ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ผ่าแผนใหม่ท่องเที่ยวปี62 รับมือ4ปัจจัยท้าทายท่องเที่ยวปีหมู-เที่ยวงานล่องสะเปาลำปาง-โคมแสนห้าหมื่นดวงลำพูน

ททท.ผ่าแผนใหญ่ใส่ยาแรงเที่ยวปี’62
แก้4โจทก์ท้าทายรักษา1ใน7ของโลก
100วันเจ้าสัววิชัยวัดเทพ-สร้างรูปปั้น
ททท.บุก10เมืองรองUKกวาด5หมื่นล.
WTM2018อังกฤษสนทัวร์ไทย5เทรนด์
บีบีจีไอเครือบางจากหนุนน้ำมันบี100
TCEBผนึกพัทยาไมซ์ใช้TMVSโต2เท่า
เที่ยวล่องสะเปาลำปาง-โคมไฟลำพูน
หมอนรองกระดูกเอวเคลื่อนป้องกันได้
บินไทยQ3ขาดทุน3.6พันล.ทรัพย์สินวูบ
เปิดโพลล์เศรษฐีจีนแห่เที่ยวไทยต้นปี62
ภูเก็ตเท40ล้านจ้างไลฟ์การ์ดคุม12หาด
รณรงค์วิ่งหารายได้ช่วย17รพ.16ธ.ค.นี้

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 เกาะติด “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่รับตำแหน่งหมาด ๆ จะมาผ่าให้ดูถึง แผน ททท.ปี’62 ต้องใช้ยาแรงปั๊มรายได้ท่องเที่ยวปี 2562 ให้ได้ 3.4 ล้านล้านบาท เดินหน้าเผชิญ 4 โจทก์ท้าทาย 1.เพิ่มวันพักและกิจกรรมชนิดจัดเต็ม 55 เมืองรอง 22 เมืองหลัก 2.กระจายความแออัดให้ได้มากสุด 3.ปลุกกระแสเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ดึงจิตวิญญาณคนไทยให้ทำตัวเป็นทั้งนักท่องเที่ยวและเจ้าบ้านที่ดี เพื่อรวมพลังกันทำให้ไทยรักษาแชมป์รายได้  1 ใน 7 ของโลกไว้ได้ 4.จะต้องล้างการรั้งอันดับท้ายของโลกให้ขยับดีขึ้นทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย สุขอนามัย



นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จะเดินหน้าทำแผนสร้างรายได้การท่องเที่ยวเข้าประเทศรวม 3.4 ล้านล้านบาท ภายใต้ความท้าทายสถานการณ์ภาพรวมเพราะบางประเทศเริ่มตื่นตัวกับแนวโน้มของ Over Tourism คือปริมาณคนเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวจนล้นมากเกินจะรองรับได้ เป็นจุดเปลี่ยนของ ททท.กำลังพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยปรับตัวเลขจากจำนวนคนเป็นรายได้แทน

ในการทำแผนเพิ่มรายได้ซึ่งอาจมาจากหลายช่องทาง ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวมาก ใช้จ่ายเงินต่อคนต่อทริปสูง รายได้ก็จะเพิ่มตามไปด้วยก็จริง แต่ก็ยังมีทางเลือกอีก 2 ช่องทาง คือ 1.เพิ่มวันพักเฉลี่ยให้นานขึ้นอีกคนละ 1 คืน 2.หากิจกรรมและสถานที่ใหม่ด้วยจำนวนคนและวันพักเท่าเดิม กระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้เงินเพิ่มได้เช่นกัน ซึ่งเราพุ่งเป้าเพิ่มรายได้ประเทศไทยต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยวติด 1 ใน 7 ของโลก ตอนนี้ทำได้แล้วแต่เพราะการเป็นแชมป์หรือผู้นำนั้นจะต้องรักษาสถานะไว้ก็ยากพอสมควร



จึงต้องทำเรื่องวิสัยทัศน์และทิศทาง โดย ททท.วางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน หรือ Prefer Destination และ Sustainable ได้นำทั้ง 2 คำนี้มาแปลเป็นแผนปฏิบัติการ อย่างแรก “ยอดนิยม” ตัวอย่างปลายปีนี้เริ่มสู่ฤดูหนาวคนจะแห่ไปยังดอย เช่น แม่ฮ่องสอน และยั่งยืน ต้องเฉลี่ยความสุข กระจายรายได้ ลดเหลื่อมล้ำ ทุกอุตสาหกรรมได้ประโยชน์ทั้งหมด

จากโจทก์ตรงนี้ได้นำไปทาบกับกระแสโลกมีตัวเลขน่าสนใจระบุไทยมีรายได้อยู่อันดับต้น ๆ แต่พอไปถึงผลของ Global competitiveness ขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศนั้น ๆ  ต่ออุตสาหกรรมโลก ทั่วโลกมี 136 ประเทศ มีตัวชี้วัดศักยภาพเชิงบวกของไทยลำดับต้น ๆ เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติ ความคุ้มค่าเงิน การบริการ แหล่งท่องเที่ยว แต่มีปัจจัยท้าทายช่วงอันดับ 100 ขึ้นไป ได้แก่ 1.สิ่งแวดล้อม ไทยอยู่อันดับเกือบท้าย ๆ คือ อันดับ 126 ความยั่งยืนที่จะต้องทบทวนใหม่ ต่อด้วย 2.ด้านความปลอดภัย Safety & Security อยู่อันดับ 118 จากนั้น 3.ด้านสุขอนามัย อยู่อันดับ 90 ทั่วโลกมองเข้ามายังไทยอีกมุมหนึ่งดีคือยอดนิยม แต่พอมาแล้วไม่กลับมาอีกจึงเป็นความท้าทาย

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาแล้วกลับมาท่องเที่ยวเมืองไทยอีกมีประมาณ 60 % แต่ถ้าเริ่มท้าทายไม่ประทับใจต่อไปก็อาจจะเป็นไปได้



ทั้งหมดนี้จึงต้องจัดทำแผนท่องเที่ยวปี 2562 ในมิติแรก จะบริหารการกระจายความแออัด จากเมืองหลักไปสู่เมืองรอง สร้างความประทับและประสบการณ์ที่ดีขึ้น ส่วนยุทธศาสตร์การกระจายนักท่องเที่ยววันหยุดไปสู่วันธรรมดา กลุมกำลังซื้อสูง Active Senior แม้เกษียนแล้วก็มีความตื่นตัวเน้นไปเที่ยววันธรรมดา หลังจากทำต่อเนื่องมาหลายปี ททท.กำลังใส่แรงจูงใจหลัก ๆ เชิญชวนมี Hidden Gems วันธรรมดามีสถานที่ไม่แออัด เช่น การทำโฆษณาท่องเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนแห่เที่ยวหาดชายทะเลแต่วันธรรมดากลับมีไม่คนจึงทำโฆษณาให้เห็นความแตกต่าง ผนวกกับกลไกราคาวันธรรมดาถูกกว่าแน่นอน ในตลาดต่างประเทศนั้นทำได้ แต่ตลาดในประเทศคงยากสักเล็กน้อยเพราะต้องทำงานจันทร์-ศุกร์ แต่ก็มีทางเลือกคือกลุ่ม Active Senior ซึ่งมีไลฟ์สไตล์หลายแบบสามารถเที่ยวกับลูกหลาน และเดินทางกับเพื่อนฝูงได้

สำหรับมิติที่ 2 พื้นที เมืองหลัก เมืองรอง ยังมีความสะดวกสบายไม่แออัด สิ่งที่ ททท.เติมลงไปคือบอกข้อมูล ต่อเนื่องถึงการหาวิธีทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินกับกิจกรรมของชาวบ้าน เช่น นั่งเล่นชายหาด ก็ต้องหากิจกรรมในชุมชนซึ่งเป็น local ให้เข้าไปยังชุมชน หมู่บ้านชนบท เป็นการกระจายรายได้ลึกถึงท้องถิ่น



ปี 2562 ททท.รับนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมด้วยการกระจายรายได้ให้ถึงมือชุมชนชาวบ้านได้อย่างไร จึงใช้กลยุทธ์การร่วมมือกับบริษัทเอกชน ทำแอพลิเคชั่นมอบของขวัญเป็นที่พัก สมัยก่อนจะเน้นโรงแรมขนาดใหญ่ สถานที่ใหญ่โต แต่ปัจจุบันใช้คิวอาร์โค้ด ที่นักท่องเที่ยวสแกนจะต้องถูกนำไปวางร้านของชาวบ้านด้วย เช่น ร้านขายข้าวหลามน่าน หรือปลาหมึกสดในชุมชน สิ่งเหล่านี้ได้สร้างห่วงโซ่เพื่อให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์โดยตรงจากรายได้ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการประชารัฐ และอื่น ๆ ต้องทำให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

ปี 2562 ททท.จะทำให้การท่องเที่ยวก้าวเข้าสู่ท่องเที่ยว 5.0 นอกเหนือเทคโนโลยีผนวกการตลาด รับฟังเสียงลูกค้า สิ่งที่ท้าทายสำคัญคือปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่ง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กำลังพิจารณาว่าปีหน้าจะต้องประกาศทำให้ไทยเป็นประเทศที่ทำการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างมีส่วนรับผิดชอบ หรือ Tourism Responsible โดยจะต้องฟังเสียงของพันธมิตรทุกภาคส่วนพุ่งเป้าไปสู่จุดหมายเดียวกันความยั่งยืน โดยต้องดูความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น และชาวบ้านด้วย

ปี 2562 ต้องกลับมาที่เรื่องของการฟังจากเสียงรอบข้างให้มากสุด ก่อนที่ ททท.จะนำมาจัดทำแผนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง

นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ต้องการให้คนไทยทั้งประเทศมองใน 2 สถานะ คือ 1.มองตนเองเป็นนักท่องเที่ยว ออกเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปเยี่ยมญาติ หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่อื่น ๆ 2.มองสถานการณ์เป็นเจ้าบ้านที่ดี เมื่อมีคนมาขอคำแนะนำ หรือขอความช่วยเหลือ ก็ให้คำแนะนำ ก็เป็นเสน่ห์ อัธยาศัยไมตรี ของคนไทยซึ่งอยู่ในความประทับใจของนักท่องเที่ยว

ฟังช่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1“100วันเจ้าสัววิชัยเปิดให้คนเข้าได้-รอสร้างรูปปั้นคนดี”



เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 พิธีสวดพระอภิธรรมศพ “นายวิชัย ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไปจะเก็บไว้ให้ครบ 100 วัน โดยย้ายมาตั้งในศาลา 1 เตชะอิทธิพร วัดเทพเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ล่าสุดคุณเอมอร ศรีวัฒนประภา และผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกันทำสะอาด จัดเตรียมสถานที่โดยเปลี่ยนผ้าม่านและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเคลื่อนมาตั้งบำเพ็ญกุศลต่อไปให้ครบตามกำหนดดังกล่าว

ทางครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” นำโดยคุณเอมอร ศรีวัฒนประภา กำหนดจัดทำบุญทุกวันศุกร์ทุกสัปดาห์ พร้อมกับจะเปิดให้ประชาชนที่เคารพรักประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไปเข้าแสดงความอาลัยได้ โดยจะประกาศช่วงเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับการสร้างรูปปั้นนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ขณะนี้โรงหล่อเอเชีย ไฟน์ อาร์ต กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานว่าจะดำเนินการหล่อรูปแบบไหน ขนาดเท่าไร เพื่อนำไปตั้งตามสถานที่เหมาะสมตามเจตนารมณ์ของครอบครัวศรีวัฒนประภา เนื่องจากคุณวิชัยเป็นบุคคลที่มีผู้เคารพรักเป็นจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นอีกครอบครัวใหญ่ซึ่งตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่เมืองนี้พากันชื่นชมในคุณงามความดีของคุณวิชัย ผู้ให้และผู้สร้างประโยชน์ให้แก่เลสเตอร์นานัปการ ทั้งเรื่องการนำทีมเลสเตอร์คว้าแชมป์ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015/2016 อีกทั้งยังได้ช่วยบริจาคเงินสนับสนุนการศึกษาตามโรงเรียน อุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลช่วยเหลือผู้ป่วยทุกวัย

เช่นเดียวกับในประเทศไทย คุณวิชัยได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้และผู้สร้างสิ่งที่ดีเป็นคุณูปการไว้มากมาย ทั้งการทำธุรกิจดิวตี้ฟรีและกีฬาฟุตบอลจนสร้างชื่อเสียงจนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยในมุมบวกเพิ่มขึ้น การแจกอุปกรณ์การศึกษา โครงการ “ไทย เพาเวอร์ คิง เพาเวอร์ พลังคนไทย” ใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท แจกลูกฟุตบอลทั่วประเทศ 1 ล้านลูก สร้างสนามฟุตบอล 100 แห่ง สร้างห้องน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวตามเมืองหลักและเมืองรอง บริจาคเงินโครงการ “ก้าวคนละก้าว” กับ “ตูน บอร์ดี้สแลม 100 ล้านบาท นำรายได้ไปจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาล เรื่อยมาจนถึงการสนับสนุนเงินนำภาพยนตร์ “2,250 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” มาฉายให้คนได้เห็นถึงเบื้องหลังความสำเร็จของโครงการวิ่งจากใต้สุด เบตง ยะลา สู่เหนือสุดแม่สาย เชียงราย ของตูน

รวมทั้งบริจาคเงินสนับสนุนพระพุทธศาสนา สร้างวัดมากมาย โดยเฉพาะ “วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ประเทศไทย (2600 ปี แห่งการตรัสรู้พระพุทธเจ้า) ก่อสร้างพุทธคยาจำลอง ซึ่งมี “พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยาพิหาร ประเทศอินเดีย เป็นผู้จุดประกจยริเริ่มแนวคิดการสร้างวัดดังกล่าว พร้อมทั้งมีผู้ศรัทธาเข้าร่วมสร้างจนสำเร็จด้วยดี

ทั้งนี้ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ประเทศไทย เชิญร่วมเป็นเจ้าพาะ “มหากฐิน 5,000 กอง” กองละ 10,000 บาท หรือตามกำลังศรัทธา ไปยังชื่อบัญชี “วัดสุวรรณภูมิเพื่อสร้างพระมหาเจดีย์” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนวัดศรีวารีน้อย เลขที่ 296-232735-4 โทร.090-5197989

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ พระครูนรนาถเจติยารักษ์ 081-699-9678 พระครูปปริยัติโพธิเทศ 086-039-5005


ข่าวที่ 2 “ททท.ใช้WTMเจาะ10เมืองUKขายเมืองรองไทย”


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 41 ราย เข้าร่วมงาน “World Travel Market 2018” (WTM 2018) ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (United Kingdom :UK) เป็นครั้งที่ 38 เพื่อเจรจาธุรกิจการจับคู่ค้าขายท่องเที่ยวในงานส่งเสริมการขายที่มีความสำคัญที่สุดในสหราชอาณาจักร  โดยภาพรวมนักท่องเที่ยวอาณาจักรมาเที่ยวไทยปี  มกราคม-กันยายน 2561 กว่า 700,000 คน สร้างรายได้เกิน 50,000 ล้านบาท  โดยสนใจกิจกรรมการเที่ยว 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.Beach holiday 56% 2.City break 41% และ 3.Cultural/historical holiday 30%

ภายในงาน ททท.ได้ชูจุดขายประเทศไทยภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand วิถีกิน วิถีถิ่น (Eat Thai, Visit Thai) ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวเข้าเมืองรองโดยใช้อาหารไทยเพิ่มการกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่วนการท่องเที่ยวเรือสำราญ (Cruise Tourism) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น คือ การขับรถตุ๊กตุ๊กท่องเที่ยวเอง รวมถึงนักท่องเที่ยวอังกฤษใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมเที่ยวอย่างรับผิดชอบ หรือResponsible Tourism  ขณะเดียวกัน ททท.ยังเร่งสร้างการรับรู้เจาะกลุ่ม First Visitors ตามเมืองรองของสหราชอาณาจักร 10 เมือง ได้แก่ Birmingham, Hampshire, Glasgow, Leeds, Bristol, Liverpool, Manchester, Sheffield, Edinburgh และ Cardiff  โดยชูโครงการ Eat Thai, Go Thailand  เจาะตลาดเมืองรองขนาดใหญ่ของสหราชอาณาจักรด้วย

ภายในงานยังได้นำเสนอภาพจำใหม่เที่ยวเมืองไทยโดยเพิ่มเส้นทางเสนอขายเมืองหลักบวกเมืองรอง  เช่น เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-เชียงราย , พระนครศรีอยุธยา – อุทัยธานี -สุโขทัย,  ระยอง – จันทบุรี - ตราด , ชุมพร-สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) - นครศรีธรรมราช(ขนอม) - เขาสก

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบบัตร Thailand Privilege Card แก่อาสาสมัครนักดำน้ำชาวอังกฤษ 2 คน ที่เดินทางมาช่วยสมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีในกรณีที่ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้แก่ Mr. Bill Whitehouse และ Mr. Rob Harper อีกด้วย

ข่าวที่ 3 “เทรนด์ทัวร์ไทยปี62ยุโรปสน5แนวใหม่”



ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ขึ้นเวทีในงาน World Travel  Mart 2018 : WTM ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร นำเสนอแนวคิดการขายท่องเที่ยวเมืองไทยปี 2562 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวอังกฤษกำลังสนใจเทรนด์หลัก ๆ ได้แก่

1.การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพื่อคนทั้งมวล 3.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา
4.การท่องเที่ยวอาหารไทย 5.การท่องเที่ยวเชิงชุมชน

  ขณะเดียวกันก็ได้กล่าวขอบคุณ Mr.Bill Whitehouse รองประธานสภานักดำถ้ำกู้ภัยอังกฤษ ผู้มีคุณูปการต่อประเทศไทย ในฐานะการเป็นผู้สื่อสารตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามา  ในเหตุการณ์ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ตั้งแต่เริ่มประสานจัดหานักดำถ้าเข้ามาช่วยทีมหมูป่าจนผ่านพ้นวิกฤตมาเป็นอย่างดี

ดร.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ภายในงาน WTM 2018 ยังได้ร่วมกับ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และการบินไทย มอบตั๋วเครื่องบินและบัตรอีลิตการ์ดให้ Mr. Bill Whitehouse  เพื่อให้มาเที่ยวประเทศไทยต่อไป  เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยมาเที่ยว ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ประเทศไทยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในอังกฤษ เป็นอย่างมาก

ข่าวที่ 4 “บางจากหนุนบี100ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ”


นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตพลังงานชีวภาพ และเป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท บางจากคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันไบโอดีเซลใกล้เคียงกับราคาน้ำมันดีเซลหน้าโรงกลั่น ที่ไม่รวมภาษีและกองทุนต่าง ๆ ดังนั้นการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลให้มากขึ้นจากปัจจุบัน ในสัดส่วน 7 %เป็น 10 หรือ 20 %จะไม่ทำให้มีผลกระทบด้านราคาต่อผู้บริโภค

เพียงภาครัฐควรเร่งกำหนดคุณสมบัติน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อรองรับสัดส่วนการผสมที่จะเพิ่มขึ้นในส่วนของ BBGI พร้อมปรับกระบวนการผลิตเพื่อรองรับคุณสมบัติของน้ำมันไบโอดีเซลที่จะเปลี่ยนไป อาจมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นบ้าง แต่จะมีผลดีในระยะยาว ที่จะช่วยให้การใช้ไบโอดีเซลในประเทศเพิ่มขึ้นได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์และสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันมีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในประเทศออกสู่ตลาดสูงเมื่อเทียบกับความต้องการใช้ทั้งภาคบริโภคและภาคพลังงาน ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบโลกก็อยู่ในภาวะตกต่ำเช่นกัน ทำให้ไม่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้ กระทบต่อสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเดือนละ 30,000 - 40,000 ตัน และส่งผลให้สต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศอยู่ในระดับ 400,000 ตัน เมื่อเทียบกับปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศควรจะเป็นที่ 250,000 ตัน

ทั้งนี้ทุก ๆ 1 % ของการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซล จะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินได้ประมาณเดือนละ 15,000 ตัน

นายพงษ์ชัยกล่าวว่าในฐานะภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไบโอดีเซลเรามีความเห็นว่า การเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลให้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันปาล์มภายในประเทศ ทดแทนการส่งออก อันจะส่งผลดีต่อการสร้างเสถียรภาพทางราคาของน้ำมันปาล์มดิบในระยะยาว รวมทั้งยังเป็นการช่วยลดเงินตราที่จะออกนอกประเทศอีกด้วย

ข่าวที่ 5 “TCEBบูม“พัทยาไมซ์ซิตี้”รับบิ๊กEECปี’62



นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าได้ร่วมกับเมืองพัทยาและศูนย์ประชุมของเอกชนในจังหวัดชลบุรี เร่งผลักดันสร้างมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย-Thailand MICE Venue Standards (TMVS) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่จะต้องขับเคลื่อนในเรื่องการพัฒนาเมืองไมซ์ ยกระดับคุณภาพและบริการอุตสาหกรรมไมซ์ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ รองรับการขยายตัวทางธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ผู้บริหารของ TCEB ได้นำทีมสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี สำรวจศูนย์ประชุมนานาชาติของภาคเอกชนที่ได้รับมาตรฐาน TMVS ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จหลังจากได้ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวรับรอง ทั้งศูนย์ประชุมปัจจุบันและน้องใหม่ ทั้ง PEACH รอยัล คลิฟท์  NTH สวนนงนุช และ เคป ดารา รีสอร์ต มีจำนวนลูกค้าและรายได้จากตลาดไมซ์ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


นางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ TCEB กล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ TMVS โดยอ้างอิงจากมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ์ทั้งในระดับประเทศและสากล ซึ่งช่วยส่งเสริมและยกระดับการให้บริการตลอดจนคุณภาพของสถานที่จัดงานไมซ์ในไทย รวมถึงภาคตะวันออกพัทยาเป็นเมืองที่มีผู้ประกอบการผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS มากที่สุด 26 แห่ง แบ่งเป็น ประเภทห้องประชุม 25 แห่ง และประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า 1 แห่ง มีจุดขายดึงการจัดงานไมซ์จากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี ผนวกกับเทคโนโลยีและบริการประทับใจของไทย มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์ประชุมเกิดขึ้นจำนวนมากที่จะช่วยสร้างความสำเร็จในอุตสาหกรรมไมซ์ได้รวดเร็ว

พร้อมกันนี้ ทีเส็บยังคงสานต่อการอบรมให้ความรู้ด้านการตรวจประเมินมาตรฐาน TMVS กับกลุ่มผู้ประกอบการไมซ์ในเมืองพัทยา โดยจะเดินหน้ายกระดับพัฒนาบุคลากรให้เกิดความเชี่ยวชาญด้านการบริหารสถานที่จัดงานด้วยหลักสูตร Venue Management Course (VMC) จัดอบรมรุ่นที่ 1 ไปแล้ว จะจัดต่อเนื่องถึงปี 2565

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ได้วางตำแหน่งเมืองพัทยาเป็น “นครแห่งไมซ์ : MICE City” ตามแผนยุทธศาสตร์ที่ 2 เพื่อพัฒนาสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระดับโลก และมหานครศูนย์กลางภูมิภาคพัฒนา หรือ Innovation ในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทันสมัย หลากหลาย เศรษฐกิจและสังคมเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของภาคตะวันออกและประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานประกอบการ โรงแรม ศูนย์การค้า ที่มีศักยภาพในการรองรับการประชุม สัมมนาขนาดใหญ่ การจัดการแสดงสินค้าและนิทรรศการ พร้อมจะเป็นเมืองรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศแบบครบวงจร

นายพงศ์พล เมฆะวรากุล ผู้จัดการทั่วไป เคป ดารา รีสอร์ท พัทยา กล่าวว่า การได้รับมาตรฐาน TMVS การันตีได้ถึงคุณภาพของห้องประชุมสัมมนาพร้อมรองรับตลาดระดับสากล เพิ่มความมั่นใจให้คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเน้นเน้นขยายตลาด เอเชีย  ยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย สามารถเลือกใช้ห้องประชุมของโรงแรมซึ่งรองรับได้ตั้งแต่ 10 – 700 คน มีอุปกรณ์ครบ ทั้งระบบเสียง อุปกรณ์ ทีมงานมืออาชีพ จุดเด่นของห้องประชุมกว้างถึง 577 ตารางเมตร เพดานสูง 7.2 เมตร สไตล์ Day light สามารถรับแสงธรรมชาติและวิวทะเลที่สวยงามของอ่าวไทย อีกทั้งการเดินทางเข้าถึงก็สะดวกสบาย เพราะมีเที่ยวบินที่เชื่อมต่อไปยังไมซ์ซิตี้ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา (อู่ตะเภา)

            ขณะนี้โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา มีกลุ่มตลาดไมซ์ทั้งต่างชาติ นักธุรกิจ หน่วยงานท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลมาจาการได้รับรอง TMVS Flagship มาจัดมากขึ้นเช่น Qatar Airways (เปิดเส้นทางการบินมายังสนามบินอู่ตะเภา)

นางสาวมาลิสา ลุทซี  ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป และศูนย์ประชุมพีช กล่าวว่า มาตรฐาน TMVS สามารถการันตีสถานที่จัดงานดึงดูดกำลังซื้อตลาดธุรกิจไมซ์ทำให้ห้องประชุม PEACH ของโรงแรมมีตลาดระดับโลกเข้ามาใบริการเพราะเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ยอดนิยมการจัดประชุมชั้นนำระดับโลก สร้างความพึงพอใจเกิดความมั่นใจในทุกเรื่อง ซึ่งปัจจุบันพัทยาได้รับการส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ของ 3 จังหวัด EEC ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของอาเซียน ซึ่งเดินหน้าลงทุนเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด้านขนส่ง คมนาคม อาหาร สายการบิน ที่พัก บุคคลากร และอื่น ๆ สร้างรูปแบบการจัดงานใหม่ ๆ สร้างแรงจูงใจให้กลุ่มไมซ์จากในและต่างประเทศเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงิน

นายกัมพล  ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช กล่าวว่า นงนุช เทรดิชั่น เซ็นเตอร์ (NTH) เป็นศูนย์ประชุมน้องใหม่เพิ่งได้รับมาตรฐาน TMVS ประเภทห้องประชุม (Meeting Room) ขนาด 3,000 ตารางเมตร สามารถแยกพื้นที่เป็นได้ 3 ห้อง ห้องละ 1,000 ตารางเมตร และมีห้องประชุมย่อยอีก 5 ห้อง หลังมีตราสัญญลักษณ์แล้ว ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งแต่มิถุนายน ถึงปัจจุบัน มีจำนวนงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ตาม TCEB ได้วางกลยุทธ์ ปี 2562 เดินหน้าพัฒนาเมืองไมซ์พัทยาต่อเนื่อง  EEC ในการขับเคลื่อนไมซ์ผ่าน 6 โครงการไฮไลท์ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาความพร้อมของพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ สามารถรองรับอุตสาหกรรมไมซ์แห่งใหม่ของไทย หรือ Eastern MICE Corridor 2.โครงการส่งเสริมการดึงงานประชุม สัมมนา งานแสดงนิทรรศการ และงานมหกรรมนานาชาติเข้ามาจัดต่อเนื่องตอบโจทย์ Thailand 4.0

3.โครงการจัดตั้งสถาบันไมซ์แห่งอาเซียน เพื่อเป็นศูนย์ประเมินมาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์ ศูนย์กระจายองค์ความรู้ และศูนย์ทดสอบฝีมือแรงงานไมซ์  4.โครงการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา 5.โครงการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมไมซ์ และ 6.โครงการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยนำแหล่งท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ของชุมชนมาสร้างจัดกิจกรรมเชื่อมโยงสินค้ากับตลาดเข้าไมซ์

ช่วงที่ 2 จะชวนไปเที่ยวงานประเพณีเก่าแก่ในล้านนาช่วงเพ็ญเดือนสิบสอง กับงาน “ล่องสะเปาจาวละกอน” แห่งเดียวในเมืองไทยที่ลำปาง และชมความงามอันอลังการเทศกาลแขวนโคม 1.5 แสนดวงทั่วพูน 21-23 พฤศจิกายน นี้ ส่วนสุขภาพก็ต้องรู้ว่าจะป้องกันโรคหมอนรองกระดูกเอวเคลื่อนได้อย่างไร และข่าวยอดนิยม เปิดไส้ใน “การบินไทย” ไตรมาส 2 ขาดทุนบักโกรกอีก 3,600 ล้านบาท เปิดผลสำรวจพบ“เศรษฐีจีน” พร้อมหอบเงินเที่ยวไทยเริ่มช่วงตรุษจีนปี’62 “ภูเก็ตจ้างเซฟการ์ดชายหาด” เทหน้าตักกว่า 26 ล้าน 12 หาด และไปวิ่งการกุศลช่วย 17 โรงพยาบาล

@เที่ยวงานล่องสะเปาลำปาง-โคมแสนดวงลำพูน


เตรียมตัวให้พร้อมกับการออกเดินทางไปร่วมสร้างประสบการณ์เที่ยวงานประเพณี เพ็ญเดือนสิบสองแปลกแตกต่างจากหลาย ๆ พื้นที่ ในงานประเพณี “ล่องสะเปาจาวละกอน” แห่งเดียวในไทย ที่เมืองรถม้าลำปาง ปีนี้จัดที่บริเวณข่วงนคร ท่าน้ำสิงห์ชัย และสามแยกเก๊าจาว  ช่วยกันส่งเสริมฟื้นฟู รักษาธรรมเนียมประเพณี อันดีงามของท้องถิ่นไว้

เรื่องเล่าของงานประเพณี   “ล่องสะเปาจาวละกอน” เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวลำปาง คล้ายงานลอยกระทงเพียงแต่จังหวัดนี้มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ซึ่งใช้ “สะเปา” แทนกระทง มีรูปร่างลักษณะคล้ายเรือสำเภา ทำจากวัสดุธรรมชาติไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ต้นกล้วย กาบกล้วย กาบมะพร้าว ใบตอง มะละกอ ไม้ไผ่ และไม้ ตกแต่งประดับประดาด้วยกระดาษสี ดอกไม้ ธูป เทียน ลงในสะเปา ทำเสร็จก็จะพากันนำมาลอยน้ำช่วงค่ำคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุก


เมื่อได้ร่วมงานนี้จะมีกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ เริ่มตั้งแต่คืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561จะได้ชมการประกวดแม่หญิงสะเปาแก้ว – สะเปาคำ  คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน ชมการประกวดสะเปาลอยน้ำ   คืนวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน  การประกวดสะเปารถใหญ่ รวมถึงความอลังการการตกแต่งเมืองด้วยประทีปโคมล้านนา การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรีพื้นเมือง การจำหน่ายสินค้าโอท็อป

ที่น่าสนุกคือการร่วมกิจกรรม D.I.Y.ประดิษฐ์โคมล้านนา ทำสะเปาน้อยลอยน้ำ ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของลำปางให้อยู่อย่างยาวนาน



แล้วจากนั้นก็แวะไป “ลำพูน” เที่ยวงานเทศกาลถวายโคมแสนดวง 1 ใน 10 มหัศจรรย์ล้านนา ททท.ร่วมมือกันกับหลายภาคส่วนในจังหวัด สนับสนุนการแขวนโคมหลากสีสวยงาม ถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัยและถวายเพื่อเคารพสักการะพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน ถือเป็นแหล่งแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติมาเที่ยวชมความงดงาม กิมมิกการเที่ยวงานนี้นักท่องเที่ยวสามารถเขียนข้อความอธิษฐานขอพรลงบนโคม ก่อนจะนำไปแขวนไว้ตามจุดต่าง ๆ

ทุกปีช่วงเทศกาลยี่เป็ง ชาวล้านนาจะนิยมประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงามด้วยการจุดผางประทีปหรือประดับโคมไฟให้สว่างสดใสตลอด ตามความเชื่อของชาวล้านนาว่าการทำโคม เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าที่ประทับบนสรวงสวรรค์ และแสงประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข
ปีนี้เทศบาลเมืองลำพูนร่วมกับชุมชนทำโคมหลากสีสันกว่า 150,000 โคม ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ร่วมบูชาโคม พร้อมเขียนชื่อและข้อความอธิษฐานขอพรลงบนโคม แล้วนำไปแขวนตามจุดสถานที่ต่าง ๆ ที่ทางผู้จัดเตรียมไว้ เพื่อเป็นพุทธบูชา ให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ร่วมถึงเป็นการสะเดาะเคราะห์  ตามความเชื่อของชาวล้านนา

ชุมชนจามเทวี เป็นหนึ่งในชุมชนทำโคมอย่างแพร่หลาย เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้สู่ชุมชน แถมนักท่องเที่ยวยังได้มีส่วนร่วมพัฒนาอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการประดิษฐ์โคมและต่อยอดฝึกทักษะการทำโคมให้ชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วย รวมถึงเด็กและเยาวชน ให้สามารถประดิษฐ์โคมเพื่อนำมาจำหน่ายในช่วงเทศกาล

การประดิษฐ์โคมล้านนามีหลายรูปแบบ เช่น โคมธรรมจักร โคมดาว โคมไห โคมเพชร ฯลฯ โคมต่าง ๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่ใช้ ไม้ไผ่นำมาขึ้นโครง ติดกระดาษสาหรือผ้าดิบ ตัดลายกระดาษสีเงิน สีทอง ประดับตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ในปัจจุบันโคมถูกนำไปใช้อย่างหลากหลาย เช่น ประดับตกแต่งโรงแรม รีสอร์ท วัด หรือสถานที่ต่าง ๆ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เที่ยวแล้วจะได้รู้ว่าเมืองไทยมีของดีที่โลกต้องจดจำ

ออกไปท่องเที่ยว 2 เทศกาลงานบุญล้านนา “ล่องสะเปาจาวละกอน” ลำปาง และ “โคมแสนห้าหมื่นดวง” ลำพูนกันได้ในช่วง 21-23 พฤศจิกายน นี้

@การป้องกันโรคหมอนรองกระดูกเอวเเคลื่อน

ความรู้สึกปวดร้าวหรือปวดแปล๊บหลัง ก้มๆ เงยๆ ก็แปล๊บลุกนั่งก็แปล๊บ บ้างอาการลามไปแข้งขาชาหรืออ่อนแรง คุณน่าจะกำลังเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังอยู่ อย่าชะล่าใจ ซึ่งอาการที่ว่ามานี้อาจเป็นภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนส่วนเอวหรือภาวะช่องกระดูกสันหลังแคบส่วนเอวก็ได้

วิธีป้องกันหมอนรองกระดูกเคลื่อนส่วนเอว

1. หมั่นออกกำลังกาย  (เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน และบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง)

2. ระวังรักษาอิริยาบถ (ท่านอน ท่านั่ง ท่ายืน ท่ายกของ) ให้ถูกต้อง

3. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การเข็นของหนักหรือการนอนฟูกที่นุ่มเกินไป

4. ควบคุมน้ำหนักอย่าให้เกิน

5.ไม่สูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บินไทยQ3ขาดทุน3.6พันล้านฉุดทรัพย์สินลด”


นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ยังคงขาดทุนสุทธิ 3,686 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา 1,872 ล้านบาท ดวย 3 ปัจจัย คือ 1.ภัยธรรมชาติในญี่ปุ่นพายุไต้ฝุ่นเซบีพัดถล่มจนต้องปิดสนามบินหยุดบินเป็นจำนวนมาก 2.นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเมืองไทยลดลงอย่างรวดเร็ว 3.ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 40%
ส่วนภาพรวมของการบินไทยและบริษัทย่อย ไตรมาส 3 ซึ่งเป็นนอกฤดูท่องเที่ยวมีรายได้รวม 47,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,025 ล้านบาท เฉลี่ย 2.2% มาจาก 1.รายได้จากค่าโดยสาร และน้ำหนักส่วนเกิน เพิ่มขึ้น 304 ล้านบาท หรือ 0.8 %  2.ค่าระวางขนส่ง และไปรษณียภัณฑ์ เพิ่ม 561 ล้านบาท หรือ10.9% 3.รายได้จากการให้บริการอื่น ๆ เพิ่ม 360 ล้านบาท หรือ12.3%
ส่วนรายจ่ายของการบินไทยและบริษัทมีสูงกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น นั่นคือเพิ่มจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน 5,259 ล้านบาท หรือ11.3% เพราะค่าน้ำมันเครื่องบินเพิ่ม 3,499 ล้านบาท เฉลี่ย 29.4% จากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 41.0% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ไม่รวมค่าน้ำมันเพิ่ม1,862 ล้านบาท เฉลี่ย 5.5%
ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 เปรียบเทียบกับเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560การบินไทยและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 277,607 ล้านบาท ลดลงถึง 3,168 ล้านบาท หรือ 1.1% มีหนี้สินรวม 249,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 457 ล้านบาท หรือ 0.2% และส่วนของผู้ถือหุ้นมี  28,388 ล้านบาท ลดลง 3,625 ล้านบาท หรือ 11.3% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก 9 เดือนแรกปี 2561 ขาดทุนจากการดำเนินงานของการบินไทยและบริษัทย่อย

ข่าวที่สอง “เปิดโพลล์เศรษฐีจีนแห่เที่ยวไทยต้นปี’62”

The Chinese Luxury Traveler 2018  ได้ประกาศเมื่อ 31 ตุลาคม 2018 ว่า ไทยติดกลุ่มความนิยมสูงในหลายรายการจากเศรษฐีจีน

1.    สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้ความนิยมสูงสุดจากเศรษฐีจีนที่เตรียมเดินทางท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน ปี 2562 มีไทยรวมอยู่ด้วย กับ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

2.    ประเทศที่เศรษฐีจีนเดินทางไปมากที่สุดในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ตามลำดับได้แก่  ไทย มัลดีฟส์ ฮาวาย ไซปัน มาเลเซีย บาหลี ฟิจิ

3.     ประเทศที่เศรษฐีจีนเดินทางไปในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ โดยมีไทยติด 1 ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ไทย เกาหลี แคลิฟอร์เนีย แคนาดา

4.    ประเทศไทยได้รับการโหวตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเศรษฐีจีนอยากเดินทางไปเป็นลำดับที่ 9  ซึ่งปี 2561 นับเป็นปีแรกที่ไทยติด Top 10  จากอันดับดังนี้ มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ฮาวาย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ดูไบ สวิตเซอร์แลนด์ ไทย อิตาลี

ทั้งนี้ The Chinese Luxury Traveler 2018 :ได้จัดทำผลการสำรวจจากเศรษฐีจีน 236คน ส่วนใหญ่เคยเดินทางมาแล้วกว่า 20 ประเทศ ในจำนวนี้  20% เคยไปต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศ  ปี 2560 การเดินทางท่องเที่ยวครั้งครอบครัวโดยมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 350,000 หยวน หรือ 1,750,000 บาท
ส่วนวัยของเศรษฐีจีน อายุเฉลี่ย 38 ปี ผู้ชาย 30% ผู้หญิง 70% แต่งงานแล้ว 69%   เฉลี่ยมีทรัพย์สินรายละ 20ล้านหยวน

ข่าวที่ 3 “ภูเก็ตเท40ล้านจ้างไลฟ์การ์ด12หาดปี62”


นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ปี 2562 จังหวัดภูเก็ตทำโครงการรักษาความปลอดภัยชายหาด (Life Guard) ต่อเนื่องเตรียมใช้งบกว่า 40 ล้านบาทจัดจ้างพนักงานไลฟ์การ์ดเพื่อ ดูแลความปลอดภัยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อาจจะประสบเหตุขณะลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดต่าง ๆ  12 ชายหาด

1.อบต.สาคู  ดูแลหาดในทอนและหาดในยาง  2.5 ล้านบาท  เพื่อจัดจ้างไลฟ์การ์ด 12 คน  2.อบต.เชิงทะเล ดูแลหาดสุรินทร์และหาดบางเทา  3.58 ล้านบาท  จัดจ้างพนักงานไลฟ์การ์ด 15 คน ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวบริเวณหาดสุรินทร์ และ หาดบางเทา 3.อบต.กมลา ดูแลหาดกมลาและหาดแหลมสิงห์ ใช้งบ 340,000 บาท  จ้าง  7 คน  ดูแลบริเวณหาดกมลา ส่วนหาดแหลมสิงห์ยังคงปิดอยู่ เดือนพฤศจิกายนนี้จะตั้งงบเพิ่มอีก 2.3 ล้านบาท จ้างไลฟ์การ์ด  12 คน

4.อบต.ไม้ขาว ดูแลหาดไม้ขาวตั้งงบ  2 ล้านบาท จ้าง 8 คน  5.เทศบาลตำบราไวย์ดูแลหาดในหานและหาดยะนุ้ย  ใช้5.456 ล้านบาท จ้าง 15 คน  6.เทศบาลตำบลกะรนดูแลหาดกะตะและหาดกะรน  ตั้งงบ 11.11 ล้านบาท  จัดจ้าง 35 คน และจัดซื้อเรือ 6 ลำ 7. เทศบาลเมืองป่าตอง ดูแลหาดป่าตอง ตั้งงบ 10 ล้านบาท จัดจ้าง 26 คน ในพื้นที่ 9 จุดของชายหาดป่าตอง

รวมทั้ง อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ทำโครงการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติปี 2562 ใช้งบอีก 997,400 . บาท อบรมให้ความรู้แก่พนักงานไลฟ์การ์ด ช่วงมีนาคม 2562 จำนวน 4 รุ่น ๆ ละ 80 คน รวมทั้งสิ้น 320 คน เพื่อพัฒนาศักยภาพให้พนักงานไลฟ์การ์ดได้มีความรู้ความสามารถได้ฝึกด้านทฤษฎีและฝึกปฏิบัติเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ

ข่าวที่สี่ “ร่วมวิ่งช่วยหารายได้17รพ.16ธ.ค.นี้"


  เชิญชวนสร้างบุญร่วมกัน เพื่อคนป่วยนับแสน ร่วมสืบทอดพระกรุณา ในกิจกรรม เดิน วิ่ง การกุศล  "ก้าวด้วยธรรม เพื่อ 17 โรงพยาบาล" วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561 นำรายได้ไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ในการรักษาเยียวยากรณีเร่งด่วนทั่วประเทศตามโรงพยาบาล 17 แห่ง

ระยะวิ่ง  5 กม. และ 10.5 กม.มีจุดปล่อยตัวในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม นี้ บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร

สำหรับค่าสมัคร บุคคลทั่วไป 500 บาท จะได้รับเสื้อวิ่ง, เหรียญ, ถุงผ้า VIP 1,000 บาท จะได้รับเหรียญพระพุทธธรรมิกราชบพิตร ภปร. เสื้อวิ่ง, เหรียญ, ถุงผ้า

สถานที่สมัคร และดูรายละเอียดได้ที่ www.youtripper.com/kdd  โทร.089-276-0545 และ 089-276-0505, Line@: @yorsorsor o help@youtripper.com และตลอดเดือนตลอดเดือนพฤศจิกายน นี้ สมัครที่ข้างพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ทุกวันเสาร์-อาทิตย์



ภาคอีสาน ได้แก่ รพ.สมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ กาฬสินธุ์  รพ.ละหานทราย บุรีรัมย์  รพ.นางรอง บุรีรัมย์ รพ.นิคมคำสร้อย มุกดาหาร รพ.ภูกระดึง เลย รพ.เพ็ญ อุดรธานี

ภาคเหนือ รพ.สมเด็จพระญาณสังวร เชียงราย ๖. รพ.แม่จัน เชียงราย รพ.ขุนยวม แม่ฮ่องสอน

ภาคใต้ ได้แก่ รพ.อ่าวลึก กระบี่ รพ.ลานสกา นครศรีธรรมราช รพ.ไชยา สุราษฎ์ธานี

ภาคกลาง ได้แก่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ กาญจนบุรี รพ.หนองหญ้าปล้อง เพชรบุรี รพ.สมเด็จพระยุพราชจอมบึง ราชบุรี

ภาคตะวันออก ได้แก่ รพ.ชลบุรี ชลบุรี รพ.ตราด ตราด
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง