ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปตท.ป่าในกรุงหนุนเที่ยวเชิงนิเวศ-เหนือฝันล้านแรงบันดาบใจ5ชุมชน เชียงใหม่ ลำพูน น่าน สุโขทัย

ปตท.ลุยเปิดป่าหนุนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์
คิงเพาเวอร์ชนะประมูลใหม่ในดอนเมือง
คลังยื้อข้อเสนอเที่ยวลดหย่อนภาษีปี’61
เครือบางจากเพิ่มทุนรุกลิเทียมต่างแดน
ทายาทโคห์เลอร์ปักธงธุรกิจBECในไทย
ทัวร์เหนือฝันล้านนา5ชุมชนฮ็อต4จว.
กาตาร์แอร์บินเชียงใหม่ธ.ค.เพิ่มตลาดEU
SPAขยายธุรกิจรับปีท่องเที่ยวยั่งยืน 2561
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังมือถือเลือก FM 97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsaen  ฟังทาง youtube พิมพ์ รวยด้วยข่าว 97.0-วัน/เดือน/ปี #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand


ช่วงที่ 1 ทีมบริหารผู้นำพลังงานของประเทศ “คุณประเสริฐ สลิลอำไพ” ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้มาพูดคุยถึงบิ๊โปรเจ็กต์ “ป่าในกรุง” ที่จะสร้างให้เป็น “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์” และ “ศูนย์เรียนรู้เรื่องป่า” เมืองไทย
ประสริฐ สลิลอำไพ
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บมจ.ปตท.

“คุณประเสริฐ สลิลอำไพ”  อธิบายว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เดินหน้าปลูก โครงการ “ป่าในกรุง” ต่อเนื่องมา 5 ปี โดยมีเรื่องราวน่าสนใจต่อจาก “โครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ เฉลิมพระเกียรติ” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในวโรกาสครองราชย์ครบ 50 ปี พร้อมทั้งน้อมเกล้าถวายไปเรียบร้อยแล้ว โดยได้ปลูกกระจายอยู่ทั่วประเทศ
ส่วนกรุงเทพฯ ช่วงก่อนหน้านั้น ปตท.ยังไม่ได้มีพื้นที่ป่า จึงมีความคิดและต้องการส่งเสริมให้คนในกรุงซึ่งไม่เคยเห็นป่า ได้ศึกษาเรียนรู้ เข้าใจความสำคัญของระบบป่าธรรมชาติ จึงได้พิจารณาจะเลือกพื้นที่บริเวณสุขาภิบาล 2 ซึ่งเดิมจะลงทุนทำสถานีบริการน้ำมัน แต่ได้เปลี่ยนมาใช้ปลูกป่าปอดใหญ่ในกรุงเทพฯ แทนระยะแรกพื้นที่ยังแห้งแล้งมาก แถมชาวบ้านยังนำขยะมาทิ้งทำให้ดินเสื่อมโทรม ปตท.จึงตัดสินใจนำมาปลูกป่าในกรุง พัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดคนกรุงเทพฯ
จึงได้เริ่มต้นก่อนถึงวาระพิเศษในวโรกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 5 รอบ เมื่อเดือนเมษายน 2558 เริ่มทำทูลเกล้าถวาย โดยศึกษาการออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียว เติมเต็มแนวคิดตามต้นแบบจาก ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ จนปัจจุบันได้รับความสนใจจากเยาวชน นักเรียน โรงเรียนรอบบริเวณเข้ามาเรียนรู้ตลอด

กิจกรรมที่จัดทำอยู่เรื่อย ๆ ในโอกาสสำคัญ วันแม่ วันวิสาขบูชา เชิญชวนคนมาเรียนรู้เรื่องป่า ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ปตท.ได้ประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook ออนไลน์ โปสเตอร์ สอนการปลูกต้นไม้ เพาะกล้าไม้ และทำเรื่องราวเกี่ยวกับป่า ได้เข้าใจอย่างแท้จริง
ช่วงตุลาคมปีนี้จะมีกิจกรรมถ่ายทอดพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 มานำเสนอพร้อมกับแจกต้นไม้ให้ไปปลูกกันคือ “ต้นดาวเรือง” ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินแผนงาน
สถานีทำกิจกรรมบริเวณ “ป่าในกรุง” ที่คนที่เข้าไปใช้บริการสามารถทำได้ พื้นที่โครงการป่าในกรุงมี 12 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ป่า 9 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นอาคารราชการ หากมองจากด้านนอกจะเห็นแต่ป่าทึบ ต้องเดินเข้าไปข้างในจึงจะเห็นโครงสร้าง

เมื่อเข้าไปชมจะได้เห็นป่าในโลก วิธีการออกแบบป่าในกรุงชมได้อาคารนิทรรศการ ห้องวิดีทัศน์สร้างแรงจูงใจถึงเรื่องเหตุใดป่าจึงมีความสำคัญต่อชีวิตผู้คน ถัดไปจะเดินชมป่าจาก “บนสกายวอร์ค” สูง 5-7 เมตร  จะได้ชมภาพมุมสูงของป่าเขียวขจี แล้วยังมีทาวเวอร์ให้ได้เห็นมุมกว้าง ไกลไปถึงทิวทัศน์สนามบินสุวรรณภูมิ รวมไปถึงเห็นถึงความงดงามของป่าโดยรอบ และเห็นความแตกต่างของพื้นที่สีเขียว หมู่บ้าน อย่างชัดเจน
เป็นโครงการที่เรียกว่า PPT Green in the City
ส่วนการเดินทางไปดูงานป่าในกรุง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปตท.ไปได้พบ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ ซึ่งปัจจุบันอายุมากแล้ว มีงานวิจัยเกี่ยวกับการฟื้นฟูป่าธรรมชาตินับพันแห่ง และมีชื่อเสียงมากในการปลูกป่าทดแทน ปตท.จึงได้นำแนวคิดของ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ มาสร้าง “ป่าในกรุง” โดยได้ทำต่อเนื่องจากยุคบุกเบิกมาจนถึงขณะนี้
ทางทีมงานของ ปตท.ได้มีโอกาสไปดูการปลูกป่าที่ “โออิชิกุวา” ในเมืองโตเกียว ได้นำแนวคิดของศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ มาปลูก อีกหน่อยต้นไม้ในป่าดังกล่าวจะแข่งกันเติบโต
แนวคิดนี้มีเคล็ดลับจะต้องศึกษาสภาพป่าดั้งเดิมก่อนว่าเป็นอย่างไร เช่น ป่าในกรุงของกรุงเทพฯ เมื่อ 100-200 ปีให้ได้ก่อนว่ามีสภาพเช่นไร จากนั้นต้องไปหาเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ในป่ายุคนั้นเลือกมาเพาะจากเมล็ดตั้งเดิม เพื่อให้มีรากแก้ว พร้อมกับปรับปรุงคุณภาพดินที่เหมาะกับการเติบ การปลูกก็ปลูกทีละ 4-5 ต้น ในพื้นที่ 1 ไร่ จะมีต้นไม้หลายพันธุ์ต้นแข่งกันเติบโต ภายในระยะเวลา 2 ปี ต้นไม้จะสูงไม่ต่ำกว่า 5 เมตร
ถือเป็นการนำนวัตกรรมาประยุกต์ใช้เพาะป่าในกรุงให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
ส่วนการพัฒนาป่าในกรุงเป็น “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์” โดยพื้นที่ ปตท.ที่ไปปลูกป่าและอนุรักษ์มีหลายโครงการทั่วประเทศ ภาคเหนือ จ.พะเยา ป่าต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือ ลำน้ำแก้ว นครราชสีมา ไปฟื้นฟูป่าขึ้นมาใหม่นับหลายหมื่นต้น มีไม้พยุงและไม้ยืนต้นต่าง ๆ ป่าแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 สมัยทรงเป็นพระบรมโอรสาธิราชทรงเสด็จปลูกป่าแห่งนี้ไว้ เป็นต้นประดู่ป่าสูงใหญ่มาก ปตท.ได้นำมาเผยแพร่แจกคนไทยทั่วประเทศ
หรือจะเป็น ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนปสิรินาถราชินีจังหวัดปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ อำเภอวังจนทร์ และสวนสมุนไพร ในจังหวัดระยอง และยังมีป่าที่พื้นที่สีเขียวอยู่คู่กับเขตอุตสาหกรรม และโครงปา ห้องเรียนธรรมชาติ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ในคุ้งบางกระเจ้า พื้นที่ 200 ไร่ นำเสนอเรื่องของนิเวศป่าสามแบบเพื่อการเรียนรู้ ปัจจุบันเป็นแหล่งพักผ่อน ปั่นจักรยาน ชมธรรมชาติ
ถือได้ว่า ปตท.ทำไว้ทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และอนุรักษ์ในป่าของ ปตท.ทุกแห่ง
พันธกิจของ ปตท.มุ่งที่จะส่งเสริมให้คนไปท่องเที่ยวในพื้นที่สีเขียว และต้องการให้เป็นสมบัติของประเทศ ให้คนได้เข้ามาชมความงดงามและศึกษาการปลูกป่าอย่างต่อเนื่อง
ปี 2561 ปตท.ยังคงเดินหน้าสานเจตนารมณ์ของขยายพื้นที่ปลูกป่าเพื่อสังคมต่อไป ตามแผนแต่ละปีมีเป้าปลูกเพิ่มปีละ 1,000 ไร่ขึ้นไป ตามแผนงานหลัก ๆ ดังนี้
 1.เชิญชวนคนเข้ามาร่วมปลูก
2.ให้มาเยี่ยมชมพื้นที่สีเขียว ซึ่งติดตามข่าวสารการทำกิจกรรมทางเว็บไซต์ ปตท.และแฟนเพจ
3.ทำกิจกรรมฟังธรรมะและธรรมชาติที่สวนวังจันทร์ พร้อมกับร่วมปลูกข้าวในเดือนแม่เกี่ยวข้าวในวันพ่อ ทำให้คนได้สัมผัสวิถีธรรมชาติและความเป็นอยู่ดั้งเดิมที่ไทยเคยมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์
4.เปิดรับสมัครเปิดโอกาสให้คนไปร่วมทำกิจกรรมในคุ้งบางกระเจ้าเป็นแหล่งโอโซนใกล้กรุงเทพฯ ขนาดใหญ่สุดกว่าหมื่นไร่
ดังนั้นทุก ๆ ปี ปตท.จึงขอรณรงค์ทุกคนให้ไปร่วมกันดูแลรักษา อนุรักษ์ท่องเที่ยว พักผ่อน ด้วยการไปเข้าเยี่ยมเยือนป่าอนุรักษ์ของ ปตท.ด้วยกัน แล้วก็ผนึกกำลังกันสร้างพื้นที่สีเขียวให้ได้มากที่สุดในประเทศกลับคืนสู่ความสมบูรณ์อีกครั้ง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชนะประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ดอนเมือง”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการรายได้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่าเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการรายได้ของ ทอท. ได้พิจารณารายงานผลโครงการราคาประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่า อาคารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง ขนาดพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร ระยะเวลาสัมปทานให้เอกชนผู้ชนะประมูลดำเนินธุรกิจ 10 ปี
ดร.นิตินัย กล่าวว่าโครงการประมูลดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ครั้งนี้ ทอท.ได้กำหนดราคากลางไว้ที่ 6,000 บาท/ตารางเมตร มีเอกชนสนใจยื่นประมูล 4 ราย โดยตกคุณสมบัติไปเกี่ยวกับแบงก์การันตี 1 ราย เหลือแข่งขันกัน 3 ราย ส่วนรายชื่อผู้ชนะคือ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เสนอจ่ายผลตอบแทนราว 9,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายที่ 2 เกือบ 1 เท่า และสูงกว่าราคากลางของ ทอท.เกือบ ครึ่งเท่าเช่นกัน ขณะที่รายที่ 3 เสนอจ่ายผลตอบแทนต่ำกว่าราคากลาง
ดังนั้นผลสรุปในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณารายได้ ทอท.จึงมีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) ในฐานะเอกชนผู้เสนอจ่ายผลตอบแทน ทอท.สูงสุดให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทพิจารณาในวันที่ 23 สิงหาคม 2560
ตามขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อให้เอกชนผู้ชนะการประมูลรับสิทธิ์บริหารพื้นที่ คือ 1.หลังจากที่ประชุมบอร์ด ทอท.มีมติเรียบร้อยแล้ว 2.ทอท.จะจัดทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ชนะการประมูลรับทราบอย่างเป็นทางการ พร้อมกับให้เวลา 90 วัน เข้ามาตกแต่งพื้นที่และเริ่มดำเนินธุรกิจ หากผู้รับสัมปทานสามารถตกแต่งแล้วเสร็จก่อน 90 วัน ก็สามารถเปิดบริการเร็วขึ้นได้ ภายใต้กรอบสัญญาสัมปทาน 10 ปี

ข่าวที่ 2 “
กระทรวงการคลัง รายงานถึง โครงการ “เที่ยวทั่วไทย ไปถึงถิ่น” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับภาคเอกชนท่องเที่ยวเสนอขอกระทรวงการคลังใช้มาตรการลดหย่อนภาษี คืนภาษีท่องเที่ยวปี 2561  เพื่อกระจายการท่องเที่ยวสู่ชุมชนท้องถิ่นมีรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน ตามวัตถุประสงค์ 2 ข้อ คือ 1.กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่นผ่านการท่องเที่ยว 2.กระจายตัวนักท่องเที่ยวไปยังเมืองรองมากขึ้น
ในขั้นตอนการหารือระหว่างกระทรวงการคลัง กับ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการฯ และทีมงาน ต่อเนื่องมา 2 ครั้ง เบื้องต้นเมื่อวันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2560 ตกลงกรอบแนวทางเบื้องต้นที่จะให้ปรับรูปแบบการท่องเที่ยวเพื่อนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาปี 2561 โดยจะให้ได้ไม่เกิน 15,000 บาท พร้อมทั้ง ททท.จะต้องกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวโดยมีการเดินทางจริงเข้าไปถึง “ชุมชน” เกินกว่า 60 % โดยจะกำหนดพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยว ที่ได้รับรางวัลที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย หรือหน่วยงานอื่น ๆ กำลังหาข้อสรุปร่วมกันก่อนจะประกาศมาตรการกระตุ้นดังกล่าวออกสู่สาธารณะในเร็ว ๆ นี้
ส่วนผลจะออกมาอย่างไรจะต้องความชัดเจนอีกครั้งก่อนเดือนตุลาคม 2560
สำหรับข้อเสนอเดิมของ ททท.นั้น ได้แบ่งพื้นที่การเดินทางไปท่องเที่ยวแตกต่างกันในการได้รับสิทธินำมาลดหย่อนภาษีด้วยกัน 3 ระดับ ประกอบด้วย
1.การคืนภาษีแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก  14 จังหวัด จะได้รับค่าลดหย่อน 15,000 บาท
2.การลดหย่อนภาษีเมื่อเดินทางไปเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลาด 12 จังหวัด จะได้รับค่าลดหย่อนสูงขึ้นเป็น 30,000 บาท
3.การลดหย่อนภาษีเมื่อเดินทางไปเที่ยวจังหวัดที่เหลืออื่น ๆ อย่างชายแดนภาคใต้ อีสาน และเขตอุทกภัย ลดได้สูงสุดถึง 50,000 บาท

ข่าวที่ 3 “เครือบางจากเพิ่มทุนบุกธุรกิจลิเทียมต่างแดน”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบางจากฯ และ Lithium Americas Corp. ร่วมลงนามสัญญาการซื้อหุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น ใน Lithium Americas Corp. หรือ LAC บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต แคนาดา. เพื่อพัฒนาเหมืองแร่ลิเทียม ในอาร์เจนติน่า เพื่อก้าวสู่ผู้นำธุรกิจพลังงานสีเขียว ตามที่บางจากฯ ได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในทั่วโลก
การซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้มีผลทำให้มีสัดส่วนการถือครองหุ้นจาก 20,286,757 หุ้น ปัจจุบันเพิ่มเป็น 70,286,757 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนถือหุ้น 16 %
โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบการกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ในรูปแบบของแบตเตอรี่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีแร่ลิเทียมเป็นธาตุหลักที่สำคัญต่อการพัฒนาเพราะมีคุณสมบัติเป็นโลหะที่เบาที่สุดในตารางธาตุ สามารถเก็บประจุได้เป็นเวลานานกว่าแบตเตอรี่จากธาตุอื่น
ขณะนี้ ราคาของลิเทียมในการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวได้ขยับขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว คาด 5 ปีหน้า ช่วง ปี 2568 ความต้องการใช้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 5 เท่า สอดคล้องกับการเติบโตในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2583 จะมีถึง 20 ล้านคัน แต่ปริมาณลิเทียมยังคงผลิตได้ไม่เพียงพอ การซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบางจากในระยะยาว ที่จะขยายการลงทุนด้านพลังงานสะอาดในต่างประเทศ เป็นการสร้างโอกาสและสร้างรายได้ในธุรกิจสีเขียวทั้งในสัดส่วนของการถือหุ้นในเหมืองและได้ผลิตภัณฑ์ไปต่อยอดทำแบตเตอรี่คุณภาพสูง ที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสนใจลงทุน

ข่าวที่ 4 “ทายาทโคห์เลอร์ปักธงKEC BKKแห่งแรกในเอเชีย”
มร. เดวิด โคห์เลอร์ ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลโคห์เลอร์ แบรนด์สุขภัณฑ์อันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 144 ปี เตรียมบินตรงจากสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย เพื่อร่วมพิธีเปิดผลิตภัณฑ์ “KOHLER Experience Center   กรุงเทพ หรือ KEC BKK” ในวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2560 เวลา 18.30 น. ณ ชั้น 1 อาคารโนเบิล รีมิกซ์ ทองหล่อ (สุขุมวิท) ซึ่งจะเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผลิตภัณฑ์บริการแบบครบวงจร
สำหรับ KEC BKKซึ่งเป็นศูนย์เรือธงธุรกิจ (flagship Store) ที่ทางโคลห์เลอร์เลือกมหานครกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งหลักนั้น จะมีสินค้าของโคห์เลอร์ครบวงจรบริการลูกค้ามากที่สุด พร้อมทั้งมีดีไซน์โดดเด่น สวยงาม และหรูหราสุด ๆ ในการมอบประสบการณ์ครบทุกสัมผัสของสุนทรียภาพแห่งการใช้ชีวิต เนื่องจากโคห์เลอร์คือผู้นำทางด้านการผสมผสานนวัตกรรมและศิลปะในการออกแบบ มาอย่างยาวนานนับเกือบศตวรรษครึ่ง

ช่วงที่ 2 หน้าฝนปีนี้ชวนครอบครัวออกไปดูวิถีชุมชนท่องเที่ยวภาคเหนือ ที่มีให้เลือกถึง 4 จังหวัด 5 ชุมชนยอดนิยม

@เที่ยวเหนือฝันล้านนา4จังหวัด5ชุมชน
การเดินทางเที่ยวหน้าฝนในมุมต่างจากฤดูอื่น ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และ “การท่องเที่ยวชุมชน” ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากกระแส ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋เก๋สไตล์ลึกซึ้ง
เส้นทาง “เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ” ในเมืองอารยธรรมล้านนา  4 จังหวัด เชียงใหม่-ลำพูน-น่าน-สุโขทัย  มีถึง 5 ชุมชนท่องเที่ยวว้าว ๆ มาชวนไปชมได้ตลอดหน้าฝนเรื่อยไปจนถึงหน้าหนาวของทุกปี

ปักหลักกันที่ “เชียงใหม่” ชุมชนแรก ต้องไป “ชุมชนแม่กำปอง” ต.ห้วยแก้วกิ่ง อ.แม่ออน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ห่างจากตัวเมืองราว 50 กม.ตั้งรกรากอยู่กันมานานกว่า 100 ปี รอบหมู่บ้านตั้งอยู่กลางอ้อมกอดธรรมชาติหุบเขา ลำธาร อากาศเย็นสบายตลอดปี สมัยก่อนมีดอกไม้เล็ก ๆ สีแดงออกเหลือบานอยู่ริมลำธารชาวบ้านเรียกว่า “ดอกกำปอง” อันเป็นชื่อที่นำมาตั้งเป็นหมู่บ้าน ทุกวันนี้กำปองกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบสโลไลฟ์ที่ยังคงใช้วิถีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม

ชุมชนที่ 2 “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปงห้วยลาน” ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง อยู่ห่างจากเมืองเชียงใหม่เพียง 25 กม. หมู่บ้านแห่งนี้เป็นต้นแบบการอนุรักษ์ป่าที่ได้น้อมนำพระราชดำรัสพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยแปรรูปยางรักเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำ “เครื่องเขินล้านนา” แต่ละบ้านจะปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ พร้อมกับ ทอผ้าฝ่ายบ้านปง จักรสาน ทำลูกประคบ เก็บเห็ดธรรมชาติ หาปลาในห้วยลานมาเป็นอาหารยังชีพ ขณะนี้เปิดโฮมสเตย์ตามแบบวิถีชาวบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว

จากเชียงใหม่ไปเที่ยวชุมชนแห่งที่ 3 ของชาวปะกากะยอที่ “ชุมชนพระบาทห้วยตุ้ม” ต.นาทราย อ.ลี้ จังหวัดลำพูน ทั้งหมู่บ้านชาวปะกากะยอจะได้รับการสอนสั่งจาก “ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา” ให้ทำบุญถือศีลปฎิบัติธรรมตามศรัทธา และสวมใส่เสื้อผ้าที่โดดเด่นเป็นเอลักษณ์เฉพาะโดยมีย่ามคู่กายพกติดตัวทุกคน
ถึงแม้ครูบาวงจะมรณภาพไปแล้ว ชุมชนแห่งนี้ก็ยังคงทำตามคำสอน และบริโภคอาหารมังสะวิรัตทุกมื้อ ทุกเช้าชาวบ้านจะเดินไปใส่บาตร กวาดลานวัด ทำสังฆทานผัก
หรือจะเลือกขึ้นพื้นที่สูงสู่ “เมืองน่าน” ถิ่นฐานของปู่ม่าน-ย่าม่าน แวะไปสัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ใน ชุมชนที่ 4  “ชุมชนหนองบัว (ชาวไทลื้อ)” ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา หมู่บ้านแห่งนี้มีชาวจีนเชื้อสายไท้ลื้อจากแคว้นสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งรกรากอยู่มานาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะจะค้นหาเสน่ห์วิถีชีวิต การทอผ้าลายน้ำไหล ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ชุมชน แล้วยังได้นำศิลปะการทอผ้าด้วยมือ แปรรูปเป็น กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ ผ้าม่าน ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อตามชอบกันทุกทริป

ต่อด้วยชุมชนที่ 5  “ชุมชนบ้านนาต้นจั่น” ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ดินแดนป่าไม้ธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพ ทำนา ปลูกผลไม้ ทอผ้า จักสาน มีบริการโฮมสเตย์ พร้อมกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ โดยเฉพาะ “เมนูอาหารถิ่น” อย่าง “ข้าวเปิ๊บ” โดนใจนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ แถมชาวบ้านยังถ่ายทอดวิชาทำผ้าหมักโคลนกับพาเที่ยวชุมชน สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
สนใจท่องเที่ยวภาคเหนือ “4 จังหวัด 5 ชุมชนต้นแบบ” ท่องเที่ยววิถีไทยล้านนา ในอ้อมกอดธรรมชาติ ท่ามกลางวัฒนธรรมพื้นถิ่น อาชีพพื้นบ้าน ทอผ้า จักสาน และอีกหลากหลายความมหัศจรรย์แห่งภูมิปัญญาไทย
สอบถามได้ที่ 1672 หรือ ททท.สำนักงาน เชียงใหม่ โทร. 053-248-604-5, ททท.แพร่-น่าน โทร.054-521-127 ททท.สุโขทัย โทร.055-616-228-9

@กินวิตามิน E จากอาหาร10อย่างดีต่อร่างกาย
วิตามิน E เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและป้องกันการแข็งแตัวของเลือดตามผนังของหลอดเลือด และยังสามารถทำหน้าที่เป็นสาร antioxidant ทำให้สามารถป้องกันการถูกทำลายของเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ โดยทั่วไปแล้วผู้ใหญ่ควรได้รับวิตามิน E ประมาณ 11 มิลลิกรัม (หรือ 10.4 international unit) ต่อวัน ทำให้แต่ก่อนวิตามิน E เสริมจึงได้รับความนิยมมากโดยหวังว่าวิตามิน E จะสามารถป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
ควรเลือกรับประทานอาหารสุขภาพ 10 ชนิดเป็นตัวอย่างอาหารที่มีวิตามิน E สูง ได้แก่
1.อัลมอนด์ นอกจากอัลมอนด์จะเป็นแหล่งวิตามิน E สูงแล้ว ยังมีส่วนประกอบของวิตามิน B โพแทสเซียม ซิงค์ (zinc) แมกนีเซียม แคลเซียม และเหล็ก อีกด้วย โดยอัลมอนด์ 1 ออนซ์ (ประมาณ 23 เคอร์เนล) จะมีปริมาณวิตามิน E สูงถึง 7 มิลลิกรัม เท่ากับครึ่งหนึ่งของปริมาณที่จำเป็นต่อวัน

2.บร็อกโคลี เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามิน A, K และ C, แคลเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมทั้งมีแคลอรี่ต่ำด้วย เป็นแหล่งวิตามิน E สูบร็อกโคลี่ 4 หัว จะมีวิตามิน E อยู่ 1 มิลลิกรัม
3.น้ำมันคาโนล่า เป็นน้ำมันพืชที่เป็นแหล่งของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fat) กรดไขมันโอเมก้า-3 และวิตามิน E ซึ่งน้ำมันคาโนล่า 1 ช้อนโต๊ะจะให้วิตามิน E ประมาณ 2.5 มิลลิกรัม เหมาะนำมาใช้ประกอบอาหารและใส่เป็นน้ำสลัด
4.เฮเซลนัต ดีต่อสุขภาพมาก เพราะมีแร่ธาตุเช่น แคลเซียมและเหล็กสูง อีกทั้งมีไฟเบอร์และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวด้วย เฮเซลนัต 1 ออนซ์ (ประมาณ 21 เคอร์เนล) มีประมาณวิตามิน E ถึง 4 มิลลิกรัม มากกว่าร้อยละ 25 ของปริมาณวิตามิน E ที่ควรได้รับต่อวัน
5.กีวี่ ผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง มีแคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียมด้วย เป็นแหล่งไฟเบอร์และมีปริมาณแคลอรี่ต่ำมากเหมาะกับการทานเป็นอาหารว่าง
6.มะม่วง มีวิตามิน A และ C โพแทสเซียม และไฟเบอร์ด้วย มะม่วง 1 ถ้วยมีวิตามิน 1.5 มิลลิกรัม สามารถมาหั่นใส่ในสลัดหรือจะนำมาปั่นเป็นสมูทตี้ก็ได้
7.เนยถั่ว มีปริมาณ แมกนีเซียม ซิงค์ โปรตีน และไนอะซินสูง เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะมีวิตามิน E ถึง 3 มิลลิกรัม เลือกเนยถั่วจากธรรมชาติที่ไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม
8.ผักโขม เป็นสุดยอดของอาหาร เนื่องจากมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุและไฟเบอร์สูง และยังมีปริมาณแคลอรี่ต่ำ ผักโขมสุก 1 ถ้วย จะมีวิตามิน E ถึง 4 มิลลิกรัม
9.เมล็ดทานตะวัน อุดมด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งปริมาณแคลเซียมที่สูง เหล็ก โพแทสเซียมม ซิงค์ และโฟเลท อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวด้วย โดยเมล็ดทานตะวัน 1 ออนซ์ จะมีปริมาณวิตามิน E อยู่ถึง 7 มิลลิกรัม
10.มะเขือเทศ มีสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามิน C วิตามิน A ไฟเบอร์ และโพแทสเซียม แต่ยังคงมีแคลอรี่ต่ำ ซึ่งมะเขือเทศหั่น 1 ถ้วยจะมีวิตามิน E อยู่ 1 มิลลิกรัม ทั้งซอสและน้ำมะเขือเทศมีปริมาณวิตามิน E สูงเช่นเดียวกัน

ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ตั้งเป้าFooD&Hotel2017ทำเงินพุ่ง4.5พันล้าน”

ยูบีเอ็มฯ นำรัฐและเอกชนไทย-เทศ เปิดโลกธุรกิจ “งาน Food & Hotel Thailand 2017” จัด 4 วันหวังโกย 4,500 ล้านบาท
นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูบีเอ็ม บีอีเอส จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์กรท่องเที่ยวภาครัฐและเอกชนไทยและต่างประเทศ 25 องค์กร จัดงาน Food & Hotel Thailand 2017 ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เป็นมหกรรมจัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการพรีเมี่ยมระดับนานาชาติ ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร
คาดการณ์จะสร้างมูลค่าการค้าและการเจรจาธุรกิจกว่า 4,500 ล้านบาท จากผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และนักลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน  ที่จะมาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และการเจรจาธุรกิจ ปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมจัดแสดง 370 ราย จากทั่วโลก 30 ประเทศ และ 7 พาวิลเลี่ยนใหญ่ จากเบลเยี่ยม จีน เยอรมัน ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
ไฮไลต์จะมีเปิดตัว 22 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโลก 12 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของอาเซียน และ 38 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของไทย การแข่งขันจัดโต๊ะอาหาร (5 Courses Western Table Set Up Competition) การประกวดไวน์และสัมมนาไวน์จากผู้เชี่ยวชาญ (International Wine Challenge Judges Panel and Thai Wine Master Class) เบียร์พาวิลเลี่ยนและการอบรมคราฟต์เบียร์ การแข่งขันวาดลวดลายศิลปะบนถ้วยกาแฟ (World Champion 2017 Latte Artist from Thailand) เพื่อหาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลก

ข่าวที่สอง “กาตาร์แอร์บินตรงเชียงใหม่ 4เที่ยว/สัปดาห์ ธ.ค.นี้”

กาตาร์แอร์เวย์สเปิดบินตรง “โดฮา-เชียงใหม่” ธันวาคม 2560 สัปดาห์ละ 4 เที่ยว ดึงนักท่องเที่ยวยุโรปพักผ่อนในล้านนาเติบโตในอนาคต

นายอัคบาร์ อัลเบเคอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม "สายการบิน “กาตาร์แอร์เวย์” เปิดว่า เตรียมเปิดเที่ยวบินประจำแบบบินตรงจากกรุงโดฮาสู่เชียงใหม่ สัปดาห์ละ 4 เที่ยว จะเริ่มตั้งแต่ธันวาคม 2560-พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ 4 ในไทย ต่อจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่
โดยได้จัดทำตารางบินไป-กลับ “โดฮา-เชียงใหม่” 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคารพฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ รหัสเที่ยวบิน QR822 จากโดฮา (DOH) ออกเดินทางเวลา 20.05 น.สู่ปลายทางเชียงใหม่ (CNX)  มาถึงเวลา 06:00 น. ขากลับ QR823 ออกเดินทางจากเชียงใหม่เวลา 7.10 น. กลับถึงโดฮาเวลา 10:55 (จันทร์, พุธ, ศุกร์, อาทิตย์)
ปัจจัยที่เป็นแรงดึงดูดกาตาร์แอร์เวย์ เลือกบินตรงเข้าสู่เชียงใหม่ มาจากเล็งเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเดินทางการท่องเที่ยววันหยุดของตลาดแถบยุโรปทั้ง อาทิ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี นิยมเลือกมาพักผ่อนเมืองที่มีวิถีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง

ทั้งนี้เมื่อปี 2539 กาตาร์แอร์เวย์สเปิดบิน กรุงเทพฯ 5 เที่ยวต่อวัน ต่อมาบินตรงไปยังภูเก็ตอีก 2 เที่ยวต่อวัน และกระบี่ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ปลายปี 2560 จะเพิ่มความถี่เส้นทางกระบี่เป็นวันละ 1 เที่ยว ทำให้มีเที่ยวบินแต่ละสัปดาห์เข้าสู่ไทยเพิ่มขึ้นเป็น 60 เที่ยว

ข่าวที่สาม “SPAขยายธุรกิจรับปีท่องเที่ยวยั่งยืน”

นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านการให้บริการธุรกิ จสปาแบบครบวงจร เปิดเผยว่าธุรกิจท่องเที่ยวยั งสดใส หลังคณะรัฐมนตรีมีมติประกาศปี 2561 เป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน (Amazing Thailand Tourism Year 2018) โดยกำหนดหลากหลายกิจกรรมเพื่อดึ งดูดนักท่องเที่ยวระดับกลางและบน สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของ  SPA โดยครึ่งปีแรกปี 2560 สามารถทำรายได้รวม 456.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.32% ทำกำไรสุทธิ 85.49 ล้านบาท เติบโต 29.71%  จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการธุรกิจสปา คิดเป็น 85 % ของรายได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอื่ นๆ
แผนช่วงครึ่งปีหลังจึงวางแผนธุรกิจเน้นกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขายต่อลูกค้าบริ การสปาทั้ง 3 แบรนด์ โดยการขยายฐานลูกค้าทั้งชาวต่ างชาติและคนไทย ผลิตภัณฑ์สปา ต่อจากปีนี้เปิดบริ การสาขาใหม่ไปแล้ว 7 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภายใต้แบรนด์ของ  Let’s Relax และบ้านสวน มาสสาจ ส่วนอีก 5 เดือนจากนี้ไปจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา คาดรายได้ตลอดปีนี้จะโตตามเป้ าหมายถึง 30% จากฐานยอดขายปี 2559 ทำไว้ 739.12 ล้านบาท


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai