ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ม.ค.-ก.พ.67ดึงเอเชียตะวันออกทัวร์ไทย2.5ล้านคน แอร์ไลน์19 ล้านที่นั่ง


ชูวิทย์ ศิริเวชกุล 

ผู้อำนวยการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท.

 ข่าวดี!!ททท.เอเชียตะวันออกม.ค.-ก.พ.โกย5ชาติ2.5ล้านคน

แอร์ไลน์ส5ตลาดบิน19ล้านที่นั่ง-สัดส่วนทัวร์ไฮเอนด์พุ่ง28%

จับตาเศรษฐกิจปัง“สงกรานต์ยูเนสโก”เม.ย.-TTMPlus”มิ.ย.67

คิงเพาเวอร์!!แบรนด์ดังชูพลังช้อปวันสตรีสากลถึง12มี.ค.67

ช้อปรัวๆ!คิงเพาเวอร์OnlineExclusiveแจกกระเป๋า/ส่วนลด

จองด่วน!MahanakhonJoyFlowโยคะสกายวอล์คคิงเพาเวอร์

สุดาวรรณนำททท.ยุโรปใช้4มาตรการไทยฮับบิน/ท่องเที่ยว

บางจากรุกสร้างงานปั้นอาชีพดันเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง

สุขทันทีที่...เที่ยวปราการเฟสติวัล5พิกัดใกล้กรุง14-17มี.ค.

5 วิธีดูแลสุขภาพ ก่อนเข้าสู่วัยชราชีวิตดี๊ดีอย่างมีคุณภาพ

 ข่าวดี!กระหึ่มโลกไทยคว้าเจ้าภาพจัดโคราชเอ็กซ์โป2029

นายกฯเศรษฐาใช้ITB2024ลั่นเปิดฟรีวีซ่าแชงเก้น-อาเซียน

วันเสาร์ที่  9 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #ชูวิทย์ศิริเวชกุล  

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/qHDCf9AdS6/?mibextid=UyTHkb 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “ชูวิทย์ ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไตรมาส 1 ปี 6 สองเดือนแรก 5 ตลาด “จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น-ฮ่องกง-ไต้หวัน” ทำสถิติเที่ยวไทยทะลุ 2.5 ล้านคน แอร์ไลน์สแข่งขันเพิ่มมาไทย 9 ล้านที่นั่ง แนะเอกชนรับมือตลาดพลิกโฉมสู่ทัวร์สายพันธุ์ใหม่ยุค Rio เกิดหลัง ค.ศ.1990 เน้นเที่ยวสไตล์ Hopping ฮือฮา “ทัวร์ไฮเอนด์” จีน ไต้หวัน รายได้ 60,000 ดอลล์/ปี มาไทยสัดส่วนพุ่ง 28 % “สงกรานต์” ยูเนสโก ปีนี้สุดคึกคักลุยรับคาราวานจีนเปิด 4 ด่าน เชียงของ/เชียงราย ห้วยโก๋น/น่าน ท่าลี่/เลย สะพานมิตรภาพ/หนองคาย นัดรวมพลทั้งประเทศ 12 เม.ย.ที่ราชพฤกษ์ เชียงใหม่

 


นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออก ไตรมาส 1 ปี 2567 รับผิดชอบดูแล 5 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน เป็นดาวรุ่งความหวังของไทยแต่ละประเทศมีนักท่องเที่ยวเดินทางปีละ 7 หลัก หรือเกิน 1 ล้านคน สัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดต่างประเทศ ระหว่าง  1 มกราคม- 6 มีนาคม 2567 รวมกันเกิน 2.5 ล้านคน เนื่องจากเป็นเทศกาลหยุดต่อเนื่องตั้งแต่ปีใหม่จนถึงตรุษจีน แล้วยังจะมีเทศกาลต่าง ๆ ต่อเนื่องตลอดปีนี้

 


  ตลาดแรก “สาธารณรัฐประชาชนจีน” สถิติตอนนี้ 1.3 ล้านคน เป็นตลาดแรกที่ทะลุล้าน โดยเดินทางมาไทยวันละกว่า 20,000 คน ได้อานิสงจากฟรีวีซ่าตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป บวกกับวันหยุดยาว รวมทั้งสภาพภูมิอากาศเอเชียหนาวเย็นมาก ผนวกกับทะเลอันดามันและอ่าวไทยสวยงาม นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่จะมีทั้งเดินทางเข้ามาพักผ่อน และเป็นกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) เมื่อวันที่ 5 มีนาคม มีกลุ่มอินเซนทีฟจากเมืองเสิ่นเจิ้นเข้ามา 2,000 คน ก่อนหน้านี้มีบริษัทขนาดใหญ่จากปักกิ่งมา 5,000 คน แล้ววันเสาร์ที่ 9 มีนาคม นี้ มีอินเซนทีฟเข้าอีกหลายพันคน ซึ่งจะทำให้จีนมาเที่ยวเมืองไทยตลอดปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 7.2 -8 ล้านคน

 

ตลาดที่ 2 “เกาหลี” ทำสถิติดีมาตั้งแต่ต้นปี มกราคม- 6 มีนาคม นี้ มาไทยแล้ว 4.4 แสนคน เฉลี่ยวันละ 7,000 คน โดยเปลี่ยนโครงสร้างตลาดเกือบจะไม่มีโลว์ซีซันตั้งแต่ปี 2566 ถึงปัจจุบัน มีเทรนด์ใหม่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อินเซนทีฟ โดยมีเทศกาลส่งลาหยุดยาวตั้งแต่ 9-12 มีนาคม นี้ หลั่งไหลมาเที่ยวเมืองไทย

 

ตลาดที่ 3 “ญี่ปุ่น” เข้ามาเที่ยวไทยแล้ว 1.9 แสนคน ปี 2567 ฟื้นตัวเร็วกว่าปีก่อน แล้วยังเป็นช่วงวันหยุดโกลเด้น วีค และปิดภาคเรียนเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมของทุกปี

 

ตลาดที่ 4 ไต้หวัน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเมืองไทยแล้ว 1.8 แสนคน  จากอานิสงฟรีวีซ่า และตลาดที่ 5 ฮ่องกง เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยแล้ว 1.2 แสนคน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยตลอดทั้งปี มีสัญญาณที่ดีจากกลุ่มใหม่ กลุ่มวคนรุ่นใหม่อายุน้อยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กับกลุ่ม Multi Generation เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ เช่น ลูก ๆ ทั้งหญิงและขายพาคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ทั้ง 3 เจเนอเรชั่น ชวนกันมาเที่ยวเมืองไทย

 

ไฮไลต์ไตรมาส 1 ปี 2567 ไทยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยว “คุณภาพตลาดไฮเอนด์” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นกลุ่มที่มีรายได้ปีละ 60,000 เหรียญสหรัฐขึ้นไป ได้แก่ จีน ก่อนโควิดปี62 มีนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ 11 % ปี 2567 ขยับเป็น 19 % เกาหลี ไต้หวัน จาก 17 % เป็น 28 % ท่ามกลางเศรษฐกิจถดถอย ค่าครองชีพสูงขึ้น ตลาดเอเชียตะวันออกหลังโควิด-19 ฟื้นตัวค่อนข้างช้า เข้าสู่ปี 2567 พอฟื้นก็มีสัญญาณที่ดีทันที

 

ททท.จะนำเสนอกิจกรรมกระตุ้นตลาดเอเชียตะวันออก ระหว่างมีนาคม -เมษายน นี้ จะเน้นการขายท่องเที่ยวเทศกาล “สงกรานต์” ซึ่งทางยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ประเทศไทยเป็นมรดกโลกตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมุษยชาติ (Representative List of The Intagible Cultural Heritage of Humanity) ททท.จึงพร้อมกระตุ้นท่องเที่ยว โดยเฉพาะ “ตลาดจีน” จัดทำเป็นแพกเกจพิเศษ คาราวานขับรถท่องเที่ยวจากจีน ผ่าน สปป.ลาว เข้าเมืองไทยถึง 4 ช่องทาง ได้แก่ 1.ด่านเชียงของ สู่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย 2.ด่านท่าลี่ จังหวัดเลย 3.ด่านห้วยโก๋น จังหวัดน่าน 4.สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย

 

ไฮไลต์คาราวานทัวร์จีนเที่ยวมหาสงกรานต์ไทย วันที่ 12 เมษายน 2567 ทุกคนจะมาเจอกันที่อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ทาง ททท.จะจัดต้อนอย่างเต็มที่จำนวนไม่ต่ำกว่า 300 คัน  ประมาณ 500-800 คน

 

ตามด้วย “เกาหลี” จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนกันระหว่างทำเทศกาลสองประเทศ คือ สาดน้ำสงกรานต์ไทย กับ เทศกาลสาดโคลน ทงแด เกาหลี ปี 2567 ในงานสงกรานต์วันไหลบางแสน จังหวัดชลบุรี จะนำเทศกาลสาดโคลน เกาหลี เข้าไปร่วมด้วย สร้างสีสันมากขึ้น

 

“ญี่ปุ่น” ททท.ทำโปรโมชั่นร่วมกับสายการบิน แอร์ เอเชีย เช่นเดียวกับ ไต้หวัน ฮ่องกง ก็ทำเป็นแพกเกจโปรโมชั่นเที่ยงสงกรานต์ในเมืองไทย

 


ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า ไตรมาส 1 ปี 2567 สถานการณ์เที่ยวบินและจำนวนที่นั่งผู้โดยสารทั้ง 5 ประเทศ ฟื้นตัวประมาณ 84 % ตลอดปี 2567 จะมีจำนวนที่นั่งรวมกว่า 19 ล้านที่นั่ง “เกาหลี” มาเป็นอันดับ 1 เที่ยวบินและที่นั่งเพิ่มขึ้น 105 % เชื่อมเที่ยวบิน 4 เมือง เข้ามาไทย ด้วยจำนวน 1.7 ล้านที่นั่ง 6,800 เที่ยวบิน

 

“สาธารณรัฐประชาชนจีน” มีประมาณ 30 สายการบิน บินเชื่อมต่อ 41 เมือง กำลังทยอยฟื้นเที่ยวบินและจำนวนที่นั่งกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจสู่ 5 สนามบินในไทย มากถึง 6.5 ล้านที่นั่ง จากทั้งหมด 34,000 เที่ยวบิน

 

“ญี่ปุ่น” บอบช้ำจากปัญหาเศรษฐกิจจึงเปิดค่อนข้างช้า ปี 2567 กลับมีแนวโน้มที่ดี เปิดบริการจาก 6 เมือง มาไทย จำนวน 2 ล้านที่นั่ง 6,900 เที่ยวบิน  “ฮ่องกง” 2.2 ล้านที่นั่ง 8,300 เที่ยวบิน และ “ไต้หวัน” 1.5 ล้านที่นั่ง 6,900 เที่ยวบิน

 

ทำให้ ททท.เห็นศักยภาพจากจำนวนที่นั่งโดยสารและปริมาณเที่ยวบินปี 2567 ที่จะช่วยฟื้นตลาดเอเชียตะวันออกกลับมาแข็งแกร่ง รวมทั้งได้พยายามเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างเมืองรองกับเมืองรอง ล่าสุด มีเที่ยวบินจากเมืองหลานโจว มณฑลกานซู่ มาลงที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และเที่ยวบินจากเฉินตู มาลงเกาะสมุย แล้วยังมีนกแอร์ของไทยเปิดบินสู่หนานหนิง (จีน) เมืองรองเข้าสู่กรุงเทพฯ เมืองเจิ้งโจว ทางตอนเหนือของจีน มากรุงเทพฯ ขานรับฟรีวีซ่าที่เปิดเต็มรูปแบบแล้ว ผนวกกับเศรษฐกิจ จีน ญี่ปุ่น ขยับดีขึ้นเล็กน้อย ทำให้นักท่องเที่ยวปรับโครงสร้างมีพลังที่จะออกเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย

 

ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า ททท.กำลังวางแผนนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลาดเอเชีย ตะวันออก เข้ามาร่วมจับคู่ธุรกิจกับไทยในงาน Thailand Travel Mart Plus :TTM +2024 รายการใหญ่สุดของไทย เตรียมจัดระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2567 ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา จะมีตัวแทนผู้ซื้อจากจีนสมัครมาเกิน 50 ราย ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ทยอยสมัครเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทะเลอันดามันมีชื่อเสียงความสวยงาม แล้วยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ที่ดึงดูดคู่ค้าเข้ามาร่วมงาน  ล่าสุดมีเทรนด์ใหม่ นิยมมาท่องเที่ยว Surf Broad ที่เขาหลัก โดยเฉพาะตลาดคนรุ่นใหม่จากญี่ปุ่น และอีกหลายตลาด คาดหวังหลังเสร็จสิ้นการจัดงานจะช่วยตอกย้ำให้นักท่องเที่ยวขยายตัวเข้าสู่พังงาสูงขึ้นอย่างแน่นอน

 

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเปลี่ยนพฤติกรรมไปค่อนข้างมาก ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ Rio Group เกิดหลังปี ค.ศ.1990 นิยมใช้โซเชียล มีเดีย เป็นหลัก จึงเที่ยวในลักษณะ Hopping การเดินทางแต่ละทริปจะขอไปเห็นทุกพื้นที่เป้าหมาย และจะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เน้นการเข้ามาเพื่อทำ Content โพสต์การเดินทางลงโซเชียลยอดนิยมในจีน เกาหลี จึงเป็นกลุ่มท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ ลงลึกหาประสบการณ์ในแหล่งท่องเที่ยวตามท้องถิ่น Local Experience กระจายไปยังชุมชนต่าง ๆ สัมผัสธรรมชาติ ทำสมาธิ สปา แบบจริงจัง

 

จึงต้องนำเสนอสินค้าเชิงประสบการณ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ที่ต้องการค้นหาความ WOW, Cool , Unique มากที่สุดจะมุ่งเที่ยวตามใจฉัน ค้นหาความเป็น Beyond Surpirse ซึ่งเมืองไทยมีเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับสิ่งที่ดีมากกว่าความคาดหมาย จึงทำให้เกิดการกลับมาท่องเที่ยวซ้ำ ๆ อยู่เรื่อย ๆ  ส่วนการท่องเที่ยว วัด วัง และการท่องเที่ยวเกาะทางทะเล ก็ยังพอมีอยู่บ้าง

 

ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมต้นปี 2567 นั้นเอเชียตะวันออกทั้ง 5 ตลาด หลั่งไหลเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญแล้ว จึงต้องขอความร่วมมือให้ทุกพื้นที่ทำหน้าที่ “เจ้าบ้านที่ดี” เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์!!แบรนด์ดังชูพลังช้อปวันสตรีสากลถึง12มี.ค.

 

คิง เพาเวอร์ ร่วมฉลองและส่งต่อพลัง ความ เป็น ไป ได้ ให้ผู้หญิงต้อนรับ “วันสตรีสากล : International Women’s Day 2024” ผ่านคอนเซปต์  #PowerHerWorld เพราะคิง เพาเวอร์ เชื่อในพลังความ เป็น ไป ได้ ของผู้หญิงทุกคน มาร่วมกันช้อปสินค้าดิวตี้ฟรีของแท้ที่ คิง เพาเวอร์ เท่านั้น ได้ทั้งผลิตภัณฑ์คุณภาพ เติมประสบการณ์มอบความสุขแบ่งปันคะแนนสะสมใน “กะรัต” เป็นเงินบริจาคให้องค์กรการกุศล  

 

ช้อป “วันสตรี สกาล บิวตี้ คลับ” ตั้งแต่วันที่ 8 - 12 มีนาคม 2567 ชวนกันมาเพิ่มประสบการณ์กับแบรนด์ดัง ๆ ที่สนใจเข้าสร้างความเป็นไปได้ให้ผู้หญิงทั้งประเทศและทั่วโลกในวันสตรีสากล ตัวอย่างแบรนด์แรก Sisley ประกาศเรียบร้อยที่จะนำแบรนด์เข้าร่วมร่วมเฉลิมฉลอง “วันสตรีสากล : International Women’s Day  ชวนสาว ๆ ทั้งประเทศได้รับประสบการณ์พิเศษกับผลิตภัณฑ์ Phyto-Blanc La Nuit Overnight Brightening Cream นำเสนอบริการมินิทรีตเมนต์ฟรี 5 นาที จากผลิตภัณฑ์กลุ่ม Phyto-Blanc Collection โดยสามารถสำรองคิวได้ที่โทร. 061-986-2998 จากนั้นก็ไปพบกันได้ตรงเคาน์เตอร์ ซิสลีย์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รวมทั้งรอรับได้สิทธิพิเศษมากมาย ดังนี้

 

สิทธิ์ที่ 1 ช้อปสินค้าเเบรนด์ BURBERRY หรือ  GUCCI ครบ 8,000 บาท รับฟรี SPECIAL GIFT และ MINI MAKEUP TUTORIAL สิทธิ์ที่ 2 ช้อปสินค้าเเบรนด์ DIOR ครบ 8,000 บาทรับฟรี MINI MAKEUP TUTORIAL สิทธิ์ที่ 3 ช้อปสินค้าเเบรนด์ ESTEE LAUDER ครบ 10,000 บาท รับฟรี HAND MASSAGE SERVICE และ SPECIAL GIFT

           

พิเศษยิ่งกว่า !! เมื่อช้อปสินค้าจากทุกแผนกที่ คิง เพาเวอร์  ทุกคนก็สามารถได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือผู้หญิงอีกวิธีด้วยการบริจาค “กะรัต” เปลี่ยนคะแนนเป็น “จำนวนเงิน” บริจาคได้ตั้งแต่  8-31 มีนาคม 2567  ผ่านทาง LINE Official Account: @KINGPOWER หรือ member.kingpower.com เพื่อรวบรวมนำไปบริจาคให้องค์กรหลัก ๆ ได้แก่ ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม   มูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ   

 

ข่าวที่ 2 ช้อปรัวๆ!คิงเพาเวอร์ OnlineExclusiveDealแจกกระเป๋า/ส่วนลด

 

คิง เพาเวอร์ ชวนมา ตลุยช้อป “ONLINE EXCLUSIVE DEAL! Special Giftทาง คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ กับแคมเปญ ระหว่างวันนี้ -31 มีนาคม 2567 มีของแถมสุดพิเศษเตรียมไว้มอบให้นักช้อปก่อนจะบินตอนขาออกไปยังประเทศต่าง ๆ  และรับพิเศษ 2 ข้อเสนอ ต้องห้ามพลาด ได้แก่

 

พิเศษแรก “กระเป๋า คิง เพาเวอร์” เริ่มแจกวันนี้ไปจนถึง 24 มีนาคม 2567 เมื่อซื้อสินค้าครบ 9,000 บาทขึ้นไป  

 

พิเศษที่สอง รับโค้ดส่วนลด 100 บาท เพื่อนำไปสั่งซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ Sim2Fly นำไปใช้ต่างประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 31  มีนาคม นี้ จ่ายค่าแพกเกจตามเงื่อนไขเสร็จเรียบร้อย ก็รอรับโค้ดทาง SMS ได้ตั้งแต่วันนี้- 30 เมษายน 2567

 

ข่าวที่ 3 จองด่วน!MahanakhonJoyFlowโยคะสกายวอล์คคิงเพาเวอร์

 

