วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Travelokaย้ำไทยฮ็อตแหล่งเที่ยวเชิงอาหารพุ่ง 80% กรุงเทพฯแชมป์สายกิน

 Travelokaย้ำไทยฮ็อตแหล่งเที่ยวเชิงอาหารพุ่ง 80%

กรุงเทพฯแชมป์สายกิน-ปี69ไทยก้าวสู่ฮับอาหารโลก



เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #Traveloka #ท่องเที่ยวเชิงอาหาร

Traveloka โชว์ผลสำรวจ “ไทย” ท่องเที่ยวเชิงอาหารยอดพุ่งกว่า 80ใน 100 อันดับแรก มียอดผู้ค้นหาข้อมูลบนแพลตฟอร์มสูงสุด ตอกย้ำปี’69 ไทยพร้อมก้าวสู่ศูนย์กลางอาหารโลก “กรุงเทพฯ” แชมป์ สายกินนิยม 3 หมวด “เมนูหรูมีศิลปะ-ดินเนอร์ครุยส์-รูฟทอปบาร์”

Traveloka เปิดผลการจัดอันดับล่าสุดเกี่ยวกับ “ประเทศไทย” ได้ย้ำเน้นเป็น “ศูนย์กลางด้านอาหารระดับโลก” เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ในฐานะ เมืองหลวงแห่งอาหาร” ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวสายกินทั่วภูมิภาคและทั่วโลกเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

การจัดอันดับ” ยอดค้นหาบนแพลตฟอร์ม “ทราเวลโลก้า : Traveloka พบการค้าหาสูงสุดถึงประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่ม กว่า 80 อันดับจาก 100 อันดับแรกที่ค้นหาสูงสุดในภูมิภาค “ไทย” มีผู้ค้นหามากสุด เป็นสัญญาณดีบ่งบอกถึงการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่แข็งแกร่ง และเป็นกลไกสำคัญผลักดันให้ไทยก้าวสู่ “ศูนย์กลางอาหารระดับโลก” ภายในปี 2569


@กรุงเทพฯ แหล่งแม่เหล็กดึงดูดความสนใจจากนักชิมทั่วโลก

กรุงเทพฯ ครองตำแหน่ง “ผู้นำการท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 60% ของประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มติดอันดับ Top 100 บน Traveloka อยู่ในกรุงเทพฯ โดยนักท่องเที่ยวสนใจมากที่สุด 3 หมวด ได้แก่

หมวดที่ การรับประทานอาหารสุดหรู ผสานศิลปะ และความหลากหลาย

นักท่องเที่ยวยุคใหม่มองหาประสบการณ์รับประทานอาหารที่แตกต่าง โดยเฉพาะหมวด “บุฟเฟต์ระดับพรีเมียม” โอมากาเสะ และ ชายามบ่าย ซึ่งสถานที่ยอดนิยมสูง ได้แก่ 1.Miracle Lounge สนามบินดอนเมือง 2.W Omakase 3.YOU&I Premium Shabu Buffet สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ 4.วิสดอม อินเตอร์เนชั่นแนล บุฟเฟต์ และ 5.คอปเปอร์ อควอเรียม

            หมวดที่ ดินเนอร์บนเรือสำราญ ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ พร้อมมื้อค่ำสุดโรแมนติกยามค่ำคืน ดึงดูดนักท่องเที่ยวชอบความหรูหรา เสิร์ฟอาหารชั้นเยี่ยมพร้อมวิวเมืองและดนตรีสด อย่าง เมอริเดียน ดินเนอร์ ครุยส์ รอยัลปริ๊นเซสครุยส์ เจ้าพระยาครุยส์ ไวท์ออร์คิดครุยส์ เจ้าพระยา ปริ๊นเซส ครุยส์



            หมวดที่ ร้านอาหารและบาร์บนรูฟท็อป วิวเส้นขอบฟ้าเมืองกรุงเทพฯ เติมเต็มบรรยากาศให้มื้อค่ำสุดพิเศษจากร้านอาหารและบาร์บนรูฟท็อป เสริ์ฟค็อกเทลสูตรเฉพาะ เมนูอาหารรังสรรค์พิเศษ มีร้านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ได้แก่ Sky on 20 เวอร์ติโก รูฟทอปโรงแรมบันยันทรี, ซีร็อคโค(Sirocco) โรงแรมเลอบัว เรดสกายรูฟท็อป  Axis & Spin และอื่น ๆ

            Traveloka ยังพบในจังหวัดอื่น ๆ ก็มี พัทยา เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และหัวหิน การท่องเที่ยวเชิงอาหารได้รับความสนใจต่อเนื่อง สะท้อนถึงเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวสายกินให้เลือกอย่างหลากหลายทั่วประเทศ

 @ประเทศอื่นติดอันดับเที่ยวเชิงอาหาร Top 100

เวียดนาม ติดอันดับ 2  นำโดย เมืองเว้ กับ นิงห์บิง อาหารท้องถิ่นและบุฟเฟต์พื้นบ้านได้รับความนิยมมาก

ญี่ปุ่น และ มาเก๊า อันดับ 3  “ญี่ปุ่น” เด่นเรื่องยากินิกุ กับบาร์บีคิวระดับไฮเอนด์ในโตเกียว ส่วน “มาเก๊า”เด่นเรื่องอาหารลูกผสมระหว่างวัฒนธรรมโปรตุเกสและจีน

อินโดนีเซีย ลาว ฝรั่งเศส กวม และฮ่องกง ติดอันดับด้วยเช่นกัน นักท่องเที่ยวสนใจอาหารเฉพาะถิ่น บ่งชี้แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงอาหารกระจายตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก

@เบื้องหลังยุทธศาสตร์ด้านอาหารของไทย

“ประเทศไทย” ครองอันดับหนึ่งในจุดหมายปลายทางดึงดูด “นักท่องเที่ยวสายกิน” ต่อเนื่อง มีผู้คนจำนวนมากตั้งใจเดินทางมาสัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมอาหารโดยเฉพาะ ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนหนึ่งในการเดินทาง สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์รัฐที่มุ่งผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับโลก ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ไว้เกิน 7 แสนล้านบาท (ประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ)

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% โดยมีหลายส่วนร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าโปรโมทจริงจังเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยจัดแคมเปญ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” ช่วงฤดูฝน ระหว่างมิถุนายน–กันยายน 2568 ส่งเสริม 55 เมืองน่าเที่ยว ผ่านธีมต่าง ๆ เช่น Gastro Nomad #ตามหารส เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่หลงใหลการกินเดินทางท่องเที่ยว เข้าถึงผู้บริโภคกว่า 10 ล้านคนสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศกว่า 500 ล้านบาท

 

 

ททท.ยืดอกขออภัยวันแรก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง ”ขัดข้อง 2 ก.ค.ลุยแก้ไขแล้ว-2ก.ค.เหลือ 4.99 แสนสิทธิ์

 ททท.ยืดอกขออภัยวันแรก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง ”ขัดข้อง

2 ก.ค.ลุยแก้ไขแล้ว-โชว์ยอดจองได้อีกอื้อ 4.99 แสนสิทธิ์

 


เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #เที่ยวไทยคนละครึ่ง  

ผู้ว่าฯ ททท.นำทีมขออภัย “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียนวันแรกขัดข้อง 1 ก.ค.68 แจงปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไขใหม่แล้ว ลุยต่อ 2 ก.ค.68 บ่ายโมงยอดเหลือให้ใช้อีกเพียบ 4.99 แสนสิทธิ์ คนแห่เที่ยว 5 จังหวัดแรก ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ขออภัยประชาชนเรื่องการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เกิดปัญหาระบบขัดข้องตั้งแต่เริ่มวันแรก 1 กรกฎาคม 2568 ซึ่งได้รับความสนใจจำนวนมากถึง 5.9 ล้านคน โดยได้พปัญหาหลัก 2 เรื่อง ได้แก่ 1.คอขวดการรองรับผู้ใช้งาน เพราะ ททท.ได้ออกแบบให้ผู้ลงทะเบียนต้องยืนยันตัวตนผ่านระบบ ThaID  ควบคู่กับลงผ่านแอปพลิเคชัน Amazing Thailand เพื่อเพิ่มความโปร่งใส ป้องกันปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเรื่องการสวมสิทธิ์ ครั้งนี้ทั้ง 2 แอปพลิเคชั่นมีระบบความเร็วรองรับผู้ใช้งานไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดปัญหากับลงทะเบียนล่าช้าดังกล่าว เบื้องต้นได้แก้ไขบางส่วนแล้ว

ททท. ต้องขออภัยเรื่องความสะดวกทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตอนนี้ได้เร่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ และทำให้ระบบเสถียรและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้ใช้สิทธิ์ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” อย่างเต็มที่

วันนี้อังคารที่ 2 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์การลงทะเบียนโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” สรุปผลช่วง13.00 น. มีตัวเลขน่าสนใจดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ลงทะเบียนได้แล้ว  38,942 ราย ได้แก่ กลุ่มแรก ลงทะเบียนกรอกเอกสารสำเร็จ 3,885 ราย กลุ่มสอง สมัครแต่ยังยื่นเอกสารและกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน 35,057 ราย

กลุ่มที่ 2 ประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนสำเร็จ 373,638 ราย ใช้สิทธิ์จองที่พักและชำระเงินแล้ว 862 สิทธิ์ ตอนนี้สิทธิ์คงเหลือ 499,148 สิทธิ์ แบ่งเป็นเมืองหลัก  299,489 สิทธิ์ เมืองน่าเที่ยว 199,659 สิทธิ์



“จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม” มีผู้ลงทะเบียนเลือกใช้ในโครงการนี้เรียงตามลำดับ ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.สุราษฎร์ธานี 3.กาญจนบุรี 4. อ่างทอง    5.นราธิวาส เลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ชลบุรี 2.ประจวบคีรีขันธ์ 3.เชียงราย 4.เชียงใหม่ 5.น่าน

สำหรับ การ “แก้ไขระบบลงทะเบียนล่าช้า” เบื้องต้น ททท.ได้ปรับโฟลว์ระบบให้สามารถข้ามหรือ "Bypass" การยืนยันตัวตนผ่าน ThaID เพื่อบรรเทาความไม่สะดวกแก่ผู้ใช้งานทันที แล้วให้ผู้ลงทะเบียน “กรอกข้อมูลที่จำเป็น” บนแอปพลิเคชันซึ่งยัง “จำเป็นต้องยืนยันตัวตน” ผ่านระบบ ThaID ตอนเช็กอินเข้าพักโรงแรมที่เลือกใช้สิทธิ์

ดังนั้น ททท. จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้สิทธิลงทะเบียนทุกคน เมื่อทำทุกขั้นตอนในระบบสำเร็จแล้ว ในภายหลังสามารถทยอย “ยืนยันตัวตนผ่าน ThaiID” ได้ ก่อนถึงวันเดินทางจริง





“สิทธิประโยชน์” โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เปิดให้ประชาชนทยอยลงทะเบียนตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ทาง “รัฐบาลจะสนับสนุน”

ส่วนที่ 1 ค่าที่พัก ใน “เมืองท่องเที่ยวหลัก” 22 จังหวัด แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงวันธรรมดา 50% ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน ช่วงวันหยุด สนับสนุน 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน กรณีใช้สิทธิ์ใน “เมืองน่าเที่ยว” 55 จังหวัด รัฐบาลสนับสนุนทั้งวันธรรมดาและวันหยุดเต็มที่ 50%

ส่วนที่ 2 รัฐบาลสนับสนุนอีโวเชอร์หรือคูปอง ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายทำกิจกรรมท่องเที่ยว 50% มูลค่า 500 บาท/สิทธิ์

สำหรับ “ปัญหาผู้ลงทะเบียนได้รับ OTP ล่าช้าที่พบวันแรก 1 กรกฎาคม 2568 เนื่องจากการเปิดใช้โดเมนอีเมลใหม่ verify.tat.or.th และจัดส่งอีเมลปริมาณสูงเพื่อยืนยันตัวตนจำนวนมากทันที ทำให้เกิดระบบป้องกันสแปมของผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่ จึงอีกปัจจัยที่ทำให้รับอีเมลยืนยันตัวตนล่าช้ากับผู้ใช้บางราย



“จัดการตั้งค่าระบบ” ขณะนี้ ททท. ได้จัดการตั้งระบบภายในเครื่องมือ Google Workspace และ Google Postmaster ทำให้ระบบของผู้ให้บริการอีเมลเริ่มทยอยปลดล็อกรับอีเมลจาก @tat.or.th ได้แล้ว ประเมินได้จากมีจำนวนผู้ลงทะเบียน “ผ่าน” เข้ามายืนยันตัวตนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

การเลือกใช้ Amazing Thailand เป็นเลือกแอปพลิเคชันลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” แทนการพึ่งพาระบบของธนาคาร เพราะ ททท. มี 3 เป้าหมายหลัก คือ 1.ต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์นำไปใช้วางแผนและทำการตลาดเชิงรุก ตอบสนองพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในอนาคตได้ตรงจุด 2.พัฒนายุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วย Data-Driven Strategy 3.ขยายโอกาสที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Stakeholders’ Ecosystem) ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4.ช่วยให้งบประมาณที่ภาครัฐอุดหนุนลงทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้งานระบบแอปพลิเคชัน ททท. อาจยังมีข้อติดขัดบางส่วน และส่งผลให้การลงทะเบียนล่าช้า บริการไม่สะดวก

ททท.พร้อมเปิดลงทะเบียนและให้ภาคธุรกิจกับประชาชนได้ใช้สิทธิ์ลงทะเบียนและใช้บริการโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2568 ติดตามข้อมูลพร้อมขั้นตอนใช้สิทธิ์ทางเว็บไซต์ https://www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com   

“วิธีลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ” ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand หรือ https://www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com สอบถามข้อมูลเพิ่มโทร. 02-483-0963 ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-20.00 น. หรือทางแอปพลิเคชัน Line Official Account: @ThaiTravelCopay

 

 

AOT ตีปีกครม.ไฟเขียวคัดเอกชนทำโครงการ9,000 ล้านธุรกิจลานจอดอุปกรณ์ภาคพื้นสุวรรณภูมิ

 

AOT ตีปีกครม.ไฟเขียวคัดเอกชนทำโครงการ9,000 ล้าน

เปิดประมูลธุรกิจลานจอดอุปกรณ์ภาคพื้น “สุวรรณภูมิ”

    AOTได้ไฟเขียว ครม.ก.ค.68 เปิดประมูลบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นสุวรรณภูมิกว่า 9,000 ล้าน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #AOT #สุวรรณภูมิ

AOT ได้ไฟเขียว ครม.1 ก.ค.68 อนุมัติเดินหน้าเลือกเอกชนให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นสุวรรณภูมิมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท เริ่มประกาศเชิญชวนปลายปี’68 ลั่นทำตาม พรบ.ร่วมทุน พ.ศ.2562ลุยเพิ่มประสิทธิภาพบริการ รองรับอนาคตอุตสาหกรรมการบินและผู้โดยสารเข้าออกไทยโต

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) “AOT รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 มีมติอนุมัติให้ AOT เดินหน้าคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น (Ground Service handling :GSH) และการให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ใน “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ของผู้ประกอบการรายที่ 2 มูลค่ารวมกว่า 9,000 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ใช้รูปแบบ PPP Net Cost เป็นการคัดเลือกเข้ามาทดแทนผู้ประกอบการรายเดิม ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาเดือนกันยายน 2569

AOT จะดำเนินการตามขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ต่อไป คาดจะประกาศเชิญชวนผู้สนใจยื่นข้อเสนอได้ช่วงปลายปี 2568 เป็นต้นไป



          เกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการรายที่ 2 จะได้ก่อนหมดสัญญารายเดิมทําให้การให้บริการภาคพื้น ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีศักยภาพและมีขีดความสามารถรองรับสายการบินซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้ต่อไป และยังเพิ่มทางเลือกให้สายการบิน ลดความเสี่ยงของท่าอากาศยานด้านการดําเนินงาน ส่งผลให้คุณภาพการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ เป็นแนวทางสนับสนุน การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการบินของไทยกำลังเติบโตในระยะยาว

 

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

“เอมิเรตส์”เปิด"พรีเมี่ยมอีโคA380"โฉมใหม่กรุงเทพ-ดูไบชิงตลาดโลก

 “เอมิเรตส์”เปิดพรีเมี่ยมอีโคA380โฉมใหม่กรุงเทพ-ดูไบ

ลุย 5 บริการเด่นชิงผู้โดยสารเข้าออกไทย-ตลาดทั่วโลก

 

เอมิเรตส์เปิดตัวที่นั่งชั้นโฉมใหม่ Premium Economy A380 บริการผู้โดยสารเส้นทางบิน ไป-กลบ กรุงเทพ-ดูไบ 

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #Emirates #PremiumEconomyA380

ฮือฮา !! เอมิเรตส์เปิดตัวที่นั่งโฉมใหม่ “พรีเมี่ยม อีโคโนมี” แอร์บัส A380 ไป-กลับ “กรุงเทพฯ-ดูไบชูบริการ 5 จุดเด่น ชิงผู้โดยสารบินใกล้ ไกล ปลายปี’68 ปรับโฉมเพิ่มในฝูงบินโบอิ้ง B777s ครองแชมป์ตลาดโลก

            “เอมิเรตส์” สายการบินระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเปิดเที่ยวบินแรกแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไป-กลับ กรุงเทพ-ดูไบ รหัสบิน EK372/373) ด้วยฝูงบินโฉมใหม่แอร์บัส A380 ซึ่งมีห้องโดยสารชั้น “พรีเมี่ยม อีโคโนมี : Premium Economy” ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก เมื่อผู้โดยสารเลือกใช้บริการเที่ยวบินเหล่านี้จะได้สัมผัสประสบการณ์ความหรูหราเหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่นั่งชั้นดังกล่าว ล่าสุดเอมิเรตส์ปรับโฉมตกแต่งภายในใหม่คว้ารางวัลมาแล้ว

            “ห้องโดยสารชั้นพรีเมี่ยม อีโคโนมี” เอมิเรตส์ ฝูงบินแอร์บัส A380 มี 5 จุดเด่น ได้แก่ 1.พื้นที่วางขากว้างถึง 40 นิ้ว 2.ปรับเอนที่นั่งได้ถึง 8 นิ้ว 3.จัดวางที่นั่งแบบ 2-4-2 ด้วยเบาะหนังสีครีมพร้อมเบาะพักขานุ่มสบาย 4.เบาะพักศีรษะสามารถปรับระดับได้ตามความต้องการ 5.มีโต๊ะไม้แบบพับเก็บได้ใช้นั่งทำงานหรือรับประทานอาหารได้ อย่างเพลินเพลินกับเมนูอาหารประจำภูมิภาคจะเสิร์ฟมาบนชุดภาชนะกระเบื้องจาก Royal Doulton พร้อมเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย เช่น สปาร์กลิงไวน์จาก Chandon ไวน์จากห้องโดยสารชั้นธุรกิจ เหล้าลิเคียวร์ชนิดต่าง ๆ ช็อกโกแลต



“การจัดสัดส่วน” ห้องโดยสารชั้น พรีเมี่ยม อีโคโนมี ดีไซน์ให้อยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องบินแอร์บัส A380 ยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการชั้นนี้ ได้รับสิทธิพิเศษในการลงจากเครื่องบินก่อน รวมทั้งมีอุปกรณ์ความบันเทิงบนเครื่องครบ เช่น หน้าจอแบบมีความละเอียดสูงขนาด 13.3 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อผ่านหูฟังบลูทูธ แล้วผู้โดยสารยังสามารถใช้ Wifi ความเร็วสูงในเครื่องเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดการเดินทาง

“เส้นทางบินระยะไกล” ผู้โดยสารจะได้รับชุดของใช้ส่วนตัวแบบรักษ์โลกบรรจุอยู่ในกระเป๋า ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ผู้โดยสารสามารถนำกลับไปใช้ซ้ำได้ด้วย  


“นายโมฮัมเหม็ด อัล วาเฮดิ” ผู้จัดการสายการบินเอมิเรตส์ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เอมิเรตส์ภูมิใจในการเปิดตัวชั้นโดยสารระดับพรีเมี่ยม อีโคโนมี ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ - ดูไบ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รองรับนักเดินทางเข้าออกไทยเป็นตลาดสำคัญ และการเปิดตัวยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในการเดินทางต่อเนื่องของลูกค้าเข้าออกเมืองไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบภายในหรูหรามาพร้อมความสะดวกสบายอันปราณีต ชั้นโดยสารใหม่ของเอมิเรตส์ จึงเป็นตัวเลือกเติมเต็มความต้องการการบริการระหว่างห้องโดยสารชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจได้อย่างลงตัว เหมาะกับการเดินทางระยะกลางและระยะไกล เป็นการเปลี่ยนแปลงวงการบิน ที่ช่วยให้ผู้โดยสารที่เดินทางจากไทยมีตัวเลือกสะดวกสบายมากกว่า
ที่เคยมีมาก่อนนั่นเอง



การเปิดตัวในไทย” ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการเร่งขยายบริการเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A380 และโบอิ้ง B777s โดยเอมิเรตส์ได้ปรับโฉมภายในใหม่ทั้งหมด คาดมีเกือบ 50% ที่ให้บริการเครือข่ายเส้นทางการบินทั่วโลกที่จะให้บริการด้วยเครื่องบินที่ระดับการตกแต่งภายในใหม่ภายในสิ้นปี 2568 พร้อมมอบประสบการณ์บริการ “พรีเมี่ยม อีโคโนมี” อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยบรรยากาศภายในห้องโดยสารรูปแบบใหม่

“เอมิเรตส์” วางแผนจะเปิดตัวเครื่องบิน A380 โฉมใหม่ เส้นทางบินสู่ ฮ่องกง เมืองนีซ และเมืองเพิร์ท (ออสเตรเลีย) พร้อมเปิดตัวเครื่องบินโบอิ้ง B777s โฉมใหม่ เส้นทางบินสู่ กรุงมาดริด กัวลาลัมเปอร์ จังหวัดภูเก็ต และเมืองแฟรงก์เฟิร์ต แล้วสิ้นปี 2568 ฝูงบินโฉมใหม่นี้ยังอยู่ในแผนเส้นทางบินสู่กรุงดับลินด้วย

ผู้โดยสารจองเที่ยวบินที่บริการโฉมใหม่ด้วยเครื่อง A380 เลือกชั้นโดยสารพรีเมี่ยม อีโคโนมี
ได้ทางเว็บไซต์ emirates.com หรือผ่านบริษัทตัวแทนการขายตั๋วโดยสารของเอมิเรตส์ทุกแห่ง

 

 

Travelokaย้ำไทยฮ็อตแหล่งเที่ยวเชิงอาหารพุ่ง 80% กรุงเทพฯแชมป์สายกิน

  Traveloka ย้ำไทยฮ็อตแหล่งเที่ยวเชิงอาหารพุ่ง 80% กรุงเทพฯแชมป์สายกิน-ปี 69 ไทยก้าวสู่ฮับอาหารโลก เรื่องโดย... # เพ็ญรุ่งใยสามเสน #guru...