ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ขอนแก่นโมเดลปี 60สร้างอีสานท่องเที่ยว20จังหวัด-See You Soonคิงเพาเวอร์-outdoor Fest2017


ขอนแก่นเปิดต้นแบบ “อีสานโมเดล”ปี’60

See You Soon7หมวดคิงเพาเวอร์รางน้ำลด70%

ทอท.สนบริหาร3สนามบินโลจิสติกภูมิภาค

วันธรรมดาน่าเที่ยวOutdoorFestลดแหลก60%

ตามรอยพ่อและสมเด็จย่าขึ้นไปชมดอยตุง



สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)



ช่วงที่ 1 พบกับสัมภาษณ์เจาะลึกการแปลงโฉม “ขอนแก่น” ต้นแบบที่จะนำไปสู่ “อีสาน โมเดล” สาขาท่องเที่ยว พร้อมข่าวอัพเดทต่าง ๆ

คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์
นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประธานกรรมการโรงแรมโฆษะ ขอนแก่น
           “คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์” นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประธานกรรมการโรงแรมโฆษะ ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ในรายการถึงการทิศทางแนวโน้มของนักลงทุนพัฒนาธุรกิจห้องพักในอีสาน และอนาคตการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ปัจจุบันโรงแรมที่ให้บริการในภาคอีสาน 20 จังหวัด จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ให้บริการนักท่องเที่ยว และรองรับการประชุมสัมมนา เนื่องจากอีสานเป็นภาคที่มีขนาดใหญ่พื้นที่ค่อนข้างมาก บางจังหวัดโชคดีธรรมชาติสวยงามจึงเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยว แต่บางจังหวัดต้องทุ่มการลงทุนเพื่อจัดทำสถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้างขึ้น

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งภาครัฐและเอกชนผนึกความร่วมมือกันอย่างหนักที่จะสร้างขอนแก่นให้เป็น “เมืองดอกคูน” อย่างแท้จริง เพื่อใช้ศักยภาพสร้างเป็นจุดเอกลักษณ์ทางจุดขายเชิงรุกกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เป็นแนวคิดที่มีต้นแบบมาจากญี่ปุ่นเป็นดินแดนแห่งซากุระบาน แต่ดอกคูนสามารถคงทนอยู่นานได้ถึงปีละไม่ต่ำกว่า 1 เดือน เส้นทางหลัก สวนป่าคูนใหญ่ อยู่บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำเปรม ติณสูลานนท์ อำเภอน้ำพอง และปลูกระจายอยู่ตามถนนสายท่องเที่ยวทั่วจังหวัดขอนแก่น

สำหรับเทศกาลดอกคูนบานเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ต่อเนื่องถึงเทศกาลจสงกรานต์ของทุกปี

คุณชาติชายได้กล่าวถึงเรื่องการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวภาพรวมอย่างเข้มแข็งมาตลอด โดยเฉพาะ “โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น” สามารถเดินหน้าธุรกิจห้องพักต้อนรับนักท่องเที่ยวมายาวนานเป็นปีที่ 49 โดยได้ปรับปรุงมาอยู่ตลอด ทั้งสะอาด ปลอดภัย ทันสมัย

จนกล่าวได้ว่า “โฆษะ ขอนแก่น” เป็น Green Hotel ของภาคอีสาน เน้นและใส่ใจพัฒนาห้องพักด้วยการประหยัดพลังงาน นำระบบปรับอากาศประหยัดที่สุดในโลก ดูแลสิ่งแวดล้อม มาตลอด ในปี 2560 กำลังมาถึง “จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่” ในการรีแบรนด์ หรือปรับปรุงเข้าสู่เส้นทางใหม่ เพื่อส่งไม้ต่อไปยังผู้บริหารซึ่งเป็นทายาทเลือดใหม่ในรุ่นที่ 3 เข้ามาดูแลต่อไป พร้อมทั้งขยายผลทำให้โรงแรมอยู่คู่เมืองขอนแก่นอย่างมั่นคงยั่งยืนต่อไป สืบต่อจากรุ่นบรรพบุรุษ รุ่นปู่ พ่อ และลูกหลาน

คอนเซ็ปต์การต่อยอดขยายในโครงการลงทุน “รีแบรนด์” เตรียมปรับปรุงห้องพักที่มีอยู่ 197 ห้อง เพิ่มความทันสมัย ไฮเทคโนโลยี มีนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ควบคู่กับการสร้าง “ห้องประชุม” เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการเมือง MICE CITY เนื่องจากทำเลของขอนแก่นตั้งอยู่กลางภาคอีสานและกลุ่มประเทศอินโดจีน ต่อไปจะมีการเดินทางหลั่งไหลเข้ามาประชุมสัมมนาเติบโตเพิ่มอย่างแน่นอน

ดังนั้นจึงเห็นโอกาสในการปรับปรุงและขยายห้องประชุมสัมมนา ไว้รองรับอนาคต โดยได้ใช้งบประมาณลงทุน 100 ล้านบาท ยกเครื่องโรงแรมโฆษะ ส่วนเทคโนโลยีจะเน้นรองรับเทรนด์ของผู้ใช้บริการที่หันมาจองซื้อผ่านทางมือถือทั้งหมด

สำหรับการเตรียมพร้อมรับเมือง MICE CITY ในฐานะที่ขอนแก่นมีนักลงทุนแถวหน้าของอีสานอยู่เป็นจำนวนมาก ล่าสุดได้รวมตัวกันจัดตั้ง KMM หรือกลุ่ม ขอนแก่น ไมซ์ แมเนจเมนท์  ขึ้นมาทำหน้าที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ วางกลยุทธ์พัฒนาตลาดและการลงทุนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการรับงานประชุมสัมมนาทุกขนาด

ความแตกต่างจากการเจาะตลาดงานประชุม สัมมนา แล้ว ในส่วนของโรงแรมโฆษะยังเน้นบริการ “อาหาร” ที่มีความโดดเด่นทั้งทางด้านอาหารพื้นเมือง อาหารฟิวชั่น และอาหารสากล พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเข้ามาชิมได้

ผนวกกับปี 2560 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้โหมกลยุทธ์ “อาหารถิ่น” ของแต่ละจังหวัดแต่ละภาค ทางโฆษะก็พร้อมนำอาหารถิ่นเข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งภูมิใจนำเสนอไฮไลต์คือ “ผลิตภัณฑ์ไก่พันธุ์ KKU 1” เป็นผลงานการศึกษาวิจัยพันธุ์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งทางโรงแรมโฆษะได้นำมาต่อยอดเป็นเมนูอาหารถิ่น เนื่องจากไก่ชนิดนี้นำพันธุ์พื้นบ้านมาผสมและให้เครือข่ายชุมชนจะได้รับลูกไก่พันธุ์นี้จากมหาวิทยาลัยเพื่อนำไปเลี้ยงแบบเปิด มีรายได้เสริม สิ่งสำคัญคือทำให้ไก่มีความสุข ไม่ให้ยาและสารเร่ง ซึ่งจะเป็นเทรนด์ที่จะนำมาปรุงเป็นอาหารถิ่นเพื่อสุขภาพด้วย

สำหรับ “สูตรอาหารถิ่นคือไก่ย่าง KKU 1” โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ทางโรงแรมโฆษะได้มีโอกาสปรุงไก่ย่างพันธุ์ดังกล่าวเป็นเมนูพิเศษถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ โดยราดด้วยซอส “น้ำผึ้งจิตรลดา”
ไก่KKU 1 อาหารถิ่นสูตรใหม่ในขอนแก่น


จากนี้ไปจะต่อยอดสูตรอาหารถิ่นไก่ย่าง KKU 1 ซึ่งมีที่มาคือระบบการสร้างเครือข่าย “ชุมชนเลี้ยงไก่ KKU 1 ทั่วขอนแก่น เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านเพิ่มขึ้น ด้วยการนำมาจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ประชารัฐ รักสามัคคี จังหวัดขอนแก่น จำกัด จากนั้นก็ยังนำมาแปรรูปเป็นอาหารถิ่นจำหน่ายได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อย้อนมาที่โรงแรมโฆษะอีกครั้งว่า จะวางโครงสร้างบริหารเพื่อให้การบริการและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองขอนแก่นเจริญอย่างมีคุณภาพนั้น คุณชาติชาย ยืนยันว่า หัวใจสำคัญคือ “จรรยาบรรณ” ของผู้ประกอบการที่จะสร้างความยั่งยืน จึงขอปลูกฝังนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้เน้นเรื่อง ความมีคุณธรรม สร้างความมั่นคง ยุติธรรมให้แก่ พนักงานและคู่ค้า เมื่อเจ้าของให้ในสิ่งที่ดีกับคนรอบข้าง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะทำให้ทั้งสังคมของภาคธุรกิจและบริการดีตามไปด้วย

สถานการณ์ราคาโรงแรมในอีสานที่จะบอกกับนักท่องเที่ยวนั้น ทุกวันนี้คุ้มค่ามากสุด ๆ อยู่แล้ว เช่น โรงแรมโฆษะ มีระดับราคาห้องพักให้เลือกตั้งแต่คืนละ 1,200-35,000 บาทต่อห้อง ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มสนใจความสะดวกสบายในราคาเท่าไรที่พร้อมมาใช้บริการ

ปัจจุบันและอนาคตของการลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวใน “ขอนแก่น” พร้อมที่จะเป็นแม่เหล็กและศูนย์กลางของภูมิภาคดึงดูดกำลังซื้อในและต่างประเทศเข้ามาใช้เงินเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายสู่ท้องถิ่นใกล้เคียงให้ได้มากที่สุด



ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 See You Soon 7หมวดสินค้าคิงเพาเวอร์รางน้ำลด70%

“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำรุ่นใหม่ เปิดเผยว่า ได้จัดมหกรรมตอกย้ำศักยภาพของ คิง เพาเวอร์ ที่เชี่ยวชาญและช่ำชองในการคัดสรรสินค้าจากการเดินทางไปทั่วโลกที่ได้เรื่องราวมากมายให้ผู้ใช้บริการได้ค้นพบ รู้จัก รู้สึกตื่นเต้น สนุกที่ได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ  จึงตั้งใจสรรหานำประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นหลายมิติที่มีคุณค่ามาสร้างความกระตือรือล้นเปิดมุมมองให้ผู้คนได้รู้จักสิ่งต่างๆ จากทุกมุมโลกอยู่เสมอ กับการสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษระดับโลกโฉมใหม่ของ คิง เพาเวอร์ ด้วยการเตรียมเงินอีกกว่า 2,500 ล้านบาท เนรมิตแหล่งช้อปปิ้งแห่งเอเชียแนวใหม่เปิดบริการภายใน 5 เดือนข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 21-25 เมษายน 2560 ก่อนปิดปรับโฉม คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ ได้จัดกิจกรรมตอกย้ำความทรงจำและคืนกำไรลูกค้าคนไทยและนานาชาติด้วยโครงการ “See You Soon Sale Party 2017” นำสินค้าในร้านดิวตี้ ฟรี ทั้งหมด มาลดกระหน่ำทั้งสินค้าแบรนด์เนมนานาชาติกว่า 200 แบรนด์ และสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์ครองกำลังซื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติ


จัดมหกรรมรายการส่งเสริมการขาย  See You Soon Sale Party  ด้วยโปรโมชั่นเทกำไรคืนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ช้อปปิ้งสินค้าที่มีส่วนลดมากกว่า  70% พร้อมด้วย Gift Voucher Redeem  30%  สินค้าราคาปกติ GWP ของสมนาคุณ และ คูปอง “Pop up Store” เพื่อการนำไปช้อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรีครั้งต่อไป บริเวณชั้น1 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน—30 กันยายน 2560  


โดยเฉพาะลูกค้าคนไทย และสมาชิกคิง เพาเวอร์ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมช้อปกับโปรโมชั่น See You Soon Sale Party  เพียงซื้อสินค้าราคาปกติ ครบทุก 10,000 บาท (Gross Sale)  ทางบริษัทพร้อมตอบแทนด้วยการคืน Gift Voucher ทันที 3,000 บาท พร้อมจัดจุดแลกรับไว้ยังจุดโปรโมชั่นบริเวณชั้น 2 ทางเข้าร้านจำหน่าย หรือ ห้องเมมเบอร์ คลับ


ทั้งนี้ยังเสนอความพิเศษสุดให้แก่ สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ประเภท ONYX , CROWN , VEGA เฉพาะ 15 คนแรก จะได้ทั้ง 2 สิทธิ์หลัก ประกอบด้วย การแลกรับสิทธิ์ที่ห้องเมมเบอร์ คลับ  และหากช้อปครบ 1,500,000 บาทขึ้นไป (Gross Sale)  รับเพิ่ม Gift Voucher 50,000 บาท

นอกจากส่วนลดและสิทธิประโยชน์หลากหลายรูปแบบแล้ว ในวันเปิดมหกรรมลดราคาครั้งยิ่งใหญ่โครงการ “See You Soon Sale Party 2017” วันที่ 21 เมษายน 2560 มีกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปิน ดารา ชั้นนำ มาบอกเล่าเรื่องราวด้วยธีมต่าง ๆ ของสินค้าไฮไลต์ในร้านคิง เพาเวอร์ ถึง 7 หมวด ประกอบด้วย

1.เครื่องสำอางค์และความสวยความงาม (beauty) 2.นาฬิกาแบรนด์นำของโลก (Watch) 3.ผลิตภัณฑ์การเดินทาง (Jouney) 4.อาหาร(Food) 5.ปาร์ตี้ 6.สินค้าไทย 7.แฟชั่นครบวงจร





ข่าวที่ 2 “ทอท.พร้อมเข้าบริหารเพิ่ม3สนามบินภูมิภาค”

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท. สนใจจะเข้าบริหารสนามบินในภูมิภาคซึ่งพร้อมเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ (Logistics Hub ) บริเวณเขตเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ เบื้องต้นมี 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.ท่าอากาศยานแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งมีขีดความสามารถพร้อมจะเป็นศูนย์กลางทางตะวันตก  2.ท่าอากาศยานขอนแก่น หรือ 3.ท่าอากาศยานอุดร เป็นศูนย์กลางการขนส่งภาคอีสาน ขณะเดียวกันก็สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายเส้นทางบินสนับสนุนแผนจัดการจราจรทางอากาศและการเติบโตของผู้โดยสารของท่าอากาศยาน ทอท.แต่ละภาค ทั้ง 6  แห่ง คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ

 ปัจจุบันคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) อยู่ระหว่างการพิจารณาและหารือกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ถึงแนวทางการให้ ทอท.เข้าไปบริหารสนามบินดังกล่าว เนื่องจากการพัฒนาสนามบินต้องทำควบคู่ไปกับแผนพัฒนาเชิงตลาดและธุรกิจการบิน



ข่าวที่ 3 “ผุดกอล์ฟเฟสติวัลดึงรายได้เข้าเชียงใหม่-ลำพูน”

นางปิ่นนาถ เจริญผล  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ร่วมกับสมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ และพันธมิตร จัดโครงการส่งเสริมตลาดกอล์ฟ  ภายใต้ชื่อ “โครงการ Chiang Mai Golf Festival”   ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม –  30 มิถุนายน 2560 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน ด้วยกลยุทธ์กระตุ้นให้นักกอล์ฟ และผู้รักสุขภาพเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวรวมทั้งสร้างรายได้ให้หมุนเวียนภายในจังหวัดและผู้ประกอบการอื่นๆ

ปี 2560 มีสนามกอล์ฟชั้นนำของเชียงใหม่ และลำพูนเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 5 สนาม ได้แก่ Chiang Mai Highlands Golf and Spa Resort , Maejo Golf Resort & Spa , North Hill Golf Club ,  Gassan Khuntan Golf & Resort  และ Gassan Legacy Golf Club   โดยมีค่าใช้จ่ายในการออกรอบคนละ 900 บาท หรือเลือกสมัครเข้าแข่นขันในสนามกอล์ฟต่างๆ เพื่อชิงถ้วยรางวัล และรับของที่ระลึกในอัตราท่านละ 1,600 บาท (รวมค่ากรีนฟี แคดดี้ และงานเลี้ยง)



ปัจจุบันเชียงใหม่เป็นที่รู้จักกันในกลุ่มนักกอล์ฟว่าเป็น “The New Golf Destination” ในปี 2559 มีนักกอลฟ์เข้ามาไม่ต่ำกว่า 40,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่เชียงใหม่ และลำพูน กว่า 100 ล้านบาท ปี 2560 คาดจะเพิ่มจำนวนนักกอล์ฟและรายได้ในพื้นที่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีความโดดเด่นทางด้านที่พัก  การให้บริการสปา และนวดเพื่อสุขภาพเอกลักษณ์แบบล้านนาโดนใจชาวไทย และชาวต่างชาติ   

สอบถามเพิ่มที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ เวลา 08.30-16.30 น. โทร. 0 5324 8604, 0 5324 8607 หรือ TAT Call Center โทร. 1672 และติดตามข่าวสารได้ทาง www.tourismchiangmai.org



ข่าวที่  4 “บางจากกวาดรางวัลเอเชียเจ้าแห่งCSR



นางฉวีวรรณ เกียรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เป็นผู้แทนบริษัท รับมอบ 3 รางวัล ได้แก่ Best CEO Award Platinum รางวัล Best Country CSR Excellence Award Thailand และรางวัล Best Community Programme Award Gold ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้บริหาสูงสุดและองค์กรที่มุ่งการบริหารงานสู่ความเป็นเลิศและมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคมในงาน The 9th Annual Global CSR Summit & Awards 2017 and The Global Good Governance Awards 2017 ซึ่งมีบริษัทในเอเชียเข้าร่วมกว่า 200 แห่ง ที่เกาะลังกาวี มาเลเซีย

และเมื่อวันที่ 7  เมษายน 2560  บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มอบรางวัล Thailand ICT Excellence Awards 201 จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะองค์กรที่นำไอซีทีเข้ามาพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อการส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานการจัดการด้านสารสนเทศ

โดยมี ดร.จงโปรด  คชภูมิ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจากฯ เป็นตัวแทนรับรางวัล Excellence จากโครงการ Fuel Automation System ซึ่งเป็นโครงการประเภทนวัตกรรม (Innovation Projects) และคุณบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจบริษัทร่วม บริษัท บางจากฯ รับรางวัล Distinguish จากโครงการ SMART (Sustainable Management Agriculture Retail Trading System) ซึ่งเป็นโครงการเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน (Business Sustainability Projects) จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เขตอุตสาหกรรมซอพท์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand) และวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



ข่าวที่  5 “วันธรรมดาน่าเที่ยว11-14พค.คึกคัก”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานว่า ร่วมกับ 10 พันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบครบวงจร  จัดมหกรรมราคาพิเศษโครงการ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” เปลี่ยนวันว่างให้เป็นวันเศรษฐกิจ ลดการกระจุกตัวการเดินทางในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว พลิกทุกวันธรรมดาให้กลายเป็น “วันพิเศษ” ภายใต้แนวคิด “โอ้โห! วันธรรมดา...วันพิเศษ”

โดยมี  โรงแรมและรีสอร์ทเครือเซ็นทารา, โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ เซเรนนาต้า โฮเทล เเอนด์ รีสอร์ท, เว็บไซต์อะโกด้า, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, ไทยเรนท์อะคาร์, นครชัยแอร์ ,ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, เอสแอนด์พี และ บางจากปิโตรเลียม มอบข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ที่พักรับโปรโมชั่นลดสูงสุด 60% พร้อมรับสิทธิพิเศษสุดเอ็กคลูซีพอีกมากมาย ทั้งอัพเกรดห้องพัก ส่วนลดห้องอาหาร-สปา รถเช่าราคาเริ่มต้นที่ 550 บาท เติมน้ำมันรับคะแนนคูณสอง ช้อปปิ้งครบ 50,000 บาท รับบัตรห้องพักฟรี เป็นต้น สนใจโปรโมทชั่นสุดพิเศษเพิ่มเติม คลิ๊กเลยเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/weekdayspecial



และระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2560 ห้ามพลาดไปงาน “วันธรรมดา น่าเที่ยวแอนด์ Outdoor Fest ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้ผลิตและจำหน่าย อุปกรณ์เพื่อกิจกรรมประเภท Outdoor & Adventure อาทิ อุปกรณ์ปีนเขา รถ ATV อุปกรณ์เดินป่า และ ตั้งแคมป์ จักรยานและอุปกรณ์จักรยาน เรือยาง, เรือแคนู, เรือยอร์ช อุปกรณ์กีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟบอร์ด, เวคบอร์ด อุปกรณ์กีฬาทางอากาศ เช่น พารามอเตอร์ อุปกรณ์การยิงธนู และอื่นๆอีกมากมายมาร่วมขายสินค้าราคาพิเศษ





ช่วงที่ 2 จะพาไปสร้างประสบการณ์ความสุขกับการท่องเที่ยว สุขภาพ และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์

@ตามรอยพ่อไปดอยตุง เชียงราย



โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย คือโครงการในพระราชดำริ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต อนุรักษ์สืบสานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีของ ชาวไทยภูเขาและชาวไทย ภาคเหนือให้คงอยู่ ตลอดไป สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07:00 - 17:00 น.



โดยมาจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งอดีต ทำให้วันนี้โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กลายมาเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่เผยความงดงามทั้งทัศนียภาพ และวัฒนธรรมที่ได้รับการสืบสาน จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนแวะเวียนมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมนานาพรรณไม้ที่งอกงาม และสัมผัสทัศนียภาพอันร่มรื่นสบายตาอย่างไม่ขาดสาย



โครงการอันเนื่องจากพระราชดำริของสมเด็จย่าแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2531 ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย ที่ประกอบไปด้วย ชนเผ่าอาข่า ลาหู่ จีนก๊กมินตั๋ง ไทใหญ่ ไทลื้อ และไทลัวะ มากกว่า 11,000 ชีวิต ภายหลังสมเด็จย่าทรงได้แรงบันดาลใจ จากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแก้ปัญหาเรื่องการปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขามาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้สมเด็จย่า มีพระราชประสงค์ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวบ้าน บนดอยตุง ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

พร้อมทั้งอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของชาวไทยภูเขาและชาวไทยภาคเหนือให้คงอยู่ตลอดไป วันนี้โครงการพัฒนาดอยตุงฯ คือแหล่งเรียนรู้งานฝีมือและการแปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานความทันสมัยและรากเหง้าของวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว


เส้นทางท่องเที่ยว จ.เชียงราย

วันแรก  ช่วงเช้า วางแผนไปท่องเที่ยว อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ศึกษาประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตชาวเชียงราย ช่วงบ่าย” ชมขัวศิลปะ ร่วมกิจกรรมงานศิลปะกับศิลปิน และ ชมศิลปะบ้านดำของ อ.ถวัลย์ ดัชนี

วันที่สอง  ช่วงเช้า” ดื่มด่ำกับพระตำหนักดอยตุง ชมสวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจ ช่วงบ่าย” ไปดูศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานจากดอยตุง ซื้อผลิตภัณฑ์ดอยตุงชมโรงงานทอผ้า เซรามิก

วันที่สาม  ช่วงเช้า” หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน อุมงคมุข อุโมงค์กาลเวลาที่รวบรวมเรื่องฝิ่นที่สมบูรณ์ที่สุด ช่วงบ่าย” ตลาดแม่สาย เลือกซื้อสินค้าจากไทย-เมียนมาร์


สถานที่เที่ยวห้ามพลาด  ได้แก่ พระตำหนักดอยตุง ที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า ร้านดอยตุงไลฟ์สไตล์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์งานฝีมือของดอยตุง อาทิ ผ้าทอมือ เสื้อผ้า พรมทอมือ ของตกแต่งบ้าน

กิจกรรมห้ามพลาด เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของ โครงการที่หอพระราชประวัติ ร้านมุมกาแฟ โครงการพัฒนา ดอยตุง จิบกาแฟสดรสเยี่ยมของ โครงการ เวลา 08.00-17.00 น.

สำหรับ “ค่าเข้าชม” ทั้งชาวไทยและต่างชาติเท่ากัน คนละ 150 บาท เพื่อเข้าชมได้ 3 สถานที่สำคัญ ได้แก่ พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอพระราชประวัติ มีรถสองแถวบริการตั้งแต่ 07.00 น.ออกทุก 20 นาที



สนใจท่องเที่ยวโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) ศูนย์ท่องเที่ยวและบริการ สำนักงาน ประสานงานโครงการพัฒนาดอยตุง อาคารอเนกประสงค์ พระตำหนัก ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โทร. 0-5376-7015-12 หรือเข้าไปดูได้ที่ www.doitung.com



การเดินทาง  จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ราว 45 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1149 ไปอีกประมาณ 15 กม.



@ผิวสวยใสด้วยภูมิปัญญาอาหารไทย

นายคมสัน ทินกร ณ อยุธยา แพทย์แผนไทย แนะนำการเลือกกินอาหารให้ผิวสวยใสด้วยอาหารภูมิปัญญาไทย ซึ่งเน้นกินดี ขับถ่ายง่าย บำรุงธาตุ ป้องกันโรคเรื้อรัง ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเรียนรู้หมด

อาหารมากประโยชน์ที่คนสมัยก่อนกินเล่นเพื่อช่วยเสริมระบบย่อย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น อย่างข้าวหมาก ก็เป็นอาหารที่คนสมัยใหม่แทบไม่รู้จัก ทั้งที่ข้าวหมากเป็นอาหารที่คนโบราณคิดค้นกระบวนการหมักจนได้แบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ หรือโปรไบโอติก ที่นมเปรี้ยวในปัจจุบันนำมาเป็นจุดขาย

“แต่ข้าวหมากมีประโยชน์มากกว่า เพราะไม่ใช่แค่โปรไบโอติก ยังช่วยให้ร่างกายผลิตกรดอินทรีย์ช่วยในการขับถ่าย ทำให้กระดูกและเม็ดเลือดแข็งแรง ปรับความสมดุลให้กับแบคทีเรียในร่างกาย ช่วยให้การเผาผลาญปกติ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดสารก่อมะเร็ง กำจัดไวรัส ลดอาการอักเสบ แก้ท้องเสีย โรคกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภูมิแพ้ โรคตับอักเสบ โรคตับ แผลสด แผลพุพอง แผลเน่าเปื่อย และยังอุดมไปด้วยธาตุสังกะสี ช่วยบำรุงเลือด ทำให้ผิวพรรณสดใส ไม่เป็นสิวฝ้า”

นายคมสันกล่าวต่อว่า คนปัจจุบันไม่ยอมใช้ภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษคิดไว้ให้ เพียงอาการปวดท้องประจำเดือน ภูมิปัญญาโบราณก็แก่ง่ายโดยไม่ต้องกินยา เพียงรู้จักปรับการกินอาหารเท่านั้น คือก่อนมีประจำเดือนให้เลือกกินอาหารพวกผัก-ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น อาทิ แตงโม มะพร้าว ผักบุ้ง สายบัว เป็นต้น ทันทีที่ประจำเดือนมาให้หยุดอาหารฤทธิ์เย็นมาเป็นฤทธิ์ร้อน อาทิ ใบกะเพรา กระเทียม ขิง และวันสุดท้ายของประจำเดือนก็ให้กลับมากินอาหารฤทธิ์เย็นเช่นเดิมเพื่อเพิ่มเลือด การประคบแก้ปวดประจำเดือน คนปัจจุบันก็ทำผิดวิธี มักใช้ของร้อนประคบ ทั้งที่จริงต้องใช้ของเย็นประคบจึงจะแก้ปวดได้



ฟังข่าวท้ายชั่วโมง



ข่าวแรก “กาญจน์เปิดเมืองกระตุ้นทัวร์จีนคุณภาพ”



นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะผู้บริหารบริษัทนำเที่ยว รัฐวิสาหกิจผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวใหญ่สุดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 28 มณฑล จำนวนกว่า 50 คน นำโดยบริษัท ไชน่า ทราเวล เซอร์วิส เฮด ออฟฟิศ (ไทยแลนด์ ) จำกัด ผู้แทนสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)  ร่วมเดินทางเข้ามาดูงานแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อที่จะเพิ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มคุณภาพเข้ามามากยิ่งขึ้นในอนาคต

ซึ่งทางกาญจนบุรีได้มีโอกาสต้อนรับเพื่อแนะนำสถานที่ เช่น แพอาหารริเวอร์แควโฟลทติ้ง สะพานข้ามแม่น้ำแคว เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124  ปางช้างทวีชัย วัดถ้ำเสือ และกิจกรรมล่องแพในแม่น้ำแคว มุ่งเน้นส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวดังกล่าวภายในจังหวัด

การพบปะระหว่างกันครั้งนี้ สอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน ตามที่ประเทศไทยได้มีข้อตกลงกันระหว่างผู้นำรัฐวิสาหกิจจีนและผู้บริหารสมาคมท่องเที่ยวไทย จะกระตุ้นการนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวไทยปีละ 1 ล้านคน ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี
ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์รับฝูงบินใหม่ขยายตลาดอินเตอร์”

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า ได้รับเครื่องบิน ATR ใหม่ล่าสุดรุ่น 72-600 จำนวน 2 ลำ จากทางบริษัท เอทีอาร์ ฝรั่งเศส ขณะนี้ทำให้มีฝูงบินรุ่นนี้รวม ความจุลำละ 70 ที่นั่ง ประกอบไปด้วยห้องนักบินที่มีความทันสมัย มีการแสดงผลเป็นระบบดิจิตัลทั้งหมด พร้อมกับที่นั่งที่กว้างขวางสะดวกสบาย จึงวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศ และระหว่างประเทศ อาทิ ภูเก็ต สุโขทัย ตราด ลำปาง หลวงพระบาง ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และ เสียมราฐ
            ปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์เวย์สมีเครื่องบินประจำฝูงบินทั้งหมด 36 ลำ  ประกอบไปด้วยเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-500 จำนวน 6 ลำ เอทีอาร์ 72-600 จำนวน 9 ลำ แอร์บัส A319 จำนวน 12 ลำ และแอร์บัส A320 จำนวน 9 ลำ 

ข่าวที่สาม “5อุตฯ9ชุมชนรับอานิสงส์ท่องเที่ยวโต”

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยว ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และส่งผลเชิงบวกใน 5 อุตสาหกรรมโตรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม 2.วิสาหกิจชุมชนและโอท็อป 3.อุตสาหกรรมดิจิทัลและสตาร์ทอัพ  4.อุตสาหกรรมสิ่งทอ และ 5.อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เผยปีที่ผ่านมาสร้างมูลค่าได้กว่า 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพและความเชื่อมั่นที่ดีต่อนักท่องเที่ยว

ช่วงไตรมาสที่ 2 สัญญาณการท่องเที่ยวของไทยยังคงคึกคักโดยได้รับปัจจัยส่งเสริมทั้งจากเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 จะมีเงินสะพัดถึง 127,693 ล้านบาท ผนวกกับการสร้างแพ็คเกจต่าง ๆ การทำตลาดและการโฆษณาที่แปลกใหม่ โดยในส่วนของ กสอ.ยังได้ดำเนินโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผลักดันกิจกรรม ไทย..เที่ยว..เท่ เพื่อเป็นทางเลือกการท่องเที่ยวตามรอย 9 วิถีชุมชนรูปแบบใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบริการและกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์แบบที่ไม่เคยมีในเมืองไทยมาก่อน

          กสอ. ได้จัดทำกิจกรรม ภายใต้แนวคิด ไทย..เที่ยว..เท่ ที่ได้ผลักดันให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชนจาก 9 หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Creative Industry Village (CIV) ซึ่งประกอบไปด้วย 1.ชุมชนออนใต้ จ.เชียงใหม่ 2.ชุมชนน้ำเกี๋ยน จ.น่าน 3.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 4.ชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี 5.ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 6.ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง 7.ชุมชนบ้านเชียง จ.อุดรธานี 8.ชุมชนบ้านนาตีน จ.กระบี่ และ 9.ชุมชนเกาะยอ จ.สงขลา เพื่อเป็นทางเลือกการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบริการและกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์แบบที่ไม่เคยมีในเมืองไทย ทั้งยังจะได้เรียนรู้ วิถีชีวิต การเลือกชมและซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ ๆ
ข่าวที่สี่ “เที่ยว2งานใหญ่ไลม์ไลน์ฯภูเก็ต”

นายกิติภูมิ ทองลิ่มชินกฤต ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ตกล่าวว่า เชิญชวนเที่ยว 2 งานในภูเก็ต ได้แก่  “นิทรรศการ” ระหว่างวันนี้ -30 เมษายน 2560 ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. และ ระหว่าง 5-7 พฤษภาคม นี้ เที่ยวต่องานงาน Limelight Farmers’ Market เวลา 12.00-20.00 น.  ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต

โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต จัดนิทรรศการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นิทรรศการเกี่ยวกับคุณธรรมตามพระราชดำรัส 9 ประการ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานให้แก่พสกนิกรชาวไทยในโอกาสต่างๆ ประกอบด้วย พากเพียรอดทน  เสริมสร้างคนดี  รู้รักสามัคคี  มีน้ำใจ  ใฝ่ประหยัด  ซื่อสัตย์สุจริต  เศรษฐกิจพอเพียง  เรียงร้อยไมตรี และหวังดีมีเมตตา

                ภายในงานพบสินค้าจากเกษตรกรตัวจริงในราคาแสนถูก  เพื่อส่งเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดในกลุ่มอันดามัน ซึ่งเกษตรกรที่ผลิตสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และเป็นสินค้าเอกลักษณ์ มีบรรจุภัณฑ์ และเครื่องหมายรับรองที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคได้ การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรทั้งในด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง จึงเป็นเรื่องที่เราควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง

                ส่วนงาน Limelight Farmers’ Market ได้เชิญเกษตรกรตัวจริงให้นำสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน  อาทิ   สับปะรด  ข้าวโพด นมข้าวโพด น้ำมัลเบอรี่ กล้วยตาก นมแพะ มันสำปะหลัง น้ำพริกต่างๆ ขนมด้วง ไข่ม้วน นมโค สมุนไพร ข้าวหลาม ข้าวสาร ข้าวไรซ์เบอรี่ ชาหญ้าหวาน  ผักสดพื้นบ้าน ผลไม้ ปลาแห้ง กะปิภูเก็ต จั๊กจั่นทอดกรอบ ไข่ไก่ ไข่เป็ด ปลาดุกร้า น้ำปลาหวาน ส้มควาย ถั่วต่างๆ ต้นอ่อนทานตะวัน เห็ดนางฟ้า อุปกรณ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์กำจัดวัชพืช และแมลง ซีอิ๊วเต้าเจี้ยวจันทร์แสง เป็นต้น  มาจำหน่ายต่อผู้บริโภคทั้งชาวไทย และต่างชาติโดยตรงในราคาถูก  และเป็นโอกาสที่ผู้ผลิต  เกษตรกร  กลุ่มผู้บริโภคได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดการผลิตสินค้าทางการเกษตรให้ตรงตามความต้องการของตลาด และผู้บริโภคต่อไป

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์การบิน/ท่องเที่ยว
เจ้าของรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai