ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทอท.เปิดแผนปฎิบัติการ6สนามบิน-เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพเนินธัมมัง นครศรีธรรมราช

ผู้นำทอท.เปิดแผนปฏิบัติการเชิงรุก4ประเด็นฮ็อต
จัดแถวบริการใหม่-ดึงCLMVหนุนไทยฮับอาเซียน
คนไทย-สมาชิกช้อปคิงเพาเวอร์ได้ลด/ฟรีส.ค.นี้
ThailandGastronomyพ่วง10ร้านดังขายในสยาม
บางจากลุยปิโตร-แบตเตอรี่ลิเทียมรับเทรนด์โลก
ชมศูนย์ศิลปาชีพเนินธัมมังนครศรีมีดีหลายอย่าง
ครึ่งปี4แอร์ไลน์ชั้นนำไทยขาดทุนยับ-กำไรลด
รัฐเร่งทีโออาร์ชวนเอกชนร่วมPPPดันEECโตเร็ว

สวัสดีวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังมือถือเลือก FM 97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsaen  ฟังทาง youtube พิมพ์ รวยด้วยข่าว 97.0-วัน/เดือน/ปี #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand

ช่วงที่ 1 ผู้นำ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมจะมาเล่าเรื่องราว 4 ประเด็นฮ็อตของ ทอท.มีแผนปฏิบัติการเดินหน้าอย่างแจ่มชัดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทุก ๆ มุม
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงประเด็นใน 4 ฮ็อต เริ่มจาก 1.การเดินหน้าใช้กฎเหล็กมาปฏิบัติในทุกสนามบินเพื่อตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสารทุกคนก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อทำให้ไทยพ้นจากธงแดงของ “องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ : International Civil Aviation Organization : ICAO
2.แผนปฏิบัติการฉบับใหม่ถอดด้ามเพื่อรับมือเที่ยวบินทะลักผู้โดยสารล้นสนามบิน 3.ผลการประมูล “พื้นที่เชิงพาณิชย์ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง ขนาด 2,510 ตารางเมตร ล่าสุด บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ชนะประมูลรอรายงานที่ประชุมบอร์ด 23 สิงหาคม นี้ และ 4.การเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา INDOCHINA AVIATION CONFERENCE 2017 ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2560
ดร.นิตินัย เปิดเผยว่า ประเด็นแรก “การประกาศใช้กฎเหล็กของ ICAO ตามแนวทางของคนวงการบินจะคุ้นชินกับศัพท์เฉพาะด้านการดูแลความปลอดภัยในท่าอากาศยานนานาชาติ” ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกันอยู่ 2 คำ คือ คำแรก USOP คือการตรวจเรื่อง Safety ส่วน อีกคำคือ USAP การตรวจเรื่อง Security ซึ่งเป็นอันตรายซึ่งเกิดจากการกระทำของคนทางจึงต้องพุ่งเป้าให้ความสำคัญการตรวจวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สนามบินต่าง ๆ ซึ่งทั่วโลกจะพูดกันถึง การก่อการร้าย ขู่ระเบิดขึ้นเครื่อง เรื่องเหล่านี้แต่ละสนามบินต้องมีมาตรการจัดการอย่างเป็นระบบ
ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2560 ทางทีมของ ICAO มาตรวจทานการทำงานของรัฐ เรื่อยไปจนถึงการตรวจเจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติการประจำสนามบิน ระหว่างเดินทางมาตรวจในไทย ICAO ได้ขอตรวจการทำงานของ 2 สนามบินเรื่อง Security ทั้งหมด โดยลงมาดูของจริงหลังจากให้เอกสารเป็นคู่มือปฏิบัติมาแล้ว ซึ่งมีกำหนดไว้ประมาณ 460 ข้อ ซึ่ง ทอท.ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด
ดังนั้น ทอท.จึงขอให้ “ผู้โดยสารทุกคน” ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สนามบิน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.อุปกรณ์การใช้ภายในสนามบิน ICAO ได้มาดูวิธีการใช้งานของคนถูกต้องตามกระบวนการ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีใบรับรองจากหน่วยงานกำกับการผลิตมาเรียบร้อยแล้ว แต่ในสนามบินนั้น ICAO มาดูกระบวนการตรวจเช็คสัมภาระผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง แนะนำเป็นข้อท้วงติงเล็กน้อย เช่น ให้หมุนเวียนพนักงานตรวจเช็คที่นั่งทำงานต่อเนื่องนาน ๆ อาจเกิดความล้าได้
ทอท.ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในระหว่างที่ ICAO เดินทางมาตรวจสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ทั้งจากผู้ใช้บริการและหน่วยงานที่ทำงานร่วมกันอย่าง บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานต่าง ๆ
สำหรับการฝ่าฝืนกฎทางด้านการนำวัตถุต้องห้ามขึ้นเครื่อง เนื่องจาก สนามบินที่ ทอท.ดูแลมีผู้โดยสารใช้งานปีละกว่า 120 ล้านคน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีผู้ฝ่าฝืนอยู่บ้างแต่จำนวนไม่มาก ปัจจุบัน ทอท.จึงได้พยายามทำโครงการอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระเพื่อใช้ความสุภาพในงานบริการผู้โดยสารทุกคน โดยมีจุด “เช็คพอยต์” เป็นจุดที่จะต้องติดต่อกับผู้โดยสารในสนามบินมีอย่างต่ำ 10 จุด อาทิ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ และอื่น ๆ
ทอท.เริ่มกระบวนการนี้แห่งแรกใน “ดอนเมือง” เพราะจำนวนผู้โดยสารมากปีละกว่า 120 ล้านคนนั้น ย่อมมีบางคนไม่เข้าใจ แต่ก็พยายามสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยมีสัญลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ผู้ผ่านการอบรมมาตรการบริการมาเป็นอย่างดีแล้วจะมี “รูปหัวใจติดอยู่” เพื่อบอกว่าพร้อมให้บริการอย่างดีแก่ทุกคน

ประเด็นที่ 2 “แผนปฏิบัติการรับมือผู้โดยสารล้นทะลักอันเนื่องมาจากเที่ยวบินมาลงพร้อมกัน ทำให้เกิดปัญหาคอขวดเรื่องการตรวจหนังสือเดินทางเข้าเมืองล่าช้าใช้เวลายาวนานมาก” ซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้นที่ดอนเมืองจนกลายเป็นกระแสโซเชียลนั้น
ดร.นิตินัยอธิบายว่าจะแยกเป็นส่วน เพราะสนามบินแต่ละแห่งจะมี “หน่วยงานรับผิดชอบ” ขึ้นตรงต่างกันไป เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้ให้บริการขนสัมภาระกระเป๋าเข้า-ออกแต่ละเที่ยวบินจะมีสายการบินรับผิดชอบกันเอง ส่วน ทอท.ดูแลเรื่องสายพานกระเป๋าต้องไม่ขัดข้องหรือต้องไม่มีขโมย สะท้อนว่าในสนามบิน ทอท.เป็นเจ้าบ้านมีลูกบ้านอีกหลายหน่วยงานแต่แน่นอน ทอท.ก็ต้องถูกวัดและประเมินผล
ส่วนแผนรับมือกรณีหากเกิดผู้โดยสารทะลักอาคารขาเข้า ล่าสุดทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้จัดทำแผนปฏิบัติการ “เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และเคาน์เตอร์” ใหม่แล้วอีก 14 จุด ทอท.ก็อำนวยความสะดวกเต็มที่ และ ทอท.ในฐานะเจ้าบ้านดูแล 6 สนามบิน ได้สั่งการให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกสนามบินจัดทำ “คู่มือปฏิบัติ” กำหนดเบื้องต้นทำ Early Warning กับสัญญาณเตือน หรือ Alarm โดยดูขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนได้เต็มที่ 1,000 คนต่อชั่วโมง
 ซึ่งแต่ละวันเมื่อพบข้อมูลสายการบินเตรียมนำผู้โดยสารเข้าใกล้เส้น 1,000 คนก็ต้องรีบเข้าตามแผนที่ 1 ได้แก่ แจ้ง ตม. ทีมขนย้ายกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารแต่ละเที่ยวบิน เพราะคงจะไม่ใช้การตัดสินใจตามวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่แต่ละคน เพราะบางคนเคยใช้วิธีดังกล่าวซึ่งล่าช้าเกินไปที่จะรับมือได้ และยังต้องใช้หลักปฏิบัติสากลอย่าง SOP : Standard Operating Procudureในหลายรูปแบบมาใช้รับมือตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดอนเมืองเมื่อครั้งก่อนนั้น ทอท.ต้องขออภัยผู้โดยสารทุกคน เพราะการลงจอดล่าช้าแล้วย้ายจากที่อื่นมาลงดอนเมืองพร้อมกันถึง 25 เที่ยวบิน ทำให้ผู้โดยสารคับคั่งเต็มสนามบินขาเข้าเมืองไทย
ประเด็นที่ 3 “ผลการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง” ขนาดพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร ระยะเวลาสัมปทานให้เอกชนผู้ชนะประมูลดำเนินธุรกิจ 10 ปี
ดร.นิตินัย กล่าวว่าโครงการประมูลดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ครั้งนี้ ทอท.ได้กำหนดราคากลางไว้ที่ 6,000 บาท/ตารางเมตร มีเอกชนสนใจยื่นประมูล 4 ราย โดยตกคุณสมบัติไปเกี่ยวกับแบงก์การันตี 1 ราย เหลือแข่งขันกัน 3 ราย ส่วนรายชื่อผู้ชนะคือ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เสนอจ่ายผลตอบแทนราว 9,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายที่ 2 เกือบ 1 เท่า และสูงกว่าราคากลางของ ทอท.เกือบ ครึ่งเท่าเช่นกัน ขณะที่รายที่ 3 เสนอจ่ายผลตอบแทนต่ำกว่าราคากลาง
ดังนั้นผลสรุปในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณารายได้ ทอท.ซึ่งมีผม “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นประธาน มีมติให้เสนอชื่อบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ในฐานะเอกชนผู้เสนอจ่ายผลตอบแทน ทอท.สูงสุดให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 23 สิงหาคม 2560
ตามขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อให้เอกชนผู้ชนะการประมูลรับสิทธิ์บริหารพื้นที่ คือ 1.หลังจากที่ประชุมบอร์ด ทอท.มีมติเรียบร้อยแล้ว 2.ทอท.จะจัดทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ชนะการประมูลรับทราบอย่างเป็นทางการ พร้อมกับให้เวลา 90 วัน เข้ามาตกแต่งพื้นที่และเริ่มดำเนินธุรกิจ หากผู้รับสัมปทานสามารถตกแต่งแล้วเสร็จก่อน 90 วัน ก็สามารถเปิดบริการเร็วขึ้นได้ ภายใต้กรอบสัญญาสัมปทาน 10 ปี
ดร.นิตินัยย้ำว่าการเปิดประมูลโครงการดังกล่าว ได้ยึดระเบียบปฏิบัติเรื่องความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะตลอดกระบวนการแต่ละขั้นตอนการพิจารณารายชื่อผู้ยื่นประมูลโครงการพื้นที่เชิงพาณิชย์ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง ทาง ทอท.ได้ทำหนังสือเชิญหน่วยงานกลางมาร่วมมอนิเตอร์การประมูล รวมถึงให้จัดทำบันทึก VDO ไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันความกังขาจากทุกฝ่าย จึงขอยืนยันถึงการทำงานของคณะกรรมการประมูลเน้นความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม

ประเด็นที่ 4 “ทอท.เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนา “Indochina Aviation Conference 2017” ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2560 ในประเทศไทย เป็นผลมาจากในภูมิภาคอาเซียนอุตสาหกรรมการบินเติบโตแบบก้าวกระโดดมาก แตกต่างจากก่อนหน้านี้มีเพียงประเทศระดับเศรษฐกิจจากอเมริกา ยุโรป เป็นส่วนใหญ่ที่ครองธุรกิจการบิน ต่อมาเมื่อครึ่งทศวรรษนี้มีนักธุรกิจในกลุ่มอินโดจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินมากขึ้น
รวมถึง “ดอนเมือง” เป็นสนามบินรองรับตลาดการบินโลว์คอสต์หรือสายการบินต้นทุนต่ำ หลังเหตุการณ์มหาพิบัติภัยน้ำท่วมใหญ่ปี 2555-2559 ดอนเมืองกลายเป็นสนามบินโลว์คอสต์ขนาดใหญ่ติดอันดับโลก และเป็นสนามบินศูนย์กลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงต้องหันมาพัฒนาความร่วมมือกับเพื่อนบ้านทั้งทางด้านบริการ การตลาด ซึ่งเป็น 1 ใน International Forum ที่ ทอท.ผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้ ทอท.เป็นตัวแทนรัฐวิสาหกิจการบินของไทยยกระดับให้ประเทศเป็นผู้นำอาเซียน
สำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนทางการบินในงาน “Indochina Aviation Conference 2017” ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เกี่ยวข้องจากวงการบินประเทศแถบอินโดจีน CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม
ขณะที่โครงการความร่วมมือก่อนหน้านี้ ทอท.ได้เข้าไปบุกเบิกความสัมพันธ์กับองค์กรบริหารสนามบินใน CLMV ไว้บ้างแล้วนั้นจะขยายความก้าวหน้าโดยวางตำแหน่ง “สนามบินของไทย” เป็นตัวแทนการแข่งขันในเวทีโลก ซึ่งทำหน้าที่กันไปกับความร่วมมือกับคู่แข่งด้วย ทอท.จึงลงนาม MOU ร่วมมือเป็น Sister Airport กับ 15 สนามบินนานาชาติ ทำ Brenchmark ชัดเจน แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิดเป็นทางการ แลกเปลี่ยนการดูงานที่มีความโดดเด่นเพื่อนำมาพัฒนาให้กลายเป็นจุดแข็งของสนามบินเมืองไทย
โดยได้แลกเปลี่ยนตั้งแต่ระดับสากลโลกสนามบินเมืองเท็กซัส (สหรัฐอเมริกา)  มิวนิค (เยอรมัน) ล่าสุดก็ขยับมาใกล้บ้านใน CLMV เพราะต่างก็มี knowhow หรือต้องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน รวมถึงการเริ่มต้นในบางเรื่องก่อนก็จะมีความโดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อย่าง สปป.ลาว เมียนมา มีวัฒนธรรมที่ดี แต่ต้องการให้ไทยช่วยสนับสนุนทางด้านมาตรฐาน คู่มือระเบียบการบิน เทคโนโลยีบางอย่าง เป็นความร่วมมือแลกเปลี่ยนกันอย่างมีนัยสำคัญเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งหมด
สำหรับ ทอท.เมื่อปักหมุด SISTER AIRPORT กับ CLMV ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศไทย และการสัมมนาครั้งนี้ก็จะประกาศเรื่องไทยจะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายการบินภูมิภาคอาเซียน
ทั้ง 4 ประเด็นฮ็อต ที่ผู้นำ ทอท.นำเสนอนั้น จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น หากคนไทยทำความเข้าใจแล้วช่วยกันคนละไม้ละมือ “สนามบินเมืองไทย” จะก้าวไปได้ไกลทัดเทียมการเป็นศูนย์กลางการบินเชื่อมทุกมุมโลกเข้าด้วยกันได้

ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ลดแจกคนไทยและสมาชิกตลอส.ค.”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำร้านค้าดิวตี้ฟรีเมืองไทย จัดเต็มกิจกรรมที่พร้อมจะมอบให้ “ลูกค้าคนไทย และสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์” รับส่วนลด 500 บาท (สำหรับการซื้อสินค้า 2,000 บาทขึ้นไป (Gross Sales) / ใบเสร็จรับเงิน) พร้อมทั้งลุ้นรับคืนสูงสุด 10,000 บาท เมื่อช็อปครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ)
สำหรับรายการลุ้นรับคืนสูงสุด 10,000 บาท สมาชิกที่ได้รับของรางวัลที่มีมูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป จะต้องชำระค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% โดยรายการผ่อนชำระ สามารถร่วมรายการได้
รวมทั้งยังให้ฟรี! Kipling Backpack 1 ใบต่อคนต่อวัน เมื่อช็อปสินค้า 1.ช็อปครบ 35,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ที่สาขา คิง เพาเวอร์ Pop-Up Store และ ศรีวารี หรือ 2.ช็อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับกระเป๋า Kipling Backpack 1 ใบ ที่สาขา คิง เพาเวอร์ พัทยา และภูเก็ต
วิธีรับกระเป๋า Kipling Backpack เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าทางคิง เพาเวอร์จึงขอสมาชิกไปรับ ณ จุด Pick Up Counter ท่าอาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ตเท่านั้น

ข่าวที่ 2 “ปิดสยามฯจัดGastronomy-10ร้านดังรุกขายข้าว”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งแระเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้จัดมหกรรม "Thailand Live Gastronomy-เทศกาลอาหารเพื่อการท่องเที่ยวแบบถึงราก...ถึงโคน" โดยร่วมกับภาคีพันธมิตรคัดสรรอาหารร้านดังมาต่อยอดอาหารถิ่น 5 ภูมิภาค ระหว่าง 25-27 สิงหาคม 2560 เวลา 11.00-21.00 น.ณ บริเวณ สยามสแควร์ซอย 7 โดยได้เชื่อมเโยงแหล่งวัตถุดิบอาหารจากแต่ละแหล่งพื้นที่ มาเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสความอร่อย ให้สมกับที่ทั่วโลกยกย่องอาหารไทย
จากผลสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ อาหารไทย 7 ชนิดติดอันดับโลก การจัดงานนี้เพื่อรักษาและต่อยอดอาหารไทยก้าวไกลไปข้างหน้า เป็นกลยุทธ์สำคัญของการเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่น ภายในงานจะเน้นความสด มีชีวิตชีวา ดึงความสนใจให้คนหันมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้
ตลอดงาน 3 วัน ได้ปิดสยามสแควร์ โเยไเแยกโซน
1.The Original Zone เป็นการคัดสรรร้านชั้นนำต้นสายความอร่อยกว่า 30 ร้านค้า

 2. Food Street คัดสรรร้านอาหาร ร้อยเอ็ด เจ็ดย่านความอร่อย จากร้านอาหารริมทางสุดอร่อย เมนูคัดพิเศษจาก 7 ย่าน Street Food ชื่อดังทั่วกรุงเทพมหานครกว่า 42 ร้าน

 3.Seafood นำอาหารทะเลของหมู่บ้านชาวประมงภาคใต้ ที่จับเอง ขนเอง ขายเอง มาให้รับประทานกันแบบสด ๆ รวมกว่า 6 ร้าน

 4.Thailand Signature ประกอบด้วย Signature คือ ต้มยำกุ้ง, ผัดไทย, ส้มตำ, แกง (แกงเขียวหวาน แกงมัสมั่น และต้มข่าไก่) และ โมดิฟายตุ๊กตุ๊ก เป็น Food Truck 4 คัน เพื่อรองรับ Signature

 5.Gastronomy Innovation นำนวัตนกรรมการทำอาหารไทยด้วยศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงมาสาธิตให้ชม โดยเชฟผู้เชี่ยวชายชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงด้าน Molecular Gastronomy คือ Chef Jacobo Astray, Chef FABIO FIORELLI และมีเชฟไทยชื่อดังคอยดูแลอย่างใกล้ชนิด Chef Nutthapol (Nick)

6. Thai Fruits นำผลไม้นานาชนิด และผลไม้ไทยพื้นเมืองหายาก จากชาวสวนแท้ ๆ มาเปิดร้านให้ชิมกว่า 6 ร้าน

 7.Organic Food รังสรรอาหารที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ทำให้เกิดผลผลิตที่เติบโตตามธรรมชาติอย่างแท้จริง มาไว้ในงานด้วยกว่า 6 ร้าน

 8. All About rice คัดเลือกนำข้าวไทยในรูปแบบข้าวสาร และเมนูข้าวสารพัดข้าว และนิทรรศการข้าวไทย มาให้ชิมอีกกว่า 6 ร้าน

9. Live Performance จัดกิจกรรมสไตล์บันเทิง 4 แนว ได้แก่ โชว์มวยไทย (องค์บาก), การแสดงของศิลปินนักร้อง การแสดงเป็นวงดนตรี และการแสดงสไตล์สนุกสนาน

นางธนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่าได้รับโจทก์ใหญ่เรื่อง "ข้าว" ทำเป็น RICE LIST จึงได้รวบรวมข้าวไทยแต่ละสายพันธุ์คือ สังข์หยด ลืมผัว และอื่น ๆ อีกหลายพันธุ์ เข้าสู่ร้านอาหารที่เป็นสมาชิกภัตตาคารไทย ซึ่งข้าวแต่ละชนิดดังกล่าวได้แหล่งผลิตใน อตก.พร้อมทั้งได้ไปชวน 10 ร้านอาหาร คิดค้นเมนูเพื่อออกแบบข้าวที่สามารถกินร่วมกับแกงแต่ละชนิดได้รสชาติอร่อยที่สุด

ในงาน "Thailand Live Gastronomy-เทศกาลอาหารเพื่อการท่องเที่ยวแบบถึงราก...ถึงโคน" ทางสมาชิกร้านอาหารดัง 10 แห่ง จะนำเมนูอาหารพร้อมข้าวสวยสายพันธุ์ต่าง ไปตั้งให่ชิมรสชาติ ทำความรู้จักกับสายพันธุ์ข้าว ประกอบด้วย
1 ร้านอาหารบลูไรซ์ กาญจนบุรี ข้าวหอมมะลินิลและแกงมัสมั่น
2 ร้านอาหารพรไพลินริเวอร์ไซด์ กาญจนบุรี ข้าวกล้องไรซเ์บอรี่และแกงฮังเล
3 ร้านครัวคุณกุ้ง ข้าวกล้องหอมมะลิและต้มข่าไก่
4 ร้านครัวริมน้ำท้ายเกาะ ปทุมธานี ข้าวกล้องหอมมะลินิลและแกงเขียวหวานไก่
5 ร้านครัวเจ๊ง้อ ข้าว5สีผัดปลาแซลมอนเค็ม และข้าว5สีอบเผือก
6 ร้านภัตตาคารมังกรหลวง ข้าว 5 สีและข้าวเหนียวลืมผัวกับแกงส้มชะอมกุ้งและปลาสลิดทอด
7 ร้านครัวกล่องทิพย์ ข้าวเหนียวลืมผัวกับไก่ทอดแซ่บและซุปต้มยำ ข้าวหอมมะลินิลกับหมูผัดกะปิและซุปเต้าหู้
8 ร้านส้มตำคุณกัญจณ์ ข้าวเหนียวลืมผัวกับส้มตำไทย
9 ร้านนิตยาไก่ย่าง ข้าวเหนียวลืมผัวกับไก่ย่าง
10 ร้านอาหาร Bottom Up ข้าวไรซ์เบอรี่กับสเต๊กปลาแซลมอน
10 ร้านอาหารชื่อดังจะนำอาหารดังกล่าวมาจำหน่ายในงาน เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้ข้าวไทย เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถมีการจัดทำ Rice List หรือเมนูข้าวต่างๆเช่นเดียวกับอาหารไทยได้ในอนาคต และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy Tourism และ Gastronomy Hub ของไทยได้ในอนาคตทาง ทั้งนี้สมาคมภัตตาคารไทย จะสนับสนุน และผลักดันให้มีร้านอาหารไทยเพิ่มมากขึ้นในการเข้าร่วมโครงการ Rice Listในอนาคตอีกด้วย

ทางด้าน “เชฟนิค-ณัฏฐพล ภวไพบูลย์” ได้อธิบายความหมายของ Gastronomy ว่า คือศาสตร์การทำอาหาร ซึ่งนำมาจากแหล่งปรุงด้วยส่วนผสม โดยมีส่วนพิเศษในการใช้ foodscience ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรุงแต่ละเมนู โดยจะโชว์วิธีการทำให้ชมกันในงาน Thailand Live Gastronomy วันละ 3 รอบ รอบละ 40 คน และเปิดให้แลกเปลี่ยนมุมมองเสนอเรื่องนวัตกรรมอาหารใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นศาสตร์การทำอาหารใหม่ ๆ โดยมีเชฟ Gastromy Expert ต่างประเทศมาสาธิตให้ชมทุกวัน
เมนูไฮไลต์คือ “ไอสครีมแกงเขียวหวาน ที่เรียกว่า “Molecular” นำส่วนผสมของแกงเขียวหวานไทยใช้ไฮโดรเจนในปริมาณเบาบางทำในเชิงเทคนิคให้เกิดการแข็งตัวเป็นไอศรีม นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการทำอาหารนวัตกรรมใหม่อีก 5-6 เทคนิคด้วย

ข่าวที่ 3 “บางจากลุยปิโตรเคมี-แบตลิเทียมรับเทรนด์อนาคต”
นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโรงกลั่นและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BCPW  กล่าวว่า บางจากอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีในไทยและอาเซียน โดยอาจจะตั้งโรงงานใหม่ หรือการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายใน 4-5 ปีข้างหน้า เป็นการวางแผนลงทุนรองรับอนาคตการเติบโต หลังจากกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เริ่มเข้ามามีบทบาทและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จึงอาจจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันและยอดขายน้ำมันช่วง 10 ปีข้างหน้า
การเลือกพื้นที่ลงทุนปิโตรเคมีในอนาคตของบางจากจะต้องพิจารณาถึงความต้องการ (demand) และปริมาณการผลิต (supply)ให้สอดคล้องกัน ส่วนการศึกษาความเป็นไปได้คงจะไม่สามารถใช้พื้นที่บริเวณโรงกลั่นบางจากได้ เพราะมีขนาดเล็กและต้องประเมิผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ BCP กล่าวว่า ในอนาคต 5-15 ปีข้างหน้า ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แต่บางจากเองก็ได้เพิ่มช่องทางการลงทุนในธุรกิจลิเทียมเพื่อรองรับการทำแบตเตอรี่ลิเทียมในรถยนต์ไฟฟ้า โดยได้เข้าถือหุ้น 16.1% ใน Lithium Americas Corp. (LAC) ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาเหมืองลิเทียมในอาร์เจนตินาคู่ขนานไปด้วยกัน

ข่าวที่ 4 “แชะแชร์Roadtripทั่วไทยกับบางจากลุ้นรับแสนห้า”

บริษัท แบงค์คอกไรเตอร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด รายงานว่า  บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เครือข่ายพันธมิตรวันธรรมดา น่าเที่ยว ประกาศจับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน ระหว่างวันที่ 28 ส.ค.  – 10 ก.ย. 2560 จัดกิจกรรม “Amazing People” เติมความสุขทุกเส้นทางกับเส้นทางสุดอะเมซิ่ง Roadtrip ทั่วไทย ตลอดเส้นทางเชิญชวนนักท่องเที่ยว “แชะ” ภาพประทับใจแล้ว “แชร์” ให้ทุกคนได้เห็น เพื่อลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ มอบบัตรสมาชิกบางจากพร้อมคะแนน เพื่อใช้เติมน้ำมัน รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มูลค่ารวมถึง 150,000 บาท
ลุ้นรับรางวัลได้ตามขั้นตอนดังนี้
1.อัพโหลดภาพของคุณ ผ่านเว็บไซต์ www.bangchakroadtrip.com
2.อัพโหลดภาพตามโจทย์ กิจกรรม: Amazing People เริ่ม 28 ส.ค.  – 10 ก.ย. 2560
3. เลือกกรอบที่ใช่ พร้อมติดสติ๊กเกอร์น้องจริงใจ หรือ น้องข้าวกล้องเพื่อตกแต่งรูป
4. แชร์หรือโพสต์ภาพ Amazing Roadtrip ของคุณ ผ่าน Facebook และ/หรือ Instagram ของคุณ (กรุณาตั้งค่าเป็น Public)
5.Hashtag #BangchakAmazingRoadtrip และ #AmazingRoute เพื่อลุ้นรับรางวัล

ลุ้นรับ 3 รางวัล ได้แก่
รางวัลที่ 1 บัตรสมาชิกบางจากพร้อมคะแนนเพื่อเติมน้ำมัน รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มูลค่า 10,000 บาท 1 รางวัล
รางวัลที่ 2 บัตรสมาชิกบางจากพร้อมคะแนนเพื่อเติมน้ำมัน รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มูลค่า 5,000 บาท 2 รางวัล
รางวัลที่ 3 บัตรสมาชิกบางจากพร้อมคะแนนเพื่อเติมน้ำมัน รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มูลค่า 3,000 บาท 10 รางวัล

ช่วงที่ 2 ตามไปชม “ศูนย์ศิลปาชีพเนินธัมมัง นครศรีธรรมราช” สถานที่พลิกชีวิตความยากจนให้เป็นชุมชนเข้มแข็งที่มีอาชีพทอผ้าและชุดโขนอย่างมั่นคง ส่วนเรื่องสุขภาพหน้าฝนกับ 7 วิธีขับรถอย่างปลอดภัย และข่าววิเคราะห์เหตุใด 4 แอร์ไลน์แถวหน้าของไทยถึงหายใจไม่ทั่วท้อง ขาดทุนท่วมกำไรน้อยนิด และการเร่งเปิดเงื่อนไขให้เอกชนมาลงทุนตามกรอบ PPP ในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก EEC

@ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง นครศรีธรรมราช

สถานที่ยังประโยชน์ได้หลายอย่างไปพร้อม ๆ กัน ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว การศึกษาเรียนรู้ ดูงานกลุ่มประชุมสัมมนา ในโครงการพระราชดำรินั้นมีอยู่ทั่วประเทศ
เช่นเดียวกับ “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” ในตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช กว่า 23 ปีที่ผ่านมา ในช่วง พ.ศ. 2537 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้ก่อตั้งโครงการ “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” เพื่อลดปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียง
พระอง์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ก่อสร้างศิลปาชีพขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ราษฎรายได้เพิ่มขึ้น ต่อมาในปี 25=h40 พระองค์ทรงมีพระราชเสาวีนีย์ให้ก่อสร้างอาคารศิลปาชีพหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเก่า เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นห้องโถงเปิดโล่ง ใช้พื้นที่เปฏิบัติงานของ “กลุ่มทอผ้า” ส่วนชั้นบนเป็น “ห้องทรงงานส่วนพระองค์”
จากนั้นปี 2547 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้เชี่ยวชาญการทอผ้ายกมาฝึกสอนจนสามารถ “ทอผ้ายกเมืองนคร” ได้อย่างสวยงาม สมาชิกสามารถทอผ้ายกตามแบบราชสำนักที่ได้รับการฟื้นฟู ถูกต้องตามองค์ประกอบของผ้าโบราณ ซึ่งนำมาใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ๆ ในราชสำนัก และยังสามารถ “ทอผ้ายกสำหรับโขน” เพื่อใช้ในการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติในสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

ซึ่งทางสวนจิตรลดาจะส่งเส้นด้ายและเส้นไหมทองมาให้ แล้วทางกลุ่มจะทำการทอผ้าส่งกลับไปเพื่อนำไปตัดเป็นชุดโขน ซึ่งเป็นลายพุ่มข่าวบิณฑ์เล็ก ใช้คนทอกี่ละ 5-6 คน แต่ละผืนยาว 3.50 เมตร บางผืนทอขึ้นเพื่อนำทูลเกล้าถวายฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อใช้เป็นฉลองพระองค์
นอกจากนั้นศูนย์ศิลปาชีพแห่งนี้ยังส่งเสริมให้ชาวบ้านทำนา ปลูกปาล์ม เลี้ยงปลา จักสานกระจูด ด้วย
เรื่องน่ารู้ใน “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” ที่สอนการผลิตสินค้าสร้างรายได้จาก“ต้นกระจูด” จากพืชพื้นบ้าน ลักษณะต้นกลมสีเขียวอ่อน ชอบขึ้นในน้ำขัง ทว่าสามารถนำมาแปรรูปออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใช้สอยรูปลักษณ์สวยงามทั้ง กระเป๋า ตะกร้า เสื่อ และของที่ระลึกต่าง ๆ

ส่วน “กิจกรรม” เมื่อไปถึงแล้วต้องทำคือ ชมการทอผ้าผืนและปักผ้าด้วยมือ การทอผ้ายกดอกเมืองนคร และ เยี่ยมชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด พร้อมกับซื้อกลับบ้าน อุดหนุนชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และหากสนใจก็สามารถฝึก ทอผ้าอย่างง่าย ๆ หรือทดลองจักสานเสื่อกระจูดกับชาวบ้านซึ่งยินดีสอนวิธีทำให้แก่นักท่องเที่ยวหรือคณะที่แวะไปดูงานทุกกลุ่มได้เรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านไปด้วยกัน
เป็นการท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่นที่ได้ประโยชน์ทั้งต่อตนเองและช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดกับสินค้าพื้นบ้านของคนไทย
สนใจไปท่องเที่ยว ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง นครศรีธรรมราช โทร. 081-678-7668

@7 วิธีขับรถหน้าฝนปลอดภัยต่อสุขภาพ
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนนี้ หลายพื้นมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในบางพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง จึงขอแนะนำการขับขี่ยานพาหนะของประชาชน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ 7 วิธี ดังนี้
1.เปิดไฟหน้ารถเสมอ โดยเปิดไฟต่ำ เพื่อช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นมองเห็นรถได้จากระยะไกล
2.เปิดใบปัดน้ำฝน โดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนตก
3.ลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ
4.ให้ทิ้งระยะห่างจากคันหน้า เพราะสภาพถนนที่เปียก ลื่น ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น
5.หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ ระยะทางข้างหน้า ความเร็วและระยะห่างของรถที่กำลังวิ่งตามกันในช่องจราจรซ้ายขวา
6.รถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำได้ ให้ลดความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
7.เมื่อต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขังให้หยุดประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกสูงกว่าขอบประตูรถไม่ควรขับฝ่าไป ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ทั้งนี้ หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันที โทร.1669
          สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.

สำหรับข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “4แอร์ไลน์ไทยครึ่งปีแรกหืดขึ้นคอ”
ช่วงเดือนสิงหาคม 2560 บริษัทกลุ่มสายการบินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เข้าสู่ฤดูแถลงผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2 และสถานการณ์ครึ่งปีแรก เพื่อแจกแจงรายได้ กำไร ขาดทุน  ผลปรากฏว่า 4 สายการบินแถวหน้าของเมืองไทย คือ “การบินไทยกับนกแอร์” กอดคอกันขาดทุนอื้อซ่า ส่วน “ไทย แอร์เอเชีย” ผู้นำโลว์คอสต์ของภูมิภาคเอเชีย กับ “บางกอกแอร์เวย์ส” ผู้นำบูติกแอร์ไลน์ส ทำกำไรได้บางเฉียบมาก

ไทยแอร์เอเชียกำไรหดเหลือแค่310ล้าน
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 ยังคงเติบโตตามแผนที่วางไว้ทำรายได้รวม 8,336 ล้านบาท กำไรสุทธิ 310 ล้านบาท เมื่อรวมรายได้ตลอดครึ่งแรกปี 2560 ไทยแอร์เอเชียมีรายได้รวม 17,486 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,346 ล้านบาท
ช่วงครึ่งปีหลังไทยแอร์เอเชียตั้งเป้าหมายรับฝูงบินใหม่อีก 3 ลำ ทำให้มีจำนวนครบ 57 ลำ สอดรับกับโอกาสและการเติบโตในธุรกิจ ตั้งเป้าเพิ่มอัตราบรรทุกขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยไว้ 88% จากเป้าจำนวนผู้โดยสาร 19.5 ล้านคน
ทั้งนี้กำไรสุทธิของไทยแอร์เอเชีย เปรียบเทียบลดลงต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

บางกอกแอร์ครึ่งปีกำไรพองาม 44 ล้านบาท
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2560 มีรายได้รวม 13,451.2 ล้านบาท ลดลง 2.7  %  มีกำไรสุทธิ 44.4 ล้านบาท แต่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3.5 % อัตราบรรทุกโดยสารเฉลี่ย 67.1 %
เฉพาะไตรมาส 2 ปี 2560 ทำรายได้ 5,982.2 ล้านบาท ลดลง 1.2 %  เพราะการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ทำให้ราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ยลดลง และมีอัตราบรรทุกโดยสารเฉลี่ย (Load Factor)  62.7 % สร้างรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารต่อหน่วย (Passenger Yield)  4.25 บาท ลดลง 8.3 %  รวมทั้งราคาน้ำมันสูงขึ้น
แต่จำนวนผู้โดยสารไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 4.5 % จากสัดส่วนจุดขายบัตรโดยสาร (Point-of-Sale) ในประเทศจีนที่เติบโตสูงขึ้น 59.4 % จากช่วงเดียวกันกับปี 2559 เพราะมีเที่ยวบินตรงระหว่างสมุย-เฉิงตู (จีน) เมื่อกรกฎาคม 2559 และเปิดบินตรงระหว่างสมุย-กวางโจว (จีน) เมื่อเดือนมกราคม 2560 เป็นต้นมา

บินไทยครึ่งปี’60ขาดทุนสาหัส 5,208 ล้านบาท
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 การบินไทยและบริษัทย่อยขาดทุนขาดทุนสุทธิ 5,208 ล้านบาท เฉพาะจากการดำเนินงานธุรกิจการบิน (Operating Loss) ขาดทุน 1,542 ล้านบาท (ต่ำกว่าปีก่อน 13.5%) สาเหตุจาก 1.ค่าน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงกว่าปีก่อน 20.1% 2.รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยต่ำกว่าปีก่อน 10.9% จากการแข่งขันที่รุนแรงและการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมัน (Fuel Surcharge) ถึงแม้จะมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารสูงสุดในรอบ 10 ปี

ส่วนผลการดำเนินงานของการบินไทยและบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ปี 2560 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เนื่องจาก 1.รายได้จากค่าโดยสารและน้ำหนักส่วนเกินเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่ม 21.9% 2.ค่าระวางขนส่งและค่าไปรษณียภัณฑ์เพิ่มขึ้นจากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน 3.การบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากค่าซ่อมบำรุงของฝ่ายช่างเพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายรวมก็สูงถึง 46,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เพราะค่าน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 527 ล้านบาท (4.5%) จากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 20.1% แถมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าน้ำมันก็เพิ่ม 3,390 ล้านบาท (11.3%) ตามปริมาณการผลิต และปริมาณการขนส่งที่เพิ่ม รวมทั้งค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยานเพิ่มขึ้น

นกแอร์ระส่ำไม่หยุด “ขาดทุน-บอร์ดทยอยลาออก”
บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) รายงานตลาดหลักทรัพย์ระว่า ไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,669.87 ล้านบาท ขาดทุนรวม 748.97 ล้านบาท จากบริษัทใหญ่ 649.69 ล้านบาท และจากส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 99.28 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรกขาดทุนรวม 909 ล้านบาท
มาจาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1.ต้นทุนการดำเนินงานสูงกว่ารายได้ค่าโดยสาร2.ต้นทุนค่าให้บริการ 3.ราคาน้ำมันอากาศยาน
 ล่าสุดบริษัทสายการบินนกแอร์มีมติอนุมัติเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 พิจารณาอนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัท 114 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,406,250,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,292,249,882 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทจำนวน 114,000,118 หุ้น และในส่วนของคณะกรรมการนกแอร์ยังได้ทยอยลาออกตั้งแต่นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ ตามมาด้วย นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ขอลาออกจากกรรมการและกรรมการชุดย่อยของนกแอร์ หลังจากเป็นตัวแทน บมจ.การบินไทยส่งเข้ามาร่วมเป็นบอร์ดอยู่เกือบปีครึ่ง

ข่าวที่สอง “รัฐเร่งเปิดทีโออาร์ดึงเอกชนร่วม PPPในEEC”
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(กรศ.) กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 ให้โครงการศูนย์ซ่อม บำรุงอากาศยานอู่ตะเภา โดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)เป็นโครงการ ย่อยภายใต้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก รวมทั้งจะต้องเลือกรูปแบบการลงทุนแบบ Public Private Partnership : PPP คือการร่วม ทุนรัฐและเอกชน
ตามนโยบายการลงทุนแบบ PPP ในโครงการเมืองการบินภาคตะวันออก จะเปิดให้เอกชนร่วมทุนกับรัฐ 6 กลุ่มกิจกรรม ประกอบด้วย 1.กลุ่มอาคารผู้โดยสารหลังที่สาม 2.กลุ่มศูนย์ธุรกิจการค้า 3.กลุ่มธุรกิจกิจอุตสาหกรรมอากาศยาน ได้แก่ เขตการค้าเสรีเพื่อประกอบการค้าและอุตสาหกรรม 4.กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศยาน 5.โลจิสติกส์กลุ่มธุรกิจซ่อมเครื่องบิน 6.ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบิน
ส่วนการสรุปขั้นตอนแนวทางร่วมทุนตามกรอบ PPP ก็เพื่อเร่งโครงการให้เดินหน้าอย่างรวดเร็วตามแผนงานในการสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมายนำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 3,500 ล้านบาท ควบคู่การเสริมสร้างเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชีย ที่มีทั้งโรงซ่อมเครื่องบินแห่งใหม่ Smart Hangar รองรับการซ่อมบำรุงอากาศยานยุคใหม่อย่าง Airbus A350 และการประกอบชิ้นส่วนผลิตลำตัวเครื่องบินสมัยใหม่ ศูนย์อะไหล่ชิ้นส่วน และอุปกรณ์อากาศยาน พร้อมศูนย์ฝึกช่างอากาศยานชั้นสูง

ดังนั้นภายในปลายปี 2560 แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคณะกรรมการ EEC จะต้องเร่งในเรื่องการออกหนังสือชี้ชวนการลงทุนแบบ PPP มูลค่ากว่า 1.64 แสนล้านบาท พัฒนา 12โครงการ ตามที่บริษัทขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศสนใจเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะบริษัทผู้นำการผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลก  ได้แก่ บริษัท แอร์บัส จำกัด ลงนาม MOU กับการบินไทยศึกษาการพัฒนาศูนย์ซ่อมที่สนามบินอู่ตะเภา
ซึ่งขณะนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก บริษัท โบอิ้ง บริษัท แอร์บัส ตั้งเป้าจะสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ทำศูนย์ฝึกบุคลากรการบิน (Simulators Training Center) ผลิตนักบินฝึกหัดนักบินให้เชี่ยวชาญบินกับเครื่องรุ่นต่างๆ ที่ผลิตออกมาใหม่
บริษัท Roll-Royce กับ บริษัท  SAAB จะมาตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในไทย ตั้งศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์อากาศยาน บริษัท Mitzubishi บริษัท ST Aerospace ต่างก็สนใจจะเข้ามาสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เรื่อยไปจนถึง บริษัท Sumitomo Precision Products ได้หารือกับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(สกรศ.) ขอทำโครงการลงทุนผลิตระบบ Landing Gear







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai