AWC-กรมทรัพย์เปิดแห่งแรกในไทย“Fossil Park” 8ส.ค.68
จุดพลุเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยั่งยืนดึงตลาดครอบครัว-นานาชาติ
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #FossilPark #JurassicWorldTheExperience #เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์เดสติเนชั่น
AWC จับมือกรมทรัพย์ฯ
เปิดใหม่ “Fossil Park” แห่งแรกในไทย ที่ Hatch
Domeณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น เริ่ม 8 ส.ค.68 พร้อม Jurassic World: The Experience
จุดพลุ Edutainmentแหล่งท่องเที่ยวอนุรักษ์และยั่งยืน
ดึงดูดใจเยาวชน ครอบครัว และนานาชาติ
“แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น : AWC” เปิดตัว “Fossil Park” โดยร่วมกรมทรัพยากรธรณี และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ
เปิดพื้นที่การเรียนรู้ด้านธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์จากแหล่งค้นพบในประเทศไทย
ภายใน “แฮ็ธช์โดม :Hatch Dome” ในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น จัดแสดงซากดึกดำบรรพ์ของจริง ควบคู่กับความรู้ด้านธรณีวิทยา
และคุณค่าของสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ พืชป่า และสัตว์ป่าของไทยที่เคยอุดมสมบูรณ์ มุ่งส่งต่อความพิเศษให้นักเดินทางทั่วโลกได้พบกับไดโนเสาร์และสัตว์เลื้อยคลานบินได้ร่วมยุคซึ่งพบในเมืองไทยเท่านั้นกว่า 14 สายพันธุ์
นำเสนอไว้ในพื้นที่การจัดแสดงต่อเนื่องจากประสบการณ์ “Jurassic World: The Experience” เพื่อเพิ่มความรู้ให้เยาวชนและครอบครัว
ผ่านประสบการณ์เรียนรู้ของจริงอย่างสนุกสนาน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เชื่อมโยงกับมรดกทางธรณีวิทยาของไทย รวมถึงAWC ได้ตยอกย้ำเรื่อง
“Building Better Future For All : สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคน”
พร้อมสนับสนุนไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก เตรียมเปิด “Fossil
Park” ให้เข้าชมฟรี 8 สิงหาคม 2568
ควบคู่กับประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟระดับโลก Jurassic
World: The Experience
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
และกรรมการผู้จัดการใหญ่ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า AWC ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับผู้นำภาครัฐด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติชั้นนำของไทย
ทั้งกรมทรัพยากรธรณีและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสร้างสรรค์ ‘Fossil
Park’ ผสานความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์กับการเข้าถึงความยั่งยืน
ซึ่งเชื่อมั่นจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ช่วยจุดประกายความสนใจการเรียนรู้ สร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนให้กับคนรุ่นใหม่เติบโตเป็นพลเมืองโลกที่มีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมปไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนและการเรียนรู้ระดับโลก
นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ความร่วมมือกับ AWC แสดงให้เห็นถึงพันธกิจของหน่วยงานพร้อมส่งเสริมการเรียนรู้รูแบบใหม่ด้านธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ให้เข้าถึงเยาวชนและประชาชนทั่วไป
โดยนำเสนอเรื่องราวซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์สายพันธุ์ไทย ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ของจริง เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ของไทย
โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แหล่งค้นพบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์สำคัญระดับประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ AWC นำเสนอ ‘Fossil Park’ ส่งเสริมการอนุรักษ์สู่ประชาชนและเยาวชนได้มากขึ้น
ด้วยประสบการณ์ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่ได้รับการคุ้มครองของไทย
ผ่านรูปแบบสร้างสรรค์เข้าใจได้ง่ายเสริมสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์และหวงแหนผืนป่า
สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอย่างยั่งยืน
“Fossil Park” จึงเป็นโซนการเรียนรู้ด้านซากดึกดำบรรพ์ที่ออกแบบขึ้นเพื่อสร้างความรู้
ความเข้าใจ ความภาคภูมิใจในทรัพยากรทางธรณีวิทยาและความหลากหลายทางชีวภาพของไทย
โดยจัดแสดงแบบจำลองและซากดึกดำบรรพ์จริงที่ค้นพบในประเทศ และกิจกรรมเวิร์คช็อปของเยาวชน
เรื่องการขุดค้นซากดึกดำบรรพ์เพื่อเรียนรู้การเป็นนักบรรพชีวินวิทยา นำเสนอบทบาทสำคัญของกรมทรัพยากรธรณีในการศึกษาค้นคว้าและอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์
และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ดูแลรักษาความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
พืชพรรณ และสัตว์ป่าไทย เพื่อส่งต่อองค์ความรู้สู่คนรุ่นใหม่
โดยมีไฮไลต์สำคัญเป็นแบบจำลองขนาดเท่าจริงของ “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน” ไดโนเสาร์กินพืชขนาดยักษ์จากจังหวัดขอนแก่น ความยาวกว่า 15 เมตร ตั้งชื่อเพื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จัดแสดงซากดึกดำบรรพ์จริงที่สำคัญ เช่น
ซากดึกดำบรรพ์ปลาโบราณพุทธบุตรเอนซิส และอีกมากมายที่ขุดค้นโดยนักบรรพชีวินวิทยา
จากความโดดเด่นของไทยหนึ่งในแหล่งขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้วยลักษณะภูมิประเทศเอื้อให้เกิดฟอสซิลขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ตั้งของแหล่งขุดค้นหลัก
เช่น ภูเวียง ขอนแก่น ภูกุ้มข้าวและภูน้อย กาฬสินธุ์ และภูแฝก มหาสารคาม และพื้นที่อื่น
ๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดินแดนแห่งไดโนเสาร์” ปัจจุบันมีการค้นพบไดโนเสาร์และสัตว์ในไทยแล้วมากถึง 14 สายพันธุ์
มีสายพันธุ์ไฮไลต์สำคัญ
เช่น “สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส” นักล่าแห่งแดนอีสาน “กินรีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส” ไดโนเสาร์สองเท้าผู้ปราดเปรียวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานกินรีของไทย “อีสานโนซอรัส อรรถวิภัชน์ชิ” ซอโรพอดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก “สยามแรปเตอร์
สุวัจน์ติ” หนึ่งในไดโนเสาร์กินเนื้อที่พบซากสมบูรณ์ที่สุดในไทย “มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส” หนึ่งในไดโนเสาร์กินพืชขนาดเล็กที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และ “การูแดปเทอรัส บุฟโตติ” สัตว์เลื้อยคลานบินได้ชนิดแรกที่ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการในไทยและเพิ่งมีการค้นพบใหม่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้
“ผู้เข้าชม”
สามารถเรียนรู้ทั้งไดโนเสาร์ที่พบได้เฉพาะในไทยเท่านั้น ทั้ง 14 สายพันธุ์ ผ่านแบบจำลองสามมิติเสมือนจริงด้วยระบบ QR Code เข้าถึงข้อมูลด้านวิชาการที่เข้าใจง่าย เหมาะกับเยาวชน นักเรียน
และประชาชนทั่วไป ส่งเสริมความรู้ด้านบรรพชีวินวิทยาและสร้างความภูมิใจในมรดกธรรมชาติของไทย
“Fossil Park” เป็นหนึ่งในประสบการณ์ด้านการเรียนรู้ภายใน Hatch Dome อาคารจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟรูปทรงโดมอันเป็นเอกลักษณ์แห่งใหม่
ในโครงการ “เอเชียทีค เดอะ
ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น” ต่อเนื่องจาก Jurassic World: The Experience ใน แฮ็ธช์ โดม ได้รวบรวมประสบการณ์หลากหลายด้านการเรียนรู้และความบันเทิงไว้ในที่เดียวตามคอนเซ็ปต์ Edutainment ด้านความยั่งยืนแห่งแรกผสานการเรียนรู้ผ่านซากดึกดำบรรพ์ของจริงเข้ากับโลกไดโนเสาร์
ประกอบด้วย
Jurassic World: The Experience Retail Store ร้านจำหน่ายของที่ระลึกอย่างเป็นทางการของ Jurassic World: The Experience,
“Better World, Better Future” ประสบการณ์ด้านความยั่งยืนในรูปแบบ Liminal 4D ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย “Fossil Park” โซนจัดแสดงซากดึกดำบรรพ์และมรดกธรณีวิทยาของไทย “Snake Garden” นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานที่ร่วมโลกกับยุคไดโนเสาร์สู่การวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน
และ The Gallery Art of Giving,
Giving Art Community Project Hatch Dome ร้านค้าวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จำหน่ายสินค้าชุมชนคอลเลกชั่นพิเศษเกี่ยวกับไดโนเสาร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ From The Earth Before Time อาทิ พวงกุญแจ
ถุงผ้า และตุ๊กตาไดโนเสาร์ลายผ้าขาวม้า จากกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านดงน้อย
และชุมชนดีไดโนสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
เพื่อนำรายได้กลับคืนสู่ชุมชนโดยรอบเครือข่ายพิพิธภัณฑ์สิรินธรจากแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ในเมืองไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น