ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แอร์เอเชียเปิดบินใยแมงมุมบูมเที่ยว5ภาค-เที่ยวจันบุรีที่บางชัน คลองหนองบัว โอเอซิส


ไทยแอร์เอเชียโหมบินใยแมงมุมเที่ยวข้าม5ภาค
ตั๋ววันธรรมดาแรง-นำสินค้า4ชุมชนขายบนฟ้า
คิงเพาเวอร์สนามบิน/ในเมืองแห่ทำดิวตี้ฟรีเซล
ททท.งัด7ไฮไลต์ดูดทัวร์เศรษฐกิจผู้หญิงทั่วโลก
สมาชิกบางจากห้ามพลาดรับฟรี พรบ.ประกันฯ
“เที่ยวข้ามถิ่นกินตามตำนาน”ลุยจัดปลายปี’60
สุขใจทัวร์จันท์“บางชัน-หนองบัว-โอเอซิส”
วิธีนั่งดูทีวีที่ไม่ต้องเสี่ยงเกิดอาการอัมพฤกษ์
เปิดโร้ดแมฟปี’61เที่ยวEEC“ชุมชน-อาหารถิ่น”
โรงแรมทั่วไทยเสิร์ฟยกครัววันแม่แห่งชาติ

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังทางมือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านใน www.facebook.com/penroong ฟังย้อนหลังทาง youtube www.facebook.com/rauydauykhao) #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand

ช่วงที่ 1 “คุณกฤษ พัฒนสาร” ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ให้สัมภาษณ์พิเศษถึง ความร่วมมือส่งท้ายตลอดครึ่งหลังปี 2560 กับโครงการดี ๆ ของไทย แอร์เอเชีย ผู้นำบริการโลว์คอสต์ของอาเซียน ด้วยการขายตั๋วราคาจูงใจปลุกกระแสคนไทยเดินทาง “ข้ามภาค” โดยใช้เครือข่ายเส้นทางบินแบบใยแมงมุม และทำให้ “อู่ตะเภา” กลายเป็นระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) คึกคักมากยิ่งขึ้นในอนาคต เรื่อยไปจนถึงการแจ้งเกิดโปรเจ็กต์ “ธุรกิจคืนสู่ชุมชน” ที่ยิ่งใหญ่ใน 4 จังหวัด กระบี่ นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ เชียงราย ทำกิจกรรมลงลึกถึงรากชุมชนเตรียมความพร้อมรับคลื่นมหาชนการท่องเที่ยว
                                                                  กฤษ พัฒนสาร 
                                              ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ ไทยแอร์ เอเชีย

“คุณกฤษ พัฒนสาร” เริ่มต้นเล่าถึงการชิมลางปลุกกระแสการท่องเที่ยวให้เกิดการเดินทางข้ามภาคผนวกเลือกเที่ยววันธรรมดามากขึ้น โครงการแรกคือ “เที่ยวเหนือให้ฉ่ำใจไปกับฤดูแห่งความสดชื่น” สิงหาคม-กันยายน มีโปรโมชั่นตั๋วโดยสารเครื่องบิน และแพกเกจท่องเที่ยว โปรโมชั่นตั๋วราคา 790 บาท สู่เชียงใหม่และภาคเหนือกว่า 10 จังหวัด พร้อมทั้งให้นำบัตรผ่านขึ้นเครื่อง (broadingpass) ไปใช้ประโยชน์เป็นส่วนลดเพิ่มตามร้านค้า ร้านอาหาร จำนวนมากที่เข้าร่วมรายการในเชียงใหม่ เชียงราย โครงการนี้กระแสตอบรับการท่องเที่ยวภาคเหนือในช่วงฤดูฝนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกเหนือจากรอเที่ยวเฉพาะหน้าหนาว เท่ากับได้กระจายตัวของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยตลอดทั้งปีได้เป็นอย่างดี

ส่วนการสร้างกระแส “ท่องเที่ยววันธรรมดา” ร่วมกับ ททท.ต่อเนื่องมาถึง 4 ปีแล้ว ปี 2560 ทยอยทำมาตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา การเดินทางเที่ยววันธรรมดากับแอร์ เอเชีย เพิ่มขึ้นถึง 12 % ด้วยโปรโมชั่นมัดใจนักท่องเที่ยวทั่วไทยวันจันทร์-พฤหัสบดี เที่ยวมุมไหน สุขใจตลอด ด้วยตั๋วเครื่องบินแอร์ เอชีย ลดสูงสุด 50 %

โครงการไฮไลต์อีกกิจกรรม “ท้าเที่ยวข้ามภาค” จะเริ่มเทตั๋วและแพกเกจโปรโมชั่นกันตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2560 กระตุ้นการเดินทางข้ามภาคได้ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด เหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออก ตอนนี้ทางฝั่งทะเลอ่าวไทยในแถบจังหวัดตะวันออก “ท่าอากาศยานอู่ตะเภา” กำลังเนื้อหอมมาก

โดยไทย แอร์เอเชีย มีศูนย์กลางการบินเรียกว่า HUB ใหญ่ภาคเหนือใน “เชียงใหม่” บินตรงสู่ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และข้ามไปยังอีสาน คือ ขอนแก่น อุบลราชธานี (เปิดใหม่ได้รับ) และภาคตะวันออก อู่ตะเภา-ชลบุรี

ภาคใต้ “ภูเก็ต” บินตรงสู่เหนือ เชียงใหม่ อีสานสู่อุดรธานี และตะวันออกสู่อู่ตะเภา แล้วยังเชื่อมไปยังอีสาน หาดใหญ่ เป็นเครือข่ายบริการเส้นทางบินแบบใยแมงมุม ข้ามทั่วทุกภาคของประเทศ

การเปิดขายตั๋วและแพกเกจท่องเที่ยวจะให้จองซื้อราคาพิเศษก่อนเดินทางล่วงหน้า 2 สัปดาห์

สำหรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว “บินเที่ยวข้ามภาค” เปิดโครงการเป็นปีแรกจึงประเมินค่อนข้างยาก สถิติที่ผ่านมาจะเน้นเรื่อง “เพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร” ซึ่งใช้ฝูงบินแอร์บัส A320 จำนวนลำละ 185 ที่นั่ง จึงตั้งเป้าหมายการโดยสารเครื่องบินไทยแอร์ เอเชีย บินระหว่างภาค ควรจะทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยให้ได้อย่างน้อย 85 % หรือเที่ยวละประมาณ 140-150 ที่นั่งขึ้นไป

ส่วนท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งกำลังเตรียมพร้อมเป็นฮับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ล่าสุดไทย แอร์เอเชีย เปิดจุดบินเพิ่มใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ อุบลราชธานี และภูเก็ต ทำให้กระแสตอบรับจากภาคอื่นหลั่งไหลมายังภาคตะวันออก ระหว่างนี้จะรักษาจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวให้เกิดความมั่นคง พร้อมทั้งกำลังศึกษาเส้นทางใหม่ ที่จะเพิ่มควบคู่กันไปด้วย
ขณะเดียวกันก็เตรียมบริการทางด้าน 1.“มาตรฐานความปลอดภัย” การดูแลฝูงบินที่ใช้แบบเดียวคือ แอร์บัส A320 ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด 2.การตรงต่อเวลาซึ่งเป็นสายการบินที่มีมาตรฐานตรงเวลาสูงมาก 3.มีเครือข่ายเส้นทางบินบริการข้ามภูมิภาคในประเทศ เชื่อมภูมิภาคอาเซียน กลุ่มแอร์เอเชีย มีสายการบินในเครือจำนวนมากที่สุด เรื่อยไปจนถึงการบินตรงเข้าญี่ปุ่น อินเดีย

โดยมีบริการ Fly Though คือการเปลี่ยนเครื่องบินให้แก่ผู้โดยสารโดยสัมภาระกระเป๋าที่โหลดจากประเทศต้นทางสามารถส่งตรงถึงปลาย เช่น โตเกียว-ภูเก็ต แม้เครื่องที่ผู้โดยสารนั่งมาด้วยในลำดังกล่าวจะต้องแวะพักที่ดอนเมือง แต่บริการนี้จะย้ายผู้โดยสารไปอีกเครื่องพร้อมมีเจ้าหน้าที่ขนสัมภาระกระเป๋าใส่ท้องเครื่องลำใหม่ที่จะต้องบินไปปลายทางภูเก็ต โดยไม่ต้องมาเช็คอินใหม่แต่อย่างใด
ส่วนการจำหน่ายอาหาร สินค้าไทย บนเครื่องบิน นักเดินทางตอบรับดีพอสมควร โดยเฉพาะ “อาหารไทยบริการบนเครื่อง” กระเพา ผัดไทย หรือสินค้าช้อปปิ้ง กระเป๋า น้ำหอม นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกินอาหารไทยและซื้อสินค้าอย่างโดดเด่นคือ “ผู้โดยสารชาวจีน” เป็นการโปรโมตอาหารถิ่นและสินค้าไทย

สำหรับเส้นทางบินบริการ ไป-กลับ ไทยสู่จีนตามเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่กวางโจว คุนหมิน ฉงชิ่ง อู่ฮั่น ซีอาน หางโจว หนานหนิง-หนานชา ซัวเถาเพิ่งจะเปิดบิน ในรัศมี 4 ชั่วโมง บินเกือบครบทุกเส้นทางแล้ว และจีนก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทย แอร์เอเชีย

ขณะเดียวกันไทย แอร์เอเชีย ก็เดินหน้าทำซีเอสอาร์ ทำโปรเจ็กต์ “Journey D-การท่องเที่ยวโดยชุมชน” เลือกนำร่องทำกับ 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเกาะกลาง จ.กระบี่ โคกเมือง จ.บุรีรัมย์ ผาหมี จ.เชียงราย ฮกลก จ.นครศรีธรรมราช โดยแอร์เอเชียเข้าไปสอนภาษาอังกฤษเพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยว การพัฒนาสินค้าชุมชน และเร็ว ๆ นี้จะนำมาจำหน่ายบนเครื่องแอร์ เอเชีย เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวท้องถิ่นสัมผัสวิถีไทยอย่างแท้จริง

สินค้าดาวเด่นของชุมชนที่พร้อมนำมาขายบนเครื่อง คือ ข้าวสังข์หยด ชุมชนเกาะกลาง จ.กระบี่ ข้าวภูเขาไฟ จ.บุรีรัมย์ กำลังปรับปรุงพัฒนาแพเกจจิ้ง รวมถึงกาแฟดอยผาหมี จ.เชียงราย
จึงเชิญชวนผู้โดยสารมาอุดหนุนข้าวท้องถิ่นของแต่ละชุมชน ให้เติบโตทางเศรษฐกิจก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการขยายตัวของไทยแอร์ เอเชีย และการท่องเที่ยวไทย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “มหกรรมดิวตี้ฟรีเซลคิงเพาเวอร์ทุกแห่งถึง31ส.ค.60”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดโอกาสให้ร่วมสนุกกับการช็อปสินค้าแบรนด์ดังระหว่างวันนี้ – 31 สิงหาคม 2560 เพียงแสดงพาสปอร์ตไทย รับส่วนลดสูงสุดไปเลย 20% เมื่อช็อปน้ำหอม เครื่องสำอาง ที่ร้านค้าขาออกคิง เพาเวอร์ 3 สนามบิน แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ตและเชียงใหม่
โดยรับส่วนลดสูงสุด 20% เมื่อช็อปน้ำหอมและเครื่องสำอาง ครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จรับเงิน ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ลดสูงสุด 20% เมื่อช็อปน้ำหอมและเครื่องสำอาง ครบ 3,000 บาท/ใบเสร็จรับเงิน ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่
ยกเว้นสินค้าแบรนด์ Chanel ไม่ร่วมรายการ
หรือรับส่วนลดพิเศษ ! สูงสุด 15% ระหว่างวันนี้- 31 สิงหาคม 2560 เพียงแสดงพาสปอร์ตไทย รับส่วนลด 1,500 บาท เมื่อช็อปครบ 3,000 บาท หรือ 5,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จรับเงิน
สอบถามเพิ่มเติม โทร 1631 หรือดูได้ที่ www.kingpower.com

ข่าวที่ 2 “ททท.งัด7กิจกรรมไฮไลต์ดูดเศรษฐีผู้หญิงทั่วโลก”

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผุ้ว่าการด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ร่วมกับภาครัฐและเอกชนกว่า 800 ราย จัดโครงการ “Women’s Journey Thailand 2017” ตลอดเดือนสิงหาคม 2560 โดยจัดกิจกรรมและมอบโปรโมชั่น ส่วนลด และสิทธิพิเศษให้นักท่องเที่ยวสตรีคนไทยและต่างชาติ ใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นกับ 7 กิจกรรมไฮไลต์หลัก ๆ ได้แก่

1.กิจกรรม “Pink Lane” โดยร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจัดช่องทางตรวจคนเข้าเมืองพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิง ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 สิงหาคม 2560

2.กิจกรรม “Welcome Privilege Package” โดย ททท.ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท วีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) มอบแพกเกจพิเศษให้นักท่องเที่ยวสตรีชาวต่างชาติทุกคนตลอดเดือนสิงหาคม

3.กิจกรรม “Lady Celebrities to Thailand” เชิญสตรีผู้มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเดินทางท่องเที่ยวในไทยต้นเดือนสิงหาคมนี้

4.กิจกรรม “Lady Bloggers in Thailand” นำ Bloggers สตรี 20 คน จากประเทศแถบเอเชียเดินทางมาท่องเที่ยวสัมผัสความหรูหราในพัทยาช่วงต้นเดือนสิงหาคม

5.กิจกรรม “Thailand through HER Eyes 2017” หรือ “โครงการถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวไทย โดยช่างภาพมืออาชีพสตรีจากต่างประเทศ”

6.กิจกรรม “Lady Golf Challenge” วันที่ 17 สิงหาคม 2560 ณ สนามกอล์ฟอัลไฟน์ กอล์ฟ คลับรังสิต จ.ปทุมธานี

7.กิจกรรม “มหกรรมผ้าไทย เทิดไท้ ราชินี” (Lady in Thai Fabrics) 19-20 สิงหาคม ณ หอคำหลวง ราชพฤกษ์ เชียงใหม่

 โดย ททท.เปิด Mobile Application และเว็บไซต์ womensjourney.tourismthailand.org อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสตรีเข้าไปค้นหาสิทธิพิเศษผ่าน QR Code ของผู้ประกอบการ และแจ้งรับสิทธิพิเศษได้ทันที

ข่าวที่ 3 “สมาชิกบางจากรับฟรี พรบ.ประกันฯ”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ระหว่างวันนี้-31 ธ.ค. 60 สมาชิกบัตรบางจาก รับฟรี !! พรบ. รถยนต์ เมื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+ , 3+ ทุนประกัน 100,000 บาท กับ เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย ผ่านช่องทางการซื้อทางออนไลน์ : https://www.msig-thai.com/insureok/bangchak/motor/

  รับสิทธิพิเศษอีกมายมาย เมื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ ,3+
- รับฟรี พรบ. ภาคบังคับมูลค่า 645 - 967 บาท ทุกกรมธรรม์
- รับเพิ่มความคุ้มครองพิเศษ กรณีน้ำท่วม
- รับค่าชดเชยครั้งละ 1,000 บาท จากบริษัท อินชัวร์โอเค โบรกเกอร์ จำกัด กรณีนำรถเข้าซ่อมที่มีคู่กรณีเป็นรถยนต์
- รับสิทธิ์รับบริการช่วยเหลือฉุกกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ช.ม. (MSIG Roadside Assistance)
- ได้รับความคุ้มครองทันทีจากบริษัทประกันภัยโดยตรง เมื่อชำระเบี้ยด้วยบัตรเครดิต

การซื้อออนไลน์ เข้าไปที่ https://www.msig-thai.com/insureok/bangchak/motor/
และเลือกแผนประกันรถยนต์กรอกข้อมูลข้อมูลผู้ขอเอาประกันภัย และยืนยันความถูกต้อง ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กรมธรรม์และพรบ.จะจัดส่งให้ลูกค้าตามที่อยู่ทางไปรษณีย์
ติดต่อที่ 02-021-1747 (วันทำการ จ-ศ 08.30 – 17.00 น. ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และหยุดนักขัตฤกษ์)

ช่วงที่ 2 ตามไปดู “จันทบุรี” มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจทั้งเรื่องชุมชนไร้แผ่นดิน ท้องถิ่นขนมแปลกคลองหนองบัว โอเอซีส ซีเวิลด์ อ่าวคุ้งกระเบน และความงดงามของถนน “เฉลิมพระเกียรติบูรพาชลทิศ” เลาะริมเขาเลียบอ่าวไทย รวมทั้งวิธีดูทีวีอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ และข่าวฮ็อตตลอดสัปดาห์

@เที่ยวสุขใจในจันทบุรีที่บางชัน-หนองบัว-โอเอซิสซีเวิลด์”


เลือกวันสบาย ๆ ออกไปเที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด “จันทบุรี” มีอีกหลายอย่างที่น่าค้นหาทั้งเสน่ห์ชุมชนดั้งเดิม และอาหารถิ่นที่ทำกินกันในชีวิตประจำวันมาอย่างยาวนาน รสชาติเทียบชั้นอาหารเหลาได้ไม่แพ้กัน

ก่อน “กนกกติกา กฤตย์วุฒิกร-หรือเกตุ” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ จันทบุรี ระยอง ตราด) จะย้ายไปประจำที่ ททท.สำนักงาน ภูเก็ต ได้มอบหมายให้ “เกตุน์สิริ สมบูรณ์ศิลป์-เจี๊ยบ” ผู้ช่วย ผอ.ททท.สำนักงานระยอง มาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในจันทบุรี 2 วัน 1 คืน

ชวนนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติไปสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง ไฮไลต์ที่ “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน-บางชัน” ตามไปดู “ลุงชม-ปราชญ์ชุมชนบางชัน” วัย 68 ปี ดำน้ำลึกงมหอยนางรมเลี้ยงชีพอยู่อย่างพอเพียง

แล้วไปชิมอาหารถิ่นแปลก ๆ “คลองหนองบัว” หมู่บ้านอายุกว่า 200 ปี จากนั้นจับมือกันแวะไปขี่โลมาใน “โอเอซีส ซีเวิลด์” ก่อนจะไปป้อนอาหารฉลามที่ “อ่าวคุ้งกระเบน”

ชาวเมืองกรุง (เทพฯ) ตื่นขึ้นมารับประทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย แพ็กกระเป๋าแล้วขับรถไปตามถนนหมายเลข 304 (บ้านบึง-แกลง) ตอนนี้ถนนเส้นนี้ปรับปรุงจนได้มาตรฐานปลอดภัย ปริมาณรถไม่หนาแน่น ขับสบาย ๆ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเศษ ไปถึงก็พอดีได้เวลา “กินมื้อเที่ยง” แนะนำให้แวะร้าน “น้ำพริกข้าวสวย” เพื่อชิมอาหารเลื่องชื่อ “ข้าวคลุกพริกเกลือ” เป็นเมนูประจำถิ่นชาวจันทบุรี ระยอง นำข้าวสวยคลุกเคล้าน้ำจิ้มซีฟู้ดปรุงสุกโปะหน้าด้วยอาหารทะเลตามชอบได้ทั้ง กุ้ง ปู ปลาหมึก หอย
ช่วงบ่ายคล้อย ไปเดินชมตลาดกันได้ที่ “ชุมชนขนมแปลก-คลองหนองบัว” เป็นหมู่บ้านอาศัยอยู่กันมานานกว่า 200 ปี ติดแม่น้ำจันทบุรี เมื่อครั้งอดีตชาวจีน เวียดนาม อพยพมาตั้งรกรากผสมกลมกลืนกับคนไทย ทุกวันนี้จึงกลายเป็นหมู่บ้านรวม 3 เชื้อชาติ ซึ่งมีวิถีวัฒนธรรมการทำอาหารคาวและหวานแปลกแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ


ของหวานขึ้นชื่อคือ “ขนมควยลิง” (เป็นชื่อเฉพาะที่ชาวหนองบัวตั้งขึ้น) ของยายลิ วัย 78 ปี ต้นตำรับการทำขนมด้วยข้าวเหนียวดำปั้นเป็นท่อนยาว แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดพอสุกจะลอยขึ้นมาลักษณะคล้ายอวัยวะเพศลิงก่อนขายต้องนำไปคลุกมะพร้าวขูดฝอยกับน้ำตาลทรายขาวผสมงาดำ รสชาติหวานมันเค็ม ถูกปากนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทุกวันนี้เมื่อไปถึงชุมชนคลองหนองบัวจะต้องแวะไปเข้าคิวรอซื้อขนมควยลิงของยายลิกันทุกคน

ตลอดสองข้างทางในตลาดชุมชนคลองหนองบัว ซึ่งใช้พื้นที่บริเวณหน้าบ้านพักอาศัยเปิดร้านขายขนมและอาหารแก่นักท่องเที่ยว ขนมขึ้นชื่ออื่น ๆ ก็มี หอยพอกย่าง กุ้งทอดน้ำจิ้มถั่ว หอยหลุม (ทอดมัน) ส่วนของหวาน ยังมี ขนมอี๋น้ำเยี่ยววัว ขนมจ้าง ตังเมโบราณ (ทำจากน้ำตาลอ้อยบรรจุในกระป๋องนม) หมี่กรอบผสมสีพืชผลไม้

 ปิดท้ายการท่องเที่ยววันแรกที่ “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน-บางชัน” อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่กลางน้ำ ได้ชื่อว่าเป็นทะเลแหวกแห่งท้องทะเลอ่าวไทย บริเวณโดยรอบยังมีฝูงเหยี่ยวแดงบินโฉบเฉี่ยวอยู่ตามป่าโกงกาง ลุ่มน้ำเวฬุ มีหลายแห่งในตำบลบางชัน และตำบลบ่อ อำเภอขลุง


ระหว่างสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ลุงชม-บรรทม บุตรฉัยยา” นักงมหอยนางรมวัย 68 ปี ผู้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงเลี้ยงชีพด้วยการงมหอยในเขตน้ำกร่อยลึกเกือบ 6 เมตร อาศัยภูมิปัญญาดำลงไปชิมระดับความเค็มของน้ำไปด้วย แหล่งที่ลุงเลี้ยงความเค็มไม่เกิน 30-35 DPT หอยที่งมได้ลุงจะมาเป็นเมนูขายตามร้านอาหาร

หอยนางรม 3 ชนิด ต้นกำเนิดในแม่น้ำจันทบุรีคือ หอยนางรมที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตะโกรน” พันธุ์ใหญ่สุดอายุ 8 ปี ราคาตัวละประมาณ 150 บาท รองลงมาเป็น “หอยนางรมตะโกรนกรามดำ” ตัวขนาดกลาง ราคาเฉลี่ยตัวละ 100 บาท และ “หอยนางรมพันธุ์ปากจีบ” ตัวเล็กสุดขายตัวละประมาณ 50 บาท เป็นพันธุ์ที่นักท่องเที่ยวนิยมบริโภคมากที่สุดเพราะตัวขนาดพอคำ สด รสชาติหวาน
ลุงชมชาวบางชันกับภรรยาทำอาชีพขายหอยนางรม มีรายได้หล่อเลี้ยงชีพปีละ 150,000 บาท เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างอิสระมีความสุขมากว่า 40 ปี

อีกทั้งลุงชมยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่ร่วมทำงานวิจัยกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี ซึ่งทำสรุปเป็นตำราที่เรียกว่า “เล่างานผ่านกลอน” เนื้อหายาวที่สุดในท้องถิ่น เพื่อศึกษาวงจรชีวิตของหอยนางรมตั้งแต่เกิดจนสิ้นอายุ แล้วนำมาปรับปรุงวิธีเพาะเลี้ยงอย่างถูกวิธีทำให้มีรายได้ ประการสำคัญไม่ต้องใช้ปริมาณพันธุ์หอยจำนวนมากแต่สามารถเลี้ยงให้รอดเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันลุงชม นำแพเปิดเป็นโฮมสเตย์ บริการนักท่องเที่ยวได้ใช้ชีวิตอย่างลึกซึ้งกับชีวิตบนแพ นั่งเรือดำลงงมหอยนางรมถึงใต้แม่น้ำ และกินอาหารถิ่นจันทบุรี รับได้ครั้งละ 10 คน สนใจติดต่อ ได้ที่ โทร.089-803-0020

สำหรับศัตรูตัวร้ายของหอยนางรม คือ เพรียงหัวหอม (จะตายเองช่วงหน้าฝน) สาหร่ายพิษ (จะทำลายหอยนางรมตอนแรกเกิด) และ “หอยดูด” (ไม่รู้วันตาย) ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ มีพรสวรรค์เลือกเจาะตรงเอ็นหัวใจหอยนางรมแล้วดูดเฉพาะเอ็นเท่านั้นจากนั้นก็ย้ายไปกินตัวอื่น ๆ ต่อไป


เข้าสู่การท่องเที่ยวจันทบุรีในวันที่สองแบบช้า ๆ หรือสโลไลฟ์ ได้ที่ “โอเอซีส ซีเวิลด์” แหล่งเพาะพันธุ์โลมาแห่งดินแดนฝั่งตะวันออกของไทย โดยนำโลมา  2สายพันธุ์ คือ “โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู” กับ “โลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี” มาโชว์ความน่ารักให้นักท่องเที่ยวชม

กิจกรรมไฮไลต์คือจะมีบริการพิเศษเปิดให้นักท่องเที่ยวลงไป “เล่นน้ำกับโลมา” ได้อย่างสนุกสนาน
เล่นกับโลมาจนหมดแรงแล้วก็พักรับประทานอาหารเที่ยงภายในโอเอซีส ซีเวิลด์ เพื่อรอเวลาช่วงบ่ายไปชม “หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำภายในอ่าวคุ้งกระเบน” แนะนำให้นักท่องเที่ยวลงมือทำกิจกรรม ให้อาหารปลาฉลาม ทำอีแปะหอยนางรม เขี่ยไข่ปู ทำซั้งบ้านปลา
ก่อนเดินทางกลับห้ามพลาดแวะ “เนินนางพญา” อันเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต”
ความสุขง่าย ๆ เที่ยวเมืองไทย ใกล้แค่เอื้อม  เที่ยวอย่างเก๋ไก๋ ลึกซึ้ง เข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่น ได้ทุกเวลา ที่เมืองต้องห้ามพลาด จันทบุรี

@วิธีนั่งดูทีวีเพื่อลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์

ในวันหนึ่งๆ คนเราใช้เวลากับการนั่งดูทีวีเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมงต่อวัน แต่น้อยคนนักที่จะสนใจท่าทางที่ถูกต้องในการนั่งดูทีวี การนั่งดูทีวีนั้นถ้าใช้เวลาไม่มาก ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้านั่งดูทีวีวันละเกิน 1 ชั่วโมง และเป็น 1 ชั่วโมงที่นั่งด้วยท่าไม่ถูกต้อง จะส่งผลเสียต่อร่างกายมาก

ข้อมูลจากสถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ ระบุว่า ท่านั่งดูทีวีที่ไม่เหมาะสม มีตั้งแต่ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน นั่งเอนหลังโดยใช้แผ่นหลังช่วงล่างรองรับน้ำหนักแทนก้นกบ หรือนั่งบนโซฟาที่นุ่มมากเกินไปจนก้นจมลงไป การเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน หาหมอนเรียงซ้อนกันหลายๆ ใบ หนุนหัวสูงเพื่อจะได้นอนเห็นทีวีชัดเจนบางรายแย่กว่านั้น ชอบนอนดูทีวีที่ตั้งอยู่ปลายเตียง

ดังนั้น เมื่อทีวีตั้งอยู่ปลายเท้า ก็ต้องหนุนศีรษะให้สูงขึ้นๆ ยิ่งอันตรายมาก หากเผลอหลับในท่าเหล่านี้
พฤติกรรมท่านั่งนอนดูทีวีดังกล่าว ล้วนส่งผลเสียต่อโครงสร้างร่างกาย เช่น มีอาการยึดรั้งของกล้ามเนื้อ อาการปวดเมื่อยตามลำตัว ปวดหลัง ปวดคอ ปวดศีรษะ ไมเกรน ชาตามปลายมือปลายเท้า ร่างกายขาดการรับรู้ความรู้สึกบางส่วน หรือที่เรียกว่าอัมพฤกษ์!

ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงท่าต่างๆ ในระหว่างดูทีวี คือ
1. ท่านั่งกึ่งนอน และท่าเอนหลังมากๆ ซึ่งความโค้งของหลังจะแอ่นนูนมาทางด้านหลัง ทำให้เส้นเอ็นต่างๆ ที่ขึงแนวกระดูกสันหลัง รวมถึงกล้ามเนื้อถูกยืดยาวออกจากระนาบปกติ ทำให้ขาดความมั่นคง เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือปลิ้นออกมาทับเส้นประสาท ปวดหลังปวดร้าวลงขา
บางรายชาที่เท้าหรือนิ้วเท้า ในบางรายที่ร้ายแรงอาจมีอาการกดทับเส้นประสาท มีผลไม่ให้ไม่มีแรงของกล้ามเนื้อ รู้จักกันดีในชื่อของอาการอัมพฤกษ์

2.ท่านั่งพิงพนักและหนุนศีรษะให้สูงขึ้น เป็นการบังคับคอของเราให้ถูกดันหรือก้มมาทางด้านหน้าตลอดเวลา ผลเสียคล้ายกับท่านั่งกึ่งนอน แต่ความเสียหายเกิดขึ้นที่แนวกระดูกช่วงคอ
หากอยู่ในท่านี้ประจำ หรือแอบหลับในท่าหนุนคอสูง จะเสี่ยงต่ออาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมาทับเส้นประสาทคอ ปวดเรื้อรังที่คอ บ่า เสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ชนิดยกแขนไม่ได้

3.ทุกท่าที่นั่งแล้วเกิดอาการบาดเจ็บต่างๆ กับร่างกาย เป็นตัวชี้ให้เห็นว่า เราใช้ร่างกายผิดท่าผิดทาง เมื่อเริ่มมีอาการ ควรใส่ใจต่อความเจ็บปวดหรืออาการที่ผิดปกตินั้น

1.ถ้านั่งดูทีวีจากโซฟา ควรเป็นโซฟาที่เราสามารถเอนหลังได้ ไม่นุ่มเกินไป

2.นั่งแล้วก้นไม่ยวบลงมากนัก

3.นั่งแล้วดันหลังให้ติดกับพนักพิง หรือหาหมอนมาวางดันหลังเอาไว้ เพื่อให้ตลอดทั้งหลังแนบไปกับโซฟา

4.ควรมีหมอนรองรับตั้งแต่ช่วงหัวไหล่จนถึงศีรษะ (ไม่ใช่ให้หมอนหนุนเพียงช่วงต้นคอ)
จัดองค์ประกอบท่านั่งดีแล้ว แต่ก็ยังต้องแบ่งเวลาให้ถูก สูงวัยแล้วไงอย่ามัวแต่นั่งดูทีวีทั้งวัน บริหารเวลาเพื่อกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก เปิดโร้ดแมฟEECปี’61เที่ยว“ชุมชน-อาหารถิ่น”

“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อธิบายว่าปี 2561 พร้อมบูรณาการการตลาดท่องเที่ยวผสมผสานไมซ์สนับสนุนพื้นที่ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใน “โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตอีก 20 ปี โดยมี “ท่าอากาศยานอู่ตะเภา” เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์ทางด้านบริการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม ด้วยระบบขนส่งทางอากาศเชื่อมต่อทางบกรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทางน้ำส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือสำราญและการขนส่งทางทะเลกระจายจากชลบุรี สู่จังหวัดโดยรอบ จันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี

ดังนั้น ททท.จึงพร้อมต่อยอดการพัฒนาท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจ EEC เติบโตอย่างแข็งแกร่งเพิ่มจากปัจจุบันทั้งด้านคุณค่าและมูลค่าของรายได้ที่จะกระจายสู่ชุมชนครอบคลุมมิติต่าง ๆ
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชนและอาหารถิ่น ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นวิถีชีวิตสอดรับกับความต้องการของเทรนด์การท่องเที่ยวทั่วโลกซึ่งหันมาแสวงหาความสุขจากการมีประสบการณ์เดินทางเข้าถึงแหล่งพักผ่อนอย่างลึกซึ้งคืนประโยชน์สู่สังคมตอบโจทก์ความมีคุณค่าทางจิตใจ

“นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.ตอกย้ำว่า ตลอดการจัดงาน เทศกาลอาหารถิ่นประเทศไทย ปี 2560 ในธีม “เที่ยวข้ามถิ่น กินข้ามภาค @บางแสน” ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2560 ณ หาดแหลมแท่น บางแสน จังหวัดชลบุรี ททท.ในประเทศ 5 ภูมิภาค ทั้ง ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคเหนือ ทำไฮไลต์คัดเลือกอาหารคาวหวานเฉพาะถิ่นซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะรสชาติอร่อย เป็นเมนูขึ้นชื่อมาจำหน่ายในงานรวมกว่า 250 ร้าน ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติบริโภคตลอด 3 วัน สร้างรายได้กระจายสู่ร้านอาหารชุมชนกว่า 25 ล้านบาท เป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จในการนำอาหารและชุมชนมาเป็นจุดขายในตลาดการท่องเที่ยว
ช่วงปลายปี 2560 ททท.เตรียมจัดกิจกรรมตลาดการขายต่อเนื่องด้วยโครงการ “เที่ยวอาหารถิ่น กินตามตำนาน” ต่อยอดนำเรื่องราวของอาหารแต่ละชนิดในแต่ละภาคร้อยเรียงเรื่องราวจากต้นน้ำถึงปลายน้ำมาถ่ายทอดให้นักท่องเที่ยวรับรู้ความลึกซึ้งของอาหารถิ่นวิถีไทย

ตลอดการจัดงาน “เที่ยวข้ามถิ่น กินข้ามภาค” ทีมงานภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำสำรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ อาทิ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ-วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม มีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์งดงามด้วยสถาปัตยกรรมจีน คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ หรือร้านอาหารแนวเก๋ ๆ อาทิ ร้าน Sila Café & Bristro สาขา 1 และ 2 โดดเด่นเรื่อง เมนูกาแฟ เค้ก ขนมหวาน และอาหารไทย อาหารฟิวชั่นนานาชาติ

“นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา กล่าวว่า ได้ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อขยายหรือต่อยอดการท่องเที่ยวรองรับ EEC โดยใช้พัทยาเป็นศูนย์กระจายการพัฒนาตลาดไปสู่พื้นที่ใกล้เคียง เริ่มจาก “ชลบุรี” เป็นเมืองท่องเที่ยวและเทคโนโลยี ส่วนเรื่องการพัฒนาจะมี ทางกายภาพ คมนาคมเชื่อมโยง ประกอบด้วย “ทางบก” รัฐบาลประกาศขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์ส สู่ระยอง  “ทางน้ำ” เร่งศึกษาทำเป็นศูนย์กลาง (HUB) ท่องเที่ยวทางเรือยอร์ช เรือเฟอรี่ เปิดบริการประจำเส้นทาง พัทยา-หัวหิน มาเกือบครบปีแล้ว เตรียมยกระดับเป็น Cruise Hub ขนาดใหญ่ ดึงดูดเรือสำราญมาขึ้นตรงท่าเรือแหลมฉบังตลอดทั้งปีประมาณ 80 ลำ แต่ละลำนำนักท่องเที่ยวต่างชาติมากระจายรายได้สู่พื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ด้วย
ส่วน “ทางอากาศ” มีท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นเสาหลักนำผู้โดยสารเข้ามาในฐานะสนามบินพาณิชย์ใกล้กรุงเทพฯ แห่งที่ 3 ต่อจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง

ประการสำคัญยังจะผลักดันการ “ขยายเมืองพัทยาให้ใหญ่ขึ้น” หรือที่เรียกว่า Greater Pattaya พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงต่อเนื่องไปยัง บางสะเหร่ นาจอมเทียน เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์พัทยาไปด้วย

ขณะนี้โซนการท่องเที่ยวในชลบุรีจะครอบคลุมโซนท่องเที่ยวทั้งหมดทางทะเล ได้แก่ บางแสน พัทยา เกาะสีชัง และยังมีกิจกรรมเสริมทางด้านอีเวนต์ทางการตลาดท่องเที่ยวเชิงกีฬานานาชาติ ในบางแสนและพัทยา จะนิยมจัดแข่งกีฬาต่อเนื่องระดับนานาชาติหลายชนิด เช่น ไตรกีฬา วิ่งฮาล์ฟมาราธอน
ปี 2561 นโยบายหลักจะบูม “เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ขณะนี้ ททท. สำนักงานพัทยากำลังรวบรวมเรื่อง Food ทั้งหมด ทั้งฝั่งพัทยา แยกเป็นอาหารถิ่น หรูหรา พร้อมทำเป็น FOOD MAP ให้นักท่องเที่ยวใช้ประโยชน์จากแผนที่เส้นทางอาหารถิ่นเป็นแนวคิดเดินทางไปสรรหารับประทานตามชุมชน อีกทั้งจะเพิ่มความเข้มข้นโดยนำ“ชุมชน” ร่วมออกบูธเพื่อบ่งบอกตัวตนของอาหารพื้นถิ่นนั้น ๆ  จากนี้ไป ททท.พัทยา จะเน้น 3 เรื่อง ได้แก่

เรื่องแรก “ท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ลงทุนผลิตแผนที่การท่องเที่ยวเชิงอาหารหลากหลาย และอาหารถิ่น เรื่องที่ 2 “ขยายตลาดจัดประชุมสัมมนา” ในพัทยา ชลบุรี เพราะปีหน้าทางสวนนงนุชเตรียมเปิดบริการศูนย์ประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ ผนวกกับรอบชลบุรีมีโรงแรมรีสอร์ตทุกระดับมากเพียงพอรองรับได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย เรื่องที่ 3  “เจาะกำลังซื้อกลุ่มศักยภาพ” โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง และกลุ่มครอบครัว เน้นขายกิจกรรมความงาม พักผ่อนสปา กิจกรรมไฮเอนด์ล่องเรือยอร์ช โดยนักท่องเที่ยวผู้หญิงต่างชาติใช้จ่ายเงินสูงและมีจำนวนมาก ได้แก่ จีน เอเชียใต้จากอินเดียมีพฤติกรรมคล้ายคนไทยช้อปปิ้งสินค้าไทย ชมสถานที่ท่องเที่ยว และจัดงานใหญ่ ๆ เช่น แต่งงาน เป็นต้น

ส่วนการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์การท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในพัทยา ช่วงมีนาคม 2560  ทาง “KAAN SHOW” ได้เปิดตัวอาณาจักรโชว์สมัยใหม่แบบครบวงจร ใช้เงินลงทุนไปกว่า 1,000 ล้านบาท ในพื้นที่ติดถนนใหญ่ขนาด 10 ไร่ ด้านหน้ามีลานกิจกรรมกว้าง และอาคารโรงละครขนาด 1,400 ที่นั่ง เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมร้อยเรียงเนื้อเรื่องการแสดงผสมผสานกับความอลังการของ แสง สี เสียง ตั้งเป้าจะทำโชว์ให้ยิ่งใหญ่เทียบชั้นโชว์ระดับโลกลาสเวกัส โดยตั้งมาตรฐานราคาบัตรเข้าชมเริ่มต้นที่นั่งละ 2,500 บาท 3,000 บาท และ 4,000  บาท เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติ ที่หลั่งไหลเข้าสู่พัทยา

จากนั้นช่วงตุลาคม 2560 เป็นต้นไป KAAN SHOW จะนำพื้นที่บริเวณลานกว้างเพิ่มโซน Street Food กลางแจ้ง นำอาหารถิ่นขึ้นชื่อภาคตะวันออก มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าของ KAAN SHOW จะเป็นคนไทย 70 % รัสเซีย 20 % และนานาชาติ 10 % ต่อไปจะเพิ่มตลาดจีน เพราะยอดดูโชว์หลังเปิดบริการได้ 4 เดือน วันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี เฉลี่ย 300-400 ที่นั่ง ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ยอดจองเกิน 1,000 ที่นั่ง

ปี 2560 แนวโน้มรายได้ท่องเที่ยวไตรมาสสองในชลบุรีอยู่ในแดนบวกเพิ่มจากปี 2559 ทั้งจังหวัดทำได้เกือบ 200,000 ล้านบาท ปีนี้หากไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์เหนือความคาดหมายใด ๆ จะขยายตัวตามเป้าหมาย เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวแข็งแกร่งได้มาตรฐานสากลทั้งที่พัก การลงทุนเปิดแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์แสดงโชว์นวัตกรรมใหม่ สวนน้ำไฮเทค เหมาะรับกลุ่มครอบครัวคนไทยและนานาชาติมาใช้บริการ

ตลอดปี 2560 ททท.ตั้งเป้าพัทยา และชลบุรี พร้อมจะร่วมมือกันทำให้รายได้การท่องเที่ยวทะลุเกิน 200,000 ล้านบาท เป็นสปริงบอร์ดให้ปี 2561 สร้างรายได้เติบโตอีกกว่า 5-10 % กระจายความมั่งคั่งสู่ชุมชนอย่างมั่นคงต่อไป

ข่าวที่สอง “โรงแรมทั่วไทยเสิร์ฟยกครัววันแม่แห่งชาติ”

@เปิดบ้านปาร์คนายเลิศให้แม่ชมฟรี
“บ้านปาร์คนายเลิศ” เปิดให้ทุกครอบครัวพาคุณแม่มาชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย วันที่ 12 สิงหาคม 2560 เปิดให้เข้าชม 3 รอบ เวลา 11.00 14.00 และ 16.00 น.
ชมฟรีด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ชวนกันพาคุณแม่ “เข้าชมบ้านปาร์คนายเลิศ” คุณแม่ชมฟรี ส่วนบุคคลทั่วไปจะได้รับส่วนลดพิเศษ 50% ในการซื้อบัตรเข้าชม หรือ เพียงถ่ายรูปคู่แม่ลูก ณ บ้านปาร์คนายเลิศ พร้อมบอกรักแม่ แล้ว Check in “ Nai Lert Park Heritage home” คุณแม่รับ Welcome Drink ฟรี
สอบถามเพิ่มเติมหรือจองรอบเข้าชมบ้านได้ที่ โทร.02 253 0123 ต่อ 103

@เรเนซองส์พาเหรดทุกเมนูทั่วมุมโลกชวนแม่มาชิม

โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เสิร์ฟวันแม่มื้อพิเศษ “Memorable Mother’s Day Brunch” ณ ห้องอาหารเฟลเวอร์ ด้วยหลากหลายเมนูอาหารรสเลิศจากทั่วทุกมุมโลก
เริ่มต้นมื้อสายวันแม่สุดอลังการด้วยสุดยอดวัตถุดิบ “บอสตัน ล็อปสเตอร์” ที่พร้อมปรุงเป็นเมนูพิเศษให้คุณได้เลือกรับประทานถึงห้ารสชาติ ทั้ง ล็อปสเตอร์อบเนยกระเทียมพาสลีย์อันหอมกรุ่น ซาชิมิล็อปสเตอร์หวานกรอบสดใหม่ หรืออีกสามรสชาติให้คุณได้เลือกรับประทานพร้อมอาหารทะเลสดใหม่นานาชนิด อาทิ  ปูอลาสก้าเนื้อแน่นหวานมัน หอยนางรมฟิน เดอ แคลร์ส่งตรงจากฝรั่งเศส หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโต เสิร์ฟคู่ซอสและเครื่องเคียงหลากรสชาติในทุกสไตล์ที่คุณชื่นชอบ

ต่อด้วยเมนูพิเศษ ฟัวกราส์รสเด็ด เสิร์ฟคู่ซอสราสเบอร์รี่ชัทนี่ย์และไวน์แดงเพิ่มความหวานอมเปรี้ยวที่ลงตัว และอีกหลายรูปแบบที่เชฟรังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ หรือจะลองลิ้มรสหลากเมนูอาหารกริลล์เลื่องชื่อจาก คาร์ฟวิ่ง สเตชั่น อีกหนึ่งไฮไลท์ประจำห้องอาหารเฟลเวอร์ที่ให้คุณลิ้มรสเมนูเนื้อชั้นเลิศ ทั้งสเต็กเนื้อออสเตรเลียนไพร์ม-ริปชิ้นนุ่มและแซลมอนอบปรุงรสชาติเข้มข้น รวมถึงอีกหลายเมนูอาหารนานาชาติ อาทิ หมูหันฮ่องกง ติ่มซําสดใหม่สไตล์กวางตุ้ง ซูชิและซาชิมิ คุณภาพเยี่ยมจากญี่ปุ่น พาสต้าและราวิโอลี่สูตรต้นตำรับสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ และอื่นๆอีกมากมาย



ปิดท้ายด้วยสุดยอด “เมนูของหวาน” ที่รับประกับความตื่นตาตื่นใจ อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วงหอมหวานมันอร่อย เครมบรูเล่เนื้อละมุนรสกลมกล่อมสไตล์ฝรั่งเศส มูสแชมเปญกุหลาบและลิ้นจี่รสหวานอมเปรี้ยว พร้อมด้วยช็อกโกแลต ฟองดูว์และไอศกรีมคุณภาพเยี่ยมหลากหลายรสชาติและของหวานสไตล์ไทยอีกหลากชนิด ให้คุณได้อิ่มอร่อยและเพลิดเพลินอย่างเต็มที่ตลอดมื้อสาย
สอบถามเพิ่มหรือสำรองที่นั่ง โทร 02 125 5010

@นัมเบอร์ 43 ฯเคป เฮ้าส์ กรุงเทพฯเสิร์ฟเมนูครอบครัว
ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิตาเลียน บิสโตร เคป เฮ้าส์ กรุงเทพฯ ขอเชิญชวนทุกท่านพาคุณแม่มาเติมเต็มความรัก กับมื้อค่ำสุดเลิศ เวลา 18.00-23.00 น. จัดเตรียมเพื่อคุณแม่บุคคลสำคัญที่สุดของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่น อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารที่พิถิพิถันโดยเชฟผู้มากประสบการณ์ ในราคาเพียงท่านละ 950++ บาท
สอบถามเพิ่มโทร. 02-658-7444 หรือดูได้ที่ www.capecollection.com

โรงแรมแคนทารี อยุธยา จัดเต็มที่ “ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก” ในห้วงแห่งความสุขกับดินเนอร์บุฟเฟ่ต์ เวลา 18.00 – 22.00 น. ในบรรยากาศอันแสบอบอุ่นและอิ่มเอมกันทั้งครอบครัว ด้วยเมนูอาหารหลากหลายชนิดที่ชวนให้ท่านลิ้มลอง พิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบและปรุงรสโดยเชฟมืออาชีพ ราคาสุทธิเพียงท่านละ 650  บาทเท่านั้น เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา
สอบถามเพิ่ม โทร 035-337-177  หรือดูได้ที่ www.kantarycollection.com
โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี ห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด จัดดินเนอร์ฉลองวันแม่แห่งชาติแบบอะลาคาร์ทสุดพิเศษ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ในบรรยากาศแสนอบอุ่นและประทับใจ พร้อมด้วยเมนูอาหารมากมายที่รังสรรค์ความอร่อยโดยเชฟมืออาชีพ สำหรับคุณลูกที่เชิญคุณแม่มารับประทานมื้อค่ำสุดพิเศษนี้ รับส่วนลดค่าอาหาร 10%

สอบถามที่ โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี โทร. 037-239-777 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kantarycollection.comโรงแรมคลาสสิค คามิโอ ระยอง
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว/การบิน
เจ้าของรายการ ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง