ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชำแหละการบินไทยรับน้องดีดีคนใหม่-TG971 เปิดขยะใต้พรม6ทศวรรษ

ชำแหละบินไทย”รับน้องดีดีใหม่”นอกวงการ
TG971ขยี้ปมเปิดขยะใต้พรม6ทศวรรษ4เรื่อง
คิงเพาเวอร์โชว์จัดไฮไลต์ดีสนีย์6โซน2พ.ย.61
พลังคิงเพาเวอร์เปิดคอลเลคชั่นใหม่INDIGO2
บิ๊กททท.นำทีมเพิ่มทางเลือกใหม่ทัวร์หาด/เกาะ
รัฐสั่งลุยใช้ทุกมาตรการกู้ตลาดอินเตอร์ปลายปี
บางจากเปิดพื้นที่ดึงคู่ค้าร่วมอบรมSME คลีนิก
นายกฯลั่นทอท.เคลียร์ได้อาคาร 2 สุวรรณภูมิ
เที่ยวอ่างทองแหล่งมรดกราชสำนักทำชุดโขน
แพทย์เตือนระวังโฆษณาผลิตภัณฑ์ฟันหลอก
พัทยา/ภูเก็ตเฮบีโอไอหนุน5พันล้านท่องเที่ยว
บางกอกแอร์โค้ดแชร์ดึงฟิลิปปินส์แห่เข้าไทย
แคนทารีปราจีนจัดเมนูจานเด็ดญี่ปุ่น 6-8 พ.ย.

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ชำแหละ “TG 971” กับบทวิเคราะห์เจาะลึกมหกรรมรับน้อง “สุเมธ ดำรงชัยธรรม” ดีดีการบินไทยใหม่นอกองค์กรคนที่ 5 มาแค่เดือนเศษก็เจอแจ๊คพอต ทั้งเที่ยวบินไถลออกนอกรันเวย์ และปรากฎการณ์ “ศึกใหญ่ภายใน" รุมขยายแผลองค์กรเปิด “ขยะใต้พรม 4 เรื่องใหญ่” สาวไส้กันเพลิน ทั้งเรื่องอัพเกรดตั๋ว ลามไปถึงการขาดความแม่นยำในกฎของบริษัท ผลประกอบการติดหล่มขาดทุนยับเกือบ 10 ปี สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจถูกวิพากษ์ดำรงตำแหน่งแบบสิ้นสภาพไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2554 เป็นตำนานเรื่องเล่าของสายการบินแห่งชาติตลอด 6 ทศวรรษ เกือบ 60 ปี ที่ยังเกาไม่ถูกที่คันสักรัฐบาล



สายการบินแห่งชาติ “การบินไทย” ต้อนรับน้องใหม่ “สุเมธ ดำรงชัยธรรม” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ DD คนนอก คนที่ 5 ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561

นับจากวันแรก  3 กันยายน 2561 ภารกิจแรกของสุเมธคือ “รื้อแผนฟื้นฟูการจัดซื้อฝูงบินใหม่มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท” ตามคำสั่ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ขีดเส้นต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และให้เวลา 3 เดือน พิสูจน์ฝีมือ

ผ่านไปแค่เดือนเศษ “สุเมธ” ก็เจอศึกรับน้อง 2 เหตุการณ์ใหญ่ เริ่มจากวันที่ 8 ตุลาคม 2561 เครื่องการบินไทยโบอิ้ง 747-400 TG 679 จากกวางโจว ไถลออกนอกรันเวย์สุวรรณภูมิ ต้องใช้เวลากู้กันอยู่นานค่อนวันทำให้การจราจรติดขัดกว่า 400 เที่ยวบิน

อีก 3 วันต่อมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 นายสุเมธเจอเหตุการณ์ที่ 2 “กัปตันการบินไทยถูกร้องเรียน” ในเที่ยวบิน TG 971 ซูริก-กรุงเทพฯ ออกเดินทางล่าช้ากว่าเวลาปกติ 2 ชั่วโมงเศษ ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำกว่า 300 ชีวิต เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน

ปรากฎการณ์ “น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่เกิดขึ้นจาก “การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน” ในการจัดการที่นั่งโดยสารของสายการบินแห่งชาติ ซึ่งเปิดบริการมาเกือบครบ 60 ปี สะท้อนให้เห็น “แผลลึกและขยะใต้พรม” ที่ถูกกระพือรื้อขึ้นมาตีแผ่สู่สาธารณะอีกครั้งว่าตลอด 6 ทศวรรษ  ปัญหายังคงย่ำอยู่กับที่ โดยแทบไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี

ทันทีที่ “นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม” ดีดีนอกองค์กร คนที่ 5 ลงนามสัญญารับค่าจ้างเดือนละ 6 แสนบาท (น้อยสุดในบรรดาดีดีคนอกที่ผ่านมา 4 คน) ก็ถูกจับจ้องว่าจะมีพลังมากพอหรือไม่ ที่จะโชว์ศักยภาพในเวลาอันรวดเร็วเพื่อครองใจทำให้เกิดการยอมรับจากพนักงานการบินไทย องค์กรที่มีวัฒนธรรมสืบทอดจากรุ่นก่อตั้งมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน

ปมนี้จึงเป็นความท้าทายภายในองค์กร เพราะแต่ละฝ่ายพร้อมแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ได้ชนิดเหนือความคาดหมาย เฉกเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับดีดีคนนอกทั้ง 4 คน ล้วนแล้วแต่ฝีมือระดับพระกาฬ แต่ก็จบชีวิตการทำงานในองค์กรนี้แบบไม่สวยสักราย

ประเดิมคนแรก “นายกนก อภิรดี” นักการตลาดมือดีของรัฐบาลยุคนั้น ไฟเขียวให้เข้ามาเป็นดีดีเมื่อปี 2545 ในยุค ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ สมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร แต่กนกก็โดนบอกเลิกจ้างในปี 2548 ก่อนสัญญาจ้างจะสิ้นสุดเพียงไม่กี่เดือน

คนที่ 2 “นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์” นักบริหารมีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของเมืองไทย เข้ามาปี 2552 โดนบอกเลิกจ้างปี 2555 ด้วยเหตุผลแปลก ๆ คือ ไม่สามารถสื่อสารกับคณะกรรมการและผู้บริหาร ทำให้การทำงานการบินไทยไม่เป็นเอกภาพ

คนที่ 3 “นายสรจักร เกษมสุวรรณ” ข้ามห้วยจากสื่อชั้นนำที่มีชื่อเสียง มานั่งเก้าอี้ดีดีได้ไม่ถึงปี โดยเข้าทำหน้าปี 2555 แต่ก็ต้องมีเขียนลาออกเองช่วงปี 2556 โดยระบุเหตุผลเรื่องปัญหาสุขภาพ เพราะระหว่างนั้นโดนแรงกดดันหนักจากภายในองค์กร

คนที่ 4 “นายจรัมพร โชติกเสถียร” เข้ามาเมื่อพฤศจิกายน 2557 พ้นวาระไปเมื่อกุมภาพันธ์ 2560 ตอนเดินเข้าการบินไทยพกความมั่นใจ ในฐานะนักบริหารตลาดทุนมือหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการเรียกค่าจ้างประมาณเดือนละ 1.5 ล้านบาท สูงสุดในบรรดาดีดีการบินไทยทั้งหมด แต่สุดท้ายจบออกไปแบบค้านสายตาคนส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะไม่ได้ฝากผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันตลอดการเข้าบริหารแล้ว ตอนพ้นเก้าอี้ดีดียังทิ้งภาระขาดทุนต่อเนื่องไว้สูงเป็นประวัติการณ์หลักหมื่นล้านบาท

คนที่ 5  “นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม” เข้ามารับตำแหน่งดีดี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561  ผ่านชนิดเลือดตาแทบกระเด็นเนื่องจากผลการสรรหาสิ้นสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมแต่ต้องรอถึงกันยายนจึงเข้ารับหน้าที่ได้

นายสุเมธเป็นดีดีคนนอที่ทำงานเพียงเดือนเศษเดียวก็โดนรับน้อง 2 เหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งสามารถจุดกระแสสังคมติดอย่างรวดเร็ว เรื่องแรกอุบัติเหตุ เครื่องบิน TG 679 วันที่ 3 ตุลาคม 2561 ไถลออกนอกรันเวย์ เหตุการณ์นี้เคลียร์จบรวดเร็ว เพราะมี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เจ้าของสถานที่เป็นหัวหอกแก้ไขตามมาตรฐานสนามบิน

มาถึงเรื่องที่ 2 TG 971 นักบินการบินไทย 4 ชีวิต ทำให้เที่ยวบินจากซูริกออกล่าช้ากระทบผู้โดยสารทั้งลำ เพียงเพราะขอใช้สิทธิ์ตามสัญญาจ้างนั่งเฟิร์สคลาสจากซูริกกลับกรุงเทพฯ ซึ่งนักบินกลุ่มดังกล่าวถูกสังคมตัดสินไปเรียบร้อยแล้วว่า “มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม” และเป็นชนวนทำให้ “ภาพลักษณ์การบินไทย” ย่ำแย่ลง

แม้เหตุการณ์เที่ยวบิน TG 971  ถูกขีดเส้นตายการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องให้จบในวันที่ 26 ตุลาคม 2561 แต่ส่วนใหญ่ก็รู้ผลมาตั้งแต่ต้นว่าคงเป็นไปได้ยากที่จะสั่งลงโทษนักบินซึ่งทำตามสัญญาจ้างทุกประการ

แต่ทว่าสิ่งที่ปรากฏชัดก็คือ TG 971 คือ “บทเรียนราคาแพง” ของดีดีคนนอกอย่างนายสุเมธ ด้วยเพราะเรื่องนี้คือชนวนเปิด “แผลใหญ่การบินไทย” ให้สังคมเห็น “ปัญหาเรื้อรังที่ฝังลึกอยู่ในองค์กร” ตลอดเกือบ 60 ปี หรือผ่านมาแล้วเกือบ 6 ทศวรรษ ทุกปัญหาทั้งเก่าและใหม่ยังไม่ได้ถูกแก้ไขให้เป็น “สายการบินแห่งชาติ 4.0-รักคุณเท่าฟ้า” ตามคำโฆษณาอย่างแท้จริง ดังนั้นไส้ขดใหญ่จึงถูกสาวสู่สาธารณะอีกครั้งถึง 4 เรื่องสำคัญ

1.เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สังคมรู้ว่า “ระบบคู่มือปฏิบัติงาน” ของพนักงานที่รับผิดชอบตามสถานีการบินต่างประเทศ มีรูรั่วจนก่อให้เกิดปัญหาบานปลายใหญ่โตได้ โดยเฉพาะเรื่องคาใจคนในสังคมกรณี “Up Grade ที่นั่งผู้โดยสาร” คือ “แผลเป็น” ที่พร้อมจะฟื้นภาพจำในใจคนไทย แถมการอัพเกรดชั้นเฟิร์สคลาสครั้งนี้ ผู้ใช้บริการออกมายืนยันว่าไม่ได้ร้องขอแต่พนักงานตัดสินใจเปลี่ยนให้เอง ประการสำคัญดันไปกระทบสิทธินักบินของบริษัทซึ่งมีระเบียบปฏิบัติระบุไว้ชัดเจน แถมยังทำให้นักบินการบินไทยต้องตกเป็น “จำเลยสังคม”

2.เหตุการณ์ครั้งนี้มี “นักบินบางกลุ่ม” ฉวยจังหวะเรียกร้องฝ่ายบริหารให้ทบทวน “การขึ้นเงินเดือนนักบิน” เพื่อป้องกันสมองไหล ซึ่งเรื่องแบบเคยมีหลายยุคสมัย แต่จะกลายเป็นประเด็นต่อเนื่องใหญ่ขนาดไหนต้องรอดูกันต่อไป อีกทั้งเมื่อสมาคมนักบินไทยออกมาย้ำว่าหากถอยให้ถูกกระทำมากไปกว่านี้ ต่อไปนักบินการบินไทยอาจจะไม่มีที่ยืนนั้น ถูกตีความไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าต้องการส่งสัญญาณอะไร ?

3.เหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อ “สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย” ออกมาแสดงความเห็นว่านักบินกลุ่มดังกล่าวแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็ทำให้คนการบินไทยด้วยกันเอง ขุดคุ้ยสถานะของ “กรรมการสหภาพ” ชุดปัจจุบัน ล้วนเป็นบุคคลที่ “สิ้นสภาพทางกฎหมาย” มานานแล้ว เนื่องจากเป็นกรรมการที่อยู่ได้ด้วยการอ้างสิทธิตามข้อบังคับเพื่อ “รักษาการสหภาพแรงงาน” มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน โดยไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้เลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ตามระบอบประชาธิปไตย

4.เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ “เกิดการขุดคุ้ยผลการดำเนินงานการบินไทยขาดทุนยับ” ต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี ตอกย้ำถึงสถานะตอนนี้สายการบินแห่งชาติยังยืนอยู่บนปากเหว เพราะตัวเลขขาดทุนที่ปรากฏยังบานทะโล่

ตามที่การบินไทยระบุผลขาดทุนไตรมาส 2 ปี 2561 จาก 4 ปัจจัยเดิม ๆ ได้แก่ 1.ต้นทุนค่าน้ำมันเครื่องบินสูงขึ้น 2.ค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ 3.ค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน และ 4.อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในการค้า อีกตัวแปรที่การบินไทยอ้างอิงขาดทุน หรือ กำไร มาตลอด

หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างปี 2561 กับ 2560 มีดังนี้

ปี 2561 ค่าน้ำมัน 14,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,873 ล้านบาท (15.3%) ปี 2560 อยู่ที่ 12,279 ล้านบาท

ปี 2561 ค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ 3,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,023 ล้านบาท (8.3%) ปี 2560 อยู่ที่ 2,673 ล้านบาท

ปี 2561 ค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน 4,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 370 ล้านบาท (8.1%) ปี 2560 อยู่ที่ 4,544 ล้านบาท

รวมแล้วปี 2561 การบินไทยมีค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาสที่ 2 อยู่ 50,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,022 ล้านบาท (6.4%) มากกว่าปี 2560 อยู่ที่ 47,024 ล้านบาท

เมื่อผลัดเปลี่ยน “ดีดีคนใหม่” จากนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว บุคลากรภายในซึ่งได้รับแต่งตั้งรักษาการดีดีปีเศษ เกษียนอายุ แล้วเปิดทางให้ “นายสุเมธ ดำรงชัยกุล” เข้ารับตำแหน่งวันที่สอง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ในรัฐบาล คสช.ก็แวะมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายชุดใหญ่ ประกาศกลางห้องออดิทอเรียมต่อหน้าพนักงานนับพันคน ให้ดีดีคนใหม่ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการดึงพลังจากพนักงานเลือดสีม่วงทุกคนเข้ามาไว้ในอ้อมใจ เพราะต้องอาศัยความสามารถจากทุกคนสายการบินแห่งชาติจึงประสบความสำเร็จได้

ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2561 รัฐบาลฝากความหวังไว้กับ “นายสุเมธ” ดีดีมือใหม่การบินไทย มอบให้ลุยแก้ไขแผนฟื้นฟูฉบับใหม่โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพื่อช่วยกันนำพาการบินไทยออกจากหุบเหวกขาดทุนมายาวนานเกือบทศวรรษให้ได้

แต่สูตรที่นายสุเมธให้สัมภาษณ์เรื่องการทำแผนฟื้นฟูการบินไทยอีก 5-10 ปีหน้า ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเดิม นั่นคือ 1.ใช้เงินเกินแสนล้านบาทซื้อฝูงใหม่ 2.ปรับปรุงเส้นทางบิน 3.เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันกับสายการบินในตลาดโลก

ดังนั้นเมื่อเจอแรงกระเพื่อมจากการรับน้อง 2 เหตุการณ์ข้างต้น “แผลใหญ่การบินไทย” จึงระบมอีกครั้ง โดยเฉพาะ “ปัญหาศึกใหญ่ภายใน” คือภูเขาน้ำแข็งลูกใหญ่ที่ฝังลึกมายาวนาน 4 Big Problem ได้แก่

1.เรื่องระบบการจัดที่นั่งในเที่ยวบินเพื่อบริการผู้โดยสารกระทำอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม จริงหรือไม่ ?

2.เรื่องผู้นำที่มาจากคนนอกองค์กร จะบริหารจัดการความพึงพอใจของพนักงานด้วยกันเอง แล้วลดความขัดแย้งแต่ละฝ่ายลงได้จริงหรือ ปัญหานี้ยากแสนสาหัส ที่สำคัญไม่มีสูตรสำเร็จในการบินไทยซึ่งเป็นเช่นนี้มาทุกยุคสมัย

3.เรื่องพลังร่วมจะหาจากตรงไหนเข้ามาขับเคลื่อนเพื่อให้ “รายได้ขยับเป็นบวก” และ “รายจ่ายลดลง”

4.เรื่องแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ หลัง ดร.สมคิด ขีดเส้นตายให้แก้ไข ไม่ว่าจะลงเอยแบบไหนการบินไทยก็ตกเป็นจำเลยสังคม เพราะหลายยุคที่ผ่านมาพอเสียงปี่กลอง “การเลือกตั้ง” รัวรัวครั้งใด การบินไทยก็มักมีเหตุต้องใช้เงินมหาศาลจัดซื้อฝูงบินใหม่ กระแสทั้งสังคมจึงมักจ้องจับตาเป็นพิเศษว่า ซื้อเพื่อชาติหรือ...เพื่อใคร ?

อีกทั้งคำอธิบายของ “นายสุเมธ” ที่เข้ามาเพียงไม่กี่วัน จะมีพลัง มีมนต์ขลัง มีน้ำหนักมาก เพียงพอ จะทำให้คนการบินไทยและทั้งสังคมเปลี่ยนใจไปเชื่อความจริงที่ว่าสายการบินแห่งชาติทำตามหลักธรรมาภิบาลเป๊ะทุกประการได้จริง ๆ หรือ ?

ภายใต้โลโก้ “ดอกจำปี” บนสัญลักษณ์ “สีม่วง” ของ “การบินไทย” คือตำนานเรื่องเล่าที่อยู่กับคนไทยในเชิงลบมายาวนาน เหตุเพราะ “การสื่อสารสู่สาธารณะ” ของสายการบินแห่งชาติ ทุกยุคมีปัญหาขั้นรุนแรง จนกลายเป็นดีเอ็นเอที่นำพาองค์กรเข้าสู่วงโคจรความวิกฤตศรัทธา จมดิ่งลงใต้เหวลึก ทั้ง ๆ ที่มีของดีอยู่มากมายแต่นำเสนอสู่สาธารณะไม่ถูกทาง

ยิ่ง “นายสุเมธ” ผู้นำเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาโดยติดกระดุมเม็ดแรกพลาดตั้งแต่เริ่ม ตอบความจริงได้ไม่โดน จนอาจนำไปสู่การขาดความน่าเชื่อถือ ก็ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเรื่องใหญ่กว่านี้ดีดีคนใหม่จะนำพาองค์กรไปรอดได้อย่างไร ?

ถึงเวลาที่ “รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ต้องผ่าทางตันการบินไทยแบบจริงจัง สังคมไทยยังมีมืออาชีพอยู่จริง เพียงแต่ต้องค้นหาให้เจอแล้วใช้งานให้ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่  1 คิงเพาเวอร์ชวนเที่ยวดีสนีย์แลนด์รางน้ำ6โซน2พ.ย.นี้”

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ในการจับมือกับ บริษัท เดอะ วอลท์ ดีสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำโครงการ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดีสนีย์ เอนด์เลส เซเลเบรชั่นส์” (King Power and Disney’s Endless Celebrations) เทศกาลความหมัศจรรย์ไม่มีที่สิ้นสุด รวม 88 วัน ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 – 27 มกราคม 2562 ณ ดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์  เพื่อสร้างปรากฎการณ์ใหม่ขึ้นในวงการร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวของไทยให้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติ โดยเฉพาะการปลุกกระแสนักท่องเที่ยวจีนที่กำลังลดลงให้หันกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้งอย่างคึกคักนั้น

ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป จะได้เนรมิตพื้นที่ภายในงานให้ชมกันอย่างจุใจ แบ่งเป็น 6 โซน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 “เซเลเบรชั่น เอ็กซ์เพรส” ออกแบบสร้างรถไฟมหาสนุกที่มีหน้าต่างเป็นรูปมิคกี้ เม้าส์ ซึ่งเหมาะใช้เป็นฉากหลังในการถ่ายภาพ ภายในรถไฟจำลองเหมือนของจริง แต่หน้าต่างจะเป็นจอที่มีภาพทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามในรูปแบบกราฟฟิคอนิเมชั่น เมื่อขึ้นไปบนรถไฟจะรู้สึกราวกับว่ารถไฟกำลังเคลื่อนไหวอยู่จริงๆ เพื่อเดินทางไปสู่ “มิคกี้ แอนด์ เฟรนด์ส บูเลอวาร์ด”

โซนที่ 2 “การ์เด้น ออฟ ดรีมส์” เป็นสวนกลางถนนรางน้ำที่ตกแต่งในธีมมิคกี้ เม้าส์แห่งแรกในประเทศไทย สวนนี้เปรียบเสมือนดินแดนแห่งความฝัน ที่ละลานตาไปด้วยดอกไม้จริงที่มีสีสันสวยงาม มีจุดสำหรับถ่ายรูปพร้อมตัวการ์ตูนต่างๆ มากมาย ที่มอบโอกาสให้เด็กๆ สามารถสนุกสนานกับเพื่อนใหม่ได้อย่างเต็มที่

โซนที่ 3 “มิคกี้ แอนด์ เฟรนด์ส บูเลอวาร์ด” ได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศเหมือนย่านการค้า ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยการตกแต่งของอาคารทั้งสองฝั่งถนนได้รับแรงบันดาลใจจากตัวการ์ตูนดิสนีย์ในท่าทางต่างๆ ทั้งมิคกี้ เม้าส์ มินนี่ เม้าส์ พลูโต กู๊ฟฟี่ โดนัลด์ ดั๊ก เดซี่ ดั๊ก และชิปแอนด์เดล อีกทั้งยังมีเกมและเวิร์คช็อปสำหรับแฟนๆ ทุกเพศทุกวัย รวมถึงไฮไลท์ในตอนเย็น คือขบวนพาเหรดของเหล่าการ์ตูนดีสนีย์ตัวโปรดที่จะสร้างทั้งความสุข และความประทับใจให้กับทุกคน

โซนที่ 4 “มิคกี้ ฮอลล์เวย์” คือผนังอินเตอร์แอคทีฟขนาดยาว ที่จะมีการแสดงภาพกราฟิกน่ารักๆ และจอเล่นเกม โดยเกมจะเปลี่ยนไปตามธีมของแต่ละเดือน

โซนที่ 5  “เมกาสโตร์” พบกับสินค้าลิขสิทธิ์คอลเลกชั่นพิเศษจากดีสนีย์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ประกอบด้วยสินค้าสำหรับทุกคนในครอบครัว อาทิ เสื้อผ้า ของเล่น ที่หุ้มกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าสะพาย พวงกุญแจ และเครื่องใช้ต่าง ๆ จะวางจำหน่ายในช่วงการเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของ มิคกี้ เม้าส์ และเป็นครั้งแรกกับสินค้ามิคกี้ เม้าส์คอลเลคชั่น ‘สวัสดี’ มีให้เลือกได้อย่างครบครัน

โซนที่ 6 “มิคกี้ แกลเลอรี่” นิทรรศการศิลปะสุดแนวในชื่อ “ขอต้อนรับมิคกี้สู่ประเทศไทย” ที่สร้างสรรค์ลวดลายบนหุ่นโมเดล มิคกี้ เม้าส์ โดยศิลปินชาวไทย และนักแสดงระดับแถวหน้า พร้อมเหล่าคนดังมากมายเพื่อฉลองครบรอบ 90 ปีมิคกี้ เม้าส์


ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ชูครามชุมชนINDIGO2บุกตลาดโลก16พ.ย.”

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการนำผลิตภัณฑ์ผ้าชุมชนมาออกแบบสินค้าวางจำหน่ายในสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ภายใต้ชื่อ INDIGO คอลเลคชั่นแรก เมื่อกลางปี 2561 ได้เปิดตัวที่อังกฤษ คิง เพาเวอร์ จากนั้นต่อยอดพัฒนาคอลเลคชั่น 2  ทำ INDIGO II ภายใต้แนวคิด ‘Nature is More’ ร่วมกับชุมชนบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร ทีมครูช่างศิลปหัตถกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ โดยเพิ่มลูกเล่นพร้อมเติมความสนุกการมิกซ์แอนด์แมทช์นำโทนสีครามมาเล่น มัดให้เป็นลายทางและใส่เทคนิคการไล่สี

โดยยังคงคุณสมบัติเด่นของผ้าสีย้อมครามไว้ ได้แก่ เป็นสีธรรมชาติ 100%  เนื้อนุ่ม ระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย ใช้ได้หลากหลายโอกาส ทุกชิ้นผ่านการย้อมด้วยมือแบบดั้งเดิม คือ ม้วน มัด และจุ่มในสีจนเกิดเป็นลวดลายเอกลักษณ์ที่งดงาม ประณีต และมีเสน่ห์เฉพาะตัว

ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป คอลเลคชั่นใหม่ INDIGO II จะนำมาวางจำหน่ายในร้านค้า คิง เพาเวอร์ สาขาในเมืองทั้ง รางน้ำ  พัทยา (ยกเว้นแจ็กเกต และเสื้อสเวเตอร์)  ศรีวารี ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ มหานคร (ยกเว้นลูกฟุตบอลผ้า) รวมทั้งภายในสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ ภูเก็ต และในอังกฤษที่ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์  (ยกเว้นแจ็กเกต, ผ้าพันคอ และหมวกแก๊ป)

 โดยจะมีให้เลือกกว่า 5 หมวด ได้แก่ 1.หมวดเสื้อแฟชั่น เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น เสื้อสเวตเตอร์ เสื้อโปโลแขนสั้น แจ็กเก็ต แจ็กเก็ตแบบมีหมวก 2.ผ้าพันคอ 3.หมวกแก๊ป 4.กระเป๋า ถใหมอนอิง และ 5.ลูกฟุตบอลผ้า โดยมีทีมนักออกแบบจาก LCFC อังกฤษ เข้าช่วยทำให้สินค้าโดดเด่นมากขึ้นเพิ่มคุณภาพการดีไซน์อย่างทัดเทียมระดับโลก แต่จำหน่ายในราคาเพียงชิ้นละ 690 – 2,190 บาท

การจัดทำคอลเลคชั่น Indigo นั้น เป็นหนึ่งในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เพื่อสนับสนุนชุมชน ของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์  กับชุมชนบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร นำสินค้าไทยก้าวไทยตอบโจทก์ตลาดต่างประเทศทั่วโลก

ข่าวที่ 3 “ททท.เพิ่มทางเลือกใหม่ทัวร์อ่าวมาหยา-สิมิลัน”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า พร้อมเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) ซึ่งทรัพยากรการท่องเที่ยวเป็นของทุกคนที่จะต้องให้ความสำคัญโดยช่วยกันดูแลอย่างเต็มที่ จึงได้นำผู้บริหาร ทีมพนักงานด้านสื่อสารการตลาด และตลาดในประเทศ ททท.ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่และพังงา ประกาศจุดยืนโครงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบในปีงบประมาณ 2562

โดยวางกลยุทธ์เร่งประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวที่มีมากกว่า อ่าวมาหยาซึ่งต้องปิดพักฟื้น หรือหมู่เกาะสิมิลัน ได้ออกมาตรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปในแต่ละวัน แต่ยังมีทางเลือกเที่ยวเกาะและหาดใกล้เคียงอ่าวมาหยาเที่ยวได้ตามปกติ เช่น อ่าวโละซามะ อ่าวโละปิเละ อ่าววังหลัง อ่าวนุ้ย อ่าวลิง อ่าวแหลมตม เกาะไม้ไผ่ เขาหงอนนาค ส่วนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ททท. จะประชาสัมพันธ์เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและกิจกรรมใกล้เคียงกัน เช่น เกาะงวงช้าง หรือเกาะอื่น เช่น หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะพระทอง

ขณะเดียวกันก็ให้เร่งประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากส่วนที่ไม่อยู่ในบริเวณที่ประกาศ เช่น อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี มีพื้นที่ถึง 242,437.17 ไร่

ทั้งนี้ ททท.จะทำประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ได้รับความนิยม โดยมุ่งเน้นทำโครงการณรงค์ให้นักท่องเที่ยวลดการสร้างขยะ หรือลดเลิกใช้พลาสติกอย่างจริงจัง แล้วหันมาใช้อุปกรณ์ทดแทน เช่น ถุงผ้า  ขวดน้ำพกพา กล่องข้าวพกพา หลอดดูดน้ำจากวัสดุธรรมชาติ ผ้าเช็ดหน้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในปี 2563 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศจะต้องลดขยะพลาสติกลงให้ได้ถึง 50 % เบื้องต้นชุมชนตามเกาะต่าง ๆ ในฝั่งทะเลอันดามันให้ความร่วมมือเรื่องนี้เป็นอย่างดี

ข่าวที่ 4 “ททท.-ก.ท่องเที่ยวงัดทุกมาตรการกู้ตลาดโลกพ.ย.-ธ.ค.นี้”

ผู้สื่อข่าวรายงาน ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2561 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ให้ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าหารือพร้อมทั้งสั่งการให้เร่งระดมทำกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบแรง ๆ กระตุ้นรายได้ช่วงปลายปีซึ่งยังมีเวลาอีก 2 เดือน ช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561

ต่อเนื่องจากโครงการ 4 พันธมิตร ที่เพิ่งทำแคมเปญ “ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน” ร่วมกัน 4 องค์กร คือ ททท.-การบินไทย-ไทยสไมล์-ธนาคารกรุงไทย โดยได้ทำแพกเกจราคาพิเศษออกขายตลาดในประเทศผ่านทัวร์เอื้องหลวง การบินไทย 20 เส้นทาง 10 จุดบิน เพิ่มจำนวนและรายได้ท่องเที่ยวกระจายเข้าสู่ 55 เมืองรอง ระหว่าง 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2561

อีกทั้งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2561 กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬายังได้เสนอต่อที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการด้านวีซ่าเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 เสนอยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ให้จีนและต่างชาติ 21 ประเทศ ระยะสั้น เริ่ม 15 พฤศจิกายน 2561-15 มกราคม 2562 เพื่อปลุกกำลังซื้อจีนเข้ามาเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 เรื่องที่ 2 เสนอมาตรการเปิด Double Entry Visa แก่นักท่องเที่ยวจีน ด้วยการให้จ่ายค่าวีซ่าเดินทางเข้าไทย 1 ครั้ง เพียงคนละ 1,000 บาท  โดยสามารถเข้าออกประเทศไทยภายในเวลา 180 วัน ได้ 2 ครั้ง


ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ  ททท. กล่าวถึงการเข้าพบ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยได้เสนอจับมือกับสมาคมค้าปลีกไทย ทำแคมเปญใหญ่ Passport Sale 2018 ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม 61 โดยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติโชว์พาสปอร์ต ณ ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมโครงการทั้งในกรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวที่กำลังประสบปัญหาตลาดจีนหายไป อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา รับไปเลยทันทีส่วนลดขั้นต่ำในการช็อปปิ้ง 14% เป็นการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % บวกส่วนลด 7% และจัด Top Thailand Brand Sale นำสินค้าไทยยอดนิยมจากชุมชนเมืองรองทั่วประเทศมาร่วมจำหน่าย

ตั้งเป้าใช้แคมเปญ Passport Sale 2018 ดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่อง 1.5 ล้านคน ได้ใช้เงินช็อปปิ้งกับแคมเปญดังกล่าวเพิ่มขึ้น รวมทั้งการกระตุ้นตลาดในรัศมีการบินไม่เกิน 6 ชั่วโมง เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นตลอด 2 เดือนนี้ด้วยเช่นกัน

ข่าวที่ 5 “บางจากเปิดอบรม SME คลีนิก15พ.ย.61”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เข้าร่วมโครงการอบรม SME Clinic เพื่อทำระบบป้องกันการจ่ายสินบนตามแบบประเมินตนเองในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ IOD Member Space ชั้น 5 เกสรพลาซ่า

ตามที่บางจากฯ มีนโยบายจะส่งเสริมและสนับสนุนให้คู่ค้าของบริษัทฯ เข้าเป็นแนวร่วมและเป็นสมาชิกที่ได้รับการรับรองของ โครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC – Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption) โดยพร้อมจะสนับสนุนให้คู่ค้าเป็นสมาชิกที่ได้รับการรับรองของ CAC ตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บางจาก โดยกลุ่มเอสเอ็มอีจะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานและจะต้องปฏิบัติตามช่องทางการสมัครอย่างถูกวิธี เบื้องต้นสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการลงทะเบียนได้ที่  http://www.thai-iod.com/th/seminar-events-detail.asp?id=519

ข่าวที่ 6 “นายกฯสั่งทอท.เคลียร์ปมเทอร์มินอล2สุวรรณภูมิเอง”

จากกระแสความแรงต่อเนื่องที่มีต่อโครงการ ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ให้กระทรวงคมนาคม กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชนป “ทอท.” เดินหน้าดำเนินการไปตามกฎหมายอย่างโปร่งใส ถูกต้องและเป็นธรรม โดยให้ตรวจสอบเร่งรัดให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้นายกรัฐมนตรีลงไปสั่งการทุกเรื่อง

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ได้ทำอย่างเต็มที่เพื่อให้การก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 โปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนการประมูล ประการสำคัญคือความจำเป็นของประเทศที่จะต้องขยายพื้นที่รองรับนักเดินทางเข้าออกประเทศให้ทันต่อการเติบโตซึ่งปี 2561 สุวรรณภูมิต้องให้บริการคนเข้าออกมากกว่า 60 ล้านคน เกินขีดความสามารถที่มีเพียงปีละ 45 ล้านคน

สำหรับประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ นั้น ทอท.และฝ่ายที่เกี่ยวข้องพร้อมจะอธิบายอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเดินหน้าการลงทุนตามแผนแม่บทนั้นทุกฝ่ายได้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ทอท.ยังเตรียมเจรจากับกรมธนารักษ์เรื่องการปรับอัตราค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์จากที่ราชพัสดุในสนามบิน ทอท.ต่างจังหวัด 5 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต แม่ฟ้าหลวงเชียงราย หาดใหญ่ และในกรุงเทพฯ ที่ดอนเมือง หลังจากปีนี้จ่ายเงินรวมให้กรมธนารักษ์ไปประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าน้อยกว่าสุวรรณภูมิ เพราะสนามบินต่างจังหวัดจะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์น้อยกว่านั่นเอง

สำหรับปี 2561 ทอท.ประกาศจ่ายโบนัสพนักงาน อัตราเฉลี่ย 7.75 เดือน

ช่วงที่ 2 ตามไปเที่ยวเมืองรองใกล้กรุงอีกจังหวัด ที่ “อ่างทอง” ศูนย์รวมมรดกราชสำนักแหล่งใหญ่ใน “ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง” แหล่งผลิตชุด “การแสดงโขนพระราชทาน” ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์มาแรงที่ วัดม่วง วัดสังกระต่าย จากนั้นฟังหมอฟันเตือนเรื่องการดูโฆษณาชวนเชื่อให้ซื้อผลิตภัณฑ์ทันตกรรมต่าง ๆ ต้องระวังถูกหลอก และสีสันข่าวส่งท้ายสัปดาห์ “พัทยา-ภูเก็ต” 5 โปรเจ็กต์ท่องเที่ยวเฮรับบีโอไอให้การส่งเสริมอีกกว่า 5,000 ล้านบาท “บางกอกแอร์” โค้ดแชรป์ฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ส ขายตั๋วกระหึ่มไทย “แคนทารี โคราช” ชวนไปชิมเทศกาลอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัด

@เที่ยวศิลปาชีพสีบัวทองศูนย์รวมมรกดกราชสำนักอ่างทอง

การท่องเที่ยวใกล้กรุง ในเมืองรองขับรถเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ไป “อ่างทอง” ไปสัมผัสประสบการณ์มุมใหม่ของเมืองศูนย์ช่างฝีมือดีของเมืองไทย ที่มีผู้สืบทอดงานศิลปะตามแบบราชสำนักให้คงอยู่เป็นมรดกไทยมาอย่างยาวนาน

ประสบการณ์ความลึกซึ้งทั้งหมดนี้สามารถไปชมได้ที่ “ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง” อันเป็นจุดเริ่มที่อยู่เบื้องหลังความงดงามของ “การแสดงโขนพระราชทาน” ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ด้วยเพราะศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองคือแหล่งผลิตที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นทุกรายละเอียดของ กรรมวิธีการสร้างชุดที่ใช้ในการแสดงโขนพระราชทาน อันเป็นงานศิลปะโบราณจากราชสำนัก ซึ่งมีทั้งผ้ายกทอง หัวโขน กระดาษข่อยโบราณ และทำเครื่องเคลือบเซรามิก

ภายในบริเวณรอบโครงการฟาร์มเกษตรตัวอย่างตามพระราชดำริ ปลูกพืชเชิงการเกษตรแบบไทย ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวได้เห็นถึงความประณีตของงานหัตถกรรม การทำเกษตรอนุรักษ์ ให้ความรู้วิถีไทยแบบครบวงจรในอีกมุมได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันจังหวัดอ่างทองก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อย่าง “วัดม่วง” ตอนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ไปแล้วที่ผู้คนจะพากันไปขอพรจาก “พระพุทธมหานวมินทร ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” นับเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก องค์พระสีทองตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้งโดยมีปลายพระหัตถ์ทั้งสองมีนิ้วเรียวงามทอดลงมา เชื่อกันว่าหากผู้ใดได้สัมผัสปลายพระหัตถ์แม้เพียงนิดเดียวก็จะทำให้ก้าวหน้าเติบโตทางการงาน แต่ละวันจึงมีนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติแวะเวียนกันไปแตะปลายพระหัตถ์กันไม่ขาดสาย

จากนั้นก็จะไป “วัดขุนอินทรประมูล” เพื่อสักการะพระนอนองค์ใหญ่อันดับ 2 ของเมืองไทย อยู่ในวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยสุโขทัย องค์พระนอน โดยมีพระพักตร์ยิ้มอย่างงดงาม สงบเยือกเย็น สร้างความศรัทธาแก่ผู้คนเข้ามากราบไหว้บูชา

อีกแห่งเป็น “วัดสังกระต่าย” ได้รับการกล่าวขานเป็นอันซีน ไทยแลนด์ ด้วยมีโบสถ์เก่ารายล้อมต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ทั้ง 4 ทิศ ภาในโบสต์มีพระประทานองค์ขนาดใหญ่ให้สักการะท่ามกลางความร่มเย็นของต้นโพธิ์ดังกล่าว

เที่ยวไทยต้องไปให้รู้ เที่ยวได้ทุกที่ และเท่ได้ทุกเวลา

@แพทย์เตือนระวังถูกโฆษณาหลอกให้ซื้อผลิตภัณฑ์โรคฟัน

กรมอนามัย ได้แจ้งให้แต่ละจังหวัด เตือนประชาชนในพื้นที่ให้ระวังการโฆษณาชวนเชื่อเกินความจริง  เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทันตกรรมหรือโรคฟันต่าง ๆ  เนื่องจากปัจจุบันมีสื่อที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทันตสุขภาพขายอยู่บนโลกออนไลน์จำนวนมาก เช่น น้ำยาบ้วนปากสลายหินปูน ยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาว หรือยาสีฟันที่เติมเต็มเนื้อฟันที่ผุให้กลับมาเหมือนฟันปกติ
นำเสนอเป็นโฆษณาโดยมีเนื้อหาข่าวประชาสัมพันธ์ หรือการแอบอ้างบทสัมภาษณ์นักวิชาการ ซึ่งเนื้อหาของผลิตภัณฑ์ทันตสุขภาพบางชนิดโฆษณาเกินจริงและไม่ครบถ้วน หรือให้ความจริงด้านเดียว หลอกลวง เพื่อนำเสนอข้อดีของผลิตภัณฑ์ในการแก้ปัญหาในช่องปากได้อย่างเบ็ดเสร็จ ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาทางทันตกรรม หรือเสียเวลาไปพบทันตแพทย์

สำหรับการรักษาที่ถูกต้อง สำหรับโรคในช่องปาก ประชาชนจะต้องได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ เพราะปัญหาที่พบส่วนใหญ่ คือ โรคฟันผุ ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด เชื้อโรคจะสะสมรวมกันกับเศษอาหารที่ตกค้างในช่องปาก เกิดเป็นแผ่นฟิล์มเหนียวๆ เกาะผิวฟันที่เรียกว่าคราบจุลินทรีย์ เชื้อโรคในคราบจุลินทรีย์เหล่านี้จะผลิตกรดออกมาย่อยสลายแร่ธาตุบนผิวฟัน ทำให้เกิดรูที่เรียกว่าฟันผุ ซึ่งจะค่อยๆ ลุกลามจากผิวฟันด้านนอกสู่ชั้นโพรงประสาทฟันได้ หากไม่มีการกำจัด เนื้อฟันที่ผุออก และรับการอุดฟันโดยทันตแพทย์ ซึ่งการแปรงฟันให้สะอาดมากขึ้นหลังจากเกิดฟันผุแล้ว อาจช่วยลดการลุกลามของฟันผุเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำให้รูผุกลับมาเป็นฟันปกติได้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีสารในผลิตภัณฑ์ทันตสุขภาพตัวใดทดแทนแร่ธาตุในเนื้อฟันธรรมชาติได้

แล้วยังมีโรคช่องปากที่แพทย์พบบ่อย คือ โรคเหงือกอักเสบ เกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด และการมีหินปูนในช่องปาก อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โรคเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น เนื่องจากหินปูนคราบคือคราบจุลินทรีย์บริเวณ คอฟันที่สะสมรวมกับแร่ธาตุในน้ำลาย มีลักษณะเป็นก้อนแข็งเกาะแน่นกับผิวฟันบริเวณขอบเหงือก ผิวของหินปูนมีลักษณะขรุขระ ทำให้มีการสะสมของเชื้อโรคได้มากขึ้น ซึ่งร่างกายของคนเราจะสร้างปฏิกิริยาต่อต้านเชื้อโรคเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกรุนแรงขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดหินปูนในช่องปากแล้ว การแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปากใดๆ ก็ไม่สามารถกำจัดหินปูนออกไปได้ จำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนออกเท่านั้น

วิธีแปรงฟันอย่างถูกวิธี แนะนำให้ทำแบบ 2-2-2 ได้แก่ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที และไม่รับประทานอาหารและเครื่องดื่มหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง จะเป็นแนวทางการป้องกันปัญหาใน ช่องปากที่ทุกคนสามารถทำได้

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “5โปรเจ็กต์พัทยา-ภูเก็ตเฮบีโอไอส่งเสริมลงทุน5พันล้าน”


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ล่าสุดบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมโครงการใหญ่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีเอกชนนักลงทุนยื่นขอรับการส่งเสริมเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่รวม 5 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.จังหวัด ภูเก็ต 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสวนน้ำวานา นาวา เงินลงทุน 2,430 ล้านบาท กับสวนน้ำของนักธุรกิจจากสหราชอาณาจักร อีก 1,346 ล้านบาท

2.จังหวัดชลบุรี มี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 บริษัท บูรพา สตูดิโอ จำกัด เสนอลงทุนโครงการเมืองจำลองอาณาจักรในประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ วงเงิน 975 ล้านบาท โครงการที่ 2 บริษัท ดอลฟินส์ เบย์ พัทยา จำกัด เสนอทำโครงการจัดแสดงโลมา สิงโตทะเลและแมวน้ำ  170 ล้านบาท โครงการที่ 3บริษัท พาโรดี้ อาร์ท มิวเซียม จำกัด เสนอสร้าง พิพิธภัณฑ์งานศิลปะและประติมากรรม 80 ล้านบาท

นายนฤตม์กล่าวว่าตลอด 10 ปี ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบันบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่รวม 32 โครงการ มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท เช่น สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค สวนน้ำรามายณะ สวนน้ำซานโตรินี่พาร์ค สวนน้ำวานา นาวา สวนน้ำไดโน วอเตอร์พาร์ค จ.ขอนแก่น หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร คิดส์ซาเนีย ไลน์วิลเลจ พิพิธภัณฑ์ภาพวาดสามมิติ อาร์ท อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่และสวนสนุกแหล่งรวมซูเปอร์ฮีโร่ เดอะมาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์ และอื่น ๆ

ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์โค้ดแชร์ฟิลิปปินส์เพิ่มลูกค้ากรุงเทพ/เชียงใหม่”

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า ได้ลงนามข้อตกลงกับฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ส เพื่อให้บริการเที่ยวบินร่วม หรือ codeshare agreement  ผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความสะดวกดึงนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างสะดวกเพิ่มขึ้นระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์

  การทำโค้ดแชร์ครั้งนี้ จะครอบคลุมเส้นทางบิน ระหว่าง กรุงเทพฯ-กรุงมะนิลา และ กรุงมะนิลา-เชียงใหม่ (ต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ) โดยผู้โดยสารบางกอกแอร์เวย์สสามารถเดินทางในเส้นทางบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-กรุงมะนิลา (ฟิลิปินส์) กับเที่ยวบินของฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ และผู้โดยสารจากกรุงมะนิลามากรุงเทพฯ ก็ใช้บางกอกแอร์บินเชื่อมต่อไปยังเชียงใหม่ ระหว่างนี้อยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเที่ยวบินร่วมเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ ในไทยเพิ่มขึ้นด้วย

ข่าวที่สาม “แคนทารีปราจีนจัดเทศกาลญี่ปุ่น6-8พ.ย.นี้”

โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี เปิดห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด ชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัสรสชาติต้นตำรับในเทศกาลอาหารญี่ปุ่น ระหว่าง 6 - 8 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.00 น. - 22.00 น. โดยเชฟมืออาชีพ ได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาปรุงอย่างพิถีพิถันให้ได้อิ่มเอมบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำกับเมนูอร่อยขึ้นชื่อ เช่น  ซูชิ ซาซิมิ เทมปูระ เทริยากิ และอีกหลากหลายเมนู ในราคาสุทธิเพียงคนละ 650 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีลดครึ่งราคา

โทร. 037-239-777 หรือดูรายละเอียดได้ใน www.kantarycollection.com

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai