ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TCEBชูโดเมสติกไมซ์คลัสเตอร์-POSคิงเพาเวอร์ทำถูกต้อง-พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี


ผ่าตลาดโดเมสติกไมซ์คลัสเตอร์สู่ไทยแลนด์4.0
ซีเอสอาร์ไมซ์บูมโครงการพระราชดำริทั่วไทย

คิงเพาเวอร์โล่งอกบิ๊กทอท.เปิดไส้POSทำถูกต้อง
ลพบุรีชูจุดขายทัวร์กระท้อนพันไร่เที่ยวเมืองลิง

TCEBชูโพรแพ็คเอเชียทำเอ็กซิบิชั่นพุ่ง2.9หมื่นล.
ครอบครัวสุขสันต์ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯปทุมธานี

ไทยแอร์เอเชียเร่งขยายบินอู่ตะเภาครึ่งปีหลัง
โรงแรมดิโอกุระเสิร์ฟหรูบุฟเฟต์แชมเปญบรั๊นท์
ดุสิตฯรับป.ตรีการโรงแรมไทย-เทศ7หลักสูตร

          เช้าวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังทางมือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านทาง www.facebook.com/penroong ฟังย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)



ช่วงที่ 1 ฟังผู้นำการตลาดไมซ์ “ศุภวรรณ ตีระรัตน์” หันมาชูธง “Thailand Domestic MICE” เปลี่ยนกลยุทธ์ปรับพฤติกรรมการค้าธุรกิจในประเทศ ปลุกกระแสอินเซ็นทีฟซีเอสอาร์เดินหน้าใช้ “โครงการพระราชดำริ” เป็นศูนย์กลางสร้างสรรค์ครบวงจรทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี ก้าวไมซ์ไทย 4.0 พร้อมกับข่าวมากสาระ
ศุภวรรณ ตีระรัตน์
รองผู้อนำวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)


คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์” รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “TCEB” ให้สัมภาษณ์ในรายการถึง การเพิ่มช่องทางเพิ่มรายได้ตลาดไมซ์ในประเทศ (Domestic MICE) ช่วงครึ่งปีหลัง โดยร่วมกับเอกชนโหมจัดเวทีการค้าในกลุ่มคลัสเตอร์อันดามัน และอีสาน และโครงการปั๊มเงินจากองค์กรธุรกิจซึ่งนิยมหันมาจัด “ซีเอสอาร์อินเซ็นทีฟ” ให้พนักงานเดินทางไปร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อสังคมตามสถานที่หลักในโครงการพระราชดำริทั่วประเทศกว่า 30 แห่ง

คุณศุภวรรณ อธิบายว่าทางทีเส็บพยายามหากลยุทธ์ใหม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้วยการกระตุ้นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ประชุม สัมมนา จัดนิทรรศการแสดง เดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยขอเล่าสถานการณ์ความคืบหน้าตลาดไมซ์ในประเทศ เมื่อปี 2559 มีองค์กรและหน่วยงานจัดประชุมในประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 15 % เป็นการจัดประชุมพร้อมจัดนิทรรศการแสดงสินค้า (Exhibition) จำนวนรวมเพิ่มจาก 28 เป็น 30 ล้านคน ทำให้รายได้เอ็กซิบิชั่นขยายตัวถึง 60,000 ล้านบาท

ปี 2560 ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้เร่งเครื่องกระตุ้นกำลังซื้อตลาดไมซ์ในประเทศ ทำมหกรรม THAILAND MICE MART 2017 เน้นคลัสเตอร์ “อันดามัน” จัดที่ จังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง กระบี่ พังงา และวันที่ 28 กรกฎาคม นี้ จะไปจัดยัง “คลัสเตอร์ภาคอีสาน” ที่จังขอนแก่น โดย TCEB ได้จัดงานไมซ์มาร์ทต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งต่างจากทุกปีมุ่งเน้นกลุ่มคอร์ปอเรต รวมถึงเอเย่นต์รับบริหารการจัดงานให้ลูกค้าหรือกลุ่ม DMC (Destination Management Consultant) จะเลือกพื้นที่จัดงานในเขตอันดามัน

ดังนั้นในงาน “ไทยแลนด์ ไมซ์ มาร์ต 2017” จ.ภูเก็ต จึงได้เลือกจับคู่กลุ่มธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการแถบอันดามันตัวแทนกลุ่มผู้ขายได้พบกับกลุ่มผู้ซื้อซึ่งได้คัดเลือกบริษัทที่สนใจจะใช้บริการโรงแรมสนใจใช้สถานที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี จัดงานในโอกาสต่อไป มาเจรจาซื้อขายกันในงาน

