ไทยโกยเงินเมดิคอลแพทย์องค์รวมปีระกา
มหาเศรษฐีจีนแห่ใช้กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส
แคมเปญช็อปดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์ลดแหลก70%
ททท.นำไดโน่4พันธ์ยึดสวนประตูเมืองขอนแก่น
ภาคกลางแจกไม่ยั้งปลุกคนเที่ยววันธรรมดา
เอ็กซ์พีเดียชี้5ชาติแห่จองออนไลน์ทัวร์ไทย
แคนทารี-คามิโอชูห้องอาหารโรงแรมทั่วไทย
เคทีซีออกแคมเปญคืนเงินช้อปในต่างประเทศ
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่
16 เมษายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FMc8
97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong
และ gurutourza.blogspot.com ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)
ช่วงที่ 1
พบกับสัมภาษณ์ “การกลับมาของกรุงสยาม
เซนต์คาร์ลอส” พลิกเกมการตลาดเมดิคอลไทยในตลาดมหาเศรษฐีจีนแห่ทำศัลยกรรมแต่ละรายทุ่มจ่ายไม่อั้นโปรแกรมละกว่า
2 ล้านบาท พร้อมข่าวอัพเดทต่าง ๆ
แพทย์หญิงอัญชุลี หยองอนุกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ให้สัมภาษณ์พิเศษแบบเจาะลึกกับทางรายการ
โดยได้เล่าถึงสถานการณ์ภาพรวมว่า ในการพัฒนาธุรกิจ “สุขภาพและแพทย์องค์รวม” หรือ Health
and Wellness & Medical Tourism ของประเทศไทยในตลาดนานาชาติ
เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในประเทศจึงเป็นปัจจัยทำให้หลายประเทศชะลอตัวที่จะเข้ามาใช้บริการสุขภาพลดลง
เนื่องจากลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์อ่อนไหวเรื่องความปลอดภัย
ทว่าปี 2560 ทาง “กรุงสยาม เซนต์ คาร์ลอส” ได้กลับมาทำการตลาดบริการสุขภาพองค์รวมอย่างจริงจังในเวทีโลก
ซึ่งตามปกติจะมีกลุ่มยุโรป และยุโรปตะวันออก กำลังซื้อเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
หัวใจสำคัญคือ “สินค้าต้องมีความน่าเชื่อถือ” เป็นอันดับแรก
ขณะนี้ได้เข้าไปเจาะ
“ตลาดจีนกลุ่มเฉพาะ” ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี มีกำลังซื้อสูงจริง ๆ ในพื้นที่แถบมณฑลใหญ่
ๆ กลุ่มที่ต้องการศัลยกรรม และความสวยความงาม เทรนด์รักษาสุขภาพ
รวมทั้งแพทย์ทางเลือก ที่มีสปาสุขภาพ
สามารถแก้ไขหรือช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย
ตัวอย่าง
กลุ่มที่ต้องการมีบุตร
แต่ไม่ต้องการทำกิฟแต่ต้องการเพิ่มสร้างสุขภาพด้วยแพทย์ทางเลือกในการสร้างสมดุลของฮอร์โมนต่าง ๆ ให้ตรงตามสภาพร่างกายของคู่แต่งงานนั้น ๆ
ตลาดที่กำลังบุกเข้าไปในเร็ววันนี้คือ
“เมียนมา” จะชูการทำศัลยกรรม กับโปรแกรมการลดน้ำหนัก ความสวยความงาม กำลังได้รับความนิยมจากตลาดในกลุ่ม CLMV สูงมาก
ส่วนอัตราการเติบโตตลาดบริการสุขภาพของเซ็นต์
คาร์ลอส ปีนี้ ทำได้ไม่ต่ำกว่า 30 %
ในช่วงเดือนพฤษภาคม
2560 จะมีตลาดกลุ่มใหญ่เข้ามาใช้บริการจาก “ตลาดจีน”
คนค่อนข้างเยอะ โดยเจาะกลุ่ม “เจ้าของกิจการ”
ต้องการบริการการแพทย์พร้อมจะใช้เงินไม่อั้น
ด้วยสภาพประเทศขนาดใหญ่การแพทย์ยังไม่เข้าถึงมาก
ทั้งนี้การเดินทางเข้าถึงจากมณฑลต่าง
ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนเข้ามายังประเทศไทย
แพทย์หญิงอัญชุลีย้ำว่า
การเตรียมความพร้อมที่จะต้อนรับ “ไฮเอนด์จีน” ที่จะดึงมาเป็นลูกค้าบริการการแพทย์
ต้องเรียนรู้พฤติกรรมและมีต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าให้ลึกซึ้ง ตัวอย่าง ได้มีโอกาสมีโอกาสไปพักโรงแรมและได้พูดคุยกับเจ้าของ
ซึ่งมี “เครือข่ายธุรกิจ” ครอบคลุมร้านอาหารทั่วประเทศกว่า 10 แห่ง ยอดขายแต่ละเดือนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านหยวน
ดังนั้นจึงขอแนะนำผู้ประกอบการไทยที่จะบุกตลาดจีนในด้านบริการแพทย์หรือท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
จะต้องให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของลูกค้าจีน นั่นคือ 1.ต้องมีข้อมูลในกลุ่มผู้ประกอบการที่มีเครือข่ายธุรกิจ 2.อย่าประเมินลูกค้าต่ำกว่าความเป็น เพียงเพราะเห็นจากสายตา
แต่ให้ค้นหาความจริง เพราะยังมีกลุ่มคนรวยหรือมหาเศรษฐีในจีนอีกมากมาย
พร้อมใช้เงินไม่อั้น แต่เจ้าของโปรดักซ์จะต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจ
พฤติกรรมของนักธุรกิจจีนเหล่านี้ให้ถูกต้องก่อนเป็นลำดับแรก
จึงจะสามารถเข้าถึงโอกาสและนำโปรดักซ์เข้าไปขายได้มูลค่ามหาศาล
การวางแผนในช่วงครึ่งปีหลัง
จะเปิดสำนักงานเซ็นต์ คาร์ลอส ในจีน ที่เซี่ยงไฮ้ ทางเซียะเหมิน
ครอบคลุมตลาดได้พอสมควร หลังจากนั้นจะใช้เครือข่ายการแนะนำพร้อมให้ข้อมูล
โดยจะใช้เงินลงทุนไม่ได้สูงมากสำหรับการเปิดสำนักงาน จ่ายเฉพาะค่าเช่า ทำออฟฟิศ
และทีมเซล ค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 300,000 บาท เบื้องต้นจะเปิด 1-2 แห่ง ควบคู่กับการรุกเข้าถึงตัวลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักที่พร้อมใช้จ่ายเงินไม่อั้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าตลาดจีนมี
2 กลุ่ม ได้แก่ 1.เข้ามาตรวจร่างกายประจำปี ประมาณ 1,000 คน 2.กลุ่มที่เข้ามารักษาต้นปี 100
คน ปลายปีอีก 200-300 คน แต่เป็นไฮเอนด์ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 500,000-2,500,000 บาทต่อคน โดยเฉพาะกลุ่มที่พร้อมจ่ายคนละ 2.5 ล้านบาทต่อโปรแกรมนั้น
จะเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์เพื่อทำศัลยกรรมตกแต่ง เช่น
ใช้สเต็มเซลล์จากไขมันมาตกแต่งใบหน้า
การผนวกรวมบริการแพทย์องค์รวมกับแพกเกจท่องเที่ยวนั้น
โปรแกรม “ลดน้ำหนัก” กับการขายพ่วงท่องเที่ยวเข้าไปด้วย
ตลาดจีนตอนนี้มาแรงที่นิยมซื้อโปรแกรมลดน้ำหนักและท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน
ทางโรงพยาบาลจึงต้องจัดกลยุทธ์การผนวกทั้งสองส่วนขายไปพร้อม ๆ กัน
เพราะโรงพยาบาล
กรุงสยาม เซนต์คาร์ลอส ได้ให้ความสำคัญกับการทำตลาดเชิงรุกควบคู่กันไปทั้ง
“บริการการแพทย์และสุขภาพองค์รวม” กับการท่องเที่ยว ของประเทศไทย เติบโตไปด้วยกัน
ฟังข่าวอัพเดทต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ทุ่มช้อปบินฟรี-ลด70%ก่อนปิดปรับปรุง”
นักช้อปทั้งหลายเหลือเวลาอีก
5 วันเท่านั้น กับแคมเปญ “ช้อปบินฟรี” กับ กลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ วันนี้-20 เมษายน 2560 เพียงซื้อแคช การ์ด 25,000 บาท
ช้อปเลยหรือเก็บไว้ใช้ได้ถึงพฤษภาคม 2560 ได้สิทธิ์ “บินฟรีทันทีแบบไม่ต้องลุ้น!” ให้เดินทางไปพักผ่อนได้ทั้ง
ฮ่องกง,ญี่ปุ่น,สิงคโปร์,มาเก๊า และอีกหลายเส้นทาง
เพียงซื้อ
Cash Card ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ,ศรีวารี,พัทยาและภูเก็ต ช็อปเลย แล้วรับตั๋วฟรีทันทีจากสายการบิน
“คาเธย์ แปซิฟิก” บินฟรี กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เมื่อ่แคชการ์ด 25,000 บาท และกรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น เมื่อซื้อ 50,000 บาท สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้- 30 ก.ย. 2560 ใช้เดินทางได้ถึงวันที่ 20 ธ.ค. 2560 จองตั๋วได้ที่ Cathay Pacific Call Centre
02-787-3366 หรือwww.cathaypacific.com/th
สายการบิน
“ไทย แอร์เอเชีย” ซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์ 25,000 บาท บินฟรี กรุงเทพฯ- มาเก๊า สิงคโปร์ กัมพูชา สปป.ลาว
เมียนมา ภูเก็ต ไปยัง ฮ่องกง หรือ กัมพูชา รับโวเชอร์อีก 1,000 บาท ซื้อ 50,000 บาท บินฟรีกรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้- 30
เม.ย. 2561 โดยสามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2560 - 31 พ.ค.
2561 โดยสำรองที่นั่งได้ที่ AirAsia
Call Centre 02-515-9977
ต่อด้วยแคมเปญ“See
You Soon SaleParty” ที่คิง เพาเวอร์
คอมเพล็กซ์ รางน้ำ
จัดส่งท้ายก่อนปิดปรับปรุงด้วยมหกรรมลดราคาสินค้าสุดพิเศษลดสูงสุดถึง 70 %
ต่อเนื่องกัน 5 วัน ระหว่าง 21 – 25 เมษายน 2560 จากนั้นวันที่ 26 เมษายน
จะย้ายสินค้าไปจำหน่ายบริเวณชั้น 1โรงแรม
พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ จนกว่าจะเปิดคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ
ในวันที่ 1 ตลาคม 2560
ข่าวที่ 2 “ทอท.งัด6มาตรการบริการสงกรานต์6สนามบิน”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ตลอดเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560
ระหว่าง 5 – 18 เมษายน 2560 ได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร”
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือระหว่างส่วนงาน ทอท.กับส่วนราชการ
สายการบินและผู้ประกอบการ
และอำนวยความสะดวกให้กระบวนการเดินทางของผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบริการผู้โดยสารที่จะหลั่งไหลมาใช้บริการ
5.36 ล้านคน เที่ยวบินกว่า 32,357 เที่ยว
ทั้ง 6 ท่าอากาศยานได้วางมาตรการเตรียมความพร้อมบริการผู้โดยสารและสายการบิน
6 เรื่อง 1.อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร
2.การรักษาความสะอาดสถานที่และห้องสุขา
3.จัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าและประสานผู้ประกอบการเพิ่มเจ้าหน้าที่ลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ
เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรอรับกระเป๋า 4.จัดรถยนต์บริการประเภทต่างๆ ให้เพียงพอต่อการให้บริการผู้โดยสารที่ 5.เพิ่มเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ 6.เพิ่มเจ้าหน้าที่ เพื่อดูแลด้านการจราจร เข้า-ออก
ท่าอากาศยานและบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน ทั้งสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.) ภูเก็ต (ทภก.) เชียงใหม่ (ทชม.) หาดใหญ่ (ทหญ.)
และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
สำหรับที่ตั้งของศูนย์แต่ละแห่งในท่าอากาศยาน “สุวรรณภูมิ” อยู่ที่ห้อง
CIP5 อาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 “ดอนเมือง” อยู่ตรงศูนย์ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยาน บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ
อาคาร 2 “ภูเก็ต” จัดทำโครงการ “HKT
LOVE U”, “HKT TROUBLE SHOOTING” และ
“HAPPY TO HELP” อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ ทอท.คาดปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่าง 5
– 18 เมษายน 2560 มีสายการบินมาใช้บริการ 32,357 เที่ยว เฉลี่ยวันละประมาณ 2,312
เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.22 % และมีผู้โดยสารประมาณ 5.36 ล้านคน เฉลี่ยวันละประมาณ
383,188 คน เพิ่มขึ้น
12.05 %
ข่าวที่ 3 “ททท.ขอนแก่นเปิดเมืองจัดเทศกาลไดโน่ถึง14พ.ค.”
นางสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานขอนแก่น ร่วมกับ 4 องค์กร คือ
จังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
และพันธมิตรภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ จัด “เทศกาลโคมไฟไดโน่จังหวัดขอนแก่น”
ปีระหว่างวันนี้ – 14 พฤษภาคม2560 ณ สวนประตูเมือง
(สวนเรืองแสง) อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
เข้ามาเพิ่มรายได้และจำนวนวันพักในขอนแก่น
ขณะนี้ได้สร้างความตื่นตานำโคมไฟเรืองแสงสว่างไสวในยามค่ำคืน
รูปไดโนเสาร์จำลองจาก 4 สายพันธุ์ที่ขุดค้นพบที่ อ.ภูเวียง
และโคมไฟแฟนซีต่างๆ มาติดตั้งให้นักท่องเที่ยวชม พร้อมทั้งสนุกสนาน มีส่วนร่วมกับกิจกรรมบนเวทีการแสดง
อาทิ การแสดงมายากล การดัดลูกโป่ง เล่นเกมส์ และการแสดงร่วมสมัย ทุกวันเสาร์
และอาทิตย์ตลอดช่วงการจัดงาน
เมื่อ 15
เมษายน 2560 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ยังได้แวะมาเยี่ยมชมเทศกาลโคมไฟไดโน่ด้วยเช่นกัน
สำหรับเทศกาลโคมไฟไดโน่ขอนแก่น 2560 ททท. ได้นำ “ไดโน่” ไดโนเสาร์มาสคอตการท่องเที่ยวขอนแก่นมาเป็นจุดขาย
ภายในงานจะได้ชมโคมไฟรูปไดโน่ขนาดกว่า 5 เมตร
ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่บริเวณหน้าประตูทางเข้า พร้อมโคมไฟรูปไดโน่แบบต่างๆ
ข่าวที่ 4 “บางจากลั่นQ2รุกใหญ่ลงทุนธุรกิจสีเขียว”
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้พัฒนาธุรกิจสีเขียว หรือ Green Business โดยพัฒนานวัตกรรมต่อยอดธุรกิจไบโอฟูเอล และไบโอดีเซลบี 100
ในโครงการผลิตภัณฑ์ชีวภาพหรือผลิตภัณฑ์ PCM ซึ่งเป็นสารส่วนประกอบของฉนวนเก็บความร้อนที่จะคลายความร้อนในช่วงเย็นถึงกลางคืนแต่จะถนอมความร้อนในช่วงกลางวัน
เช่น ญี่ปุ่น
พร้อมทั้งคาดว่าไตรมาส
2 นี้เพิ่มความชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนเป็นโครงการนำร่องเพื่อขยายไปสู่เชิงพาณิชย์
รวมทั้งมีแผนจะตั้งโรงงานผลิต PCM เชิงพาณิชย์ที่ฉะเชิงเทราในพื้นที่ของบางจากฯ
มีอยู่ประมาณ 500 ไร่ และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐสนับสนุนภายใต้โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก
(EEC) ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี และระยอง อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาสาหร่าย
เพื่อผลิตเป็นส่วนประกอบของอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ยาด้วยที่สามารถรองรับนโยบายด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ
(Biotech)
ทั้งนี้เพื่อฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่
32 และการเปลี่ยนชื่อบริษัท จาก “บริษัท บางจากปิโตรเลียม
จำกัด (มหาชน)” เป็น “บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” มาตั้งแต่วันที่
7 เมษายน 2560
ข่าวที่ 5 “ภาคกลางแจกไม่ยั้งเที่ยววันธรรมดา”
นายสมชาย ชมพูน้อย
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคกลางทั้ง 17
จังหวัด ได้วางกลยุทธ์การกระตุ้น “วันธรรมดา
น่าเที่ยว” เตรียมนำผู้ประกอบการ ห้องพัก โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทจัดนำเที่ยว
นำแพกเกจราคาสุดคุ้มมาขายอีกครั้งในช่วงกลางปีในงาน “วันธรรมดา น่าเที่ยว และ Outdoor
Fest 2017 ระหว่าง 11-14 พฤษภาคม 2560
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เพื่อเพิ่มยอดเข้าพักและการใช้จ่ายเงินเพิ่มในการท่องเที่ยววันธรรมดา
วันจันทร์-พฤหัสบดีอีก 10-15 %
ควบคู่กับการเปิดช่องทางทำโปรโมชั่นตลอดทั้งปีผ่านทางเว็บไซต์
www.วันธรรมดาน่าเที่ยว.com เชิญชวนห้องพักโรงแรม
ร้านอาหาร ในภาคกลางทยอยทำโปรโมชั่นพิเศษและแจกรางวัล 2 รายการด้วยกัน
คือ
รายการแรก
“โชคสองชั้น” ได้แก่ “โชคชั้นแรก”
ไปเช็คอินเคาน์เตอร์ ซึ่งจองจากการเข้าร่วมขายในโครงการวันธรรมดา
ก็จะมีคูปองให้เขียนชื่อ ที่อยู่ ชิงโชค ลุ้นรางวัลจาก ททท.สำนักพื้นที่ ทุกเดือน
“โชคชั้นที่สอง” หลังจากนั้นทุก 3 เดือน
จะรวมคูปองมามอบรางวัลพิเศษให้ผู้โชคดี
รายการที่ 2 โปรโมชั่นท็อปอัพลดเกินกว่า 70 %
อัตราการเติบโตของ
“ตลาดการเดินทางท่องเที่ยว วันธรรมดา” ที่ ททท.จัดต่อเนื่องกันมาหลายปีแล้วนั้น
ผลลัพธ์ทางรายได้ของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมมีจำนวนสูงขึ้นยอดพักเฉลี่ย
วันจันทร์-พฤหัสบดี จากเดิมเคยมียอดจองเพียง 45-50 % พอทำโครงการวันธรรมดา น่าเที่ยว
ก็สามารถเติมเต็มนักท่องเที่ยวให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยถึง 60 % เพิ่มอีก 10-15 %
ช่วงที่ 2 จะพาไปสร้างประสบการณ์ความสุขกับการท่องเที่ยว
สุขภาพ และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์
@สัมผัสดงพญาเย็นเขาใหญ่ในวันสบายๆ
เมื่อปี
พ.ศ. 2548 ผืนป่าดงพญาเย็น ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมรดกโลกนี้
ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 5 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครนายก นครราชสีมา ปราจีนบุรี
สระแก้ว และบุรีรัมย์ ซึ่ง “ป่าดงพญาเย็น” เป็นส่วนหนึ่งของ
‘อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่’ ประกอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนกันหลายลูก
เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของธารน้ำหลายสาย อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด
ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม
เป็นแหล่งมรดกแห่งนี้
มีบทบาทที่สำคัญต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นอย่างมาก
เพราะที่นี่มีระบบนิเวศที่หลากหลาย ตั้งแต่ป่าดงดิบ ป่าดิบชื้น ป่าดงดิบเขา
ป่าดงดิบแล้ง ไปจนถึงป่าเบญจพรรณและป่าไม้เต็งรัง
นอกจากนี้ยังมีทุ่งหญ้าเขตร้อนกระจายอยู่ทั่วไป
แถมท้ายด้วยป่าบนเขาหินปูนกับป่าริมห้วยลำธาร เรียกได้ว่าเป็นป่าธรรมชาติที่กว้างใหญ่ไพศาล
และมีความอุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว
สถานที่และกิจกรรมน่าสนใจ
ในบริเวณเทือกเขาดงพญาเย็น
เป็นศูนย์รวมกิจกรรมการท่องเที่ยงทางธรรมชาติเอาไว้มากมาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องธรรมชาติ
ฟังเสียงธารน้ำตกกระทบโขนหิน หรือศึกษาดูความงดงามของผืนป่าอย่างใกล้ชิด
ซึ่งสถานที่และกิจกรรมน่าสนใจที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ ได้แก่
กิจกรรมส่องสัตว์ -ในถนนลาดยางที่ตัดผ่านเขาใหญ่จากฝั่งอำเภอปากช่อง
จังหวัดนครราชสีมา ไปยังอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเที่ยวชมธรรมชาติสองข้างทาง
รวมไปถึงสัตว์ป่าได้
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหอดูสัตว์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสังเกตและศึกษาพฤติกรรมสัตว์ป่าด้วยกันถึง
3 แห่ง คือ
‘หอดูสัตว์หนองผักชี’ อยู่กิโลเมตรที่ 35-36 ถนนธนะรัชต์ ‘หอดูสัตว์มอสิงโต’
อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 500 เมตร
บริเวณอ่างเก็บน้ำมอสิงโต ‘หอดูสัตว์เขากำแพง’
อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ขญ. 4 (คลองปลากั้ง) ประมาณ 2
กิโลเมตร เป็นจุดที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุด
เพราะเมื่อถึงเวลาเย็นบริเวณนี้จะมีฝูงกระทิงออกหากิน ให้ได้เห็นอย่างชัดเจน
โดยมี
“จุดชมวิว ‘ผาเดียวดาย’” บนเส้นทางของถนนลาดยางที่มุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่
ยังมึจุดชมวิวทิวทัศน์โดยรอบอันสวยงาม
ให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักแวะชมกันอีกหลายจุด เช่น จุดชมวิวบริเวณกิโลเมตรที่ 30
และจุดชมวิวเขาเขียว หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ‘ผาเดียวดาย’
บริเวณนี้สามารถมองเห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของ ดงพญาเย็น ได้อย่างสวยงาม
ยิ่งถ้ามาชมในช่วงที่มีทะเลหมอกบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกมาก
อีกทั้งยังมีน้ำตกสวยๆ
ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผืนป่าดงพญาเย็น คือ “น้ำตกดงพญาเย็น” เป็นน้ำตกเล็กๆ
ที่อยู่เลยน้ำตกชื่อดังอย่าง น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ไปประมาณ 300-400 เมตร
อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์ควบคุมไฟป่าฯ จังหวัดสระบุรี
เป็นน้ำตกที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าน้ำตกอื่นๆ
ภายในบริเวณน้ำตกมีแพริมน้ำไว้คอยให้บริการอยู่หลายหลัง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเอนกาย
พักผ่อน นอนเล่น หรือนั่งรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ
สวนรุกขชาติมวกเหล็ก
- เป็นแหล่งอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และพรรณไม้ป่าหายากในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติดงพญาเย็น จุดท่องเที่ยวในสวนรุกขชาตินี้ มีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง อาทิเช่น ‘น้ำตกมวกเหล็ก’ ที่สามารถนั่งพักผ่อน
ชมน้ำตกหรือลงเล่นน้ำได้ตลอดทั้งวัน ‘สะพานมวกเหล็ก-ปากช่อง’
สะพานแขวนข้ามลำธารมวกเหล็ก และ ‘สวนสักทอง’ สถานีทดลองปลูกพรรณไม้ มีอายุกว่า 50
ปี ที่สมควรอนุรักษ์ไว้เพื่อขยายพันธ์ุต่อไป
‘ดงพญาเย็น’
เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ งดงาม และน่าค้นหา สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
@หลัก 5 อ. ดูแลผู้สูงวัยสุขภาพดี อายุยืน
น.พ.ธีรพล
โตพันธานนท์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า
ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงที่สุดในอาเซียน
และกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ
เนื่องจากประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีมากถึงร้อยละ 14
จึงคาดการณ์ได้ว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ไทยจะเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด
คือ มีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 30
แต่การเตรียมความพร้อมของประชาชน
พบว่า มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพน้อยมาก
และผู้สูงอายุมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์
หรือพฤติกรรมสุขภาพที่ดีน้อยมากเช่นเดียวกัน
ดังนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขจึงจะเน้นการดูแล
2 กลุ่มหลัก ให้มากยิ่งขึ้น คือ กลุ่มผู้สูงอายุสุขภาพดี
โดยการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรง
และชะลอการเกิดโรคเรื้อรัง กลุ่มที่ 2
คือผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยให้สามารถรักษาตนเอง
และบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้ดีขึ้นได้จากการพิการหรือทุพพลภาพ
โดยใช้หลัก
5 อ. ได้แก่
1.อ.อาหาร
รับประทานอาหารให้หลากหลาย ได้สัดส่วนเพียงพออิ่ม ครบ 5 หมู่ เน้นย่อยง่ายและสะอาด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น อาหารที่มีไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด
และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
2.อ.ออกกำลังกาย โดยออกกำลังกายทุกส่วนสัด
กระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจ ผู้สูงอายุควรเคลื่อนไหวออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มีหลากหลายวิธี เช่น ยืดเส้นยืดสาย ยืดเหยียด
ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เป็นต้น และหลีกเลี่ยง
การแข่งขัน ออกแรงเกินกำลัง ความเร็วสูง เกร็ง เบ่ง ยกน้ำหนัก
การอยู่ในสถานที่ร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเท อยู่กลางแดดจ้า
3.อ.อารมณ์
คือ อารมณ์รื่นเริงยินดี ชีวีสดใสด้วยรอยยิ้ม จิตแจ่มใส มองโลกในแง่บวก ไม่เครียด
ช่วยเหลือให้คำแนะนำแก่ลูกหลาน คนรอบข้าง
4.อ.อดิเรก สร้างสรรค์งานอดิเรก เพิ่มพูนคุณค่า
เกื้อกูลสังคม หากิจกรรมงานอดิเรกที่ชอบ ทำแล้วเพลิดเพลิน และมีคุณค่าทางจิตใจ
เช่น อ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศน์ฟังธรรม พบปะสังสรรค์ ให้คำปรึกษาแนะนำฟังเพลง
ปลูกต้นไม้ และ
5.อ.อนามัย สร้างอนามัยดี ชีวีมีสุข นำพาอายุยืนยาว
สร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดี หมั่นตรวจและรักษาสุขภาพ ปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะ
ควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้ง ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน งด ละ เลิกอบายมุข
บุหรี่ เหล้า ของมึนเมา และสารเสพติด" น.พ.ธีรพล กล่าว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เอ็กซ์พีเรียชี้เป้า5ชาติจองออนไลน์เที่ยวไทย”
"เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป" เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5
อันดับแรกของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปที่มาเยือนประเทศไทยเมื่อปี 2559 ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่จองโรงแรมที่มีราคาเฉลี่ยต่อวันสูงสุด
จากการจองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก 30 วัน
โดยเฉพาะชาวอเมริกัน
75% เลือกพักโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเที่ยว คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต
และเชียงใหม่ เมื่อปี 2559
เริ่มขยายพื้นที่เข้าไปเที่ยวในแม่ฮ่องสอน
เพิ่มขึ้น 180% เกาะหลีเป๊ะ เพิ่มขึ้น 170% ระยองเพิ่มขึ้น 90%
ส่วน "ฮ่องกง"
เข้ามาไทยเติบโตสูงที่สุดเพิ่มมากขึ้นถึง 1.5 เท่า ใช้จ่ายเงินมากที่สุดทั้งการช็อปปิ้งและจองโรงแรมราคาเฉลี่ยต่อวันสูงที่สุด
นิยมเข้ามาเที่ยวในช่วงฤดูฝน มิถุนายน-กันยายน ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดฤดูร้อนของฮ่องกง
โดยเลือกเที่ยวในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา และเมื่อปี 2559 ไปยังกระบี่เพิ่มกว่า 35%
ผลสำรวจโดยภาพรวมของเอ็กซ์พีเดีย
กรุ๊ป ระบุว่า ปัจจัยกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกจองผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มาจาก 1.มีสายการบินต้นทุนต่ำให้บริการเที่ยวบินภายในภูมิภาคมากขึ้น
ทำให้ยอดการจากฮ่องกงเติบโตสุดสุดถึง 80% 2.เมื่อรวมผลิตภัณฑ์หลายอย่างเข้าด้วยกัน
เช่น เที่ยวบิน รถเช่า และโรงแรม ทำให้นักท่องเที่ยวประหยัดได้มากกว่า 3.โรงแรมพันธมิตรของเอ็กซ์พีเดียในไทยรองรับการจองเป็นแพ็กเกจและเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉลี่ยการจองแบบแพ็กเกจในไทยทำให้ระยะเวลาการเข้าพักเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า,
จองล่วงหน้านานขึ้น 1.7 เท่า, จ่ายค่าห้องรายวันเฉลี่ยสูงขึ้นมากกว่า 5%
และยอดการยกเลิกลดลง 30% เมื่อเทียบกับการจองห้องพักอย่างเดียว
ขณะที่ "ญี่ปุ่น"
ถือเป็นตลาดที่จ่ายค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวันสูงขึ้น
นิยมมาไทยช่วงวันหยุดฤดูร้อนเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และธันวาคม ของทุกปี
โดยเลือกพักผ่อนคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา
ส่วน
"สหราชอาณาจักร" กับ "ออสเตรเลีย" พบว่า
หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเมืองไไทยเป็นจำนวนมากช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม
ต่อเนื่องถึงมกราคม-มีนาคม
ขณะที่
“ออสเตรเลีย” ส่วนใหญ่จะเดินทางมาเที่ยวไทยช่วงปิดภาคเรียนหลัก 5 เดือน ได้แก่ ธันวาคม มกราคม มีนาคม กรกฎาคม ตุลาคม
ของแต่ละปี
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียและสหราชอาณาจักรมีลักษระการจองและเข้าพักโรงแรมในไทยคล้าย
ๆ กัน คือ วางแผนการเดินทางและจองห้องพักล่วงหน้ากว่า 1.5 เดือน หรือประมาณ 50 วัน
ซึ่งนานกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ
นักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้กว่า
80% เลือกจองโรงแรมระดับ 3-4 ดาว โดยจองแพ็กเกจผ่านเว็บไซต์ในเครือเอ็กซ์พีเดีย
กรุ๊ป แล้วอัพเกรดเป็นโรงแรม 4-5 ดาว
นักท่องเที่ยวออสเตรเลียนิยมไปท่องเที่ยวตามลำดับ
คือ ตราด เติบโตสูงสุด 80% หัวหิน เติบโต 60% และพัทยา เติบโต 50%
ส่วนนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร ได้แก่ เกาะหลีเป๊ะ เติบโตสูงสุดที่ 140% ระยอง
เติบโต 100% และกาญจนบุรี เติบโต 90%
ข่าวที่สอง “4โรงแรมเครือเคปโปรอาหารทั่วไทย”
ห้องอาหารแทพเพสทรี
โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา
โรงแรมคลาสสิค
คามิโอ อยุธยา เปิด “ห้องอาหารแทพเพสทรี” แนะนำเมนูพิเศษประจำเดือนเมษายน
“หน่อไม้ทะเลน้ำแดงหม้อดิน” ราคาเพียง 650++ บาท
เท่านั้น เป็นหน่อไม้ทะเลหั่นพอดีคำ เนื้อปู สดใหม่จากทะเล
คลุกเคล้ากับน้ำแดงสูตรลับเฉพาะตามแบบฉบับของแทพเพสทรี รสชาติกลมกล่อม
กลิ่นหอมเย้ายวนของเครื่องปรุงนานาชนิด และเหล้าจีน ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
สอบถามเพิ่มได้ที่
โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา โทร. 035-212-535
หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kameocollection.com
“ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก” โรงแรมแคนทารี อยุธยา
โรงแรมแคนทารี อยุธยา ชวนสัมผัสอรรถรสแห่งความอร่อยตลอดเดือนเมษายน ที่ “ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย
สเต็ก” กับเมนูสุดพิเศษ “เนื้อสันในและกุ้งแม่น้ำย่างซอสเกรวี่” ราคาเพียง 720++ บาท ลิ้มรสเนื้อสันในชั้นดี นุ่มละมุนลิ้น
ชิ้นใหญ่ สดใหม่ นำเข้าจากต่างประเทศ เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำย่าง ร้อนๆ
เคียงคู่กับซอสเกรวี่ มันบดแสนอร่อย และหน่อไม้ฝรั่ง รสชาติกลมกล่อม หวาน มัน
อร่อย เหมาะสำหรับทานกับไวน์แดงจะมีความอร่อยยิ่งขึ้น
สอบถามเพิ่มได้ที่
โทร. 035-337-177 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kantarycollection.com
ห้องอาหารจีนแทพเพสทรี โรงแรมแคนทารี
โคราช
โรงแรมแคนทารี โคราช ชวนไปเปิดตำนานแห่งความอร่อยของอาหารจีนที่ “ห้องอาหารแทพเพสทรี กันจุใจกับเมนูเลิศรสปรุงสุดพิเศษ
อาทิ เป็ดปักกิ่ง (เมี่ยงเป็ด) หมูหัน
ยำแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้ ซี่โครงหมูทอดกระเทียม กระเพาะปลาน้ำแดง
ปลิงทะเลกระเพรากรอบแปะก๊วย
ซุปเยื่อไผ่เห็ดหอม หอยเชลส์ซอส XO
ปลากระพง 3 เซียน และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย
เต็มอิ่มกับติ่มซำและเครื่องเคียงชั้นดี
ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพและรังสรรค์ทุกเมนูโดยเชฟมืออาชีพไว้ต้อนรับทุกท่าน
เพื่อให้คุณได้อิ่มหนำสำราญ พร้อมปิดท้ายด้วยขนมหวานแสนอร่อย อาทิ มะม่วงพุดดิ้ง
และกะลอจี๊
ห้องอาหารแทพเพสทรี”
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.30-14.30
น. และ18.00-22.00 น. ขอเชิญทุกท่านร่วม
สอบถามเพิ่มเติมที่
โรงแรม แคนทารี โคราช โทร.044-353-011
หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kantarycollection.com
คาเฟ่ แคนทารี บางแสน ดริ๊งค์1 แถม
โปรโมชั่นสุดพิเศษทุกวันอังคาร:
ซื้อเครื่องดื่ม 1 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว ตั้งแต่บัดนี้ ถึง
วันอังคารสุดท้ายของเดือนกันยายน 2560 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. คาเฟ่ แคนทารี
บางแสน ขอมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษแด่ลูกค้าทุกท่าน เมื่อซื้อเครื่องดื่ม 1 แก้ว
แถมฟรีอีก 1 แก้ว ในราคาที่เท่ากัน หรือน้อยกว่าแก้วแรกที่ซื้อ
จำกัดการซื้อไม่เกินท่านละ 2 แก้ว และพบกับเมนูแสนอร่อยอื่นๆ อีกมากมาย ที่คาเฟ่
แคนทารี บางแสน
ข่าวที่สาม “KTC ชิงจัดช้อปต่างประเทศด้วยบัตรรับเงินคืน”
นายธศพงษ์
รังควร ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อต้อนรับเทศกาลวันหยุดยาวประจำปี
เคทีซีได้ออกแคมเปญเพื่อให้สมาชิกช้อปปิ้งต่างประเทศ หรือซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นสกุลเงินต่างประเทศ
ผ่านบัตรเครดิตเคทีซีได้ถูกกว่า
กับค่าธรรมเนียมอัตราความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศไม่เกิน 2%
เคทีซียังได้จับมือพันธมิตร
วีซ่า มาสเตอร์การ์ด และเจซีบีมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม
2560 เพียงสมาชิกลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน SMS พิมพ์ OS เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต
16 หลัก ส่งมาที่ 061 384 5000 หรือทางเว็บไซต์www.ktc.co.th/overseas
โดยสิทธิพิเศษมีดังนี้
สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี
วีซ่า รับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อซื้อสินค้าเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ทุกที่ ทั่วโลก
โดยไม่จำกัดยอดการใช้จ่ายขั้นต่ำหรือสูงสุด
และไม่จำกัดยอดรับเครดิตเงินคืนตลอดรายการ
ทั้งนี้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี มาสเตอร์การ์ด รับคะแนนสะสม KTC Forever Rewards 2 เท่าเมื่อ
ซื้อสินค้าเป็นสกุลเงินต่างประเทศครบทุก 25,000 บาท ทุกที่ ทั่วโลก
รับ 1,000 คะแนน เมื่อใช้จ่ายครบทุก 25,000 บาท
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น