คิง เพาเวอร์ มหานคร ชวนมา “Mahanakhon Joy Flow” คอร์สออกกำลังกายยามเช้าเอาใจสายสุขภาพต้อนรับซัมเมอร์ วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง ระหว่าง 6.00 – 9.00 น. บนรูฟท็อปชั้น 78 ร่วมกิจกรรมคลาสโยคะสุดพิเศษราคาคนละ 1,990 บาท แล้วผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้รับของขวัญฟรีเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ดัง ได้แก่ เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ จาก AirLumba Enlight มูลค่า 2,990 บาท กิฟต์เซตยาดม พาสเทล ไอศครีม พร้อมเครื่องดื่มหลากหลายเพื่อสุขภาพ

 

กิจกรรมนี้ “ครูเบญ” เบญจภรณ์ อมูลราช ผู้เชี่ยวชาญสั่งสมประสบการณ์มามากกว่า 7 ปี นำทีมถ่ายทอดการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพองค์รวม บนชั้นลอยฟ้า มหานคร สกายวอล์ค  แลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวของคนไทยและนานาชาติ ที่อาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ออกกำลังกายเล่นโยคะท่ามกลางความงดงามของวิวทิวทัศน์กรุงเทพมหานคร แบบ 360 องศา  

 

ระหว่างออกกำลังกายต้อนรับอรุณยามเช้า ก็จะได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำของ 3 แบรนด์ดัง ได้แก่

 

แบรนด์แรก AirLumba Enlight เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายเกิดการขยับ เคลื่อนไหวโดยมวลลมจะช่วยกระจายน้ำหนัก ลดอาการปวดเมื่อยหลังในขณะที่นั่งในท่าต่าง ๆ    

 

แบรนด์ที่ 2 ISSY Gelato ไอศครีมเจลาโต้เนื้อนุ่ม ปราศจากน้ำตาลแลคโตส มาพร้อมกับหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง

 

แบรนด์ที่ 3 ยาดม พาสเทล (Pastel Creative) แบบกิฟต์เซต หนึ่งในผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ในเครือข่ายธุรกิจของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งนำเสนอกลิ่นหอมสดชื่น มาพร้อมดีไซน์ใหม่ พกง่าย ฝาไม่หาย เปิดปิดได้ด้วยมือเดียว   

 

คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดให้ผู้สนใจจองบัตรล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “Mahanakhon Joy Flow” วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ได้ที่ https://bit.ly/Book-SkyWalk-Tickets หรือสอบถามเพิ่ม   02 677 8721 และคลิกดูรายละเอียดเพิ่มทาง https://kingpowermahanakhon.co.th

 

ข่าวที่ 4 สุดาวรรณนำททท.ยุโรปใช้4มาตรการไทยฮับบิน/ท่องเที่ยว

 

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง รวม 8 สำนักงาน พร้อมด้วยประธานและคณะกรรมการ (บอร์ด) ททท. นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ และผู้บริหาร ททท.โดยใช้โอกาสนี้เน้นย้ำ ททท. เร่งดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรี เรื่องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินโลก Aviation Hub โดยเฉพาะยุโรปเป็นตลาดหลักที่ต้องใช้การเดินทางเข้าถึงด้วยการขนส่งทางอากาศมายังประเทศไทย

 

รวมถึงมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีหน่วยงานในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำหน้าที่กำกับดูแลผู้ประกอบการ (Supply side) จะต้องทํางานใกล้ชิดกับ ททท.รับฟังเสียงความเห็นจากนักท่องเที่ยวและคู่ค้าทั่วดลก ส่วนรัฐมนตรีว่ากากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะทำหน้าที่เป็นผู้นําจัดเวิร์คชอปร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วันที่ 15 มีนาคม 2567 โดยจะนำเสนอทิศทางการขับเคลื่อนท่องเที่ยวของไทยให้ชัดเจนมากขึ้น แล้วจากนั้นก็จะนําผลที่ได้เรียนนายกรัฐมนตรีถึงกรอบการจุดพลังศักยภาพประเทศไทยยกระดับด้านการท่องเที่ยวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้วย 4 มาตรการหลัก ประกอบด้วย

 

มาตรการที่ 1  ทุกจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด ทั่วไทย เมืองหลักและเมืองรอง ต้องเป็นเมืองท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากให้ได้มากที่สุด

 

มาตรการที่ 2 ประเทศไทยจะต้องไม่หลับไหลแล้วจะทำให้การท่องเที่ยวขับเคลื่อนเชิงบวกอย่างมีพลัง

 

มาตรการที่ 3 ผลักดันการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง One visa Free Your Destination

 

มาตรการที่ 4 แก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เช่น เวลาเปิดสถานบริการ เวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวนานาประเทศ ได้พักผ่อนอย่างอิสระ ภายใต้การปฏิบัติตามเงื่อนไขของไทยโดยเฉพาะด้านความสงบปลอดภัย

 

รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า ระหว่างการประชุมสำนักงาน ททท.ยุโรปฯ ยังได้ติดตามเป้าหมายการทำตลาดปี 2567 ททท.จะร่วมมือกันกระตุ้นนักท่องเที่ยว ยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง ให้ได้ถึง 8.5 ล้านคน เป็นเป้าหมายเดิม แต่ปีนี้จะปรับย้ายสลับพื้นที่การบริหารสำนักงานใหม่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ตลาดตะวันออกกลาง ททท.จะเปิดสำนักงานใหม่ขึ้นที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนที่ 2 ย้ายพื้นที่บางส่วนของ ททท.2 สํานักงาน ได้แก่ ลอนดอน และปารีส ไปขึ้นอยู่กับ ททท.ภูมิภาคอเมริกา

               

ตามแผนของ ททท.ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ปี 2567 ตั้งเป้าหมายจะทำรายได้ท่องเที่ยวจากตลาด 4 ทวีป ประมาณ 6.64-6.8 แสนล้านบาท ภายใต้แผนงานการเพิ่ม 3 ส่วน ได้แก่ 1.เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพ 2.เพิ่มวันพักเฉลี่ยนานวันขึ้น 3.เพิ่มการใช้จ่ายเงินแต่ละวันแต่ละทริปซึ่งมีกิจกรรมให้ใช้เงินมากขึ้น ควบคู่กับจะนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวตามที่ได้วางแผนงานไว้ตลอดทั้งปี

 

ข่าวที่ 5 บางจากรุกสร้างงานปั้นอาชีพดันเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากจัดกิจกรรมและมอบประกาศนียบัตรให้ผู้เข้ารับการอบรมในโครงการ “บางจากสร้างงานปั้นอาชีพ” เป็นการจัดอบรมวิชาชีพ สอนทำอาหารประเภทยำให้เพื่อนบ้านในชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานกับการมีส่วนร่วมดูแลชุมชนรอบพื้นที่ให้มีอาชีพและรายได้

 

โครงการนี้บางจากเปิดให้คนในพื้นที่ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก ผู้ที่กำลังหางานรวมทั้งยังไม่มีรายได้ กลุ่มที่ 2 ผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมมีโอกาสและช่องทางใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น พร้อมสนับสนุนให้ชุมชนมีอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นพลังที่ดีอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมดุลมีความสุข

 

โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมเป็นวิทยากรพัฒนาทักษะอาชีพให้คนในชุมชน นำโดยอาจารย์จุรีรัตน์ บัวบาล อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยรังสิต เชฟวรินทร์ทิพย์ อาคมวิชิตชัย และเชฟวรลักษณ์ ระเบ็ง จากสถาบันการสอนทำอาหาร Little Bite และได้สร้างสีสันจัดการแข่งขันการทำเมนูดังกล่าวด้วย เมื่อวิทยากรตัดสินผู้ชนะในโครงการนี้จะได้รับสิทธิ์ขายอาหารที่ บริษัท บางจากฯ สำนักงานใหญ่ อาคารเอ็มทาวเวอร์ และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ตามเงื่อนไขที่กำหนด ทางบางจากฯ ยินดีจะเพิ่มโอกาสให้ผู้เข้ารับการอบรมมีช่องทางการขายอาหารอย่างเหมาะสมต่อไป

 

นางกลอยตา กล่าวว่า ทางบางจากฯ ยังได้ให้ความรู้เรื่องวิธีคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย รูปแบบการบัญชีรายรับรายจ่าย บรรจุภัณฑ์ การส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างมาตรฐานร้านค้าในชุมชน และมอบรางวัลขวัญใจมหาชน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แข่งขัน ระหว่างงานได้เชิญชวนพนักงานบางจากฯ มาร่วมชิมและร่วมเป็นกรรมการตัดสินรสชาติด้วย

 

สำหรับโครงการ “บางจากสร้างงานปั้นอาชีพ” ริเริ่มจัดเมื่อปี 2566 ต่อเนื่องถึงปี 2567 เน้นให้ความรู้ด้านการทำอาหารกับคนในชุมชน เมื่อผ่านการอบรมแล้วสามารถนำไปประกอบอาชีพทำเมนูคาวและหวาน  รวมทั้งยังได้ขยายต่อยอดเปิดอบรมอาชีพสายช่างประเภทต่าง ๆ รองรับความต้องการตลาดซึ่งกำลังมีเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา กลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ชุมชนมีอาชีพและสร้างได้เลี้ยงดูครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป เสริมสร้างความเข้มแข็งร่วมสร้างเศรษฐกิจชุมชน ส่งต่อความยั่งยืนให้กับสังคมเติบโตด้วยพลังเชิงบวกแล้วก็ทำให้ธุรกิจกับคนในท้องถิ่นซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล 

 

            ช่วงที่ 2 มีทริปดี ๆ มาบอก วันที่ 14-17 มีนาคม นี้ ไปเที่ยวงาน “ปราการ เฟสติวัล” ที่สมุทรปราการ เปิด 5 พิกัด อวดโฉมนักท่องเที่ยว 1.ป้อมผีเสื้อสมุทร 2.หอชมเมือง 3.เมืองโบราณ 4.พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านขุนสมุทรจีน 5.พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ แล้วจะแนะนำ “5วิธีดูแลสุขภาพ” เข้าสู่สูงวัยอย่างมีคุณภาพ พร้อมข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “ไทยกระหึ่มโลก” คว้าเจ้าภาพ โคราช เอ็กซ์โป 2029 ข่าวที่สอง “นายกฯ เศรษฐา ส่งท้าย ITB2024” ลั่นเปิดเจรจาฟรีวีซ่าแชงเก้น และอาเซียน

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่...เที่ยวปราการเฟสติวัล 5พิกัดใกล้กรุง

 

เตรียมตัวไว้ได้เลย วันที่ 14-17 มีนาคม 2567 ไปเช็คอินท่องเที่ยวงานแห่งปี “ปราการเฟสติวัล Prakan Festival” สืบสานประวัติศาสตร์ สร้างสรรค์ปัจจุบัน สู่อนาคต ที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่คว้ารางวัลสุดยอด Asia Local and Traditional Art Festival of 2024 Awards จากสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (IFEA :International Festivals and Events Association) การสร้างเทศกาลเพื่อสื่อสารความหมาย รศ.112 ร้อยเรียงเข้ากับป้อมปราการ สานความสัมพันธ์เคยมีมายาวนานกับนานาประเทศในรูปแบบต่าง ๆ นำเสนอความหมายใหม่ให้เกิดประโยชน์ ระดับชาติ พร้อมกับนำสมุทรปราการสื่อสารสู่สากล  ด้วยแนวคิดระบบเศรษฐกิจเทศกาลหรือ Festival Economy  

 

  เทศกาลท่องเที่ยวที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมสนับสนุน ส่วน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” จับมือกับพันธมิตร พัฒนาแนวทางการสร้างสรรค์ Festival Economy  มีทั้งจังหวัดสมุทรปราการ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ป้อมผีเสื้อสมุทร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานรัฐช่วยกันจัดอย่างเต็มที่

             

ปีนี้ “เทศกาล ปราการ เฟสติวัล” ขยายพื้นที่กระจายจัดให้ได้เที่ยวครบ 5 พิกัด ได้แก่ 1.ป้อมผีเสื้อสมุทร 2.หอชมเมือง 3.เมืองโบราณ 4.พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านขุนสมุทรจีน โดยเฉพาะ 5.พิพิธภัณฑ์ทหารเรือเตรียมจัดในรูปแบบพิพิธภัณฑ์กลางคืนหรือ Night Museum เป็นครั้งแรก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าชมนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ ทหารเรือ เรือรบหลวงโบราณ เรือพระราชพิธี 

 

แล้วก็จะเปิดให้ชมครั้งแรกเกี่ยวกับการแสดงชุดเสื้อผ้าของ พลเรือโท พระยาชลยุทธโยธินทร์ อ็องเดร ดูว์ แปลซี เดอ รีเชอลีเยอ ผู้บัญชาการกรมทหารเรือสยาม ผู้เป็นรองผู้บัญชาการการรบของสยามในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 และเป็นผู้ออกแบบป้อมพระจุลจอมเกล้าด้วย

 

ตลอดงานกิจกรรมมากมายบริเวณ “เปิดลานสร้างสรรค์  Prakan Creative” นำโดยกลุ่ม DRU Street Art ชวนทุกคนร่วมกันสร้างป้อมปราการในฝันด้วยศิลปะ Dream of Prakan  ความยาวกว่า 10 เมตร ติดตั้งกลางลานหน้าพิพิธภัณฑ์ ชมแสดงงานศิลปะจากกวี ศิลปิน เยาวชน เมืองสมุทร  ละครเวที การพายเรือของเจ้าเป็นเที่ยวสุดท้าย ผลงาน นักเขียน สายเลือดคนสมุทรปราการ เสนีย์ เสาวพงศ์  การแสดงศิลปิน ละครใบ้ จาก Mime Artist ชื่อดังของเมืองไทย  การจัดฉายภาพยนตร์  หนังสั้น สมุทรปราการ  งานออกร้านอาหารท้องถิ่นในบรรยากาศตลาดเมืองท่า นิวอัมสเตอร์ดัม  

 

ชวนร่วมฉลองครบรอบ 60 ปี เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งแห่งสยามประเทศ กับการแสดง ประวัติศาสตร์แห่งศรีอโยธยา ย้อนเวลา ณ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของราชสำนัก และเป็นที่รับแขกบ้านแขกเมืองของพระมหากษัตริย์ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รับราชทูต  สดับรับฟังกาพย์เห่เรือ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ คือ กาพย์เห่เรือฉบับเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร นิยมใช้เห่ในกระบวนเรือหลวงจนถึงปัจจุบัน สืบต่อถึงการนำกระบวนเครื่องคาวหวานการรับรองอาคันตุกะ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์  กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน  พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

 

ทางจังหวัดสมุทรปราการเตรียมอาหารท้องถิ่นไว้ต้อนรับ โดยได้จำลองบรรยากาศท่าน้ำนานาชาติ ตลาดน้ำเมืองโบราณ เป็นสถานีการค้าของชาวฮอลันดาที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ยกย่องกันในหมู่ชาวฮอลันดาว่าเป็นเมือง “นิวอัมสเตอร์ดัม” 

 

เข้าร่วมสัมผัสปรากฏการณ์ ปราการ งานแสดง เปิด Live Exhibition รูปแบบแปลกใหม่ทันสมัย Live Exhibition “ปราการมั่นคง ดำรงชาติสยาม” ที่ป้อมผีเสื้อสมุทร เที่ยวท่องชมฉากทัศน์ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้น ด้วยวิธีเล่าเรื่องผ่านบทบาทจำลองบุคคล ราวกับได้เข้าอยู่ร่วมในเหตุการณ์จริง จัดการแสดง รอบละ 30 นาที แต่ละวันช่วงเวลา 15.15 / 16.00 / 16.45 น.สามารถจองผ่านระบบ Application: Prakan festival ได้

 

สามารถดาวน์โหลดแผนที่เมืองสมุทรหมุดหมายปราการเพื่อออกท่องเที่ยวสำรวจหมุดหมายป้อมปราการ 25 แห่ง แหล่งบันทึกประวัติศาสตร์ นำพาสู่แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั่วทั้งเมืองสมุทรปราการ

 

สำหรับกิจกรรม Live Exhibition “จากปากน้ำ ถึงปราการ” หอชมเมืองสมุทรปราการ เปิดประสบการณ์ รูปแบบใหม่นิทรรศการหอชมเมือง ผ่านการแสดง Immersive theater ตลอดเส้นทางนำชมจาก ปากน้ำเมื่อนานมา จนถึงเข้าท่าเมืองหน้าด่าน ปรากฏเป็นปราการป้องแผ่นดิน ซึ่งจะจัดให้มีกิจกรรมไฮไลต์ในงานให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจได้ดังนี้

 

กิจกรรมที่ 1 ชมการแสดงพร้อมนิทรรศการมัลติ มีเดีย นำเสนอด้วยเทคโนโยลีนำสมัย วันละ 3 รอบ สำรองเข้าชม ในเวลา 10.20 / 13.20 / 14.20 โดยจองผ่านระบบ Application: Prakan festival 14-17 มีนาคม 2567

กิจกรรมที่ 2 มหกรรม Festival Town  เที่ยวท่องล่องชมเทศกาลกันทั้งเมือง เล่าเรื่องเมืองปราการ ผ่านกิจกรรมการนำชม ปราการด้านการดูแลพิทักษ์รักษ์ สิ่งแวดล้อม ณ ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน

 

กิจกรรมที่ 3 ร่วมสัมมนา Workshop หลากหลายสไตล์ จากพิพิธภัณฑ์ธงชาติ  

 

กิจกรรมที่ 4 ชมละครเวที จากผลงานนักเขียน ชาวสมุทรปราการ เสนีย์ เสาวพงศ์

 

กิจกรรมที่ 5 จุดประกายเมือง เล่าเรื่องสมุทรปราการ ผ่านหนังสั้น และออกตามรอย หนังดัง ทั้งในและต่างประเทศ ไปกับแหล่งถ่ายทำภาพยนตร์ ในฐานะที่สมุทรปราการ เป็นหนึ่งในแหล่งถ่ายทำชั้นนำของประเทศ

           

เคลียร์คิวไว้รอเที่ยว “ปราการเฟสติวัล Prakan Festival  จังหวัดสมุทรปราการ  กันได้เลย 14-17 มีนาคม 2567

  

สุขภาพ –5 วิธีดูแลสุขภาพ ก่อนเข้าสู่วัยชราอย่างมีคุณภาพ

 

ความสามารถทางกายภาพของผู้สูงอายุลดลงตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องให้การดูแลและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่มีผู้สูงอายุต้องดูแล โดยเฉพาะผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย จะต้องให้ความสำคัญกับทั้งเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงได้รวบรวม5 วิธีดูแลสุขภาพ ก่อนเข้าสู่วัยชราอย่างมีคุณภาพ โดยคุณผู้ชายสามารถทำตามได้ดังนี้

 

1.ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะกับส่วนสูง -โรคอ้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพของทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ในการควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้เคลื่อนไหวได้ ลดความเสี่ยงหกล้ม บรรเทาผลกระทบต่อกระดูกกับข้อต่อที่รับน้ำหนักมากเกินไป แล้วยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง

 

2.ออกกำลังกายให้เหมาะต่ออายุ กรณีที่ผู้สูงอายุไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ผู้ดูแลจะต้องแนะนำให้ออกกำลังกาย แต่ควรหลีกเลี่ยงออกหนักหน่วง และหากมีโรคประจำตัว ต้องปรึกษาแพทย์ล่วงหน้า ผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคประจำตัวแนะนำให้เริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิก ครั้งละประมาณ 30 นาที เป็นเวลาสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

 

3.ดูแลตัวเองไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากการเคลื่อนไหวและการมองเห็นแย่ลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกกิจกรรมให้รอบคอบ และเตรียมพื้นที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงจะสะดุดล้ม ตรวจสอบสภาพบันไดอย่างสม่ำเสมอ และดูแลบ้านเรือนเป็นระเบียบ เนื่องจากอุบัติเหตุอาจส่งผลร้ายแรงได้

 

4.ตรวจสุขภาพประจำปีเสมอ ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ แนะนำตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี หรืออย่างน้อยทุกสองปี ช่วยลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ช่วยให้ตรวจพบโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ วางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

 

5.รักษาใจให้ดีเสมอ -ผู้สูงอายุควรทำกิจกรรมพบปะกับเพื่อนฝูง สนทนากับญาติสนิท หรือเพื่อนวัยเดียวกัน จัดให้มีการรวมกลุ่ม ชวนครอบครัวมาสังสรรค์ที่บ้าน หรือไปเที่ยววัดกับเพื่อน ร่วมกิจกรรมกับชมรมผู้สูงอายุ จะช่วยส่งเสริมให้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมยามว่าง ช่วยชะลอความเสื่อมของระบบประสาท การทำงานของสมอง ลดเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าในผู้สูงวัยด้วย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ข่าวดี!กระหึ่มโลกไทยคว้าเจ้าภาพจัดโคราชเอ็กซ์โป2029

 

 

นายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เปิดเผยว่า ไทยได้รับข่าวดีจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers – AIPH) ประกาศวันนี้ 6 มีนาคม 2567 ให้สิทธิ์ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก หรือ International Horticultural Expo : โคราช เอ็กซ์โป 2029” งานนี้จะช่วยยกระดับนครราชสีมาขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมพืชสวน ภายใต้แนวคิด “ธรรมชาติและพรรณพืชเขียวขจี อนาคตแห่งโลกสีเขียว” (Nature & Greenery: Envisioning the Green Future) สะท้อนความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพืชสวนและการเกษตรที่ยั่งยืนของไทย

 

ในฐานะหัวหน้าทีมประเทศไทย ยืนยันรัฐบาลไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่จะผลักดันความสำเร็จจัดมหกรรมพืชสวนโลกปี 2572 ที่นครราชสีมา ถือเป็นงานมหกรรมระดับโลก ประเภท A1 ที่พร้อมจะเปิดประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีศักยภาพอันโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์ ความชำนาญด้านเกษตรกรรม และความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยการแสดงพลังจัด โคราช เอ็กซ์โป 2029” หรืองานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา 2572 ขึ้นที่อำเภอคง ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2572 -28 กุมภาพันธ์ 2573   คาดจะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากถึง 2.6 – 4 ล้านคน    

 

ส่วนผลการคัดเลือกครั้งนี้ ทางสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ได้จัดการประชุมประจำปีขึ้นที่กรุงโดฮา ในวันที่ 6 มีนาคม 2567 โดยผู้แทนจากทีมประเทศไทยเข้าร่วมประชุมและนำเสนอความพร้อมรอบสุดท้าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB

 

ขั้นตอนลำดับต่อไปไทยจะต้องเสนอตัวต่อองค์การนิทรรศการนานาชาติ หรือ BIE (Bureau International des Expositions) เพื่อให้ได้รับพิจารณารับรองเป็น Certified License Host ของงาน เนื่องจากมหกรรมพืชสวนโลกเป็นงานระดับ A1 ตามเกณฑ์ของ BIE

 

ทั้งนี้เมื่อปี 2549 ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งแรกในพื้นที่ภาคเหนือ แล้วยังได้รับรางวัลเหรียญทองจากความสำเร็จในการจัดงานครั้งนั้นอีกด้วย

 

 ตลอดระยะเวลาจัดงานโคราช เอ็กซ์โป 2029 ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดการณ์จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สร้างเงินสะพัดกว่า 18,942 ล้านบาท เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) 9,163 ล้านบาท ทำรายได้จากการจัดเก็บภาษี 3,429 ล้านบาท และสร้างงานได้มากถึง 36,003 อัตรา

 

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร หนึ่งในหน่วยงานเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกโคราช 2572  กล่าวว่า ได้ให้ความสำคัญเชิงกลยุทธ์เรื่องการพัฒนาภาคเกษตรกรรมและพืชสวนของไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญทางยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะใช้งานโคราช เอ็กซ์โป 2029 เป็นเวทีนานาชาติ นำเสนอแนวทางการทำพืชสวนผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม มุ่งสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นต่อไป

 

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในฐานะเมืองเจ้าภาพ ทางจังหวัดนครราชสีมาพร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วโลก เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศผสานกับวิสัยทัศน์การสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และจะเป็นการพลิกโฉมเมืองโคราชยกฐานะสู่เมืองต้นแบบด้านนวัตกรรมสีเขียวได้ด้วย

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนการประมูลสิทธิ์การจัดงานพืชสวนโลกโคราช 2572 ยืนยันว่า ทีเส็บย้ำเน้นการสร้างมรดกที่ยั่งยืนและประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตอบสนองต่อพันธกิจหลักของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ส่งเสริมความสำเร็จอุตสาหกรรมพืชสวน ผ่านการปลูกพืชเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ร่วมพัฒนาสังคม สร้างความยั่งยืนให้โลกกับคนรุ่นนี้และรุ่นต่อ ๆ ไป

 

อีกทั้งทีเส็บต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่มีบทบาททำงานร่วมกันจนนำประเทศไทยคว้าสิทธิ์จัดงานครั้งนี้ได้สำเร็จ มีทั้ง สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และภาคีเอกชนในจังหวัด 

 

ข่าวที่สอง -นายกฯเศรษฐาใช้ITB2024ลั่นเปิดฟรีวีซ่าแชงเก้น-อาเซียน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปเป็นประธานกิจกรรมงาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันสุดท้ายการเข้าร่วม ITB Berlin 2024 (Internationale Tourismus Borse) ใน ซิตี้ คิวบ์ เบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อพบปะกับสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. และผู้บริหาร เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวกว่า 200 คน

 

            นายกฯ เศรษฐา กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2024 นี้เป็นการมาร่วมงานครั้งแรก และเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดยุโรป รัฐบาลไทยจะเจรจาขอฟรีวีซ่าประเทศในกลุ่มเชงเก้น เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศอาเซียน แล้วจะเดินหน้าร่วมกันเปิด One Visa, Free your Destination” เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางเข้าออกภายในภูมิภาคได้อย่างไร้รอยต่อ  เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยและพันธมิตรทุกประเทศ

 

ช่วยผลักดันให้ปี 2567 ไทยสามารถนำรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ตามเป้าหมายรวม 3.5 ล้านล้านบาท ตามที่ ททท.จะขับเคลื่อนตลาดยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง สร้างรายได้กว่า 664,000 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยว 8.5 ล้านคน ขณะนี้รัฐบาลทำนโยบาย Ease of Traveling อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว นักธุรกิจเดินทางมาสู่ไทย ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน  โดยใช้มาตราการวีซ่าเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก 5 มาตรการ ดังนี้

 

มาตรการที่ 1 ยกเว้นวีซ่าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนและรายได้เข้าประเทศต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

 

มาตรการ 2 ขยายเวลายกเว้นวีซ่าให้ผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติคาซัคสถานซึ่งเป็นอีกกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ออกไปจนถึง 31 สิงหาคม 2567 เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในไทย

 

มาตรการที่ 3 ยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไต้หวัน และอินเดียไปจนถึง 10 พฤษภาคม 2567  ตอนนี้ก็มีทั้งนักท่องเที่ยวและกลุ่มตลาดใหญ่เดินทางเพื่อเป็นรางวัลอินเซนทีฟจากเดินทางเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายเข้ามาพร้อมกันครั้งละหลายพันคน

 

มาตรการที่ 4 ยกเว้นวีซ่า และขยายระยะเวลาให้นักท่องเที่ยวรัสเซียอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 90 วันจนถึง 30 เมษายน 2567

 

มาตรการที่ 5 ยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 หรือเอกสารเข้าออกจากไทย นำร่องที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ 25 ตุลาคม 2566 ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียนำเงินมาใช้จ่ายในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

           

รวมทั้งรัฐบาลได้เร่งนโยบายขยายการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง โดยส่งเสริมประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ เชื่อมโยงต่อจากเมืองท่องเที่ยวหลักที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดีแล้ว เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่  การขยายสู่เมืองรองจะได้สร้างสรรค์ประสบการณ์เดินทางเป็นเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยคุณค่าทั่วเมืองไทย อีกทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญปรับกฎระเบียบให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว เช่น ขยายเวลาเปิดสถานบริการ เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายกฯ เศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลไทยจะผลักดันวัฒนธรรม งานประเพณี อัตลักษณ์ประเทศ หรือซอฟท์ พาเวอวร์ ที่โดดเด่นขึ้นมาเป็นจุดขายโดยยกระดับงานประเพณีสำคัญให้เป็นเทศกาลนานาชาติ เริ่มเดือนเมษายน 2567  มีไฮไลต์เที่ยวมหาสงกรานต์ ล่าสุดยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้  ทางรัฐบาลไทยรณรงค์ให้จัด Maha Songkran World Water Festival 2024 อย่างยิ่งใหญ่และส่งเสริมจัดกระจายไปทั่วประเทศ  เรื่อยไปจนถึงส่งเสริมจัดเทศกาลระดับนานาชาติรายการอื่น ๆ ในไทย อย่างเทศกาลดนตรี คอนเสิร์ต

 

สอดคล้องกับวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย 3 นโยบาย ได้แก่ นโยบายแรก ยกระดับไทยเป็น Aviation Hub ประเทศศูนย์กลางทางการบินอาเซียน ตามแผนจะลงทุนสร้างท่าอากาศยานนานาชาติในภาคเหนือ ล้านนา และภาคใต้ ท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 40 ล้านคนปี ควบคู่การพัฒนาศักยภาพเชื่อมโยงการเดินทาง และปรับปรุงท่าอากาศยานต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมและเพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินต่างประเทศและการต่อเที่ยวบินในประเทศให้เต็มประสิทธิภาพ 

 

ผนวกกับให้หน่วยงานรับผิดชอบท่าอากาศยานในไทยทั้งหมดเดินหน้าปรับปรุงบริการภาคพื้นดิน ลดระยะเวลาผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก จัดสรรสล็อตขึ้นลงอากาศยานให้เหมาะสมกับการรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศมากขึ้น ลดค่าบริการขึ้นลงอากาศยาน และเพิ่มค่าธรรมเนียมเที่ยวบินล่าช้า (Delay) จะได้ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนและรองรับเที่ยวบินได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานความปลอดภัยทั้งกระบวนการภาคพื้นดินและทางอากาศ

 

พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินต่าง ๆ ขยายเส้นทางบินใหม่ เพิ่มเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางต่าง ๆ ในเมืองไทย ล่าสุด ททท.เตรียมจัดกิจกรรม “Air-mazing Thailand : The Amazing Airline FAM Trip” เพื่อโชว์ศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศไทย พร้อมเป็นศูนย์กลางทางการบินเชื่อมโยงการเดินทางของอาเซียนอย่างแท้จริง

            นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ภายในงาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ททท.ได้เปิดตัวแนวคิดสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการ Amazing Thailand : Your Stories Never End กระตุ้นตลาดต่างประเทศ ด้วยการนำเสนอเรื่องราวบอกเล่าอย่างไม่รู้จบ ผ่านการส่งต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองไทย เน้นต่อยอดแนวคิดทางสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก มุ่งให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่มีความหมายต่อตนเอง สังคม ผู้คนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อม จากการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย (Meaningful Travel) และเกิดเป็นความทรงจำ ความประทับใจที่มีคุณค่าและไม่อาจลืมเลือนได้ (Unforgettable Experience)

 

ททท.ได้นำเสนอสินค้า บริการทางการท่องเที่ยว และประสบการณ์ต่าง ๆ ในเมืองไทยผ่านเรื่องราวมากมาย เพื่อแสดงให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงทุกการเดินทางมาเมืองไทยไม่ได้จบลงที่แค่การได้มายังไทย แต่สามารถซึมซับเรื่องราวความประทับใจให้อยู่ในความทรงจำ เก็บทุกรายละเอียดไปบอกเล่าต่อได้ไม่รู้จบตลอดไป

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai