ททท.ชูราคา200วัน“เที่ยววันธรรมดา”คุ้มสุดๆ
อู่ตะเภาปั๊มทัวร์ตะวันออกพุ่งเดือนละ6หมื่นคน21-25เม.ย.คิงเพาเวอร์เซลทิ้งทวนปิดปรับปรุง
เย็นนี้ปิด“กลางกรุง-สวนเบญ”เปิดสงกรานต์60
ผนึก10พันธมิตร10เทรนด์“วันธรรมดา-ไทยเท่”
ทริปซีฟสุดสงกรานต์2แผ่นไทย-ลาวนครพนม
มหานครบิน“อู่ตะเภา”แผนขนส่ง3.8แสนล้าน
26สนามบินภูมิภาคชิมลางมาตรการปลอดภัย
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)
ช่วงที่ 1 พบกับแขกรับเชิญพิเศษ ตามด้วยข่าวอัพเดทต่าง ๆ
นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์
ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
|
“คุณกฤษฎา รัตนพฤกษ์” “ผอ.เป้ง”
ผู้อำนวยการ ภูมิภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์กับทางรายการในฐานะเจ้าภาพปี 2560
จัดทำโครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ในปี 2560
ภายใต้แคมเปญ “โอ้โห ! วันธรรมดา...วันพิเศษ” พร้อมด้วย “คุณยุทธศักดิ์
สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.เสริมถึงเป้าหมายกระตุ้นคนไทยออกมาเที่ยววันจันทร์-พฤหัสบดี
ตลอดปีนี้ซึ่งมีถึง 200 วัน
“ผอ.เป้ง-กฤษฎา”
อธิบายว่าการจัดมหกรรม “วันธรรมดาน่าเที่ยว” พ.ศ.2560 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยแบ่งการขับเคลื่อนกิจกรรมกระตุ้นนักท่องเที่ยวออกเป็น
4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เริ่มเมษายน-กันยายน 2560 โดยได้นำพันธมิตรเข้าร่วมโปรโมชั่นทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ เครือโรงแรมเซ็นทารา, เครือเซเรเนต้า
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บมจ.บางจากปิโตรเลียม ร้านอาหารเครือ S&P รถบัสกลุ่มนครชัยแอร์ รถเช่าแบรนด์ไทย เรนท์ อะคาร์ สายการไทย แอร์
เอเชีย
ที่จะช่วยสร้างกระแสทำให้คนไทยออกมาเที่ยววันธรรมดาให้เป็นวันพิเศษตลอดทั้งปี
ส่วนที่ 2
ททท.ทั้ง
5 ภูมิภาค
จะเข้ามาช่วยกันขยายผลการโฆณษาประชาสัมพันธ์เที่ยววันธรรมดาด้วยอีกหนึ่งช่องทางสนับสนุนเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างกัน
ส่วนที่ 3
จัดมหกรรมส่งเสริมการขาย “วันธรรมดา น่าเที่ยว
และ Outdoor Fest”ระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2560
ส่วนที่ 4
การสร้างแรงจูงใจในทุกรูปแบบ
เป้าหมายต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางวันธรรมดาเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย
0.5 % จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเที่ยววันธรรมดาประมาณ 33
% ปีนี้จะขยับเพิ่มเป็น 33.5-34 % ทั้งในวันธรรมดา วันหยุด ลาหยุดพักผ่อน
ที่จะต้องทำให้ตัวเลขส่วนแบ่งการเดินทางใกล้เคียงกันทั้ง 3 ส่วน
โดย
ททท.ประเมินว่าเมื่อรวมกลุ่มพันธมิตรแถวหน้าของประเทศเข้ามาร่วมจะสามารถ
“ปิดจุดอ่อน” การท่องเที่ยว “ฤดูฝน-Low Season” กระบวนนี้ทำอย่างรัดกุมโดยมีผลการศึกษาวิจัยมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
จึงขอฝากคนไทยทุกคนถึงการตัดสินใจออกมาท่องเที่ยววันธรรมดาจะยิ่งพิเศษกว่าทั่วไป
โดยเฉพาะ “การใช้วันลาพักผ่อน” ออกมาใช้เที่ยวเมืองไทย
สิทธิพิเศษในแคมเปญโปรโมชั่น
“โอ้โห ! วันธรรมดา...วันพิเศษ” วันธรรมดา น่าเที่ยว
ปีนี้ได้สร้างปรากฎการณ์เหนือกว่าทุกปี อาทิ โรงแรมเครือเซเรเนต้า (ของกลุ่มบริษัท
หนุ่มสาว ทัวร์ ) ซึ่งมีโรงแรมกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ
มอบส่วนลดห้องพักสูงสุดในรอบปีเมื่อจองใช้พักผ่อนวันจันทร์-พฤหัสบดี
ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 60 % “เครือเซ็นทรัล”
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำกำหนดให้ช้อปปิ้งครบ 50,000 บาท มีรางวัลห้องพักฟรี โรงแรมเซ็นทารา วิลเลจ แจกถึง 100 รางวัล “ไทย แอร์เอเชีย”
มีบัตรกำนัลและตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษเมื่อเลือกบินวันธรรมดา “ร้านอาหาร S
& P” รับประทานอาหารยอดเงินครบตามที่กำหนดรับบัตรกำนัลฟรี
“รถเช่า-ไทย เรนท์ อะคาร์” ก็ลดค่าเช่าขับท่องเที่ยวเหลือวันละ 550 บาท/คัน หรือ “นครชัยแอร์”
รถบัสปรับอากาศประจำทางทั่วประเทศเกรดพรีเมียม ก็ลดครั้งละ 50 บาท นับเป็นราคาประหยัดคุ้มค่าที่สุดในรอบปี
สำหรับ บริษัท
บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ให้สิทธิ์เติมน้ำมัน
E20s วันธรรมดารับคะแนนคูณ 2 พร้อมบัตรกำนัลมากมาย
ทำให้การใช้พลังงานเติมน้ำมันปั๊มบางจากมีความพิเศษกว่าวันอื่น ๆ
ส่วน
ททท.ภูมิภาคตะวันออก ททท.มีสำนักงานกระจายอยู่ 5 แห่ง แต่ละแห่งได้คิดแคมเปญรองรับไว้อย่างเต็มที่
รวมทั้งช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้ภาคตะวันออกเริ่มแล้วในเดือนเมษายนเป็นต้นไป
ผลผลิตออกมาดี จึงจับมือกับแต่ละสวนผลไม้ประมาณ 50 สวน ขายท่องเที่ยวชิมบุฟเฟต์ผลไม้คนละ 150 บาท ออกมาเสริมทัพขายในวันธรรมดาด้วย
ผอ.กฤษฎา
กล่าวถึงสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยวภาพรวมในภาคตะวันออก ช่วง 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2560 ตั้งแต่
ตุลาคม 2559-มีนาคม 2560 โดยเฉพาะ พัทยา ชลบุรี กับจังหวัดตราด อัตราการเติบโตดีมาก เด่นสุดคือ
“ตลาดนักท่องเที่ยวจีน” กลับมาเกือบปกติแล้ว
พร้อมทั้งใช้เงินท่องเที่ยวสูงกว่าที่ผ่านมา “นักท่องเที่ยวยุโรป”
ตลาดรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (charter flight) กับเที่ยวบินประจำ
นำนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาลงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภารวมถึง 60,000 คน เป็นสัญญาณที่ดีมาก
สะท้อนถึงการขยายตัวสูงมากจากปกติมีผู้โดยสารเข้าออกเพียงเดือนละ 20,000-30,000
คนเท่านั้น
รวมถึงการเติบโตของ
“อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในโรงแรมภาคตะวันออก” (OR :occupancy rate) พื้นที่สำคัญอย่างทั้ง 3 แห่ง คือ
พัทยา ตราด ระยอง มีสูงเกินกว่า 70 %
ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอม
การท่องเที่ยวทางทะเลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แต่หลังจากนี้ก็มีแนวโน้มเติบโตต่อไปเพราะเศรษฐกิจเริ่มคึกคัก ผนวกกับค่าเงินต่าง
ๆ มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ขณะที่ “คุณยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเสริมถึงว่า โครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว”
เป็นกิจกรรมที่ ททท.ทำต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว
ประเด็นสำคัญคือดูจากพฤติกรรมท่องเที่ยวของคนไทยนิยมเที่ยววันหยุด เสาร์-อาทิตย์
ซึ่งถือเป็นส่วนน้อยของปี เพราะวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี มีถึงปีละ 200 วัน
ททท.จึงปรับกลยุทธ์หันมากระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดาอย่างจริงจัง
กระจายรายได้ไปยังชุมชนทั่วประเทศ
ที่ผ่านมาก็ได้ทำโครงการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรมากมาย
ตัวอย่างเมื่อปี 2559
การจัดงานวันธรรมดาสามารถดึงดูดคนไทยออกมาเที่ยวได้ถึง 350,000 คน และสร้างการรับรู้ได้ถึง 2 ล้านคนครั้ง
หวังว่าปี 2560 ตั้งเป้าจะมีคนไทยออกมาเที่ยววันธรรมดาไม่ต่ำกว่า
300,000 คน สร้างการรับรู้ได้ถึง 11 ล้านคน
ถือว่าเป็นโครงการที่
ททท.มุ่งมั่นให้เกิดการกระจายสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ
ส่วนความพิเศษของ
“วันธรรมดา น่าเที่ยว ปี2560”
จะแตกต่างจากที่ผ่านมาคือใส่คำว่า “โอ้โห !
วันธรรมดา...คือวันพิเศษ” พิเศษไปกว่านั้นคือพันธมิตร 10 แบรนด์ที่เห็นความสำคัญในการนำสินค้าเข้ามาร่วมกระตุ้นกำลังซื้อที่ดึงดูดความสนใจ
โดยเฉพาะ “ราคาพิเศษ” ลดแลกแจกแถมทั้งผลิตภัณฑ์ และบัตรกำนัลมากมาย
กลุ่มเป้าหมายหลัก
ๆ ที่ ททท.ให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ ได้แก่ 1.เจนวาย-คนรุ่นใหม่ 2.Silver Active-วัยเก๋ากลุ่มผู้หญิง 3.Corporate-พนักงานบริษัทห้างร้าน 4.เจ้าของธุรกิจส่วนตัว
มีเวลาและความพร้อมนิยมเที่ยววันธรรมดาแทนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ซึ่งจะต้องไปแย่งกันกินและใช้ทรัพยากรต่างๆ ส่วนผู้ให้บริการก็ยินดีต้อนรับ
เพราะสามารถให้บริการได้เต็มที่ด้วย
ฟังข่าวอัพเดทช่วงเบรกแรก
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดSee You Soonลดใหญ่21-25เม.ย.นี้”
ห้ามพลาด 21-25 เม.ย.นี้ ช้อปแหลกมหกรรม “See You Soon SaleParty” ที่ ดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กระหน่ำลดทุกแบรนด์กว่า 70 %
ส่งท้ายการปรับโฉมใหม่ในโอกาสเปิดร้านค้าแห่งนี้ครบ 12 ปี
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
|
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ เตรียมจัดแคมเปญ“See You Soon
SaleParty” มหกรรมลดราคาสินค้าสุดพิเศษลดสูงสุดถึง
70 % ต่อเนื่องกัน 5 วัน ระหว่างวันที่ 21 – 25 เมษายน2560
เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด จากนั้นวันที่ 26 เมษายน
จะย้ายสินค้าไปจำหน่ายบริเวณชั้น 1โรงแรม
พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ จนกว่าจะเปิดคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ
ในวันที่ 1 ตลาคม 2560
เป็นต้นไป
โครงการปิดปรับปรุง
“ร้านค้า ดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ”นั้นเป็นไปตามแผนลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ
12 ปี ตลอด 5
เดือน ทางคิง เพาเวอร์ฯ จะย้ายสินค้าดิวตี้ฟรีทั้งหมด
ไปวางจำหน่าย ที่ “โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ” โดยได้นำพื้นที่บริเวณห้องจัดเลี้ยง
ห้องสัมมนา แปลงโฉมเป็นร้านค้าจำหน่ายสินค้าชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2560 จนกว่าพื้นที่ใหม่ในคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ
จะปรับโฉมใหม่เพื่อเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ตลอดเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560
ระหว่าง 5 – 18 เมษายน 2560 คาดการณ์ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง จะมีสายการบินมาใช้บริการ
32,357 เที่ยว มีผู้โดยสารใช้บริการ 5.36 ล้านคน
ทอท.จึงได้ตั้ง “ศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร”
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือระหว่างส่วนงาน ทอท.กับส่วนราชการ สายการบินและผู้ประกอบการ
และอำนวยความสะดวกให้กระบวนการเดินทางของผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ตั้งของศูนย์แต่ละแห่งในท่าอากาศยาน “สุวรรณภูมิ” อยู่ที่ห้อง CIP5
อาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 “ดอนเมือง” อยู่ตรงศูนย์ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยาน บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ
อาคาร 2 “ภูเก็ต” จัดทำโครงการ “HKT
LOVE U”, “HKT TROUBLE SHOOTING” และ
“HAPPY TO HELP” อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ
ทั้ง 6 ท่าอากาศยานได้วางมาตรการเตรียมความพร้อมบริการผู้โดยสารและสายการบิน
6 เรื่อง 1.อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร
2.การรักษาความสะอาดสถานที่และห้องสุขา
3.จัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าและประสานผู้ประกอบการเพิ่มเจ้าหน้าที่ลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ
เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรอรับกระเป๋า 4.จัดรถยนต์บริการประเภทต่างๆ ให้เพียงพอต่อการให้บริการผู้โดยสารที่ 5.เพิ่มเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ 6.เพิ่มเจ้าหน้าที่ เพื่อดูแลด้านการจราจร เข้า-ออก
ท่าอากาศยานและบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน ทั้งสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.) ภูเก็ต (ทภก.) เชียงใหม่ (ทชม.) หาดใหญ่ (ทหญ.)
และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
ข่าวที่ 3 “8เม.ย.นี้ปิดกรุง-สวนเบญจ”เปิดสงกรานต์60
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) รายงานว่า พร้อมจัดพิธีเปิด “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” Amazing
Songkran 2017 ในเย็นวันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2560 เวลาตั้งแต่ 17.30-20.30 น. ณ บริเวณลานด้านหน้า ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม
โดยพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมาถึงบริเวณงาน
เวลา 19.00 น.จากนั้นได้จัดการแสดงชุด “Amazing
Songkran Experience แล้ว “นายยุทธศักดิ์ สุภสร ททท. ขึ้นกล่าวรายงานการจัดงาน
“เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” Amazing Songkran 2017 ตามมาด้วย “นางกอบกาญจน์
วัฒนวรางกูร”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเชิญชวนนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์แบบวิถีไทย
จากนั้นเวลา
19.10 น.จึงเริ่มพิธีเปิดงาน“เย็นทั่วหล้า
มหาสงกรานต์” Amazing Songkran 2017 โดย 4 ผู้นำ คือ พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
รองนายกรัฐมนตรี
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกลินทร์ สารสิน
ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการ ททท.
ต่อด้วยแสดงพิธีเปิดงานฯ
ชุด “มหัศจรรย์ วันสงกรานต์ Amazing
Songkran 2017” ด้วยความยิ่งใหญ่อลังการกับขบวนมหัศจรรย์
วันเบิกบาน สงกรานต์ไทย (Amazing Songkran 2017
Joyful Procession ตลอด 1 ชั่วโมงเต็ม ตั้งแต่ 19.00-20.00 น.
@เปิดสวนเบญจสิริโชว์4ลานสงกรานต์ไทย8-13เม.ย.
ในเวลา
20.00 น. พลเอกธนะศักดิ์ รองนายกรัฐมนตรี แขกผู้มีเกียรติ
เชิญชวนเช้าชมการจัดงานเทศกาลเย็นทั่วหล้า
มหาสงกรานต์ (Amazing Songkran Experience Festival 2017) เป็นกิจกรรมพิเศษ 4 ลานแสดง จัดให้ชมระหว่าง 8-13 เมษายน 2560 เวลา 12.00- 20.00 น. ณ อุทยานเบญจสิริ กรุงเทพมหานคร
ประกอบด้วย
•ลานที่ 1: สงกรานต์ลานบุญ
เสริมสิริมงคลแบบไทยๆ
ในวันสงกรานต์
สรงน้ำพระพุทธรูปบนเขา พระสุเมรุมาศ
สร้างสิริมงคลให้กับชีวิตในวันปีใหม่ไทย
กิจกรรมสาธิต รดน้ำขอพร 5 ภาค :
พร้อมเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เป็นที่ระลึกภายในงาน
หอมติดกระดาน :
เติมเต็มประสบการณ์ความความปราณีต ความหอมแบบไทยๆ รับเทศกาลสงกรานต์
กับกิจกรรมเวิร์กช็อป น้ำอบไทย, แป้งพวง,
บุหงา
•ลานที่ 2 : ทัวร์ทั่วหล้ามหาสงกรานต์
ประเวณีปี๋ใหม่เมือง :
แม่หญิงขี่รถถีบกางจ้อง สาธิตการทำตุงไส้หมู และเพ้นท์ร่ม
สงกรานต์บ้านเฮา ฮีตเก่าเดือนห้า : ติดต้นดอกไม้ถวายพุทธบูชาแบบอีสาน และชมสาธิตการ
“บายศรีสู่ขวัญ” รับแขกบ้านแขกเมืองผู้มาเยือน พร้อม “ผูกเสี่ยว-ผูกข้อมือต่อแขน”
ดองกันเป็นดุจญาติมิตรของชาวภูไท
สงกรานต์ภาคกลาง :
ถ่ายรูปที่ระลึกหนุ่มลอยชาย สงกรานต์พระประแดง และสาธิตทำธงตะขาบ จากชาวมอญ
สงกรานต์ภาคใต้ :
จำลองสงกรานต์ชาวเล หนุ่มสาวชาวเล เพ้นท์ผ้าบาติก สาธิตการทำดอกไม้ยางพารา และว่าววงเดือน
สงกรานต์ภาคตะวันออก :
จำลองงานสงกรานต์ศรีมหาราชา และประเพณีกองข้าว พร้อมสาธิตการทำปักเฉลว
และร้อยมาลัยดอกไม้
นุ่งไทย
ห่มสไบ : ร่วมแชะ&แชร์ โชว์ความเป็นไทย
ในวันสงกรานต์กับมุมนุ่งผ้าไทย 5 ภาค พร้อมถ่ายรูปกับมุมถ่ายภาพไทย ๆ เป็นที่ระลึก
•ลาน 3 : ตลาดวิถีไทยเก๋ไก๋
กิจกรรมสาธิตการทำอาหาร 5 ภาค
จวักกระบวยไทย ย้อนรอยขนมมงคลพื้นบ้าน ชม ชิม สาธิตการทำ “ข้าวแช่”
ที่นิยมในช่วงสงกรานต์และขนมพื้นบ้านโบราณ
ซึ่งถือเป็นขนมมงคลที่คนไทยนิยมใช้แทนคำอวยพรในช่วงโอกาสพิเศษ
•ลาน 4 : เวทีอเมซิ่งสงกรานต์
เวทีให้คุณได้สัมผัสกับการแสดงวัฒนธรรมและการละเล่นของแต่ละภาค
พบการแสดงไทยร่วมสมัย 5 ภาค และกิจกรรมพื้นบ้าน Edutainment ที่จะให้ทุกท่านร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมกัน อาทิ มวยตับจาก
ตำน้ำพริก พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างลึกซึ้งอีกมากมาย ตลอดทั้ง 6 วัน
ในวันที่
13 เมษายน 2560 กิจกรรมพิเศษสุด ร่วมเฟ้นหา “Amazing เทพีสงกรานต์ อินเตอร์เนชั่นเนล”
ที่สุดของสาวงามที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
ครั้งแรกที่จะพบกับเทพีนานาชาติในวันมหาสงกรานต์
สวมใส่ชุดไทยอย่างมีเอกลักษณ์พร้อมสืบสานแนวคิดไทยสู่สากล
สอบถามเพิ่มเติม
ที่ ททท.0 2250 5500 ต่อ 3470-3 หรือ 1672 และ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ
ข่าวที่ 4 “บางจากเปลี่ยนชื่อใหม่รุกCSRสีเขียวรับ32ปี”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2560 เป็นต้นไป ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท
บางจาก คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยยังคงเดินหน้าแผนดำเนินธุรกิจปี 2560
ของบางจากฯ ซึ่งพร้อมใช้งบลงทุนประมาณ 18,500 ล้านบาท
ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงโดยมุ่งเพิ่มพลังงานสีเขียว
ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องต่อเนื่องมาเป็นปีที่
32 แล้ว
โดยได้สร้างศูนย์นวัตกรรม
Bangchak Initiative Innovation Center : BIIC เพื่อนำผลวิจัยมาต่อยอดและขยายธุรกิจใหม่
สนับสนุนเศรษฐกิจไทยยุค 4.0 อาทิ โครงการผลิตภัณฑ์ชีวภาพ Bio Product โครงการการบริหารการใช้พลังงานผ่าน Energy
Storage
ข่าวที่ 5 “วันธรรมดาน่าเที่ยว10แบรนด์-ไทยเท่กับ10เทรนด์”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ 10 พันธมิตร จัดทำโครงการ
“วันธรรมดาน่าเที่ยว” ภายใต้แคมเปญ
"โอ้โห! วันธรรมดา...วันพิเศษ"
ตั้งเป้าหมายกระตุ้นให้เกิดความต้องการท่องเที่ยวในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น
อันจะเป็นการกระจายรายได้สู่พื้นที่ไปยังผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลอดโครงการปีนี้อีกอย่างต่ำ
1,400 ล้านบาท สร้างการรับรู้ 11 ล้านคน จากเป้าหมาย 4 กลุ่ม 1.เจนวาย 2.ผู้สูงวัย 3.นักธุรกิจรุ่นใหม่
4.เจ้าของกิจการส่วนตัว
โดยมีพันธมิตรสนับสนุน
4 หมวดได้แก่
1.หมวดโรงแรม "เครือเซนทารา"ลดห้องพักวันธรรมดาสูงสุด
50% รับแต้มสะสม The 1
Card 500 คะแนน "เครือเซเรเนต้า
โฮเต็ล แอนด์รีสอร์ต" ลดสูงสุด 60%
"เว็บไซต์ agoda.com
"จัดโปรโมชั่น 72 ชั่วโมง ลด 60% มีโรงแรมนำห้องพักเข้าร่วมลดกว่า 1,000 แห่ง
2.หมวดคมนาคมขนส่งการเดินทาง
"ไทยแอร์เอเชีย"
ลดตั๋วเครื่องบิน พร้อมสิทธิพิเศษ บัตรกำนัลต่าง ๆ "นครชัยแอร"
มอบส่วนลด 50% "Rent a
car" ให้
3.หมวดสินค้าและบริการ
"ห้างเซนทรัล สาขา ชิดลม
ลาดพร้าว บางนา ปิ่นเกล้า ช้อปวันธรรมดา 50,00₩ บาท รับบัตรห้องพักฟรี เซนทาราพัทยา 100 รางวัล บมจ.บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)
มอบสิทธิสมาชิก เติมน้ำมัน E20S วันธรรมดา
รับคะแนน คูณ 2
ดูรายละเอียด ได้ที่ www.tourismthailand.org/weekdayspecial
ขณะเดียวกัน ททท.ก็ยังโหมโปรโมต “เที่ยวไทยเท่” 10 เทรนด์ ได้แก่
1. “แต่งเท่” การผสมผสานแฟชั่นผ้าถิ่นร่วมสมัย
ไปท้องถิ่นไหนก็หยิบเสื้อผ้าท้องถิ่นมาประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง
2.. “กินเท่” อาหารถิ่นสูตรพิเศษที่ไม่ได้หากินที่ไหนก็ได้
3. “ทำเท่”
เที่ยวแบบลึกซึ้งต้องสัมผัสให้ถึงของดีภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมเรียนรู้
และลงมือทำด้วยตนเอง ได้สัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทย พร้อมได้ของ D.I.Y. ชิ้นเดียวในโลกกลับบ้าน
4. “มุมเท่” สะพายกล้อง แบกเป้ ออกไปเปิดมุมมองใหม่ให้โลกรู้
5. “ชิลล์เท่” ดื่มด่ำบรรยากาศเก๋ไก๋ ณ ร้านเท่ประจำถิ่น
6. “ช้อปเท่” เที่ยวเมืองไทยทั้งที ต้องช้อปของดีประจำถิ่น
7. “ไปมาเท่” เลือกพาหนะเท่ๆ เอกลักษณ์ท้องถิ่นไม่ซ้ำใคร
8. “เทศกาลเท่” แฝงตัวไปสัมผัสประเพณีพื้นบ้านแบบคนถิ่น
9. “แลกความเท่” จับเข่าแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ กับปราชญ์พื้นบ้าน
10. “ใจเท่” เที่ยวเมืองไทย ด้วยคิดใจรักษ์เมืองไทย
เปิดให้นักท่องเที่ยวโพสต์ภาพตัวเองกับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยที่คุณคิดว่า
“เท่ที่สุด” ผ่านทาง Facebook หรือ Instagram และตั้งค่าให้เป็น
“สาธารณะ” Tag Facebook fanpage“เที่ยวไทยเท่” หรือ @เที่ยวไทยเท่
ใน Instagram พร้อมใส่แฮชแทค #เที่ยวไทยเท่ และ #สถานที่ในภาพที่คุณถ่าย
ลงในคำบรรยายภาพ เช่น #เที่ยวไทยเท่ #อ่าวคุ้งกระเบน #จันทบุรี
หรืออัพโหลดภาพเพื่อร่วมกิจกรรมได้ที่ www.เที่ยวไทยเท่.com พร้อมแชร์ภาพลงโซเชียลมีเดียของตัวเอง
ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
ทาง www.facebook.com/เที่ยวไทยเท่ ตั้งแต่เมษายนนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2560
สอบถามเพิ่มที่
www.facebook.com/เที่ยวไทยเท่ หรือ 1672
ช่วงที่ 2 ตลอด 2 สัปดาห์ตลุยเที่ยวสงกรานต์เมืองแปลก และวิธีดูแลสุขภาพ ฟังข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์
@นครพนมชวนไปสงกรานต์2แผ่นดินไทย-ลาว
กระแสการท่องเที่ยวตลอด 2
สัปดาห์ จะพาไปเที่ยว “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์”
ในที่แปลกใหม่ที่ยังคงวิถีไทยเต็มร้อย กับ เทศกาลสงกรานต์นครพนม “รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว
ปี 2560” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2560
บริเวณถนนข้าวปุ้น และลานพนมนาคา
เขตเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
“สงกรานต์รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว”
ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมวัฒนธรรมชาวนครพนมของ
7 ชนเผ่า ที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการรักษารูปแบบของประเพณีที่แสดงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
โดยเฉพาะ การร่วมตักบาตรข้าวเหนียววันปีใหม่ไทย กิจกรรมแข่งขันสะบ้าทอย
พิธีตบปะทาย (ก่อเจดีย์ทราย) ไหว้พระธาตุประจำวันเกิด 7 วัน 8 พระธาตุ
อิ่มอร่อยกับตลาดโบราณย้อนยุค และเล่นน้ำสงกรานต์ 7 ชนเผ่า พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรม
โดยมี “กิจกรรมหลัก” บริเวณลานพนมนาคา
ริมฝั่งแม่น้ำโขง เปิดมหาสงกรานต์วันแรก 13 เมษายน 2560 ชมการแข่งขันสะบ้าทอยของชุมชน
การแสดงวิถีชีวิตชนเผ่า พิธีดบปะทาย พิธีสรงน้ำพระ ขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์ การประกวดเทพีสงกรานต์
และกิจกรรมถนนข้าวปุ้น
แล้วจากนั้น ในวันที่ 14-15 เมษายน 2560 ได้เปิดบริเวณ “เขตเทศบาลเมืองนครพนม”
ต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมกิจกรรมการแสดงวิถีชีวิตชนเผ่า ตลาดโบราณ
และกิจกรรมถนนข้าวปุ้น
สำหรับที่ “อำเภอเรณูนคร”
ช่วงงานประเพณีสงกรานต์ จัดเต็มการฟ้อนรำผู้ไทที่มีความอ่อนช้อยงดงาม
รวมถึงสัมผัสมนต์ขลัง “พิธีบายศรีสู่ขวัญ” พิธีผูกข้อต่อแขนเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน
ชมขบวนแห่นางสงกรานต์ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งใหญ่งดงาม
การจัดงานสงกรานต์ตลอด 3 วัน ระหว่าง13-15 เมษายน 2560ที่ อำเภอเรณูนคร
มีการแสดงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวผู้ไท
เรณูนคร การละเล่นสงกรานต์วิถีไทยของชาวผู้ไทย ขบวนแห่สงกรานต์ การประกวดสาวงามเรณูนคร
สอบถามเพิ่มที่ ททท.
สำนักงานนครพนม โทร. 0 4251 3490-1
@ “9
เทคนิค เตรียมเล่นสงกรานต์”
ช่วงเดือนเมษายนที่มีอุณหภูมิความร้อนปรอทแตก
บวกกับเป็นช่วงเล่นนสงกรานต์ จึงขอนำ 9 เทคนิคดี ๆ มาฝาก
1.
พักผ่อนให้เพียงพอ ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมร่างกายก่อนที่จะออกไปเล่นน้ำสงกรานต์
เพราะถ้าเกิดนอนหลับไม่เพียงพอแล้วย่อมส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ง่าย
บวกกับที่ต้องเจอต้องปะทะกับแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงร่างกายที่ต้องเปียกชื้นจากการเล่นสาดน้ำเย็นๆ
ตลอดทั้งวัน อาจทำให้มีอาการไข้แดดได้
2.
ทาครีมกันแดด ก่อนออกจากบ้านไปเล่นน้ำ
เพื่อป้องกันแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตมาทำร้ายผิวไม่ให้เกิดความไหม้ แสบ
ร้อนและดำคล้ำเสีย ที่มีค่า SPF 50
ขึ้นไป ที่สามารถกันน้ำได้ และควรหมั่นทาซ้ำทุก ๆ 1 – 2 ชั่วโมง
เพื่อป้องกันแสงแดดเข้าสู่ผิวโดยตรงซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
3.
กินอาหารที่มีประโยชน์ ก่อนที่จะไปเล่นน้ำสงกรานต์ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่
โดยเน้นกินผัก ผลไม้ เพื่อให้ได้วิตามิน แร่ธาตุอย่างครบถ้วน เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง
ขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารที่มีแป้งและน้ำตาลเยอะ
จะทำให้เกิดการสะสมภายในทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วย
4.
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
วันที่เล่นน้ำสงกรานต์ควรดื่มน้ำระหว่างวันให้ได้ถึง 2 ลิตร หรือวันละ 10 แก้ว
เนื่องจากร่างกายตากแดดเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงต้องหมั่นดื่มน้ำให้มากกว่าเดิม
เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอก็จะไม่ทำให้มีอาการไข้หวัดแดดได้
5.
ไม่สวมเสื้อผ้าที่หนา จนดูอึดอัด มีการระบายที่ดี มีความยืดหยุ่นดี
และต้องไม่อมน้ำ และต้องไม่ดูโป๊จนเกินไปในขณะที่เล่นน้ำสงกรานต์
6.
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ช่วงเทศกาลสงกรานต์หลายคนจะมีการจัดปาร์ตี้สังสรรค์กันสุดเหวี่ยง ซึ่งถ้าดื่มมากๆ
ก็อาจจะทำให้ไม่สบายได้
7.
ควรเล่นน้ำไม่เกิน 4 ชั่วโมง
เพราะถ้าเล่นน้ำตลอดทั้งวันแบบไม่พักเลยจะทำให้ร่างกายอ่อนล้า และเกิดป่วยขึ้นมาได้
และน้ำที่เล่นควรเป็นน้ำธรรมดามากกว่าที่จะเป็นน้ำเย็น
8.
ใส่หมวกกันแดด ควรหาหมวกแก๊ปมาใส่สักใบก่อนออกไปเล่นน้ำสงกรานต์
เพื่อป้องกันแสงแดดมากระทบกับศีรษะแบบเต็ม ๆ เพราะการตากแดดเล่นสาดน้ำเป็นเวลานานๆ
อาจทำให้เป็นไข้ หรือหน้ามืดเป็นลมได้
9.
เตรียมแว่นกันน้ำ ช่วยป้องกันไม่ให้ละอองน้ำกระเด็นเข้าตาแบบตรงๆ
โดยเฉพาะใครที่ใส่คอนแทคเลนส์ไปเล่นน้ำสงกรานต์
ต้องระวังไม่ให้น้ำหรือแป้งดินสอพองกระเด็นเข้าตาเด็ดขาด
เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองตาได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “นายกฯย้ำEECปั้นอู่ตะเภามหานครการบิน”
นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ
ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง
3 ฉบับ ระหว่าง “กองทัพเรือ-ผู้บริหารสนามบินอู่ตะเภา-หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงคมนาคม”
ตามที่ประชุมคณะกรรมการอีอีซีได้พิจารณาการลงทุนโครง
สร้างพื้นฐานและแผนการใช้พื้นที่ 2
โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา 2.การพัฒนารถไฟความเร็วสูง
กรุงเทพฯ-ระยอง
ส่วนต่อขยายเชื่อมระหว่าง 3
สนามบินหลักของประเทศ ได้แก่ อู่ตะเภา สุวรรณภูมิ และดอนเมือง มูลค่าลงทุน 1.58 แสนล้านบาท รวม 2 โครงการ 3.58
แสนล้านบาท บวกติดตามแผนความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โครงการรถไฟทางคู่และพัฒนาเมืองใหม่
ที่จะรองรับการเติบโตเขตพื้นที่ จ.ชลบุรี
สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาคู่ขนานกัน
2 เรื่อง
เรื่องที่ 1 ผลักดันเป็นทั้งท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์
ตามแผนจะขยายอาคารผู้โดยสารรองรับได้จากปีละ 8 แสนคน เป็น 3
ล้านคน และจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ระยะที่ 2 และ 3
รองรับอนาคตที่จะผู้ใช้บริการสูงสุดปีละ 60 ล้านคน
เรื่องที่ 2 พัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมการบิน
รองรับการเติบโตของโลจิสติกส์และขนส่งทุกรูปแบบ โดยได้กันพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาไว้ร่วม
2,000 ไร่
พัฒนาการลงทุนในส่วนภาครัฐของกองทัพเรือ กระทรวงคมนาคมและภาคเอกชน เช่น บริษัท
การบินไทยฯ งบลงทุน 20,000
ล้านบาท
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนพัฒนาศูนย์ซ่อมเครื่องบินที่อู่ตะเภาเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินในภูมิภาคเอเชีย
ระยะแรกจะก่อสร้างโรงซ่อมและโรงจอดเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่สุด Airbus
A380 ใช้โรงจอดพร้อมกัน 2 ลำ และเจาะตลาดเครื่องรุ่นใหม่ เช่น Boeing
787 dy[ Airbus A350 เบื้องต้นเตรียมขยายถนนเข้าสนามบินด้วยเงินลงทุน
5,000 ล้านบาท การก่อสร้างมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุดเพิ่มเติม
และรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง
ข่าวที่สอง “26สนามบินภูมิภาคจัดแถวรับสงกรานต์ปีระกา”
นายดรุณ แสงฉาย
อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) กล่าวว่ามีนโยบายให้สนามบินพาณิชย์ในภูมิภาคทั่วประเทศ
26 แห่ง เตรียมมาตรการรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 โดยจัดทำโครงการ
“สุขสันต์สงกรานต์ กลับบ้านสุขใจ
ด้วยบริการมาตรฐานและปลอดภัย จากใจ ทย.” ทำกิจกรรมเสริมสร้างวั ฒนธรรมไทย
จัดพื้นที่ภายในอาคารจัดสรงน้ำพระพุทธรูป ให้เจ้าหน้าที่แต่งกายด้วยชุ ดผ้าไทย
เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไทย
พร้อมทั้งให้ทำแผนอำนวยความสะดวก
จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการให้เพียงพอ
ดูแลความสะอาดของห้องน้ำ พื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ก็เน้นจุดตรวจอาวุธและวัตถุอันตราย
ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ดูแลพร้อมของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิง รถดับเพลิง
รถพยาบาล และอุปกรณ์ต่างๆ ของสถานีกู้ภัยและดับเพลิง
อุปกรณ์ต่างๆ ภายในท่าอากาศยานให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
ข่าวที่สาม “วิทยุการบินรับมือ3.7หมื่นเที่ยวบินสงกรานต์
นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
จำกัด (บวท.-แอโร่ไทย) เปิดเผยว่า
ปัจจุบันสภาพการจราจรทางอากาศที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2560 นี้ คาดจะมีปริมาณเที่ยวบินกว่า
37,200 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 2,660 เที่ยวเพิ่มขึ้น 10% จึงได้จัดทำ
1.แผนรองรับการให้บริการการเดินอากาศ ด้านบริหารอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ
และเจ้าหน้าที่วิศวกรระบบติดตามอากาศยาน ให้หมาะสมกับปริมาณเทียวบินที่เพิ่มขึ้น
2.จัดเตรียมการบริหารจัดการจราจรทางอากาศให้เกิดสภาพคล่อง
(Air Traffic Flow Management) อำนวยความสะดวกด้านข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ใช้บริการ
และประสานความร่วมมือ/แลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยให้บริการทั้งภายในและภายนอกประเทศ
เพื่อให้การบริหารจัดการจราจรทางอากาศเป็นไปด้วยความสะดวกราบรื่น
3.เฝ้าติดตามความพร้อมในส่วนของระบบอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการให้บริการจราจรทางอากาศให้สามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพตลอด
24 ชั่วโมง
รวมถึงได้ทบทวนมาตรการรองรับกรณีฉุกเฉินเพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องอย่างเต็มกำลังความสามารถ
เพื่อความปลอดภัยของทุกเที่ยวบิน
ข่าวที่สี่“เมืองพัทยา4
องค์กรจัดเต็มช่วงสงกรานต์”
นายแพทย์สีหราช
โลหชิตรานนท์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาผนึกกัน 4 องค์กร เตรียมรับมือเทศกาลท่องเที่ยวสงกรานต์ มี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี
สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา
หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบอุบัติเหตุ
และรณรงค์ความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
“การส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงสงกรานต์และวันไหลพัทยา”
“การดูแลความปลอดภัย ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว” และ “เครือข่ายการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน
ขั้นตอนการดูแลผู้ประสบอุบัติเหตุ” เพื่อเตรียมความพร้อม
และสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
หากพบเห็นอุบัติเหตุสามารถโทรแจ้งได้ที่
ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โทร.0
3825 9911 หรือโทร. 1719
ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่ห้า “รวมใจภักดีพระภูมี2แผ่นดินพิพิธภัณฑ์ช้างฯ”
ระหว่างวันที่
13-16 เมษายน 2560 “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ”
จังหวัดสมุทรปราการ จัดงาน “บูชาสัตตมงคลสถาน ถวายน้ำสงกรานต์เกศแก้วจุฬามณี
รวมใจภักดีพระภูมี 2 แผ่นดิน”
ชวนประชาชนร่วมสักการะพระเจดีย์จุฬามณี
องค์อินทร์ องค์ช้างเอราวัณ พระพรหม
พระพิฆเนศ พระตรีมูรติ เจ้าแม่กวนอิมปางบุรุษเพศ และปางประทานพร
สรงน้ำพระประจำวันเกิด และเสริมสิริมงคลด้วยการลอดท้องช้างเทพมงคล 26 เชือก 29 องค์
ในวันที่
13 เมษายน 2560 เวลา 9.00
– 12.00 น.
จะมีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากชั้นดาวดึงส์ (ชั้นจักรวาล
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ) มาประดิษฐาน ณ
พระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี
โดยเจ้าประคุณสมเด็จ พระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
วันที่
13 เม.ย.จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีบริเวณลานพิธีและจุดสักการะต่างๆ
(ไม่รวมอาคารช้างเอราวัณ) ส่วนวันที่ 14-16
เมษายน 2560
คิดค่าบัตรเข้าชมสำหรับคนไทยในราคาพิเศษ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50
บาท สอบถามเพิ่มที่ โทร.02-323-4094-9
เว็บไซต์ www.ancientcitygroup.net
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ การบิน/ท่องเที่ยว นักเขียนบล็อกเกอร์ gurutourza.blogspot.com
และเจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ สวท.FM 97.0
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น