ผ่าปมร้อนฉ่า“ทอท.-สุวรรณภูมิ”ปี’61
คิงเพาเวอร์แจกสนามบอลฟรี100แห่ง
ททท.เทนิวเฉดโกยอินเดีย7.2หมื่นล้าน
บางจากเพิ่มการผลิต3ล้านลิตร/เดือน
สนามบินภูเก็ตเปิดครบวงจรมิ.ย.นี้
สุขใจกับกิจกรรมรัวๆชุมชนอัมพวา
ใช้สมาร์ทโฟนให้ถูกวิธีชีวิตดี๊ดีชัวร์
ไทยต่อยอดมัสมั่นแชมป์อาหารโลก
สวนสยามแต่งไทยเที่ยวฟรี4มี.ค.นี้
เรเนซองส์เทจัดบุฟเฟต์ถูก3-4มี.ค.
สวัสดีวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 ฟังคำตอบทุกประเด็นร้อนจากปาก “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” อีก 100 กว่าวัน การประมูลพื้นที่สัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ส่วนโครงการจัดซื้ออุปกรณ์สนามบินทั้ง บอดี้ สแกน และเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดบนสายพานลำเลียงกระเป๋า ล้วนมีที่มาถึงน่านฟ้าการบินของเมืองไทย อย่างไรก็ต้องเดินตามมาตรฐาน “อเมริกา” ดีกว่าทำให้กลายเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โตในอนาคต
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” เปิดเผยว่า เตรียมเปิดประมูลพื้นที่จำหน่ายร้านค้าปลอดอากร (Duty Free) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 ทำเผื่อล่วงหน้าประมาณ 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องการก่อสร้างเทอร์มินัลหลังใหม่หรือ Sattlelight Terminal จะแล้วเสร็จปี 2562 ควบคู่กับเดือนกันยายนปี 2563 สัญญาสัมปทานของกลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ จะหมดสัญญาสัมปทานการทำร้านค้าดิวตี้ฟรีในพื้นที่เทอร์มินัลหลังปัจจุบันพอดี
ตามปกติผู้ชนะการประมูลจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี เพื่อดำเนินการทำข้อตกลงกับเจ้าของแบรนด์เนม และตกแต่งสถานที่ ระหว่างนี้อยู่ขั้นตอนที่ ทอท.จะต้องประเมินการประมูลครั้งใหม่จะเข้าพระราชบัญญัติร่วมทุนหรือไม่อย่างไร อีกทั้งการวางผังโครงสร้างร้านค้าครั้งใหม่ ปัจจุบัน ทอท.ต้องยึดหลักมาตรฐานบริการสากลในท่าอากาศยาน SERVICE LEVEL 4 จะระบุถึงรายละเอียดการแบ่งพื้นที่ให้บริการและเชิงพาณิชย์กี่เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เริ่มออกแบบ แต่ประเด็นของ ทอท.คือคลุมมาตรฐานพื้นที่ แต่การจัดผังของสุวรรณภูมิจะกระจุกอยู่ตรงกลาง เนื่องจากพื้นที่ที่เหลือจะใช้เป็นพื้นที่ทางเดิน จึงทำให้คนส่วนใหญ่มองเห็นร้านค้ากระจุกอยู่เฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบตั้งแต่ต้น
ดังนั้นในแซตเทิลไลท์ เทอร์มินอล หลังใหม่จึงจะเน้นดีไซน์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการกระจายพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วยเช่นกัน
ส่วนสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายในท่าอากาศยานของ ทอท.ต้องมีความหลากหลาย “ราคา” ทั้งถูกและแพง รวมถึงการให้บริการต้องคำนึงถึงทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสารต้องอยู่ร่วมกันได้ ตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ผมมีโอกาสเดินทางไปใช้สนามบินฮ่องกง ช่วง 23.00-05.00 น.จะปิดบริการหมดทั้งร้านอาหารและอื่น ๆ สะท้อนถึงการออกแบบบริการของสนามบินดังกล่าว จะปิดบริการ 1 ช่วง ประมาณ 8 ชั่วโมง ทำงานเพียง 2 ช่วง 16 ชั่วโมง แตกต่างจากสุวรรณภูมิของไทย เปิดบริการ 3 ช่วง ตลอด 24 ชั่วโมง จึงส่งผลถึง “ต้นทุน” การจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายทางปฏิบัติการสูง จึงเป็นเหตุผลทำให้ ทอท.ต้องอนุญาตให้ร้านค้าขายราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป 20 % แล้วการเปรียบเทียบแหล่งจำหน่ายก็ต้องนำจากใจกลางเมืองมาเทียบเคียงกันจึงจะเป็นธรรม เป็นการใช้ระบบการควบคุมราคาของสนามบิน และหากผู้โดยสารพบเหตุการณ์ที่ผิดปกติเรื่องราคาขายในสนามบินก็สามารถส่งภาพและรายละเอียดร้องทุกข์ผ่านทางเฟซบุ๊ค AOT OFFICIAL ได้เลย ขณะเดียวกันนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบราคาสินค้าสนามบิน เข้าไปตรวจทุกเดือนพร้อมรายการทุกระยะ
ผลจาก 1.Business Model ของ ทอท.ในสนามบินแตกต่างจากสนามบินอื่น 2.เพิ่มทางเลือกเพื่อทำให้ราคาสินค้าไม่แพง โดยมีสตรีทฟู้ดอยู่อาคารชั้นล่างตรงบริเวณประตู 8 ขอความร่วมมือจากร้านค้าขายน้ำและอาหารโดยมีทางเลือกหลากหลายราคาและหลายเมนู ซึ่งร้านราคาประหยัดจะถูกด้านนอกส่วนร้านในโซน Airside ก็จะต้องอนุญาตให้ขายสูงกว่าราคาตลาด 20-25 %
นายนิตินัยกล่าวต่อถึงโครงการจัดตั้งบริษัทดำเนินการขนสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสารในสนามบิน (Ground Handing Service :GHS) ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของสายการบินทั้งหมดซึ่งบวกค่าบริการไว้ในตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้ว ส่วนวิธีการสายการบินจะไปสร้างบริษัทเหมาจ้างงานหรือมีพนักงานของตนเองก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน แต่ ทอท.ก็ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบจากกรณีที่มีสินทรัพย์ของผู้โดยสารสูญหายจากกระเป๋า ขณะนี้จึงต้องใช้วิธีจับโขมยโดยรวบรวมหลักฐานแล้วส่งตำรวจดำเนินคดี แต่ก็แก้ปัญหาได้ไม่พ้นความรับผิดชอบอยู่ดี และหน้าที่ก็ทำได้แค่เป็นหูเป็นตาเท่านั้น
ดังนั้นจึงมีแนวทางที่จะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริการเอง จะเริ่มนำร่องแห่งแรกในท่าอากาศยานดอนเมือง จะเริ่มช่วงไตรมาส 4 เพื่อทดลองการทำงานและเรียนรู้ถึงอุปสรรคปัญหาเมื่อ ทอท.กลับมาควบคุมดูแลเองตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แล้วจากนั้นจะขยายการทำงานภายใต้บริษัทลูกของ ทอท.ต่อไปยังสุวรรณภูมิหรือไม่อย่างไร จะต้องประมวลผลกันอีกครั้ง
ขณะที่ประเด็นร้อนแรงเรื่อง “การจัดซื้ออุปกรณ์ติดตั้งในสุวรรณภูมิ” ช่วงนี้มี 2 เรื่อง คือ 1.การจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจร่างกายก่อนถึงเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง หรือเรียกว่า Body Scand มีอยู่ 2 แบบ ปัจจุบันสั่งซื้อจากอเมริกาตามมาตรฐานของTSA ซึ่งไทยเป็นประเทศเล็ก ๆ จะต้องปฏิบัติตามกฎสากลของอเมริกาจึงต้องใช้อุปกรณ์ของประเทศดังกล่าวด้วย เพราะสายการบินต่าง ๆ จากไทยจะต้องบินเข้าสู่อเมริกาและต้องทำตามกฎของเขาอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นก็จะถูกปฏิเสธให้บินเข้าสู่จุดหมายปลายทางดังกล่าว ซึ่งสนามบินเล็ก ๆ ไม่ได้มีอำนาจต่อรองมากนัก ผนวกกับยี่ห้อที่สุวรรณภูมิใช้อยู่ก็เป็นของอเมริกาซึ่งมีอยู่ยี่ห้อเดียวคือ Provision ที่ผ่านมาตรฐาน TSA และสินค้ายี่ห้อดังกล่าวก็มีตัวแทนประจำประเทศไทยเพียงบริษัทเดียว
แต่ข่าวที่ปรากฏอยู่ในเมืองไทยตอนนี้คือ ราคาซื้อปกติประมาณเครื่องละ 5.6 ล้านบาท แต่พอ ทอท.ไปเช่ามาใช้กลับแพงกว่าหลายเท่าเครื่องละ 6 แสนบาท ภายหลังลดเหลือ 5 แสนบาท/เดือน จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าแพง
ความจริงคือ ราคาซื้อเครื่องละ 5.6 ล้านบาท นั้นเป็นราคาตามสัญญาที่มีอยู่จริงเฉพาะข้อตกลงขายระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลในสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศอื่น ๆ ไม่ได้สิทธิซื้อได้ตามราคาดังกล่าว จึงเท่ากับเป็นราคาที่ไทยเองก็ไม่สามารถซื้อได้ตามราคาดังกล่าว และประเด็น “ทอท.เช่าใช้” นั้นเพราะเหตุผล 1.ไม่ต้องการแบกภาระต้นทุนทางด้านอื่น ๆ ทั้งการซ่อมบำรุง ซ่อมแซมหากอุปกรณ์ชำรุด หรืออายุการใช้งาน เทคโนโลยีจะหมดอายุเร็วขนาดไหน เนื่องจากเป็นยุคการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว 2.วิธีเช่าจะลดเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงได้จำนวนมากทั้งเรื่อง อะไหล่ แรงงานช่าง ค่าประกันอุปกรณ์ และซอฟท์แวร์การใช้งาน
ก่อนจะซื้อเมื่อรู้ว่ามีบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดบนสายพานกระเป๋าเพียงรายเดียวในเมืองไทย ทอท.จึงได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการสอบถามไปยังสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้คำตอบยืนยันว่าราคาที่เอเย่นต์ในเมืองไทยเสนอ ทอท.นั้นเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก จึงเป็นทางเลือกที่ ทอท.ทำอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนเครื่องจับอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดบนสายพานกระเป๋า เมื่อเปลี่ยนอุปกรณ์มาแล้วก็ต้องวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญเรื่องสเป็คประกอบกันไปด้วย คือ
เรื่องที่ 1 ต้องยอมรับเกณฑ์มาตรฐานการเลือกซื้ออุปกรณ์ของยุโรปและอเมริกาล้วนมีเงื่อนไขต่อเนื่องส่งผลในระยะยาว เนื่องจากผู้ผลิตในตลาดโลกมีอยู่ 2 ค่าย คือ ยุโรป กับอเมริกา ดังนั้นอุปกรณ์ที่เลือกซื้อเข้ามาใช้ต้องผ่านมาตรฐาน คณะกรรมการและหน่วยงานความปลอดภัยการบินยุโรป (European Aviation Safety Agency -EASA) และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ( Federal Aviation Administration - FAA) ดังนั้น ทอท.ต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย และต้องยอมรับตามเงื่อนไขเพราะไม่เช่นนั้นสายการบินของไทยก็จะบินเข้าทั้ง 2 ทวีปนี้ลำบาก
เรื่องที่ 2 สเป็คเชิงคุณภาพ ความคุ้มค่าการลงทุน ทั้งอายุการใช้งานและความเร็วในการตรวจสอบกระเป๋าบนสายพาน ปกติการใช้งานของอายุเทคโนโลยี เฉลี่ยมาตรฐาน 15 ปี ตอนนี้สุวรรณภูมิใช้มาตั้งแต่ปี 2549 กับความเร็วในการตรวจสอบบนสายพานซึ่งปัจจุบันมี 0.3 และ 0.34 เมตรต่อวินาที ใช้งานได้ถึงปี 22565 และ ปี 2568 ตามลำดับ แต่ไม่ว่าจะความเร็วเท่าไรในรุ่นดังกล่าว แต่พอซื้อมาปุ๊บขีดความสามารถของความเร็วการทำงานก็หมดแล้วกับสภาพกระเป๋าผู้โดยสารของสุวรรณภูมิ
ดังนั้น ทอท.จึงเลือกซื้อรุ่นที่มีความเร็วในการตรวจสอบ 0.5 เมตรต่อวินาที ในเชิงปริมาณการรองรับอย่างเพียงพอคุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งตอบความพึงพอใจของผู้ถือหุ้นและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
โดยสรุปบริษัทที่เข้าข่ายมีคุณสมบัติครบทั้งเรื่อง เชิงคุณภาพที่ยุโรปและอเมริกายอมรับตามมาตรฐาน และอายุการใช้งานของอุปกรณ์ก็จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กล่าวมา บริษัทใดพร้อมก็เข้าร่วมประมูลกับทอท.ได้
อีกทั้ง ทอท.ภูมิใจที่ได้รับรางวัลเป็นองค์กรตัวอย่างด้าน “Project Cost -โครงการลงทุนที่มีธรรมาภิบาลการก่อสร้างตรวจสอบตามมาตรฐานจากอังกฤษ” ทำให้สุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งเดิมตั้งงบไว้เงิน 62,000 ล้านบาท ประหยัดงบประมาณลงได้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลทั้งหมดตรวจสอบได้จาก Cost ของอังกฤษและอยู่ในเว็บไซต์ www.airportthai.co.th สงสยเรืองใดก็เข้าไปตรวจสอบได้ตลอดเวลา
เป็นการเปิดใจทุกข้อสงสัยในทุกประเด็นร้อน ที่กระแสสังคมอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน นั้น “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” ตอบในรายการละเอียดทุกซอกมุม เพื่อทำให้องค์กร ทอท.ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ให้สมัครรับฟรีปี’61สนามบอล100แห่ง”
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่าในฐานะผู้นำการบุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวครบวงจรของเมืองไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในปี 2561 พร้อมเดินหน้าพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์เพื่อสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม (Corporation Social Responsibility : CSR) ปีที่ 2 ด้วยโครงการ “King Power Thai Power พลังคนไทย” วางกลยุทธ์พุ่งเป้าสร้างรากฐานให้แก่เยาวชนไทยได้รับโอกาสดี ๆ จากกิจกรรมกีฬาเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป
โดยได้เดินหน้าโครงการ SPORT POWER แจกฟรี ”100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” ระหว่างวันนี้ -30 มีนาคม 2561 เปิดรับสมัครโรงเรียนและชุมชนที่สนใจสมัครเข้ามาเพื่อขอรับการสนับสนุนสนามฟุตบอลหญ้าเทียมพร้อมอุปกรณ์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 6 ข้อดังนี้
1. เป็นโรงเรียนหรือชุมชนที่มีพื้นที่เพียงพอในการสร้างสนามฟุตบอลขนาด 7 คนเล่น (พื้นที่อย่างน้อย 33 x 53 เมตร) 2. มีทีมงานในการบริหารจัดการและดูแลสนามฟุตบอลในระยะยาว 3. ในกรณีสร้างในชุมชนจะต้องตั้งมีคนในชุมชนไม่น้อยกว่า 500 คน 4. ในกรณีสร้างในโรงเรียนจะต้องมีนักเรียนไม่น้อยกว่า 500 คน 5. เข้าร่วมได้ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน 6. ไม่จำเป็นต้องมีทีมฟุตบอลในโรงเรียน
โรงเรียนและชุมชนสามารถเสนอเอกสารพร้อมเล่าเหตุผลความต้องการ ประกอบภาพโรงเรียนหรือชุมชน ภาพพื้นที่เพื่อก่อสร้างสนามฟุตบอล ส่งไฟล์เวิร์ดส่งทางเมล์มายัง kingpower_pr@kingpower.com หรือส่ง inbox @King Power Thai Power พลังคนไทย หรือสอบถามได้ที่หน่วยงานสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 02-677-8888 ต่อ 1513, 1519
ข่าวที่ 2 “ททท.หวังโกยรายได้อินเดียปีจอ7หมื่นล้าน”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำผู้บริหารไปทำการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียซึ่งเป็นท็อปเทนที่เดินทางมาไทย จึงได้นำแคมเปญใหม่ Open to the New Shades of Amazing Thailand ไปเปิดตัวกระตุ้นท่องเที่ยวปี 2561 คาดจะมีรายได้จากอินเดียเพิ่มขึ้น 12 % สร้างรายได้เกือบ 70,000 ล้านบาท ซึ่งมีกลุ่มไฮเอนด์ใช้จ่ายเงินสูง โดยเฉพาะกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มไมซ์ สถิติปี 2560 อินเดียมาไทยกว่า 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 18.2 % สร้างเงินกว่า 62,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.11 %
ขณะนี้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทยร่วมมือกันรุกตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าเมืองไทย ทั้งเรื่องการขอรับตรวจลงตราได้ที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ (VISA ON ARRIVAL) และมีเที่ยวบิน ไป-กลับ 17 เมืองหลักจากอินเดียเข้าไทย สัปดาห์240 เที่ยว
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การมาเปิดตัวแคมเปญ Open to the New Shades of Amazing Thailand ในอินเดียเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประเทศไทยมุมใหม่ปีนี้ ททท.ส่งเสริมเป็น Preferred Destination พร้อมใช้ Thai Local Experience เป็นจุดขายหลักผ่านการสื่อสารในแนวคิดใหม่ ภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรต่างสาขา เพื่อหามุมมองใหม่ ๆ ร่วมกับชุมชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าบริการและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
พร้อมทั้งทำการตลาดต่อเนื่องในวันที่ 30 มีนาคม – 2 เมษายน 2561 ททท.ได้เชิญผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนอินเดีย 150 ราย มาไทยเพื่อสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ ตามแคมเปญ Amazing Thailand Open to the new Shades
ควบคู่กับการเพิ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย 2 ประเภท คือ 1.เคยเดินทางมาไทยซ้ำ (Revisit) 2.กลุ่มใหม่ที่จะเดินทางมาครั้งแรก (First visit) ระหว่างการเปิดตัวแคมเปญได้นำเสนอเนื้อหาผ่านดนตรีโดยศิลปินชั้นนำ มิสเตอร์โก้ แชคแมน และทีม เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำเรื่องราวของเมืองไทยได้ดียิ่งขึ้น ผนวกเข้ากับเสนอขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพความหลากหลาย 5 หมวดหลัก ๆ คือ อาหาร ธรรมชาติและชายหาดทะเล ศิลปะและงานหัตถกรรม วัฒนธรรม วิถีชีวิต
ข่าวที่ 3 “บางจากเพิ่มเป้าน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์เดือนละ3ล้านลิตร”
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ การตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 2561 ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายรวมทุกผลิตภัณฑ์ประมาณ 3 ล้านลิตรต่อเดือน เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ถึง 20% ใช้งบเพื่อสื่อสารทางการตลาดกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดเปิดน้ำมันหล่อลื่น FURIO เรียบร้อยแล้ว หลังจากพบภาพรวมปีที่ผ่านมาตลาดน้ำมันหล่อลื่น ทั้งน้ำมันหล่อลื่นยานยนต์ น้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรม และอื่นๆ มีปริมาณการจำหน่ายรวมกันเดือนละ 30 ล้านลิตร บางจากฯ มีปริมาณการจำหน่ายได้เดือนละประมาณ 2.5 ล้านลิตร และมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 7% ปี
สถานการณ์ตลาดน้ำมันหล่อลื่นมีการแข่งขันสูง ไม่ต่างจาก ตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บางจากฯ ได้คิดค้นพัฒนาวิจัย ทั้งน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมัน เชื้อเพลิง ให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นสูงขึ้นในทุกมิติ ดีทั้ง ต่อการใช้งานและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม FURIO (ฟิวริโอ้) ที่เปิดตัวแนะนำในวันนี้ จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่ต้องการน้ำมันหล่อลื่น ที่มีคุณสมบัติปกป้องเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยมีให้เลือกใช้ทั้งแบบสังเคราะห์ 100% และกึ่งสังเคราะห์ ครอบคลุมเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีความมั่นใจสูงสุด สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกมิติ
ข่าวที่ 4 “สนามบินภูเก็ตพร้อมเปิดครบวงจรมิ.ย.นี้”
นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” เปิดเผยว่าขณะนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ตได้กลับมาให้บริการตามปกติ หลังจากมีเหตุฉุกเฉินต้องปิดซ่อมรันเวย์ด่วนเนื่องจากชำรุดและเพื่อความปลอดภัยได้ใช้เวลาช่วงหลังเที่ยงคืนถึงตีห้าดำเนินการจนแล้วเสร็จภายในเวลา 48 ชั่วโมง เมื่อ 26-27 กุมภาพันธ์ 2561 โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งขณะนี้ท่าอากาศยานภูเก็ตอยู่ระหว่างปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ระยะที่ 2 (ด้านทิศเหนือ) จะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ เต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2561อาจทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย จึงขออภัยในความไม่สะดวกด้วย
ช่วงที่ 2 ตามไปสูดโอโซนใกล้กรุงในชุมชน “อัมพวา” เมืองน่ารักริมน้ำในสมุทรสงคราม แล้วไปร่วมสนุกมือเปื้อนดินกับกิจกรรมเกี่ยวกับมะพร้าว ทั้งทำขนม ทำอาหาร เครื่องจักรสาน มากมาย จากนั้นตั้งใจฟังให้ดี ๆ ถึง “วิธีการใช้สมาร์ทโฟนอย่างไรให้ปลอดภัย” ส่งท้ายด้วยข่าวฮ็อตตลอดสัปดาห์ที่มีหลากหลายความเข้มข้นเมื่อ “มัสมั่น-ส้มตำ” เป็นอาหารไทยครองแชมป์โลกอีกครั้ง ทางด้าน “สวนสยาม” ใจดีใช้วันวางศิลาฤกษ์โครงการใหม่ “เมืองบางกอก” 4 มี.ค.นี้ชวนทุกคนแต่งไทยเข้าฟรีไม่เสียค่าบัตรแถมเครื่องเล่นให้อีกคนละอย่างด้วย ส่วน “โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์” พาเหรดบุฟเฟต์ไปเทกระจาดขายในราคาแสนถูกในงาน เที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 46 เสาร์-อาทิตย์ นี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
@สุขใจได้เที่ยว“อัมพวา” สมุทรสงคราม
เมืองริมน้ำ “อัมพวา” สมุทรสงคราม เป็นอีกแหล่งพักผ่อนของเหล่านักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ด้วยเสน่ห์วิถีธรรมชาติและผู้คนในชุมชนได้รักษาวัฒนธรรมพื้นบ้าน ความเป็นอยู่แบบอไทยภาคกลางไว้อย่างสวยงาม และจัดระเบียบแหล่งสันทนาการอย่างเป็นระบบ
จึงมีทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้าไปแวะชม ชิม อาหาร และ พักค้างคืนเรือนริมน้ำหรือบ้านในชุมชน ทว่าแรงดึงดูดคนเมืองในออฟฟิศแห่แหนกันไปอัมพวาอย่างไม่ขาดสาย การเข้าร่วม “กิจกรรมภูมิปัญญาชาวบ้าน”
ในอัมพวาเป็นแหล่งมะพร้าว แต่ละอาทิตย์ชาวบ้านจึงรังสรรค์กิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมแบบฟรี ๆ ด้วยการสอนทำเครื่องจักรสานจากใบมะพร้าว สาธิตวิธีทำน้ำตาลมะพร้าว เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย
ที่อยากจะชวนกันไปทำให้ชุมชนท่องเที่ยวสมุทรสงครามอันร่มเย็น ที่โครงการ “อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์” โครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มอบให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งขึ้น เพื่อพัฒนา อนุรักษ์วิถีชีวิต วัฒนธรรมพื้นบ้าน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของชุมชนอัมวา แล้วส่งผลดีไปถึงการสร้างคุณค่า มูลค่า ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น สร้างความร่วมมือเข้ามาวางแผนบริหารจัดการด้วยกัน นำไปสู่การพึ่งพาตนเอง
เมื่อนักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองทั้งหลายสามารถเข้าไปทำซีเอสอาร์กับชาวบ้านได้ เพราะที่มีกิจกรรมให้เรียนรู้ด้านภูมิปัญญาพื้นบ้าน อย่าง การทำขนมไทย ทำน้ำตาลมะพร้าวสูตรพิเศษ เรียนจักสานผลิตภัณฑ์จากใบมะพร้าว ทำน้ำสมุนไพรม่วงชื่นชานชาลา เรื่อยไปจนถึงทำให้มือเปื้อนดินด้วยการลงมือทำ ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก เพาะเห็ดฟาง เลี้ยงไส้เดือนดิน ตกกุ้ง ต่อด้วยการทำน้ำยาล้างจานชีวภาพ
แล้วยังมีร่วมสนุกกับการดูชาวบ้านขึ้นมะพร้าวนำมาทำน้ำตาล แกะกะลามะพร้าวเป็นเครื่องดนตรีคือซอ ทำหัตถกรรมอีกหลากหลายอย่างจากะลามะพร้าว ทำว่าว ทำหนังใหญ่ ทำเศียรโขน การเขียนเบญจรงค์
หรือจะพักผ่อนในแบบชีล ๆ ไป ด้วยการล่องเรือท่องเที่ยวลัดเลาะตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อไปไหว้พระ 3 วัด 5 วัด 9 วัด
เป็นความสุขใจได้เติมโอโซนเข้าสู่ร่างกายทุกครั้งที่ได้ไปชมโครงการชัยพัฒนานุรักษ์ ในเมืองแห่งสายน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม ติดต่อสอบถามได้ที่ 0-3475-2245, facebook : ร้านค้าชุมชน และดูข้อมูลที่ www.amphawanurak.com
@วิธีใช้สมาร์ตโฟนอย่างปลอดภัย
คงเป็นเรื่องยากถ้าจะหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ตโฟน เพราะสังคมมีการใช้กันมากขึ้น ดังนั้น ควรรู้จักใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและห่างไกลจากการบาดเจ็บมากที่สุด ควรปฏิบัติดังนี้
- เมื่อใช้งานพิมพ์ด้วยนิ้วมือเท่าที่จำเป็น หากจำเป็นต้องพิมพ์มากให้พิมพ์โดยใช้แป้นพิมพ์ผ่านทางคอมพิวเตอร์
-ใช้การพูดผ่านทางโทรศัพท์ หรือข้อความเสียง แทนการพิมพ์
-หลีกเลี่ยงการใช้งานต่อเนื่องนานๆ อาจทำการพักบ้างเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ
-ให้ยกสมาร์ตโฟนให้สูงขึ้นเพื่อลดการก้มคอและศีรษะ โดยอาจใช้หมอนหรือกระเป๋าคอยรองแขนเพื่อลดการเกร็งตัวของบ่า
-หากต้องการใช้สมาธิในการทำงาน ควรปิดการสื่อสารชั่วคราว หรืออาจให้เหลือแค่การรับสายโทรศัพท์ เพื่อลดการดึงความสนใจเมื่อมีข้อความเข้ามา
-ขณะพัก ให้ทำการยืดเหยียดนิ้วและแขนให้สุด สลับกับการกำมือแน่นๆ ช้าๆ สัก ๑๐ ครั้ง หรืออาจทำการนวดคลายกล้ามเนื้อและเอ็นด้วยตนเองบ้าง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ท่องเที่ยวต่อยอดวัฒนธรรมอาหารหลังมัสมั่นคว้าแชมป์โลก”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ล่าสุดผู้นำสื่อโทรทัศน์แถวหน้าของโลก CNN World’s 50 Best Foods 2018 น่ายินดีมากที่แนวทางการนำเมนูวัฒนธรรมอาหารของชาวบ้านตำรับไทยมานำเสนอในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จนเป็นที่ยอมรับและยกย่องจากนักชิมของสากลจนได้ถูกโหวตให้เป็นสุดยอดอาหารอร่อยของโลกอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นรัฐบาลไทยโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เล็งเห็นประโยชน์อย่างมากในการต่อยอดนโยบายการนำวัฒนธรรมอาหารไทยมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวนับจากนี้เป็นต้นไป จึงขอให้ทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะจะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้..ชุมชนและคนในครัวตัวเล็กๆ ทั้งผู้สูงวัยหรือเด็กหันมาใส่ใจเรียนรู้หัดทำกับข้าวทั้งชายหรือหญิง อีกทั้งยังเป็นการช่วยกันกระตุ้นให้เกิดความภูมิใจในความเป็นเจ้าของวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลต่อโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวที่สอง “สวนสยามชวนแต่งไทยได้เข้าเที่ยวฟรี 4 มี.ค.นี้”
ดร.ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานคณะกรรมการ กลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ กล่าวว่า ถือฤกษ์ดีวันที่ 4มีนาคม2561 เปิดให้ประชาชนทุกท่านสวมชุดไทยเข้าใช้บริการสวนสยามฟรีโดยไม่เสียบัตรผ่านประตู 1 วัน พร้อมให้เล่นกี่รอบก็ได้เครื่องเล่นระดับโลกกว่า30ชนิด เพื่อฉลองการวางศิลาฤกษ์โครงการ "สยามเมืองบางกอก" ซึ่งจะเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท กำหนดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563
สำหรับโครงการ "สยามเมืองบางกอก" ได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณปราสาทด้านหน้าทางเข้าซึ่งอยู่คู่สวนสยามมานานเกือบ 40 ปี และภัตตาคารแซลลี่ ให้เป็นอาคารสองชั้นทรงนีโอคลาสสิคขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 6,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งจุดจำหน่ายบัตรผ่านประตูสวนสยาม จุดประชาสัมพันธ์ จุดนัดพบ ภัตตาคารขนาดใหญ่ ห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุม ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ จุดบริการล็อคเกอร์ รวมถึงพื้นที่แบ่งให้เช่าเพื่อทำการค้า โดยอาคารแห่งนี้นับเป็นเฟสแรกของโครงการ "สยามเมืองบางกอก" ลงทุนด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี พ.ศ. 2562
เมื่อเสร็จแล้วจะจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงที่น่าสนใจต่าง ๆ หมุนเวียนตลอดทั้งปี พร้อมมีพื้นที่จัดการแสดงสินค้า จัดประชุมสัมมนาทั้งกลุ่มย่อยและขนาดใหญ่ สะดวกสบายด้วยพื้นที่จอดรถทั้งใต้ดินและจอดรถใน 5 อาคารรวมกว่า 5,000 คัน พร้อมเปิดพื้นที่ค้าขายยามค่ำคืนเพื่อสนับสนุนนโยบายตลาดนัดประชารัฐของรัฐบาล โดยจะเปิดบริการถึงเวลา 24.00 น. และจะขยายเวลาเปิดบริการสวนสนุกของสวนสยามถึง 22.00 น. ด้วย
ข่าวที่สาม “เรเนซองส์เทจัดบุฟเฟต์ถูกในงานเที่ยวไทย3-4มี.ค.”
โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ จัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมขายใน งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 46 ระหว่างวันนี้ -4 มีนาคม นี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ ที่บูธ P309-314 มีทั้งแพกเกจอาหารบุฟเฟ่ต์หรือเป็นแบบคอร์ส อาทิ
บุฟเฟ่ต์จากห้องอาหาร Flavors บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน วันจันทร์-วันเสาร์ ราคาเพียง 820 บาทต่อคน บุฟเฟต์มื้อค่ำ 1,200 บาทต่อคน วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี และ ซันเดย์บรันช์วันอาทิตย์ 1,820 บาทต่อคน
บุฟเฟ่ต์ติ่มซำรสเลิศ วันธรรมดาราคา 850 บาท และวันหยุดสุดสัปดาห์ 1,200 บาท
จิบชายามบ่ายราคา 690 บาทต่อ 2 คน
อาหารจายเดียวสไตล์อิตาเลียนอร่อยๆ มาแบบ สาม-คอร์ส ราคา 580 บาทต่อคน
บัตรกำนัลสปาของทางโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ อาทิ สปาทรีทเม้นท์แบบ 60 นาที 990 บาท และสปาทรีทเม้นท์แบบ 90 นาที 1,590 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0 2125 5000
ติดตามรายการข่าวได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทาง สวท.FM97.0 MHz เวลา 11.00-12.00 น
คิงเพาเวอร์แจกสนามบอลฟรี100แห่ง
ททท.เทนิวเฉดโกยอินเดีย7.2หมื่นล้าน
บางจากเพิ่มการผลิต3ล้านลิตร/เดือน
สนามบินภูเก็ตเปิดครบวงจรมิ.ย.นี้
สุขใจกับกิจกรรมรัวๆชุมชนอัมพวา
ใช้สมาร์ทโฟนให้ถูกวิธีชีวิตดี๊ดีชัวร์
ไทยต่อยอดมัสมั่นแชมป์อาหารโลก
สวนสยามแต่งไทยเที่ยวฟรี4มี.ค.นี้
เรเนซองส์เทจัดบุฟเฟต์ถูก3-4มี.ค.
สวัสดีวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 ฟังคำตอบทุกประเด็นร้อนจากปาก “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” อีก 100 กว่าวัน การประมูลพื้นที่สัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ส่วนโครงการจัดซื้ออุปกรณ์สนามบินทั้ง บอดี้ สแกน และเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดบนสายพานลำเลียงกระเป๋า ล้วนมีที่มาถึงน่านฟ้าการบินของเมืองไทย อย่างไรก็ต้องเดินตามมาตรฐาน “อเมริกา” ดีกว่าทำให้กลายเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โตในอนาคต
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” |
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” เปิดเผยว่า เตรียมเปิดประมูลพื้นที่จำหน่ายร้านค้าปลอดอากร (Duty Free) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 ทำเผื่อล่วงหน้าประมาณ 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องการก่อสร้างเทอร์มินัลหลังใหม่หรือ Sattlelight Terminal จะแล้วเสร็จปี 2562 ควบคู่กับเดือนกันยายนปี 2563 สัญญาสัมปทานของกลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ จะหมดสัญญาสัมปทานการทำร้านค้าดิวตี้ฟรีในพื้นที่เทอร์มินัลหลังปัจจุบันพอดี
ตามปกติผู้ชนะการประมูลจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี เพื่อดำเนินการทำข้อตกลงกับเจ้าของแบรนด์เนม และตกแต่งสถานที่ ระหว่างนี้อยู่ขั้นตอนที่ ทอท.จะต้องประเมินการประมูลครั้งใหม่จะเข้าพระราชบัญญัติร่วมทุนหรือไม่อย่างไร อีกทั้งการวางผังโครงสร้างร้านค้าครั้งใหม่ ปัจจุบัน ทอท.ต้องยึดหลักมาตรฐานบริการสากลในท่าอากาศยาน SERVICE LEVEL 4 จะระบุถึงรายละเอียดการแบ่งพื้นที่ให้บริการและเชิงพาณิชย์กี่เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เริ่มออกแบบ แต่ประเด็นของ ทอท.คือคลุมมาตรฐานพื้นที่ แต่การจัดผังของสุวรรณภูมิจะกระจุกอยู่ตรงกลาง เนื่องจากพื้นที่ที่เหลือจะใช้เป็นพื้นที่ทางเดิน จึงทำให้คนส่วนใหญ่มองเห็นร้านค้ากระจุกอยู่เฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบตั้งแต่ต้น
ดังนั้นในแซตเทิลไลท์ เทอร์มินอล หลังใหม่จึงจะเน้นดีไซน์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการกระจายพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วยเช่นกัน
ส่วนสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายในท่าอากาศยานของ ทอท.ต้องมีความหลากหลาย “ราคา” ทั้งถูกและแพง รวมถึงการให้บริการต้องคำนึงถึงทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสารต้องอยู่ร่วมกันได้ ตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ผมมีโอกาสเดินทางไปใช้สนามบินฮ่องกง ช่วง 23.00-05.00 น.จะปิดบริการหมดทั้งร้านอาหารและอื่น ๆ สะท้อนถึงการออกแบบบริการของสนามบินดังกล่าว จะปิดบริการ 1 ช่วง ประมาณ 8 ชั่วโมง ทำงานเพียง 2 ช่วง 16 ชั่วโมง แตกต่างจากสุวรรณภูมิของไทย เปิดบริการ 3 ช่วง ตลอด 24 ชั่วโมง จึงส่งผลถึง “ต้นทุน” การจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายทางปฏิบัติการสูง จึงเป็นเหตุผลทำให้ ทอท.ต้องอนุญาตให้ร้านค้าขายราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป 20 % แล้วการเปรียบเทียบแหล่งจำหน่ายก็ต้องนำจากใจกลางเมืองมาเทียบเคียงกันจึงจะเป็นธรรม เป็นการใช้ระบบการควบคุมราคาของสนามบิน และหากผู้โดยสารพบเหตุการณ์ที่ผิดปกติเรื่องราคาขายในสนามบินก็สามารถส่งภาพและรายละเอียดร้องทุกข์ผ่านทางเฟซบุ๊ค AOT OFFICIAL ได้เลย ขณะเดียวกันนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบราคาสินค้าสนามบิน เข้าไปตรวจทุกเดือนพร้อมรายการทุกระยะ
ผลจาก 1.Business Model ของ ทอท.ในสนามบินแตกต่างจากสนามบินอื่น 2.เพิ่มทางเลือกเพื่อทำให้ราคาสินค้าไม่แพง โดยมีสตรีทฟู้ดอยู่อาคารชั้นล่างตรงบริเวณประตู 8 ขอความร่วมมือจากร้านค้าขายน้ำและอาหารโดยมีทางเลือกหลากหลายราคาและหลายเมนู ซึ่งร้านราคาประหยัดจะถูกด้านนอกส่วนร้านในโซน Airside ก็จะต้องอนุญาตให้ขายสูงกว่าราคาตลาด 20-25 %
นายนิตินัยกล่าวต่อถึงโครงการจัดตั้งบริษัทดำเนินการขนสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสารในสนามบิน (Ground Handing Service :GHS) ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของสายการบินทั้งหมดซึ่งบวกค่าบริการไว้ในตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้ว ส่วนวิธีการสายการบินจะไปสร้างบริษัทเหมาจ้างงานหรือมีพนักงานของตนเองก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน แต่ ทอท.ก็ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบจากกรณีที่มีสินทรัพย์ของผู้โดยสารสูญหายจากกระเป๋า ขณะนี้จึงต้องใช้วิธีจับโขมยโดยรวบรวมหลักฐานแล้วส่งตำรวจดำเนินคดี แต่ก็แก้ปัญหาได้ไม่พ้นความรับผิดชอบอยู่ดี และหน้าที่ก็ทำได้แค่เป็นหูเป็นตาเท่านั้น
ดังนั้นจึงมีแนวทางที่จะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริการเอง จะเริ่มนำร่องแห่งแรกในท่าอากาศยานดอนเมือง จะเริ่มช่วงไตรมาส 4 เพื่อทดลองการทำงานและเรียนรู้ถึงอุปสรรคปัญหาเมื่อ ทอท.กลับมาควบคุมดูแลเองตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แล้วจากนั้นจะขยายการทำงานภายใต้บริษัทลูกของ ทอท.ต่อไปยังสุวรรณภูมิหรือไม่อย่างไร จะต้องประมวลผลกันอีกครั้ง
ขณะที่ประเด็นร้อนแรงเรื่อง “การจัดซื้ออุปกรณ์ติดตั้งในสุวรรณภูมิ” ช่วงนี้มี 2 เรื่อง คือ 1.การจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจร่างกายก่อนถึงเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง หรือเรียกว่า Body Scand มีอยู่ 2 แบบ ปัจจุบันสั่งซื้อจากอเมริกาตามมาตรฐานของTSA ซึ่งไทยเป็นประเทศเล็ก ๆ จะต้องปฏิบัติตามกฎสากลของอเมริกาจึงต้องใช้อุปกรณ์ของประเทศดังกล่าวด้วย เพราะสายการบินต่าง ๆ จากไทยจะต้องบินเข้าสู่อเมริกาและต้องทำตามกฎของเขาอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นก็จะถูกปฏิเสธให้บินเข้าสู่จุดหมายปลายทางดังกล่าว ซึ่งสนามบินเล็ก ๆ ไม่ได้มีอำนาจต่อรองมากนัก ผนวกกับยี่ห้อที่สุวรรณภูมิใช้อยู่ก็เป็นของอเมริกาซึ่งมีอยู่ยี่ห้อเดียวคือ Provision ที่ผ่านมาตรฐาน TSA และสินค้ายี่ห้อดังกล่าวก็มีตัวแทนประจำประเทศไทยเพียงบริษัทเดียว
แต่ข่าวที่ปรากฏอยู่ในเมืองไทยตอนนี้คือ ราคาซื้อปกติประมาณเครื่องละ 5.6 ล้านบาท แต่พอ ทอท.ไปเช่ามาใช้กลับแพงกว่าหลายเท่าเครื่องละ 6 แสนบาท ภายหลังลดเหลือ 5 แสนบาท/เดือน จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าแพง
ความจริงคือ ราคาซื้อเครื่องละ 5.6 ล้านบาท นั้นเป็นราคาตามสัญญาที่มีอยู่จริงเฉพาะข้อตกลงขายระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลในสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศอื่น ๆ ไม่ได้สิทธิซื้อได้ตามราคาดังกล่าว จึงเท่ากับเป็นราคาที่ไทยเองก็ไม่สามารถซื้อได้ตามราคาดังกล่าว และประเด็น “ทอท.เช่าใช้” นั้นเพราะเหตุผล 1.ไม่ต้องการแบกภาระต้นทุนทางด้านอื่น ๆ ทั้งการซ่อมบำรุง ซ่อมแซมหากอุปกรณ์ชำรุด หรืออายุการใช้งาน เทคโนโลยีจะหมดอายุเร็วขนาดไหน เนื่องจากเป็นยุคการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว 2.วิธีเช่าจะลดเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงได้จำนวนมากทั้งเรื่อง อะไหล่ แรงงานช่าง ค่าประกันอุปกรณ์ และซอฟท์แวร์การใช้งาน
ก่อนจะซื้อเมื่อรู้ว่ามีบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดบนสายพานกระเป๋าเพียงรายเดียวในเมืองไทย ทอท.จึงได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการสอบถามไปยังสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้คำตอบยืนยันว่าราคาที่เอเย่นต์ในเมืองไทยเสนอ ทอท.นั้นเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก จึงเป็นทางเลือกที่ ทอท.ทำอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนเครื่องจับอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดบนสายพานกระเป๋า เมื่อเปลี่ยนอุปกรณ์มาแล้วก็ต้องวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญเรื่องสเป็คประกอบกันไปด้วย คือ
เรื่องที่ 1 ต้องยอมรับเกณฑ์มาตรฐานการเลือกซื้ออุปกรณ์ของยุโรปและอเมริกาล้วนมีเงื่อนไขต่อเนื่องส่งผลในระยะยาว เนื่องจากผู้ผลิตในตลาดโลกมีอยู่ 2 ค่าย คือ ยุโรป กับอเมริกา ดังนั้นอุปกรณ์ที่เลือกซื้อเข้ามาใช้ต้องผ่านมาตรฐาน คณะกรรมการและหน่วยงานความปลอดภัยการบินยุโรป (European Aviation Safety Agency -EASA) และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ( Federal Aviation Administration - FAA) ดังนั้น ทอท.ต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย และต้องยอมรับตามเงื่อนไขเพราะไม่เช่นนั้นสายการบินของไทยก็จะบินเข้าทั้ง 2 ทวีปนี้ลำบาก
เรื่องที่ 2 สเป็คเชิงคุณภาพ ความคุ้มค่าการลงทุน ทั้งอายุการใช้งานและความเร็วในการตรวจสอบกระเป๋าบนสายพาน ปกติการใช้งานของอายุเทคโนโลยี เฉลี่ยมาตรฐาน 15 ปี ตอนนี้สุวรรณภูมิใช้มาตั้งแต่ปี 2549 กับความเร็วในการตรวจสอบบนสายพานซึ่งปัจจุบันมี 0.3 และ 0.34 เมตรต่อวินาที ใช้งานได้ถึงปี 22565 และ ปี 2568 ตามลำดับ แต่ไม่ว่าจะความเร็วเท่าไรในรุ่นดังกล่าว แต่พอซื้อมาปุ๊บขีดความสามารถของความเร็วการทำงานก็หมดแล้วกับสภาพกระเป๋าผู้โดยสารของสุวรรณภูมิ
ดังนั้น ทอท.จึงเลือกซื้อรุ่นที่มีความเร็วในการตรวจสอบ 0.5 เมตรต่อวินาที ในเชิงปริมาณการรองรับอย่างเพียงพอคุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งตอบความพึงพอใจของผู้ถือหุ้นและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
โดยสรุปบริษัทที่เข้าข่ายมีคุณสมบัติครบทั้งเรื่อง เชิงคุณภาพที่ยุโรปและอเมริกายอมรับตามมาตรฐาน และอายุการใช้งานของอุปกรณ์ก็จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กล่าวมา บริษัทใดพร้อมก็เข้าร่วมประมูลกับทอท.ได้
อีกทั้ง ทอท.ภูมิใจที่ได้รับรางวัลเป็นองค์กรตัวอย่างด้าน “Project Cost -โครงการลงทุนที่มีธรรมาภิบาลการก่อสร้างตรวจสอบตามมาตรฐานจากอังกฤษ” ทำให้สุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งเดิมตั้งงบไว้เงิน 62,000 ล้านบาท ประหยัดงบประมาณลงได้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลทั้งหมดตรวจสอบได้จาก Cost ของอังกฤษและอยู่ในเว็บไซต์ www.airportthai.co.th สงสยเรืองใดก็เข้าไปตรวจสอบได้ตลอดเวลา
เป็นการเปิดใจทุกข้อสงสัยในทุกประเด็นร้อน ที่กระแสสังคมอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน นั้น “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” ตอบในรายการละเอียดทุกซอกมุม เพื่อทำให้องค์กร ทอท.ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ให้สมัครรับฟรีปี’61สนามบอล100แห่ง”
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่าในฐานะผู้นำการบุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวครบวงจรของเมืองไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในปี 2561 พร้อมเดินหน้าพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์เพื่อสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม (Corporation Social Responsibility : CSR) ปีที่ 2 ด้วยโครงการ “King Power Thai Power พลังคนไทย” วางกลยุทธ์พุ่งเป้าสร้างรากฐานให้แก่เยาวชนไทยได้รับโอกาสดี ๆ จากกิจกรรมกีฬาเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป
โดยได้เดินหน้าโครงการ SPORT POWER แจกฟรี ”100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” ระหว่างวันนี้ -30 มีนาคม 2561 เปิดรับสมัครโรงเรียนและชุมชนที่สนใจสมัครเข้ามาเพื่อขอรับการสนับสนุนสนามฟุตบอลหญ้าเทียมพร้อมอุปกรณ์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 6 ข้อดังนี้
1. เป็นโรงเรียนหรือชุมชนที่มีพื้นที่เพียงพอในการสร้างสนามฟุตบอลขนาด 7 คนเล่น (พื้นที่อย่างน้อย 33 x 53 เมตร) 2. มีทีมงานในการบริหารจัดการและดูแลสนามฟุตบอลในระยะยาว 3. ในกรณีสร้างในชุมชนจะต้องตั้งมีคนในชุมชนไม่น้อยกว่า 500 คน 4. ในกรณีสร้างในโรงเรียนจะต้องมีนักเรียนไม่น้อยกว่า 500 คน 5. เข้าร่วมได้ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน 6. ไม่จำเป็นต้องมีทีมฟุตบอลในโรงเรียน
โรงเรียนและชุมชนสามารถเสนอเอกสารพร้อมเล่าเหตุผลความต้องการ ประกอบภาพโรงเรียนหรือชุมชน ภาพพื้นที่เพื่อก่อสร้างสนามฟุตบอล ส่งไฟล์เวิร์ดส่งทางเมล์มายัง kingpower_pr@kingpower.com หรือส่ง inbox @King Power Thai Power พลังคนไทย หรือสอบถามได้ที่หน่วยงานสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 02-677-8888 ต่อ 1513, 1519
ข่าวที่ 2 “ททท.หวังโกยรายได้อินเดียปีจอ7หมื่นล้าน”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำผู้บริหารไปทำการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียซึ่งเป็นท็อปเทนที่เดินทางมาไทย จึงได้นำแคมเปญใหม่ Open to the New Shades of Amazing Thailand ไปเปิดตัวกระตุ้นท่องเที่ยวปี 2561 คาดจะมีรายได้จากอินเดียเพิ่มขึ้น 12 % สร้างรายได้เกือบ 70,000 ล้านบาท ซึ่งมีกลุ่มไฮเอนด์ใช้จ่ายเงินสูง โดยเฉพาะกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มไมซ์ สถิติปี 2560 อินเดียมาไทยกว่า 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 18.2 % สร้างเงินกว่า 62,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.11 %
ขณะนี้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทยร่วมมือกันรุกตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าเมืองไทย ทั้งเรื่องการขอรับตรวจลงตราได้ที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ (VISA ON ARRIVAL) และมีเที่ยวบิน ไป-กลับ 17 เมืองหลักจากอินเดียเข้าไทย สัปดาห์240 เที่ยว
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การมาเปิดตัวแคมเปญ Open to the New Shades of Amazing Thailand ในอินเดียเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประเทศไทยมุมใหม่ปีนี้ ททท.ส่งเสริมเป็น Preferred Destination พร้อมใช้ Thai Local Experience เป็นจุดขายหลักผ่านการสื่อสารในแนวคิดใหม่ ภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรต่างสาขา เพื่อหามุมมองใหม่ ๆ ร่วมกับชุมชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าบริการและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
พร้อมทั้งทำการตลาดต่อเนื่องในวันที่ 30 มีนาคม – 2 เมษายน 2561 ททท.ได้เชิญผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนอินเดีย 150 ราย มาไทยเพื่อสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ ตามแคมเปญ Amazing Thailand Open to the new Shades
ควบคู่กับการเพิ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย 2 ประเภท คือ 1.เคยเดินทางมาไทยซ้ำ (Revisit) 2.กลุ่มใหม่ที่จะเดินทางมาครั้งแรก (First visit) ระหว่างการเปิดตัวแคมเปญได้นำเสนอเนื้อหาผ่านดนตรีโดยศิลปินชั้นนำ มิสเตอร์โก้ แชคแมน และทีม เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำเรื่องราวของเมืองไทยได้ดียิ่งขึ้น ผนวกเข้ากับเสนอขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพความหลากหลาย 5 หมวดหลัก ๆ คือ อาหาร ธรรมชาติและชายหาดทะเล ศิลปะและงานหัตถกรรม วัฒนธรรม วิถีชีวิต
ข่าวที่ 3 “บางจากเพิ่มเป้าน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์เดือนละ3ล้านลิตร”
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ การตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 2561 ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายรวมทุกผลิตภัณฑ์ประมาณ 3 ล้านลิตรต่อเดือน เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ถึง 20% ใช้งบเพื่อสื่อสารทางการตลาดกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดเปิดน้ำมันหล่อลื่น FURIO เรียบร้อยแล้ว หลังจากพบภาพรวมปีที่ผ่านมาตลาดน้ำมันหล่อลื่น ทั้งน้ำมันหล่อลื่นยานยนต์ น้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรม และอื่นๆ มีปริมาณการจำหน่ายรวมกันเดือนละ 30 ล้านลิตร บางจากฯ มีปริมาณการจำหน่ายได้เดือนละประมาณ 2.5 ล้านลิตร และมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 7% ปี
สถานการณ์ตลาดน้ำมันหล่อลื่นมีการแข่งขันสูง ไม่ต่างจาก ตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บางจากฯ ได้คิดค้นพัฒนาวิจัย ทั้งน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมัน เชื้อเพลิง ให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นสูงขึ้นในทุกมิติ ดีทั้ง ต่อการใช้งานและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม FURIO (ฟิวริโอ้) ที่เปิดตัวแนะนำในวันนี้ จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่ต้องการน้ำมันหล่อลื่น ที่มีคุณสมบัติปกป้องเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยมีให้เลือกใช้ทั้งแบบสังเคราะห์ 100% และกึ่งสังเคราะห์ ครอบคลุมเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีความมั่นใจสูงสุด สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกมิติ
ข่าวที่ 4 “สนามบินภูเก็ตพร้อมเปิดครบวงจรมิ.ย.นี้”
นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” เปิดเผยว่าขณะนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ตได้กลับมาให้บริการตามปกติ หลังจากมีเหตุฉุกเฉินต้องปิดซ่อมรันเวย์ด่วนเนื่องจากชำรุดและเพื่อความปลอดภัยได้ใช้เวลาช่วงหลังเที่ยงคืนถึงตีห้าดำเนินการจนแล้วเสร็จภายในเวลา 48 ชั่วโมง เมื่อ 26-27 กุมภาพันธ์ 2561 โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งขณะนี้ท่าอากาศยานภูเก็ตอยู่ระหว่างปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ระยะที่ 2 (ด้านทิศเหนือ) จะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ เต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2561อาจทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย จึงขออภัยในความไม่สะดวกด้วย
ช่วงที่ 2 ตามไปสูดโอโซนใกล้กรุงในชุมชน “อัมพวา” เมืองน่ารักริมน้ำในสมุทรสงคราม แล้วไปร่วมสนุกมือเปื้อนดินกับกิจกรรมเกี่ยวกับมะพร้าว ทั้งทำขนม ทำอาหาร เครื่องจักรสาน มากมาย จากนั้นตั้งใจฟังให้ดี ๆ ถึง “วิธีการใช้สมาร์ทโฟนอย่างไรให้ปลอดภัย” ส่งท้ายด้วยข่าวฮ็อตตลอดสัปดาห์ที่มีหลากหลายความเข้มข้นเมื่อ “มัสมั่น-ส้มตำ” เป็นอาหารไทยครองแชมป์โลกอีกครั้ง ทางด้าน “สวนสยาม” ใจดีใช้วันวางศิลาฤกษ์โครงการใหม่ “เมืองบางกอก” 4 มี.ค.นี้ชวนทุกคนแต่งไทยเข้าฟรีไม่เสียค่าบัตรแถมเครื่องเล่นให้อีกคนละอย่างด้วย ส่วน “โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์” พาเหรดบุฟเฟต์ไปเทกระจาดขายในราคาแสนถูกในงาน เที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 46 เสาร์-อาทิตย์ นี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
@สุขใจได้เที่ยว“อัมพวา” สมุทรสงคราม
เมืองริมน้ำ “อัมพวา” สมุทรสงคราม เป็นอีกแหล่งพักผ่อนของเหล่านักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ด้วยเสน่ห์วิถีธรรมชาติและผู้คนในชุมชนได้รักษาวัฒนธรรมพื้นบ้าน ความเป็นอยู่แบบอไทยภาคกลางไว้อย่างสวยงาม และจัดระเบียบแหล่งสันทนาการอย่างเป็นระบบ
จึงมีทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้าไปแวะชม ชิม อาหาร และ พักค้างคืนเรือนริมน้ำหรือบ้านในชุมชน ทว่าแรงดึงดูดคนเมืองในออฟฟิศแห่แหนกันไปอัมพวาอย่างไม่ขาดสาย การเข้าร่วม “กิจกรรมภูมิปัญญาชาวบ้าน”
ในอัมพวาเป็นแหล่งมะพร้าว แต่ละอาทิตย์ชาวบ้านจึงรังสรรค์กิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมแบบฟรี ๆ ด้วยการสอนทำเครื่องจักรสานจากใบมะพร้าว สาธิตวิธีทำน้ำตาลมะพร้าว เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย
ที่อยากจะชวนกันไปทำให้ชุมชนท่องเที่ยวสมุทรสงครามอันร่มเย็น ที่โครงการ “อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์” โครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มอบให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งขึ้น เพื่อพัฒนา อนุรักษ์วิถีชีวิต วัฒนธรรมพื้นบ้าน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของชุมชนอัมวา แล้วส่งผลดีไปถึงการสร้างคุณค่า มูลค่า ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น สร้างความร่วมมือเข้ามาวางแผนบริหารจัดการด้วยกัน นำไปสู่การพึ่งพาตนเอง
เมื่อนักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองทั้งหลายสามารถเข้าไปทำซีเอสอาร์กับชาวบ้านได้ เพราะที่มีกิจกรรมให้เรียนรู้ด้านภูมิปัญญาพื้นบ้าน อย่าง การทำขนมไทย ทำน้ำตาลมะพร้าวสูตรพิเศษ เรียนจักสานผลิตภัณฑ์จากใบมะพร้าว ทำน้ำสมุนไพรม่วงชื่นชานชาลา เรื่อยไปจนถึงทำให้มือเปื้อนดินด้วยการลงมือทำ ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก เพาะเห็ดฟาง เลี้ยงไส้เดือนดิน ตกกุ้ง ต่อด้วยการทำน้ำยาล้างจานชีวภาพ
แล้วยังมีร่วมสนุกกับการดูชาวบ้านขึ้นมะพร้าวนำมาทำน้ำตาล แกะกะลามะพร้าวเป็นเครื่องดนตรีคือซอ ทำหัตถกรรมอีกหลากหลายอย่างจากะลามะพร้าว ทำว่าว ทำหนังใหญ่ ทำเศียรโขน การเขียนเบญจรงค์
หรือจะพักผ่อนในแบบชีล ๆ ไป ด้วยการล่องเรือท่องเที่ยวลัดเลาะตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อไปไหว้พระ 3 วัด 5 วัด 9 วัด
เป็นความสุขใจได้เติมโอโซนเข้าสู่ร่างกายทุกครั้งที่ได้ไปชมโครงการชัยพัฒนานุรักษ์ ในเมืองแห่งสายน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม ติดต่อสอบถามได้ที่ 0-3475-2245, facebook : ร้านค้าชุมชน และดูข้อมูลที่ www.amphawanurak.com
@วิธีใช้สมาร์ตโฟนอย่างปลอดภัย
คงเป็นเรื่องยากถ้าจะหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ตโฟน เพราะสังคมมีการใช้กันมากขึ้น ดังนั้น ควรรู้จักใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและห่างไกลจากการบาดเจ็บมากที่สุด ควรปฏิบัติดังนี้
- เมื่อใช้งานพิมพ์ด้วยนิ้วมือเท่าที่จำเป็น หากจำเป็นต้องพิมพ์มากให้พิมพ์โดยใช้แป้นพิมพ์ผ่านทางคอมพิวเตอร์
-ใช้การพูดผ่านทางโทรศัพท์ หรือข้อความเสียง แทนการพิมพ์
-หลีกเลี่ยงการใช้งานต่อเนื่องนานๆ อาจทำการพักบ้างเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ
-ให้ยกสมาร์ตโฟนให้สูงขึ้นเพื่อลดการก้มคอและศีรษะ โดยอาจใช้หมอนหรือกระเป๋าคอยรองแขนเพื่อลดการเกร็งตัวของบ่า
-หากต้องการใช้สมาธิในการทำงาน ควรปิดการสื่อสารชั่วคราว หรืออาจให้เหลือแค่การรับสายโทรศัพท์ เพื่อลดการดึงความสนใจเมื่อมีข้อความเข้ามา
-ขณะพัก ให้ทำการยืดเหยียดนิ้วและแขนให้สุด สลับกับการกำมือแน่นๆ ช้าๆ สัก ๑๐ ครั้ง หรืออาจทำการนวดคลายกล้ามเนื้อและเอ็นด้วยตนเองบ้าง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ท่องเที่ยวต่อยอดวัฒนธรรมอาหารหลังมัสมั่นคว้าแชมป์โลก”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ล่าสุดผู้นำสื่อโทรทัศน์แถวหน้าของโลก CNN World’s 50 Best Foods 2018 น่ายินดีมากที่แนวทางการนำเมนูวัฒนธรรมอาหารของชาวบ้านตำรับไทยมานำเสนอในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จนเป็นที่ยอมรับและยกย่องจากนักชิมของสากลจนได้ถูกโหวตให้เป็นสุดยอดอาหารอร่อยของโลกอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นรัฐบาลไทยโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เล็งเห็นประโยชน์อย่างมากในการต่อยอดนโยบายการนำวัฒนธรรมอาหารไทยมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวนับจากนี้เป็นต้นไป จึงขอให้ทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะจะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้..ชุมชนและคนในครัวตัวเล็กๆ ทั้งผู้สูงวัยหรือเด็กหันมาใส่ใจเรียนรู้หัดทำกับข้าวทั้งชายหรือหญิง อีกทั้งยังเป็นการช่วยกันกระตุ้นให้เกิดความภูมิใจในความเป็นเจ้าของวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลต่อโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวที่สอง “สวนสยามชวนแต่งไทยได้เข้าเที่ยวฟรี 4 มี.ค.นี้”
ดร.ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานคณะกรรมการ กลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ กล่าวว่า ถือฤกษ์ดีวันที่ 4มีนาคม2561 เปิดให้ประชาชนทุกท่านสวมชุดไทยเข้าใช้บริการสวนสยามฟรีโดยไม่เสียบัตรผ่านประตู 1 วัน พร้อมให้เล่นกี่รอบก็ได้เครื่องเล่นระดับโลกกว่า30ชนิด เพื่อฉลองการวางศิลาฤกษ์โครงการ "สยามเมืองบางกอก" ซึ่งจะเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท กำหนดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563
สำหรับโครงการ "สยามเมืองบางกอก" ได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณปราสาทด้านหน้าทางเข้าซึ่งอยู่คู่สวนสยามมานานเกือบ 40 ปี และภัตตาคารแซลลี่ ให้เป็นอาคารสองชั้นทรงนีโอคลาสสิคขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 6,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งจุดจำหน่ายบัตรผ่านประตูสวนสยาม จุดประชาสัมพันธ์ จุดนัดพบ ภัตตาคารขนาดใหญ่ ห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุม ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ จุดบริการล็อคเกอร์ รวมถึงพื้นที่แบ่งให้เช่าเพื่อทำการค้า โดยอาคารแห่งนี้นับเป็นเฟสแรกของโครงการ "สยามเมืองบางกอก" ลงทุนด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี พ.ศ. 2562
เมื่อเสร็จแล้วจะจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงที่น่าสนใจต่าง ๆ หมุนเวียนตลอดทั้งปี พร้อมมีพื้นที่จัดการแสดงสินค้า จัดประชุมสัมมนาทั้งกลุ่มย่อยและขนาดใหญ่ สะดวกสบายด้วยพื้นที่จอดรถทั้งใต้ดินและจอดรถใน 5 อาคารรวมกว่า 5,000 คัน พร้อมเปิดพื้นที่ค้าขายยามค่ำคืนเพื่อสนับสนุนนโยบายตลาดนัดประชารัฐของรัฐบาล โดยจะเปิดบริการถึงเวลา 24.00 น. และจะขยายเวลาเปิดบริการสวนสนุกของสวนสยามถึง 22.00 น. ด้วย
ข่าวที่สาม “เรเนซองส์เทจัดบุฟเฟต์ถูกในงานเที่ยวไทย3-4มี.ค.”
โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ จัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมขายใน งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 46 ระหว่างวันนี้ -4 มีนาคม นี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ ที่บูธ P309-314 มีทั้งแพกเกจอาหารบุฟเฟ่ต์หรือเป็นแบบคอร์ส อาทิ
บุฟเฟ่ต์จากห้องอาหาร Flavors บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน วันจันทร์-วันเสาร์ ราคาเพียง 820 บาทต่อคน บุฟเฟต์มื้อค่ำ 1,200 บาทต่อคน วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี และ ซันเดย์บรันช์วันอาทิตย์ 1,820 บาทต่อคน
บุฟเฟ่ต์ติ่มซำรสเลิศ วันธรรมดาราคา 850 บาท และวันหยุดสุดสัปดาห์ 1,200 บาท
จิบชายามบ่ายราคา 690 บาทต่อ 2 คน
อาหารจายเดียวสไตล์อิตาเลียนอร่อยๆ มาแบบ สาม-คอร์ส ราคา 580 บาทต่อคน
บัตรกำนัลสปาของทางโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ อาทิ สปาทรีทเม้นท์แบบ 60 นาที 990 บาท และสปาทรีทเม้นท์แบบ 90 นาที 1,590 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0 2125 5000
ติดตามรายการข่าวได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทาง สวท.FM97.0 MHz เวลา 11.00-12.00 น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น