ททท.พลิกโฉมงานTTM+ครั้งแรกในรอบ16ปี
งัดOTOPชุมชนโกอินเตอร์โชว์ยิ่งใหญ่ATF2018
ลักชัวรี่แบรนด์เซล70%ปั๊มยอดดิวตี้ฟรีพัทยา
TCEBบูมกลยุทธ์ไมซ์มาร์ตสู่นวัตกรรมงาน4.0
ท่องเที่ยวตอกย้ำครึ่งปีดันเศรษฐกิจไทยพุ่ง
เลียบทะเลตะวันออกชมทุ่งโปรงทองจ.ระยอง
มูลนิธิปิดทองนำทีมเดินหน้าสานต่องานพ่อสอน
บินไทยฮ็อต“ล้มสรรหาDD-รับลูกเรือล็อตใหม่”
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังทางมือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านทางwww.facebook.com/penroong , youtube www.facebook.com/rauydauykhao)
ช่วงที่ 1 “คุณธเนศวร์
เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมาถอดรหัสการพลิกโฉมจัดงาน THAILAND TRAVEL MART PLUS 2017 ระหว่าง 14-16 มิถุนายนนี้
ไทยเป็นเจ้าภาพจัดที่เชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลก 54 ประเทศ
เดินทางเข้ามาเจรจาธุรกิจ โดยจะได้เห็นการบูรณาการขาย
จากธุรกิจขยายผลสู่สินค้าเมดอินล้านนา
รวมทั้งจะเปลี่ยนจากงานปิดเป็นงานเปิดให้ประชาชนเข้ามาหาข้อมูลจากกูรูอินเตอร์ในช่วงสัมมนาปิดท้ายตลอดทั้งวัน
คุณธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ให้สัมภาษณ์การจัดงานให้รายการถึงการพลิกโฉมจัดงาน Thailand Travel Mart Plus 2017 (TTM +) ซึ่งจะจัดในวันที่ 14-16 มิถุนายน 2560 ที่หอประชุมเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้จัดเป็นครั้งที่ 16 และจัดในเชียงใหม่ต่อเนื่องมา 2 ปี
โดยได้วางแผนจัดงานให้มีความแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา
นอกจากการเพิ่มความเข้มแข็งส่วนงานหลักด้านการเจรจาระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจด้วยกัน
Business to Business ซึ่งมีเอกชนเข้าร่วมมากถึง
348 ราย
มากกว่าปีที่แล้วมีเพียงกว่า 300 รายเท่านั้น เป็นดัชนีชี้ชัดว่าเป็นงานที่ได้รับความสนใจมาก
มีตลาดเก่าและใหม่เข้ามาเสริมทัพกว่า 53 ประเทศ โดยเฉพาะน้องใหม่จากยุโรปตะวันออก เชค
โปแลนด์ หรือแถบทางฝั่งที่ติดรัสเซียอย่าง คาซัคสถาน อุเบกิสถาน ก็มาทั้งหมด
เป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ทาง ททท.เจาะลึกเข้าไป
สำหรับตลาดอาเซียนก็เข้าร่วม TTM + ครบ
อีกทั้งยังเปิดให้กลุ่มประเทศอาเซียนใหม่ CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม
รวมถึงจีนตอนใต้ ตอบรับเข้าร่วมด้วยเช่นกัน ตามคอนเซ็ปต์การจัดงาน
หากประเมินในด้านแพลตฟอร์มทางฝั่งของผู้ซื้อและตลาดแล้ว
ถือได้ว่าปีนี้งาน TTM + 2017 นี้มีความแข็งแรงมาก
ความแปลกใหม่ เริ่มต้นจาก
การจัดเนื้อหาภายในงานใหม่ ๆ ได้แก่ OTOP SHOWCASE แบ่งเป็น 7 กลุ่ม ที่มีความโดดเด่น ได้แก่ ข้าว เครื่องครัว
อุปกรณ์ตกแต่งโรงแรม สปา ทั้งหมดที่จะนำมาจัดแสดงตลอดงาน มุ่งหวังจะให้ผู้ขาย (saller)
ให้กลายเป็นผู้ซื้อไปด้วย เพราะมีผ้าฝ้าย ไปทำม่านโรงแรม หรือของตกแต่งชนิดต่างๆ
ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งจะเกิดการสั่งซื้อ “สินค้าท้องถิ่น” โดยตรงได้มากขึ้น
เรื่องที่ 2 ปลดล็อกงาน
จากเดิมเป็นแบบปิด ให้เอกชนที่มาเจรจาธุรกิจเท่านั้นได้เข้างาน แต่ปี 2560
จะเปิดให้ในวันที่ 16 มิถุนายน
ได้จัดสัมมนาเชิงวิชาการเชิงข้อมูลเพื่อการศึกษาของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
โดยเชิญผู้ประอบการพื้นที่ คณาจารย์ด้านท่องเที่ยว
และนักศึกษาที่เรียนทางท่องเที่ยวและบริการโดยองค์รวม (hospitality)
มาแลกเปลี่ยนรับฟังทั้งเช้าและบ่าย โดยได้ออกแบบจัดเป็น 3 ห้อง
ให้แต่ละห้องนำเสนอหัวข้อที่เหมาะกับแต่ละกลุ่ม
เพื่อให้นักศึกษาได้เห็นภาพบรรยากาศหลังจบการศึกษาจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
วิทยากรจะมาจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมในงาน
TTM + อยู่แล้ว
ซึ่งมีองค์ความรู้สูงมาก
การลงทะเบียนเข้ามางานสามารถเดินไปยังสำนักงานเชียงใหม่
หรือไปในงาน เปิดรับจำนวนรวม 600 ที่นั่ง เพื่อจะได้ฟังเรื่องราวของ ท่องเที่ยว 4.0 จากผู้ว่าการ
ททท.และหัวข้ออื่นจะมีรองผู้ว่าการแต่ละด้านมาให้คำชี้แนะ
เรื่อยไปจนถึงผู้รู้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสาขาต่าง ๆ
ตัวอย่างในห้องสัมมนาของนักศึกษา
เตรียมนำเสนอ “อาชีพ” เช่น การทำงานบนเรือสำราญ
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างงานได้มหาศาล
เรื่องที่ 3 การตอกย้ำแบรนด์เชียงใหม่
ควบคู่กับใช้เวทีแนะนำงานใหม่ ASEAN TOURISM FORUM 2018 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ และส่งเสริมให้ CLMV เพื่อนบ้านของเราได้นำเสนอ
และเปิดให้อุตสาหกรรมภายในประเทศได้เสนอความร่วมมือของ AEC
เป็นการแชร์ความสำเร็จสู่เพื่อนบ้าน
ผลสัมฤทธิ์ของการจัดงานครั้งนี้ ปี 2561
ต้องเติบโตทั้งจำนวนและรายได้เกิน 10 %
ซึ่งงานนี้จะเป็นสปิงบอร์ดสำคัญให้เกิดการขยายตัวและกระตุ้นกลุ่มผู้ซื้อจากทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันทางตลาดยุโรปยังมีกิจกรรมไฮไลต์สำคัญ
ๆ เพิ่มรายได้ตามเป้าหมาย โดยได้ปูพรมทำความร่วมมือกับสายการบินแถบตะวันออกกลาง
ทั้งเอทิฮัด และแถบแอฟริกา จะใช้เวลาอีก 2-3 ปีขยายผลอย่างรวดเร็วด้วยการจัดกิจกรรมตลาดการขายร่วมกัน
ผนวกกับโครงการ THE LINK ซึ่ง ททท.สำนักงานในยุโรป กับ
ททท.สำนักงานในประเทศ ทำงานได้คืบหน้ามาก ในงาน Arabian Travel Mart 2017
ประสบความสำเร็จในการนำจังหวัดสมุทรสงครามไปจับคู่กับตลาดตะวันออกกลาง บริษัท
วเตอร์ เอ็กซ์โพเรอร์ จำกัด
ได้จัดทำโบชัวร์เสนอขายโปรแกรมท่องเที่ยวสมุทรสงครามได้แล้ว เช่นเดียวกับในเยอรมันขายแพกเกจคู่ขายจังหวัดพังงา
แม่ฮ่องสอนกับสหราชอาณาจักรก็จับคู่ขาย
ในปีงบประมาณใหม่ 2561
เริ่มเดือนตุลาคม 2560 จะขยายผลโดยหันมา
“เพิ่มเส้นทางเครือข่ายเชื่อมโยงในเรื่องเนื้อหาการท่องเที่ยว” หรือ Content Plus เกี่ยวกับเส้นทาง
Gastronomy Route จะเป็นหัวหอกใหม่ของประเทศ
แนวทางการตลาดใหม่ที่จะทำให้ไทยเป็น Prefer Destinaition เพราะประเทศได้ใช้งบประมาณไปทำเมอเชียลไดรฟ์
ประมูลการจัดงานประชุมนานาชาติ และอื่น ๆ
ตัวอย่าง
เตรียมโปรโมตนครศรีธรรมราชกับสวีเดน เมื่อมาเมืองไทยควรจะชิมอาหารถิ่น
โดยมีเส้นทางอาหารภาคใต้ที่น่าสนใจมาก อาทิ ภาพยนตร์เรื่องผัดไทยมีเนื้อหามากมาย
ดังนั้นแต่ละเมนูจะสร้างสรรค์ให้เป็น condinary Jouney หรือเรื่องราวของการเดินทางอาหารถิ่นของไทยแต่ละเมนู
หรือเพชรบุรีกับขนมหวานมีเรื่องราวให้ตามหาอีกมากมาย และในหลายพื้นที่ของประเทศก็จะทำในลักษณะเดียวกัน
การเป็นเจ้าภาพจัดงาน TTM+ 2017 นั้นจะเป็นอีกโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการขยายรายได้ท่องเที่ยวตลาดโลกทั้งเรื่องอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนโกอินเตอร์ในอนาคตข้างหน้านี้
ฟังข่าวช่วงต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1
“ขยายแคมเปญลด70%ปั๊มยอดแบรนด์ดิวตี้ฟรี”
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ พร้อมสนับสนุนนโยบายการเพิ่มรายได้จากการช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว
โดยได้จัดแคมเปญ “ลักชัวรี่ แบรนด์เนม เซล อัพ ทู 70%”
นำสินค้าแบรนด์เนมหรูมาลดราคาสูงสุด 70%
ที่ คิง
เพาเวอร์ พัทยา เท่านั้น ระหว่างวันนี้ – 31 กรกฎาคม 256
สอบถามเพิ่มเติม
โทร 1631
ข่าวที่ 2 “ททท.โหม4กิจกรรมทำเงินช่วงมิ.ย.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) รายงานว่า ช่วงครึ่งหลังเดือนมิถุนายน 2560 เดินหน้าจัดใหญ่ 4 กิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในหลากหลายรูปแบบ
งานแรก Amazing Thai Taste Festival 2017 ระหว่าง 8-11 มิถุนายน 2560 ณ
ลานกิจกรรมสถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ มักกะสัน
ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกลุ่มประชารัฐจัดนำ 45 หน่วยงาน
คัดสรรร้านอาหารไทยสไตล์ท้องถิ่นที่โดดเด่นกว่า 120 ร้าน มาประกอบอาหารให้ได้ชิมกันอย่างจุใจ ตลอด 4 วัน
เป็นการส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ร้านอาหารชุมชน
ประการสำคัญจะได้ยกระดับสู่ครัวโลกในอนาคตต่อไป
งานที่
2 จับมือกับเครือข่ายออนไลน์จัดกิจกรรม
“เพจพาลูกเที่ยวดะ” และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัด"มหกรรมพาลูกเที่ยวดะ
ครั้งที่ 1 ตอน พาลูกตะลุยเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ (The Family Trip Expo 2017)" ระหว่าง
16-18 มิ.ย.นี้ ชวนพ่อแม่ครอบครัวชาวโซเชียลที่รักการพาลูกเที่ยวและเรียนรู้
กรุงเทพมหานคร เข้าร่วมกิจกรรม ณ
รอยัลพารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ภายในงานได้รวบรวมทุกเรื่องท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวคุณภาพหลากหลายในราคาประหยัดสำหรับเด็กและครอบครัว
ที สอบถามเพิ่มที่wwww.familytripexpo.com
งานที่ 3 “นายนพดล
ภาคพรต” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
ททท. เปิดโครงการ Thailand Shopping and Dining Paradise 2017
ระหว่างวันนี้ – 31 กรกฎาคม 2560 ร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้ง สยามพารากอน
เครือเซ็นทรัลพัฒนา ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และดิ เอ็มควอเทียร์
ศูนย์การค้าสยาม พารากอน
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการช่วงท่องเที่ยวฤดูฝน หลังจากเมื่อปี 2559 นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายในโครงการฯ
เป็นเงิน 2,756,609,228 บาท
สำหรับปีนี้ในต่างจังหวัด 4 พื้นที่หลักได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการช้อปด้วยเช่นกัน
ประกอบด้วย
อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จัดงาน “กิน ช็อป เที่ยว @ อรัญประเทศ”
แนวคิด งานเดียว ที่ “กิน ช็อป เที่ยว ... เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” วันที่ 16 - 17
มิถุนายน 2560 ณ ลานสยามมินทร์
เทศบาลอรัญประเทศ
อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จัดงาน
ช้อปถูกใจ กินเที่ยวเก๋ไก๋ สไตล์แม่สอด แนวคิด “กิน ช็อป เที่ยว” ครั้งแรก วันที่
30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2560 ณ ห้างโรบินสัน แมคโคร เทสโก้โลตัส
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีโปรโมชั่นส่วนลดและสิทธิพิเศษตลอด 2
เดือนเต็ม โดยจัดงานฯ ในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมโครงการ อาทิ เซ็นทรัล เฟสติวัล
หาดใหญ่ ลีการ์เด้นส์ พลาซ่า โอเดียน
แฟชั่นมอลล์ ไดอาน่า คอมเพล็กซ์ หาดใหญ่
และรับส่วนลดจากโรงแรม สวนน้ำ สวนสนุก เช่น เซ็นทารา โฮเทล บุรี ศรีภู บูทีค
โฮเทล The Pirates Park
อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
จัดกิจกรรมวันที่ 1 - 2 กรกฎาคม 2560 ณ ห้างเซ็นทรัลขอนแก่น
ซึ่งจะพบกับขบวนร้านค้า ทั้งอาหารร้านเด็ด บูธสายการบินไทย สมายล์ ห้างทอง
สวนสัตว์ขอนแก่นมาร่วมจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษและออกบูธให้นักช้อป นักชิม นักเที่ยว
พร้อมลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินจากสายการบิน Thai Air Asia 3 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง
เส้นทางขอนแก่น – กรุงเทพฯ – ขอนแก่น
โดยผู้ประกอบการในขอนแก่นจัดโปรโมชั่นพิเศษตลอด
2 เดือน
สำหรับสินค้าที่นำมาร่วมโครงการ
Amazing Shopping
Paradise 2017 จะเน้นสินค้าช็อปปิงและบริการท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ
โดยกลยุทธ์ “ลด แลก แจก แถม”แบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ 1. Transportation การเดินทาง
เช่น สายการบิน เรือยอร์ช 2.ภัตตาคาร-ร้านอาหารสไตล์เก๋ไก๋
3.Entertainment/Theme
Parks สวนสนุก-ศูนย์การเรียนรู้4.Department Stores/Shopping
Malls/Shop ห้างสรรพสินค้า-ศูนย์การค้า/ร้านค้า 5. สุขภาพและความงาม (Health & Wellness, Beauty) 6.พักหรู ระดับ
4-5 ดาว (Accommodation) 7. อัญมณีและเครื่องประดับ (Gem & Jewelry & Accessories )
งานที่ 4 “นางรุ่งทิพย์
บุกขุนทด” ผู้อำนวยการ ททท.นครราชสีมา กล่าวว่า เชิญชวนเที่ยวงานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบานจังหวัดชัยภูมิ
ประจำปี 2560 ในพื้นที่กว่า 600 ไร่
บริเวณอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ จัดต่อเนื่องตลอด 4
เดือน ระหว่างวันนี้ – 30 จะมีพิธีเปิดงาน
วันที่ 17 มิถุนายน 2560 ณ
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ปีนี้ยังคงเน้นกิจกรรมการสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน โทร. 0
4421 3666, 0 4421 3030
ข่าวที่ 3 “บางจากจับมือธกส.ขายผลผลิตเกษตรในSPAR”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) เพื่อขยายการส่งเสริมเกษตรกรไทยก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0
ครอบคลุมเรื่องการสนับสนุนให้เกษตรกรทั้งที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตร
(สกก.) และสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.)
ได้เป็นเจ้าของกิจการเพิ่มมากขึ้น
รวมถึงการนำผลผลิตทางการเกษตรขยายสู่ตลาดโลก โดยผ่านช่องทางร้าน SPAR ซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือ
BCP
ในช่วงที่ผ่านมาบางจากฯ
ให้การสนับสนุนเกษตรกรเป็นเจ้าของกิจการสถานีบริการชุมชนบางจากในปัจจุบันมีอยู่กว่า
600 แห่ง รวมทั้งสร้างช่องทางการตลาดรองรับผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยการนำมาเป็นของสมนาคุณลูกค้าที่เติมน้ำมันบางจาก
ข่าวที่ 4 “ปรับโฉมไมซ์ซิตี้สู่คลัสเตอร์ 4.0”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่าในปี 2561-2562 จะใช้กลยุทธ์จัดงาน MICE MART กระจายการเติบโตของตลาดไปยังเมืองที่มีศักยภาพสูงทางด้านไมซ์
ซิตี้ หลังจากนำร่องจัดที่ภูเก็ตแล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี รวมทั้งมีงานไมซ์ขนาดใหญ่สนใจเข้าไปใช้สถานที่จัดงานอย่างต่อเนื่อง
อาทิ โรงแรมอันดามันและงานแสดงสินค้าท่องเที่ยว 2017 ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม
พ.ศ. 2560
รวมทั้งได้ทยอยเดินหน้า3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1.นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ
มาใช้ควบคู่ไปกับนโยบายในประเทศไทย 4.0 เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไมซ์ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม
Smart MICE ได้ 2.ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์การลงทะเบียนออนไลน์การพัฒนาแอพพลิเคชั่น
ช่วยผลักดันให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางสร้างสรรค์นวัตกรรมภาครัฐและภาคกลาง สนับสนุนให้เกิดPhuket
Smart City
ทั้งนี้
TCEB ได้ช่วยส่งเสริมสนับสนุนไมซ์ซิตี้
ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางไมซ์คลัสเตอร์อันดามัน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ในเวทีทั้งในและต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ 2016 ภูเก็ตมีผู้เข้าร่วมกว่า 142,000 ราย เบื้องต้นสร้างรายได้กว่า
356 ล้านบาท
ข่าวที่ 5 “ท่องเที่ยวตอกย้ำครึ่งปีแรกดันเศรษฐกิจพุ่ง”
นายยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยช่วง 5 เดือนแรก มกราคม – พฤษภาคม ปี 2560
การท่องเที่ยวสามารถตอกย้ำการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า
14.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.7% ปัจจัยสำคัญเกิดจากภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยดีขึ้น
การส่งเสริมการท่องเที่ยวของททท.อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่มมากขึ้น อาทิ รัสเซีย สแกนดิเนเวีย อังกฤษ
เป็นต้น โดยเฉพาะในส่วนของตลาดจีนล่าสุดมีจำนวนกว่า 3.8 ล้านคน
เดินทางมาไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง
โดยภาพรวมปี
2560
คาดจะมีรายได้รวมกว่า 2.76 ล้านล้านบาท
แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ 34.39 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.51%
มีรายได้ 1.81 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
ขณะที่ตลาดในประเทศ มีนักท่องเที่ยว 154 ล้านคน-ครั้ง
เพิ่มขึ้น 6.19% มีรายได้ 9.5 แสนล้านบาท
เพิ่ม 10%
ช่วงที่ 2 เลียบชายฝั่งตะวันออกไปดูทุ่งโปรงทอง
ดินแดนแห่งการอนุรักษ์ป่าชายเลน ไปพร้อม ๆ กับการเลือกกินผลไม้ 5 อย่างช่วยจำกัดของเสียได้เป็นอย่างดี
@เที่ยวอย่างอนุรักษ์ทุ่งโปรงทอง
ระยอง
การเดินทางสู่ชายฝั่งทะเลตะวันออก
มุ่งหน้าไปชมดินแดนเชิงอนุรักษ์เขตปากน้ำประแส ที่มีระบบนิเวศ ป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ ณ “ทุ่งโปรงทอง” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ม.7 เทศบาลปากน้ำประแส ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น.
ทุ่งโปรงทองในวันนี้
มีความเป็นมาจากพื้นที่เมื่อครั้งอดีตเคยเป็นแหล่งทำการเกษตรและประมงของชาวบ้านในเขตชุมชนบ้านแสมภู่
ปากน้ำประแสซึ่งมีสภาพเสื่อมโทรม ค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟูโดยเทศบาลตำบลปากน้ำประแส
ร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับสมดุล ให้กับผืนป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดระยอง
ให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมกับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์
ควบคู่ไปกับเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติไปพร้อมกัน
เพื่อสร้างความตระหนักให้เห็นถึงความสำคัญของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในเขตชายฝั่ง
เพียงเดินลัดเลาะไปตามสะพานไม้ในระยะทางกว่า
2 กิโลเมตร จะพบกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าชายเลน
ที่หนาแน่นไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด อาทิ แสม ตะบูนดำ ลำพูน โกงกาง โปรงแดง
โดยเฉพาะไฮไลต์สำคัญ คือ ทุ่งโปรงทอง
ที่เกิดจากการเบียดเสียดกันอย่างหนาแน่นของต้นโปรงใบสีเหลืองอร่าม ซึ่งยามที่แสงแดดส่องปะทะลงมา
จะเกิดเป็นภาพทุ่งต้นโปรงสีทอง ท่ามกลางความเขียวขจีของแนวโกงกางที่โอมล้อมรอบทิศ
สวยงามจนกลายเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์พิกัดสำคัญของจังหวัดระยองไปในที่สุด
เส้นทางเดียวเที่ยวได้
2 จังหวัด ระยอง-จันทบุรี
วันแรก “ช่วงเช้า” สำรวจธรรมชาติปากน้ำประแส ชมเรือรบประแส
สะพานประแสสิน ทุ่งโปรงทอง ท่องเที่ยวชุมชน 100 ปี นมัสการกรมหลวงชุมพรฯ
แวะจุดชมวิวนางพญา ใช้เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิต “ช่วงบ่าย” เรียนรู้ระบบนิเวศพร้อมทำกิจกรรม ณ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ สนุกกับกิจกรรมทำ ซั้งบ้านปลา เขี่ยไข่ปู
ทำอีแปะหอยนางรม เป็นต้น
วันที่สอง
: จันทบุรี “ช่วงเช้า” เที่ยวชมสวนผลไม้
ของวิสาหกิจชุมชมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเขาบายศรี อ.ท่าใหม่ หรือ ป้าแกลบ OTOP
5 ดาวชมสุดยอดผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก
ผลไม้มากมาย ทั้ง ทุเรียน มังคุด ชมพู่ เยี่ยมชมศาลหลักเมือง ศาลสมเด็พระเจ้าตากสินมหาราช “ช่วงบ่าย” ชมความงดงามของ
อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เรียนรู้วิถีชุมชนริมน้ำจันทบูร
สถานที่เที่ยวห้ามพลาด เดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน
ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนทุ่งโปรงทอง ลัดเลาะไปตามเส้นทางบนสะพาน จะพบกับทุ่งโปรงทองสีเหลืองอร่ามศาลาพักชมวิว
ชมท้องทะเลตัดเส้นขอบฟ้าที่ศาลาพักเหนื่อยใจกลางป่าชายเลน
กิจกรรมห้ามพลาด ลัดเลาะสะพานไม้เพื่อชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน ชมสัตว์น้ำที่อาศัยระบบนิเวศของป่าชายเลนในการดำรงชีพ
เช่น กุ้งหอย ปูแสม ปูก้ามดาบ และปลาตีน
สนใจท่องเที่ยว ทุ่งโปรงทอง
ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง โทร. 0-3866-1720-1
การเดินทาง จากตัวจังหวัดระยอง
ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทไปยัง อ.แกลง เมื่อถึง แยกปากน้ำประแสให้สังเกตป้าย
จะมีเส้นทางตรงไปยังบริเวณปากน้ำประแส ซึ่งเป็นซอยข้างวัดตะเคียนงาม
@5
วิธีเดินทางแบบอีโค่ เพื่อสิ่งแวดล้อม
สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ได้สำรวจข้อมูลการเผาไหม้ของน้ำมันเบนซิน และดีเซล ทุกหนึ่งลิตร พบว่า
มีก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ถูกปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมประมาณ 2.3 และ 2.7 กิโลกรัม
ตามลำดับ หากมีการขับรถรถยนต์เป็นระยะทางปีละ 25,000 กิโลเมตร เท่ากับ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อมมากถึงปีละ
7.2 ตัน โดยก๊าซจะลอยขึ้นไปสะสมรวมกับก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ
ที่มีอยู่แล้วที่ชั้นบรรยากาศ และหากจะทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดังกล่าวหมดไป
จะต้องปลูกต้นไม้มากถึง 800 ต้น
จากข้อมูลข้างต้นจึงขอรณรงค์ให้ลองนำไปทำกันในการ
“ออกแบบการเดินทาง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษทางอากาศ” เพียงแค่เราช่วยกัน
ก็น่าจะลดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ลงได้
1. ใช้พลังงานทดแทน ด้วยการเดิน จักรยาน
หรือใช้พลังงานชีวมวล แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล
เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ
2.
ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20%
หรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน ต่อระยะทาง 3 หมื่นกิโลเมตร
3.
ตรวจเช็คสภาพและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ อุปกรณ์รถยนต์ให้พร้อมต่อการเดินทาง
เพื่อความปลอดภัยและเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพ
4.
ทางเดียวไปด้วยกัน จะช่วยลดจำนวนรถยนต์ที่ต้องใช้
เป็นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
5.
ใช้ขนส่งมวลชน นอกจากลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนแล้ว
ยังลดมลลดมลพิษทางอากาศที่ดีทางหนึ่งด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “มูลนิธิปิดทองฯนำทีมทำโครงการสานต่องานพ่อสอน”
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
และ 4 หน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รำลึกวันทรงราชย์ เดินหน้าโครงการ “สานต่อ
งานพ่อสอน”เมื่อวันที่ 9
มิถุนายน 2489 ของในหลวงรัชกาลที่ 9 วางแผนจับมือกันร่วมบูรณาแก้ปัญหาของประเทศอย่างใกล้ชิด
โดยยึดแนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนให้ดีขึ้น เริ่มนำร่องใน 10 จังหวัด รวม 42 โครงการครอบคลุมทั้งเรื่องน้ำและส่งเสริมอาชีพ
ผลจากการบูรณาการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการตามหลักการที่กำหนดเป็นไปด้วยดี
สามารถจัดทำโครงการ/กิจกรรมเพื่อการพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ ใน 10
จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ตาก ชัยภูมิ
นครราชสีมา สกลนคร ศรีษะเกษ ร้อยเอ็ด ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และพัทลุง รวม รวมทั้งสิ้น 42
โครงการ ใช้งบประมาณเบื้องต้น 21,133,413 บาท
แบ่งเป็นโครงการ/กิจกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 38 โครงการ
งบประมาณ 20,101,363
บาท
โครงการพัฒนาด้านอาชีพต่อยอดโดยเฉพาะด้านการเกษตร 4 โครงการ
งบประมาณ 1,032,050 บาท
เพราะทุกฝ่ายเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำโครงการ
“สานต่อ งานพ่อสอน” มาวางรากฐานสร้างเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงของการปฏิรูปประเทศ
เนื่องจากไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้อยการศึกษา
และประชาชนในภาคเกษตรถดถอยมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาให้รวดเร็วหากไม่เร่งช่วยเหลือจะเกิดผลกระทบทางตรงและทางอ้อมต่อระบบ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ข่าวที่สอง “3ข่าวฮ็อตการบินไทย”
1.บินไทยยันบินเข้าตะวันออกกลางปกติทุกเมือง
บริษัทการบินไทยจำกัด
(มหาชน) รายงานว่า ยังคงยืนหยัดให้บริการเที่ยวบินประจำ ไป-กลับ ตามปกติ ระหว่าง
กรุงเทพฯ สู่ปลายทางประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ เมืองดูไบ
สหรัฐอาหรับเอมิเตส์ เมืองมัสกัต ประเทศโอมาน และเมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน หลังเกิดเหตุการณ์หลายประเทศในกลุ่มดังกล่าวปิดพรมแดนกับประเทศกาตาร์
2.ล้มกระดานสรรหาดีดีการบินไทย
นายสมชัย
สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการ
และประธานคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บมจ. การบินไทย เปิดเผยว่า
บอร์ดการบินไทย มีมติไม่ผ่านการคัดเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
(DD) คนใหม่ที่จะมารับหน้าที่ แทนนายจรัมพร โชติกเสถียร ที่หมดวาระไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
2560 จากนี้ก็จะเปิดโอกาสให้ได้สรรหาผู้ที่เหมาะสมต่อไป
ซึ่งต้องการผู้นำการบินไทยในอนาคตต้องการนั้นเน้นจะต้องดูภาพรวมการบินไทยทั้งหมดได้
ทั้งนี้มีผู้สมัคร 4 ราย ได้แก่ 1.นายดนุช บุนนาค 2.นายวิสิฐ ตันติสุนทร
3.นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ และ 4.นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล
3.แห่สมัครลูกเรือการบินไทยกว่า
2,003 คน
เรืออากาศเอก
วีระศักดิ์ วิรุฬห์เพชร รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท การบินไทย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ได้เปิดรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาวไทยรุ่นใหม่214 อัตรา เมื่อ 2-26 พฤษภาคม 2560
เพื่อรองรับการบริการและขยายเส้นทางบิน
มีผู้สนใจสมัครมากถึง 2,003
คน โดยจะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและมีสิทธิ์สอบข้อเขียน
ในวันที่ 24 มิถุนายน 2560 ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการสรรหาอื่นๆ ต่อไป
เมื่อผ่านการคัดเลือกเป็นพนักงานแล้วจะทำสัญญาจ้างระยะ
3 ปี และหากมีผลการปฏิบัติงานผ่านตามหลักเกณฑ์การประเมินที่บริษัทฯ กำหนด บ
อาจจะพิจารณาต่ออายุสัญญาอีก 1 ครั้ง โดยสัญญาต่ออายุจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน
2566
ข่าวที่สอง “มิวเซียมสยามเปิดให้ชมโขนฟรี17มิ.ย.60”
มิวเซียมสยาม
กล่าวว่า ร่วมกับสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขวนชมการแสดงฟรีโขนชุดใหญ่ เรื่องรามเกียรติ์
ชุด “นางลอย” วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน
2560 เวลา 18.30 – 20.30 น. ณ ลานสนามหญ้า มิวเซียมสยาม จากทีมแสดงกว่า 100
ชีวิต
ซึ่งเล่าถึงเมื่อครั้งทศกัณฐ์ทราบว่าพระรามยกกองทัพมาตั้งที่เชิงเขาเหมติรันก็คิดวิตก
และหาทางและตัดสงครามเสียแต่แรกเริ่ม จึงสั่งนางเบญกายธิดาของพิเภก
ซึ่งเป็นหลานของทศกัณฐ์ให้แปลงกายเป็นนางสีดา
แล้วแกล้งทำตายลอยน้ำไปติดอยู่ที่ท่าสรงของพระราม
หลังจากนั้นเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ไปติดตามได้ใน วันดังกล่าว โทร.02-225-2777
ต่อ 413, 534 หรือเข้าไปที่ www.facebook.com/museumsiamfan
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ทาง FM 97.0 MHz.เวลา
11.00-12.00 น.
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ -ท่องเที่ยว/การบิน
เจ้าของและผู้ดำเนินรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" สวท.FM 97.0 MHz.
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น