ส่วนกลุ่มที่จะมาเป็นตัวอย่างเชื่อมโยงการซื้อขายไมซ์ในประเทศ ไฮไลต์คือ “กลุ่มคอร์ปอเรต” งานนี้มี Premax ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนฝ่ายบริหารงานพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือ HR องค์กรต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่จัดงานให้องค์กรของตนเอง เพิ่มกับเอเย่นต์ไมซ์ เดินทางเข้ามาดูงานพร้อมกับช้อปโปรดักซ์ เลือกสถานที่ บริการ กลุ่มภาคใต้ที่มาขาย

ตลอดการจัดงาน “ไทยแลนด์ ไมซ์ มาร์ต 2017 ที่ภูเก็ต ประสบความสำเร็จสูงมาก มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 300 ราย ผู้ขายกว่า 100 ราย ผู้ซื้ออีก 200 ราย คาดการณ์มีผู้สนใจจองซื้อเพื่อจัดงานจำนวนไม่ต่ำกว่า 20,000 คน สร้างรายได้ทันที 75-100 ล้านบาท

ส่วนการจัดงานไทยแลนด์ ไมซ์ มาร์ต 2017 ครั้งต่อไปในคลัสเตอร์อีสาน จะจัดที่ “ขอนแก่น” วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 ระดมเจ้าของสถานที่ใกล้เคียงเข้ามาร่วมเป็นผู้ขายทั้ง อุดรธานี หนองคาย นครพนม จะเน้นผู้เข้าร่วมเจรจาซื้อขายธุรกิจในลักษณะเดียวกันกับอันดามัน ได้แก่ โรงแรม สถานที่ยอดนิยม บริการไมซ์รูปแบบต่าง ๆ สไตล์เก๋ ๆ มีความพร้อมรองรับองค์กรคอร์ปอเรต ส่วนผู้ซื้อจะเชิญองค์กร สมาคม หน่วยงาน เอเยนต์ ผู้สนใจเลือกอีสานเป็นสถานที่จัดงานตามความสนใจและน่าค้นหาได้อีกหลายแง่มุม

ปัจจัยที่เลือกจัด ไทยแลนด์ ไมซ์ มาร์ต 2017 ในภูเก็ตและขอนแก่น เพราะทั้งสองจังหวัดเป็น 2 ใน 5 เมือง MICE CITY ของ TCEB

สัญญาณเศรษฐกิจไมซ์ในประเทศปี 2560 มีความสดใสมากกว่าทุกปี โดยเฉพาะหน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมใจกันจัดประชุมสร้างความรักสามัคคีระหว่างพนักงาน แทนที่จะให้แต่โบนัสก็หันมาเพิ่มความสุขในการให้พนักงานเดินทางฟรีไปทำประโยชน์เพื่อสังคมตามชุมชนทั่วประเทศ หรือจะเรียกว่า INCENTIVE CSR ก็ว่าได้ โดยเลือกใช้สถานที่ยอดนิยมทำกิจกรรมใน “โครงการพระราชดำริ” มาเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ต้นปี

นอกจากจัดประชุมแล้วยังจัดโปรแกรมเยี่ยมชมโครงการ เข้าไปเรียนรู้ ช่วยเหลือ เพิ่มขึ้น โดยพนักงานแต่ละบริษัทเปลี่ยนพฤติกรรมการทำกิจกรรมแตกต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มา นอกจากการทำ Team Building แล้ว ยังเข้าไปสนับสนุนชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับการขยายผลนำ “โครงการพระราชดำริ” มาเป็นทางเลือกสำคัญของการเป็นสถานที่รองรับตลาดไมซ์ในประเทศนั้น ในวันที่ 9 มิถุนายน 2560 ทางมูลนิธิปิดทองหลังพระ กับ TCEB วางกลยุทธ์จับมือกัน ระดมหน่วยงานทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมสัมมนา เผยแพร่ เชิญชวนองค์กรเข้ามาร่วมเรียนรู้ เพื่อนำไปกระตุ้นพนักงานให้หันมาเลือกจัดอินเซ็นทีฟได้

ทาง TCEB เองได้ทำแผนงานรองรับด้วยการ่วมมือกับสมาคมธุรกิจนำเที่ยวประเทศ (สทน.) กระตุ้นการจัดอินเซ็นทีฟพนักงานองค์กรทั่วประเทศเข้าไปในโครงการพระราชดำริและชุมชนกว่า 30 แห่ง จะมีการสนับสนุนเป็นพิเศษแก่เอกชนในกิจกรรมดังกล่าว

ขณะที่การเดินหน้าโครงการ SMART MICE เป็นคอนเซ็ปต์ตอบรับนโยบายรัฐบาลก้าวสู่ ไทยแลนด์ 4.0 โดยมี 6 คลัสเตอร์ มีคลัสเตอร์ที่จะต้องขยับอย่างมากคือ TCEB อยู่ในคลัสเตอร์ Creativity and High Value กลุ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตลาดมูลค่าสูง ต้องเกี่ยวข้องกับ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การประชุม การเดินทาง ซึ่งต้องนำความคิดสร้างสรรค์เข้าไปเสริมให้ได้มากที่สุด

การใช้ไมซ์โมเดลเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้เกิด ไทยแลนด์ 4.0 โดยได้เสนอรัฐบาลไปแล้วในกิจกรรมที่ TCEB จะนำไมซ์เข้าไปช่วยผลักดันได้คือ การจัดงานคอนเฟอร์เรนซ์ งานเทรดโชว์ แม้กระทั่งการจัดประชุมขนาดย่อย สามารถช่วยขับเคลื่อนได้ตั้งแต่ระดับย่อยไปจนถึงใหญ่ระดับนานาชาติ

ขณะเดียวกัน TCEB ต้องกลับมาพิจารณาตัวเอง ระหว่างเข้าไปช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอื่น ๆ แล้ว แต่องค์กรตนเอง ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ศูนย์ประชุม และอื่น ๆ มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแนวคิดหลักนำเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมบริการ และความคิดสร้างสรรค์เข้ามาใส่ในอีเวนต์ ประชุม แสดงสินค้าด้วย

จึงเป็นที่มาของการทำโปรเจ็กต์ SMART MICE : มาจาก

 S : Sustainibility ทำอย่างไรให้เกิดไมซ์อย่างยั่งยืน ทั้งการประชุม การเดินทาง ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ชุมชน เพราะคู่ค้าทั่วโลกก่อนตัดสินใจเลือกมาจัดไมซ์ในประเทศไทย จะมีคำถามนำมาก่อนว่า โรงแรม สถานที่จัด เข้าร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมหรือเข้าเกณฑ์ธุรกิจสีเขียวหรือไม่ อย่างไร

M : Modern” สื่อความหมายกระตุ้นผู้ประกอบการให้ออกแบบการจัดงานอย่างทันสมัย โดยนำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม เข้ามาช่วย เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เปลี่ยนจากมาเขียนชื่อหน้างานแล้วพิมพ์ออกมา แต่ปัจจุบันทำล่วงหน้าโดยลงทะเบียนก่อนผ่านมือถือ และมีรายละเอียดของงานสมบูรณ์ และเสร็จงานสามารถโหลดข้อมูลทั้งหมด

A : Artistic การจัดงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์

R : Revolutionary การปฏิวัติการจัดงานโดยใช้นวัตกรรมเข้ามาจัดมากขึ้น

T : Transformation ทำอย่างไรถึงจะกระตุ้นคนในอุตสาหกรรมไมซ์เปลี่ยนแปลง พัฒนา ใช้ไมซ์ให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเครือข่ายเชื่อมโยง ด้วยขบวนการที่สอดคล้องกับวิถีของผู้บริโภคซึ่งเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ทั้งทางด้านไลฟ์สไตล์ เทคโนโลยีดิจิตอล ในชีวิตประจำวันจำนวนมาก จึงต้องหาวิธีทำให้นำเครื่องมือมาใช้ให้เต็มศักยภาพ

พัฒนาการของเครือข่ายพันธมิตรในกลุ่ม สมาร์ต ไมซ์ มีความพร้อมขนาดไหน นั้น ทาง TCEB เพิ่งจะเริ่มเดินหน้าโครงการได้เพียงประมาณเดือนเศษ จากการจัดงานแสดงเทคโนโลยีนำผู้เชี่ยวชาญอินเตอร์เนชั่นแนลมาเป็นวิทยากร สิงคโปร์ และไทย มาจัดแสดงประเทศละกว่า 10 บริษัท ในงานมีผู้สนใจมาขอข้อมูลจำนวนมาก สะท้อนถึงความสนใจของผู้ประกอบการ เพราะสิงคโปร์คือผู้นำในการนำเทคโนโลยีมาใช้เต็มที่ ส่วนไทยจะโดดเด่นการนำความเป็นไทยกับธรรมชาติเป็นแม่เหล็กดึงไมซ์ แต่ถ้าขยับไปใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมจะเพิ่มความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการ SMART MICE กำลังลงทุนพัฒนาแอพลิเคชั่น สนับสนุนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างประมวลงานต่าง ๆ ที่จัดอย่างสม่ำเสมอในประเทศไทย แล้วจัดทำระบบลงทะเบียน ข้อมูล ตามมาตรฐานสากล ก่อนจะเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้ามาใช้บริการได้ภายในไตรมาสสุดท้ายปี 2560

TCEB พยายามพลิกโฉม “ไมซ์ในประเทศ” ให้เป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างผู้ประกอบการมืออาชีพทางด้านการจัดประชุม สัมมนา อินเซ็นทีฟ คอนเว็นชั่น เอ็กซิบิชั่น เข้าสู่ไทยแลนด์ ไมซ์ 4.0 ได้อย่างสมบูรณ์แบบในอนาคตอันใกล้นี้



ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “ทอท.ย้ำคิงเพาเวอร์ทำPOSถูกต้องทุกสนามบิน”

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า กล่าวว่า พร้อมชี้แจงเรื่อง บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด กรณีการติดตั้งระบบบันทึกยอดขายสินค้า (Point of Sale: POS) ในสุวรรณภูมิและสนามบินอื่น ๆ ทำตามขั้นตอนสัญญาอย่างโปร่งใส ซึ่งทำไว้เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2546  สมัยบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) เป็นผู้จัดหาโดยให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Airport Information and Management Systems ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)   

ปัจจุบัน ทอท.ได้ปรับปรุงระบบ POS ให้เป็นแบบ Online Real-time ครบเรียบร้อยแล้วทั้ง 6 ท่าอากาศยานเรียบร้อยแล้ว

ขณะนั้นในสุวรรณภูมิมีฟังก์ชั่นการเชื่อมโยงกับระบบ POS ของเอกชนซึ่งมีรายละเอียดเรื่องโปรโมชั่นและระบบสมาชิกของบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด ยังไม่ได้ เบื้องต้น ทอท.จึงได้นำ POSไปใช้ในกิจการอื่นของ ทอท. เช่น การให้บริการจอดรถยนต์

โดยโครงสร้างการทำงานของระบบ POS ดังกล่าวเป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือ กล่าวคือ หากมีการบันทึกแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลรายการได้ และข้อมูลการขายจะเป็นข้อมูลชุดเดียวกับที่กรมสรรพากรใช้ในการตรวจสอบการชำระภาษีของ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด



ข่าวที่ 2 “ททท.จัดเต็มทัวร์กระท้อนเที่ยวลพบุรี”

นายอรรถพล  วรรณกิจ  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี เปิดเผยว่า ได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไปทัวร์งาน “เทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 26 ประจำปี 2560” ระหว่างวันนี้– 13 มิถุนายน 2560 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่ง “กระท้อน” เป็นผลไม้ขึ้นชื่อพืชเศรษฐกิจของจังหวัดลพบุรีที่มีชื่อเสียงมายาวนาน โดยมีพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่ในเขตตำบลตะลุงนับ 1,000 ไร่ และในเขตตำบลข้างเคียง

ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงที่กระท้อนให้ผลผลิตได้เต็มที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกได้เป็นอย่างดี ทางจังหวัดและเจ้าของสวนจึงได้นำเสนอคุณภาพของผลผลิตออกมาจัดแสดงและจำหน่าย แก่นักท่องเที่ยว ด้วยผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าอื่นๆ ได้แก่ กระท้อนแช่อิ่ม กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนกวน กระท้อนหยี

รวมทั้งยังแนะนำให้ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ “ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ พระปรางค์สามยอด, ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองลพบุรีสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ศิลปโบราณวัตถุที่มีคุณค่าของประเทศไทย ซึ่งจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ และไหว้พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิ พระราหูเต็มองค์ทรงครุฑ เพื่อเสริมสร้างบารมี เพิ่มความโชคดีและโชคลาภ ณ วัดป่าธรรมโสภณ



ข่าวที่ 3 บางจากเล็งปรับEBIDAใหม่ปี’60

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังเตรียมปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 2560 จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 20% จาก 11,100 ล้านบาท ในปี 2559

แต่หลังจากผลงานออกมาดีตั้งแต่ไตรมาส 1/2560  ทำยอด EBITDA ได้ถึง 4,000 ล้านบาท หรือ 40% ของเป้าหมายทั้งปี ผนวกกับมีปัจจัยบวกเสริมอีกหลายอย่าง ทั้งราคาน้ำมันดิบปีนี้ คาดอยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

การตั้งเป้าหมายปี 2563 ปริมาณการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 130,000-140,000 บาร์เรล สูงกว่าปีนี้จะอยู่ที่ระดับวันละ 111,000 บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 101,000 บาร์เรล เนื่องจากปีนี้ไม่ได้ปิดปรับปรุงโรงกลั่น

พร้อมทั้งเตรียมติดตั้งหน่วยเพิ่มออกเทนเทคโนโลยีใหม่แบบ Continuous Catalyst Regeneration (CCR) ซึ่งเป็นหน่วยที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันใสเข้ามา และจะช่วยยืดระยะเวลาในการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นออกไปเป็นทุก 36 เดือน จากเดิมทุก 24 เดือน คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงปี 2562 โดยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นได้ปีละ 1,000-2,000 ล้านบาท



ข่าวที่ 4 “เที่ยวไทยเท่ฮ็อตสุดขีดจัดประกวด4หมวดเท่”

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จับมือองค์กรพันธมิตร เปิดตัวโครงการ “ไทยเท่ ทั่วไทย” ค้นหาสุดยอดผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคจากวัฒนธรรมท้องถิ่นมุ่งสู่ Trade & Services 4.0 และได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำโครงการ “เที่ยวไทยเท่” เริ่มเมื่อปลายเดือนมี.ค. 2560 ขณะนี้สามารถสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มผู้บริโภคได้แล้วถึง 25 ล้านคน



ทางหอการค้าไทย ได้จัดทำโครงการ “ไทยเท่ ทั่วไทย” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้แสดงฝีมือและพัฒนาความสามารถให้ก้าวไกลสู่สากล ผ่านการประกวด ระหว่างวันนี้.-31 ก.ค. 2560 ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสในการพัฒนาความสามารถด้านต่างๆ เพื่อเสริมความเข้มแข็งและความพร้อม ก่อนจะตัดสินผลการประกวดในเดือนต.ค. 2560 ดูรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ทาง www.thaichamber.org หรือ Email: thaitay@thaichamber.org

โดยได้แบ่งผู้เข้าประกวดเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

 1.กลุ่มผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและโดดเด่นในการนำวัฒนธรรมท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ซึ่งเรียกว่ากลุ่ม “พร้อมเท่” โดยหอการค้าไทย จะคัดเลือกและมอบรางวัลไทยเท่ให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ในฐานะที่เป็นต้นแบบแก่ผู้ประกอบการรายอื่น รวมทั้งสนับสนุนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

2.กลุ่มผู้ประกอบการที่มีความสนใจและกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อยอดวัฒนธรรมไทยเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งเรียกว่ากลุ่ม “กำลังเท่” โดยผู้ประกอบการกลุ่มนี้ถือว่ามีศักยภาพ หากพัฒนาเพิ่มเติมก็จะสามารถเติบโตได้อีกมาก และหอการค้าไทยฯ จะได้เข้าไปร่วมสร้างความเข้มแข็ง

 โดยจะจัดการประกวดแยก 4 หมวด ตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ได้แก่ 1.กิน หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ 2.ใช้ หมวด เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าท้องถิ่น ของที่ระลึก และสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ 3.ทำ กิจกรรมในท้องถิ่น และ 4.เที่ยว ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก เส้นทางท่องเที่ยว



ข่าวที่ 5 “โพรแพ็คเอเชียดันยอดแสดงสินค้าปี’60พุ่ง2.9หมื่นล้าน”

นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การจัดงานแสดงสินค้าเป็นอีกอุตสาหกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการจัดงาน โพรแพ็ค เอเชีย 2017 ระหว่างวันที่ 14-17 มิถุนายน 2560 เวลา 10.00 - 18.00 น. ฮอลล์ 98-105 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ถือเป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ซึ่งได้รับความสนใจจากองค์กรภาคอุตสาหกรรมไทยและต่างประเทศ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรชั้นนำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำร่วมกันนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาร่วมจัดแสดง

ปีนี้คาดมูลค่าการค้าจะพุ่งกว่า 29,000 ล้านบาท จากผู้เข้าร่วมกว่า 45,000 คน โดยมีองค์กรอุตสาหกรรมไทย-เทศ บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมจากทั่วโลก เตรียมนำเทคโนโลยีเครื่องจักรใหม่ล่าสุดมาจัดแสดงกว่า 5,000 เครื่อง

การจัดงานปี 2560 จะมีใหญ่ขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมาถึง 25% โดยมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานมากกว่า 2,000 ราย จาก 45 ประเทศทั่วโลก ผู้เข้าร่วมจะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของ 18 พาวิลเลี่ยน จากประเทศผู้ผลิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำของโลก อาทิ ออสเตเลีย จีน เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมันนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ สเปน ไต้หวัน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา




ช่วงที่ 2 ชวนกันไปพักผ่อนอย่างมีความรู้และร่วมกิจกรรมสนุก สุขสันต์ ทุกเดือนที่ “พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ ปทุมธานี” กับมหัศจรรย์เกษตรหลอมรวมความสัมพันธ์ในครอบครัว แล้วมารู้วิธีเก็บผักใส่ตู้เย็นอย่างมีศิลปะ รวมทั้งสารพัดข่าวน่ารู้ท้ายชั่วโมง



@พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯปทุมชวนสุขสันต์วันหยุด


ออกไปพักผ่อนใกล้ ๆ กรุงเทพฯ แถมได้ความรู้เชิงเกษตรอย่างเต็มอิ่ม ด้วยการแวะไป “พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ตั้งอยู่ที่ 13 ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อน 10 แนวคิดพอเพียง และการเรียนรู้ วิถีเกษตรตามรอยพ่อ  รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ของเยาวชนและบุคคลทั่วไป ที่จะได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อปวงชนชาวไทยมาตลอดชีวิต




เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ศูนย์การเรียนรู้อีกหนึ่งแห่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งขึ้นในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปีเมื่อปี พ.ศ. 2539 ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากเขตกรุงเทพฯ มากนัก

ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน 2560 ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จัดกิจกรรมพิเศษแต่ละเดือนช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมลงมือทำ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 1 ของเดือน

เริ่มจากวันที่ 2-4 มิถุนายน นี้ จัด “มหกรรมพลังวัฒนธรรมวิถีเกษตรไทย

วันที่ 1-2 กรกฎาคม  จัด “ภูมิปัญญาเก่าใหม่ไทยเกษตร”

วันที่ 5-6 สิงหาคม จัด “มหกรรมเกษตรรักแม่”

วันที่ 2-3 กันยายน นี้ จัด “มหัศจรรย์แห่งท้องทุ่ง”


พร้อมกับมีไฮไลต์ “กิจกรรมเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง” แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนและเกษตรกร ในรูปแบบต่างๆ 14 หลักสูตร

“กิจกรรมเสาร์ อาทิตย์ สุขสันต์” กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งจะจัดทุกเสาร์ อาทิตย์ที่ 2 และ 3 ของแต่ละเดือน

“กิจกรรมตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียง” นำเกษตรกรเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติเข้ามาร่วมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการและจำหน่ายสินค้าให้ได้ ชม ชิม ช้อป สินค้าเกษตรปลอดภัย


รวมทั้งมีบริการ ห้องประชุม สัมมนา ห้องพัก อาคารสถานที่ อาหารและเครื่องดื่ม ครบวงจร

และภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 10 โซน ภายใต้แนวคิด 10 โซนมหัศจรรย์การเรียนรู้วิถีเกษตรตามรอยพ่อ เป็นนิทรรศการที่รวบรวมผลงานของพ่อหลวง อาทิ พระราชกรณียกิจสำคัญ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตลอดจนการพัฒนาพื้นที่การเกษตรและถิ่นทุรกันดาร

ใครอยากเรียนรู้ความหมาย ตลอดจนความเป็นมาของ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ใครอยากเดินตาม รอยพ่อบนวิถีพอเพียง ศึกษาวิธีการทรงงานของพระองค์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น มาที่นี่เพียงหนึ่งวัน แล้วจะซาบซึ้งใจในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พ่อหลวงท่านได้ทำเพื่อคนไทยนั้นมีมากมายจริงๆ



การท่องเที่ยว จ.ปทุมธานี

วันแรก “ช่วงเช้า” เดินทางสู่จังหวัดปทุมธานี เยี่ยมชม หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกาญจนาภิเษก ช่วงบ่าย” ไปชมพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครอง สิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี และไปเยี่ยมชมวัดเจดีย์ทอง (วัดสิงห์)

         สถานที่เที่ยวห้ามพลาด ภายในพิพิธภัณฑ์ ต้องเข้าไปชม โซนพระราชพิธีในวิถีเกษตร แสดงหุ่นจำลองการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาเล่าอย่างละเอียด

โซนเรื่องของพ่อในบ้านของเรา ชมเรื่องราวการทรงงาน 23 ข้อ ที่สร้างความอยู่เย็นเป็นสุขให้คนไทยตลอดมา

โซนตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอเพียง ชมแนวคิดต้นแบบที่จีรังของพ่อหลวงอย่างใกล้ชิด

กิจกรรมห้ามพลาด ลอดซุ้มประตูรวงข้าว ไปพบบ้านชาวนาและแปลงผักจำลองในโซนหัวใจใฝ่เกษตร


สนใจท่องเที่ยวและเข้าร่วมกิจกรรมกับทาง พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โทร. 09-4649-2333, 02-529-2212-3, 08-7359-7171 หรือ  www.wisdomking.or.th


การเดินทาง -ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ผ่านม.กรุงเทพห่างจาก ม.ธรรมศาสตร์ 10 กม. พิพิธภัณฑ์เกษตเฉลิมพระเกียรติอยู่ระหว่างกม.46-48 ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลการุญเวช (นวนครเดิม)

               

@แนะวิธีเก็บผักในตู้เย็นให้สดดีต่อสุขภาพ


หลายครั้งที่เราซื้อผักมาแล้วกินไม่หมดก็ยัดใส่ไปในตู้เย็นครั้งละมาก ๆ พอจะเอามากินก็สายเกินไป ลองมาดูวิธีที่ถูกต้องสำหรับการเก็บผักให้อยู่ได้นานกันดีกว่า



จะเก็บผักต้องรู้เรื่องนี้ก่อน

1.ไม่ควรเก็บผักไว้รวมกัน จะทำให้เกิดการเน่าเสีย และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

2.การเก็บผักด้วยวิธีแช่น้ำ ไม่ควรแช่ผักลงในน้ำทั้งตัน เพราะจะทำให้วิตามินละลายน้ำเสียไป

3.การเก็บผักเล็กๆน้อยๆ ที่ใช้ในครัวและเก็บในตู้เย็นนั้น ควรล้างผักให้สะอาดก่อนเพราะผักที่ซื้อจากตลาดขายปลีกมักไม่สะอาด หากยังไม่ได้ใช้ทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำจริงๆ จึงเอาเข้าเก็บ



4 หลัก เก็บผักให้สด

การเก็บรักษาผักสดให้คงอยู่ในสภาพที่ดี และอยู่ได้นานที่สุดนั้นต้องเก็บให้เหมาะสมกับชนิดของผักนั้นๆ โดยจะต้องแบ่งผักออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน

1.กลุ่มผักที่เน่าเสียง่าย เช่น เห็ด ผักชี ผักกาดหอม ถั่วงอก ถั่งฝักยาว ผักบุ้ง ชะอม กลุ่มผักที่เก็บได้ในระยะเวลาจำกัด เช่น ผักกาด ผักคะน้า มะเขือเทศ และกลุ่มผักที่เก็บไว้ได้นานกว่าผักอื่นๆ เช่น ฟัก แฟง เผือก มัน ฟักทอง เป็นต้น ผักเหล่านี้แม้จะเก็บในตู้เย็นก็ยืดเวลาได้ไม่นานนัก แต่การเก็บที่ดีที่สุดคือใส่ถุงพลาสติกที่สะอาดและแห้ง จะช่วยเก้บไว้ได้นานขึ้น 5-7 วัน

2.การเก็บผักนั้นควรแยกเก็บตามชนิดของผัก ไม่ควรเก็บผักและผลไม้ให้อยู่ด้วยกัน เพราะทำให้เกิดการเน่าหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บผักแต่ละชนิดโดยแยกกันเป็นสัดส่วน การเก็บผักนั้นไม่ควรล้างก่อนเก็บ ควรจะล้างเมื่อจะนำมาประกอบอาหารเท่านั้น ประเภทผักใบ ถั่วลันเตา ถั่วแขก เหล่านี้ควรแยกใส่ถุงพลาสติกแล้วเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 45 องศาฟาเรนไฮต์ จะช่วยให้คงความสดอยู่ได้นานขึ้น

3.ผักหัวประเภทแครอท หัวผักกาด หัวบีท เผือก ให้ตัดใบออกให้หมดก่อนเก็บ มิฉะนั้นความหวานในหัวจะลดลง ส่วนผักที่มีเปลือกหนา เช่น ฟักทอง ฟัก แฟง มันฝรั่ง เผือก เก็บโดยไม่ต้องล้างเช่นเดียวกัน โดยวางไว้ในที่เย็นๆ อากาศถ่ายเทได้ และอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 55-65 องศาฟาเรนไฮต์ จะช่วยให้เก็บไว้ได้นานขึ้น

4.ไม่ควรแช่ผักกับผลไม้ไว้ด้วยกันเพราะ ผลไม้สุกจะปล่อยก๊าซเอธิลีนออกมา ทำให้ผักที่ว่างอยู่ใกล้ ๆ เสียเร็ว ทางที่ดีควรเก็บผักและผลไม้แยกถุงหรือ แยกชั้นกัน ยิ่งแช่ห่างกันมากเท่าไรผักและผลไม้ก็จะช่วยยืดอายุได้นานขึ้น



ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ผู้อำนวยการ ฝ่ายการพาณิชย์ ไทย แอร์เอเชีย เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งทำโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)  สร้างผลดีต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาทั้งเส้นทางบินในและต่างประเทศ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากนักลงทุนสนใจเดินทางเข้ามา ทำให้แอร์เอเชียเพิ่มอัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบินเฉลี่ย สูงถึง 90%  



ไทย แอร์เอเชีย ตั้งเป้ารายได้ตลอดปี นี้จะต้องเติบโตเพิ่มขึ้น 16%  โดยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงขึ้น 18-19% เฉลี่ยทั้งปีกว่า 84% ในเดือนมิถุนายน 2560 เป็นต้นไป จะเริ่มเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยัง เมืองดานัง เวียดนาม อินเดีย จีน และในประเทศอีก 1-2 เส้นทาง



ข่าวที่สอง “ดิโอกุระเสิร์ฟหรูบุฟเฟต์แชมเปญบรั๊นซ์”




โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ แนะนำโปรโมชั่นอาหารที่น่าสนใจในเดือนมิถุนายนนี้ คือ “แชมเปญ ซันเดย์บรั้นซ์” ที่ห้องอาหาร อัพแอนด์อะบัฟ  ราคาคนละ 3,900++ บาท รับประทานแบบไม่จำกัดพร้อมแชมเปญ ไวน์ เบียร์ ค็อกเทลนานาชนิด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ กับอาหารนานาชาติหลากหลายเมนูตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. โดย “เชฟ แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์” หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ คัดสรรเมนู ทั้งอาหาร ญี่ปุ่น อเมริกัน ฝรั่งเศส ไทย

รวมทั้งอาหารทะเลอ่าวไทยคุณภาพสดใหม่ให้บริการ อาทิ เมนล็อบสเตอร์ ขาปูอลาสก้า หอยตลับมะนิลา ปูทะเล หอยนางรมคุณภาพดีนำเข้าจากต่างประเทศมาให้เลือกรับประทานตามใจชอบ กระเทาะเปลือกกันแบบสดๆ ได้แก่ ฟินเดอแคลร์ (Fin de Claire) จากฝรั่งเศส อีเกิล ร็อค (Eagle rock) จากสหรัฐอเมริกา และแปซิกฟิก (Pacific) จากออสเตรเลีย  ให้บริการคู่กับซอสสูตรเฉพาะของ ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้แก่ ซอสพอนซึ (Ponzu) ซอสเปรี้ยวแบบญี่ปุ่น ซอสค็อกเทล (Cocktail sauce) เป็นซอสมีส่วนผสมของมายองเนส บรั่นดีและซอสมะเขือเทศ มิกโนเนท (Mignonette) ซอสรสเปรี้ยวแบบอิตาเลี่ยน ซอสทาบาสโก้ (Tabasco) ไว้คอยให้บริการ


และมีมุมปรุงอาหารให้บริการจานต่อจาน ได้แก่ มุมพาสต้าเส้นสด  มุมอาหารญี่ปุ่นบริการปลาดิบ สด ๆ ข้าวห่อสาหร่าย และข้าวหน้าปลาดิบหลายรายการ มุมเนื้ออบเวลลิ่งตัน สเต็กเนื้อสันในห่อด้วยแป้งพายอบสุกกำลังดีรสชาติอร่อยกลมกล่อม มุมขนมหวานที่มีวาฟเฟิลทำสดใหม่ให้บริการกับไอศครีมโฮมเมท เครปซูเซ็ท หรือช็อคโกแลตลาวา อีกทั้งยังมีล๊อบสเตอร์ย่าง ตับห่านย่าง หรือ เนื้อลูกวัวย่าง ให้บริการเป็นอาหารพิศษ ที่เชฟจะปรุงใหม่เพื่อให้บริการแบบจานต่อจาน

รวมทั้งมีบริการ “โพรเซคโค ซันเดย์บรั้นซ์” มีอาหารหลากหลายกับไวน์โพรเซคโค เบียร์ ค็อกเทลนานาชนิด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ ราคาคนละ 3,300++ บาท  ส่วน “คลาสิกซันเดย์บรั้นซ์”  ราคาคนละ 2,600++ บาท ให้บริการพร้อมชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ สำหรับเด็กอายุ ระหว่าง 7 ถึง 12 ปี  ราคา 1,050++ บาท โทร.02 687 9000  



ข่าวที่สาม “คาเฟ่ แคนทารี เสิร์ฟเมนูเด็ด มิ.ย.


คาเฟ่ แคนทารี บางแสน, คาเฟ่ แคนทารี กาดฝรั่ง, คาเฟ่ แคนทารี  ปราจีนบุรีและ คาเฟ่ แคนทารีระยอง ท้าลองสัมผัสอรรถรสแห่งความอร่อยเมนูสุดพิเศษประจำเดือนมิถุนายน “แองเจิลแฮร์ผัดต้มยำแห้งกุ้งโรยไข่กุ้ง”  ชวนคุณฟินกับสปาเก็ตตี้เส้นแองเจิลแฮร์วัตถุดิบชั้นดี นุ่ม ละมุนลิ้น ผัดกับกุ้งสดใหม่จากทะเล และคลุกเคล้ากับส่วนผสมเครื่องต้มยำสุดซี๊ดซ๊าด แถมโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง กลมกล่อม อร่อยสุดขั้วตามแบบฉบับของคาเฟ่ แคนทารี ได้ในราคาเพียง 170 บาท โทร. 1627 หรือ www.cafekantary.com



ข่าวที่สี่ “ดุสิตฯรับป.ตรีการโรงแรม7หลักสูตร”

วิทยาลัยดุสิตธานี เชิญชวนผู้สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า เข้าเรียนปริญญาตรีในหลักสูตรบริหารธุรกิจ (บธ.บ.) และการจัดการ (กจ.บ.) ทางด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว และครัวที่ทันสมัย รวม 7 หลักสูตร โดยประกอบด้วย 4 หลักสูตรภาษาไทย คือ

1.หลักสูตรการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร 2.หลักสูตรการจัดการโรงแรมและรีสอร์ท 3.หลักสูตรการจัดการท่องเที่ยว 4.หลักสูตรการจัดนิทรรศการและการประชุม 5.หลักสูตรนวัตกรรมบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม และ 2 หลักสูตรนานาชาติ คือ 6.หลักสูตรการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร โดยความร่วมมือกับสถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ ฝรั่งเศส

และ 7.หลักสูตรการจัดการโรงแรมและรีสอร์ท ร่วมมือกับโรงเรียนการโรงแรมโลซาน สวิตเซอร์แลนด์

สอบถามได้ที่ 02-361-7811 ถึง 3 และ www.facebook.com/DTCThailand
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ เจ้าของ/ผู้ดำเนินรายการ สวท.FM 97.0 MHz.









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง