"นายกฯบิ๊กตู่" สั่งข้าราชการทุกกระทรวงเปลี่ยนเพื่อชาติ
รวมหัวกันบูรณาการทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศ
เตรียมทำงบรายจ่ายปี'62ไม่ทิ้งกัน 6ภาค 6 ยุทธศาสตร์
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #thailandfest
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 สิงหาคม 2560 "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวที ปาฐกถาเรื่อง "การเตรียมความพร้อมจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562" เน้นย้ำให้ข้าราชการทุกกระทรวงเดินหน้าทำ 6 ยุทศาสตร์ ในการวางแผนใช้จ่ายงบประมาณปี 2562
ประกอบด้วย
1.ด้านความมั่นคง
2.การสร้างขีดความสามารถทาวการแข่งขันของประเทศ
3.การพัฒนาการศึกษาเพื่อเพิ่มคุณภาพคน ลดความยากจนและการเหลื่อมล้ำ
4.จัดการน้ำ
5.การยกระดับคุณภาพชีวิต
6.ปรับสมดุลสร้างระบบบริหารจัดการภาครัฐ
โดยได้กล่าวย้ำ ๆ ถึงนโยาบายบูรณาการเดินหน้าประเทศไทยเมกะโปรเจ็กต์สำคัญ ๆ ได้แก่
1.ภาค อุตสาหกรรมการผลิต และแปรรูปอุตสาหกรรมการเกษตร ในอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ถึงเวลาจะต้องนำนวัตกรรมโรบ็อตเข้ามาใช้งานอย่างจริงจัง อย่าไปกังวลว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนคนแล้วทำให้คนจำนวนมากตกงาน แต่ให้มองมุมต่างถึงอนาคตประเทศจะขยายตัวทางเศรษฐกืจทันเพื่อนบ้าน
2.ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะต้องยึดแนวทางจุดแข็งจุดขายเรื่อง "ตลักษณ์ความเป็นไทย"
3.การลงทุนโลจิสติกส์ ระบบรางทำเครือข่ายบริการให้เชื่อมโยงครอบคลุมทั่วประเทศ
ปีนี้ต้องดูแลประชาชนให้ได้มากสุด ทั้งสาธารณสุข SMEs
โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิตอล ขณะนี้นำร่องออกแบบ 30 หน่วยงาน ที่ไม่ต้องใช้กระดาษอีกต่อไป ซึ่งสั่งให้ทำทุกหน่วยงาน ในการลดใช้กระดาษแล้วให้คงบริการยึดหลักสร้างประโยชน์ต่อประชาชนไว้ดังเดิม เพื่อให้บริการประชาชนที่อยู่ห่างไกลเข้ามาใกล้ชิดหน่วยราชการ
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีต้องยอมรับกล่าวว่ามีคนพูดถึงนโยบาย Thailand 4.0 หรือ 0.4 กันแน่
เรื่องนี้พลเอกประยุทธ์บอกว่ายอมรับว่าสิ่งที่สั่งสมโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงมายาวนานหลายสิบปี จะมาใช้เวลาเพียง 3 ปีในรัฐบาลนี้คงเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ทำมาได้จนถึงขณะนี้ก็นับว่าดีแล้ว และตอนนี้จึงขอให้ทุกหน่วยงานราชการร่วมมือกันทำ รวมทั้งให้ไปทำ website ทั้งหมด หากไม่ activeก็ให้ลบทิ้งไปเลย
4.การพัฒนาคน อย่าไปดูเฉพาะการศึกษาเพียงอย่างเดียว ต้องดูอาหารการกิน สาธารณสุข วิเคราะห์หลักสูตรการเรียนการสอน ปรับให้เหมาะกับพื้นที่ องมีเป้าหมายเรียนจบแล้วต้องมีงานทำในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ โดยขอให้วางแผนการศึกษาร่วมกันกันของกระทรวงต่าง ๆ
5.การพัฒนาสินค้า OTOP กระบวนการผลิต ออกแบบ ต้องเน้นให้สอดคล้องกัน กระทรวงอุตสาหกรรม เกษตร ร่วมมือกัน โดยให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คมนาคม และกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าไปช่วยดูด้วย แล้วบูรณาการให้เกิดผลจากต้นน้ำถึงการขยายผลสู่ปลายนำทำให้สินค้าชุมชนขายได้เพิ่มขึ้นทุกปี
6.การวางผังเมืองใหม่ของกระทรวงมหาดไทย นำร่องทำไปแล้ว 18 จังหวัด แต่ขอให้เพิ่มทั้งหมด 77 จังหวัด
7.การใช้พลังงานและลดปริมาณขยะ เพิ่มพื้นที่การปลูกแา อาจจะใช้มาตรการปลูกต้นไม้ในเบ้าน ในเมือง ลดหย่อนภาษีได้ ส่วนการใช้พลังงานทางด้านรถยนต์ ยานพาหนะต่าง ๆ ต้องหันมารณรงค์ให้ใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเพื่อให้พืชเกษตร
8.ข้าราชการ ต้องยกเครื่อง คิดใหม่ ทำใหม่ทั้งหมด เพราะถ้ายังทำอยู่อย่างวันนี้ไปไม่รอด ขอให้ช่วยกันรวมหัวทำงาน มีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศ
ส่วนการปฏิรูปกฎหมาย ล้างคอรัปชั่นก็ต้องทำ โดยใช้กฎหมายป้องกันแทนการบังคับใช้อย่างใช้เดียว เพราะส่วนใหญ่กฎหมายที่ประกาศออกมาแล้วทำไม่ได้แถมยังเป็นบ่อเกิดความขัดแย้งในอนาคต็ควรจะปรับแนวทางวิธีการใหม่ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในการใช้งาน แล้วหันไปสร้างเสริมเพิ่มความชัดเจนออกแบบให้บริการประชาชนแบบ One Stop Service มากขึ้นแทน
9.การขับเคลื่อนประเทศโดยเน้น "ระดับภาค" ด้วยการ "บูรณาการงบประมาณเป็นรายภาค" เติบโตไปด้วยกัน ตามที่รัฐบาลได้จัดทำในเชิงบริหารแย่งเป็น 6 ภาค ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และ ภาคใต้ติดชายแดน
ตัวอย่าง การสร้างยุทธศาสตร์จัดทำงบแระมาณรายจ่าย "ภาคเหนือ" จะต้องเชื่อมสู่ภาคตะวันออก และ ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้. ขณะที่ภาคเหนื้อตอนบน วางตำแหน่งเป็น เกษตรปลอดภัย เกษตรอัจฉริยะ ส่วน การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลัก สร้างอารยธรรมล้านนา วัฒนธรรม 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เป็นต้น
แต่ละภาคต้องทำให้เกิดเหมือนกันทุกภาค ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว คมนาคม มหาดไทย ดิจิตอล-เทคโนโลยี และอื่น ๆ
หัวใจการเปลี่ยนแปลงประเทศ ก้าวไปสู่ความมั่งคั่ง ยั่งยืนเพื่อลูกหลานในอนาคต ทำให้รัฐนาวาลำนี้ ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น