ททท.ดันกระแสแรงแต่งไทยเที่ยวบ้านเกิด
ดึงโตโยต้า-ชาร์ปทำบิ๊กโปรเจ็กต์ไทยสู่โลก
ดัง!สงกรานต์โบราณคิงเพาเวอร์10-15เมย.
ชวนเที่ยวเมืองไทยถ่ายรูปลุ้นล้านเม.ย.นี้
ททท.โหมTME2เพิ่มแวลูเชนท่องเที่ยวชาติ
บางจากสำรองน้ำมันก่อนปิดโรงกลั่น45วัน
บอร์ดทอท.สั่งลุยเพิ่มพื้นที่ใหม่สุวรรณภูมิ
พช.จัดสัญจรชุมชนเที่ยวเมืองรองจ.อุทัย
ทึ่ง!สงกรานต์ชักเย่อผ้าพระบาทเมืองจันท์
5วิธีจำกัดฮอร์โมนความหิวให้สิ้นซากได้
ปั่นเปิดเมืองปทุมเที่ยว5คลอง-วัดปัญญา
ดุสิตปั้นแบรนด์โรงแรมใหม่“ASAI-อาศัย”
บินไทยร่วมทุนแอร์บัสก่อนบิ๊กตู่ไปฝรั่งเศส
ต้อนรับสู่รายการ ““รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. #gurutourza www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ช่วงที่ 1 “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมาจุดประกายใหม่ในวงการท่องเที่ยว ดันกระแสออเจ้า “แต่งไทย” เริ่มจากเทศกาล “สงกรานต์ในบ้านเกิด” แล้วแต่งไปเที่ยวจนกลายเป็นวัฒนธรรมระยะยาว พร้อมกับลุยจับมือมหามิตรผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ค่ายใหญ่ “โตโยต้า” สร้างบิ๊กโปรเจ็กต์ Go Local สู่ Worldwide ผนึกยักษ์ใหญ่ “SHARP” พลิกทำนวัตกรรมกล้องซูเปอร์ไฮเทค 8K ช่วงครึ่งหลังปี 2561โดยใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นทั่วไทยเป็นรายแรกของโลกเผยแพร่สู่เวิลด์ไวด์
ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้เพื่อเล่นกับกระแสความแรงละครย้อนอดีต ททท.เลยชวนคนไทย “กลับบ้านแต่งไทยไปสงกรานต์” เพราะความนิยมไทยกำลังเข้มข้น เพราะสังคมไทยอยู่กับครอบครัวผนวกกับนโยบายรัฐบาลประกาศวันหยุด 5 วัน รณรงค์ให้แต่งด้วยผ้าพื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นคือสิ่งที่ดีอยู่แล้วทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก ให้ใช้ชุดของแต่ละภาคแต่งออกมาเล่นสงกรานต์นอกเหนือจากเสื้อลายดอก
ธีมแนวคิดปีนี้ ททท.จึงจัดทำคอนเซ็ปต์ขึ้นมา 2 แบบ แบบแรกในกรอบใหญ่ “กลับบ้านแต่งไทย ไปสงกรานต์” ในกรอบสอง “สงกรานต์แต่งไทย ไปเมืองรอง” ตามนโยบายของ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการะทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ทำคู่ขนานกันไป
ส่วนเม็ดเงินระหว่าง 13-17 เมษายน นี้ ททท.ประเมินจะมีรายได้สะพัดจากการเดินทางท่องเที่ยวจริง ๆ กว่า 19,000 ล้านบาท
โครงการที่ทำเชื่อมโยงกันต่อไปคือร่วมกันมหามิตรอย่างโครงการลงนามความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นแนวคิดการทำงานด้านท่องเที่ยวยุคใหม่ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาย้ำเน้นมาตลอดต้องบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพราะการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมมีคุณูปการต่อระบบโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งจีดีพีเกินกว่า 20 % เพราะฉนั้นจึงเป็นแนวคิดที่ดีเมื่อได้ไปชวนภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำด้วย สะท้อนถึงสิ่งที่รัฐบาลขับเคลื่อนในการเป็น “ประชารัฐ” รัฐกับเอกชนร่วมกันทำงาน
เป็นจังหวะดีที่ผมได้ไปคุยกับทางค่ายโตโยต้ากำลังออกรถใหม่ จึงได้ชวนจับมือนำรถรุ่นใหม่ ROCCO พาคนไปเที่ยวเมืองรอง เพื่อโปรโมตอย่างเต็มที่จึงใช้ชื่อโครงการแคมเปญ Amazing Go Local by REVO ROCCO ภายใต้โครงการ Amazing Thailand Go Local เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต ซึ่งทางโตโยต้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ลงทุนในเมืองไทยมายาวนาน อายุองค์กรใกล้เคียงกันคือ 55 ปี ส่วน ททท.58 ปี การลงนามร่วมกันครั้งนี้มี รมว.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กับนายกลินทร์ สารสิน ประธานกรรมการ ททท.เป็นสักขีพยานในการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กับนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
จากนั้นเตรียมจัดคาราวานท่องเที่ยวเมืองรอง 5 ภาค เริ่มพฤษภาคม-กันยายน นี้ เริ่มภาคใต้เดือนพฤษภาคมนี้ใช้รถโตโยต้ากว่า 30 คัน ทำกิจกรรมท่องเที่ยวซีเอสอาร์ พากินของอร่อยชุมชน ททท.จะชี้เป้าออกแบบเส้นทาง รวมทั้งโตโยต้าได้ผลิตคู่มือท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด จำนวน 70,000 เล่ม สามารถรับคู่มือดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ได้ที่ ททท.และโตโยต้ามีโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศถึง 473 แห่ง นับเป็นการผนึกพลังกำลังกันทั้งทางด้านสินค้า แหล่งท่องเที่ยว และช่องทางการสื่อสารช่วยประชาสัมพันธ์ ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรอง ผ่านภาพยนตร์โฆษณา โดยได้เลือกสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณารถไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ณ หินสามวาฬ แห่งป่าภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว 55 เมืองรอง และเริ่มเผยแพร่โฆษณามาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2561
สำหรับคาราวานเปิดโลกการท่องเที่ยว 5 ทริป ทั่วไทย ประกอบด้วย ภาคใต้ จังหวัดตรัง – สตูล วันที่ 11-13 พฤษภาคม 2561 ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี – สระแก้ว – ปราจีนบุรี วันที่ 8 - 10 มิถุนายน 2561 ภาคกลาง จังหวัดสุพรรณบุรี – ชัยนาท – อ่างทอง วันที่ 24 - 26 สิงหาคม 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัด หนองคาย – บึงกาฬ วันที่ 26 - 28 ตุลาคม 2561 และภาคเหนือ จังหวัด เชียงราย – แพร่ – น่าน วันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2561
ส่วนอีกโครงการที่ทำร่วมกับพันธมิตรจะทำเอ็มโอยูประมาณต้นเดือนเมษายนนี้กับผลตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ป ที่กลายเป็นผู้นำเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปที่มีความคมชัดมากถึง 8K เล็งเห็นถึง ททท.มีโปรดักซ์ท่องเที่ยว จึงคิดร่วมกันจะนำผลิตภัณฑ์กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดแล้วเผยแพร่ภาพแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไทยไปตามโชว์รูมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกผ่านเลนส์ที่มีความคมชัด 360 องศา เสมือนจริง สีสันสวยงาม แนวคิดนี้จึงนำมาซึ่งการร่วมมือกันเป็นหน่วยงานแรก ๆ ของโลกที่จะมีภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์สู่ทั่วโลกด้วยระบบ 8K ผมได้คุยกับทางผู้บริหารของชาร์ปแล้ว 2 ครั้ง และจะเริ่มนำร่องถ่ายภาพในเทศกาลแรกงาน “เทศกาลสงกรานต์” ที่จะใช้เทคโนโลยีสายน้ำเห็นหยดโมเลกุลและภาพเคลื่อนไหวอย่างแจ่มชัด เรื่อยไปจนถึงภาพภูเขา ทะเล ธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเนื้อหาหลัก ๆ
พอเฟสแรกงานภาพสงกรานต์ผ่านไป ททท.ก็เริ่มวางแผนบันทึก เก็บภาพเมืองรอง ถ่ายทำทั้งหมดไปนำเสนอในต่างประเทศ จะมีอิมแพ็กมหาศาลกับการท่องเที่ยวเมืองรองที่จะกลายเป็นพลังมหาศาลในเร็ววันนี้
สำหรับกิจกรรมสื่อสารเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะการแต่งไทย ได้พูดคุยกันในระดับบริหารทั้งหมดเพื่อจะทำอย่างไรให้กระแสนี้ยั่งยืนเหมือนญี่ปุ่น ช่วงหน้าร้อนจะสวมกิโมโนชุดประจำชาติออกมานั่งใต้ต้นซากุระ หรือปัจจุบันคนสูงวัยญี่ปุ่นก็ยังคงแต่งกิโมโน ส่วนคนไทยตอนนี้ก็เริ่มคุ้นเคยกับการแต่งไทย
ดังนั้น ททท.จึงจะเพิ่มความพยายามเชิญชวนให้แต่งไทยไปงานเทศกาลประเพณีต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี โดยใช้ผ้าไทยในท้องถิ่นอย่าง แพร่ น่าน ก็แต่งซิ่นกันอยู่ ททท.จึงต้องการทำต่อเนื่องเพื่อรักษาอย่างยั่งยืน
ส่วนการโปรโมตเมืองรองก็จะทำในจังหวัดกาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู แม่ฮ่องสอนก็มองจุดเด่น 5 อา “อากาศ-อารมณ์-อายุยืน-อาหาร-วัดวาอาราม” ดีและงดงาม จะกลายเป็นแบรนดิ้งใหม่ “แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” หรือ Relaxing Mehongson หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนบ้างแล้ว เชื่อว่าจะทำให้เกิดการส่งเสริมท่องเที่ยวสู่แม่ฮ่องสอน แล้วตอนนี้สายการบินนกแอร์ก็เริ่มกลับไปเปิดเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน แล้วเช่นกัน
ต่อจากนั้นเดือนพฤษภาคมนี้ก็จะสนับสนุนการท่องเที่ยว “สวนผลไม้” ในภาคตะวันออก เมืองรองเป็น “สีสันจันทบุรี” ทั้งสวนผลไม้ เมืองแห่งอัญมณี ไปได้สัมผัสได้หลายแง่มุม ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ในแต่ละเมืองรอง ททท.ได้เซ็ตมูตแอนด์โทนมุมใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างแรงจูงใจกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่เมืองท่องเที่ยวอันดับรองทั่วประเทศ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดสงกรานต์"รางน้ำนครา"10-15 เม.ย.นี้
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา ปีครั้งแรกในรอบ 29 ปี จัดระหว่าง 10 – 15 เมษายน 2561 ในธีม ‘วิถีไทยร่วมสมัย’ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินกระจายสู่ผู้ประกอบการคนไทย ตั้งเป้าบรรจุลงในปฏิทินกิจกรรมท่องเที่ยวประจำเพื่อจัดทุกปี โดยจำลองวิถีชีวิตไทยตามแบบเมืองโบราณมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ใช้พื้นที่จัดงานกว่า 3,000 ตารางเมตร เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ คุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย แปลกใหม่ มีเสน่ห์ โดยนำอัตลักษณ์สีของไทย (Thai Tone) 4 โซน ได้แก่ โซนวัด โซนตลาด โซนทุ่ง และโซนบ้าน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำที่เดียว โดยร้อยเรียงประเพณีไทยดั้งเดิมพร้อมความบันเทิงครบรส ไฮไลต์อีกอย่างคือรวมร้านอาหารชื่อดังระดับตำนานทั่วกรุงเทพฯ มาไว้ในงานนี้ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวแบบครบวงจร
กิจกรรมสงกรานต์ รางน้ำนครา จะมีทั้งการชวนมา ชม ช้อป ชิม สินค้าไทย อาหารไทย สัมผัสกับไฮไลท์ ตลาดน้ำใจกลางกรุงมาไว้บนบก การแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยประยุกต์ ขบวนแห่งานประเพณีต่างๆ อาทิ แห่นาค แห่ขันหมก ฯลฯ ร่วมสรงน้ำพระ โดยอัญเชิญพระพุทธรูปยุคต้นรัตนโกสินทร์ประจำวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) ที่มีอายุกว่า 200 ปี พร้อมร่วมประกวดก่อพระเจดีย์ทรายชิงรางวัลมากมาย พิเศษ! กับขบวนแห่นางสงกรานต์ ‘มโหธรเทวี’ ในชุดนกยูงสุดอลังการจากดาราหญิงชั้นนำของประเทศสลับหมุนเวียนทั้ง 6 วัน ได้แก่ เบลล่า – ราณี แคมเปน (10 เม.ย.) แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ (11 เม.ย.) ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก (12 เม.ย.) คิม – คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส (13 เม.ย.) ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ (14 เม.ย.) และมิ้นท์ – ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง (15 เม.ย.) ภายใต้คอนเซ็ปต์ EXPLORE ENDLESSLY การค้นพบ ไม่มีวันสิ้นสุด โดยขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย และชาวต่างชาติร่วมแต่งกายในชุดไทยร่วมสมัย ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2561 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คือ ระหว่าง 12-16 เมษายน 2561 รวมคาดสร้างรายได้หมุนเวียน 5 วัน สูงถึง 19,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18%จากไทยเที่ยวไทย 3 ล้านคน/ครั้ง เพิ่ม 12% ใช้จ่ายเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่วไทยราว 530,000 คน เพิ่มขึ้น 13% สร้างรายได้ 9.378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% คาดจะมีนักท่องเที่ยวจีน 165,000 คน เพิ่มขึ้น 38% รองลงมาคือ ญี่ปุ่น มาเลเซีย 22% เกาหลีใต้ 54%
ข่าวที่ 2 “ชวนเที่ยวไทยถ่ายภาพลุ้นเงินตลอดเม.ย.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ชวนทุกคนออกมาเที่ยวเมืองไทย แล้วส่งภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย เข้าร่วมประกวดในโครงการ "มหัศจรรย์เมืองไทย เก๋ไก๋ทุกมุมมอง" ชิงเงินรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่าล้านบาท ส่งไฟล์ภาพถ่ายเข้าประกวดได้ตั้งแต่ 1 - 30 เมษายน 2561 หรือ www.tourismthailand.org/tatphotocontest2018 ภาพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ 13 ภาพ จะนำไปจัดทำปฏิทิน ททท. ประจำปี 2562
ข่าวที่ 3 “ททท.ลุยTME2สร้างแวลูเชนท่องเที่ยว”
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าได้เปิดการอบรมหลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 2 ประจำปี 2561 หรือ Tourism Management Program for Executives (TME #2 ) ตั้งเป้าสร้างองค์ความรู้ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวตามห่วงโซ่อุปทานอย่างครบกระบวนการ นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านท่องเที่ยวของประทศ และนำแนวคิดใหม่ ๆ ไปสร้างแผนยุทธศาสตร์ประยุกต์ใช้กับ ททท.และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ยกระดับการพัฒนาภายในของแต่ละภาคส่วน ในห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ครอบคลุมทุกด้าน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเสริมว่า ได้รับความสนใจจากบุคลากรชั้นนำเข้าอบรม TME รุ่น 2 โถึง 96 คน จากธุรกิจโรงแรม การคมนาคม ธุรกิจการจัดการภาคบริการและสินค้าธุรกิจด้านสารสนเทศ นวัตกรรมการศึกษา กลุ่มสตาร์ทอัพ สมาคมต่าง ๆ รวมถึงสื่อมวลชน ใช้เวลาอบรม 60 ชั่วโมง ระหว่างมีนาคม–สิงหาคม 2561 สัปดาห์ละ 1 วัน พร้อมทั้งจัดโปรแกรมศึกษาดูงานในประเทศ 2 ครั้ง และต่างประเทศ 1 ครั้ง
เนื้อหาอบรมตามหลักประกอบด้วย 3 โมเดล ตาม Supply Chain ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในกระแสบริบทโลก (Existing and Trends) การบริหารจัดการตลาดแบบบูรณาการ (Exploring and Share) และการบริหารความสัมพันธ์และการบริหารผลกระทบ (Execution and Sustainability)
ข่าวที่ 4 “บางจากสำรองน้ำมันก่อนหยุดโรงกลั่น45วัน”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BCP” รายงานว่ามีแผนหยุดการเดินเครื่องหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ และหน่วยประกอบอื่น ๆ เพื่อตรวจซ่อมบำรุงรักษาครั้งใหญ่ตามวาระ (Major Turnaround) เป็นเวลา 45 วัน ระหว่าง 30 เม.ย.-13 มิ.ย.61 แต่ก็มีมาตรการรองรับแผนการหยุดเดินเครื่องหน่วยกลั่นน้ำมันดิบไว้แล้ว โดยการเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปล่วงหน้า รวมทั้งจัดหาน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มเติมด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีน้ำมันสำเร็จรูปเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าของบริษัท และมีปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ข่าวที่ 5 “บอร์ดทอท.สั่งเพิ่มพื้นที่บริการใหม่สุวรรณภูมิ”
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เดือนมีนาคม 2561 ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท. เป็นประธาน มีมติหลัก ๆ 2 เรื่อง
เรื่องที่ 1 แก้ไขปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างที่โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (ปี 2554 - 2560) ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งจะมีการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ดังนี้
- การปรับปรุงพื้นที่บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 บริเวณพื้นที่เคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร (เช็คอิน) Row A และ First Class Lounge ซึ่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะคืนพื้นที่ให้ ทอท. ประกอบกับจะมีการย้ายจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระผู้โดยสารภายในประเทศท้ายเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row B – C ไปยังอาคารเทียบเครื่องบิน A และ B ชั้น 3 จะทำให้มีพื้นที่บริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิม 100 ตารางเมตร เป็น 1,000 ตารางเมตร ช่วยลดความแออัดบริเวณพื้นที่ตรวจบัตรโดยสาร ฝั่งทิศตะวันออก
รวมทั้งเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวก คือ จุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระจากเดิม 2 ช่องตรวจเป็น 8 ช่องตรวจ จำนวนเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางเป็น 20 เคาน์เตอร์ และเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Chanel) 8 จุด
- การปรับปรุงและเพิ่มเติมห้องสุขาใหม่ชั้น 2 บริเวณสายพานรับกระเป๋าภายในประเทศ และระหว่างประเทศ แบ่งเป็นการปรับปรุงรูปแบบห้องสุขา 3 จุด และก่อสร้างเพิ่มเติม 2 จุด บริเวณใกล้เคียงสายพาน 15 กับ 16 และใกล้สายพาน 22 กับ 23 เพิ่มห้องสุขาชาย-หญิงอีก 29 ห้อง เพิ่มห้องสุขาคนพิการ 2 ห้อง ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก 2 ห้อง
บอร์ด ทอท.ได้แนะนำให้ ทอท.นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุน กำลังพล เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้น
เรื่องที่ 2 แต่งตั้ง นายพัฒนพงศ์ สุวรรณชาต เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน ทอท. โดยมีหน้าที่ในการกำหนดทิศทางขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการเงิน วิเคราะห์วางแผน ผลักดันบริหารหน่วยงานภายใต้ความรับผิดชอบ กำกับดูแลและจัดทำแผนทางการเงิน พัฒนาและจัดทำระบบการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่ 6 “พช.ทำสัญจรจ.อุทัยโมเดลแกร่งชุมชนท่องเที่ยว”
นายสมหวัง พ่วงบางโพ รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้จัดนำทีมลงพื้นที่ทำโครงการ “พช.สัมพันธ์สัญจร ครั้งที่ 1”เพื่อศึกษาความสำเร็จของชุมชนที่เป็นพื้นที่แอ่งเล็ก ที่กรมฯ เข้าไปสนับสนุนจนชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ จุดแรกคือ บ้านท่าโพ ตำบลท่าโพ อำเภอหนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี มีความเข้มแข็งด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมโดยฟื้นฟูสำรับอาหารคาวหวานไทยโบราณซึ่งหารับประทานได้ยากและเพลงพื้นบ้านขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งได้รับการส่งเสริมอาชีพทั้งเรื่องทำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ การสร้างอาชีพต่าง ๆ เช่นการเพาะเห็ด การปลูกผักปลอดสารพิษ การฝึกอาชีพนวดแผนไทยให้กลุ่มแม่บ้าน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว มอบรถไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว ตลอดจนสนับสนุนด้านต่างๆ ทำบ้านท่าโพเป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวของชุมชน และล่าสุดบ้านท่าโพเป็นตัวแทนอำเภอเข้าประกวดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงประจำปี 2561
จากนั้นก็ไปเยี่ยมชม “ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านห้วยหนามตะเข้” ตำบลบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ชมแปลงปลูกผักกูดจากการกู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เสริมสร้างรายได้ระดับเงินแสน พร้อมพูดคุยกับผู้นำชุมชน เรื่อง “ผักกูด”เฟิร์นกินได้ สร้างชีวิต และชมการเลี้ยงตัว “อ้น”สัตว์เศรษฐกิจ ประเภทสัตว์น่ารักเพื่อการอนุรักษ์ ซึ่งชุมชนนี้เป็นต้นแบบของการพึ่งตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการทำเกษตรอินทรีย์บริสุทธิ์ เก็บยอดจำหน่ายได้ทั้งปี
ต่อด้วยการชม “สวนป่าครอบครัว” โครงการที่เกิดจากความร่วมมือแบบบูรณาการจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชน เพื่อร่วมกันขยายความคิดเกี่ยวกับการปลูกป่ายุคใหม่ว่าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปและการปลูกป่าอนุรักษ์ สนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งตามโครงการ “อุทัยธานี เมืองสมุนไพร” มีการจัดทำเมืองสมุนไพรอินทรีย์ แนวเขตป่ามรดกโลกห้วยขาแข้งจังหวัดอุทัยธานี ,การจัดทำธนาคารพันธุกรรมพืชป่าครอบครัว
รวมทั้งไปดู “ตลาดวัฒนธรรมบ้านไฮ่บ้านเฮา” ตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ แหล่งรวมผลิตภัณฑ์ปลอดสารและงานฝีมือที่สะท้อนเรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ร่วมกันนำของดีของชาวชุมชนบ้านไร่มาให้นักท่องเที่ยวได้ ชม ชิม ช้อปเต็มอิ่ม
นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “ตลาดวัฒนธรรมบ้านไฮ่บ้านเฮา” เกิดขึ้นตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้ามีสถานที่จำหน่าย ซึ่งประสบความสำเร็จนักท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้เกษตรกรหรือผู้ผลิตมีรายได้เพิ่ม
กรมการพัฒนาชุมชนได้จัดทำพื้นที่ตัวอย่างโมเดลสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สร้างรายได้ และทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่แบบพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ช่วงที่ 2 สงกรานต์ปีนี้ชวนเปลี่ยนบรรยากาศเลียบเมืองท่องเที่ยวรองจันทบุรี ไปชม “สงกรานต์ชักเย่อผ้าพระบาท” แห่งเดียวในโลกที่ชุมชน “ตะปอน” แล้วจะได้สัมผัสเมืองไทยใหม่ในอีกมุม ส่วนเรื่องสุขภาพเชื่อหรือไม่กับ “5วิธีกำจัดฮอร์โมนหิวชื่อเกรลิน” ให้สิ้นซากได้ และข่าวจี๊ด ๆ กับมหกรรมปั่นเปิดเมือง 2018 เที่ยวปทุมธานีกับคาราวานจักรยาน 2,000 ชีวิต ฮือฮากับทายาทดุสิตอินเตอร์ลุยเปิดโรงแรมแบรนด์ใหม่ “ASAI-อาศัย” 3 เม.ย.นี้ และการบินไทยต้องรีบร่วมทุนกับแอร์บัสผุดโปรเจ็กต์ MRO ศูนย์ซ่อมเครื่องบินในอู่ตะเภาก่อนบิ๊กตู่ลัดฟ้าไปฝรั่งเศส
@เที่ยวสงกรานต์ชักเย่อผ้าพระบาทที่ตะปอนเมืองจันทน์
สงกรานต์ปีนี้ไปชมวิถีชุมชนแห่งเดียวในเมืองโลกของชาว “ตะปอนน้อย ตะปอนใหญ่” และหมู่บ้านเกวียนหัก ในงานประเพณี “ชักเย่อพระบาทของชาวหมู่บ้านตะปอน” ซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะแห่งเดียวในเมืองไทย เมื่อปี 2515 เจ้าพระยาสาธารดานรศิทธิ์นำผ้าพระบาทมาจากภาคใต้ นำมาทางเรือแล้วขึ้นบกตรงอำเภอแหลมสิงห์ ครั้งนั้นจัดพิธีสมโภชฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนนำไปไว้ ณ “วัดตะปอนน้อย” มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี
ผ้าพระบาทก็คือรอยพระบาทจำลองลงบนผืนผ้า กว้าง 6 ศอก ยาว 20 ศอก ประกอบด้วย 4 รอย รอยที่ 1 “พระกุตสันโธ” รอยที่ 2 “พระโคนาดม” รอยที่ 3 “พระกัสสปะ” รอยที่ 4 “พระพุทธโคดม (พระพุทธเจ้า) ทั้งสี่รอยปรากฏอยู่บนผืนผ้าเดียวกัน
เมื่อครั้งโบราณกาลในหมู่บ้านมี “วัดตะปอนน้อย” “ เดิมชื่อ วัดอิทราราม เก่าแก่อัน 3 ของเมืองจันทบุรี มีพื้นที่ 14 ไร่ สร้างเมื่อปี 2125 มีศาสนสถานสำคัญคืออุโบสถมีหน้าบรรณโบราณแกะสลักจากไม้ทั้งสองด้าน รวมทั้งมีรอยพระพุทธบาทจำลองลงบนผืนผ้าความกว้าง 5 ศอก ยาว 20 ศอก เจ้าพระยาสาธาราดานรศิทธิ์นำมาทางเรือจากภาคใต้ ด้านในเต็มไปด้วย มาขึ้นฝั่งที่อำเภอแหลมสิงห์ จัดพิธีสมโภชกัน 7 วัน ชาวบ้านมีความเชื่อตามกันว่าสามารถขจัดโรคภัยโรคระบาดในหมู่บ้านได้ จึงได้นำธงพระบาทจำลองออกแห่ตามหมู่บ้าน หากมีคนป่วยก็จะแห่ขึ้นไปบนบ้าน และมีพระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์ทั่วบ้านและภายในโบสถ์
กระทั่งปัจจุบันการแพทย์เจริญก้าวหน้า จึงได้เปลี่ยนจากการแห่ผ้าพระบาทมาเป็น “ชักเย่อผ้าพระบาท” แทน โดยจะเลือกวันสำคัญช่วง “สงกรานต์” จัด “ชักเย่อชาย-หญิง” แบ่งฝ่ายอยู่คนละข้าง โดยนำเชือกไปผูกไว้กับเกวียน เมื่อสองฝ่ายออกแรงดึงเชือก จะมีคนตีกลองอยู่บนเกวียนรัว ๆ จนกว่าจะมีฝ่ายใดชนะ
หลังวันสงกรานต์ชาวบ้านจะสลับกันนำรอยพระบาทไปบำเพ็ญตามทางแยกเข้าหมุ่บ้านต่าง ๆ แห่งละ 1-2 วัน แล้วนำผ้ารอยพระบาทไปทำพิธีตามสถานที่ต่าง ๆ ในตำบลตะปอนใช้เวลา 1 เดือน หลังจากนั้นชาวบ้านก็จะแห่ผ้าพระบาทจำลองนำกลับมาไว้ที่วัดตะปอนน้อยตามเดิม
ภายในอุโบสถ์วัดตะปอนน้อยมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยก่อน มีพ่อค้าและทหารต่างประเทศเคยสัญจรไปมา
วัดที่สอง “วัดเกวียนหัก” อันดับ 4 ของเมืองจันทน์ ตั้งเมื่อปี 2130 ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ มีพระอุโบสถหลังเก่าประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางห้ามญาติหรือปางห้ามสมุทร ลงเครื่องรักปิดทอง
วัดที่สาม “วัดตะปอนใหญ่” เดิมชื่อวัดโพธิธาราม มีพื้นที่ 13 ไร่ สร้างเมื่อปี2290 เก่าแก่เป็นอันดับ 7 บริเวณริมคลองมีต้นโพธิ์ใหญ่ปกคลุมพระเจดีย์ และมีหลวงพ่อสัมฤทธิ์ผล (พระประธาน) ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากตั้งใจดีมาสักการะจะได้รับความสำเร็จทุกเรื่อง
สงกรานต์ปีนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชุมชนชาว “ตะปอน” ในเมืองท่องเที่ยวรองจันทบุรี แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยมีมุมใหม่ให้สัมผัสมากกว่าที่เห็นอยู่อีกมากมาย
@5วิธีกำจัดฮอร์โมนเกรลินต้นเหตุความหิวให้สิ้นซาก
พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล จาก เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำ 5 วิธีจัดการกับฮอร์โมนหิว จากการที่เกรลินถูกหลั่งออกมาจากเซลล์กระเพาะอาหาร เพื่อส่งสัญญาณบอกสมองให้สั่งสองมือไปหาอาหารเข้าปาก ก่อนมื้ออาหาร จะเป็นช่วงเวลาที่ระดับของเกรลินขึ้นสูง เมื่อรับประทานอาหารไป ระดับของเกรลินก็จะลดลงประมาณ 3 ชั่วโมง โดยเฉลี่ย วิธีการจัดการกับความหิว คือ พยายามควบคุม “เกรลิน” ให้ไม่สูงเกินไป และไม่ถูกหลั่งออกมาเร็วเกินไป ซึ่งทำได้ง่ายๆ ตามทิปต่อไปนี้
1. เพิ่มโปรตีนดีในมื้ออาหาร พบว่าการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนดีสูง เช่น ไข่ขาว ปลา ถั่ว จะช่วยยับยั้งการหลั่งของเกรลินได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเช้า
2. เลี่ยงอาหารไขมันสูง พบว่ามื้ออาหารที่มีไขมันสูง ส่งผลยับยั้งฮอร์โมนหิวหรือเกรลินได้ไม่ดีเท่าอาหารไขมันต่ำ นั่นหมายความว่า ยิ่งรับประทานอาหารมันๆ ก็จะยิ่งหิวง่ายขึ้น!
3. อย่านอนดึก การนอนไม่ พอส่งผลกระตุ้นการผลิตของเกรลิน ลองสังเกตดูว่าในวันที่คุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะง่วงเพลียแล้ว ยังมักจะหิวเก่งขึ้นด้วย
4. รับประทานมื้อเล็ก แต่บ่อยขึ้น การแบ่งอาหารเป็นมื้อที่เล็กลง แต่บ่อยขึ้นเป็นทุก 3-4 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นเปปไทด์ YY3-36 ซึ่งจะไปยับยั้งการหลั่งของเกรลินอีกต่อหนึ่ง
5. หาทางจัดการกับความเครียด เช่น ออกกำลังกาย นวด นั่งสมาธิ ฟังเพลง ในเวลาที่เรามีความเครียดหรือวิตกกังวล เกรลินจะถูกผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เราหิวง่ายขึ้นในยามเครียด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ปั่นเที่ยวเมืองปทุม5คลองและวัดปัญญา”
เครือข่ายฅนจักรยานอาสาพัฒนาเมืองปทุมธานี (องค์กรสาธารณประโยชน์) Network of Cyclist Volunteers for Pathumthani Development) www.ncvpd.net จัดกิจกรรมร่วมปั่นจักรยานการกุศล "ปั่นเปิดเมืองปทุม 2018" วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดยมีกระแสตอบรับดีมากมีผู้สนใจผู้เข้าร่วมเกือบ 2,000 8o ในกิจกรรมส่งเสริมการใช้จักรยานออกกำลังกาย เดินทางที่ไม่ก่อมลพิษ กระตุ้นผู้รักการปั่นจักรยานทั้งในปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียงให้รู้จักเส้นทางท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ สถาปัตยกรรม วัดวาอารามสำคัญ ในอำเภอคลองหลวง หนองเสือ และธัญญบุรี จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งรณรงค์หารายได้ เงินบริจาค มอบให้โรงพยาบาลคลองหลวง จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์และพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนชุมชนที่อยู่รอบพื้นที่
โดยออกมาร่วมปั่นจักรยานท่องเที่ยวและออกกำลังกาย สัมผัสบรรยากาศริมคลอง 5 คลอง ได้แก่ คลอง 5 คลอง 6 คลอง 9 คลองรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองระพีพัฒน์ ซึ่งขุดเพื่อการชลประทานในสมัยรัชการที่ 5 เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกและเส้นทางคมนาคม ระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดใกล้เคียง จนเกิดการตั้งถิ่นฐาน เป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญ ไฮไลต์อาชีพคือเกิดก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเรื่องชื่อที่ผู้คนนิยมไปกินกัน
ส่วนการปั่นครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 สาย ระยะทาง 35 และ 76 กม.จุด Start และ Finish 0tอยู่ที่เดียวกัน คือ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แล้วจัดเส้นทางปั่นบนถนนสายบางขันธ์ – คลองหลวง ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ตลอดงานจะมีบริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน พร้อมมีอาหารมุสลิม (halal حَلَال) ให้รับประทาน ด้วยการยกร้านก๋วยเตี๋ยวรสเลิศอันดับต้น ๆ เมืองปทุมธานีมาไว้ในงาน
อีกทั้งได้จัดจุดแวะจุดพักตามแหล่งท่องเที่ยว เรียนรู้สำคัญเมืองปทุมธานี คือ พิพิธภัณฑวิทยาศาสตร์แห่งชาติ วัดปัญญานันทาราม บริเวณพุทธคยาจำลองสามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพ 3 มิติปริศนาธรรม ได้อย่างเต็มที่ มีเรื่องราวให้ศึกษาเรียนรู้ที่จะเป็นประโยชน์แก่นักปั่นและผู้สนใจไปท่องเที่ยวเชิงธรรมะ
ติดตามข่าวฅนจักรยานอาสา ปทุมธานี ได้ทางแฟนเพจเฟชบุ๊ค หรือแจ้งลงทะเบียนเป็นกลุ่ม ติดต่อทางไลน์ ID: vc.93 หรือ โทร. 081-374-6170
ข่าวที่สอง “เครือดุสิตเปิดแบรนด์โรงแรมใหม่ASAI 3เม.ย.”
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า วันที่ 3 เมษายน นี้ ทางดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในเครือธุรกิจโรงแรมชั้นนำของเอเชีย เตรียมเปิดตัวแบรนด์ในเครือใหม่ล่าสุด “ASAI-อาศัย” โดยมีศิรเดช โทณะวณิก ทายาทธุรกิจในฐานะกรรมการผู้จัดการ อาศัย โฮลดิ้งส์ นำเสนอทิศทางการบริหารและการวางรูปแบบธุรกิจในการลงสนามแข่งในอุตสาหกรรมบริการยุคใหม่
“ASAI” วางตำแหน่งเป็นแบรนด์โรงแรมใหม่ล่าสุดในเครือดุสิตฯ ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับลูกค้านักเดินทางยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบมิลเลนเนียลซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ในวันอังคารที่ 3 เมษายน 2561 ณ โกดัง 1 Warehouse30 ซอยเจริญกรุง 30 โดยงานเปิดตัวจะจัดขึ้น 2 ช่วง ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ และตามไฟล์แนบ
ข่าวที่สาม “บินไทยจ่อร่วมทุนMROกับแอร์บัสก่อนบิ๊กตู่ไปฝรั่งเศส”
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบิน ไทยกับแอร์บัสพร้อมจะร่วมลงทุนกับแอร์บัส (JV Company Principle) โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2561 ตามสัดส่วนการลงทุน 50:50 ฝ่ายละประมาณ 2,000 ล้านบาท แล้วพัฒนาการก่อสร้างเพื่อเปิดให้บริการให้ได้ในปี 2565
ทางด้าน ร.ท.รณชัย วงศ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้ใช้เงินลงทุนราว 10,000 ล้านบาท โดยมีกองทัพเรือเจ้าของพื้นที่ลงทุนสิ่งปลูกสร้างกับงานโยธา 6,300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเข้ามาลงทุนอีก 4,000 ล้านบาท ทางด้านอุปกรณ์ เครื่องมือทางเทคโนโลยี ใน Smart Hanka เมื่อศูนย์ซ่อมบำรุงแล้วเสร็จจะรับซ่อมได้ทั้งฝูงบินโบอิ้งและแอร์บัส ทำให้ประเทศมีรายได้เป็นกอบกำรวมทั้งทำให้ไทยเป็นฮับศูนย์ซ่อมอากาศยานเอเชีย
อย่างไรก็ตามข้อสรุปการลงทุนระหว่างการบินไทยกับแอร์บัสในโปรเจ็กต์ MRO จะต้องทำก่อนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปประชุมที่ฝรั่งเศสกับประเทศในแถบสหภาพยุโรป
ติดตามรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ดึงโตโยต้า-ชาร์ปทำบิ๊กโปรเจ็กต์ไทยสู่โลก
ดัง!สงกรานต์โบราณคิงเพาเวอร์10-15เมย.
ชวนเที่ยวเมืองไทยถ่ายรูปลุ้นล้านเม.ย.นี้
ททท.โหมTME2เพิ่มแวลูเชนท่องเที่ยวชาติ
บางจากสำรองน้ำมันก่อนปิดโรงกลั่น45วัน
บอร์ดทอท.สั่งลุยเพิ่มพื้นที่ใหม่สุวรรณภูมิ
พช.จัดสัญจรชุมชนเที่ยวเมืองรองจ.อุทัย
ทึ่ง!สงกรานต์ชักเย่อผ้าพระบาทเมืองจันท์
5วิธีจำกัดฮอร์โมนความหิวให้สิ้นซากได้
ปั่นเปิดเมืองปทุมเที่ยว5คลอง-วัดปัญญา
ดุสิตปั้นแบรนด์โรงแรมใหม่“ASAI-อาศัย”
บินไทยร่วมทุนแอร์บัสก่อนบิ๊กตู่ไปฝรั่งเศส
ต้อนรับสู่รายการ ““รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. #gurutourza www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
ช่วงที่ 1 “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมาจุดประกายใหม่ในวงการท่องเที่ยว ดันกระแสออเจ้า “แต่งไทย” เริ่มจากเทศกาล “สงกรานต์ในบ้านเกิด” แล้วแต่งไปเที่ยวจนกลายเป็นวัฒนธรรมระยะยาว พร้อมกับลุยจับมือมหามิตรผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ค่ายใหญ่ “โตโยต้า” สร้างบิ๊กโปรเจ็กต์ Go Local สู่ Worldwide ผนึกยักษ์ใหญ่ “SHARP” พลิกทำนวัตกรรมกล้องซูเปอร์ไฮเทค 8K ช่วงครึ่งหลังปี 2561โดยใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นทั่วไทยเป็นรายแรกของโลกเผยแพร่สู่เวิลด์ไวด์
ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้เพื่อเล่นกับกระแสความแรงละครย้อนอดีต ททท.เลยชวนคนไทย “กลับบ้านแต่งไทยไปสงกรานต์” เพราะความนิยมไทยกำลังเข้มข้น เพราะสังคมไทยอยู่กับครอบครัวผนวกกับนโยบายรัฐบาลประกาศวันหยุด 5 วัน รณรงค์ให้แต่งด้วยผ้าพื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นคือสิ่งที่ดีอยู่แล้วทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก ให้ใช้ชุดของแต่ละภาคแต่งออกมาเล่นสงกรานต์นอกเหนือจากเสื้อลายดอก
ธีมแนวคิดปีนี้ ททท.จึงจัดทำคอนเซ็ปต์ขึ้นมา 2 แบบ แบบแรกในกรอบใหญ่ “กลับบ้านแต่งไทย ไปสงกรานต์” ในกรอบสอง “สงกรานต์แต่งไทย ไปเมืองรอง” ตามนโยบายของ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการะทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ทำคู่ขนานกันไป
ส่วนเม็ดเงินระหว่าง 13-17 เมษายน นี้ ททท.ประเมินจะมีรายได้สะพัดจากการเดินทางท่องเที่ยวจริง ๆ กว่า 19,000 ล้านบาท
โครงการที่ทำเชื่อมโยงกันต่อไปคือร่วมกันมหามิตรอย่างโครงการลงนามความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นแนวคิดการทำงานด้านท่องเที่ยวยุคใหม่ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาย้ำเน้นมาตลอดต้องบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพราะการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมมีคุณูปการต่อระบบโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งจีดีพีเกินกว่า 20 % เพราะฉนั้นจึงเป็นแนวคิดที่ดีเมื่อได้ไปชวนภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำด้วย สะท้อนถึงสิ่งที่รัฐบาลขับเคลื่อนในการเป็น “ประชารัฐ” รัฐกับเอกชนร่วมกันทำงาน
เป็นจังหวะดีที่ผมได้ไปคุยกับทางค่ายโตโยต้ากำลังออกรถใหม่ จึงได้ชวนจับมือนำรถรุ่นใหม่ ROCCO พาคนไปเที่ยวเมืองรอง เพื่อโปรโมตอย่างเต็มที่จึงใช้ชื่อโครงการแคมเปญ Amazing Go Local by REVO ROCCO ภายใต้โครงการ Amazing Thailand Go Local เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต ซึ่งทางโตโยต้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ลงทุนในเมืองไทยมายาวนาน อายุองค์กรใกล้เคียงกันคือ 55 ปี ส่วน ททท.58 ปี การลงนามร่วมกันครั้งนี้มี รมว.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กับนายกลินทร์ สารสิน ประธานกรรมการ ททท.เป็นสักขีพยานในการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กับนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
จากนั้นเตรียมจัดคาราวานท่องเที่ยวเมืองรอง 5 ภาค เริ่มพฤษภาคม-กันยายน นี้ เริ่มภาคใต้เดือนพฤษภาคมนี้ใช้รถโตโยต้ากว่า 30 คัน ทำกิจกรรมท่องเที่ยวซีเอสอาร์ พากินของอร่อยชุมชน ททท.จะชี้เป้าออกแบบเส้นทาง รวมทั้งโตโยต้าได้ผลิตคู่มือท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด จำนวน 70,000 เล่ม สามารถรับคู่มือดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ได้ที่ ททท.และโตโยต้ามีโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศถึง 473 แห่ง นับเป็นการผนึกพลังกำลังกันทั้งทางด้านสินค้า แหล่งท่องเที่ยว และช่องทางการสื่อสารช่วยประชาสัมพันธ์ ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรอง ผ่านภาพยนตร์โฆษณา โดยได้เลือกสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณารถไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ณ หินสามวาฬ แห่งป่าภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว 55 เมืองรอง และเริ่มเผยแพร่โฆษณามาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2561
สำหรับคาราวานเปิดโลกการท่องเที่ยว 5 ทริป ทั่วไทย ประกอบด้วย ภาคใต้ จังหวัดตรัง – สตูล วันที่ 11-13 พฤษภาคม 2561 ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี – สระแก้ว – ปราจีนบุรี วันที่ 8 - 10 มิถุนายน 2561 ภาคกลาง จังหวัดสุพรรณบุรี – ชัยนาท – อ่างทอง วันที่ 24 - 26 สิงหาคม 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัด หนองคาย – บึงกาฬ วันที่ 26 - 28 ตุลาคม 2561 และภาคเหนือ จังหวัด เชียงราย – แพร่ – น่าน วันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2561
ส่วนอีกโครงการที่ทำร่วมกับพันธมิตรจะทำเอ็มโอยูประมาณต้นเดือนเมษายนนี้กับผลตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ป ที่กลายเป็นผู้นำเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปที่มีความคมชัดมากถึง 8K เล็งเห็นถึง ททท.มีโปรดักซ์ท่องเที่ยว จึงคิดร่วมกันจะนำผลิตภัณฑ์กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดแล้วเผยแพร่ภาพแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไทยไปตามโชว์รูมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกผ่านเลนส์ที่มีความคมชัด 360 องศา เสมือนจริง สีสันสวยงาม แนวคิดนี้จึงนำมาซึ่งการร่วมมือกันเป็นหน่วยงานแรก ๆ ของโลกที่จะมีภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์สู่ทั่วโลกด้วยระบบ 8K ผมได้คุยกับทางผู้บริหารของชาร์ปแล้ว 2 ครั้ง และจะเริ่มนำร่องถ่ายภาพในเทศกาลแรกงาน “เทศกาลสงกรานต์” ที่จะใช้เทคโนโลยีสายน้ำเห็นหยดโมเลกุลและภาพเคลื่อนไหวอย่างแจ่มชัด เรื่อยไปจนถึงภาพภูเขา ทะเล ธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเนื้อหาหลัก ๆ
พอเฟสแรกงานภาพสงกรานต์ผ่านไป ททท.ก็เริ่มวางแผนบันทึก เก็บภาพเมืองรอง ถ่ายทำทั้งหมดไปนำเสนอในต่างประเทศ จะมีอิมแพ็กมหาศาลกับการท่องเที่ยวเมืองรองที่จะกลายเป็นพลังมหาศาลในเร็ววันนี้
สำหรับกิจกรรมสื่อสารเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะการแต่งไทย ได้พูดคุยกันในระดับบริหารทั้งหมดเพื่อจะทำอย่างไรให้กระแสนี้ยั่งยืนเหมือนญี่ปุ่น ช่วงหน้าร้อนจะสวมกิโมโนชุดประจำชาติออกมานั่งใต้ต้นซากุระ หรือปัจจุบันคนสูงวัยญี่ปุ่นก็ยังคงแต่งกิโมโน ส่วนคนไทยตอนนี้ก็เริ่มคุ้นเคยกับการแต่งไทย
ดังนั้น ททท.จึงจะเพิ่มความพยายามเชิญชวนให้แต่งไทยไปงานเทศกาลประเพณีต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี โดยใช้ผ้าไทยในท้องถิ่นอย่าง แพร่ น่าน ก็แต่งซิ่นกันอยู่ ททท.จึงต้องการทำต่อเนื่องเพื่อรักษาอย่างยั่งยืน
ส่วนการโปรโมตเมืองรองก็จะทำในจังหวัดกาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู แม่ฮ่องสอนก็มองจุดเด่น 5 อา “อากาศ-อารมณ์-อายุยืน-อาหาร-วัดวาอาราม” ดีและงดงาม จะกลายเป็นแบรนดิ้งใหม่ “แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” หรือ Relaxing Mehongson หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนบ้างแล้ว เชื่อว่าจะทำให้เกิดการส่งเสริมท่องเที่ยวสู่แม่ฮ่องสอน แล้วตอนนี้สายการบินนกแอร์ก็เริ่มกลับไปเปิดเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน แล้วเช่นกัน
ต่อจากนั้นเดือนพฤษภาคมนี้ก็จะสนับสนุนการท่องเที่ยว “สวนผลไม้” ในภาคตะวันออก เมืองรองเป็น “สีสันจันทบุรี” ทั้งสวนผลไม้ เมืองแห่งอัญมณี ไปได้สัมผัสได้หลายแง่มุม ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ในแต่ละเมืองรอง ททท.ได้เซ็ตมูตแอนด์โทนมุมใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างแรงจูงใจกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่เมืองท่องเที่ยวอันดับรองทั่วประเทศ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดสงกรานต์"รางน้ำนครา"10-15 เม.ย.นี้
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา ปีครั้งแรกในรอบ 29 ปี จัดระหว่าง 10 – 15 เมษายน 2561 ในธีม ‘วิถีไทยร่วมสมัย’ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินกระจายสู่ผู้ประกอบการคนไทย ตั้งเป้าบรรจุลงในปฏิทินกิจกรรมท่องเที่ยวประจำเพื่อจัดทุกปี โดยจำลองวิถีชีวิตไทยตามแบบเมืองโบราณมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ใช้พื้นที่จัดงานกว่า 3,000 ตารางเมตร เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ คุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย แปลกใหม่ มีเสน่ห์ โดยนำอัตลักษณ์สีของไทย (Thai Tone) 4 โซน ได้แก่ โซนวัด โซนตลาด โซนทุ่ง และโซนบ้าน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำที่เดียว โดยร้อยเรียงประเพณีไทยดั้งเดิมพร้อมความบันเทิงครบรส ไฮไลต์อีกอย่างคือรวมร้านอาหารชื่อดังระดับตำนานทั่วกรุงเทพฯ มาไว้ในงานนี้ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวแบบครบวงจร
กิจกรรมสงกรานต์ รางน้ำนครา จะมีทั้งการชวนมา ชม ช้อป ชิม สินค้าไทย อาหารไทย สัมผัสกับไฮไลท์ ตลาดน้ำใจกลางกรุงมาไว้บนบก การแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยประยุกต์ ขบวนแห่งานประเพณีต่างๆ อาทิ แห่นาค แห่ขันหมก ฯลฯ ร่วมสรงน้ำพระ โดยอัญเชิญพระพุทธรูปยุคต้นรัตนโกสินทร์ประจำวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) ที่มีอายุกว่า 200 ปี พร้อมร่วมประกวดก่อพระเจดีย์ทรายชิงรางวัลมากมาย พิเศษ! กับขบวนแห่นางสงกรานต์ ‘มโหธรเทวี’ ในชุดนกยูงสุดอลังการจากดาราหญิงชั้นนำของประเทศสลับหมุนเวียนทั้ง 6 วัน ได้แก่ เบลล่า – ราณี แคมเปน (10 เม.ย.) แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ (11 เม.ย.) ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก (12 เม.ย.) คิม – คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส (13 เม.ย.) ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ (14 เม.ย.) และมิ้นท์ – ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง (15 เม.ย.) ภายใต้คอนเซ็ปต์ EXPLORE ENDLESSLY การค้นพบ ไม่มีวันสิ้นสุด โดยขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย และชาวต่างชาติร่วมแต่งกายในชุดไทยร่วมสมัย ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2561 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คือ ระหว่าง 12-16 เมษายน 2561 รวมคาดสร้างรายได้หมุนเวียน 5 วัน สูงถึง 19,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18%จากไทยเที่ยวไทย 3 ล้านคน/ครั้ง เพิ่ม 12% ใช้จ่ายเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่วไทยราว 530,000 คน เพิ่มขึ้น 13% สร้างรายได้ 9.378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% คาดจะมีนักท่องเที่ยวจีน 165,000 คน เพิ่มขึ้น 38% รองลงมาคือ ญี่ปุ่น มาเลเซีย 22% เกาหลีใต้ 54%
ข่าวที่ 2 “ชวนเที่ยวไทยถ่ายภาพลุ้นเงินตลอดเม.ย.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ชวนทุกคนออกมาเที่ยวเมืองไทย แล้วส่งภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย เข้าร่วมประกวดในโครงการ "มหัศจรรย์เมืองไทย เก๋ไก๋ทุกมุมมอง" ชิงเงินรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่าล้านบาท ส่งไฟล์ภาพถ่ายเข้าประกวดได้ตั้งแต่ 1 - 30 เมษายน 2561 หรือ www.tourismthailand.org/tatphotocontest2018 ภาพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ 13 ภาพ จะนำไปจัดทำปฏิทิน ททท. ประจำปี 2562
ข่าวที่ 3 “ททท.ลุยTME2สร้างแวลูเชนท่องเที่ยว”
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าได้เปิดการอบรมหลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 2 ประจำปี 2561 หรือ Tourism Management Program for Executives (TME #2 ) ตั้งเป้าสร้างองค์ความรู้ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวตามห่วงโซ่อุปทานอย่างครบกระบวนการ นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านท่องเที่ยวของประทศ และนำแนวคิดใหม่ ๆ ไปสร้างแผนยุทธศาสตร์ประยุกต์ใช้กับ ททท.และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ยกระดับการพัฒนาภายในของแต่ละภาคส่วน ในห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ครอบคลุมทุกด้าน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเสริมว่า ได้รับความสนใจจากบุคลากรชั้นนำเข้าอบรม TME รุ่น 2 โถึง 96 คน จากธุรกิจโรงแรม การคมนาคม ธุรกิจการจัดการภาคบริการและสินค้าธุรกิจด้านสารสนเทศ นวัตกรรมการศึกษา กลุ่มสตาร์ทอัพ สมาคมต่าง ๆ รวมถึงสื่อมวลชน ใช้เวลาอบรม 60 ชั่วโมง ระหว่างมีนาคม–สิงหาคม 2561 สัปดาห์ละ 1 วัน พร้อมทั้งจัดโปรแกรมศึกษาดูงานในประเทศ 2 ครั้ง และต่างประเทศ 1 ครั้ง
เนื้อหาอบรมตามหลักประกอบด้วย 3 โมเดล ตาม Supply Chain ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในกระแสบริบทโลก (Existing and Trends) การบริหารจัดการตลาดแบบบูรณาการ (Exploring and Share) และการบริหารความสัมพันธ์และการบริหารผลกระทบ (Execution and Sustainability)
ข่าวที่ 4 “บางจากสำรองน้ำมันก่อนหยุดโรงกลั่น45วัน”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BCP” รายงานว่ามีแผนหยุดการเดินเครื่องหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ และหน่วยประกอบอื่น ๆ เพื่อตรวจซ่อมบำรุงรักษาครั้งใหญ่ตามวาระ (Major Turnaround) เป็นเวลา 45 วัน ระหว่าง 30 เม.ย.-13 มิ.ย.61 แต่ก็มีมาตรการรองรับแผนการหยุดเดินเครื่องหน่วยกลั่นน้ำมันดิบไว้แล้ว โดยการเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปล่วงหน้า รวมทั้งจัดหาน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มเติมด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีน้ำมันสำเร็จรูปเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าของบริษัท และมีปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ข่าวที่ 5 “บอร์ดทอท.สั่งเพิ่มพื้นที่บริการใหม่สุวรรณภูมิ”
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เดือนมีนาคม 2561 ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท. เป็นประธาน มีมติหลัก ๆ 2 เรื่อง
เรื่องที่ 1 แก้ไขปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างที่โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (ปี 2554 - 2560) ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งจะมีการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ดังนี้
- การปรับปรุงพื้นที่บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 บริเวณพื้นที่เคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร (เช็คอิน) Row A และ First Class Lounge ซึ่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะคืนพื้นที่ให้ ทอท. ประกอบกับจะมีการย้ายจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระผู้โดยสารภายในประเทศท้ายเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row B – C ไปยังอาคารเทียบเครื่องบิน A และ B ชั้น 3 จะทำให้มีพื้นที่บริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิม 100 ตารางเมตร เป็น 1,000 ตารางเมตร ช่วยลดความแออัดบริเวณพื้นที่ตรวจบัตรโดยสาร ฝั่งทิศตะวันออก
รวมทั้งเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวก คือ จุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระจากเดิม 2 ช่องตรวจเป็น 8 ช่องตรวจ จำนวนเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางเป็น 20 เคาน์เตอร์ และเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Chanel) 8 จุด
- การปรับปรุงและเพิ่มเติมห้องสุขาใหม่ชั้น 2 บริเวณสายพานรับกระเป๋าภายในประเทศ และระหว่างประเทศ แบ่งเป็นการปรับปรุงรูปแบบห้องสุขา 3 จุด และก่อสร้างเพิ่มเติม 2 จุด บริเวณใกล้เคียงสายพาน 15 กับ 16 และใกล้สายพาน 22 กับ 23 เพิ่มห้องสุขาชาย-หญิงอีก 29 ห้อง เพิ่มห้องสุขาคนพิการ 2 ห้อง ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก 2 ห้อง
บอร์ด ทอท.ได้แนะนำให้ ทอท.นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุน กำลังพล เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้น
เรื่องที่ 2 แต่งตั้ง นายพัฒนพงศ์ สุวรรณชาต เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน ทอท. โดยมีหน้าที่ในการกำหนดทิศทางขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการเงิน วิเคราะห์วางแผน ผลักดันบริหารหน่วยงานภายใต้ความรับผิดชอบ กำกับดูแลและจัดทำแผนทางการเงิน พัฒนาและจัดทำระบบการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่ 6 “พช.ทำสัญจรจ.อุทัยโมเดลแกร่งชุมชนท่องเที่ยว”
นายสมหวัง พ่วงบางโพ รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้จัดนำทีมลงพื้นที่ทำโครงการ “พช.สัมพันธ์สัญจร ครั้งที่ 1”เพื่อศึกษาความสำเร็จของชุมชนที่เป็นพื้นที่แอ่งเล็ก ที่กรมฯ เข้าไปสนับสนุนจนชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ จุดแรกคือ บ้านท่าโพ ตำบลท่าโพ อำเภอหนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี มีความเข้มแข็งด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมโดยฟื้นฟูสำรับอาหารคาวหวานไทยโบราณซึ่งหารับประทานได้ยากและเพลงพื้นบ้านขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งได้รับการส่งเสริมอาชีพทั้งเรื่องทำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ การสร้างอาชีพต่าง ๆ เช่นการเพาะเห็ด การปลูกผักปลอดสารพิษ การฝึกอาชีพนวดแผนไทยให้กลุ่มแม่บ้าน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว มอบรถไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว ตลอดจนสนับสนุนด้านต่างๆ ทำบ้านท่าโพเป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวของชุมชน และล่าสุดบ้านท่าโพเป็นตัวแทนอำเภอเข้าประกวดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงประจำปี 2561
จากนั้นก็ไปเยี่ยมชม “ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านห้วยหนามตะเข้” ตำบลบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ชมแปลงปลูกผักกูดจากการกู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เสริมสร้างรายได้ระดับเงินแสน พร้อมพูดคุยกับผู้นำชุมชน เรื่อง “ผักกูด”เฟิร์นกินได้ สร้างชีวิต และชมการเลี้ยงตัว “อ้น”สัตว์เศรษฐกิจ ประเภทสัตว์น่ารักเพื่อการอนุรักษ์ ซึ่งชุมชนนี้เป็นต้นแบบของการพึ่งตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการทำเกษตรอินทรีย์บริสุทธิ์ เก็บยอดจำหน่ายได้ทั้งปี
ต่อด้วยการชม “สวนป่าครอบครัว” โครงการที่เกิดจากความร่วมมือแบบบูรณาการจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชน เพื่อร่วมกันขยายความคิดเกี่ยวกับการปลูกป่ายุคใหม่ว่าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปและการปลูกป่าอนุรักษ์ สนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งตามโครงการ “อุทัยธานี เมืองสมุนไพร” มีการจัดทำเมืองสมุนไพรอินทรีย์ แนวเขตป่ามรดกโลกห้วยขาแข้งจังหวัดอุทัยธานี ,การจัดทำธนาคารพันธุกรรมพืชป่าครอบครัว
รวมทั้งไปดู “ตลาดวัฒนธรรมบ้านไฮ่บ้านเฮา” ตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ แหล่งรวมผลิตภัณฑ์ปลอดสารและงานฝีมือที่สะท้อนเรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ร่วมกันนำของดีของชาวชุมชนบ้านไร่มาให้นักท่องเที่ยวได้ ชม ชิม ช้อปเต็มอิ่ม
นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “ตลาดวัฒนธรรมบ้านไฮ่บ้านเฮา” เกิดขึ้นตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้ามีสถานที่จำหน่าย ซึ่งประสบความสำเร็จนักท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้เกษตรกรหรือผู้ผลิตมีรายได้เพิ่ม
กรมการพัฒนาชุมชนได้จัดทำพื้นที่ตัวอย่างโมเดลสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สร้างรายได้ และทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่แบบพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ช่วงที่ 2 สงกรานต์ปีนี้ชวนเปลี่ยนบรรยากาศเลียบเมืองท่องเที่ยวรองจันทบุรี ไปชม “สงกรานต์ชักเย่อผ้าพระบาท” แห่งเดียวในโลกที่ชุมชน “ตะปอน” แล้วจะได้สัมผัสเมืองไทยใหม่ในอีกมุม ส่วนเรื่องสุขภาพเชื่อหรือไม่กับ “5วิธีกำจัดฮอร์โมนหิวชื่อเกรลิน” ให้สิ้นซากได้ และข่าวจี๊ด ๆ กับมหกรรมปั่นเปิดเมือง 2018 เที่ยวปทุมธานีกับคาราวานจักรยาน 2,000 ชีวิต ฮือฮากับทายาทดุสิตอินเตอร์ลุยเปิดโรงแรมแบรนด์ใหม่ “ASAI-อาศัย” 3 เม.ย.นี้ และการบินไทยต้องรีบร่วมทุนกับแอร์บัสผุดโปรเจ็กต์ MRO ศูนย์ซ่อมเครื่องบินในอู่ตะเภาก่อนบิ๊กตู่ลัดฟ้าไปฝรั่งเศส
@เที่ยวสงกรานต์ชักเย่อผ้าพระบาทที่ตะปอนเมืองจันทน์
สงกรานต์ปีนี้ไปชมวิถีชุมชนแห่งเดียวในเมืองโลกของชาว “ตะปอนน้อย ตะปอนใหญ่” และหมู่บ้านเกวียนหัก ในงานประเพณี “ชักเย่อพระบาทของชาวหมู่บ้านตะปอน” ซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะแห่งเดียวในเมืองไทย เมื่อปี 2515 เจ้าพระยาสาธารดานรศิทธิ์นำผ้าพระบาทมาจากภาคใต้ นำมาทางเรือแล้วขึ้นบกตรงอำเภอแหลมสิงห์ ครั้งนั้นจัดพิธีสมโภชฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนนำไปไว้ ณ “วัดตะปอนน้อย” มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี
ผ้าพระบาทก็คือรอยพระบาทจำลองลงบนผืนผ้า กว้าง 6 ศอก ยาว 20 ศอก ประกอบด้วย 4 รอย รอยที่ 1 “พระกุตสันโธ” รอยที่ 2 “พระโคนาดม” รอยที่ 3 “พระกัสสปะ” รอยที่ 4 “พระพุทธโคดม (พระพุทธเจ้า) ทั้งสี่รอยปรากฏอยู่บนผืนผ้าเดียวกัน
เมื่อครั้งโบราณกาลในหมู่บ้านมี “วัดตะปอนน้อย” “ เดิมชื่อ วัดอิทราราม เก่าแก่อัน 3 ของเมืองจันทบุรี มีพื้นที่ 14 ไร่ สร้างเมื่อปี 2125 มีศาสนสถานสำคัญคืออุโบสถมีหน้าบรรณโบราณแกะสลักจากไม้ทั้งสองด้าน รวมทั้งมีรอยพระพุทธบาทจำลองลงบนผืนผ้าความกว้าง 5 ศอก ยาว 20 ศอก เจ้าพระยาสาธาราดานรศิทธิ์นำมาทางเรือจากภาคใต้ ด้านในเต็มไปด้วย มาขึ้นฝั่งที่อำเภอแหลมสิงห์ จัดพิธีสมโภชกัน 7 วัน ชาวบ้านมีความเชื่อตามกันว่าสามารถขจัดโรคภัยโรคระบาดในหมู่บ้านได้ จึงได้นำธงพระบาทจำลองออกแห่ตามหมู่บ้าน หากมีคนป่วยก็จะแห่ขึ้นไปบนบ้าน และมีพระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์ทั่วบ้านและภายในโบสถ์
กระทั่งปัจจุบันการแพทย์เจริญก้าวหน้า จึงได้เปลี่ยนจากการแห่ผ้าพระบาทมาเป็น “ชักเย่อผ้าพระบาท” แทน โดยจะเลือกวันสำคัญช่วง “สงกรานต์” จัด “ชักเย่อชาย-หญิง” แบ่งฝ่ายอยู่คนละข้าง โดยนำเชือกไปผูกไว้กับเกวียน เมื่อสองฝ่ายออกแรงดึงเชือก จะมีคนตีกลองอยู่บนเกวียนรัว ๆ จนกว่าจะมีฝ่ายใดชนะ
หลังวันสงกรานต์ชาวบ้านจะสลับกันนำรอยพระบาทไปบำเพ็ญตามทางแยกเข้าหมุ่บ้านต่าง ๆ แห่งละ 1-2 วัน แล้วนำผ้ารอยพระบาทไปทำพิธีตามสถานที่ต่าง ๆ ในตำบลตะปอนใช้เวลา 1 เดือน หลังจากนั้นชาวบ้านก็จะแห่ผ้าพระบาทจำลองนำกลับมาไว้ที่วัดตะปอนน้อยตามเดิม
ภายในอุโบสถ์วัดตะปอนน้อยมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยก่อน มีพ่อค้าและทหารต่างประเทศเคยสัญจรไปมา
วัดที่สอง “วัดเกวียนหัก” อันดับ 4 ของเมืองจันทน์ ตั้งเมื่อปี 2130 ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ มีพระอุโบสถหลังเก่าประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางห้ามญาติหรือปางห้ามสมุทร ลงเครื่องรักปิดทอง
วัดที่สาม “วัดตะปอนใหญ่” เดิมชื่อวัดโพธิธาราม มีพื้นที่ 13 ไร่ สร้างเมื่อปี2290 เก่าแก่เป็นอันดับ 7 บริเวณริมคลองมีต้นโพธิ์ใหญ่ปกคลุมพระเจดีย์ และมีหลวงพ่อสัมฤทธิ์ผล (พระประธาน) ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากตั้งใจดีมาสักการะจะได้รับความสำเร็จทุกเรื่อง
สงกรานต์ปีนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชุมชนชาว “ตะปอน” ในเมืองท่องเที่ยวรองจันทบุรี แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยมีมุมใหม่ให้สัมผัสมากกว่าที่เห็นอยู่อีกมากมาย
@5วิธีกำจัดฮอร์โมนเกรลินต้นเหตุความหิวให้สิ้นซาก
พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล จาก เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำ 5 วิธีจัดการกับฮอร์โมนหิว จากการที่เกรลินถูกหลั่งออกมาจากเซลล์กระเพาะอาหาร เพื่อส่งสัญญาณบอกสมองให้สั่งสองมือไปหาอาหารเข้าปาก ก่อนมื้ออาหาร จะเป็นช่วงเวลาที่ระดับของเกรลินขึ้นสูง เมื่อรับประทานอาหารไป ระดับของเกรลินก็จะลดลงประมาณ 3 ชั่วโมง โดยเฉลี่ย วิธีการจัดการกับความหิว คือ พยายามควบคุม “เกรลิน” ให้ไม่สูงเกินไป และไม่ถูกหลั่งออกมาเร็วเกินไป ซึ่งทำได้ง่ายๆ ตามทิปต่อไปนี้
1. เพิ่มโปรตีนดีในมื้ออาหาร พบว่าการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนดีสูง เช่น ไข่ขาว ปลา ถั่ว จะช่วยยับยั้งการหลั่งของเกรลินได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเช้า
2. เลี่ยงอาหารไขมันสูง พบว่ามื้ออาหารที่มีไขมันสูง ส่งผลยับยั้งฮอร์โมนหิวหรือเกรลินได้ไม่ดีเท่าอาหารไขมันต่ำ นั่นหมายความว่า ยิ่งรับประทานอาหารมันๆ ก็จะยิ่งหิวง่ายขึ้น!
3. อย่านอนดึก การนอนไม่ พอส่งผลกระตุ้นการผลิตของเกรลิน ลองสังเกตดูว่าในวันที่คุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะง่วงเพลียแล้ว ยังมักจะหิวเก่งขึ้นด้วย
4. รับประทานมื้อเล็ก แต่บ่อยขึ้น การแบ่งอาหารเป็นมื้อที่เล็กลง แต่บ่อยขึ้นเป็นทุก 3-4 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นเปปไทด์ YY3-36 ซึ่งจะไปยับยั้งการหลั่งของเกรลินอีกต่อหนึ่ง
5. หาทางจัดการกับความเครียด เช่น ออกกำลังกาย นวด นั่งสมาธิ ฟังเพลง ในเวลาที่เรามีความเครียดหรือวิตกกังวล เกรลินจะถูกผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เราหิวง่ายขึ้นในยามเครียด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ปั่นเที่ยวเมืองปทุม5คลองและวัดปัญญา”
เครือข่ายฅนจักรยานอาสาพัฒนาเมืองปทุมธานี (องค์กรสาธารณประโยชน์) Network of Cyclist Volunteers for Pathumthani Development) www.ncvpd.net จัดกิจกรรมร่วมปั่นจักรยานการกุศล "ปั่นเปิดเมืองปทุม 2018" วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดยมีกระแสตอบรับดีมากมีผู้สนใจผู้เข้าร่วมเกือบ 2,000 8o ในกิจกรรมส่งเสริมการใช้จักรยานออกกำลังกาย เดินทางที่ไม่ก่อมลพิษ กระตุ้นผู้รักการปั่นจักรยานทั้งในปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียงให้รู้จักเส้นทางท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ สถาปัตยกรรม วัดวาอารามสำคัญ ในอำเภอคลองหลวง หนองเสือ และธัญญบุรี จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งรณรงค์หารายได้ เงินบริจาค มอบให้โรงพยาบาลคลองหลวง จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์และพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนชุมชนที่อยู่รอบพื้นที่
โดยออกมาร่วมปั่นจักรยานท่องเที่ยวและออกกำลังกาย สัมผัสบรรยากาศริมคลอง 5 คลอง ได้แก่ คลอง 5 คลอง 6 คลอง 9 คลองรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองระพีพัฒน์ ซึ่งขุดเพื่อการชลประทานในสมัยรัชการที่ 5 เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกและเส้นทางคมนาคม ระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดใกล้เคียง จนเกิดการตั้งถิ่นฐาน เป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญ ไฮไลต์อาชีพคือเกิดก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเรื่องชื่อที่ผู้คนนิยมไปกินกัน
ส่วนการปั่นครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 สาย ระยะทาง 35 และ 76 กม.จุด Start และ Finish 0tอยู่ที่เดียวกัน คือ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แล้วจัดเส้นทางปั่นบนถนนสายบางขันธ์ – คลองหลวง ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ตลอดงานจะมีบริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน พร้อมมีอาหารมุสลิม (halal حَلَال) ให้รับประทาน ด้วยการยกร้านก๋วยเตี๋ยวรสเลิศอันดับต้น ๆ เมืองปทุมธานีมาไว้ในงาน
อีกทั้งได้จัดจุดแวะจุดพักตามแหล่งท่องเที่ยว เรียนรู้สำคัญเมืองปทุมธานี คือ พิพิธภัณฑวิทยาศาสตร์แห่งชาติ วัดปัญญานันทาราม บริเวณพุทธคยาจำลองสามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพ 3 มิติปริศนาธรรม ได้อย่างเต็มที่ มีเรื่องราวให้ศึกษาเรียนรู้ที่จะเป็นประโยชน์แก่นักปั่นและผู้สนใจไปท่องเที่ยวเชิงธรรมะ
ติดตามข่าวฅนจักรยานอาสา ปทุมธานี ได้ทางแฟนเพจเฟชบุ๊ค หรือแจ้งลงทะเบียนเป็นกลุ่ม ติดต่อทางไลน์ ID: vc.93 หรือ โทร. 081-374-6170
ข่าวที่สอง “เครือดุสิตเปิดแบรนด์โรงแรมใหม่ASAI 3เม.ย.”
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า วันที่ 3 เมษายน นี้ ทางดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในเครือธุรกิจโรงแรมชั้นนำของเอเชีย เตรียมเปิดตัวแบรนด์ในเครือใหม่ล่าสุด “ASAI-อาศัย” โดยมีศิรเดช โทณะวณิก ทายาทธุรกิจในฐานะกรรมการผู้จัดการ อาศัย โฮลดิ้งส์ นำเสนอทิศทางการบริหารและการวางรูปแบบธุรกิจในการลงสนามแข่งในอุตสาหกรรมบริการยุคใหม่
“ASAI” วางตำแหน่งเป็นแบรนด์โรงแรมใหม่ล่าสุดในเครือดุสิตฯ ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับลูกค้านักเดินทางยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบมิลเลนเนียลซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ในวันอังคารที่ 3 เมษายน 2561 ณ โกดัง 1 Warehouse30 ซอยเจริญกรุง 30 โดยงานเปิดตัวจะจัดขึ้น 2 ช่วง ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ และตามไฟล์แนบ
ข่าวที่สาม “บินไทยจ่อร่วมทุนMROกับแอร์บัสก่อนบิ๊กตู่ไปฝรั่งเศส”
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบิน ไทยกับแอร์บัสพร้อมจะร่วมลงทุนกับแอร์บัส (JV Company Principle) โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2561 ตามสัดส่วนการลงทุน 50:50 ฝ่ายละประมาณ 2,000 ล้านบาท แล้วพัฒนาการก่อสร้างเพื่อเปิดให้บริการให้ได้ในปี 2565
ทางด้าน ร.ท.รณชัย วงศ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้ใช้เงินลงทุนราว 10,000 ล้านบาท โดยมีกองทัพเรือเจ้าของพื้นที่ลงทุนสิ่งปลูกสร้างกับงานโยธา 6,300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเข้ามาลงทุนอีก 4,000 ล้านบาท ทางด้านอุปกรณ์ เครื่องมือทางเทคโนโลยี ใน Smart Hanka เมื่อศูนย์ซ่อมบำรุงแล้วเสร็จจะรับซ่อมได้ทั้งฝูงบินโบอิ้งและแอร์บัส ทำให้ประเทศมีรายได้เป็นกอบกำรวมทั้งทำให้ไทยเป็นฮับศูนย์ซ่อมอากาศยานเอเชีย
อย่างไรก็ตามข้อสรุปการลงทุนระหว่างการบินไทยกับแอร์บัสในโปรเจ็กต์ MRO จะต้องทำก่อนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปประชุมที่ฝรั่งเศสกับประเทศในแถบสหภาพยุโรป
ติดตามรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น