ไทยใช้สปริงบอร์ดTTM+เพิ่มตลาดทั่วโลกปี’61
ผู้นำททท.ปลุกชุมชนเจ้าบ้านที่ดีรับปีท่องเที่ยว
คิงเพาเวอร์ซื้อOHLเบลเยี่ยมสร้างชื่อในเวทีโลกผู้นำททท.ปลุกชุมชนเจ้าบ้านที่ดีรับปีท่องเที่ยว
“ททท.-CLMV”ยึดTTM+ดันเที่ยวเชิงอาหารพุ่ง
เที่ยวได้งานในโครงการอุทยานอาชีพนครปฐม
3แอร์ไลน์แถวหน้าของไทยงัดสารพัดแผนรอด
การบินไทยเปิดฤดูซื้อฝูงบินใหม่ขายฝูงบินเก่า
ไทยสไมล์บินเพิ่มภูเก็ตวันละ7เที่ยวเริ่ม1ก.ค.นี้
นกแอร์เคว้งแผนหาผู้ร่วมหุ้นเพิ่มทุนปลดหนี้
ไทยแอร์เอเชียทำโปร1,990บาทบินตรงมัลดีฟ
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่
2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM
97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
(ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง
www.facebook.com/penroong
และ gurutourza.blogspot.com ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)
ช่วงที่ 1
“ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
จะมาเล่าถึงความสำเร็จอย่างล้นหลามของาน Thailand Travel Mart 2017 แล้วปีหน้าจะไปจัดที่พัทยา
บูมเขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก EEC พร้อมผ่าแผนอนาคตการท่องเที่ยวเรื่องหลัก ๆ การเตรียมเป็นเจ้าภาพ ASEAN
TOURISM FORUM 2018, ประกาศปีท่องเที่ยวไทย 2561 การกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง 2560
“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการถึง เรื่องแรก
การเป็นเจ้าภาพ Thailand Travel Mart Plus 2017
TTM+ : Dilivering Unique Experience ระหว่างวันที่
14-16 มิถุนายน 2560 ณ ศุนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
สร้างความสำเร็จต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 16
ได้รับความสนใจจากกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวในตลาดโลกเกินเป้าหมาย 429 บูธ 362 หน่วยงาน 56 ประเทศ
แลกเปลี่ยนการซื้อขายเป็นงานเทรดแรกที่มีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชีย มีชื่อเสียงมากที่สุดในอาเซียน
การสร้างและกระจายรายได้สู่กลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง
โดยเฉพาะสินค้าประชารัฐชุมชน ซึ่งคัดสรรผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทั้งอาหารแปรรูป
เครื่องประดับ ผ้า หัตถกรรม ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงการค้าจากต้นทางเข้าถึงผู้ซื้อโดยตรง
แนวโน้มประโยชน์ที่จะเกิดกับการท่องเที่ยวของประเทศ
เนื่องจากมีทั้งกลุ่มที่เคยเข้าร่วมรายเก่า อีกทั้งยังรายใหม่เข้ามาเสริมอีกถึง
106 ราย
จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้กับเจ้าของโปรดักซ์ท่องเที่ยวรายใหม่ของไทยได้มีประสบการณ์ทำการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการด้วย
การจัด
Thailand Travel Mart Plus 2017
ปีนี้ จึงเป็นงาน “จุดประกายสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่”
ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมโดยตรงและเกี่ยวเนื่องทางด้านภาคการผลิตสินค้าชุมเข้าสู่ตลาดการค้าท่องเที่ยวของโลกไปด้วยกัน
ต่อจากนั้นในปี
2561 ตามนโยบายของรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้มอบหมายให้ พลเอกธนะศักดิ์
ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล และนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับผิดชอบแผนงานการประกาศให้
“พัทยา”รับเป็นเจ้าภาพจัดงาน Thailand Travel Mart Plus 2018
ซึ่งเป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยวมีชื่อเสียงติดอันดับโลก
และอนาคตกำลังยกระดับเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งตะวันออก : Eastern
Economic Corridor : EEC โดยสามารถใช้งาน Thailand
Travel Mart Plus เป็นสปริงบอร์ดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ดึงดูดนักลงทุน และการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมส่งออก ควบคู่กันไปด้วยได้
หลังจากเมื่อ
2 ปีที่ผ่านมา ระหว่าง 2559-2560 ได้เลือกจัดที่เชียงใหม่
เพื่อสร้างการรับรู้จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีแล้ว ประกอบกับ ช่วงมกราคม ปี
2561 เชียงใหม่ยังคงได้รับเลือกเป็นพื้นที่จัดงานใหญ่อีกรายการได้แก่ ASEAN
TOURISM FORUM 2018
ย้อนกลับมาถึงเรื่องศักยภาพขีดความสามารถของพัทยาที่จะเป็นเจ้าภาพจัด
Thailand Travel Mart Plus 2018
นั้น มีทั้งความพร้อมทางด้านศูนย์กลางสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่รองรับการจัดประชุมนานาชาติ
จำนวนผู้ซื้อผู้ขายจำนวนมากนับพันคนได้ ซึ่งจะต้องติวเข้มกันต่อไปถึง “ความพร้อมของพื้นที่ในฐานะเจ้าภาพ”
โดย ททท.เองก็จะต้องพิจารณาใส่งบประมาณเสริมสร้างความแกร่งทางด้านอื่น ๆ
เข้าไปเสริมให้พัทยาแสดงบทบาท “การเป็นเจ้าบ้านที่ดี”
โดยรณรงค์ในพื้นที่ภายในพัทยาและโดยรอบเข้ามามีส่วนร่วมด้วยในการต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ก็จะยิ่งเพิ่มความสำเร็จให้กับการจัดงานระดับโลกได้
ในการเสริมความแกร่งใน
“การเป็นเจ้าบ้านที่ดี” จะเริ่มออกตัวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เพราะการเป็นเจ้าบ้านที่ดีอยู่ในสายเลือดหรือหัวใจของคนไทยอยู่แล้ว
ผนวกกับรัฐบาลได้จัดทำโครงการเจ้าบ้านที่ดีให้การอบรมมาตั้งแต่ต้นปี
การต้อนรับผู้มาเยือน ความสะอาด ความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพของนักท่องเที่ยว
องค์ประกอบรวม ๆ ทั้งหมดจะนำพัทยาและประเทศไทยก้าวไปสู่ความสำเร็จต่อไป ในปี 2561
เรื่องที่
2 ในการเป็นเจ้าภาพจัด ASEAN TOURISM FORUM : ATF 2018
จะนำเครื่องมือใหม่เข้ามาสร้างความยิ่งใหญ่และความสำเร็จให้เหมือนกับงาน TTM+2017 ที่เชียงใหม่เหมือนกัน
ต่างกันบริบทของ ATF จะเป็นความร่วมมือประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน
เมื่อปี 2560 สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพได้จัดเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว
และไทยได้รับมอบธงเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดช่วงเดือนมกราคม 2561
ดังนั้นในปี
2561 จะมี 2 ใหญ่ เกิดขึ้นในประเทศไทย คือ ATF 2018 ช่วงเดือนมกราคม 2561 จัดที่เชียงใหม่ กับงาน TTM+2018
จัดในพัทยา (ชลบุรี) ช่วงเดือนมิถุนายน 2561 เป็นความตั้งใจของ
ททท.ให้เกิดความสำเร็จในระดับใกล้เคียงกัน
โดยมีความท้าทายอยู่บ้างในการที่จะต้องเชิญชวน “ผู้ประกอบการ” มาร่วมทั้ง 2
งานในปีเดียวกัน โดย ATF จะเจาะจงผู้ขายจากอาเซียน
ส่วน TTM + จะมีแนวร่วมอื่นเข้ามาด้วย
โอกาสปี
2561 ททท.ทุกสำนักงานในต่างประเทศทั่วโลก น่าจะได้เชิญชวน “ผู้ประกอบการ”
ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อเข้ามาเพิ่ม ส่วน ททท.ในประเทศก็จะปลุกกระแส “ผู้ประกอบการในประเทศ”
จำนวนมากขึ้นเช่นกัน แล้วหาช่องทางสร้างจุดขายให้ผู้เข้าร่วมงานแตกต่างกัน
เรื่องที่
3 รัฐบาลเตรียมประกาศให้ปี 2561 เป็นปีการท่องเที่ยวไทย หรือ Thailand
Tourism Year ตามนโยบายของพลเอกธนะศักดิ์
ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นความตั้งใจที่จะนำการท่องเที่ยวไปสู่ “คุณภาพ”
ในหลายปีที่ผ่านมา ททท.มีส่วนร่วมทำโครงการ Visit Thailand Year หรืออื่น ๆ สร้าง demand & supply
site สร้างทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานคู่ขนานกันไป
แบ่งเป็นทางด้าน
demand จะเน้นหนักยกระดับ
“เพิ่มคุณภาพนักท่องเที่ยวตลาดโลก” ที่เดินทางเข้าเมืองไทย
ทั้งประเทศระยะใกล้และไกล
การให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นเซ็กเมนต์เฉพาะมากยิ่งขึ้นไป เช่น
กลุ่มแต่งงานและฮันนีมูน
หรือแม้กระทั่งการเจาะลึกกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green
Tourism ส่วน supply site การยกระดับแหล่งท่องเที่ยวให้มีความพร้อมทางด้านการเชื่อมโยง
“โครงสร้างพื้นฐาน” ทั้งระบบ
การสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม
และบริการเจ้าบ้านที่ดีด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อาจจะส่งผลต่อ
“การเพิ่มแข่งขันในระยะยาว” สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะนำประเทศไทยพัฒนาเป็นองค์รวมก้าวเข้าสู่
“การท่องเที่ยวตามวาระแห่งชาติ”
ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ยั่งยืน
สำหรับการสร้างสรรค์โครงการเพื่อประกาศให้ไทยทั้งเป็นประเทศร่วมเป็น
“เจ้าบ้านที่ดี” ต่อไป ขณะนี้ระยะสั้นเรื่อยไปจนถึงปี 2561
การท่องเที่ยวยังคงเป็นกลไกขับเคลื่อน “รายได้” เพิ่มขึ้น แต่ ททท.อยากเห็นมากกว่าการเป็นเพียงแค่ดึงรายได้
หากต้องการเห็นคุณภาพความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งจะต้องทำให้ซึมไปใน
“ระดับฐานราก” จึงจะต้องอาศัย”ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน” ไม่ใช่เฉพาะการทำงานของ
ททท.เพียงองค์กรเดียว หน่วยงานเกี่ยวข้องด้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อันจะเป็นโอกาสที่ดีในการปลุกกระแส
“การมีส่วนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี”
เพราะความเป็น Thai Hospitality คือสิ่งที่ฝังอยู่ในสายเลือดคนไทยมาอย่างยาวนาน
ควรจะนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์มากขึ้นไปอีก
เรื่องที่
4 แผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง 2560
ททท.จะใช้โครงการหลัก ๆ สร้างกระแสการเดินทางใช้จ่ายเงินท่องเที่ยว
เริ่มตั้งแต่มิถุนายน-กันยายน นี้ ก่อนปิดปีงบประมาณ จะต้องหาทางทำให้คนไทย
“เที่ยวซ้ำ” ต่อเนื่อง จากนั้นช่วงปลายปีจะเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวหนาแน่น
ตั้งแต่ปลายตุลาคมไปจนถึงต้นปีหน้า สินค้ากับโครงการนั้นมีอยู่ แต่จะต้องสนับสนุนให้เกิดการประชุมในประเทศ
เพื่อนำรายได้ซึมลงสู่ชุมชน
โดยจะไม่ไปบังคับชุมชนให้ต้องพร้อมรับแต่จะเลือกพื้นที่ที่พร้อมจริง ๆ
สามารถกระจายเม็ดเงินได้
โครงการที่จะนำไปใช้คือ
“เที่ยวไทยเท่” จะสร้างเม็ดเงินซึมลงสู่ชุมชนฐานรากได้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศได้
ดร.ยุทธศักดิ์ พร้อมที่จะนำทัพ
ททท.เดินหน้าพัฒนาการตลาดเชิงรุกอย่างรวดเร็ว
เพื่อให้ไทยเป็นประเทศแม่เหล็กดึงทั้งรายได้และกำลังซื้อคุณภาพเข้ามากระจายลงสู่ชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง
ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
ช่วงที่ 2 จะพาไปสร้างประสบการณ์ความสุขกับการท่องเที่ยว สุขภาพ
และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์
ฟังข่าวช่วงแรก
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ซื้อOHLสร้างชื่อไทยดังทั่วโลก”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อหุ้นสโมสรเอาด์ เฮเวเลย์ เลอเวิน หรือ OHL ซึ่งอยู่ในลีก 2 สัดส่วนหุ้นจำนวน 92% ตั้งอยู่ในเมืองเลอเวิน
กรุงบัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม โดยมีสนาม เดน ดริฟ รองรับผู้ชมถึง 10,000 ที่นั่ง ในฐานะนักธุรกิจคนไทยยอมรับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของกลุ่มบริษัทคิง
เพาเวอร์ และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมงานกับสโมสรที่มีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพ
ส่วนแผนการลงทุนจะทำทั้งเรื่องบุคคลากรและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
รวมไปถึงการมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับผู้สนับสนุนและแฟนบอลในพื้นที่ คือเป้าหมายในระยะยาวของเรา
เพื่อสร้างความสำเร็จแก่ OHLอย่างยั่งยืนก้าวไปสู่ลีกสูงสุดของเบลเยียมให้ได้
ซึ่งพร้อมจะร่วมงานกับผู้บริหารและพนักงานทุกคนของ OHL ที่มีความรู้ ความสามารถและความเชี่ยวชาญ เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาสโมสรในระยะยาว
ขณะเดียวกันก็เตรียมวางกลยุทธ์สร้างชื่อเสียงประเทศไทย เรื่อยไปจนถึงทำให้แบรนด์คิง
เพาเวอร์ รู้จักอย่างแพร่หลายในตลาดโลก
และการสร้างสรรประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์ไทยอีกมากในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้อัยยวัฒน์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของสโมสร
OHL พร้อมกับมีทีมผู้บริหารชุดเดียวกันจากสโมสรเลสเตอร์ซิตี้
อย่าง ซูซาน วีแลน ประธานเจ้าหน้าบริหาร จอน รัดกิ้น ผู้อำนวยการสโมสร ทำงานคู่ขนานกับการบริหารสโมสรเลสเตอร์
ซิตี้ ไปพร้อม ๆ กัน
ข่าวที่ 2 “บิ๊กททท.นำCLMVขึ้นเวทีTTM+บูมท่องเที่ยวเชิงอาหาร”
นายฉัททันต์ กุญชร
ณ อยุธยา
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ร่วมกับผู้บริหารใน CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม เปิดวงเสวนาในงาน Thailand
travel Mart Plus the Greater Mekong Subregion 2017
(TTM+ 2017) หัวข้อหลัก “CLMVT:
Moving towards Shared Prosperity” ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกและไทยเข้าร่วมกว่า
100 ราย
เพื่อนำเสนอความคืบหน้าด้านตลาดการท่องเที่ยวของไทยและกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
โดยได้กล่าวถึงเรื่องไฮไลต์เกี่ยวกับอนาคตของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร
Lively Metropolis and Foodie Experience โดย
ททท. เห็นช่องทางในการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวผ่าน “Gastronomy tourism” หรือ “การท่องเที่ยวเชิงอาหาร” เนื่องจากอาหาร
สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในการเดินทางท่องเที่ยวได้หลากหลาย
เราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ผู้คนและชุมชน ผ่านการเรียนรู้ถึงเรื่องราวและความเป็นมาที่น่าสนใจสอดแทรกอยู่ในอาหารถิ่นทุกประเภท
“
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ททท. ได้เปิดตัวแคมเปญ “Amazing Thai Taste” ซึ่งเน้นสร้างการรับรู้ว่าประเทศไทยมีจุดเด่นด้านอาหาร
ที่สามารถดึงดูดนักชิมอาหารจากทั่วโลกให้เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่ม
Food tourism รวมทั้งไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asia’s 50 Best Restaurants 2017 หรือ 50
ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จัดอันดับโดยสมาคม Asia s 50
Best Restaurants Academy ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมร้านอาหารทั่วภูมิภาคเอเชียกว่า
300 คน ประกอบด้วยนักเขียน นักวิจารณ์อาหาร เชฟ เจ้าของร้านอาหาร
และผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักชิม
อีกทั้ง
United Nations Educational, Scientific and
Cultural Organisation หรือ UNESCO ยังได้ประกาศให้จังหวัดภูเก็ตเป็น “City
of Gastronomy” หรือ
“เมืองของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ด้วยเหตุผลที่จังหวัดภูเก็ตเป็นหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
มีวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใคร และกิจกรรมที่จัดขึ้นเร็วๆนี้
ได้แก่ การเป็นผู้สนับสนุนการจัด “Michelin Guide Bangkok 2017” เป็นครั้งแรก จะเปิดเดือนธันวาคม 2560 ส่วนในปี 2561
ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน World
Forum on Gastronomy Tourism 2018 ซี่ง ททท.ตั้งเป้าเป็นประเทศจุดหมายปลายทางของ Gastronomy
Tourism destination ระดับโลกต่อไป
ข่าวที่ 3 บางจากลุยซื้อปาล์มดิบเพ่มหทื่นตันช่วยเกษตร
นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น (BCP) กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบางจากฯ ไดเตรียมเพิ่มการสำรองน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อบรรเทาความเดือดนลร้อนของเกษตรกร ซึ่งขณะนี้มีกำลังการผลิตไบโอดีเซล B100 ได้วันละ 81,000 ตัน ใช้ปาล์มดิบเดือนละ 20,000 ตัน จากปัจจัยดังกล่าว จะเพิ่มปริมาณสำนลรองอีก 10,000 ตัน
อีกทั้งยังได้เตรียมหาพันธมิตรต่างประเทศเพื่อร่วมลงทุนผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติต่อยอดจากสินค้าเกษตรทั้งมันสำปะหลัง อ้อย และปาล์มน้ำมัน โดยให้ความสนใจลงทุนผลิตวัตถุดิบเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ยา อาหารเสริม เบื้องต้นจะดำเนินการสร้างโรงงานในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพให้อยู่ภายใต้ บริษัท บีบีพี โฮลดิ้ง จำกัด (BBH) เตรียมจะระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงปี 2561 รองรับการขยายลงทุนดังกล่าวอาจจะต้องใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท วางแผนจะปรับโครงสร้างธุรกิจให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2560
เนื่องจากบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าราคาสูงต่าง ๆ ที่เป็นการนำเข้าจากตลาดต่างประเทศ โดยเรียกสินค้าใหม่นี้ว่า Bio product แทน Biofuel รวมทั้งพยายามจะต่อยอดทุกตัว ต่อยอดมัน ต่อยอดอ้อย ต่อยอดปาล์ม อีกทั้งยังสนใจการผลิตเครื่องสำอาง ยา อาหารเสริม food ingredient ตั้งเป้าหมายสร้างbrand ในระดับนานาชาติ
ข่าวที่ 4 “ผู้นำใหม่TCEBย้ำแผนไมซ์เชิงรุกปี61”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) หรือ TCEB วางแผนจะใช้ยุทธศาสตร์ต่อเนื่องปี
25602-561 พัฒนาเมืองไมซ์ให้เติบโตคู่ขนานกันไปในทุกแห่ง
ตามเมืองใหญ่ ๆ ที่มีศูนย์ประชุมตั้งอยู่นั้น โดยเฉพาะ “พัทยา”
กำลังจะยกระดับเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ Eastern
Economic Coridor : EEC เป็นโอกาสนำไมซ์เข้าไปช่วยทำให้การพัฒนาเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น ขณะนี้กำหนดไมซ์ ซิตี้ ไว้ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และพัทยา ต่อไปผู้ที่รับผิดชอบดูแลพัทยาจะต้องมีองค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์
ธุรกิจด้วย เพราะรัฐบาลกำลังยกระดับชายฝั่งตะวันออกเป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ EEC
สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้พัฒนาไมซ์
ซิตี้ เมืองลักษณะดังกล่าว
ส่วนปรับปรุงภายในทีเส็บเองก็จะริเริ่มจัดตั้ง
Maketing Intelligent จะเป็นหน่วยใหม่ในองค์กรโดยใช้บุคลากรที่ทำอยู่แล้ว
เข้ามาทำหน้าที่ “คิดค้นเครื่องมือทางเทคโนโลยี” ผนวกเสริมการตลาด
เพราะปัจจุบันในฝ่ายเอ็กซิบิชั่นของทีเส็บมีคนทำงานหน่วย intelligent และ innovation อยู่แล้ว หรือฝ่ายตลาดในประเทศเองก็มีหน่วยงานหนึ่งเรียกว่า
MICE CITY เตรียมปรับโครงสร้างแต่งตั้ง
“ผู้จัดการไมซ์แต่ละเมือง” หรือ Area base manager สามารถดูแลงานแยกแต่ละจังหวัดที่ได้รับแต่งตั้งเป็นไมซ์
ซิตี้ ส่วนวิธีการทำงานจะไปอยู่ในพื้นที่หรือสำนักงานใหญ่ก็ได้
รวมทั้งจะขยายผลแผนงานส่งเสริม
“โครงการพระราชดำริ” กระตุ้นด้วยแคมเปญ “โครงการ
“ประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ” รณรงค์ให้เลือกโครงการพระราชดำริเป็นสถานที่หลักการจัดงานไมซ์ขององค์กรทั้งในและต่างประเทศ
โดยได้พยายามเสนอหน่วยงานราชการ และบริษัทที่มีเครือข่าย ให้ไปทำซีเอสอาร์
พนักงานของทุกหน่วยงานจะได้ทั้งการเรียนรู้และข้อมูลการศึกษาหลายส่วนที่เป็นประโยชน์
ไม่ว่าจะเป็นศูนย์พัฒนาการเรียนรู้โครงการพระราชดำริ โครงการหลวง
โครงการแม่ฟ้าหลวง และอีกหลากหลายโครงการ
ข่าวที่ 5 “ครึ่งปีแรกททท.กวาดรางวัลตอกย้ำความสำเร็จในเวทีโลก”
ในปี
2560 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างชื่อเสียงประเทศไทยกวาดรางวัลระดับโลกมากมาย
ตอกย้ำความสำเร็จครองใจนักท่องเที่ยวนานาชาติ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2560 ทาง Hurun Report Inc. หน่วยงานวิจัยที่มีชื่อเสียงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศในงาน International
Luxury Travel Market (ILTM) 2017 จัดณ นครเซี่ยงไฮ้ ให้ไทยคว้ารางวัลแหล่งท่องเที่ยวถึง 3 ประเภท ด้วยกันในฐานะประเทศน่าจดจำสำหรับนักท่องเที่ยวจีนผู้มีรายได้สูงที่เป็นช่วง
Gen Y (Millennials Luxury
Travellers) รวมถึงชาวจีนกลุ่ม Luxury
จากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เทียนจิน และเฉิงตู
ประเภท
Most MemorableTravel Destinations : จังหวัดภูเก็ต
ได้อันดับที่ 1 จากกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y ชาวจีนที่มีรายได้สูง และประเทศไทยได้อันดับที่ 6
จากนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่ม Luxury
ประเภท
Most Popular Summer / Autumn International Travel Destinations : จังหวัดภูเก็ต ได้อันดับที่ 2
จากกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y ชาวจีนที่มีรายได้สูง
และจังหวัดภูเก็ต ได้อันดับที่ 1 จากนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่ม Luxury
ประเภท
Most Popular Winter / Spring International Travel Destinations : จังหวัดภูเก็ต ได้อันดับที่ 2
จากกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y ชาวจีนที่มีรายได้สูง
และจังหวัดภูเก็ต ได้อันดับที่ 2 จากนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่ม Luxury
นอกจากนี้ตลอดครึ่งปีแรก
ททท.ยังคว้ารางวัลด้านท่องเที่ยวจากกลุ่มต่าง ๆ อาทิ Trip adviser มอบรางวัล Travellers' Choice ประจำปี 2560 ให้ภูเก็ตติด 1 ใน 25
อันดับจุดหมายปลายทองยอดนิยมของโลก “วัดโพธิ์” ติดอันดับสถานที่สำคัญยอดนิยมของโลก
บริษัท Ctrip.com ออนไลน์เอเจนซี่ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดของจีน
มอบรางวัล Ctrip Best Tourist Destination of the Year Awards Ceremony 2559
สำนักข่าว CNN จัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็น สวรรค์แห่งอาหารริมทาง
หรือเมืองที่มีอาหารริมทาง (Street Food) ดีที่สุดในโลกต่อเนื่องจากเป็นปีที่
2 ติดต่อกัน
ช่วงที่ 2 ไปเที่ยวได้งานใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ใน
“โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา” จ.นครปฐม และทำอย่างไรให้อารมณ์ดีได้ภายใน 2 นาที
ส่วนข่าวฮ็อตมาฟังเกิดอะไรขึ้นบ้างกับแต่ละสายการบิน
@เที่ยวได้งานในอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา
นครปฐม
โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา
เป็นโครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ซึ่งมีความหลากหลายทางด้านการสอนอาชีพและการให้บริการแก่สังคมท้องถิ่น
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ บริเวณตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
เป็นสถานที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชม
และเรียนรู้อาชีพต่าง ๆ ภายในโครงการได้ดำเนินกิจกรรมแยกเป็น 2 ส่วน คือ
เป็นแหล่งให้วิทยาการและบริการวิชาการทางด้านอาชีพหลายรูปแบบแก่เยาวชน กับประชาชน
อีกส่วนเป็นบริการทางสังคมแก่ท้องถิ่น
ให้สามารถดำเนินตามแนวพระราชดำริส่งเสริมให้เห็นศูนย์วิชาการ
และศูนย์ข้อมูลการพัฒนาอาชีพ แหล่งฝึกอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
กิจกรรมที่ผู้เข้าไปเยี่ยมเยือนสามารถร่วมทำได้
ก็มี ร่วมทดลองฝึกอาชีพระยะสั้นรูปแบบต่าง ๆ ตามความสนใจ เช่น ทำอาหาร งานฝีมือ
จัดดอกไม้ งานประดิษฐ์ จะรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ
แล้วแจ้งจำนวนความสนใจที่จะไปร่วมทำกิจกรรม หรือจะไปชมโครงการอันเนื่องพระราชดำริด้านอื่น
ๆ ก็ได้เช่นกัน
ภายในโครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา
มีร้าน “ภัทรพัฒน์ ณ อุทยาน” บริการอาหารและเครื่องดื่ม ร้านกาแฟสด
ร้านนวดเพื่อสุขภาพ รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางเหมาะกับการจัดเลี้ยงด้วยธีมเก๋ ๆ
เหมาะกับการไปพักผ่อนใช้ชีวิตแบบช้า
ๆ แล้วยังสามารถ “เที่ยวได้งาน” ไปพร้อม ๆ กันได้ ในการเลือกเป็นที่จัดประชุม
หรือสัมมนาขนาดใหญ่ได้ด้วย เพราะมีห้องประชุมขนาดใหญ่ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ย่อย รองรับงานจัดเลี้ยงสไตล์โต๊ะจีนได้ประมาณ 65 โต๊ะ และจุผู้เข้าร่วมงานได้ราว 700 คน ตามปกติจะได้รับความนิยมให้เช่าเป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลากหลาย อาทิ
งานสัมมนา จัดแต่งงาน และอื่น ๆ
โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา
มีประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยว และองค์กรภาครัฐและเอกชน ต่อสังคมในหลายด้าน ๆ
สามารถสอบถามเพิ่มได้ที่ 034-270-280, 034-272-661-4
@เคล็ดลับ 2 นาทีอารมณ์ดีสู้งาน
ในวันที่มีเรื่องราวมากมายที่กระทบใจทำให้รู้สึกเศร้าเซ็งหรือหงุดหงิดโมโห
หรือหมดกำลังใจทำงานขึ้นมาดื้อๆ
ลองทำกิจกรรมต่อไปนี้ภายใน นาทีจะช่วยผ่อนคลายจิตใจให้อารมณ์ดีขึ้น
พร้อมกลับมาทำงานได้ค่ะ
- ดูภาพโปรด
โดยเฉพาะภาพที่มักทำให้อมยิ้มหรือหัวเราะ เช่น ภาพถ่ายส่วนตัวกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท
ภาพตลกในหนังสือเล่มโปรด หรือเว็บไซต์ที่เข้าไปดูบ่อยๆ
- รับแสงแดด
เปิดหน้าต่างบานใกล้กับโต๊ะทำงาน หรือเดินไปยังบริเวณที่ได้รับแสงแดด
เพราะแสงแดดจะกระตุ้นให้สมองหลั่งสารซีโรโทนิน
ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้อารมณ์ดี
- เก็บโต๊ะทำงาน
หรือชั้นวางของให้เข้าที่
วิธีนี้เป็นการใช้สติและความคิดไปจดจ่ออยู่กับกิจกรรมจัดของ
เป็นเหมือนการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง จึงช่วยให้ผ่อนคลาย
แถมเมื่อโต๊ะสะอาดเรียบร้อยยังช่วยเพิ่มอารมณ์ดีได้อีกทางด้วย
- คุยกับเพื่อนที่มีอารมณ์ขัน การหัวเราะช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล
ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มสารเอนดอร์ฟิน (สารความสุข) ขึ้นได้
เพราะเมื่ออารมณ์ดีขึ้นแล้ว
การทำงานก็กลับมามีประสิทธิภาพดังเดิม
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก“บินไทย-ไทยสไมล์-นกแอร์” สู้ยิบตา
บินไทยเปิดฤดูซื้อฝูงบิน28ลำ
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย เมื่อวันที่ 14
มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า การบินไทยมีแผนที่จะจัดซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 28 ลำ ในระยะ 5
ปี (2560-2564) เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าเพื่อรักษาฝูงบินไว้ให้อยู่ในระดับ 100 ลำ
แบ่งเป็นเครื่องบินของการบินไทย 19 ลำ และสายการบินไทยสมายล์อีก 9 ลำ
ส่วนวงเงินจัดซื้อจะต้องกำหนดชนิดเครื่องบินก่อนจึงจะประเมินมูลค่าได้
ภายในเดือนกรกฎาคมนี้คาดที่ประชุมบอร์ดการบินไทยจะพิจารณาอนุมัติแผนจัดซื้อดังกล่าว
ขั้นตอนต่อไปต้องเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะรัฐมนตรี
(ครม.) ช่วงสิงหาคมนี้ จากนั้นจะเริ่มทยอยจัดซื้อตั้งแต่ไตรมาส 4
ของปีนี้เป็นต้นไป
ไทยสไมล์เพิ่มเที่ยวบินตรงภูเก็ตวันละ7เที่ยว
1 ก.ค.นี้
ทางด้าน
สายการบินไทยสมายล์เติมรอยยิ้มเร่งทำการตลาด โดยประกาศเพิ่มเที่ยวบิน
ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เป็นวันละ 7 เที่ยว ได้แก่เที่ยวบิน WE281/WE283 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ภูเก็ต เที่ยวบิน WE282/WE284 กรุงเทพฯ ภูเก็ต - กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)
อีกทั้งยังย้ำว่าไทยสไมล์เป็นสายการบินที่หนึ่งของเอเชียแปซิฟิก
การันตีด้วย 3 รางวัล จาก TripAdvisor Travellers’ Choice Awards 2017พร้อมบริการเต็มรูปแบบ (Full Service) ไม่ต้องจ่ายเพิ่มฟรี!
น้ำหนักกระเป๋าถึง 20 กิโลกรัม ฟรี! อาหารว่างและเครื่องดื่ม ฟรี!
เลือกที่นั่งโดนใจ สะสมไมล์กับรอยัลออร์คิดพลัส
สอบถามที่ www.thaismileair.com Smile
Call Center 1181 หรือ 02-118-8888 และ ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินไทยสมายล์ทุกแห่ง
“นกแอร์” เคว้งแผนขายหุ้นเพิ่มทุนปลดหนี้
ขณะที่ “นกแอร์”
มีรายงานว่า หลังจากบอร์ด บมจ.การบินไทย มีมติไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนนกแอร์
เพราะต้องการฟื้นฟูแผนพัฒนาการลงทุนการบินไทยให้เข้มแข็งมากกว่าปัจจุบัน
นกแอร์ก็ตัดสินใจหันหัวเรือไปหานักลงทุนในจีน ซึ่งแสดงความสนใจจะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน
แต่การเจรจาตอนนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากกลุ่มทุนต่างชาติขอถือครองสูงสุดตามกฎหมายไทย
49 % รวมทั้งการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)
นกแอร์เมื่อวันพุธที่ 14 มิถุนายน 2560
โดยมีนายสมใจนึก เองตระกูล เป็นประธาน ยังไม่ได้ตัดสินใจสรุปการขายหุ้นเพิ่มทุนแก่จีน
แต่ได้มีมติให้ฝ่ายบริหารไปจัดทำแผนการเงินและการลงทุนให้ชัดเจนมากกว่าที่นำเสนอเข้าบอร์ดอีกครั้ง
ทั้งนี้นกแอร์เป็นสายการบินลูกของการบินไทยถือหุ้น
39.2 % ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ปี 2558 ได้นำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องปีละกว่า 2,000
ล้านบาท
ข่าวที่สอง “แอร์เอเชียทำโปรบินมัลดีฟ1,990บาท
นายสันติสุข
คล่องใช้ยา ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า
ไทยแอร์เอเชียเตรียมเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ กรุงเทพ-มัลดีฟส์ ให้บริการบินทุกวัน
เริ่ม 11 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป จึงทำราคาตั๋วโดยสารโปรโมชั่นสุดพิเศษ เริ่มต้นเที่ยวละ
1,990 บาท
จองได้ตั้งแต่วันนี้–25 มิถุนายน 2560 แล้วนำไปเดินทางได้ตั้งแต่11สิงหาคม 2560 -
28 สิงหาคม 2561ซื้อตั๋วได้ทุกช่องทางจำหน่าย และที่ www.airasia.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น