ปาริชาติอินเตอร์กอล์ฟลุยขายJapan Golf Fair 2024

 วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ 

กรรมการบริหาร ปาริชาติ อินเตอร์ กอล์ฟ ลิงค์ส ภาคตะวันออก ของไทย

ธุรกิจสนามกอล์ฟไทยใจฟูปี’67ตลาดญี่ปุ่น/เกาหลีโต20%

บิ๊กปาริชาติอินเตอร์กอล์ฟลิงค์ลุยเทรดโชว์JapanGolfFair

อ้อนรัฐปลดล็อกภาษีสรรพสามิตนำเงินพีอาร์ในตลาดโลก

คิงเพาเวอร์แจกกะรัตสมาชิกดับร้อนเพิ่ม5เท่า2แคมเปญ

แจกโปรตัวท็อปคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ลดส่งท้ายมี.ค.50%

ททท.ขานรับครม.นำทัวร์พะเยารุกขายยุโรป3สุข4เส้นทาง

บางจาก-กรมอนามัยดึงร้านดังไม่ทอดซ้ำร่วมทำน้ำมันSAF

สุขทันทีที่เที่ยว#หมู่บ้านภาคใต้เทศกาลเที่ยวเมืองไทย67

5วิธีดูแลสมองให้แข็งแรง“กิน/นอน/ออกกำลัง/ลดเครียด”

TCEBดันไทยฮับจัดเทศกาลโลกปี67เพิ่มไมซ์2.3ล้านคน

ททท.ดึงKOLsเอเชียทำคอนเทนท์ตามเป้า13.4ล้านคน

 

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #เทศกาลเที่ยวเมืองไทย2567  #หมู่บ้านท่องเที่ยวภาคใต้

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/q-qFS-OzRe/?mibextid=Nif5oz

 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ กรรมการบริหาร ปาริชาติ อินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟ ลิงค์ส ธุรกิจสนามกอล์ฟใจพองปี 67 ต่างชาติแห่ทัวร์เล่นกอล์ฟในไทย เอเชียมากสุด 60 % เดินสายร่วมเทรดแฟร์รายการใหญ่ Japan Golf Fair 2024 ไทยติด 1 ใน 5 ตลาดญี่ปุ่นมีนักกอล์ฟมากเป็นเบอร์ 2 ของโลก ชู 4 จุดขาย “โปรไฟล์สนามเด่น-ราคาได้เปรียบ-มีนักกีฬาสร้างชื่อระดับโลก-ภูมิอากาศเป็นใจ” อ้อนรัฐปลดล็อกภาษีสรรพสามิตสนามกอล์ฟช่วยเอกชนนำต้นทุนไปทำพีอาร์ในตลาดโลกดึงรายได้เข้าประเทศดีกว่า

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ กรรมการบริหาร ปาริชาติ อินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟ ลิงค์ส เปิดเผยว่า ปี 2567 สถานการณ์ธุรกิจสนามกอล์ฟเมืองไทยเติบโตดีต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดศักราชมกราคม เดือนมีนาคมนี้มีโอกาสนำธุรกิจไปร่วมงานเทรดแฟร์รายการใหญ่ Japan Golf Fair 2024 ที่โยโกฮามาใกล้กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คัดเลือกสนามกอล์ฟเดินทางไปเจรจาซื้อขายในงานนี้รวม 7 แห่ง ภายในงานมีความน่าสนใจหลายเรื่อง มีผู้เข้าชม 45,000 คน มากกว่าปีก่อนมีเพียง 38,000 คน ยืนยันถึงคนญี่ปุ่นสนใจเล่นกอล์ฟมากขึ้น เป็นประเทศที่มีประชากรตีกอล์ฟมากถึง 10 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ไทยสามารถครองใจตลาดใหญ่ทั้งญี่ปุ่น และเกาหลี ได้เป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย

                ทางสนามกอล์ฟ ปาริชาติ อินเตอร์เนชั่นแนล และสนามกอล์ฟอีกหลายแห่งในภาคตะวันออก ได้รับความสนใจจากนักกอล์ฟญี่ปุ่นมากพอ ๆ กัน เนื่องจากประเทศไทยมีจุดเด่น 4 เรื่อง ได้แก่ 1.โปรไฟล์สนามกอล์ฟแต่ละแห่งสวยงามโดดเด่น 2.มีนักกีฬากอล์ฟไทยสร้างชื่อเสียงติดอันดับโลก ช่วยเสริมภาพลักษณ์ตลาดการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟทั่วโลกเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นกลุ่มพร้อมใช้จ่ายเงินสูง 3.ราคาค่าบริการสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้อย่างสมศักดิ์ศรี 4.สภาพภูมิอากาศตั้งแต่ฤดูหนาวธันวาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี สนามกอล์ฟชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทยมียอดจองใช้บริการเต็มเกือบทั้งหมด

 

                ในการเข้าร่วมเทรดโชว์ Japan Golf Fair 2024 ประสบความสำเร็จได้ต้องขอบคุณ ททท.ที่ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการเอกชนเลือกงานที่ดีให้เข้าไปร่วมเจรจาซื้อขาย ภายในงานผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากมาย มาจัดแสดง โดยเฉพาะการโปรโมทท่องเที่ยวมีเพียงสนามกอล์ฟบางแห่งในญี่ปุ่น ไทย สิงคโปร์ เท่านั้นที่เข้าร่วมงาน จึงเป็นโอกาสที่ดีของสนามกอล์ฟปาริชาติ อินเตอร์เนชั่นแนล มีกระแสตอบรับที่ดีมาก แล้วยังได้ประชาสัมพันธ์เครือข่ายเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออก อาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นต่อไป โดยเฉพาะญี่ปุ่นยังคงนิยมเลือกมาไทยติด 1 ใน 3 แตกต่างจากเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ยังห่างชั้นกับไทยอยู่มาก

 

                สำหรับตลาดนักกอล์ฟต่างประเทศหลัก ๆ ที่เดินทางมาเล่นในเมืองไทยจะเป็นกลุ่มภูมิภาคเอเชียประมาณ 60 % คือ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงโปร์ มาเลเซีย ช่วงเดือนเมษายน นี้ จะมีงานแฟร์ที่เกาหลีใต้ หลังจากนั้นจะจัดที่สิงคโปร์ ส่วนนักกอล์ฟตลาดยุโรปมีประมาณ 20 % ส่วนใหญ่จะไปร่วมขายในงาน ITB Berlin 2024

 

                นายวิวัฒน์ กล่าวว่า สถิตินักท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟตลาดต่างประเทศมาไทยตั้งแต่ปี 2566 จนถึงขณะนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 15-20 % เพราะไทยมีแม่เหล็กดึงดูดมากมายหลากหลายกว่าประเทศอื่น ๆ ทั้งคุณภาพสนามกอล์ฟ ราคาแคดดี้และเข้าสนาม แหล่งท่องเที่ยว อาหารไทย และซอฟท์ พาวเวอร์ แม้แต่นวดไทย เมื่อผลิตเป็นแพกเกจวางขายในตลาดทั่วโลกแล้วจะโดดเด่นมาก แพกเกจยอดนิยมจะประมาณ 3-4 วัน ค่ากรีนฟีประมาณ 2,00-5,000 บาท/วัน โดยเฉพาะตลาดเกาหลีปี 2567 พฤติกรรมเปลี่ยนไปในเชิงบวกคือ หันมาเลือกทำกิจกรรมอื่นพ่วงกับการเล่นกอล์ฟ เช่น แบ่งเวลาครึ่งวัน ไปขี่ช้าง รับประทานอาหารตามร้านอร่อย และท่องเที่ยว แตกต่างจากก่อนโควิดจะเอาจริงจังกับการเล่นกอล์ฟทั้งวันให้ครบ 18 หลุม จึงเป็น “ภาพลักษณ์ใหม่” ของกีฬากอล์ฟเชื่อมโยงไปสู่การขายสินค้าการท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้ด้วย จึงสามารถกระจายนักท่องเที่ยวนำเงินไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วย

 

                ธุรกิจสนามกอล์ฟ สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้ตั้งแต่ฐานราก ด้านการจ้างงานคนในชุมชนท้องถิ่นให้มีอาชีพและรายได้ แต่ละสนามจ้างคนรอบพื้นที่แห่งละ 200-400 คน ต่อเนื่องไปจนถึงระดับบน โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ ทุกวันนี้ไทยมีสนามกอล์ฟทั่วประเทศประมาณ 200 แห่ง ถึงจะห่างชั้นจากญี่ปุ่นมีประมาณ 2,000 แห่ง อเมริกามีเป็น 10,000 แห่งขึ้นไป แต่ไทยก็ยังสามารถที่จะผลักดันกอล์ฟให้เติบโตได้รวมถึงใช้เป็นช่องทาง โฆษณาประชาสัมพันธ์ดึงตลาดต่างประเทศกลุ่มคุณภาพสูงเข้ามาใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น

 

                นายวิวัฒน์กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารและผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ มองเห็นศักยภาพไทย 4 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 มีองค์กร ททท.ทำการตลาดเชิงรุกเข้มแข็งมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น โดยนำพาธุรกิจกอล์ฟ ซอฟท์ พาวเวอร์ ก้าวสู่ตลาดโลกภายใต้บูธของ ททท.ในแต่ละประเทศ ประกอบแต่ละส่วนงานเข้าด้วยกัน ด้านที่ 2 เอกชนรายใหญ่หันมาสนับสนุนนักกีฬากอล์ฟ และจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการสำคัญ ๆ อย่างกลุ่มสิงห์ คอร์ปอเรชั่น จัดทัวร์นาเมนท์กอล์ฟเยาวชนมาหลายสิบปี จนทำให้ไทยสร้างนักกอล์ฟมีชื่อเสียงติดระดับโลก จูงใจให้อีกหลายบริษัทเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น ผลักดันในไทยติดอยู่ในแผนที่โลก

ด้านที่ 3 จำนวนที่นั่งสายการบินที่นำนักท่องเที่ยวเข้าเมืองไทยยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะไฮซีซันญี่ปุ่นอีกเป็นจำนวนมากต้องการเดินทางแต่ไม่มีที่นั่งผนวกกับราคาตั๋วโดยสารก็ปรับขึ้นแปรผันตามดีมานต์กับซัพพลาย ปี 2567 ททท.ตั้งเป้าจะเพิ่มตลาดญี่ปุ่นให้ได้ 1 ล้านคน จากปี 2566 ทำได้แล้ว 8 แสนคน สถิติเดิมเคยทำไว้ปีละ 1.8 ล้านคน จึงมุ่งหวังจะช่วยสนับสนุนทำให้ญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยให้กลับไปยืนในจุดที่ดีที่สุดอีกครั้ง

 

ด้านที่ 4 สนามกอล์ฟเป็นกีฬา แต่กลับต้องจ่ายค่าภาษีสรรพสามิต ซึ่งตามปกติเก็บจากธุรกิจ สุรา เรือยอร์ช สนามแข่งม้า แต่กฎหมายดั้งเดิมที่อยากให้เปลี่ยนแปลงปลดล็อกสนามกอล์ฟออกไป เพราะเป็นต้นทุนที่สูงพอสมควร ซึ่งสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศดึงดูดนักกอล์ฟทั่วโลกนำเงินเข้าประเทศได้อีกมากมาย แล้วยังสามารถช่วยผู้ประกอบการสนามกอล์ฟไทยได้ด้วย

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์แจกกะรัตสมาชิกดับร้อนเพิ่ม5เท่า2แคมเปญ

 

แลกกระหน่ำ! สมาชิก คิง เพาเวอร์ แลกสิทธิ์ไม่ได้เต็มพิกัดสุดคุ้มจนลืมร้อนได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต  2 แคมเปญ ดังนี้

 

 แคมเปญที่ 1  “ช้อปให้ฉ่ำ” แล้วแลกกะรัตสุดคุ้มกว่าเดิม 5 เท่า โดยเปิดโอกาสพิเศษให้แลก 500 กะรัต รับ GIFT VOUCHER 2,500 บาท จากปกติ 500 กะรัต ใช้แทนเงินสดได้เพียง 500 บาทเท่านั้น ทุก ๆ การช้อปครบ 50,000 บาท ขึ้นไป (สุทธิ) ก็แลกได้เลย คนละ 1 สิทธิ์ / วัน แล้วเก็บไว้ช้อปครั้งถัดไปแบบสบายกระเป๋า

 

แคมเปญที่ 2 “ช้อปให้สุดดับร้อน” มอบสิทธิให้นักช้อปที่ทำสถิติมียอดใช้สูงสุด (Top Spender) 12 อันดับแรก เมื่อมียอดตลอดรายการครบ 500,000 บาท รับเพิ่ม 1.บัตรกำนัลที่พักโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด ฮูรูวัลลี มัลดีฟส์ 2 คน 3 คืน และรับตั๋วโดยสารเครื่องบินจาก เจแปน แอร์ไลน์ ลัดฟ้าพักผ่อนในแดนปลาดิบ 1 ที่นั่ง ไป -กลับ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น

 

ข่าวที่ 2 แจกโปรตัวท็อปคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ลดส่งท้ายมี.ค.50%

 

ชวนไปช้อป “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” กับมหกรรมจัดหนักพิเศษ TOP PICKS OF THE MONTH ลดไปเลยถึง 31 มีนาคม 2567 มี “โปรตัวท้อป” ลดจัดเต็มสูงสุดถึง 50% ช้อปแบบไม่ต้องยั้ง เพราะไม่มีขั้นต่ำ โดยไม่ต้องใส่โค้ด ก็กดช้อปได้เลย พร้อมช้อปไอเทมเด็ดๆจากแบรนด์ในดีลพิเศษ ลดเยอะมากกก ซื้อติดบ้านไว้เลยรับรองคุ้ม!  กดช้อปวันนี้รอรับของได้ที่สนามบินขาออกประเทศทุกการเดินทาง

  

นำโดย บิวตี้ ไอเทม ! รวมสินค้าสกินแคร์และน้ำหอม  ลดราคาให้คุณเลือกช้อปหลากหลายแบรนด์ อาทิเช่น MAC , ESTÉE LAUDER, LAB SERIES, TOM FORD, SHISEIDO , BOBBI BROWN, ELIZABETH ARDEN , CLINIQUE และอื่น ๆ อีกมากมาย กดสินค้าใส่ตะกร้าได้เลย  ลดสูงสุด 50%  

 

สินค้า ดิวตี้ฟรี สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน แล้วรับ 4 สิทธิ์ไปด้วย 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท  3.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์  และ 4.เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000

 

ข่าวที่ 3 ททท.ขานรับครม.นำทัวร์พะเยารุกขายยุโรป3สุข4เส้นทาง

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ภาคเหนือตอนบน 2 ใน 4 จังหวัด ททท.ขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเดินหน้าผลักดันการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา ด้วยแนวคิด 3 สุข “สุขกาย-สุขใจ-สุขวิถี” โดยจะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วนต่อยอดกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดทำประชาสัมพันธ์สินค้าเมืองไทยเที่ยวได้ทั้ง 365 วัน กระตุ้นตลาดนักเดินทางคนไทยและนำร่องบุกตลาดยุโรปทันทีตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

 

ททท.ขับเคลื่อนการตลาดสินค้าท่องเที่ยวพะเยาทันทีตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้น ได้แก่ “สุขกาย” จะส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวความสวยงามทางธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติภูลังกา พิชิตผาหัวเรือ บ่อ 12  “สุขใจ” เร่งเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ เจาะนักท่องเที่ยวตามรอยศรัทธา เช่น พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ ท้าวเวสสุวรรณ วัดอนาลโย พระเจ้าทันใจ วัดศรีชุม ตามหาเทพแห่งความรัก วัดนันตาราม อำเภอเชียงคำ และ “สุขวิถี” ยกระดับอาหารท้องถิ่นนำเสนออย่างสร้างสรรค์สู่อินเตอร์ เช่น ผลิตภัณฑ์ผลไม้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI เช่น ลิ้นจี่แม่ใจ ข้าวหอมมะลิพะเยา

 

ควบคู่กับสร้างการรับรู้วิถีชุมชนโดดเด่น แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมท้องถิ่นอย่าง ชุมชนบ้านบัว และชุมชนไทลื้อ อำเภอเชียงคำ ประเพณีท้องถิ่นต่าง ๆ สะท้อนวิถีชาวพุทธ ความเชื่อ ศรัทธา เช่น ประเพณีแปดเป็ง ไหว้สาจาปูจาพระเจ้าตนหลวง สืบสานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองพะเยา เวียนเทียนกลางกว๊านพะเยา งานสืบสานตำนานไทลื้อ เทศกาล “โฮ่มฮีต โตยฮอย ร้อยใจไทลื้อ” อันมีอัตลักษณ์เฉพาะพื้นที่เพียงแห่งเดียวชุมชนทำให้เป็นจุดขายเด่นเมืองพะเยา

 

ขณะนี้ ททท.ได้นำร่องดีไซน์โปรแกรมตัวอย่างการท่องเที่ยวแห่งความสุขครบแล้ว 4 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 อ้อมกอดพะเยาสุขกาย เส้นทางที่ พะเยาเสริมบุญ สุขใจ เส้นทางที่ 3 ของกิ๋นล้ำลำ เมืองพะเยา เส้นทางที่ 4 วิถีริมกว๊านพะเยา พร้อมเสนอขายร่วมกับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 5 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา รุกสู่ตลาดยุโรปที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักนานวันเฉลี่ย 18-20 วัน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 58,000-60,000 บาท/คน/ทริป แล้วต่อยอดส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ให้สามารถเที่ยวไทยได้ตามนโยบายรัฐบาลทั้ง 365 วัน

 

ระหว่างการประชุม ครม.สัญจร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ลงทุนเปิดบูธ “สุขทันที ที่เที่ยวพะเยา” ต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัย จังหวัดพะเยา เน้นนำเสนอตัวอย่างเส้นทางแห่งความสุข สุขกาย/ธรรมชาติ สุขใจ/ศรัทธา สุขวิถี/อาหารอร่อย นำเสนอรายละเอียด 4 เส้นทางท่องเที่ยวแห่งความสุข 1.อ้อมกอดพะเยาสุขกาย 2.พะเยาเสริมบุญ สุขใจ 3.ของกิ๋นล้าลา เมืองพะเยา 4.วิถีริมกว๊านพะเยา

 

โดยได้จำลองบรรยากาศ นำชุมชนต้นแบบเวียงลอ ท่องเที่ยวชุมชนด้านวัฒนธรรม ตัวอย่างงานประเพณี สาธิตงานจักสานไม้ไผ่ จำหน่ายซาลาเปาพญาลอ ของที่ระลึกชุมชน เชื่อมโยงนิทรรศการด้วยการดีไซน์ใช้เส้นทางในหอประชุมดึงดูดทั้ง ครม.และผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ เดินเข้ามาสัมผัสกลิ่นอายการท่องเที่ยวพะเยาอย่างลึกซึ้งได้ประสบการณ์เชิงคุณค่า สร้างความเข้าใจเพื่อจะได้ร่วมกับ ททท.บูรณาการท่องเที่ยวเติบโตเป็นรูปธรรมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งในอนาคตได้ด้วย

 

นางสาวสมฤดี จิตรจง  รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ตอนนี้มีสายการบินสนใจเรื่องการเปิดใช้สนามบินพะเยา เพราะสามารถรูปแบบเครื่องบินขนาดเล็กโดยใช้โมเดลเดียวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมการท่องเที่ยวกับสงขลา และปีนัง มาเลเซีย ซึ่งจะเหมาะสมกับพื้นที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือเวลเนสของได้พะเยา ซึ่งมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยาพร้อมรองรับผู้ใช้บริการจากจังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว ที่มีแนวโน้มสนใจเลือกมารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น

 

ส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคเหนือ ซึ่งในระยะหลังนี้พบไทยมีฤดูฝนสั้นลง จึงต้องเผชิญปัญหาหมอกควัน PM 2.5 มาเร็วและมีระยะเวลายาวขึ้น ททท. จึงได้วางแผนร่วมกับพันธมิตรสายการบินส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มการขายโครงการ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” ช่วงต้นฤดูฝนระหว่างพฤษภาคม-มิถุนายน และปลายฤดูฝน เพิ่มโอกาสและช่วงเวลากระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

สถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมในพะเยา ปี 2566 มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.92 %จากปี 2565 มีนักท่องเที่ยวผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้น 1,009,648 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.29  % เมื่อเทียบกับปี 2565 และเพิ่มขึ้นกว่า  50 % จากปี 2562 แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวไทย 966,706 คน-ครั้ง สูงสุด 5 อันดับแรก มาจาก เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง กรุงเทพฯ และ น่าน และต่างชาติ 42,942 คน-ครั้ง สูงสุด 5 อันดับ มาจาก จีน ฝรั่งเศส อเมริกา ญี่ปุ่น สปป.ลาว  

 

ข่าวที่ 4 บางจาก-กรมอนามัยดึงร้านดังไม่ทอดซ้ำร่วมทำน้ำมันSAF

 

นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด เปิดเผยว่า บางจากร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” กับทางแพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย  พันธมิตรใหม่เข้ามาช่วยกันสร้างมาตรฐานให้ผู้ประกอบการใช้น้ำมันปรุงอาหารอย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย คำนึงถึงสุขภาพผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม โดยมีบริษัทขนาดใหญ่แถวหน้าของเมืองไทยพร้อมสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่ เพื่อนำน้ำมันที่ได้มาใช้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานการบิน (SAF :Sustainable Aviation Fuel) จะเริ่มผลิตได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2567 เป็นต้นไป

 

ส่วนโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” มุ่งรณรงค์กลุ่มธุรกิจอาหารไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำสร้างทางเลือกที่ดีด้านการขายให้ประชาชนได้บริโภคอาหารปลอดภัย โดยจะมอบประกาศนียบัตรไม่ทอดซ้ำให้ผู้ประกอบการที่ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำแล้วนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาขายให้ทาง บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด ในกลุ่มบริษัทบางจาก เพื่อนำไปผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF เป็นอีกช่องทางสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการอาหารปลอดภัย พร้อมทั้งช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

 

อีกทั้งยังได้จัดเสวนา “ไม่ทอดซ้ำ ทำ SAF” โดยนายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บางจากฯ แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัยนายพศุตม์ บานแย้ม “คุณชายหมูกรอบ” และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์สายสิ่งแวดล้อมและอาหาร นางสาวพิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์ “@PearIsHungry” มีนางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บางจากฯ ดำเนินรายการและนำเสนอโครงการผลิต SAF เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ แห่งแรกในไทยใช้พื้นที่บริเวณโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง พร้อมแนะนำโครงการไม่ทอดซ้ำ ย้ำถึงความสำคัญเรื่อง “อาหารทอดปลอดภัย” และสาธิตวิธีตรวจสอบคุณภาพน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหาร

 

ภายในงานแบรนด์อาหารพันธมิตร ได้แก่ S&P มาดามแม่ในเครือนารา ไก่ห้าดาว Hong Bao ไก่ทอดเดชา กล้วยแขกพระราม 5 ตัวแทนร้านอาหารชื่อดังที่อยู่ในสถานีบริการบางจากหลายสาขา นำอาหารทอดประเภทต่าง ๆ มามอบความอร่อยให้ผู้ร่วมงาน เป็นร้านตัวอย่างที่ร่วมรณรงค์ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ร่วมสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคปรุงอาหารจากน้ำมันปลอดภัย ส่งต่อสุขภาพที่ดี สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในเศรษฐกิจหมุนเวียน - เศรษฐกิจชีวภาพ - เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy)  สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ร่วมโลกลดร้อนและสร้างโลกที่ยั่งยืน   

 

            ช่วงที่ 2 ปลายเดือนนี้รีบเลยไปเช็คอิน  “เที่ยวหมู่บ้านภาคใต้” ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 ยกมาไว้ที่ ฮอลล์ 1 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรอยแรงทุกอย่างทั้ง สุข สนุก ช้อป ชม 5 วัน เริ่ม 28 มี.ค.-1 เม.ย.2567 ต่อด้วย “5วิธีดูแลสมองให้แข็งแรง” และข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “TCEBดันไทยฮับ” จัดงานเทศกาลโลก ข่าวที่สอง “ททท.ดึง KOLsทั่วเอเชีย” ปั้นคอนเทนท์ทำยอดปี67 ถึงเป้าหมาย 13.4 ล้านคน

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยว #หมู่บ้านภาคใต้เทศกาลเที่ยวเมืองไทย67

 

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 กำลังเริ่มขึ้นแล้ว เตรียมพบกับเทศกาลเที่ยวเมืองไทย Thailand Tourism Festival : TTF 2024  ที่ “หมู่บ้านภาคใต้”  เตรียมคัดสรรแหล่งท่องเที่ยวมานำเสนอละลานตาในกรุงถึง 5 วัน วันที่ 28 มีนาคม -1 เมษายน 2567 ไปเช็คอินได้ที่ ฮอลล์​ 1-4 ชั้น​ G “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” รอต้อนรับทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม ออกมาสัมผัสประสบการณ์ความงดงามแห่งแดนใต้ยกมาไว้ในกรุงงานนี้งานเดียว ครบทั้งอาหาร วัฒนธรรม สินค้าโอท็อป คอนเสิร์ต กิจกรรมสาธิตเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้” ชวนนักเดินทางออก มา “หรอยแรง” ที่หมู่บ้านภาคใต้ ตื่นตากับความอลังการ ในโซน #หมู่บ้านภาคใต้   อิ่มอกอิ่มใจเหมือนได้ #หลบใต้บ้านเรา เต็มอิ่มไปกับการท่องเที่ยวใรูปแบบใหม่ ลิ้มชิมรสอาหาร วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงเอกลักษณ์พื้นเมือง สนุกทุกวัน ชวนมาเช็คพิกัดท่องเที่ยวเด่น ๆ  ในงาน

 

พิกัดที่ 1 ล่องใต้ไปเที่ยวชมสถานที่อันงดงามโซน “Virtual หรอย Reality” นำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่และแว่นตา VR180 3D พื้นที่แสดงจอ Interactive เสมือนได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่จริง  ข้อมูลท่องเที่ยวภาคใต้ และข้อมูล Southern’s Hall of fame แหล่งท่องเที่ยวรางวัลระดับโลก

 

พิกัดที่ 2 โซนหรอย ๆ ในหมู่บ้านภาคใต้ เริ่ม

โซนที่ 1  พี่บ่าวข่าวสาร / นุ้ยถาม-บ่าวตอบ” : จุดให้ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวภาคใต้ โดยจำลองสถาปัตยกรรมจากวัดชลธาราสิงเห จ.นราธิวาส ที่มีรูปแบบเรือนปั้นหยา

 

โซน 2 "หลาด Craft…ลองแลต่ะ” : พื้นที่สำหรับกิจกรรมสาธิต DIY ผลิตภัณฑ์จากภาคใต้

โซน 3 “หลาดงามหนัด…เสน่ห์ปักษ์ใต้” : ร้านผ้า-เครื่องแต่งกาย แฟชั่น ร้านตัดเสื้อชั้นนำของภาคใต้

 

โซน 4“หลาดลองแล…เริน OTOP ช้อปของใต้” : จำหน่ายสินค้าชุมชน / สินค้า OTOP ของภาคใต้

 

โซน 5 “หลาดคลายเส้น…ได้แรงอก!” : ร้านนวด/สปา จากภาคใต้

 

โซน 6 "หลาดหรอยเพนิ" : จำหน่ายอาหารปักษ์ใต้แท้ ร้านดัง มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ กว่า 40 ร้าน คอโรตี ชาชักห้ามพลาด!

 

พิกัดที่ 3 แลนด์มาร์กและจุดถ่ายภาพ ปักหมุดที่ 1.หอนาฬิกา แบบจำลองเมืองเบตง จ.ยะลา 2.ป้ายหมู่บ้าน “Southern Village” ขนาดใหญ่ ใช้ตัวอักษรสะท้อนอัตลักษณ์ภาคใต้ชัดเจน อาทิ ลายผ้าปาเต๊ะ ลายสานกระจูด 3.จุดให้ข้อมูลข่าวสาร ที่จำลองมาจากสถาปัตยกรรมกุฏิอดีตเจ้าอาวาส จากวัดชลธาราสิงเห จ.นราธิวาส

 

รวมทั้งมีจุดถ่ายภาพกระจายอยู่ตามโซนต่าง ๆ มีอัตลักษณ์เฉาะของพื้นที่ต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วหมู่บ้านภาคใต้ ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เช่น อาทิ ว่าวควาย กรงนกหัวจุก ปลากุเลา และอื่น

 

พิกัดที่ 4 กิจกรรมไฮไลท์ สนุกไร้ขีดจำกัดได้ตรง 1.เวที หรอย เอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ จัดเต็มกับศิลปินชั้นนำ ที่จะสร้างความสนุกสนานครึกครื้นในหมู่บ้านฯ ไม่ว่าจะเป็น เอกชัย ศรีวิชัย (เต็มวง), โดม เดอะสตาร์ เป็นต้น เเละการแสดงวัฒนธรรมอีกมากมายรับประกันความหรอย! 2.ชมการแสดงแสงสี ณ หอนาฬิกาเบตง ที่จะมีเซอร์ไพรส์ทุกๆ 1 ชั่วโมง 3.ลานเวียนครก จำลองกิจกรรมรำวงเวียนครก จ.นครศรีธรรมราช พร้อมวงดนตรีสด เเละแดนซ์เซอร์จัดเต็มทุกรอบ ในทุกวัน

 

สุขภาพ –5วิธีดูแลสมองให้แข็งแรง“กิน/นอน/ออกกำลัง/ลดเครียด

 

สมองเป็นอวัยวะในร่างกายที่สำคัญอย่างมาก เปรียบเหมือนกองบัญชาการควบคุมระบบต่าง ๆ ในร่างกายมากมายหลายระบบ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างดี รวมไปถึงหมั่นบริหารสมองอยู่เสมอ เพื่อให้สมองแข็งแรงนั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

1. โภชนาการ ดูแลให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันโคเลสเตอรอลสูง และทานอาหารเช้าทุกวัน เพราะอาหารเช้าจะเป็นตัวช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของสมอง

2. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะสมองจำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทั้งในด้านการใช้ความคิด และการตื่นตัวของสมอง

 

3. ฝึกสมอง ร่างกายที่แข็งแรงจำเป็นต้องได้รับการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่นเดียวกับสมองของเรา การใช้สมองในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงเกมที่ใช้สมอง เช่น หมากกระดาน เกมคำศัพท์ เกมประเภทตัวเลข ล้วนเป็นการบริหารสมองที่ดีทั้งสิ้น

 

4. ออกกำลังกาย เพราะคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำนั้น จะช่วยให้สมองตื่นตัว และทำให้ความจำดีขึ้น ควรออกกำลังกายให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดอย่างเต็มที่ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง การออกกำลังกาย จะมีส่วนช่วยในการทำงานของสมองส่วนของการตัดสินใจ และความจำด้วย

 

5. จัดการความเครียดสมองของเราทำงานได้ดีในขณะที่เรามีความสุข พยายามลดภาวะความเครียด ผ่อนคลายด้วยการทำสมาธิ หางานอดิเรก หรือไปเที่ยวพักผ่อนเมื่อรู้สึกว่ามีความเครียดมากจนเกินไป

 

เพียงแค่ 5 วิธีง่าย ๆ แค่นี้ก็เป็นการดูแลให้สมองแข็งแรง และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –TCEBดันไทยฮับจัดเทศกาลโลกเพิ่มไมซ์2.3ล้านคน

 

            นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/ทีเส็บ” เปิดเผยว่า ปี 2567 ทีเส็บจะใช้อุตสาหกรรไมซ์เพิ่มแผนการตลาดยกระดับงานเทศกาลในไทยให้เป็นจุดหมายของการจัดงานระดับโลก ล่าสุดจับมือพันธมิตร 4 สมาคม เดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติมุ่งใช้ต้นทุนวัฒนธรรมยกระดับเศรษฐกิจไทย  สร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าดึงกลุ่มผู้เข้าร่วมงานเทศกาลทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไทย เป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก5 ปีที่ผ่านมา นำงานมาไทยได้แล้วกว่า 100 งาน สร้างเงินหมุนเวียนกว่า 50,000 ล้านบาท

 

ปีงบประมาณ 2567 ทีเส็บมีแผนสนับสนุนการจัดงานอีกกว่า 30 งาน เพิ่มผู้เข้าร่วมไมซ์ในไทยและต่างประเทศ 2.3 ล้านคน สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,600 ล้านบาท ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทยขยายตัวมูลค่ากว่า 5,800 ล้านบาท

 

ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป จะเพิ่มแนวทางใหม่โดยใช้งานเทศกาลเป็นแพลตฟอร์มต่อยอดโอกาสทางธุรกิจเน้นจัดงานต่อเนื่องตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มผู้เข้าร่วมที่มีกำลังซื้อสูง สร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์ใหม่ (Constructive Ecosystem) ด้วย 3 เสาหลัก ประกอบด้วย

 

เสาที่ 1  มุ่งเพิ่มการประมูลสิทธิ์และดึงงานระดับโลกเข้ามาจัดในไทย เช่น งานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ปี 2572 ไทยได้รับคัดเลือกแล้วจะจัดที่ อำเภอคง จ.นครราชสีมา งานแข่งรถฟอร์มูลา อี เชียงใหม่ และเสนอไทยเป็นเจ้าภาพจัด  WorldPride ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเพิ่มเวทีเทศกาลโลก สร้างเครือข่ายบุคลากรไทยในกลุ่มธุรกิจ ซอฟท์ เซกเตอร์ส เปิดเวทีให้คนไทยมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

 

เสาที่ 2  สนับสนุนงานเทศกาลเชิงธุรกิจ ให้เป็นมากกว่าการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน โดยสร้างแพลตฟอร์มและโอกาสทางธุรกิจผ่านเครือข่ายอุตสาหกรรมเกี่ยวข้อง แล้วเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ควบคู่กับยกระดับบุคลากรและสร้างระบบนิเวศในอุตสาหกรรม

 

เสาที่ 3 เฟสติวัล อคาเดมี ทำต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปี ด้วยการสนับสนุนสมาคมพันธมิตรจัดกิจกรรมยกระดับสมาชิกสมาคมต่าง ๆ เช่น  Festival Creative Lab เป็นเวทีรวมตัวกันของผู้จัดงานเทศกาลในประเทศ แบ่งปันประสบการณ์ แรงบันดาลใจ สร้างหรือแลกเปลี่ยนเครือข่ายระหว่างกัน ทั้งในและต่างประเทศ

 

นายจิรุตถ์ กล่าวว่าทีเส็บใช้ทั้ง 3 เสาหลัก เป็นรากฐานสำคัญทำมาต่อเนื่อง เพื่อปรับภูมิทัศน์กับสร้างระบบนิเวศการจัดงานเทศกาลในไทยให้สอดรับกับเทศกาลของโลก พร้อมทั้งสร้างชื่อเสียงให้ประเทศผ่านการประมูลสิทธิ์ เพิ่มมิติทางธุรกิจการจัดงาน สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเนื้อหาที่โดดเด่นของไทย พัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมแข่งขันต่อได้ในเวทีโลก

 

ข่าวที่สอง -ททท.ดึงKOLsเอเชียทำคอนเทนท์ตามเป้า 13.4ล้านคน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้จัด Amazing Thailand Unbounded Experiences Media Fam Trip เชิญ KOLs อินฟลูเอนเซอร์ คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ Tiktok  27 ราย จากอาเซียนและเอเชียใต้ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน และอินเดีย เดินทางมาไทยร่วมสำรวจและทดสอบสินค้าบริการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ – นครปฐม ระหว่าง 20-22 มีนาคม 2567 เน้นใช้ซอฟท์ พาวเวอร์ สร้างแรงบันดาลใจผ่านเนื้อหาท่องเที่ยวไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์อะเมซิ่ง ไทยแลนดื โดยมี นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เป็นประธานกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน โดยเปิดบริเวณเรือสิริมหรรณพ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ต้อนรับคณะนี้

 

ช่วยสนับสนุนเป้าหมายปี 2567 ททท.เล็งเห็นตลาดอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ เติบโตต่อเนื่องต้องผลักดันทำให้เข้าเป้า 13.4 ล้านคน หลังจากปี 2566 มีนักเดินทางตลาดดังกล่าวมาเที่ยวเมืองไทยกว่า 12.59 ล้านคน คิดเป็น 44.75 % ของต่างชาติทั้งหมดมาไทย สร้างรายได้ 361,000 ล้านบาท โดยมีตลาดหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนรวยรุ่นใหม่หรือมิลเลนเนียล  กลุ่มครอบครัว  กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเฮลท์เวลเนส และท่องเที่ยวหรูหรา มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น เป็นกลุ่มคุณภาพใช้จ่ายสูง   

 

ส่วนการนำ KOLs มาไทยทริปพิเศษนี้ จะเน้นให้ช่วยขับเคลื่อนพลังการขาย ซอฟท์ พาวเวอร์ ได้แก่ 5F อาหาร แฟชั่น ฟิล์ม เฟสติทัล และศิลปะการต่อสู้ บวกเข้ากับกลุ่มวัฒนธรรมย่อย หรือ ซับ คัลเจอร์ ในท้องถิ่น ซึ่งทาง ททท.ภูมิภาคอาเซียนและเอเชียใต้ เชิญชวนกลุ่มดังกล่าวมาไทยโดยมีพันธมิตรการบินไทยกับไทยแอร์เอเชียสนับสนุนตั๋วเครื่องบินแต่ละประเทศ และกลุ่มโรงแรม ก็มี ฮิลตันไทย โรงแรมสลิล แคป แอนด์ แคนทารี สนับสนุนที่พัก

 

แล้ว ททท.จับมือกับ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) “AWC” จัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อค่ำคืนวันที่ 21 มีนาคม 2567  ที่เรือสิริมหรรณพ ในเอเชียทีค จัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยในตลาดต่าง ๆ ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยว สร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่พร้อมต้อนรับทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยมิตรไมตรี

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AWC กล่าวว่า ประทับใจวิสัยทัศน์ของ ททท. ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างแข็งแกร่ง วันนี้ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมต้อนรับคณะจากอาเซียนและเอเชียใต้ ด้วยการเปิดเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สถานที่ท่องเที่ยวมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เคยเป็นท่าเรือการค้าแห่งแรกของสยาม และใช้ “เรือสิริมหรรณพ” เรือใบสามเสาจำลองมากจากเรือทูลกระหม่อมเคยนำพาความรุ่งเรืองจากโพ้นน้ำตะวันตกมาเทียบที่ท่าเรือนี้เมื่อกว่า 140 ปีก่อน วันนี้ KOLs ทุกคนยังได้ร่วมสัมผัสวัฒนธรรมอาหารผ่านกิจกรรมการสาธิตทำอาหาร ไทย จีน และนานาชาติ

ส่วนโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ในเครือ AWC ก็รังสรรค์แต่ละเมนูจาก 3 ห้องอาหาร ได้แก่ 1.เดอะ สยาม ที รูมท์ 2.เอเชียทีค แอนเชี่ยนท์ ที เฮ้าส์ 3.เดอะ คริสตัลล์ กริลล์ เฮาส์ พร้อมสาธิตเครื่องดื่มโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บอกเล่าประสบการณ์แห่งความสุขในการท่องเที่ยวเอกลักษณ์พิเศษสะท้อนคุณค่า ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวในไทย

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.