ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TCEBดึงงานโลกPATADESTINAION MARKETING FORUM2018 ปักธงในขอนแก่นไมซ์ซิตี้-เที่ยว4ชุมชนCIV เหนือจดใต้

TCEBดึงงานโลกเทรน์ดใหม่เข้าขอนแก่นไมซ์ซิตี้
ปี’62ผุดอินเทเลเจนท์เซ็นเตอร์แห่งแรกในเอเชีย
เจาะลึก“คิง เพาเวอร์”ธุรกิจพลังคนดี13รัฐบาล
ททท.ชิงLGBTทั่วโลกสะพัด2.18แสนล้านUS
6สตาร์ตอัพท่องเที่ยวโชว์ลูกค้าเวทีWTM’18
BCPGเครือบางจาก Q3 กำไรพุ่ง 1.1 พันล้าน
TCEBเปิดผลงานปี61ดึงไมซ์อินเตอร์200งาน
ทอท.จัดRA2020นำอุตฯบินโลกยึดเชียงใหม่
เที่ยว4หมู่บ้านสร้างสรรค์CIVจากเหนือจดใต้
4คัมภีร์สูงวัยสู้ไหวทุกเรื่องปลอดโรคไร้กังวล
WTM2018เปิด3บิ๊กเทรนด์โลกท่องเที่ยว62
จีนแชมป์โลกแซงฝรั่งเศส-ITเปลี่ยนอุตฯทัวร์
เที่ยวอุ่นไอรักครั้งที่2เริ่ม9ธ.ค.61-17ม.ค.62
โรงแรมดิโอกุระชิงขายก่อนของขวัญปีใหม่
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 เจาะลึก “ศุภวรรณ ตีระรัตน์” รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม TCEB นำทัพดึงงานระดับโลก PATA Destination Marketing Forum 2018 ปักธงจัดในอีสาน “ขอนแก่น ไมซ์ ซิตี้” เปิดโมเดล Area Base อุตสาหกรรมไมซ์ภูมิภาค งัดนวัตกรรม Bridge Connect เชื่อมข้อมูลบิ๊กดาต้าไทยเชื่อมโลก ปี 2562 ผุดศูนย์ Intelligent Center แห่งแรกของอาเซียน ดันไทยผงาดผู้นำเอเชีย



นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สปปน./TCEB” เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนภาคอุตสาหกรรมไมซ์เตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงาน PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2018 เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2561 โดยมีเจ้าของลิขสิทธิ์คือ สมาคมท่องเที่ยวเอเชีย แปซิฟิก : Pacific Asia Travel Association : PATA แต่ละปีจะจัดงานประชุมประจำปีหลายรูปแบบ ทาง TCEB จึงไปดึงงานนี้เข้ามาจัดในไทยภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมพัฒนาการตลาดแหล่งท่องเที่ยว : Destination Marketing เน้นทั้งการพัฒนาและทำการตลาดให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก เป็นงานที่ยังไม่ค่อยนำเข้ามาจัดในไทย ทว่าภูมิภาคเอเชียสนใจจะมาด้วย โดยได้เสนอจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เมือง MICE CITY


สมาชิกของสมาคม PATA ที่จะเข้ามาร่วมประชุมจากนานาประเทศมีประมาณ 200 คน ทำหน้าที่พัฒนาพื้นที่และเมืองจะมารวมกันอยู่ในขอนแก่น นับเป็นโอกาสที่ดีของจังหวัดในภาคอีสาน โดยศักยภาพขอนแก่นเป็นเมืองศูนย์ราชการ มีงานประชุมระดับท้องถิ่นค่อนข้างสูง แต่ระดับนานาชาติหรือเวทีโลกงานนี้จึงเป็นครั้งแรก อัดแน่นด้วยสาระสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การประชุมทางวิชาการ 2.ทำสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (workshop) Community Base Tourism ขณะนี้กระแสการเปิดให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าเป็นเทรนด์มาแรง จะมาร่วมเวิร์คช็อป ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ออกแบบเส้นทางเวิร์คช็อปสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวกับการประชุมให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อจูงใจให้ผู้เข้าร่วมงานเพิ่มวันพักท่องเที่ยวต่อหลังการประชุม 3.ขอนแก่นมีงานไหมนานาชาติ และผูกเสี่ยว เป็นงานประจำปี โดยมีคนทั่วประเทศเข้าร่วมงาน รวมถึงสมาชิก PATA 200 คน จะได้เข้าร่วมประสบการณ์งานประเพณีนี้ด้วย ซึ่งได้รวบรวมไหมในจังหวัดใกล้เคียงมาให้ช้อปปิ้งใช้จ่ายเงิน และเรียนรู้วิถีชีวิต เอกลักษณ์งานวัฒนธรรม ประเพณี

อีกทั้งยังได้รับการเจรจากับสมาคม PATA เปิดให้ผู้ประกอบการไทยที่ทำงานด้านพัฒนาการท่องเที่ยว เข้าร่วมงานได้ฟรี และยังได้นำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมานำเสนอเพื่อให้สมาชิกกับผู้ประกอบการได้ซื้อขายสินค้ากันได้ด้วย


ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปสมัครเพื่อร่วมงานได้ฟรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ www.pata.org คลิกเข้าไปที่งาน PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2018

นางศุภวรรณกล่าวว่า ประเมินสถานการณ์การจัดประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้จะช่วยท้องถิ่นมีรายได้สะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กระจายสู่ธุรกิจเกี่ยวข้องห้องพัก โรงแรม สถานที่จัดประชุม ร้านอาหาร สามารถรับรายได้ตลอดงาน 3 วัน ไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน TCEB พุ่งเป้าจะนำโมเดลการจัดงานครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้กับการทำยุทธศาสตร์ AREA BASE ตามนโยบายของรัฐบาลต้องการลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น การที่เมืองต่างจังหวัดมีศักยภาพพร้อมรับจัดงานไมซ์ทั้งทางด้านประชุมหรืออีเวนต์จะเป็นกลไกให้เกิดการกระตุ้นให้คนเดินทางเข้ามายังพื้นที่เป็นกลุ่มใหญ่ เพราะอุตสาหกรรมไมซ์คนเดินทางส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ TCEB จึงเร่งผลักดันให้มีการนำงานประชุมรายการใหญ่ ๆ สำคัญมาจัดในใน 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น แต่ตอนนี้มีหลายจังหวัดศักยภาพสูงเสนอมาทาง TCEB ขอเข้าเป็น MICE CITY เพราะรู้ถึงรายได้ที่มีมากกว่าท่องเที่ยวทั่วไทย ภายในปลายปี 2561 จะประกาศเมืองไมซ์ ซิตี้ เพิ่มรวมแล้วถึง 13 เมืองด้วยกัน



ปัจจุบันบุกเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมคุณภาพ S-CURV ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการประชุม แสดงสินค้า อีเวนต์ จะดึงงานอุตสาหกรรมดังกล่าวและไทยแลนด์ 4.0 เข้ามา สอดรับกับนโยบายภาครัฐ ปี 2561-2562 จะมีงาน 4.0 เข้ามาจัดในไทย เช่น โรโบติก เทคโนโลยีอาหารและเกษตรกรรม เครื่องมือแพทย์ พลังงานทางเลือก ไม่เน้นน้ำมันกับแก๊ซ รวมถึงงานประชุมหลายงานทางประเทศไทยพยายามดึงงานระดับนานาชาติ ซึ่งตกลงมาจัดแล้วกว่า 200 งาน ซึ่งกระจุกอยู่ในกรุงเทพฯ จะต้องหาวิธีกระจายไปจัดยังต่างจังหวัดเมือง ไมซ์ ซิตี้ มากขึ้น ร่วมกับสมาคมโน้มน้าวให้ไปจัดยังพื้นที่อื่น ๆ เมื่อนึกถึงภูเขาก็ไปเชียงใหม่ ทะเลก็ไปภูเก็ต วัฒนธรรมก็ไปภาคอีสาน เป็นต้น

ส่วนการติดอาวุธทางการตลาดให้ท้องถิ่นเพื่อดึงความสนใจคนเลือกจัดงานกระจายจากกรุงเทพฯ ออกไปยังเมือง ไมซ์ ซิตี้ อื่น ๆ TCEB ได้รุกไปยังเมืองที่มีศักยภาพมากขึ้น เช่น ภาคอีสาน นอกจากขอนแก่นเริ่มขยายไปนครราชสีมาและศึกษาเพิ่มในจังหวัดอุบลราชธานี ทางภาคเหนือก็จะมีเชียงรายและพิษณุโลก ลงพื้นที่แล้วเข้าไปช่วยจังหวัดพัฒนาสถานที่และเมืองให้มีความพร้อม ภาคใต้ไปยังสุราษฎร์ธานี หาดใหญ่-สงขลา ชุมพร ภาคกลาง เคลื่อนไปยัง กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ หัวหิน ชะอำ (เพชรบุรี)

เพราะบางเมืองรู้จักศักยภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่จะต้องสร้างและทำความเข้าใจให้คนท้องถิ่นเตรียมความพร้อมและรู้ถึงศักยภาพของพื้นที่ตนเองด้วย เพราะกลุ่มผู้เดินทางเข้าไปทั้งจัดประชุมและให้รางวัลพนักงาน (incentive) ล้วนเป็นนักธุรกิจ พร้อมใช้จ่ายเงินสูงเฉลี่ย 85,000 บาท/คน/ทริป สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3 เท่า ซึ่งต้องการเส้นทางการท่องเที่ยวอันน่าประทับใจ เพิ่มโปรดักซ์หรูหราควบคู่กับการทำเส้นทางใหม่ ๆ เป็นทางเลือกนอกเหนือจากขณะนี้มีแต่เส้นทางเดิม ๆ ต่อไปจะให้เที่ยวชุมชนใกล้สถานที่จัดงานได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นต่อไป



นางศุภวรรณกล่าวว่าปี 2562 การนำนวัตกรรมกับเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพราะทุกวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไมซ์ตอนนี้ผู้นำต้องยกให้ สิงคโปร์ ส่วนไทยกำลังเบียดกับมาเลเซีย จึงต้องหันมาลดกระบวนการขั้นตอนให้น้อยลงเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น TCEB จึงได้คิดค้นนวัตกรรมแอพลิเคชั่นร่วม เรียกว่า BRIDGE CONNECT ข้อแรก นำแอพฯ มาให้ข้อมูลกับ “ผู้จัดการ” เป็นเครื่องมือจัดงานแทนกระดาษแบบเดิม ๆ ในแอพเดียวสามารถหาข้อมูลรายชื่อผู้ร่วมงาน วิทยากร เนื้อหา ชื่อผู้ร่วมออกบูธแต่ละงาน สำหรับ “ผู้ชมงาน” จะเห็นทุกงานในประเทศไทยอย่างชัดเจน ปี 2561 ทำโครงการใหญ่ Big DATA โครงข่ายฐานข้อมูลใหญ่ ผู้ประกอบการไมซ์ และผู้เกี่ยวข้องในประเทศไทย โดย TCEB ได้งบประมาณจากรัฐมาทำ 3 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง  ภาคอีสาน ภาคใต้ มาดำเนินการให้แล้วเสร็จ ฐานข้อมูลดังกล่าวทั้งผู้ประกอบการ งานปฏิทินจัดงานตลอดทั้งปี สรุปเป็นอุปสงค์-อุปทาน เปิดเป็นเวทีการตลาดในลักษณะ market Place สามารถจับคู่ธุรกิจ หรือเลือกงานที่สนใจจะเข้าร่วม รวมถึงวิทยากร สถาบันการศึกษา ทางด้านไมซ์ก้าวสู่แพลทฟอร์มดิจิตอลไมซ์

ปี 2562 ในเดือนกุมภาพันธ์ จะเปิดตัวโครงการ Intelligent MICE Center จะเป็นศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมไมซ์แห่งแรกในอาเซียน รวบรวมข้อมูลงานวิจัยและรายงานต่าง ๆ ส่วนผู้ที่เข้าไปใช้บริการก็สามารถนำ

ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “พลังคิงเพาเวอร์พลังธุรกิจน้ำดี13รัฐบาล”



คนที่โลกต้องจดจำไปตลอดกาลกับชื่อ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ถึงวันนี้จะอำลาโลกไปแล้ว ทว่าภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็สามารถทำให้คนทั่วโลก ชาวเมืองเลสเตอร์และคนไทยอีกมากมาย สัมผัสได้ถึงพลังของบุรุษผู้นี้-พลัง คิง เพาเวอร-พลังคนไทย ที่สร้างปรากฎการณ์จริงเรื่อง “ความจริงใจและความดีที่ไม่มีวันตาย” จะคงอยู่ในใจทุกคนตราบนิรันดร์
“วิชัย ศรีวัฒนประภา” ถูกขนานนามจากพนักงานนับแสนชีวิตนับหมื่นครอบครัวทั้งในประเทศและชาวเมืองเลสเตอร์ว่าเป็น THE POSSIBLE MAN VS-ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ในฐานะของ “ผู้สร้าง” ทั้งทางด้านศักดิ์ศรีให้กับตระกูล “ศรีวัฒนประภา” สร้างความรักเมตตาสู่สากล สร้างชัยชนะ สร้างบุญาบารมีทางธรรม สร้างปูชนียสถาน สร้างจนเป็นมหาเศรษฐีด้วยใจอันยิ่งใหญ่ดั่งมหาสมุทร กระทั่งวันนี้ทั่วโลกสนใจเฝ้าติดตามเส้นทางความเป็นมาของธุรกิจ 1.62 แสนล้านบาท ของการเป็น “ผู้ให้” ทั้งในทางโลกผ่านธุรกิจ และทางธรรมผ่านมูลนิธิคิง เพาเวอร์ ทำบุญ บริจาค ช่วยเหลือโรงเรียน โรงพยาล วัด และผู้ด้อยโอกาสมากมายจนเกินกล่าวได้ไม่หมด

THE POSSIBLE MAN VS ได้ใช้เวลาสร้างทุกอย่างจากพลังคนไทยยาวนาน 30 ปี ก่อนจากไปด้วยวัยเพียง 60 ปี โดยใช้ครึ่งหนึ่งของชีวิตบุกเบิกก่อสร้าง “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ขึ้นด้วยความยากลำบาก ด้วยการใช้ “หัวใจ” ผนวกเข้ากับ “ความมุ่งมัน” และ “การคิดดี-คิดให้ผู้อื่น” จนกลายเป็นที่รักของคนรอบข้างทั้งในและต่างประเทศ มีเครือข่ายมหามิตรมากมาย ทำให้เป็นเกราะป้องกันสามารถนำธุรกิจฝ่าฟันทุกอุปสรรคได้ตลอด 13 รัฐบาล นับตั้งแต่รัฐบาล “พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 17 มาจนถึงปัจจุบัน “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีคนที่ 29
กระทั่งวันนี้ทุกคนพากันเรียกว่า “อาณาจักรคิง เพาเวอร์” ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจหลักคือ “ร้านค้าปลอดภาษีและอากร” หรือดิวตี้ฟรี ดำเนินกิจการครอบคลุมทุกประเภท ได้แก่ ดิวตี้ฟรีสาขาในเมือง 4 แห่ง คือ คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต ดิวตี้ฟรีในสนามบิน 5 แห่ง  คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินอีก 2 แห่ง ได้แก่ การบินไทย และแอร์เอเชีย



ส่วนกีฬาก็เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในประเทศอังกฤษ กับ Oud-Heverlee Leuven : OHL ประเทศเบลเยี่ยม และกีฬาขี่ม้าโปโลซึ่งเป็นความชื่นชอบส่วนตัว โดยได้ตั้งสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย จากนั้นเมื่อปี 2560 ได้ใช้เงินราว 500 ล้านบาท ซื้อสนามแฮมโปโล ใจกลางกรุงลอนดอน พัฒนาปรับปรุงแล้วแปลี่ยนชื่อเป็น คิง เพาเวอร์ บิลลิ่งแบร์ โปโล พาร์ค

เส้นทางความเป็นมาของ “อาณาจักรคิง เพาเวอร์” ได้รับความสนใจและถูกนำมาเสนอย้ำซ้ำ ๆ ในเชิงธุรกิจ เมื่อนิตยสาร Forb  จัดชั้นปี 2561 ให้ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของเมืองไทย มีทรัพย์สินมูลค่ารวมมากถึง 1.62 แสนล้านบาท ก็ยิ่งทำให้คนไทยและสื่อแสดงความสนใจถึงที่มาของความร่ำรวยดังกล่าว โดยหยิบประเด็นง่ายสุดจุดกระแสให้สังคมเชื่อคือ “ธุรกิจสัมปทานดิวตี้ฟรี” ทำให้มีเงินมามหาศาล

หากแต่ความเป็นจริงแล้ว “วิชัย” เจ้าของธุรกิจ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” เริ่มต้นจากการเข้าร่วมทุนกิจการร้านขายของที่ระลึก ดี.เอฟ.เอส (ไทยแลนด์) จำกัด ในนาม JMT ครั้งแรกที่สนามบินดอนเมืองนั้น

จุดเริ่มยุคนั้นถ้าวิชัยคิดแค่หาประโยชน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียวแล้ว ในวันนี้จะสามารถก้าวข้าม “จุดเปลี่ยน” ถึง 13 รัฐบาล มาได้อย่างแน่นอน

เพราะทุกรัฐบาลล้วนแล้วแต่มีศักยภาพความสามารถต้องนำพาประเทศสู่ความเจริญ มิใช่มาเพียงเพื่อทำหน้าที่เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจตามคำครหาทั้งหลายของสังคม จากนี้ไปคนไทยควรจะต้องได้เรียนรู้และเข้าใจกติกาบ้านเมือง และความเป็นจริงซึ่งมีมากกว่าเรื่องเล่าบางประเด็นที่ถูกบิดเบือนบอกให้ฟังต่อ ๆ กันมา



ตัวตนของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” คือ “ผู้สร้างและผู้ให้” เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ประกาศให้สังคมรับรู้ กระทั่งจนถึงวันต้องสูญเสียบุรุษชื่อนี้ไป ทั่วโลกและคนไทยจึงหันมาสนใจอีกครั้งว่าเขาคือใคร เหตุใดจึง “ยิ่งใหญ่” ได้ถึงขึ้นทำให้คนทั้งโลกหลั่งน้ำตาและต้องจดจำไปตลอดกาล

เสียงร่ำไห้ของผู้คนอันเป็นที่รักดังกึกก้องไปทั่วโลกนับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 มาจนถึงขณะนี้ อาจจะสวนทางกับสังคมไทยบางส่วนที่ต้องการรู้ลึกถึงอนาคต “อาณาจักร คิง เพาเวอร์” หากขาดหางเสือใหญ่อย่าง “วิชัย ศรีวัฒนประภา” แล้วจะเดินต่อไปได้อย่างไร

ในความเป็นจริงแล้ว “วิชัย ศรีวัฒประภา” บอกมาตลอดว่า คนทำดีย่อมได้ดีเสมอ ใน 13 รัฐบาล ตลอดห้วงเวลา 30 ปี มิได้มากมาย ถ้าหากได้ทำสิ่งดีปราศจากความเลวร้ายแล้วธุรกิจของทุกคนยังคงอยู่เป็นปกติได้เหมือนทุกวัน เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญมากไปกว่าการให้และการใช้ใจคิดสร้างสรรค์วิธีคืนประโยชน์สู่สังคม ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว กีฬา และโลกแห่งธรรมะ เขาได้ทำครบทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธไปเผยแพร่จนกลายเป็นภาพจำทุกวันนี้ที่แม้แต่คนในซีกโลกตะวันตกยังยอมรับเรื่องพระพุทธศาสนา ด้วยการกราบไหว้ สวดมนต์ พระพุทธรูป

“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” เปิดเผยว่าหลังจากวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 เมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตด้วยวัยเพียง 31 ปี ได้เรียนรู้ถึงทั่วโลกให้ความสำคัญของพ่อคือบุคคคลสำคัญอย่างแท้จริง ในฐานะทายาทต้องรับภารกิจดูแลทุกอย่างทั้งในประเทศ ต่างประเทศ สโมสรฟุตบอล ประการสำคัญสุดคือทีมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติซึ่งมีครอบครัวต้องเลี้ยง ดูแล ดำรงชีวิต ถึงแม้ตอนนี้จะถูกตั้งคำถามมากมายแต่ตอบได้ชัดเจนว่าทุกเรื่องพ่อสอนไว้ให้ทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง คิดดี ทำดี คือคัมภีร์นำพาทุกสิ่งสู่ความเจริญได้อย่างยั่งยืน

“ความจริงในประเทศไทยทุกวันนี้ต้องช่วยกันคนละไม้ละมืออธิบายความถูกต้องชัดเจน นั่นคือเมื่อเกิดความสูญเสียผู้นำองค์กรอย่างคิง เพาเวอร์ สิ่งที่ต้องทำต่อไปให้ได้คือ ต้องดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเข้าใจ เข้าถึง และรับรู้ถึงความเป็นจริงชีวิตต้องดำเนินต่อไปให้ได้ด้วยการประกอบอาชีพ คนนับหมื่นครอบครัวนับแสนชีวิตรออยู่ และในฐานะทายาทธุรกิจกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้องเดินหน้าต่อในการทำกิจกรรมเพื่อให้พนักงานทุกระดับอยู่อย่างมีความสุข มีรายได้เลี้ยงครอบครัวตามปกติ พนักงานทั้งหมดทั้งในประเทศและเลสเตอร์ต้องอยู่รอดปลอดภัย ในระหว่างความสูญเสียคิง เพาเวอร์ก็ต้องเดินหน้าทำกิจกรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแคมเปญความร่วมมือกับ วอลท์ ดีสนีย์ ฉลอง 90 ปี มิคกี้เมาส์ ให้ครบ 88 วัน หรือการเปิดขายโซนต่าง ๆ ใน คิง เพาเวอร์ มหานคร”



ส่วนการเดินหน้าประมูลงานธุรกิจในประเทศไทย ซึ่ง “ตระกูลศรีวัฒนประภา” เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีและอากร (duty/tax free) นั้นไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเข้าสู่การยื่นประมูลดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานอู่ตะเภา พื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร หรือช่วงธันวาคม 2561 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กลุ่มบริษัท  คิง เพาเวอร์ พร้อมจะลงสนามแข่งขันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยจะต่อสู้บนความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม

ประสบการณ์ของคิง เพาเวอร์ ตลอด 13 รัฐบาลที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วธุรกิจดิวตี้ฟรีได้มาด้วยการแข่งขันต่อสู้อย่าง “ถูกต้องเป็นธรรม” และการเสียชีวิตของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ไม่ได้แปลว่า “คิง เพาเวอร์” จะสูญสิ้นมนต์ขลัง เพราะพลังคนไทย พลังคิง เพาเวอร์ จะอยู่ตลอดไปตราบนิรันดร์เฉกเช่นที่โลกยกย่องให้เป็น THE POSSIBLE MAN

ข่าวที่ 2 “ททท.เร่งโกยLGBTทั่วโลกเงินสะพัด2.18แสนล้านUS”



นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรม LGBT Networking Program ใน World Travel Mart 20181 เพื่อเปิดโอกาสด้านธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยซึ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มเพศทางเลือกหรือ LGBT เจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่และรายย่อยของอังกฤษ 6 ราย และสื่ออังกฤษ 6 ราย

เพื่อสร้างการรับรู้ถึงนโยบายของรัฐบาลไทยมีกฎหมายฉบับใหม่ล่าสุด อนุญาตให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ดังนั้นจึงพร้อมต้อนรับตลาด LGBT ทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวไทยด้วย

ส่วนในงาน WTM 2018 ได้เปิดเวทีเสวนาเรื่อง ตลาดท่องเที่ยว LGBT ระบุ ปี 2561 และแนวโน้มปี 2562 กลุ่มนักท่องเที่ยวตลาด LGBT ได้ใช้เงินเดินทางท่องเที่ยวมูลค่ามหาศาลแต่ละปีเกินกว่า 218,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

เอียน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Out Now [https://www.outnowconsulting.com] ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาของ LGBT Out Now เปิดเผยระหว่างในเวทีเสวนางาน WTM 2018 ว่าค่ารายจ่ายประจำปีของการท่องเที่ยวทั้งหมดจากกลุ่มเลสเบี้ยน เกย์ กะเทย และคนที่เปลี่ยนเพศ (LGBT) ทั้งหมด USD $ 218,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 2.2% ซึ่งเป็นข้อมูลสรุปมาจากโครงการวิจัย LGBT2030 ทั่วโลกของ Out Now ได้สำรวจจากผู้เข้าร่วมกว่า 130,000 คน  26 ประเทศ พบสถิติปี 2561 ชาว LGBT ในประเทศสำคัญ ใช้จ่ายเงินเพื่อการเดินทาง ที่พัก รับประทานอาหาร ในวันหยุดและใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ระหว่างท่องเที่ยว อินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตสูงที่สุด จากการผ่อนปรนกฎหมายต่อต้านเกย์ล่าสุดปีนี้ตลาดกลุ่มนี้จึงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งที่สุด

สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBT ทั่วโลก ใช้จ่ายเงินปี 2561 เรียงตามลำดับ  ได้แก่
สหรัฐอเมริกา 63,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 1.9 % บราซิล 26,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 0.8 % ญี่ปุ่น 20,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 0.9 % เยอรมัน 13,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 2.0 % สหราชอาณาจักร 11,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 1.6 %
ฝรั่งเศส 11,400 ล้านเหรียญสหรัฐ 1.0 % เม็กซิโก 11,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 3.3 % อิตาลี 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 0.1 % แคนาดา 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 1.7 % สเปน 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 1.4 % ออสเตรเลีย 6,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 2.8 %

โคลัมเบีย 5,100 เหรียญสหรัฐ เติบโต 2.4 % โปแลนด์ 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 3.3 % อินเดีย 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 7.2 % อาร์เจนตินา 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ 1.6 % เนเธอร์แลนด์ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 1.4 % อิสราเอล 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 3.0 %

ข่าวที่ 3 “ททท.นำ6สตาร์ตอัพบุกโชว์WTM2018”



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำผู้ชนะการประกวดสตาร์ต อัพ 6 ราย เข้าร่วมงาน WTM 2018 ร่วมงานส่งเสริมการขาย World Travel Market ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่าง 5-7  พฤศจิกายน 2561 จำนวน 6 ราย ได้แก่

1. Tuk Tuk Hop ให้บริการท่องเที่ยวแบบ On-Demand Hop On Hop off รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยนักท่องเที่ยวเรียกรถผ่าน Tuk Tuk Hop Application คิดราคา Day Pass ชำระครั้งเดียว ราคาเดียว ท่องเที่ยวได้ทั้งวัน

2. golfdigg บริการจองสนามกอล์ฟในไทยใน 35 จังหวัด กว่า 120 สนามกอล์ฟ จองทาง application แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันให้บริการกับนักกอล์ฟทั้งคนไทยและต่างชาติกว่า 50,000 คน

3. Freakar นำเสนอบริการด้านการเช่าเเว่นตา Holographic Device เล่าเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวเชิงลึก และการโฆษณาสินค้าและบริการที่มีอยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นผ่านการเชื่อมโยงกับเนื้อหาของเรื่องราวที่เห็นในภาพที่ปรากฏในแว่น AR และ smart phone application  โครงการแรกอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อว่า Immersive Ayutthaya

4. เทคมีทัวร์ (www.takemetour.com/ ) เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่รวบรวมทัวร์ท้องถิ่นใหญ่สุดในไทย สร้างรายได้ให้คนพาเที่ยวกว่า 20,000 คน และกระจายการท่องเที่ยวสู่ 22เมืองหลัก เมืองรอง 55 จังหวัด

5. AIRPORTELs (www.airportels.asia) บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าระหว่างสนามบินและที่พักให้กับนักเดินทาง บริการนี้ทั่วโลกกำลังนิยม โดยเฉพาะญี่ปุ่นปัจจุบันขนส่งกระเป๋าปีละกว่า 3 ล้านใบ AIRPORTELs มีจุดให้บริการในสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ ครอบคลุมจังหวัดหลัก ๆ กรุงเทพ ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ ปี 2562 จะขยายไปยังประเทศอื่น เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์

6. มวยไทยโอเค (MuayThaiOK) ให้บริการจองคลาสเรียนมวยไทยทั่วประเทศ และเป็นตัวแทนขายตั๋วชมการแข่งขันเข้าสนามเวทีราชดำเนิน และลุมพินี เน้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนำ AI เข้ามาปรับใช้เก็บสถิติการเข้างานของแต่ละชาติ แล้วนำไปพัฒนาต่อยอดต่อไป

ข่าวที่ 4 “BCPGเครือบางจากQ3กำไรพุ่ง1.1พันล้าน”



บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 มีกำไร 1,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 900 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากการรับรู้กำไรสุทธิจากการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุน    นอกจากนี้การควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ และผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นไปตามแผน ส่งผลให้มีผลกำไรเพิ่มจากปีที่แล้ว 344 ล้านบาท

          นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2561 มีกำไร 1,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 900 ล้านบาท มีปัจจัยหลักมาจากการรับรู้กำไรสุทธิจากการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุน และการควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นไปตามแผน ส่งผลให้มีผลกำไรเพิ่มจากปีที่แล้ว 344 ล้านบาท

  โดยบริษัทฯ ได้จำหน่ายสินทรัพย์ประเภทโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น  2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Nikaho และ โครงการ Nagi ขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 27.6 เมกะวัตต์ ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่นตั้งขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ Bangchak Solar yield-co Godo Kaisha ในราคา 11,500 ล้านเยน (เทียบเท่าจำนวนเงิน 3,372 ล้านบาท) หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ แล้ว เป็นเงินที่ได้รับสุทธิจากกองทุนทั้งสิ้น 10,388 ล้านเยน (เทียบเท่าจำนวนเงิน 3,046 ล้านบาท)

ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทุนดังกล่าว ทั้งในการร่วมลงทุนหรือร่วมบริหารกองทุนแต่อย่างใด (อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเยนเท่ากับ 0.29323)

  หลังจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ บริษัท BCPG Engineering ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำสัญญาราย 5  ปีให้บริการดำเนินการและซ่อมบำรุง (Operation & Maintenance) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 2 แห่งกับกองทุนฯ

  การขายสินทรัพย์ครั้งนี้ เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนแก่ผู้ถือหุ้นให้สูงที่สุด ทำให้บริษัทฯ มีเงินสดในมือรองรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีโอกาสในการเติบโตและการสร้างผลตอบแทนในระดับสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป

ข่าวที่ 5 “TCEBโชว์ผลงานปี61ดึง200ไมซ์โลกมาไทย”



นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/สสปน.” เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เตรียมประกาศผลสำเร็จการดำเนินงานตลอดทั้งปี ที่ได้ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์สร้างผลทางเศรษฐกิจ ทั้งทางด้านงานประมูลสิทธิ์และการสนับสนุนระหว่างประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 200 งาน อีกทั้งยังได้เจาะกลุ่มเป้าหมายโดดเด่น สนใจเดินทางเข้ามาร่วมงานในไทย จากนั้นก็จะเปิดแผนพัฒนาตลาดปี 2562 ที่จะผลักดันให้ธุรกิจไมซ์เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เป็นผลดีทั้งต่อโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศและชุมชนทั่วไทย

ตามพันธกิจหลักของ TCEB คือผลักดันและพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ รวมถึงสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้เป็นจุดหมายปลายทางของธุรกิจไมซ์ในระดับภูมิภาค ขานรับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลในการส่งเสริมการจัดงานในประเทศไทย เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน


ข่าวที่ 6 “ทอท.-TCEB”ผนึกจัดR2020ดึงอุตบินร่วม2พันราย”



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/สสปน.” และนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมมือกันเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดงาน The Routes Asia Development Forum 2020 ที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นงานประชุมเจรจาธุรกิจด้านการบินพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานจะมีโอกาสในการแสดงศักยภาพความพร้อมด้านการดำเนินธุรกิจท่าอากาศยาน สร้างความเชื่อมั่นในการตัดสินใจมาร่วมลงทุนทำธุรกิจในอนาคต

สำหรับงาน RA 2020 จะจัดในเดือนมีนาคม 2563 ที่เชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมงานจากหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องประมาณ 2,000 คน  ได้แก่ สายการบินประมาณ 100 สายการบิน ท่าอากาศยานทั่วโลกกว่า 200 แห่ง หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวกว่า 50 หน่วยงาน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดประชุมของประเทศไทย การท่องเที่ยว รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดรายได้ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย

ช่วงที่ 2 ชวนเที่ยวทั่วไทยใน 4 หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์หรือ Creative Industry Village หรือ CIV จากย่านเก่าวังกรด พิจิตร บ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ้านเกาะพิทักษ์” อ.หลังสวน จ.ชุมพร และ บ้านบากันเคย อ.เมือง จ.สตูล แต่ละชุมชนมีเสน่ห์ความสุขต่างกัน ตามด้วยวิธีดูแลสุขภาพของเหล่า “ผู้สูงวัยกับ4คัมภีร์สู้ไหวทุกเรื่อง”

@เที่ยว4หมู่บ้านสร้างสรรค์จากเหนือจดใต้”


การท่องเที่ยวกลายเป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว ตอนนี้องค์กรต่าง ๆ พากันตื่นตัวเข้าไปช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชนกันยกใหญ่ วันนี้จะชวนไปสัมผัส 4 หมู่บ้านน่าเที่ยว ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จัดทำเป็น “โครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Creative Industry Village หรือ CIV ส่งเสริมให้ชุมชนทั่วประเทศได้รู้จักการนำอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และความโดดเด่นเชิงพื้นที่มาพัฒนาเป็นสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของนักท่องเที่ยว แนะนำให้ไปชีลกันได้ ใน 4 ชุมชนทั่วไทย เก๋ไก๋ เท่ทุกที่

ชุมชนแรก  ย่านเก่าวังกรด อ.เมือง จ.พิจิตร “ชุมชนเก่าแก่ สถาปัตย์โดนใจ ย่านเก่าวังกรด” ในชุมชนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนไม้โบราณลักษณะห้องแถว 2 ชั้น ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ให้เดินถ่ายรูปเล่นอย่างเพลิดเพลิน ไฮไลต์คือ “ตึกหลวงประเทืองคดี” บ้านปูนหลังแรกในชุมชน ปัจจุบันเปิดเป็นแกลลอรี่ให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายภาพตามรอยประวัติศาสตร์ และความสวยงามของสถาปัตยกรรม

ชุมชนนี้มีผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นของเด่นของดัง เช่น ปลาเกลือแดดเดียว และอาหารพื้นบ้านรสชาติโบราณ อย่างเช่น สาคูไส้หมูราดกะทิ หมูสะเต๊ะ ก๋วยเตี๋ยวปิ่นโต และผัดไทยโบราณ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสชาติโบราณแท้ ๆ มาที่เดียวได้ทำแบบครบทุกกิจกรรม

ชุมชนย่านเก่าวังกรด ตั้งอยู่ห่างจากจากตัวเมืองพิจิตร 6 กิโลเมตร บริเวณจุดตัดทางการคมนาคมทั้งทางบกที่มีรถไฟเข้าถึง และทางน้ำติดกับแม่น้ำน่านเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในสมัยก่อน บรรยากาศเงียบสงบ ชาวบ้านยังคงมีวิถีชีวิตสุดเรียบง่าย



ชุมชนที่ 2 “บ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์” อาณาจักรของแหล่งสถาปัตยกรรมการก่อสร้างจากต้นประดู่เป็นไม้พื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงตัวตนที่สำคัญของชุมชน เช่น อาคารสถานีรถไฟ ไม้บานประตู ที่โบสถ์วัดทุ่งประดู่ จนเป็นที่มาของภาพประตูวัดทุ่งประดู่และประดู่ พร้อมสถานที่เที่ยวมากมายสไตล์ธรรมชาติรอบชุมชน

ไฮไลต์คือท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีครบทั้งการดูแลสุขภาพร่างกาย อาหาร ผลิตภัณฑ์ เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปถึงชุมชนบ้านทุ่งประดู่มีกิจกรรมมากมายไว้ต้อนรับ อย่าง นวดผ่อนคลาย สปาทราย มีคุณสมบัติบำบัดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำให้เลือดหมุนเวียนตามร่างกาย ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเล หรือจะเป็นร่วมกิจกรรมบ้านสวนวิทยา ที่มีสาธิตหัตถกรรมกะลามะพร้าว และสวนผักปลอดภัยสาร

รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนจากธรรมชาติ คือ น้ำมันข่าที่มีคุณสมบัติใช้บรรเทาอาการลมพิษแมลงกัด ผด ผื่น คัน พร้อมกับมีฟาร์มสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชุมชนอย่างใกล้ชิดได้ด้วย



ชุมชนที่ 3 “บ้านเกาะพิทักษ์” อ.หลังสวน จ.ชุมพร ถิ่นอาศัยของชาวเลบนเกาะแวดล้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ แหล่งน้ำธรรมชาติใต้ดินด้วยบรรยากาศที่สงบเงียบและความเป็นธรรมชาติ พร้อมมีจุดชมวิวสูงประมาณ 200 เมตร ที่มีศาลาให้นั่งชมทัศนียภาพสวย ๆ มองเห็นไปได้ไกลถึง เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน

บนเกาะยังมีศูนย์อนุรักษ์หอยมือเสือ ชมหอยมือเสือ เต่าทะเล หญ้าทะเล ปะการังนานาชนิดและโลมาสีดำ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ชุมชนภูมิใจเสนอ คือ การทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ ใช้เทคนิคการมัดย้อมแบบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเทคนิคที่แตกต่างจากเทคนิคการย้อมทั่วไป ทำให้เกิดลวดลายบนผ้าใหม่ ๆ ถือว่าเป็นของฝากที่มีมูลค่าทางใจและได้กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นด้วย



ชุมชนที่ 4 “บ้านบากันเคย อ.เมือง จ.สตูล อยู่ริมชายทะเลอันดามัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านทำกะปิอร่อยสุด ๆ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทำรายได้หลัก สร้างอาชีพแก่ชุมชน หากได้ไปเยือนจะได้ชมวิถีการทำประมงพื้นบ้าน อีกทั้งยังเลือกพักโฮมสเตย์ชุมชน บ้านบากันเคย ซึ่งเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวของคนชุมชนมุสลิม ปลูกสร้างบ้านพักแบบเรียบง่ายริมทะเล ยามค่ำคืนก็นอนนับดาวตกบนท้องฟ้าท่ามกลางเสียงคลื่น

ส่วนการท่องเที่ยวเยี่ยมชมธรรมชาติ บริเวณชุมชนบ้านบากันเคยมีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ อาทิ แนวหญ้าทะเล สัมผัสลูกนกทะเลอย่างใกล้ชิด ณ หาดเกาะมดแดง ปิดท้ายด้วยกิจกรรมส่งเสริมระบำสวรรค์พื้นบ้านบากันเคย ที่ประยุกต์การแสดงรองเง็งของชาวใต้

ท่องเที่ยวชุมชน ทั่วไทย ได้ทั้งความสุขและการเรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยด้วยกันเอง

@4คัมภีร์สูงวัยสู้ได้ไกลโรคไร้กังวล

ตอนนี้เหล่าผู้สูงวัยต้องตั้งใจฟังให้ดี เกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งลูกหลาน แถมยังได้ใช้เวลาที่มีไปในการสร้าประโยชน์ได้ กับการทำง่ายด้วย 4 ปัจจัยสุขภาพดี ทั้งทางกายและใจ ซึ่งก็คือ อาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน และการทำจิตใจให้ผ่องใส

ทางกายนั้น ระหว่างอาหารและการออกกำลังกาย อาหารส่งผลถึงการมีสุขภาพดีถึง 70% ในขณะที่การออกกำลังกายมีผลเพียง 30 ส่วนการพักผ่อนนั้น เป็นผลมาจากทั้งทางกายและใจประกอบเข้าด้วยกัน เช่น หากทานอาหารมากเกินไป ก็ทำให้นอนหลับไม่สบาย ออกกำลังกายมากเกินไป ก็เกิดภาวะ over training จนนอนไม่หลับได้ หรือมีเรื่องให้กังวลใจ ไม่หาทางแก้ไขที่ต้นเหตุ หรือไม่สามารถปล่อยวางในเหตุที่แก้ไขไม่ได้ ก็ทำให้นอนไม่หลับ การพักผ่อนจึงไม่เพียงพอ โอกาสที่ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็ลดน้อยลง

เพียงเท่านี้เองเหล่าคนสูงวัยก็ใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ปลอดโรคไร้กังวล

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “@WTM2018ชี้3เทรนด์อนาคตท่องเที่ยวโลก


ผลสรุปการเสวนาบนเวทีจากงาน World Travel Mart 2018 งานเทรดและวิชาการด้านท่องเที่ยวขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีเทรนด์ที่น่าสนใจ เทรนด์แรก เทคโนโลยีจะเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวโลก ตามที่ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประสานเป็นเสียงเดียวกันคือ IA กับ ML

Mike Croucher หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านเทคนิคและหัวหน้าสถาปนิก Travelport อธิบายว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบังคับให้ผู้บริโภคปฏิบัติตนในลักษณะที่เหมาะสมกับระบบอุตสาหกรรมการเดินทางมากกว่าที่จะสะท้อนถึงวิธีการและสิ่งที่พวกเขาต้องการซื้อ ต่างจากบริการที่ได้รับแบบดั้งเดิมด้วย"ระบบการบันทึก" และผู้บริโภคในปัจจุบันคาดว่าจะได้รับบริการโดย "ระบบปัญญาและระบบการมีส่วนร่วม"

เพราะ "ระบบปัญญา" เป็นวิธีใหม่ในการเชื่อมโยงอุปสงค์และอุปทานและมีความสามารถรวมอยู่ในแพลตฟอร์ม Croucher ยกตัวอย่างเรื่อง Hopper เป็นผู้รับเงินทุนสนับสนุนในสหรัฐมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้พัฒนาอัลกอริทึมซึ่งติดตามข้อมูลการกำหนดราคาเที่ยวบินที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวที่ใส่ใจในเรื่องเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อ ซึ่งซึ่งขณะนี้ AI ดังกล่าวกลายเป็นวิศวกรรมย้อนกลับระบบการจัดการรายได้ของสายการบินทำเงินได้มหาศาล
และยังมีคำยืนยันของผู้นำธุรกิจแถวหน้าของโลกก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันในเรื่องเทคโนโลยีคือจุดเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้นี้

@FB-ดิจิตอลเครื่องมือปั๊มยอดตลาดทัวร์โลกพุ่ง”

Lyn Hughes ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์และบรรณาธิการ Wanderlust กล่าวใน WTM 2018 ว่า จากผลการสำรวจมากกว่า 100 แบรนด์ พบมากกว่า 90% ใช้ Facebook เป็นเครื่องมือทางการตลาดและจดหมายข่าวแทนโบรชัวร์ สามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งยังพบอีก 70% ของบริษัท วางแผนที่จะใช้จ่ายเงินมากกว่าผลิตเนื้อหาวิดีโอและ มากกว่า 30% จะใช้เงินน้อยลงในโบรชัวร์

ส่วนข่าวดีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยทั่วไปคือการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคพบ15% ไม่ได้ใช้บริษัทท่องเที่ยวจองห้องพัก แต่ใช้เครื่องมือใหม่ของดิจิตอลและเฟสบุ๊คทำเรื่องดังกล่าว

@ปี73ทั่วโลกแห่เที่ยวจีนนำหน้าแซงฝรั่งเศส”

Euromonitor International รายงานว่าบริษัทวิจัยแถวหน้าของโลกระบุภายในปี 2573 จีนจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวอย่างท่วมท้นแซงฝรั่งเศสจนต้องเสียแชมป์ปัจจุบันในฐานะประเทศเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดยอดนิยมของโลก

Caroline Bremner หัวหน้าสายการบิน Euromonitor International กล่าวว่าประเทศไทย สหรัฐอเมริกาฮ่องกง จะได้รับอานิสงส์หรือผู้รับผลประโยชน์หลักของความต้องการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในฝั่งตลาดขาออกในสหราชอาณาจักรเผชิญกับความไม่แน่นอนของ Brexit ผนวกกับความกังวลเรื่องคือประชากรในสหราชอาณาจักรที่มีอายุน้อย ๆ ที่มีรายได้น้อยลง
ปี 2573 คนในสังคมชนชั้นสูงของสหราชอาณาจักรจะมีเพียง 22 ล้านคน คนอายุน้อยจะเพิ่ม 18 ล้านคน ส่งผลถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะต้องหันมาห้ำหันแข่งขันด้วยเรื่องราคาและการค้นหาคุณค่า ขณะที่คนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักรมีเงินน้อยกว่าในอดีต กลายเป็นปรากฎการณ์ตรงกันข้ามในประชากรแถบเอเชียจะมั่งคั่งร่ำรวยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ Euro monitor วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดการเดินทางท่องเที่ยวฝั่งยุโรปจะถดถอย นอกจากเรื่อง Brexit โครงสร้างรายได้ประชากรแล้ว ยังมีเรื่องมูลค่าของปอนด์ลงประมาณ 10% และมาตรการความเข้มข้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนสายการบินนานาชาติแทบจะไม่สามารถบินได้เมื่อสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปหากไม่มีข้อตกลงในการให้บริการทางอากาศตามกติกาที่ระบุไว้

ข่าวที่สอง “ชวนสัมผัสงานอุ่นไอรักครั้งที่2จัดเริ่ม9ธ.ค.นี้”

ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561-17 มกราคม 2562 เตรียมตัวให้พร้อมกับการแต่งชุดไทย ไปร่วมงาน “อุ่นไอรัก ครั้งที่ 2” บริเวณ พระลานพระราชวังดุสิต

ภายในงานจะได้ตกแต่งอย่างงดงาม ทั้งดอกไม้เมืองหนาว และบรรยากาศความสุขตามแบบวิถีไทย รวมทั้งได้ศึกษาเรียนรู้อัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ของประเทศ ผ่านผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะนำเข้ามาร่วมงานดังกล่าว

ข่าวที่สาม “โรงแรมดิโอกุระเปิดขายของขวัญปีใหม่”

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้ออกแบบกล่องของขวัญของฝากสำหรับเทศกาลแห่งความสุขบรรจุผลิตภัณฑ์คุณภาพคัดสรรเป็นพิเศษเพื่อมอบเป็นของขวัญแทนใจแด่ญาติผู้ใหญ่ เพื่อน คนสำคัญ เพื่อนร่วมงาน หรือคู่ค้าทางธุรกิจ ตลอดเทศกาลแห่งความสุข เริ่มวางจำหน่ายที่ ร้านขนมลา พาทิสเซอร์รี (La Pâtisserie) ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2561 ถึง 15 มกราคม 2562

โดยมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ กล่องของขวัญ โอกุริโมโนะ (Okurimono) ราคากล่องละ 3,900 บาท บรรจุคุกกี้ขิง ช็อคโกแลตพราลีน และขนมหวานต่าง ๆ พร้อมตุ๊กตากระต่ายสวมชุดยูกาตะของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ  ส่วนกล่องของขวัญ โฮเซกิ (Hoseki) ราคากล่องละ 5,500 บาท นอกจากจะบรรจุขนมหวานน่ารับประทานตามเทศกาลหลายชนิดและตุ๊กตากระต่ายสวมชุดยูกาตะแล้วยังบรรจุชุดยูกาตะ ชุดคลุมแบบญี่ปุ่นดีไซน์พิเศษ

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM97.0 MHz.






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai