สิงหาพาแม่เที่ยวเทิดไท้ราชินี-มหัศจรรย์ผ้าไหมไทย-พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์

ส.ค.เดือนยิ่งใหญ่เทิดไทยราชินีชมผ้าไทย5ภาค
เพิ่มจุดขายชุมชนผ้า-อาหารถิ่นปี61เฉียดล้านล้าน
ศุกร์หรรษาช้อปเพลินที่ศรีวารีคิงเพาเวอร์-29ก.ย.
ททท.งัด7ไฮไลต์ดูดเงินนักท่องเที่ยวเศรษฐีผู้หญิง
กลยุทธ์หน้าฝนที่เดียวเที่ยว3งานMusic Rainเขาค้อ
ชมพิพิธภัณฑ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯใจกลางกรุง
8แอร์ไลน์คึกรับAOCปลดล็อกICAOบินต่างประเทศ
จัดผู้หญิงทั่วเอเชียวิ่งครั้งแรกพ่วงจุดขายTMARK
Let’s Relax Spaครองแชมป์ท็อปแบรนด์สปาเอเชีย

สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังทางมือถือเลือก FM 97.0 อ่าน www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand
ทางรายการขอส่งกำลังใจสู่พี่น้องชาวอีสานที่กำลังประสบอุกภัยและขอนำส่งอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อการยังชีพไปช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

ช่วงที่ 1 คุณนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)จะมานำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวในโอกาสพิเศษ “สิงหาคม” ตลอดเดือนวันแม่แห่งชาติ

นายนพดล ภาคพรต
รองผู้ว่าการด้านสินค้าอละธุรกิจท่องเที่ยว ททท.

 “คุณนพดล ภาคพรต” เกริ่นนำว่าททท.ทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดแคมเปญท่องเที่ยวในประเทศในโอกาสพิเศษวันแม่ตลอดเดือนสิงหาคมต่อเนื่องกันมาหลายปี ส่วนไฮไลต์ปี 2560 ให้แต่ละครอบครัวพาแม่ไปไหว้พระ 9 วัด
อีกรายการสำคัญของประเทศ ทำเพื่อถวายแม่ของแผ่นดินด้วยโครงการ “มหัศจรรย์ผ้าไทย เทิดไท้ราชินี 2560” หรือ The Magic of Thai Frabics  คอนเซ็ปต์เป็นการนำผ้าไหมและผ้าไทยที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากพระองค์ งานนี้จะเน้นพาคนเข้าไปถึงคุณค่าของผ้าไทย และการท่องเที่ยวชุมชนในแหล่งผลิตผ้าไทยตามภาคต่าง ๆ
งานนี้ทำเป็นปีที่ 3 จะจัดระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2560 ณ หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ดีไซเนอร์ชั้นนำเลือกผ้าคุณภาพมาออกแบบใช้ในชีวิตประจำวัน ใส่ออกงานได้เป็นอย่างดี เพราะผ้าไทยมีความหลากหลาย จึงหยิบยกผ้าแต่ละชนิดมาออกแบบบอกเล่าเรื่องราวจากต้นน้ำคือแหล่งผลิตไปจนถึงปลายน้ำเป็นผืนผ้าใช้งานในชีวิตได้
ได้แก่ “ผ้าลาวครั่ง” จังหวัดสุพรรณบุรี รูปแบบผ้าภูมิปัญญาไทย “ผ้าทอมือหนองบัวแดง” จังหวัดชัยภูมิ ได้ทางห้องเสื้อบุณฑริกาเป็นตัวแทนออกแบบผ้าเพื่อการสวมใส่ได้จริง “ผ้าทอหมื่นศรี” จังหวัดตรัง เป็นอีกผลผลิตซึ่งมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน
สำหรับไฮไลต์ของงานคือ “ผ้าทอสันกำแพง” จังหวัดเชียงใหม่ น่าสนใจอย่างมากเพราะแทบจะเป็นผ้าชุดแรก ๆ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินารถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงประทับสวมใส่ผ้าดังกล่าวไปร่วมงานตั้งแต่ปี 2503 และผ้าชนิดนี้ยังมีนางงามจักรวาลคนแรกของเมืองไทยนำไปสวมใส่ประกวดเผยแพร่คุณค่าของผ้าจนได้รับรางวัลด้วยเช่นกัน โดยรับเกียรติจากทางห้องเสื้อดิษยาออกแบบชุดสวมใส่ผ้าสันกำแพงในงานนี้

“ผ้าย้อมคราม” จังหวัดสกลนคร ที่รวมเรื่องราวสะท้อนถึงชุมชนดั้งเดิมในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นผ้าที่มีความเป็นธรรมชาติงดงามมาก ทางร้านพันภพออกแบบ แล้วเชื่อมั่นว่าผ้าย้อมครามของอีสานจะเป็นอีกชิ้นที่ก้าวเข้าสู่กระแสความนิยมในวงการแฟชั่นผ้าไทยได้อย่างสง่างาม
สำหรับ 5 ผ้าไทย และ 5 ดีไซเนอร์ ที่จะมาออกแบบเสื้อผ้าให้เห็นภาพชัดเจน แต่เพื่อให้ “เยาวชนไทย” รักผ้าไทยทาง ททท.จึงได้ใช้เวทีการจัดงาน “มหัศจรรย์ผ้าไหมไทย เทิดไท้ราชินี” เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาร่วมดีไซน์หรือออกแบบชุดผ้าไทยด้วย เลือกจากสถาบันการศึกษา 5 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมออกแบบ ปีนี้ได้นำผ้าไหม กาบบัว จังหวัดอุบลราชธานี ผ้าไหมบ้านตัว จังหวัดชุมพร ผ้าขิต จังหวัดมหาสารคาม ผ้าตีนจก แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ส่วนกลยุทธ์การย้อนไปสู่การท่องเที่ยวชุมชนแหล่งผลิตผ้า จะเชื่อมโยงจุดขายทำเส้นทาง “เส้นทางผ้าชุมชน” ภายในงานจัดทำทริปเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ โดยแขกผู้มีเกียรติและสื่อต่าง ๆ จะลงพื้นที่ไปด้วยกัน
ขณะที่เดือนสิงหาพาแม่เที่ยว ทั่วประเทศได้จัดกิจกรรม “พาแม่เที่ยว” กันอย่างคึกคักแล้ว ทาง ททท.ยังได้โปรโมตงาน Women Bangkok Running VOGUE 2017 โดยให้ผู้หญิงทั่วเอเชียเข้ามาร่วมเป็นครั้งแรกที่จะวิ่งบนสะพานพระราม 8 นอกจากนี้ยังมีรายการท่องเที่ยวสำหรับแม่ในอีกหลายกิจกรรม
การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวตลอดปี 2561 ยังคงเน้น “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” เพราะโดยศักยภาพของไทยได้รับรางวัล The Best ติด 1 ใน 5 หรือ “อาหารไทย” ติด 1 ใน 3 ของโลก จึงมุ่งเน้น “วิถีการกิน” เป็นหลัก เพราะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทั่วโลกล้วนมุ่งเดินทางแสวงหาความจริงกันเป็นส่วนใหญ่
กิจกรรมที่จะขับเคลื่อนเพื่อกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนนั้น ททท.จะเน้น “อาหารการกิน” ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินลงสู่ท้องถิ่น ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในฐานะผู้ผลิตวัตถุดิบอาหาร เกษตรกรกับชุมชนจะได้รับเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ขณะนี้กำลังปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการเดินทาง อย่างการเดินทางขึ้นดอยไปกินอาหารจุดไหนอร่อยที่สุด หรือ “ท้องทะเล” ช่วงฤดูที่เหมาะกับการไปกินอาหาร หรือ ภาคไหนเหมาจะกินอาหารหน้าร้อน ดังนั้นจึงจะทำให้สอดคล้องกับช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนกินอาหารชนิดใดจึงเกิดประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงยังได้เร่งประชาสัมพันธ์ร้านอาหารท้องถิ่นชั้นนำที่ดำเนินงานโดยชาวบ้าน แม้กระทั่งแหล่งวัตถุดิบ ก็จะกระจายถึงชุมชนอย่างจริงจังมากกว่าทุก ๆ ปี
สำหรับรายได้จากนักท่องเที่ยวแต่ละปี จะอยู่ในหมวด “อาหาร” มากถึง 30 % ซึ่งแต่ละปีประเทศไทยมีรายได้จากท่องเที่ยวเฉลี่ยเกือบ 3 ล้านล้านบาท ดังนั้นรายได้จากอาหารก็เข้าใกล้ปีละ 1 ล้านล้านบาท เป้าหมายการเติบโตทางรายได้ในปี 2561 เมื่อโหมจุดขายอาหารไทยในแต่ละท้องถิ่นมากขึ้น ก็น่าจะช่วยทำให้สัดส่วนเงินรายได้หมวดอาหารขยายตัวเพิ่มอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 %

ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “สุขหรรษาที่คิงเพาเวอร์ศรีวารีถึง29ก.ย."

คิง เพาเวอร์ ขยายช่วงเวลาจัดมหกรรม “ศุกร์หรรษา” ให้ช้อปเต็มอิ่มต่อได้ทุกวันศุกร์ที่ ศรีวารี ได้อีก 2 เดือน จนถึง 29 กันยายน นี้
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ประสบความสำเร็จในการจัดมหกรรม “ศุกร์หรรษา” จึงประกาศจัดต่อเนื่องคืนกำไรให้นักช็อปต่อไปอีก 2 เดือน เริ่ม 4 สิงหาคม – 29 กันยายน 2560 ให้ช็อปอย่างจุใจเฉพาะวันศุกร์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี รับได้หลายต่อด้วยกันคือ
เริ่มจาก ต่อแรก เพียงแค่ลูกค้าคนไทย และสมาชิกคิง เพาเวอร์ ลงทะเบียนซื้อสินค้า ก็รับทันทีคูปองส่วนลดมูลค่า 800 บาท เมื่อซื้อ 2,500 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จรับเงิน
หรือต่อที่ 2 ตลอดทั้งวันเมื่อซื้อสินค้ารับทันทีส่วนลด 30% (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ครบ 28,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันที Gift Voucher 2,000 บาท คนละ 1 สิทธิ์ /วัน เพียงซื้อสินค้า
ส่วน Top Spender ประจำสัปดาห์เพียงมียอดซื้อสินค้าสูงสุดภายในวัน ตั้งแต่ 800,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ) รับทันที Gift Voucher มูลค่า 50,000 บาท แจกสัปดาห์ละ 1 รางวัล ทางคิง เพาเวอร์ จะสรุปรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลทแล้วแจ้งกลับให้มารับภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2560
ทั้งนี้สินค้าแต่ละรายการที่จัดขึ้นนั้นมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.kingpower.com หรือคอลเซนเตอร์ 1631


ข่าวที่ 2 ททท.นำจัด2อะเมซิ่ง“เฮลท์เวลเนสโชว์-แข่งเที่ยว”
ททท.นำเอกชนกลุ่มบริการการแพทย์ครบวงจรบูมจัด “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส โชว์เคส 2017” 11 ส.ค.นี้ ควบเกมโชว์ “แข่งเที่ยว Amazing Trip Battle" 5 ส.ค.-23 ก.ย.2560
 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมบริการการแพทย์ครบวงจร เตรียมพร้อมจัด “AMAZING THAILAND HEALTH AND WELLNESS SHOWCASE 2017” วันที่ 11 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยจะจัดภายใต้ธีม “Thailand a Paradise for Longevity” ควบคู่การนำเสนอสินค้าบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของไทยตามแนวทาง Functional & Regenerative Medicine ผนวกการโชว์ศักยภาพนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อการรักษาสุขภาพเชิงป้องกันแบบบูรณาการ
การจัดงาน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เฮลธ์ แอนด์ เวลเนส โชว์เคส 2017” จะช่วยตอกย้ำศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นผู้นำการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะด้าน Functional & Regenerative Medicine เนื่องจากมีองค์ประกอบต่าง ๆ สนับสนุนเรื่องมาตรฐานโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI ระดับโลกมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 58 โรงพยาบาล เรื่อยไปจนถึงความโดดเด่นเกี่ยวกับสมุทัยเวชศาสตร์การแพทย์แบบบูรณาการที่มุ่งจัดการต้นเหตุของโรคและรักษาตามแนวทาง 4 R
ประกอบด้วย 1.Replace การเติมหรือทดแทนสิ่งที่ร่างกายขาด 2.Remove กำจัดของเสียหรือสารพิษ 3.Repair ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสียหาย และ 4.Rebuild เสริมสร้างเซลล์ใหม่ เพื่อทดแทนส่วนที่เสียหายไป

นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม- 23 กันยายน 2560 นี้ ททท.ยังได้เดินหน้าสร้างสรรค์วาไรตี้เกมโชว์ในชื่อ "เกมแข่งเที่ยว Amazing Trip Battle" เพื่อขยายผลกลยุทธ์ Local Experience ตอกย้ำแนวคิด "ท่องเที่ยว วิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" ด้วยการจัดเกมโชว์ประชันแผนท่องเที่ยวชุมชนจากพื้นที่จริง สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจากจุดแข็งของชุมชน ตั้งเป้ากระตุ้นรายได้ในประเทศเติบโต 10%
ระหว่างแข่งขันได้จัดศิลปินดาราร่วมทีม 5 ภาค 16 จังหวัด แบ่งท่องเที่ยว 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวล้านนา  กลุ่มท่องเที่ยวทะเลอ่าวไทย กลุ่มท่องเที่ยวอันดามัน,กลุ่มท่องเที่ยว อารยธรรมอีสานใต้ และกลุ่มท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครปฐม และสมุทรสงคราม
เริ่มออกอากาศ 5 สิงหาคม- 23กันยายน 2560 เวลา 16.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ ช่อง 23 จำนวน 8 ตอน โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก ททท. นำโดย ผู้ว่าการ ททท. และคณะผู้บริหาร พร้อมคณะกรรมการจากศิลปินนักแสดงชั้นนำของวงการ

ข่าวที่ 3 “ผู้นำบางจากทำCSRเข้มที่สกล/ครอบครัวสีเขียว”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้นำทีมผู้บริหารและพนักงาน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้มอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม ไฟฉาย ยาที่จำเป็น รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท พร้อมมอบเงินบริจาคช่วยเหลือ 200,000 บาท แก่พลตรีสุขพัฒน์สณฑ์ สุขสร้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 และมีพลตรีกนก ภู่ม่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ณ ค่ายกฤษณ์สีวะรา อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ น้ำดื่มให้แก่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรวานรนิวาส เขตจัดรูปที่ดินพอกใหญ่ และ หจก. อาร์ อี ออยล์ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนแก่ผู้ประสบภัย และหลังจากที่น้ำลด บริษัท บางจากฯ จับมือกับสถาบันอาชีวศึกษา ให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี พร้อมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นโดยลดราคาพิเศษ 50% ณ สถานีบริการน้ำมันบางจากในพื้นที่ประสบภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รวมทั้งบริษัทฯ บางจาก ยังได้ทำ “โครงการครอบครัวเดียวกัน” เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนสัมพันธ์ ภายใต้โครงการ "ครอบครัวใบไม้สัญจร" ตอน "ตามรอยพระราชดำริ-โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา" โดยรับสมัครสมาชิกจำนวน 12 ครอบครัว ครอบครัวละไม่เกิน 4 คน มาร่วมกิจกรรมในวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.2560 โดยมีค่าใช้จ่ายคนละ 200 บาท รายได้สมทบเข้าโครงการอาหารกลางวันนักเรียน 119 โรงเรียนรอบบ้านบางจาก
 สนใจส่งใบสมัครมาได้ที่ ส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนสัมพันธ์ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น เลขที่ 210 สุขุมวิท 64 แขวงบางจาก กทม. 10280 หรือแฟกซ์มาที่ 0-2335-4151 หรือสมัครทางอีเมล prangthip@bangchak.co.th

 ข่าวที่ 4 “เที่ยวหน้าฝนเทรนด์รวม3กิจกรรมใหญ่”
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า พร้อมจะนำกลยุทธ์การตลาดงานดนตรี หรือ Music Marketing มากระตุ้นการท่องเที่ยวหน้าฝนจัด 3 กิจกรรมไฮไลต์ ได้แก่ เทศกาลดนตรีฤดูฝน : Raincoat Music Fest 2017 , งานปั่นจักรยาน “ ปั่นชมหมอก…กอดดอกไม้” และ งานคาราวานครอบครัวสุขสันต์ ผนวกเทศกาลดนตรีกับกีฬาเข้าด้วยกัน เร่งยอดรายได้ตลอดกรีนซีซันเพิ่มขึ้นอีก 10%
กิจกรรมแรก จัดเทศกาลดนตรีฤดูฝน : Raincoat Music Fest 2017 ระหว่างวันที่ 4 – 5 สิงหาคม นี้ เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ Jollyland เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาดนตรีกลางสายฝนท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติ จะสร้างความโรแมนติกพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น คาดจะมีนักท่องเที่ยวร่วมงานวันละกว่า 5,000 คน
ส่วนศิลปินที่จะมาสร้างความสนุกฟรีในงานเรนโค้ท มิวสิค ประกอบด้วย อ๊อฟ ปองศักดิ์, Tattoo Colour, วง MILD, Instinct, Bedroom Audio, Fellow fellow, Chilling Sunday และ Helmetheads โดยมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ร่วม ถ่ายรูป มุมปาร์ตี้ ซุ้มอาหารจากร้านดัง เล่นเกมส์รับของรางวัลมากมาย และที่สำคัญ
กิจกรรมที่ 2 “ปั่นเสือภูเขา” ในวันที่ 6 สิงหาคม 2560 ไปสนุกต่อกับกิจกรรม RC Rally ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมปั่นได้ทางเว็บไซต์ และลงทะเบียนในงานเรนโค้ท มิวสิค 4 – 5 ส.ค. งานนี้มีลุ้นรับรางวัลพิเศษจักรยานเสือภูเขา 3 คัน
กิจกรรมที่ 3 คาราวานครอบครัวสุขสันต์ ระหว่าง 3-6 สิงหาคม 2560  ในโครงการ “วันธรรมดาน่าเที่ยวเหนือ” ส่งเสริมการเดินทางเที่ยวภาคเหนือในวันธรรมดาและนอกฤดูท่องเที่ยว เส้นทาง กทม.-นครสวรรค์-พิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์

ช่วงที่ 2  ถึงเวลาไปเยี่ยม “พิพิธภัณฑ์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ใจกลางกรุง

@พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ตลอดสิงหาคมเดือนวันแม่ มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งความทรงจำอย่าง “พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” แหล่งค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทย สร้างขึ้นเมื่อไม่นานมาปี 2546 ตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทย และประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย รวมทั้งเป็นสถานที่จัดเก็บรักษาผ้าไทย เรื่อยไปจนถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้รวบรวมตำนานเรื่องผ้าไทยทุกชนิดมากมายมาไว้ ซึ่งเป็นการประดิษฐ์โดยฝีมือคนไทย ประกอบด้วย ผ้าลายขิด ผ้ายก ผ้าจก ผ้าน้ำไหล ผ้ามัดหมี่ ผ้าพื้นเมือง นำมาใช้เป้นวัตถุดิบสำคัญในการแปรรูปเป็นแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า ปลอกหมอน และอื่น ๆ
รวมทั้งมีผ้าไทยแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมักทอด้วยเครื่องกี่มือและกี่กระตุก ซึ่งมีโครงสร้างของเส้นทายทำจากเส้นใยธรรมชาติจำพวกไหมและฝ้าย
นอกจากนี้ยังสามารถชมการแสดงงานหัตถศิลป์จากผ้าอันทรงคุณค่าขอราชสำนักนัก และผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ เพื่อสืบสานตามพระราชปณิธานในการอนุรักษ์การทอผ้าของไทยให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติอย่างยั่งยืน

โดยมีกิจกรรมให้ร่วมทำหลายอย่างด้วยกัน หลัก ๆ คือ
“กิจกรรมศึกษาดูงาน” โดยเรียนรู้ผ้าไทย ประวัติศาสตร์การแต่งกายไทย วิถีชีวิต และงานพระราชพิธีต่างๆ โดยเฉพาะการเดินชมนิทรรศการอันยิ่งใหญ่ตระการตาเลือกชมได้อย่างเต็มอิ่ม ได้แก่
นิทรรศการ “ราชพัสตราจากผ้าไทย” ซึ่งจัดแสดงฉลองพระองค์ชุดสากล โดยมีมือดีไซเนอร์นักออกแบบไทยและต่างชาติ รังสรรค์ผ้าไหมไทยมาตัดเย็บผสมผสานกับวัตถุดิบอื่น ๆ ตัดเย็บด้วยเทคนิคแตกต่างจากชุดทั่วไป

นิทรรศการ “ไทยพระราชนิยม” โซนจัดแสดงฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และชมผ้ากับเครื่องแต่งกายในพระราชสำนัก
นิทรรศการ “พระหัตถ์ที่ทรงงานเพื่อแผ่นดิน” บอกเล่าเรื่องจุดกำเนิดแห่งศิลปาชีพ ตั้งแต่ปี 2513 ต่อมาได้พลิกฟื้นชีวิตผ้าทอมือไทยซึ่งกำลังจะสูญหายกลับมามีชีวิตดำรงอยู่จนถึงทุกวันนี้อีกครั้ง ทำให้คุณภาพชีวิตราษฎรไทยดีขึ้น
“นิทรรศการภายในพิพิธภัณพ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นกึ่งชั่วคราวกึ่งถาวร โดยจะปรับปลี่ยนหมุนเวียนทุก ๆ 2 ปี หรือตามความเหมาะสม
“กิจกรรมสันทนาการ” ร่วมทำเวิร์คช็อปหลากหลายอย่างโดยใช้ผ้า เช่น งานปักซอยผ้าไทย เรียนรู้กรรมวิธีและขั้นตอนการทำผ้าหม้อห้อม
อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับกลุ่มดูงานและสนใจใช้สถานที่เพื่อจัดประชุมสัมมนา จะมี “ห้องประชุม”รองรับได้ 70 คน พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารรับได้ 40 คน มี “ห้องสมุด” รวบรวมหนังสือเฉพาะทางเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกาย การออกแบบและแฟชั่นเครื่องแต่งกายของไทยและต่างประเทศ ตลอดจนหนังสือรวมพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
มุมช็อปสินค้าไทย “ร้านพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ”  ขายหนังสือและผลิตภัณฑ์ต่าง และผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
ที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ฯ อยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิมานเทเวศ์กับประตูวิเศษไชยศรี ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-16.30 น.ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 15.30 น.
สอบถามได้ที่ โทร. 02-225-9430 หรือดูใน www.queensirikitmuseumoftextiles.org

@ผลเสียต่อสุขภาพของการติดหน้าจอ
อ.พญ. จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายถึง “ผลเสียของการติดหน้าจอ “ ว่าปัจจุบันคนใช้สมาร์ทโฟนมีจำนวนมากและแพร่หลาย ขณะที่แสงจากหน้าจอสมาร์ทโฟนส่งผลกระทบมากมายที่หลายคนไม่รู้ ไม่เพียงแต่สมาร์ทโฟนเท่านั้นที่เป็นตัวปัญหา แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตก็ส่งผลเสียไม่แพ้กัน ยิ่งหลายคนทำงานกับหน้าจอทั้งวัน นอกเหนือเวลางานยังติดหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตอีก เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งแชททั้งแชร์ วันนี้เราก็มีผลเสียหลายอย่างมาเตือนภัยให้หลายคนได้รู้เพื่อลดการใช้งานลงตามความเหมาะสม
- ส่งผลเสียในด้านสายตา เช่น ตาแห้ง กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก หรือจอรับตาที่ผิดปกติ
- ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น ปวดคอ บ่าไหล่ แขน นิ้วล็อค
- สมองตอบสนองกับการเล่นสมาร์ทโฟน กระตุ้นให้สมองเกิดความสุข ทำให้เกิดโรคติดสุข อยากเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ
- สมาธิสั้นลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน
- ทำให้เกิดโรคอ้วน เพราะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย
- ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
- มีปัญหาด้านอารมณ์ เพราะไม่ค่อยเข้าสังคม อาจก่อให้เกิดอาการซึมเศร้า
- มีปัญหาการนอน แสงสีฟ้าจากเครื่องมือสื่อสาร ส่งผลต่อการหลั่งเมลาโทนิน ทำให้นอนไม่หลับ

ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “8แอร์ไลน์ฉลุยได้AOCบินต่างประเทศ”
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่าตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 อาจมี 2 สายการบินในไทยต้องหยุดบริการเส้นทางบินประจำระหว่างประเทศ เพราะได้ขอถอนตัวเนื่องจากยังไม่สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเพื่ออกใบรับรองดำเนินการเดินอากาศ (AOC) ดังนั้นจึงไม่สามารถให้องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)  เข้าตรวจซ้ำหรือ ICVM Audit ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ได้เช่นกัน
ล่าสุด กทพ.ได้ขอให้คณะกรรมการการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กบร.) ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติให้สายการบินดังกล่าวขอเพิ่มเที่ยวบินและเส้นทางบินใหม่ภายในประเทศได้ เพื่อลดผลกระทบทางธุรกิจ พร้อมช่วยเยียวยาให้กับสายการบินที่ยังไม่ได้รับใบ AOC
ส่วนสถานการณ์ปัจจุบันได้ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) ให้ไปเรียบร้อยแล้วแก่ 8 สายการบินเพื่อให้บริการบินระหว่างประเทศ จากทั้งหมด 23 สายการบิน
ทั้งนี้มีสายการบินที่อยู่ระหว่างเร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอนเพื่อออก AOC ได้ภายในกันยายนนี้คือ MJet ส่วนโอเรียนไทย์กับเวียดเจ็ตยังต้องลุ้นซึ่งมีแนวโน้มจะไม่สามารถตรวจได้ทันตามกำหนด

ข่าวที่สอง “ท่องเที่ยวหนีไม่ออกต้องใช้ตม.6อีกยาว”
จากกรณีที่มีการแสดงความคิดเห็นต่อเนื่องมาหลายปีเพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาการเปลี่ยนแปลง “เอกสารตรวจคนเข้าเมืองหรือ ตม.6” ที่ใช้บันทึกรายชื่อผู้โดยสาร เที่ยวบินขาเข้า-ขาออก ประเทศไทย ด้วยเหตุผลตกยุค เป็นอุปสรรคให้ต่อปัญหาจราจรภายในช่องตรวจคนเข้าเมือง อีกทั้งขาดแคลนบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ และไม่สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมุ่งให้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาบริการ
ล่าสุด “นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังคงยืนยันว่า มีความจำเป็นต้องใช้เอกสาร ตม.6 บังคับใช้ผู้เดินทางเข้าออกประเทศต้องกรอกข้อมูลตามวิธีปฏิบัติเดิม โดยจะใช้ ตม.6 แบบใหม่ซึ่งปรับปรุงจนสามารถเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมาบริการ
ส่วนเหตุผลที่ยังให้คงใช้ ตม.6 บันทึกการเข้า-ออก ประเทศไทย ต่อไป ก็เพื่อการเก็บข้อมูลนักเดินทางมาประมวลผลใช้ทำการตลาดท่องเที่ยว
หากต้องการให้เกิดความคล่องตัวในการเดินทางเข้า-ออก หน่วยงานเกี่ยวจะต้องมาหารือกัน หาวิธีที่เหมาะสมเข้ามาใช้แทน เพราะปัจจุบันการเก็บข้อมูลนักท่องเที่ยวยังไม่มีทางอื่นที่ทำได้ดีกว่า ตม.6 ที่ยืนยันได้ว่ามีการสแกนเก็บได้ทุกใบ เช่นเดียวกับทางอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ถึงแม้จะเป็นประเทศชั้นนำของโลกก็ยังต้องให้นักเดินทางกรอกรายละเอียดการเดินทางเข้าเมือง

 ข่าวที่สาม “ชวนหญิงทั่วโลกวิ่งVOGUEพ่วงขายTMARK”
3 พันธมิตร “ไมซ์-โวค-ททท.” จัดงานเดียวชวน “ผู้หญิงทั่วเอเชียวิ่งบนสะพานพระราม 8” ครั้งแรกในเมืองไทย 3 ก.ย.นี้ พ่วงขายได้เพียบ ซีเอสอาร์-เทรด-คอนซูเปอร์สินค้าTMARK ไทย
นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดงานวิ่งระดับมาตรฐานโลกได้ร่วมกับนิตยสาร VOGUE จัดงานวิ่ง Bangkok Women’s Run in partnership with VOGUE เฉพาะนักวิ่งผู้หญิงล้วนเป็นครั้งแรกในไทย ภายใต้แนวคิด Beauty just got stronger! เพื่อสร้างมิติใหม่แห่งวงการวิ่ง ในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2560 ณ สะพานพระราม 8  โดยการจัดงานปีแรกจะเน้นเชิญชวนนักวิ่งจากประเทศแถบเอเชียเป็นหลัก โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย
กำหนดเปิดรับสมัครเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แบ่งการวิ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร และ 21.1 กิโลเมตร เป็นการวิ่งบนสะพานทั้งหมดโดยปล่อยตัวและเข้าเส้นชัยบนสะพานพระราม 8 ซึ่งนักวิ่งจะได้ชมความงามของกรุงเทพฯ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ตลอดงานนี้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” สนับสนุนการทำประชาสัมพันธ์งานสู่ระดับนานาชาติด้วย
ส่วนนักวิ่งหญิงที่มาร่วมงานทุกคนจะได้รับของขวัญพิเศษ เป็นสร้อยคอฟินิชเชอร์ ผลิตด้วยโลหะเกรดพรีเมี่ยม สลักระยะแตกต่างกัน ให้นักวิ่งที่เข้าเส้นชัยทุกคนได้เก็บไว้เป็นเหรียญแห่งความทรงจำ และยังมีของรางวัลพิเศษให้นักวิ่งหญิงที่เข้าเส้นชัย 100 คนแรก ในระยะ 10 กิโลเมตร และ 21.1 กิโลเมตร ขณะที่นักวิ่งหญิงที่เข้าเส้นชัย 50 คนแรกในระยะ 5 กิโลเมตร จะได้รับสร้อยข้อมือพร้อมจี้สุดพิเศษ ที่มีตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark หรือ T Mark เครื่องหมายรับรองคุณภาพโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
อีกทั้งในวันงานจะจัดกิจกรรมออกบูธ T Mark แจกสินค้าไทยคุณภาพมาตรฐานระดับสากลที่ได้รับการการันตีโดยตราสัญลักษณ์ T Mark ตรงกับคอนเซปต์ของงานที่เชื่อว่าผู้หญิงสวยสตรอง คือ ผู้หญิงที่ภาคภูมิใจและรู้จักเลือกใช้สินค้าไทยที่มีคุณภาพ และมีกระบวนการผลิตที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ใช้แรงงานอย่างเป็นธรรม

ข่าวที่สี่ “Let’s Relax Spaแชมป์ท็อปเอเชียแบรนด์”
นายณรัล วิวรรธนไกร กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในฐานะผู้บริหาร Let’s Relax Spa ล่าสุดนำทีมขึ้นรับรางวัล “Asia’s Top 50 Brands” ในงาน CMO Asia 2017 ที่ รร. เลอ เมอริเดียน เซนโตซ่า สิงคโปร์ จัดโดย World Brand Congress เป็นปีที่ 8 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมของชาวเอเชีย
  ตลอดระยะเวลา 19 ปี Let’s Relax ได้ยกระดับและสร้างมาตรฐานสปาไทยให้เป็น สากลมากขึ้นโดยให้บริการลูกค้าได้กว่า 5 ล้านคน นำรายได้จากต่างชาติเข้ามาได้ถึง 80 % กลุ่มหลักเป็นเอเชีย ซึ่ง Let’s Relax Spa เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2541ด้วยการสร้างประสบการณ์ด้านผ่อนคลาย ด้วยบริการทำทรีทเมนต์สปาหลากหลายปัจจุบันนี้ทั่วประเทศมีทั้งหมด 24 สาขา ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน กระบี่ และขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ในมณฑลคุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม อนาคตเตรียมลงทุนเพิ่มในจีนอีก 1 แห่ง

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว/การบินและเจ้าของรายการ