WTTC ชี้เป้าไทยเปลี่ยนโลกท่องเที่ยวทศวรรษหน้า
ปลุก5พลังยั่งยืน“จีดีพี-จ้างงาน-สร้างเงิน”โตไม่ยั้งเปิด Pop-Up Store ดิวตี้ฟรีในพูลแมนคิง เพาเวอร์
ทอท.-BCIAผุดแผนทำซิสเตอร์แอร์พอร์ตไทย-จีน
บีพีซีจีทุ่มลงทุน1.2หมื่นล้านลุยโรงไฟฟ้าใต้พิภพ
ปลุกคนรุ่นใหม่เที่ยว10ไทยเท่รับฤดูกรีนซีซัน
57ปีการบินไทยโกย2แสนล้าน-แจกขนมหวาน
ไทยแอร์เอเชียชิงบินดานังด้วยตั๋วโปร990บาท
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่
29 เมษายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM
97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong
ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)
ช่วงที่ 1 ฟังสรุปผลการประชุมจากเวทีระดับโลก World Travel & Tourism Council : WTTC Global Summit 2017 ถึงเวลาที่ “เปลี่ยนโลกท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน” อีก 10 ปีข้างหน้า
“ไทย” จะผงาดขึ้นสู่แถวหน้าของโลก ทั้งการจ้างงาน จีดีพี รายได้ พร้อมข่าวอัพเดทต่าง
ๆ
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์-ร่วมประชุม WTTC Global Summit 2017
|
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ผู้ดำเนินรายการ ได้นำบทสรุปจากเวที World Travel & Tourism Council : WTTC Global Summit 2017 ณ กรุงเทพ มาเล่าถึงไฮไลต์สำคัญๆ ของโลก ที่มีนักธุรกิจ ผู้นำ นานาชาติ มารวมตัวกัน “ชี้เป้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสามารถพัฒนาแซงหน้าโลก” โดยสมาชิก WTTC ได้ใช้เวลาภายใน 48 ชั่วโมง ปลุกกระแสความร่วมมือว่าด้วย “เปลี่ยนโลกยุคใหม่สร้าง 5 พลัง สู่ความยั่งยืน” ในการฝ่าวิกฤตความท้าทาย ก่อการร้าย นวัตกรรมไอที ในอีกทศวรรษ 10 ปีหน้า “แรงงานภาคผลิตและบริการไทย” จะทะยานสู่ 9.1 ล้านตำแหน่ง GDP ประเทศโตก้าวกระโดดปีละ 6.5 % “เม็ดเงินเศรษฐกิจ” แตะ 6 ล้านล้านบาท “ต่างชาติ” หอบเงินมาจ่ายใช้ทะลุปีละ 4 ล้านล้านบาท
ปี
2560 นับเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่ต้อนรับนักธุรกิจแถวหน้าของโลก
ที่
“สภาการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก” (World Travel & Tourism
Council :WTTC ) เลือก “กรุงเทพฯ” ระดมภาครัฐและเอกชนนานาชาติเดินทางเข้ามาร่วมประชุม
WTTC Global Summit
2017 ภายใต้ธีม “Transforming
Our World” มุ่งเน้นสู่ Sustainalble ส่งสัญญารให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเตรียมความพร้อมทุก
ๆ ด้าน
นำพาอนาคตของการท่องเที่ยวเข้าสู่
“ความยั่งยืน” และเดินหน้าฝ่า “ความท้าทาย” อันหลากหลายในยุคที่โลก
เข้าสู่ยุคไร้พรมแดน สถานการณ์ก่อการร้ายขยายตัว
สภาวะโลกร้อนอุณหภูมิโลกสูงขึ้นทุกปี เทคโนโลยีมีบทบาทในชีวิตผู้คนมากขึ้น
และแนวโน้มหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์
เมื่อวันที่
27 เมษายน 2560
การประชุม เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว แต่นักธุรกิจทั่ว โลกยังคงใช้เวลาพำนักอยู่ในประเทศไทยเพื่อเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์อันลึกซึ้งในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ
และทั่วประเทศ
ทว่าสิ่งที่น่าสนใจหลังการประชุม WTTC Global Summit 2017 สิ้นสุดลงแล้ว
คือ “อนาคตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับจุดเปลี่ยนของโลก” ที่ WTTC ใช้เวทีการประชุมนำซีอีโอและผู้เชี่ยวชาญจากครอบคลุมทุกสาขาขึ้นมาชี้เป้าถึงก้าวใหม่ของการยกระดับแนวทางการพัฒนา “อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” ก้าวสู่ทศวรรษหน้าในอีก 10 ปี ผงาดยืนอยู่แถวหน้าของโลก
โดย WTTC ใช้เวลาเพียง 48 ชั่วโมง ย่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลกอนาคต 10 ปีหน้า จากปี 2560 สู่ปี 2570 ด้วย 20
หัวข้อหลัก
ที่จะทำให้ประเทศไทยและโลกเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน ภายใต้
“Transforming Our World”
WTTCชี้เป้าท่องเที่ยวไทยใช้5พลังเปลี่ยนโลก
WTTC ได้นำผลวิจัยการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ “ประเทศไทย”
โดยรายงานว่า อนาคตการท่องเที่ยวไทยใน 10 ปีข้างหน้า จะเกิด 5 ปรากฎการณ์ เป็นพลังการเปลี่ยนแปลงโลกอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
1.เกิดการ”จ้างงาน”
ในระบบสูงถึง 9.6 ล้านตำแหน่ง คิดเป็น 24.98 % ของทั้งหมดในประเทศ
เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 3.5
ล้านตำแหน่ง จากปี 2560 ซึ่งจ้างอยู่เพียง 6.1 ล้านตำแหน่ง
2.เกิดพลังขับเคลื่อน GDP
ขยายตัวเพิ่มเฉลี่ยปีละ 6.5
% เท่ากับ 1 ใน 3
ของจีดีพีรวมของประเทศ
3.เกิดรายได้สร้างความมั่งคั่งในระบบเศรษฐกิจประเทศ มูลค่ารวมในปี 2570 ถึงปีละ 5.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าจากเป้าหมายปี 2560 ตั้งไว้ 2.8
ล้านล้านบาท)
4.เกิด “การกระตุ้นการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ” ในปี 2570 จะขยับมูลค่าขึ้นจากปี
2560 ตั้งไว้ 1.8 ล้านล้านบาท เป็นปีละ 4.2 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 7.3 % หรือเท่ากับ 29.7 % ของมูลค่าการส่งออกนั่นเอง
5.เกิด “การลงทุน” จากสถิติย้อนหลังปี
2559
ประเทศไทยมีการลงทุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเดินทางรวมมูลค่า 245.5 แสนล้านบาท หรือ 7.1 %
ของการลงทุนทั้งหมดในประเทศ แนวโน้มจะคงยังเติบโตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
อีกทั้งยังมีรายงานของ “WTTC ที่ร่วมกันกับสำนักวิจัยเศรษฐกิจ Oxford Economics” ทำ “ ผลกระทบทางเศรษฐกิจฉบับสำคัญ” บ่งชี้ว่าการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี
2559 จะดึงเงินลงทุนได้ถึง 806.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับคาดการณ์อีก 10 ปีหน้า จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอีก 4.1% หรือปีละถึง 1,307.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยสร้าง “ส่วนแบ่งการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของการลงทุนระดับชาติ”
สูงขึ้นปัจจุบันจากปี 2560
ทำได้ 4.5% ในปี 2570จะเพิ่มเป็น 5.0%
ตามสถิติที่
WTTC และสำนักวิจัยเศรษฐกิจ Oxford Economics ร่วมกันจัดทำรายงาน “ผลกระทบทางเศรษฐกิจฉบับสำคัญ”
ประจำปี 2560 ซึ่งศึกษาผลประโยชน์ทางสังคม เศรษฐกิจ
ที่เกิดจาก “การเดินทางและท่องเที่ยวระดับโลก ภูมิภาคและประเทศ” จากทั้งหมด 185 ประเทศ 25
กลุ่มภูมิภาค
รายงานดังกล่าวระบุชัดเจนว่า
การเดินทางและการท่องเที่ยวเป็น “กุญแจหลัก” ในการขับเคลื่อนการลงทุน
การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก พิสูจน์ได้จาก “การสร้างรายได้ทั่วโลก” ปี 2560 จะทำได้ถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 10.2 % ของ GDP โลก รวมทั้งสามารถ “สร้างงาน” สูงถึง
292 ล้านตำแหน่ง หรือ 1 ใน 10 ของการจ้างงานทั้งหมดในโลก
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดการประชุม WTTC Global Summit 2017 ว่า
รัฐบาลไทยจะใช้เดินหน้าเชิงรุกในนโยบาย THAILAND PUS ONE
ปลุกการลงทุนใหม่หลั่งไหลเข้าไทยและอาเซียนที่จะทำให้กลายเป็น “10 ประเทศ 1
จุดหมายปลายการท่องเที่ยว”
หรือ Single Tourist
Destination
ดึงดูดทั่วโลกเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงิน โดยเฉพาะปี 2563 โครงข่ายโลจิสติกส์การเดินทางของรถไฟสาย
“คุนหมิง-สิงคโปร์” จะแล้วเสร็จเชื่อมต่อการเข้าถึงครบทั้ง ไทย เมียนมา กัมพูชา
เวียดนาม
สำหรับปี
2560 ไทยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวเพื่อผลิตสินค้าและบริการให้ได้ถึง
4.6 ล้านล้านบาท พร้อมกับการสร้างงานในประเทศเกือบ 14 ล้านตำแหน่ง เป็นรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท จ้างงานประมาณ 5 ล้านตำแหน่ง
เดวิด คาเมรอน อดีตนายกรัฐมนตรี สหราชอาณาจักร
ชี้เป้าในเวที WTTC Global Summit 2017 "การเปลี่ยนแปลงของรัฐคือจุดเริ่มโลกาภิวัฒน์"
|
ขณะที่
“นายเดวิด คาเมรอน” อดีตนายกรัฐมนตรี สหราชอาณาจักร ใช้เวทีปาฐกถาในหัวข้อ
“การเปลี่ยนแปลงของรัฐ คือ จุดเริ่มต้นของโลกาภิวัตน์ : Altered States - has
globalization had its day?” โดยชี้เป้าให้ไทยและทั่วโลกเห็นว่า
การท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนโลกได้ จึงขอเสนอให้เร่งทำ 3 เรื่อง คือ
เรื่องแรก การทำความเข้าใจโลกาภิวัตน์ ควรสร้างสมดุลควบคู่กันไประหว่างการทำให้เศรษฐกิจเติบโตก็ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพียงเพื่อให้บริษัทที่ร่ำรวยกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เช่น ไม่จ่ายภาษี เพราะเส้นทางการค้าเสรียังคงทำหน้าที่ต่อไป แต่ภาครัฐก็ต้องกำกับดูแลอย่างเข้มข้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันด้วย
เรื่องที่สอง รัฐบาลในแต่ละประเทศต้องบเล็งเห็นความสำคัญของสิทธิการเดินทางอย่างเสรี
โดยประกาศนโยบายกระตุ้นหลัก ๆ
เช่น ออกมาตรการอำนวยความสะดวกการเดินทางมากขึ้น เช่น ผลักดันมาตรการวีซ่าให้เข้าถึงได้สะดวก
ด้วยราคาถูกขึ้น ควบคู่กับการสร้างมั่นใจให้กลุ่มการเดินทางได้อย่างอิสระ ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาดูแลความมั่นคง
อาทิ ใช้ระบบไบโอเมทริก แทนการกีดกันคนเดินทางเข้าประเทศ
เรื่องที่สาม เตรียมความพร้อมรับมือกับการก่อการร้าย ซึ่งทั่วโลกกำลังหวั่นวิกต เพราะเป้าหมายคือการสร้างความกลัวทำให้คนหยุดเดินทางท่องเที่ยว
ดังนั้นจึงเสนอให้ผู้นำแต่ละประเทศ รวบรวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับมือร่วมกัน
เช่น ตั้งคณะกรรมการพิเศษโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นำทุกหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนมารวมกันเพื่อรับมืออย่างเป็นระบบ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น จะทำให้เกิดการประสานงานได้ทันท่วงที ในการวางมาตรการป้องกันความปลอดภัยระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งการสื่อสารไปยังสถานทูตต่างประเทศ และสายการบินต่างๆ
มีแนวทางและข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรองจากข้อมูลครบเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์
โทนี่
ฟเอร์นันเดส หัวหน้าประธานบริหารกลุ่มสายการบิน
แอร์เอเชีย กล่าวในประเด็น “ภาวะผู้นำที่ตอบสนองและรับผิดชอบ :Responsible and responsive leadership” ว่าตลอด
15 ปีการเป็นผู้นำบุกเบิกธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ
(low cost airlines) เริ่มด้วยการสั่งซื้อฝูงบินเพียง
2 ลำ กระทั่งปัจจุบันมีถึง 200
ลำ
มีเครือข่ายเส้นทางบิน 60 จุด นั้น
เพราะแนวคิดเชิงรุก “การเปลี่ยนโลก” จึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ได้เสมอ
เพราะขณะนั้นทุกสายการบินหยุดบริการชั่วคราว ต่างจากแอร์เอเชียใช้กลยุทธ์แจกตั๋วบินฟรี
5,000 ใบ
ทำให้คนแห่ใช้ตั๋วฟรีบินไปเที่ยวบาหลีแล้วกลับมาบอกต่อ ๆ กันถึงความปลอดภัยในการเดินทางแต่ละจุด
ต่อมาในเส้นทางที่แข่งขันลำบากก็ใช้กลยุทธ์นำนวัตกรรมใหม่เข้าถึงลูกค้าและการจองตั๋วโดยสารดูดกำลังเป็นผลสำเร็จทุกเส้นทาง
สำหรับไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการบินที่กลุ่มแอร์เอเชียพร้อมจะใช้เป็น
“HUB –ศูนย์กลาง” เนื่องจากมีความหลากหลาย
โดยเฉพาะปัจจัยหนุนครบทั้ง 3 ด้าน
ได้แก่ 1.นโยบายการเปิดสนามบิน ที่พร้อมแบ่งกลุ่มโลว์คอสต์และฟูลเซอร์วิส
ตัวอย่างขณะนี้การเปิดสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เป็นแห่งที่
3 ในกรุงเทพฯ เพื่อให้โลว์คอสต์ใช้เป็นศูนย์กลาง 2.การร่วมทุนเริ่มเปิดกว้างให้ต่างชาติถือหุ้นในสายการบินได้มากขึ้น
3.เปิดตลาดเสรี ขณะนี้เมืองไทยมีสายการบินครบทั้ง
นก เสือ และอื่น ๆ หัวใจหลักของ “การแข่งขัน" นั่นคือต้องให้ตลาดคือผู้โดยสารทำหน้าที่ผู้ตัดสิน
และถึงแม้การจราจรทางอากาศจะมีปัญหาคอขวดเพิ่มตามมาด้วย เพราะโครงสร้างพื้นฐานเติบโตตามไม่ทัน
แต่แอร์เอเชียสามารถออกจากกับดักคอขวดได้
ส่วนหัวใจบริการของกลุ่ม
แอร์ เอเชีย ยังคงเน้นให้ความสำคัญ 3 เรื่อง
ความสุภาพ ความอ่อนน้อม ควบคู่กับการรับผิดชอบต่อสังคมในทุก ๆ ด้าน
โดยมั่นใจว่าทุกวันนี้เดินเกมธุรกิจสายการบินในไทยและอาเซียนมาถูกทางแล้ว
มุมมองจาก
3 ผู้นำนานาชาติ ได้แก่ Mark
Hoplamazian ประธานและซีอีโอ ไฮแอท โฮเต็ลส์ คอร์ปอเรชั่น Tomoko
Nishimoto ตัวแทนองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ สหประชาชาติ Kike
Sarsola ประธานผู้ก่อตั้ง Room
Mate Hotels & BeMate.com
เสียงสะท้อนถึงภาพรวมเรื่อง
“จุดเปลี่ยนของโลกด้านการจ้างงานในอนาคตภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” กำลังมุ่งไปสู่ 3 เทรนด์
ได้แก่
1.จะนำเทคโนโลยีเข้ามาวางแผนการทำงาน เนื่องจากคนจะผันตัวเองเข้าสู่
“อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์” สูงขึ้นตามที่ ไพรส์ วอเตอร์ เฮาส์ ระบุอาชีพฟรีแลนซ์จะเติบโตอย่างน้อย
30%
2.จะเกิดการสร้างไตรภาคีขึ้นอย่างชัดเจน ตามที่ สหประชาชาติ (United
Nation :UN)ระบุภาพใหม่ในเวทีโลกระหว่างลูกจ้าง นายจ้าง
และเครือข่ายฟรีแลนซ์ซึ่งมีความหลากหลายสาขาธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วต่อไปไตรภาคีดังกล่าวจะเข้ามาแทนที่สหภาพแรงงาน
3.ระบบอัตโนมัติหรือ Auto Service มาจะมาแทนที่แรงงานมนุษย์
หุ่นยนต์เข้าทำงานเพิ่มขึ้น ขณะนี้เริ่มมีบางประเทศนำมาใช้แล้วอย่าง
โรงแรมในญี่ปุ่นซึ่งทดลองใช้หุ่นยนต์ทั้งหมดเป็นพนักงานบริการ ภายในปี 2573
(คศ.2030)
จะเห็นออโต เซอร์วิส เกลื่อนโลก
ดังนั้นจึงแนะนำให้
“ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง” ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ
เตรียมความพร้อมปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานในอนาคตอันใกล้นี้
20 ประเด็นเปลี่ยนโลกท่องเที่ยว
สำหรับประเด็นจุดประกายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าสู่ยุค
“การเปลี่ยนโลกสู่ทศวรรษหน้า” นั้น WTTC GLOBAL SUMMIT 2017 เชิญรัฐมนตรีการท่องเที่ยวจาก 16 ประเทศ
รวมถึงผู้นำภาคธุรกิจชั้นนำของโลกครอบคลุมสาขาต่าง ๆ กว่า 20 ประเด็น กว่า 40 ผู้นำขึ้นเวทีนำเสนอแนวคิดสะท้อนไปยังผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,200 คน ถึงแนวทาง “การเปลี่ยนโลกไปสู่ความยั่งยืน” อาทิ
ประเด็น “โลกาภิวัฒน์” มี 2
เรื่อง คือ การเปลี่ยนแปลงของรัฐสู่โลกาภิวัฒน์
และโลกาภิวัฒน์ยุคกระแสชาตินิยม
ประเด็น “ความยั่งยืน” มี 2 เรื่อง คือ หุ้นส่วนเพื่อการเปลี่ยนแปลง-อำนาจของความร่วมมือ ,
การเดินทางและการท่องเที่ยวในโลกที่แปรเปลี่ยน
ประเด็น “มหาอำนาจใหม่ของตลาดนักเดินทาง” มี 5
เรื่อง อนาคตของจีน,
มุมมองเกี่ยวกับธุรกิจในอินเดีย, อิสรภาพในการเดินทาง-อาเซียนจะผงาดขึ้นเป็นผู้นำเทรนด์ได้หรือไม่,
นักเดินทางอนาคต-กลุ่มนักเดินทางธุรกิจ, นักเดินทางอนาคต-กลุ่มนักเดินทางหรูหรา
ประเด็น “ไลฟ์สไตล์การเดินทางยุคใหม่” มี 4
เรื่อง คือ กฎของชีวิตสมัยใหม่,
พรมแดนดิจิตอล-ความปลอดภัยและความคล่องตัวในการเดินทางจะบรรจบกันที่ไหน,
คลื่นกระแทก-การปรับตัวฝ่าวิกฤต, การปกป้องประชาชนและสถานที่,
ประเด็น “การท่องเที่ยวต่อความรับผิดชอบทางสังคม” มี 2
เรื่อง Tourism for Tomorrow, ภาวะผู้นำที่ตอบสนองและรับผิดชอบ, การปกป้องโลกจากเบื้องบน
(เทคโนโลยีการใช้โดรน ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ)
ประเด็น
“มิติใหม่ของการจ้างงานภาคบริการท่องเที่ยว” มี 2 เรื่อง คือ
อนาคตการจ้างงาน-อุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวพร้อมหรือยัง,
เทคโนโลยีสร้างโอกาส
สำหรับการประชุม WTTC GLOBAL SUMMIT 2018 กำหนดจัดที่ กรุงบัวโนสไอเรส
ประเทศอาร์เจนตินา
ฟังข่าวช่วงแรก
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์ เปิด Pop-Up Store” ที่รร.พูลแมนรางน้ำ
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผุ้นำธุรกิจดิวตี้ฟรีของไทย ได้จัดกิจกรรมเซลต่อเนื่อง “คิง
เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี Pop-Up
Store” ต้อนรับการย้ายสินค้าชั่วคราว
(ตั้งแต่ 26 เมษายน-กันยายน 2560) จากการปิดปรับปรุง คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ ไปวางจำหน่ายบริเวณ
ชั้น 2 โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ระหว่างวันนี้-31 พฤษภาคม 2560 รับส่วนลดคูปองมูลค่า 1,000 บาท ในการช้อปสินค้า 3,000 บาทขึ้นไป
เพียงแค่ทุกท่านที่เป็นสมาชิกในไลน์ ที่นำข้อความที่ได้รับไปแสดงที่จุดรับคูปอง
จำกัดไว้คนละ 1 ใบ
ข่าวที่ 2 “ทอท.ผนึก BCIAทำSister Airport กับจีน”
นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.”
กล่าวว่า ทอท.ร่วมมือกับ Beijing Capital
International Airport Co.,Ltd (BCIA) ผู้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง
และ Mrs. PEI Lan, General Manager of Human Resources Department, BCIA ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการเป็น Sister
Airports Human Resources Cooperation Memorandum เฉพาะทางด้านทรัพยากรบุคคล
เพื่อพัฒนาบุคลากรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
4 ด้าน พร้อมกับจัดกิจกรรมเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยจัดทำนิทรรศการภายใต้ชื่องาน “AOT – BCIA Sister Airports Photo
Exhibition” ระหว่าง 25 เมษายน –
30 พฤษภาคม 2560 อาคารผู้โดยสารชั้น 4
หน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน Row
F ประตู 3 และประตู 4 จัดแสดงภาพสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงปักกิ่ง
และการแสดงประจำชาติ ตลอดจนจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยมีจอภาพ Interactive แสดงภาพ เช่น พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) พระราชวังฤดูร้อน Hall of Prayer for Good Harvests – Temple of Heaven, Hutong Life
for Beijing Local, Beijing Dragon Artery มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
การแสดงงิ้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน โรงละครแห่งชาติ (Hall of Art – National Theater) และข้อมูลของท่าอากาศยานปักกิ่ง
ข่าวที่ 3 “เที่ยวเล-โอ-ทอป”สมุทรสงคราม3วันรวด”
นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม กล่าวว่า ร่วมกับจังหวัดสมุทรสงคราม
กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดระยสั้น ๆ 3 วัน จัดมหกรรมสินค้า “เล – โอ – ทอป จังหวัดสมุทรสงคราม”
วันเสาร์ที่ 29 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2560 ณ
บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม
เพื่อส่งเสริมไปพร้อมกัน 3 ด้าน
ด้านการท่องเที่ยว ด้านการช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นจากตลาดสินค้าเกษตร ประมง
และผลิตภัณฑ์ชุมชน และด้านการสร้างรายได้ให้เกษตรกรในสมุทรสงคราม
ตลอด 3 วันนี้
ชาวสมุทรสงครามพร้อมจะนำผลิตภัณฑ์ OTOP ชุมชนหลากหลายขึ้นชื่อมาจำหน่ายตลอดงานได้แก่
ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ เวชสำอาง อาหาร ขนม
และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ ประกอบด้วย 1.อาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูป เช่น ปลาทู ปลาแห้ง กุ้งแห้ง
หอยดอง กะปิ 2.ส้มโอขาวใหญ่ มะพร้าวน้ำหอม และพืชผลการเกษตร
ในวันที่
30 เมษายน 2560 มีกิจกรรมสร้างสีสันตั้งแต่เวลา 18.30 น. ด้วยการประกวดสาวน้อยแม่กลอง
อายุ 60 ปีขึ้นไป ชิงเงินรางวัลพร้อมขันน้ำพานรอง และรางวัล ชนะเลิศอันดับที่ 1 –
3 รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน รางวัลสาวน้อยก้อยใจ และรางวัลขมเชยอีก 2 รางวัล
สอบถามที่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม โทร. 034-714881 , สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม โทร.034-711495 หรือ
ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8
คอลเซ็นเตอร์ 1672 และ
Fanpage: TAT Samut Songkhram
ข่าวที่ 4 “PBCGทุ่ม1.2หมื่นล้านผุดโรงไฟฟ้าสีเขียว”
นายบัณฑิต
สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือของ บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560
คณะกรรมการบริษัทฯ
มีมติอนุมัติให้เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซีย
และให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะจัดประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2560
วันอังคารที่ 13 มิถุนายนนี้ เพื่อขออนุมัติการเข้าซื้อหุ้นต่อไป
การลงทุนครั้งนี้บีซีพีจีจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น
357.5 ล้านเหรียญหรือประมาณ 12,341 ล้านบาท คาดการซื้อขายเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 2
ปี 2560 และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันที
ผลจากการลงทุนจะทำให้บริษัทฯ
ถือหุ้นทางอ้อมในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเทียบเท่า 182 เมกะวัตต์
โดยโครงการทั้งหมดจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำที่ผลิตได้ให้แก่การไฟฟ้าอินโดนีเซีย (PLN)
ภายใต้สัญญารับซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาว
ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้า
3 โครงการ คือ
1.โรงไฟฟ้า
Wayang Windu กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 347 เมกะวัตต์
(เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 227 เมกะวัตต์) ด้วยสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 20
2.
โรงไฟฟ้า Salak กำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำรวมเทียบเท่า
377 เมกะวัตต์ ร้อยละ 17.3
3.
โรงไฟฟ้า Darajat กำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำรวมเทียบเท่า
271 เมกะวัตต์ ร้อยละ 17.3 ทั้งนี้
โรงไฟฟ้า Salak และ โรงไฟฟ้า Darajat
ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วทั้งหมด
ข่าวที่ 5 “เที่ยว
10ไทยเท่ช่วงหน้าฝน”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ชวนออกไป “เที่ยวเมืองไทยและทำกิจกรรมไทยเท่” ในสไตล์ของตัวเอง
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ได้มากขึ้น พร้อมนำเสนอ
ที่ท่องเที่ยวในแบบต่างๆ ทั้ง 10
สไตล์ ดังนี้
1.แต่งเท่:
เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องบิ้วตัวตาม งานนุ่งซิ่นผ้าถิ่น Theme แฟชั่นผ้าถิ่นแนวเก๋ไก๋แบบ Local จะแต่งเดี่ยว แต่งเป็นทีม แต่งแนวเหนือ แนวอีสาน แนวกลาง
แนวใต้ จะแชะมุมไหนก็เท่ได้ง่ายๆ ไม่เหมือนใคร
2.ทำเท่: เที่ยวเมืองไทยให้สนุก ต้องคลุกวงใน เขาทำอะไรตามไปรู้ให้ลึก ไม่ว่าจะ D.I.Y ของเด็ดประจำถิ่น หรือจะเป็น เพ้นท์ร่ม เพ้นท์ชาม ย้อมผ้า เก็บผักออร์แกนิค ทำสปาสุ่มไก่ และยังมีกิจกรรมเด็ดของท้องถิ่นอื่นๆอีกมากมาย
3.ไปหามุมเท่:
สะพายกล้อง แบกเป้แล้วไปแจกจ่ายความเท่ให้ทั่วทุกมุม
แชร์ให้โลกรู้ว่าเราคือผู้ค้นพบ
แล้วลองไป หามุมเท่ๆ สไตล์ชิคๆ แนว street อาร์ตทั่วประเทศ Art Gallery หรือ ไปครีเอทมุมที่ถ่ายรูปแล้วทำให้ที่เดิมๆ เพิ่มเติมด้วย
ความเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร2.ทำเท่: เที่ยวเมืองไทยให้สนุก ต้องคลุกวงใน เขาทำอะไรตามไปรู้ให้ลึก ไม่ว่าจะ D.I.Y ของเด็ดประจำถิ่น หรือจะเป็น เพ้นท์ร่ม เพ้นท์ชาม ย้อมผ้า เก็บผักออร์แกนิค ทำสปาสุ่มไก่ และยังมีกิจกรรมเด็ดของท้องถิ่นอื่นๆอีกมากมาย
4.ช้อปเท่: เที่ยวเมืองไทยทั้งที ต้องช้อปของดีประจำถิ่น เพราะของไทยดีไซน์ชนะเลิศเอาไปเลย 10 10 10 โดนใจคนรุ่นใหม่ จะต้องมีติดไม้ติดมือไปฝากเพื่อนกันหน่อย
5.กินเท่:
เที่ยวไทยไม่ว่าจะที่ไหน ยังมีเมนูต้นตำรับให้เราไปตะลุยกินมากมาย
ลองไปค้นสูตรลับประจำถิ่น
ที่หาจากที่อื่นไม่ได้ แต่จะกินให้เท่ที่สุดก็อย่าลืมแชะ
แล้วแชร์ไปอวดเพื่อนด้วยนะ
6.ชิลล์เท่:
เที่ยวเมืองไทย ไม่ว่าร้านจะซ่อนอยู่ตรอกไหน ซอยไหน เราก็ต้องไปค้นให้พบ
ไปดื่มด่ำกับร้านเก๋ไก๋ จากมุมเด็ดๆ ทั่วเมืองไทย ไปชิมขนมและเครื่องดื่มเมนูสูตรเด็ดจากวัตถุดิบของดีของพื้นที่7.เยือนเทศกาลเท่: เที่ยวเมืองไทย เยือนถิ่นพื้นบ้าน ไปสัมผัสประเพณีที่แบบคนถิ่นเขาทำกัน สัมผัสกับสีสัน ความงดงามแห่งวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งเดียวในเมืองไทย ทั้ง งานแห่ต้นดอกไม้ งานแห่ต้นกระธูป งานปอยส่างลอง ผีตาโขน ฯลฯ
8.ไปเท่มาเท่:
เที่ยวไทยให้ดูเท่ ต้องเลือกเดินทางด้วยพาหนะเอกลักษณ์ท้องถิ่นไม่ซ้ำใคร เช่น นั่งอีแต๊กขึ้นดอย รถม้าลำปาง
ตุ๊กตุ๊กหน้ากบ ขีจักรยานชมเมือง นั่งเรือกอนโดล่าเมืองตราด เป็นต้น
9.แลกเปลี่ยนความเท่:
คนรุ่นใหม่เที่ยวไทย ต้องไม่อายอู้ เว้า แหลง คุยทักทายด้วยภาษาถิ่น
แล้วจับเข่าแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่กับปราชญ์ท้องถิ่น ไปเรียนรู้เรื่องราวของพื้นที่ และเรื่องราว
ประสบการณ์ของคนในพื้นที่ที่ไม่สามารถตามหาได้จากที่ไหนบนโลกออนไลน์
10.ใจเท่:
เที่ยวด้วยใจคิดรักษ์เมืองไทย พกพาความหวังดีไปแบ่งบันให้กับคนในพื้นที่
ช่วยกันดูแลเมืองไทยของเราให้สวยงาม น่าอยู่ น่าเที่ยวและเท่แบบนี้ไปนานๆ
ช่วงที่ 2 จะพาไปสร้างประสบการณ์ความสุขกับการท่องเที่ยว สุขภาพ
และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์
@1ปีมีครั้งเดียวเที่ยว 5 เทศกาล
ตลอดเดือนพฤษภาคม
2560 ออกไปสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเก๋ไก๋
สไตล์ลึกซึ้ง สัมผัสกิจกรรมท่องเที่ยวไฮไลต์ 1 ปีมีครั้งเดียว ได้ถึง 5 เทศกาล
เริ่มด้วยงาน “เปิดโลกทะเลโคลน”
ระหว่าง 5-7 พฤษภาคม นี้
ที่บริเวณลานเอนกประสงค์หน้าเทศบาลตำบลบางละมุง จังหวัดเพชรบุรี พบกับมหกรรมอาหารทะเลสด รสอร่อย ฟังดนตรี ชมการแสดงบนเวที
ช้อปสินค้าโอท็อป ชิมอาหารทะเลต่างๆ
ไปพร้อมกับล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน การถีบกระดานหอย
นมัสการพระศักดิ์สิทธิ์ สอบถามที่ โทร. 032-481-168
วันที่ 8-9 พฤษภาคม นี้ ไปชมประเพณีบวชนาคช้าง ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ตื่นตากับขบวนแห่นาคาด้วยช้างนับร้อยเชือกอย่างตระการตา จากวัดแจ้งสว่าง และพิธีเซ่นไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน สอบถามได้ที่ กองการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทร.044-514-524
วันที่ 10 พฤษภาคม นี้ ร่วมงานบุญ “วิสาขพุทธบูชา” ณ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สักการะพระบรมสาริกธาตุ ชมนิทรรศการพุทธประวัติ ร่วมเวียนเทียนรอบองค์พระประธาน และวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ
วันที่ 10-14 พฤษภาคม นี้
ร่วม “เทศกาลวิสาขบูชาสกลนคร” ประจำปี 2560 ณ วัดป่าสุธาวาส และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จังหวัดสกลนคร ชมขบวนแห่โคมบัวบูชาอันตระการตา นิทรรศการวันวิสาขบูชา
ร่วมเจริญศีลภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน พิธีเวียนเทียน กิจกรรมวิ่งวิสาขพุทธบูชา
และกิจกรรมธรรมทัศนาจร สักการะพระเกจิอาจารย์ในจังหวัดสกลนคร สอบถามที่ สำนักพระพุทธศาสนา
จังหวัดสกลนคร 042-715-274-5
วันที่ 18 พฤษภาคม นี้
ร่วมงาน “บุญอัฎฐมีบูชา” ณ วัดใหม่สุคนธาราม อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พบกับพิธีจำลองการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า
สอบถามได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลวัดละมุด โทร.034-389-052, 034-265-448
ห้ามพลาด !
ติดตามการท่องเที่ยวสนุก ๆ
ทั่วไทยอีกหลากหลายกิจกรรมในแต่ละภาคอีก 15 งานที่น่าสนใจได้ทางรายการในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560
@6 วิธีแก้ง่วงในที่ทำงาน
ส่วนใหญ่คนมักเคยง่วงนอนในที่ทำงานจนอยากจะใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาตัวเอง
ถ้าหากว่าคุณกำลังพยายามหยุดนิสัยติดกาแฟ คุณทำมันได้อย่างแน่นอน!
เมื่อคุณรู้สึกง่วงนอนให้ปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้
เพื่อให้วันทำงานของคุณดำเนินไปได้ด้วยดีโดยปราศจากกาแฟ
1. พักสายตา ทุกๆ 20 นาที ให้มองไปที่ภาพไกลๆ 20-30 วินาที
ช่วยให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย
2. ยืดเส้นยืดสาย ช่วยให้ร่างกาย ไม่เหนื่อย ไม่อ่อนล้า
3. เดิน ประมาณ 20 นาที
เพิ่มระดับการทำงาน ลดอาการอ่อนล้า
4. ฟังเพลง ช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัว
และช่วยเพิ่มสมาธิด้วย
5. กินของขบเคี้ยว กินมื้อหลักให้น้อยลง
ระหว่างวันกินของขบเคี้ยว เช่น ผลไม้ เป็นต้น
6. ดื่มน้ำแก้ง่วง ถ้าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ
ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น สมองจะคิดงานได้ดี
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “57ปีบินไทยหวัง2แสนล้าน-แจกขนมไทย”
นายอารีพงศ์
ภู่ชอุ่ม ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีนโยบายให้สายการบินแห่งชาติสร้างรายได้ตลอดปีนี้ให้ถึง
2 แสนล้านบาท หลังการลงทุนพัฒนาระบบขายตั๋วและระบบบริหารรายได้แบบเต็มระบบแล้ว
เพราะระบบดังกล่าวจะทำให้มีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น
เริ่มตั้งแต่ต้นปี
2560 เริ่มใช้งานระบบมาแล้วกว่า 4 เดือน
ทำให้อัตราการบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มสูงมากและต่อไปจะบริหารราคาตั๋วได้ดีขึ้นพร้อมสร้างส่วนกำไรต่อหน่วยสูงกว่าปัจจุบัน
ปี
2560 นี้การบินไทยยังได้วางแนวทางสร้างความยั่งยืนด้วย 6 กลยุทธ์หล
1.การพัฒนาเครือข่ายการบินที่แข่งขันได้และทำกำไร
และลดความซับซ้อนของฝูงบิน
2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเสริมสร้างรายได้
3.การสร้างความเป็นเลิศในการบริการในทุกระดับชั้นบริการให้ได้ตามมาตรฐานโลก
4.การมีต้นทุนที่แข่งขันได้และดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
5.การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนความยั่งยืนและพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพดีเยี่ยม
และ 6.บริหารบริษัทในเครือและกลุ่มธุรกิจ พัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อความยั่งยืน
วันที่ 1 พฤษภาคม นี้
ตรงกับวันสถาปนาการบินไทย จึงได้มอบของขวัญเสิร์ฟเมนู “ขนมหวาน”
ให้แก่ผู้โดยสารทั้งเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ
ที่เดินทางเข้า-ออก กรุงเทพฯ สู่ปลายทางทั่วโลก
ข่าวที่สอง “ไทยแอร์เอเชียรุกบินดานังตั๋วโปร990บาท”
ข่าวที่สอง “ไทยแอร์เอเชียรุกบินดานังตั๋วโปร990บาท”
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ สายการบิน ไทย แอร์เอเชีย กล่าวว่า
ได้เปิดเส้นทางใหม่ บินตรงแบบประจำทุกวัน "กรุงเทพฯ-ดานัง" เที่ยวบินแรกจะเริ่มวันที่ 9 มิถุนายน 2560
นี้เป็นต้นไป ดังนั้นจึงได้จัดทำโปรโมชั่นสุดพิเศษเริ่มต้นเพียงเที่ยวละ 990
บาท ให้จองได้ตั้งแต่วันนี้-7 พฤษภาคม
2560 แล้วเก็บไว้ใช้ได้ 1
ปี ตั้งแต่ 9 มิถุนายน 2560
ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2561
ปัจจัยสนับสนุนการเปิดบินเข้าดานัง
เพราะอัตราการเติบโตของผู้โดยสารที่เดินทางในกลุ่ม CLMV เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารที่ 85-86% จึงตั้งเป้าหมายจะกระตุ้นผู้โดยสารเดินทางปีละกว่า 1.9 ล้านคน สำหรับปีนี้คาดจะใช้ผู้บริการรวมกว่า 19.5 ล้านคน
สำหรับดานัง
เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภาคกลางของเวียดนาม
ที่คนไทยและต่างชาติไปท่องเที่ยวตลอดทั้งปี แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 4 แห่ง ได้แก่ “ดานังบีซ” หาดทรายชายทะเลทอดยาว “สวนสนุก Fantasy
Park” ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพบนภูเขาสูงที่มีอากาศเย็นตลอดปี “บาน่าฮิลล์” นั่งเคเบิลคาร์ยาวที่สุดในโลกขึ้นไปชมทิวทัศน์
และ “ 3 เมืองมรดกโลก” ฮอยอัน เมืองเว้ เมืองหมี่เซิน
ดินแดนแห่งปราสาทหินโบราณ
ข่าวที่สาม “บางกอกแอร์ให้โหลดน้ำหนักฟรีปั่นไปบิน”
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า
มีบริการพิเศษ “บิน ไป ปั่น” มอบสิทธิประโยชน์ฟรีให้ผู้โดยสารระหว่างวันนี้-31 มีนาคม 2561
ในการโหลดจักรยานขึ้นเครื่องได้นอกเหนือจากสัมภาระปกติอีกคนละ
1 คัน
เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ขั้นตอนการใช้บริการ
ผู้โดยสาร “บิน ไป ปั่น”
จะต้องติดต่อแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์ก่อนเดินทางอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทร 1771
(ค่าบริการครั้งละ 3 บาททั่วไทย) หรืออีเมลล์ reservation@bangkokair.com
วิธีการโหลดจักรยานจะต้องนำลมยางออกและถูกพับเก็บในถุงหรือกล่องให้เรียบร้อยก่อนการโหลดขึ้นเครื่อง
ต้องมีขนาดไม่เกิน 145 x 160 x 110
เซนติเมตร
สอบถามได้ที่สำนักงานขายบางกอกแอร์เวย์สทั่วประเทศ
หรือดูรายละเอียด http://goo.gl/hOkVZY
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น