วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

“สนธยา คุณปลื้ม”นายกเมืองพัทยา ถอดรหัส Old Townนาเกลือ(ตอนจบ) ผนึกEECผุด6โปรเจ็กต์หลักแปลงโฉมเมืองประมงสู่ท่องเที่ยวรับตลาดสากล

 “สนธยา คุณปลื้ม”นายกเมืองพัทยา ถอดรหัส Old Townนาเกลือ(ตอนจบ)

ผนึกEECผุด6โปรเจ็กต์หลักแปลงโฉมเมืองประมงสู่ท่องเที่ยวรับตลาดสากล

 เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #OldTownนาเกลือ #NEOPATTAYA


            หลังจาก “สนธยา คุณปลื้ม” นายกเมืองพัทยา เปิดใจให้สัมภาษณ์อย่างละเอียดถึงแผนยุทธศาสตร์ “NEO เกาะล้าน” ครั้งนี้จะมาอธิบายต่อเนื่องการยกเครื่อง “Old Town นาเกลือ” แปลงโฉมแต่ละพื้นที่ภายใต้ร่มใหญ่ NEO PATTAYA ปี 2564-2566 ต้อนรับการท่องเที่ยวอนาคตเปลี่ยนเศรษฐกิจเมืองตามแบบวิถีใหม่เทียบชั้นมาตรฐานสากลโลก

สนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนา “เมืองเก่า นาเกลือ : Old Town นาเกลือ” ปี 2564 มี 6 โครงการหลัก ๆ ที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ประกอบด้วย โครงการแรก “การก่อสร้างอาคารจอดรถสำหรับขายของฝากและส่งเสริมการท่องเที่ยว” ขนาด 5 ชั้น จอดได้ 239 คัน รถมอเตอร์ไซด์ 90 คัน ทำให้บริเวณลานโพ นาเกลือ เพียงพอรองรับรถของนักท่องเที่ยวซึ่งปัจจุบันไม่มีจุดจอดรถ ต่อไปจะได้สะดวกมากขึ้น ขณะนี้ทำประชาพิจารณ์ใช้ที่ดินกรมธนารักษ์ผ่านเรียบร้อยแล้ว คาดจะแล้วเสร็จปี 2565 ที่ได้นำงบประมาณต่อเนื่องปี 2563-2564 ราว 90 ล้านบาท มาใช้จัดซื้อจัดจ้าง โดยมีกรมธนารักษ์เจ้าของพื้นที่ให้เมืองพัทยาเช่าใช้  1.1 ไร่ ราคาเช่า 300,000 บาท/ปี ส่วนสำนักงานการคลังเมืองพัทยาเป็นผู้บริหารจัดการ



โครงการที่ 2 พัฒนาตลาดอาหารทะเลสดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตรงลานโพ ใช้งบ 4.5 ล้านบาท จะทำอาคารชั่วคราว มีบริการครบวงจร ปรุงอาหารและจัดที่นั่งให้รับประทานได้ มีร้านค้าขายของ 650 ร้าน ต่อไปจะจัดระเบียบใหม่เป็นโซนเลือกซื้อ

โครงการที่ 3 ปรับภูมิทัศน์สวนเฉลิมพระเกียรติ (ติดตลาดและลานจอดรถ นาเกลือ ลานโพ) เป็นโซนสีเขียว ใช้งบ 30 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ออกกำลังกายและพักผ่อน พื้นที่ประมาณ 3-4 ไร่ สร้างเส้นทางธรรมชาติ ใช้งบ 30 ล้านบาท สร้างทางเดินชมคลองนกยางซึ่งยื่นไปในทะเล โดยมีจุดชมวิวสะพานยาว

 


โครงการที่ 4 ปรับปรุงทัศนียภาพและลานกิจกรรม คลองนกยาง-คลองนาเกลือ ใช้งบ 10 ล้านบาท (อยู่ในงบประมาณบูรณาการ EEC)




โครงการที่ 5 เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าโกงกาง คลองนกยาง บูรณาการร่วมกับ EEC ใช้งบ 15.5 ล้านบาท จัดทำป่าโกงกางที่เหลืออยู่จุดเดียวของพัทยาอนุรักษ์ไว้ ประมาณ 1 ไร่ จะทำทางเดินและการรักษาสภาพป่า



โครงการที่ 6 สร้างท่าเทียบเรือประมงคลองนาเกลือ ความยาว 800 เมตร จากลานโพ ปัจจุบันใช้แพพลาสติก ส่วนของใหม่กำลังออกแบบ ตั้งงบประมาณปี 2564 รอใช้เงินจริงปี2566 ทำเป็นท่าเรือประมงพื้นบ้าน และท่าเรือท่องเที่ยว

ส่วนที่เหลือเป็นโครงการตามแผนงาน เช่น โครงการก่อสร้างประตูน้ำคลองนาเกลือ ป้องกันน้ำทะเลหนุนเมื่อต้องระบายน้ำ หลังจากศึกษาพบว่าช่วงน้ำทะเลหนุนไม่สามารถระบายจึงต้องทำประตูกับปั๊มน้ำระบายออกสู่ทะเลในอนาคตต่อไป โครงการอนุรักษ์อาคารไปรษณีย์เก่า ตรงเชิงสะพานยาว (ที่ดินของกรมธนารักษ์ ต้องขอใช้พื้นที่ ทุกวันนี้ปล่อยทิ้งไม่ได้ดำเนินการใช้ประโยชน์)

โดยภาพรวมแล้วปี 2564 จะใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาบริเวณนาเกลือค่อนข้างมาก โดยเฉพาะโครงการที่ใช้งบประมาณบูรณาการ EEC ได้อนุมัติงบให้เมืองพัทยาใช้บูรณาการร่วมกันปี 2564 รวมกว่า 120 ล้านบาท นั้นทางคณะกรรมการ EEC กับทางกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่มาดูแล้ว


 นายสนธยากล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของเมืองพัทยา ปี 2562 ต่อเนื่องปี 2563 ลดลงไปแล้วกว่า 30 % จึงต้องตั้งงบประมาณลดตามไปด้วยจากเดิมปีละ 2,000 ล้านบาท ปี 2564 เหลือ 1,600 ล้านบาท

ตามยุทธศาสตร์เมืองพัทยาจะทยอยทำตามยุทธศาสตร์ อีก 2 ปีหน้าจะได้เห็น NEO PATTAYA :พัทยา โฉมใหม่” จากนั้นอีก 2 ปีถัดไปจะได้เห็น “หาดจอมเทียน” กว้างขึ้นกว่าเดิม ส่วนการก่อสร้างท่าเรือ “NEO เกาะล้าน : เกาะล้าน โฉมใหม่” จะต้องทำสัญลักษณ์บริเวณท่าเรือหน้าบ้าน ระยะทางยาวกว่า 400 เมตร เช่นเดียวกันกับตรงท่าเรือหาดตาแหวน ช่วงมรสุมเรือไม่สามารถเทียบท่าได้

สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพัทยา จากปี 2562 ตลอดทั้งปี 14 ล้านคน แตกต่างจากปี 2563 ช่วงครึ่งปีแรกรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ นักท่องเที่ยวแทบเป็นศูนย์ ตลอดปีนี้ทำได้ 4 ล้านคน ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ขณะที่ห้องพักโรงแรมทั้งหมดทุกรูปแบบในพัทยามีอยู่ประมาณเกือบ 200,000 ห้อง จำนวน 2,000 แห่ง จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย 536 แห่ง

การจัดทำสถานีรถไฟฟ้ารางเบา เพิ่มสถานีใหม่ 60 ล้านบาท ของเดิม 70 ล้านบาท เพราะขยายพื้นที่หน้าสถานีเมืองพัทยา ปลายทางสถานีห้วยขวาง (พัทยา) ระยะทางอีก 12 กม.จึงต้องตั้งงบศึกษาโดยขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการเมืองพัทยา ถึงการใช้งบศึกษาก่อสร้างนอกเขตพื้นที่เมืองพัทยา ตรงตำบลห้วยใหญ่ แต่อย่างไรก็ต้องทำเพราะศึกษาไว้แล้ว



ด้วยอาณาเขตบริหารเมืองพัทยามีพื้นที่ 54 ตารางกิโลเมตร ดังนั้นการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าไปประมาณ 7 กม.ต้องศึกษาเพิ่มเติมจากห้วยขวางเข้าสู่เมืองพัทยา เดิมศึกษาไปแล้วมี 3 สาย คือ สีเขียว สีม่วง สีแดง ซึ่งสาย “สีเขียว” จากพัทยาเหนือ ปลายทางบาลีฮาย เป็นสายหลัก แต่พอย้ายไปเป็นปลายทางห้วยขวาง ก็ต้องเพิ่มเส้นทางผ่านเทพประสิทธิ์ปรับจากเฟส 2 เป็น เฟส 1 แทน

ส่วนรูปแบบการลงทุนจะให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ Public Private Partnership : PPP เอกชนที่ได้รับสัมปทานลงเงินพัฒนาส่วนเมืองพัทยาให้เช่าใช้ที่ดินส่งมอบแล้วตรงจุดที่ตั้งและโครงสร้าง เมื่อแล้วเสร็จเอกชนจะได้สิทธิ์บริหารพื้นที่การก่อสร้างทั้งหมด

นายสนธยากล่าวว่า การจัดทำโมเดลหลัก นำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติด้านการป้องกันควบคุมโควิด-19 ได้หารือกับทางผู้ประกอบการเอกชนท่องเที่ยวพัทยา โดยจะขอให้ทางรัฐบาลทำภูเก็ตโมเดล เมื่อสำเร็จก็จะนำมาปรับใช้กับเมืองพัทยา เพราะตอนนี้ถ้าจะผลักดันไปก็ยังไม่มีผลแต่อย่างใด



รวมทั้งขณะนี้ต่างชาติกลุ่มนักลงทุนจีนให้ความสนใจเข้ามาพัฒนา “สำนักงานให้เช่า :Office Building” ตะเวนหาที่ดินก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่สไตล์ใช้ประโยชน์ร่วมแบบครบวงจร หรือ Mix Use เพราะปัจจุบันส่วนใหญ่ในพัทยาจะมีแต่ที่อยู่อาศัย ทาวน์โฮม ต่อไปโซนบ้านเก่า ๆ และโซนเลียบทางรถไฟฟ้าอาจจะโดนกว้านซื้อเปลี่ยนไปทำสำนักงานให้เช่าต่อไป

ปัจจุบันเมืองพัทยาอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยว 70 % ต่อไปก็จะหันไปพึ่งพารายได้เพิ่มจากส่วนอื่นเข้ามาทดแทน ลดความเสี่ยงเมื่อเกิดผลกระทบจากท่องเที่ยวจะได้มีธุรกิจอื่น ๆ รองรับได้

ทั้งหมดเป็นแผนยุทธศาสตร์พัฒนาโครงการ “เมืองเก่า นาเกลือ” ภายใต้ร่มใหญ่ NEO PATTAYA ที่นายกเมืองพัทยาจะแปลงโฉม “พัทยา” และพื้นที่รอยต่อให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ ท่าเรือ รถไฟฟ้า บริการแบบครบวงจร สร้างเศรษฐกิจวิถีใหม่ สอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศและโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดTTE2025นำไทยสู่ Land of Art Toy เที่ยวเชิงสร้างสรรค์

  ททท.เปิดงาน TTE 2025 ดันไทยเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Land of Art Toy ททท.ลั่นใช้ TTE2025 นำไทยสู่ Land of Art Toy ปลุกเทรนด์เที่ยวเชิงสร...