focus เตรียมร่วมกับพันธมิตรจัดอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรกงาน
“AIR-MAZING THAILAND : THE AMAZING AIRLINE FAM TRIP” ระหว่างวันที่
2-5 เมษายน 2567 ททท.จะร่วมกับพันธมิตร
12-15 สายการบินนานาชาติ รวมทั้งหน่วยงานด้านการบินของไทยและต่างประเทศ
เพื่อวางแผนกระตุ้นสายการบินทั่วโลกเปิดเส้นทางบินควบคู่กับเพิ่มความถี่และจำนวนเที่ยวบินเข้าสูู่เมืองหลักและเมืองรองของไทยตั้งแต่ปี
2567 เป็นต้นไป
ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมจัด AIR-MAZING
THAILAND : THE AMAZING AIRLINE FAM TRIP ขึ้นในเมืองไทยช่วงต้นเดือนเมษายนนี้
ด้วยวิธีบูรณาการทำงานร่วมกับองค์กรกำกับดูแลการบิน อย่าง
สำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT/ทอท.
ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ในไทย และอีกหลายหน่วยงาน
ลงพื้นที่สำรวจศักยภาพและวางแผนทำตารางบินให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละสายการบิน
ซึ่งต้องการจะเปิดเส้นทางบินและการขยายจำนวนเที่ยวบินเข้าสูู่จุดหมายปลายทางทั้งเมืองหลัก
และเมืองรองของไทยเพิ่มขึ้น
ตามแผน ททท.จะนำผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดเดินทางไปยังท่าอากาศยานตามจังหวัดต่าง
ๆ ที่สายการบินให้ความสนใจจะเปิดเส้นทางบินใหม่ มีตารางบิน (Time
Slot) และโอกาสทางการท่องเที่ยวสูง เบื้องต้นจะแบ่งเป็น 2 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ชลบุรี
เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-กระบี่-สุราษฎร์ธานี นำเสนอ 4 สนามบิน ได้แก่ เชียงใหม่ อู่ตะเภา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี
การจัดงานดังกล่าวขึ้นในไทยจะเป็นโอกาสให้ได้นำเสนอท่าอากาศยานนานาชาติที่มีศักยภาพ
เลือกสนามบินภูมิภาคที่มีปริมาณจราจรทางอากาศหนาแน่นน้อย
หรือหนาแน่นเฉพาะบางช่วงของตารางบินในฤดูร้อนและฤดูหนาว พร้อมกับสามารถแสดงทิศทางการดำเนินงาน
การจัดการบิน พร้อมจะรองรับการเดินทางเพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการคัดเลือกสินค้าท่องเที่ยวใหม่
ๆ ในแต่ละจังหวัดที่มีความสามารถดึงดูดตลาดต่างประเทศเข้ามาด้วย
เพื่อจะได้ช่วยสายการบินที่สนใจทำกิจกรรมส่งเสริมตลาดการขาย
ทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยในแต่ละเส้นทางได้เกินกว่า 80 %
ขึ้นไป เพื่อทำให้ธุรกิจดำรงอยู่อย่างแข็งแรงในอนาคตได้ด้วย
ผู้ว่าฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท.ตั้งเป้าหมายจะใช้งาน
AIR-MAZING THAILAND : THE AMAZING AIRLINE FAM TRIP ส่งเสริมสายการบินเพิ่มทั้งเส้นทางใหม่ ความถี่
และจำนวนที่นั่ง นำนักท่องเที่ยวจากประเทศต้นทางเข้ามายังไทย โดย
ททท.กับพันธมิตรที่กำกับดูแลด้านการบินจะทำหน้าที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกสายการบิน
เช่น จัดสรรช่วงเวลาบิน การผ่อนปรนด้านสิทธิการบินเพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว
การขยายจำนวนเที่ยวบิน สร้างโอกาสใหม่ด้วยการนำเสนอศักยภาพการจัดการบินสนามบินและโอกาสทางการตลาดของแต่ละพื้นที่
รวมทั้งจัดกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศสนใจเลือกเป็นจุดหมายปลายทาง
ข่าวที่ 4 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม&บางจากมอบ2โปรดี
บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ต้อนรับเดือนมีนาคม 2567 เมื่อแวะมาใช้บริการที่สถานีน้ำมัน บางจาก
และเอสโซ่เดิม รับทันที 2 โปรโมชั่นดี ๆ สามารถเข้าไปดูก่อนได้ที่เว็บไซต์บางจาก
โปรโมชั่นแรก
ฟรี! น้ำดื่มขวดใหญ่ขนาด 1.5 ลิตร 1 ขวด
มูลค่า 15 บาท เมื่อเติมน้ำมันครบทุก 900 บาทตั้งแต่ 1
- 31 มีนาคม 2567 หรือจนกว่าของจะหมด
รับได้ที่บางจากและปั๊มเอสโซ่เดิมที่ร่วมรายการ ดูรายชื่อปั๊มที่ร่วมรายการ
โปรโมชั่นที่ 2 เติมน้ำมันใสบางจากรับเครดิตเงินคืน 1 % ที่สถานีบริการน้ำมันที่ยังมีโลโก้เอสโซ่อยู่
และสถานีบริการน้ำมันบางจาก เปิดให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิต KTC – BANGCHAK - SUANKULARB
VISA PLATINUM รับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อเติมน้ำมันบางจากตามปั๊มที่เข้าร่วมรายการ
เมื่อมียอดจ่ายไม่เกิน 3,000 บาท/เซลส์สลิป จะมีเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตในเดือนถัดไป
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจคะแนนแทนเงินบริจาค
เข้าสมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ เพื่อสนับสนุนกองทุนโรงเรียน ทุก 100 คะแนน KTC FOREVER แทนเงินบริจาค 12 บาท
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยชายแดนใต้ ชวนไปปักหมุด “สุขทันที...ที่เที่ยวนราธิวาส”
ในดินแดนความสุขแห่งเมืองพหุวัฒนธรรม 5 พิกัด ทะเล ภูเขา
แล้วฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “AWC”ปี66 นำธุรกิจโรงแรมทำกำไรสร้างสถิติ 5 นิวไฮ ข่าวที่สอง
“Trip.com-ททท.” เปิดไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์ตลาดโลกวันเดียวโกย
150 ล้านบาท
ท่องเที่ยว
–สุขทันทีที่เที่ยวนราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม 5 พิกัด
ชวนกันไปเช็คอิน
เที่ยว “นราธิวาส” ดินแดนพหุวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ถ่ายทอดออกมาในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ศาสนา สถาปัตยกรรม ซึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ…อาหารดั้งเดิมของชาวมุสลิม
อย่างเช่น นาซิดาแฆ, นาซิลือเมาะ, ละแซ เชิญชวนให้ทุกคนได้มาลิ้มลองหารับประทานได้ที่นี่เท่านั้นทั้ง
ขนมโบราณไม่คุ้นชื่ออีกมากมาย หลายเมนูแปลกตาและหายาก
ในเมืองเงียบสงบ
มีความงามทางวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองชายแดนอยู่บริเวณอำเภอสุไหงโก-ลก
ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์นิยมมาเที่ยวพักผ่อน ช้อปปิ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมมายาวนาน
ด้วยวิถีชีวิตชาวเลจะออกหาปลาแล้วนำศิลปะมาวาดลวดลายไว้บนเรือ รวมถึงมีบรรยากาศขึ้นเขาได้คล้ายเมืองเหนือ
เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอื่น ๆ แฝงอยู่นราธิวาสอีกมากมาย
รอให้คุณได้มาค้นหาด้วยตัวเองได้ทุกวัน แนะนำท่องเที่ยว 5 พิกัด ดังนี้
พิกัดที่
1 ชายหาดนราทัศน์อยู่ห่างจากตัวเมือง 1 กม. โดดเด่นด้วย “หาดทราย” ขาวสะอาดทอดยาว 5 กิโลเมตร
ไปสิ้นสุดที่ปลายแหลมด้านปากแม่น้ำบางนรา เป็นสถานที่จัดแข่งขันเรือกอและทุกปี กับ
“จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น” สวยงาม และ “หมู่บ้านชาวประมง” ตั้งกระจัดกระจายริมแม่น้ำบางนรา
บริเวณเวิ้งอ่าวมีเรือกอและจอดเรียงรายอยู่มากมาย กลายเป็นภาพชีวิตสงบงาม
พิกัดที่
2 ชุมชนบ้านทอน ตำบลโคกเตียน เป็นหมู่บ้านประมงไทยมุสลิมริมทะเล
เงียบสงบร่มรื่น ท่ามกลางต้นมะพร้าวสูงใหญ่เรียงราย เป็นแหล่งผลิตเรือกอของจริง
และเรือจำลองที่ชาวบ้านทำอย่างประณีต
ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่นบาท
บริเวณชายหาดเป็นจุดชมเครื่องบินขึ้น-ลง
เนื่องจากชุมชนอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนราธิวาสเพียง 3 กม.
พิกัดที่
3 “เกาะยาวสะพานคอย
100 ปี” อำเภอตากใบ อยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กิโลเมตร ด้านหนึ่งของเกาะ
ติดทะเลอ่าวไทย อีกฝั่งติดกับแม่น้ำตากใบ เกาะนี้ยาว 9 กิโลเมตร บริเวณชายหาดมีทิวมะพร้าวแนวยาว
สวยงาม คนส่วนใหญ่บนเกาะจะนับถือศาสนาอิสลามทำอาชีพประมงและสวนมะพร้าว
สมัยก่อนการเดินทางจากเกาะยาวมาบนฝั่งต้องใช้เรือ
ต่อมาได้สร้างสะพานไม้ระหว่างเกาะยาวขึ้นฝั่งชาวบ้านต้องคอยถึง 100 ปี จึงสร้างแล้วเสร็จใช้งานได้
ทุกวันนี้เป็นสะพานปูนสวยงามทอดยาวคู่กับสะพานไม้เดิมข้ามไปเกาะยาว
พิกัดที่
4 มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ (มัสยิด
300ปี) ตั้งอยู่บ้านตะโละมาเนาะ
ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ให้ชมได้บริเวณภายนอก
เพราะยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจ
หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน
ตามประวัติ
นายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี
เป็นผู้สร้างเมื่อปี 2167 เริ่มแรกสร้างหลังคามุงใบลาน
ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา ลักษณะของมัสยิดมีความแตกต่างจากมัสยิดทั่วไป
คือเป็นอาคาร ๒ หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง
ลักษณะการสร้างจะใช้ไม้สลักแทนตะปู
รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีนและมลายู
ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง
ส่วนหออาซานมีลักษณะเป็นเก๋งจีนตั้งอยู่บนหลังคา “ด้านหลัง” มีฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง
กับช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน “ด้านข้าง” มัสยิดมีสุสานชาวมุสลิม
ถ้าเป็นผู้ชายประดับลักษณะกลมอยู่บนหลุมฝังศพ ถ้าเป็นของผู้หญิงจะเป็นหินเพียงซีกเดียว
เที่ยว
3 จังหวัดชายแดนใต้ เที่ยวได้
ไปปักหมุดหยุดพักผ่อนได้ที่ “นราธิวาส” ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–AWCปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ ทำรายได้รวม 19,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.9 % ดีกว่าก่อนโควิดปี 2562 เปรียบเทียบปี 2566 กับช่วงเดียวกันกับปี 2565
แล้วสามารถทำนิวไฮสูงสุด 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านที่ 1 มีกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดถึง 5,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2 %
ด้านที่
2 มีกำไรจากการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจ (BU EBITDA) 10,639 ล้านบาท ตามงบการเงินซึ่งรวมมูลค่ายุติธรรม เพิ่มขึ้น 26.6 % ยังสามารถรักษากำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเติบโตสม่ำเสมอตามงบการเงินเฉลี่ยย้อนหลัง
4 ปี ระหว่าง 2563-2566 ทำไว้ปีละ 74 % สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีกลยุทธ์การลงทุนหลากหลายสร้างสมดุลเชิงธุรกิจกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
ด้านที่ 3 รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก
(RevPAR) เติบโตสูงสุด 3,658 บาท เพิ่มขึ้น 54.8 %
ด้านที่ 4 มีรายได้เฉลี่ยต่อวัน (Average
Daily Rate: ADR) 5,661 บาท/คืน เพิ่มขึ้น 17.4 %
ด้านที่ 5 ปี 2566 บริษัทฯ
สร้างทรัพย์สินเติบโตมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท
ประกอบด้วย ทรัพย์สินดำเนินงานใหม่ประมาณ 6,000 ล้านบาท
และโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติ 14,000 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินดำเนินงานใหม่ 9 โครงการ คือ โรงแรม 3 แห่ง ห้องอาหาร 6 แห่ง ช่วยสร้างกระแสเงินสดและเพิ่มศักยภาพสร้างกำไรดำเนินงานอย่างยั่งยืน
จึงตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะเพิ่มมูลค่าพอร์ตทรัพย์สินเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า ตามแผนจะใช้งบลงทุนกว่า 126,000 ล้านบาท
ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับการอนุมัติให้ลงทุน เช่น โรงแรมพลาซ่า
แอทธินี นิวยอร์ก มูลค่าพอร์ตรวมทั้งหมด 146,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52 %
เทียบก่อนโควิดปี 2562 มีมูลค่าทรัพย์สินดำเนินงาน 108,202 ล้านบาท
ปี 2566 AWC ได้นำ “กลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ” มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมเติบโตทุกกลุ่มอย่างแข็งแกร่ง
โดยเฉพาะโรงแรมรีสอร์ทลักชัวรี่ในและนอกพื้นที่กรุงเทพฯ
มีนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเข้าไทยเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มคุณภาพเดินทางอิสระ (FIT : Free Individual Traveler) ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวสูงทำให้โรงแรมเครือ AWC สร้างรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) และรายได้เฉลี่ยต่อวัน
(Average Daily Rate: ADR) ติดนิวไฮ
โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) เติบโต 64.6 %
ทำดัชนีรายได้ (Revenue Generation Index หรือ RGI) ภาพรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโรงแรมในกลุ่มเดียวกันที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
เช่น โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ มีค่า RGI เท่ากับ 213.5 โรงแรมแบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ มีค่า RGI เท่ากับ 188.7 โรงแรมบันยันทรี กระบี่ มีค่า RGI เท่ากับ 146.4
รวมทั้ง AWC มุ่งพัฒนา
ปรับปรุง เพิ่มศักยภาพให้ทรัพย์สินมีคุณภาพต่อเนื่อง เน้นเปิดเพิ่มทั้งโรงแรมและห้องอาหารชั้นนำระดับโลกในกรุงเทพฯ
และเชียงใหม่ เช่น เปิดโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล เป็นลักซ์ชูรีภายใต้แบรนด์อินเตอร์คอนติเนนตัลแห่งแรกของภาคเหนือ
การเปิดโรงแรม เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ระดับพรีเมี่ยมใหญ่ที่สุดรองรับลูกค้าMICE โรงแรม อินน์ไซด์ บาย มีเลีย กรุงเทพ สุขุมวิท แห่งแรกในไทย
ส่วนการเปิดห้องอาหาร ก็มี 1.เดอะ คริสตัลล์
กริลล์ เฮาส์ 2.เดอะ สยาม ที รูมท์ 3.เอเชียทีค
แอนเชี่ยนท์ ที เฮ้าส์ 4.คิสซึอิเซน 5.เย่ว
เรสเทอรองท์ แอนด์ บาร์ 6.ร้าน Cafe
Pittore รวมถึงเข้าซื้อหุ้นกิจการโรงแรมพลาซ่า แอทธินี
นิวยอร์ก เตรียมพัฒนาเป็นระดับลักซ์ชูรี ไปพร้อมกับนำพลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล
แอนด์ สปา นิวยอร์กเชื่อมจุดขายกับโรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์
สปา แบงคอก ในไทย สิ้นปี 2566 AWC มีโรงแรมทั้งหมด 22 โรงแรม รวม 6,029 ห้อง และห้องอาหาร
อีกหลากหลายแห่งในโรงแรมและจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ขณะที่ “กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์”
ได้เสริมศักยภาพเพิ่มกลยุทธ์การตลาดให้ศูนย์การค้าในเครือ เช่น ทำกิจกรรมระดับโลก Disney100 Village at
Asiatique เพื่อดึงผู้เช่าและลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการกลับเข้ามาใช้จ่ายเงินมากขึ้น ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงานก็ปรับโฉมให้สอดคล้องกับเทรนด์ลูกค้าด้วยการเปิด “The Empire Residence” พื้นที่ Co-Living Space กว่า 1,500 ตร.ม. ในอาคาร “เอ็มไพร์” พร้อมร่วมลงนามกับ 3 เชฟมิชลินสตาร์ระดับโลก
3 ห้องอาหาร ที่ “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 ในฐานะส่วนหนึ่งของ EA
Rooftop at the Empire ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในตลาดโลก
ปี 2567 AWC
มีแผนจะเปิดให้บริการทุกกลุ่มธุรกิจกว่า 18 โครงการ
ไฮไลต์คือ 1.โรงแรมแฟร์มอนท์ แบงคอก สุขุมวิท 2.พัทยา แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ระดับลักซ์ชูรี 3.The
Journey of A River ” by The Okura Prestige Bangkok เปิดประสบการณ์รับประทานอาหารบนสายน้ำเจ้าพระยาภายใต้แนวคิด
The Journey of A River
ส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์จะรุกทำ
1.โครงการ EA Rooftop at The Empire บริการอาหารและเครื่องดื่มบนรูฟทอปใหญ่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ด้วย EA Gallery แหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติชั้นนำมากมายกับทัศนียภาพดีที่สุด
ผนวกกับมี EA CHEF'S TABLE เชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 แห่ง และห้องอาหาร Nobu Bangkok แห่งแรกและแห่งเดียวในไทยสูงและใหญ่สุดในโลก
2.เปิดโครงการ THE PANTIP LIFESTYLE HUB เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2567
ภายใต้แนวคิด EVERY HAPPINESS FOR EVERYONEสร้างแลนด์มาร์คกิจกรรมความสนุกหลากหลาย
ศูนย์รวมฟูดเลาจน์บรรยากาศธรรมชาติ และแหล่งไลฟ์สไตล์ของครอบครัว เป็นส่วนหนึ่งใน Lannatique
Destination เชียงใหม่ 3.เปิดโครงการ AEC
FOOD WHOLESALE PRATUNAM และพัฒนาเสริมจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์ให้กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน
นางวัลลภา กล่าว่าล่าสุด AWC ทำตามแผนลงทุนปี 2567 สร้างเติบโตของทรัพย์สินผ่าน 3 โครงการใหญ่
โดยคณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติลงทุนอสังหาริมทรัพย์คุณภาพบนพื้นที่ระดับไพรม์โลเคชั่นท่องเที่ยวสำคัญปีนี้ลงทุนมูลค่ารวมกว่า 36,000 ล้านบาท 2 พื้นที่หลัก ได้แก่
พื้นที่แรกกรุงเทพฯ มี 2 โครงการ ได้แก่ 1 โอพี การ์เด้น ย่านบางรัก เพื่อเชื่อมกับแฟลกชิป โรงแรม เดอะ พลาซ่า
แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเสริมท่องเที่ยวริมสายน้ำ
คาดจะเปิดได้ไตรมาส 4 ปี 2570 และ 2.โรงแรมในพื้นที่ถนนสุขุมวิท 38 ย่านไลฟ์สไตล์เทรนดี้เน้นด้านเวลเนส จะเปิดไตรมาส 3 ปี 2571
พื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่เตรียมลงทุนเพิ่มในพื้นที่ช้างคลานใจกลางเมืองจะพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งโครงการ Lannatique Destination เมกะโปรเจคอนาคตของบริษัทฯ เดินหน้าสร้างคุณค่าและสนับสนุนเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
ข่าวที่สอง -Trip.com-ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล้าน
ซุน เทียนซู
รองประธาน Trip.com Group เปิดเผยว่า ได้นำ Trip.com ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำกิจกรรมไลฟ์สตรีมภายใต้โครงการ Super
World Trip BOSS Live ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่สองเมื่อวันพุธที่
27 กุมภาพันธ์ 2567 โดยได้นำเสนอดีลสุดคุ้มผ่านทางแพลตฟอร์มนี้ในตลาดต่างประเทศ
มีทั้งตั๋วโดยสารเครื่องบิน ที่พัก ทัวร์
และบัตรท่องเที่ยวเมืองไทย สามารถทำยอดซื้อขายได้มากกว่า 150 ล้านบาท
การจัดไลฟ์สตรีมครั้งนี้เน้นการนำเสนอขายดีลท่องเที่ยวช่วง “เทศกาลสงกรานต์”
เดือนเมษายน 2567 เป็นความร่วมมือกับ ททท. เพื่อดึงดูดนักเดินทางทั่วโลกเข้ามาเที่ยวเมืองไทยด้วยเป้าหมายท้าทายที่
Trip.com จะต้องทำให้ได้ในปี 2567 รวม 8 ล้านคน ครั้งนี้มีดีลได้รับความสนใจมากที่สุด คือ โรงแรมกะตะธานี
ภูเก็ตบีช รีสอร์ท สถานที่จัดไลฟ์สตรีม นำเสนอแพกเกจ ลด 70 % ราคาขาย 3,500 บาท รวมห้องพัก อาหารเช้า และแพ็คเกจนวดสปาเพื่อผ่อนคลายได้
2 คน
ซุน เทียนซู ยืนยันว่า การทำไลฟ์สตรีมครั้งนี้จัดขึ้นในบรรยากาศกลางแจ้ง
เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสวิวสุดอลังการของโรงแรมกะตะธานี
ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ติดทะเลอันดามัน นอกจากจะถ่ายทอดความงดงามเมืองไทยนำเสนอดีลการท่องเที่ยวหลากหลายให้ผู้ชมของ
Trip.com
ด้วย เพื่อเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกเดินทางมาสัมผัสความงามนี้ด้วยตาตนเองในเมืองไทยอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โดยเห็นผลชัดเจนวันเดียวมีตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศตื่นตัวตอบรับจองดีลซื้อท่องเที่ยวเมืองไทยช่วงกรานต์ผ่านไลฟ์สตรีมครั้งนี้ทำยอดขายมูลค่ารวมกว่า
150 ล้านบาท
สำหรับไลฟ์สตรีม "Super World Trip" เป็นกิจกรรมที่ Trip.com
Group นำร่องทำมาตั้งแต่ต้นปี 2566 เริ่มจัดรายการในไทยเป็นประเทศแรก จากนั้นจึงขยายไปยังตลาดอื่น ๆ เช่น
โตเกียว ฮ่องกง ก็ได้รับความนิยมสูงมาก สามารถกระตุ้นความต้องการเดินทางเข้าประเทศในทุกตลาดที่ได้เป็นอย่างดี
รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งใน BOSS Live โครงการที่ เจมส์
เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ Trip.com Group เริ่มเปิดตัวครั้งแรกปี 2563 สร้างกลยุทธ์การตลาดแนวใหม่รับมือกับวิกฤติการณ์โควิด-19
ปัจจุบันไลฟ์สตรีมดังกล่าวทำให้เกิดธุรกรรมการท่องเที่ยวรวมกว่า 1,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดึงดูดผู้ชมทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน โดยเฉพาะ “ประเทศไทย” เป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดของกลุ่มผู้ใช้ Trip.com Group พร้อมทั้งมีคาดการณ์เรื่องนโยบายฟรีวีซ่าถาวรให้นักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2567 จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยกลับมาคึกคักมากกว่าเดิม
สถิติระหว่าง 1 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์ 2567 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยแล้วกว่า 811,853 คน แนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ หลังจากปี 2566 จีนมาเที่ยวไทยรวมทั้งหมด 3,519,735 คน และช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากที่สุดเกือบ 11 ล้านคน ปีนี้ Trip.com Group และ ททท. จะรวมพลังกันทวงบัลลังก์แชมป์คืนดึงจีนให้กลับมาเที่ยวให้ได้มากที่สุดตามเป้าหมายเกิน 8 ล้านคนอีกครั้ง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น