ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ตะวันออก9จังหสัดลุยขายไฮซีซันส่งท้ายปี62-MoreFun CSRมาแรงปี63-หนาวนี้GoLocalเที่ยวเมืองเลย

ททท.ตะวันออก9จังหวัดลุยขายไฮซีซันส่งท้ายปี62
ปลุกMoreFunCSR3พื้นที่นำร่องเที่ยวยั่งยืนปี’63
ชิมลางจัดมหกรรม”ชื่น-ชม-ชิม”จันทบูร 8-10 พ.ย.
ช้อปDelightsคิงเพาเวอร์ออนไลน์เทลดสุดๆ70%
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์ออนไลน์-31ต.ค.ลด15%
ท่องเที่ยวชงงบปี63ขอ7.3พันล้านลุยพัฒนา6เรื่อง
ททท.ผนึกช้างใช้ป๋องเบียร์ชูแหล่งเที่ยวเจาะอังกฤษ
บางจาก-บีซีพีจีกอดคอคว้ารางวัลผู้นำพลังงานไทย
TCEBโกยคอนเว็นชั่นโลก18งานจัดในไทย5ปีหน้า
หนาวนี้Go Localปีนภูดูธรรมชาติชมวิถีเมืองเลย
เป็นตะคริวกลางคืนรีบบรรเทาอาการได้ด้วย3วิธี
แอร์เอเชียชูแชทบ็อทAVAบริการ24ชม.11ภาษา
AirBNBให้บุรีรัมย์เมืองยอดฮิตอันดับ3โลกปี’63
สุวรรณภูมิปิดซ่อมรันเวย์ยาว150วันเริ่ม8พ.ย.นี้
เรเนซองส์สมุยเทโปรพิเศษห้องพักไฮซีซัน4สไตล์


เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว97 #เที่ยวกับกู๋  #ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์ #ทททตะวันออก #ชื่นชมชิมอาหารถิ่นจันทบูรสมัย2 #ปล่อยปูม้าเขี่ยปะการัง  #GoLocalเมืองเลย #งบท่องเที่ยวปี63

ช่วงที่ 1 เจาะลึก “วิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชำแหละแผนตลาด 6 สำนักงาน 9 จังหวัด ลุยคลิกออฟการขายรับ 3 เดือนแรก “ตุลาคม-ธันวาคม นี้” ช่วงไฮซีซันส่งท้ายปี และเปิดรับรายได้ใหม่ในปีงบประมาณ 2563 ต่อยอดจุดแข็ง “More Fun” ขยายผล Food-อาหารถิ่น Fruit City-มหานครผลไม้ เปิดหน้าหอจดหมายเหตุเมืองจันท์จัดมหกรรมใหญ่ “ชื่น ชม ชิม อาหารถิ่นจันทบูร สมัย 2” วัดพลังท่องเที่ยว 8-10 พ.ย.นี้ พร้อมปลุกกระแสเที่ยวอย่างรับผิดชอบรณรงค์สร้างซัพพลายไซซ์ นำร่อง 3 พื้นที่ “เกาะสีชัง ชลบุรี-เนินฆ้อ ระยอง-อ่างคุ้งกระเบน จันทบุรี”

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทำแผนจากส่วนกลางไปสู่ภาคปฏิบัติการต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2563 ในภาคตะวันออก 6 สำนักงาน (พัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ฉะเชิงเทรา) ดูแลพื้นที่ท่องเที่ยว 9 จังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ วางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวฤดูท่องเที่ยว (Hight Season) ช่วงปีงบประมาณ 3 เดือนแรก แต่ 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ ช่วงระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2562 จะทำกิจกรรมและข้อมูลพร้อมตัวชี้วัดจำนวนกับรายได้ที่หลั่งไหลได้ตามเป้าในแต่ละจังหวัดที่รับผิดชอบ

โดยมีจุดอ่อนที่จะต้องปิดจุดอ่อน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวรองภาคตะวันออก 2.อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นน้อย 3.การท่องเที่ยวช่วงวันหยุดมากกว่าวันธรรมดา จึงวางกลยุทธ์ใหม่ดังนี้ 1.สร้างกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจเพิ่มขึ้น ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเลทางน้ำมีความสวยงาม กิจกรรมจะนำเสนอแฟลกชิปเรื่องอาหารทะเลกับผลไม้จะอยู่ในช่วงมีนาคม-กรกฎาคม จะจัดอีเวนต์อาหาร เดือนตุลาคมนี้ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ วิ่งควาย รับบัวงานออกพรรษา ส่วนเดือนพฤศจิกายนนี้ จะจัดยิ่งใหญ่เปิดให้เข้าฟรีมหกรรม “ชื่น-ชม-ชิม อาหารถิ่นจันทบูร” สมัยที่สอง ระหว่าง 8-10 พฤศจิกายน นี้ โดยวันที่ 10 พฤศจิกายน ตรงกับวันพระราชสมภพพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี โดยเน้นธีมความรักระหว่างรัชกาลที่ 5 กับพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี

รวมทั้งในงาน ชื่น-ชม-ชิม อาหารถิ่นจันทบูร ชูจุดเด่นด้วยเมนูอาหารย้อนยุครัชกาลที่ 5 นำเสนอผ่านภาพจำที่สวยงามผ่านหอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบูร จันทบุรี ซึ่งอาหารมีสถาปัตยกรรมสวยงาม เพียงแค่ตกแต่งบรรยากาศเพิ่มด้านหน้าแล้วนำอาหารย้อนยุค อาหารถิ่น อาหารอร่อย ของจันทบุรี มาวางจำหน่าย เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานตลอด 3 วัน ภายในพื้นที่มีวิถีชุมชนชาวญวน และคนท้องถิ่นผู้นับถือศาสนาคริสต์ 

พิเศษ ในจันทบุรีปลายปีจะมี 2 งาน งานแรก “ชื่น-ชม-ชิม จันทบูร” 8-10 พฤศจิกายน นี้ งานที่สอง ฉลองคริสต์มาส วันที่ 24-25 ธันวาคม 2562 มีโบสถ์งดงาม ชาวคริสต์ในจันทบุรีกับทั้งประเทศไทยมารวมตัวกันทำพิธีสำคัญ

ส่วนกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ในระยอง ตราด ทะเลเริ่มสวย เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก พ้นมรสุมแล้ว สามารถท่องเที่ยวได้ไปพร้อมกับ การวิ่ง ปั่นจักรยาน “นครนายก” จะมีกิจกรรมด้านการกีฬา วิ่งและปั่นบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล กับเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัสดงกาแฟและทุ่งดอกไม้หน้าเขาฉกรรจ์ ตกเย็นก็รอดูค้างคาวนับล้านตัวบินออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพยามอาทิตย์อัสดง เป็นการนำเสนอรูปมุมมองใหม่ ๆ สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ปลายปีอากาศจะดี เอกชนจะเปลี่ยนดอกไม้อย่างสวยงาม ทุ่งปอเทือง ดาวเรือง ดาวกระจาย และไม้เมืองหนาว ในบรรยากาศชีล ๆ ขณะเดียวกันก็มี “กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัย” ที่นครนายกด้วย

สำหรับ “ปราจีนบุรี” จะนำเสนอเมืองสมุนไพร มีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติปราจีนบุรีเปิดหลังปรับปรุงแล้วเสร็จ มีวัตถุโบราณสถานที่น่าสนใจ ส่วน “ฉะเชิงเทรา” เหมาะกับการไปสักการะขอพรศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระพิฆเนศมีทั้งองค์ นั่ง ยืน นอน ครบทุกรูปแบบ เป็นการท่องเที่ยวด้านความศรัทธา รวมทั้งการท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์ ในชุมชนสวนมะพร้าว หรือตลาด 100 ปี บ้านท่าใหม่ หรือ “สมุทรปราการ” ก็มีตลาดน้ำบางผึ้ง หลากหลายด้วยการกินและท่องเที่ยวพักผ่อน

ส่วนกิจกรรมเคาน์ดาวน์จะมีศูนย์กลางการจัดที่ “พัทยา” มีพลุสวยงามยิงขึ้นฟ้าท่ามกลางท้องทะเลสวยงา

นายวิบูลย์กล่าวว่าวางแผนผนึกความร่วมมือกับ สายการบิน สถาบันการเงิน ธนาคาร กลุ่มคอร์ปอเรตบริษัทขนาดใหญ่ เพิ่มกลุ่มใหม่อย่างชุมชนต่าง ๆ หรือ Community Base Tourism :CBT และบริษัทจัดการท่องเที่ยวเพื่อการประชุม หรือ Destination Management Meeting : DMC ช่วยกันโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวชุมชนซึ่งทำต่อเนื่องจากปี 2560-2563 รณรงค์การท่องเที่ยวเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ (CSR) และโดยเฉพาะท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อท้องถิ่นเพื่อสร้างความยั่งยืน เตรียมจัดทำโครงการรองรับในปี 2563 ไฮไลต์ทำกิจกรรมโครงการชวนนักท่องเที่ยวร่วมสร้างซัพพลายไซซ์ “ปล่อยปูคืนสู่ทะเล” หลายพื้นที่ภาคตะวันออกมีความพร้อม เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมบริโภคปูเป็นอาหารจำนวนมาก จึงควรจะหันมาร่วมกันขยายพันธุ์ปูให้สมดุลกับความต้องการบริโภคด้วย จะนำร่องทำ 3 พื้นที่ ได้แก่ 

พื้นที่แรก เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ร่วมกันทำกิจกรรมปล่อยปูม้ากับปลูกเนื้อเยื่อปะการังได้ตลอดทั้งปี จะเชิญชวนไปเยี่ยมวิถีชีวิตบนเกาะ ซึ่งมีพระราชวังจุฑาธุชที่สวยงาม กับอาหารทะเลสดอร่อยตามร้านอาหารท้องถิ่น

พื้นที่ 2 ชุมชนบ้านเนินฆ้อ จังหวัดระยอง ช่วงวันวาเลนไทน์จะจัดกิจกรรมปูดำ-ปูแสม จะปล่อยเป็นคู่ ๆ เพื่อให้ไปขยายพันธุ์ในทะเล หรือช่วงอื่นก็ปล่อยได้เช่นกัน ราคาเพียงตัวละ 39 บาท แล้วก็ยังมีการทำอีแปะสร้างบ้านหอย ทำซั้งเชือกสร้างบ้านปลา 

พื้นที่ 3 อ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีกิจกรรมเหล่านี้จัดต่อเนื่องเป็นประจำอยู่แล้ว

กิจกรรมนำร่องการท่องเที่ยวเพื่อบำเพ็ญประโยชน์สู่ชุมชนทั้ง 3 แห่งจะเป็นต้นแบบขยายไปทำในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย เป็นอีกช่องทางการตลาด ควบคู่กับการเน้นให้นักท่องเที่ยวเล็งเห็นความสำคัญการเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบที่ยั่งยืนระยะยาว
เหมาะจะขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มคอร์ปอเรต นักท่องเที่ยวครอบครัว เดินทางเข้าไปทำกิจกรรมดี ๆ ตลอดทริปได้ในภาคตะวันออก

ขณะเดียวกันการเดินหน้าโครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” จะทำต่อเนื่องด้วยการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มเดินทางประชุมสัมมนาในชุมชน โดยเฉพาะพนักงานบริษัทห้างร้านขนาดใหญ่ และหน่วยงานต่าง ๆ ไฮไลต์จะทำโครงการ “กอล์ฟวันธรรมดา” เชิญชวนท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟข้ามภาค โดยได้หารือกันกับ ททท.ในประเทศครบทั้ง 5 ภูมิภาคแล้ว เพื่อยกระดับแต่ละพื้นที่มีศักยภาพชวนคนไปเล่นกอล์ฟ เลี่ยงการตีกอล์ฟวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยจะใช้ราคาลดพิเศษเป็นแรงจูงใจ เป้าหมายโดยรวมปี 2563 จะเพิ่มสัดส่วนคนเที่ยววันธรรมดาอีก 3-5 %

ภาพรวมในภาคตะวันออกจะชูธีม “More Fun-สีสันความสนุก” ช่วงมีนาคม 2563 เตรียมจัดงานใหญ่แบ่งเป็น 2 ช่วง ต้นเดือนมีนาคม ผู้ประกอบการมาออกบูธกอล์ฟวันธรรมดา ที่ไบเทค บางนา ช่วงปลายเดือนมีนาคมจัด “Food Fruit and Fun Festival” นำอาหารถิ่น ผลไม้จากภาคตะวันออก 9 จังหวัดมานำเสนอตลาดนักท่องเที่ยวกรุงเทพฯ เพราะพอจัดงานเสร็จก็จะเข้าสู่ฤดูเทศกาลท่องเที่ยวสวนผลไม้

นายวิบูลย์ย้ำว่าโจทย์การทำตลาดท่องเที่ยวปี 2563 ค่อนข้างยาก เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับลดงบประมาณปี 2563 ที่จะเริ่มนำเงินเข้ามาใช้ได้แต่ล่าช้าไปเริ่มเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่ภาคตะวันออกทั้ง 6 สำนักงาน 9 จังหวัด ก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มรายได้และนักท่องเที่ยวกระจายลงสู่ท้องถิ่นครบวงจร

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 ช้อปDelightsคิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดสูงสุด70%
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ได้เปิดช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.kinpower.com   โดยให้นักช้อปเข้ามาผูกไลน์ลงทะเบียนสมาชิกแล้วใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าราคาพิเศษกับแคมเปญ Delights & Surprises 2019 ระหว่างวันนี้ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2562
ซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอาง น้ำหอม ที่เข้าร่วมรายการมีราคาเซอร์ไพรส์เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท ลดสูงสุด 20 % พร้อมส่วนลด on top 10 % เมื่อช้อปครบ 50,000 บาท และ on top 5 % เมื่อช้อปครบ 20,000 บาท
สำหรับในหมวด Home Delivery ให้ส่วนลดมากสุดถึง 70 % โดยไม่ต้องใส่รหัส

โดยจะให้แก่ผู้ที่เข้ามาผูกบัญชีออนไลน์กับบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์ เพื่อรับสิทธิพิเศษเหนือกว่าใคร ได้ครบ 3 สิทธิประโยชน์ ดังนี้ 1.รับหรือแลกใช้กะรัตสะสม 2.ส่วนลดพิเศษตามหน้าบัตร 3.สิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามโปรโมชั่น แต่ละสัปดาห์ไม่ซ้ำกัน โดยเฉพาะสิทธิพิเศษรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18 % จากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา ซิตี้แบงก์ เจซีบี ธนชาติ เคทีซี Sim2Fly และ AIG100
ส่วนขั้นตอนการผูกบัญชีออนไลน์กับบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ 1.เข้าเว็บไซต์ www.kingpower.com หรือ Kingpower Application 2.คลิกผูกบัญชีออนไลน์ 3.เลือกซื้อสินค้าผ่านช้อปออนไลน์เพื่อรับหรือแลกใช้กะรัตได้ทันที

ข่าวที่ 2 “สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์ออนไลน์ถึง31ต.ค.ลดเลย15% 
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดให้สมัครสมาชิกแล้ว รับคูปอง ON-TOP 10% พิเศษ !! เฉพาะวันนี้ – 31 ตุลาคม 2562 สมัครแล้วลดทันทีสูงสุด 15%

พิเศษ รับเพิ่ม ! คูปองส่วนลด ON-TOP 10% เมื่อสมัครสมาชิก SCARLET หรือ ONYX สมัครได้ที่จุดบริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา (ยกเว้น คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และอู่ตะเภา)

เพียงทำตามกติกา 1.ส่วนลดสมาชิก คิง เพาเวอร์ และคูปองส่วนลด ON-TOP 10% สามารถรับส่วนลดได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา 2.คูปองส่วนลด ON-TOP 10% ไม่สามารถแลกคืน หรือทอนเป็นเงินสด 3.สมาชิก คิง เพาเวอร์ สามารถสะสมยอดซื้อ และกะรัตได้ตลอดระยะเวลา 2 ปี 4.คูปองส่วนลด ON-TOP 10% ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการ Birthday celebration, Gift voucher, Cash voucher, ยอดเงินในบัตรสมาชิก, E-cash, Cash card, Gift card, คูปองส่วนลดทุกประเภท ยกเว้นยอดเงินในบัตรสมาชิกที่ได้รับจากการสมัครสมาชิก

ข่าวที่ 3 “ท่องเที่ยวชงงบปี’63ขอ7.3พันล้านลุย6เรื่อง”

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนองบประมาณบูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2563 มูลค่ารวม 7,317.44 ล้านบาท ระบุนำมาใช้ส่งเสริมพัฒนาให้ไทยเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นบนพื้นฐานวัฒนธรรมไทย ตามเป้าหมายหลัก ๆ 6 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 ระบบนิเวศการท่องเที่ยว ทำให้แหล่งท่องเที่ยวได้รับการฟื้นฟู 50 แห่ง จะใช้งบรวม 5,098.38 ล้านบาท พัฒนา 8 เขต ประกอบด้วย 1.เขตพัฒนาอารยธรรมล้านนา 5 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา 2.เขตมรดกโลกด้านวัฒนธรรม 4 จังหวัด ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก 3.เขตลุ่มเจ้าพระยาตอนกลาง 6 จังหวัด กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี  4.เขตฝั่งทะเลตะวันตก 4 จังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง  5.เขตวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง 5 จังหวัด เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร 6.เขตอารยธรรมอีสาน 5 จังหวัด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี 7.เขตอันดามัน 5 จังหวัด ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล 8.เขตฝั่งทะเลตะวันออก

   โดยจะเทงบ 1,194.52 ล้านบาท ก่อสร้างทางหลวงชนบทเพื่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ 8 เขต เส้นทางเชื่อมต่อกับเมกะโปรเจ็กต์ Thailand Riviera ระทาง 286.135 กม. จากสมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และเดินหน้าพร้อมกับใช้เงิน 2,827.88 ล้านบาท ส่งเสริมตลาดในประเทศกับต่างประเทศ ควบคู่การยกภาพลักษณ์การท่องเที่ยว  จัดทำอีเวนต์การขายและการตลาด จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวระดับชาติ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการ งานต่าง ๆ 

ส่วนที่ 2 ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรวัฒนธรรม ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่ม 10,384.08 ล้านบาท พร้อมกับดำเนินโครงการ 1.อนุรักษ์พัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์และโบราณสถาน 17 แห่ง โดยใช้งบ 155.48ล้านบาท 2.จัดกิจกรรมส่งเสริมงานประเพณี ดนตรี และกีฬา ใช้งบ 346.19 บาท เช่น ลอยกระทง เมืองรอง 2 แห่ง จัดอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2020 ดึงคนเข้าร่วม 30,000 คน จัดงานไหว้ครูมวยไทยโลกในกรุงเทพฯ และพระนครศรีอยุธยา จัดมหกรรมแข่งขันจักรยานทางไกลตามเส้นทางท่องเที่ยวหลัก 3.อนุรักษ์และพัฒนาพระราชบวรสถานมงคล (วังหน้า) 164 ล้านบาท  4.พัฒนาต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวและเมืองแห่งศิลปะเชิงสร้างสรร ใช้งบ 111.51 ล้านบาท ในพื้นที่พิเศษ 4 แห่ง ได้แก่ เลย เมืองเก่าน่าน  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร และเมืองโบราณอู่ทอง 5.ปรับปรุงภูมิทัศน์โบราณสถาน โดยใช้งบ 313 ล้านบาท ปรับปรุงในกรุงเทพฯ ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี สุโขทัย เชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา สงขลา นครศรีธรรมราช

ส่วนที่ 3 ท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและเชิงกีฬา โดยมาจากตลาดไมซ์ปี 2563ต้องได้ถึง 220,499 ล้านบาท สูงกว่าปี 2561 ทำไว้ 209,999 ล้านบาท โดยใช้งบ 510.2819 ล้านบาท ดำเนิน โครงการที่ 1 บูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ 75.85 ล้านบาท ทำ 2 เรื่อง คือ 1. ส่งเสริมการจัดงานระดับโลกในพื้นที่ Thailand Riviera เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจขั้นต่ำ 50,000 คน วงเงิน 22.85 ล้านบาท 2.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจในพื้นที่ศักยภาพ งบ 20 ล้านบาท คัดมาแล้ว 10 เมือง คือ กรุงเทพฯ ขอนแก่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่  โครงการที่ 2 ส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา  งบ 357.16 ล้านบาท  2 เรื่อง 1.พัฒนาเมืองกีฬา 36 ล้านบาท ให้เกิดเป็นรูปธรรมภายในปี 2565 อย่างน้อย 2 เมือง มีจังหวัดที่เข้าเกณฑ์คัดเลือก เช่น ชลบุรี สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุดรธานี กระบี่ 2.จัดกิจกรรมกีฬา 321.16 ล้านบาท เช่น งานโมโต จีพี งานเจ็ตสกีเวิลด์ แลถถ่ายทอดสดงานที่เกี่ยวข้อง

 ส่วนที่ 4 ท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค จะต้องนำเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทสปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 276,413 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2561 ทำไว้ 263,251 ล้านบาท ใช้งบ 138.45 ล้านบาท ทำ 2 โครงการ 1. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกลุ่มอาเซียน 110.95 ล้านบาท สนับสนุนให้เอกชนไทยเจรจาธุรกิจกับต่างชาติในงาน ไทยแลนด์ แทรเวล มาร์ต และร่วมกิจกรรมภายใต้กรอบทวิภาคี พหุภาคี ASEAN, GMS, ACMECS, IMT-GT 2.พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและสมาชิกอาเซียน ใช้เงิน 23 ล้านบาท

ส่วนที่ 5 ท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ปี 2563 ตั้งเป้ารายได้จากตลาดต่างประเทศ 32,383 ล้านบาท สูงกว่าปี 2561 ทำไว้ 30,481 ล้านบาท ใช้งบ 106.06 ล้านบาท ทำ 2 เรื่อง 1.ก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือและบริหารจัดการให้ปลอดภัย งบ 50 ล้านบาท ทำ 3 แห่ง คือ ท่าเทียบเรือโดยสารท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด จ.กระบี่ กับ ท่าเทียบเรือท้องศาลาและท่าเทียบเรือหาดริ้น อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี 2.ศึกษา ออกแบบ วางแผนแม่บทเพื่อพัฒนาท่าเทียบเรือรองสำราญขนาดใหญ่ งบ 31.60 ล้านบาท ในบริเวณ อ.เกาะสมุย อ่าวไทยตอนบน (กรุงเทพฯ สมุทรปราการ) ชายฝั่งทะเลอันดามัน (ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล)

ส่วนที่ 6 ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย ตั้งเป้าเลื่อนอันดับตามเกณฑ์ของ Global Wellness Institute ปี 2563 ไทยอยู่อันดับ 12 จากปัจจุบันอันดับ 13  ใช้งบ 88.17 ล้านบาท ทำ 2 เรื่อง 1.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ งบ 70.47 ล้านบาท ดำเนินการ จัดกิจกรรมกระตุ้นคนเดินทางเข้าไทยให้ตรงกับความต้องการของตลาดใส่ใจดูแลสุขภาพ และคัดสรรพร้อมนำเสนอสินค้ากับบริการรองรับการท่องเที่ยวสุขภาพ 2.พัฒนาเมืองสมุนไพรและศูนย์สุขภาพดี ใช้งบ 6 ล้านบาท ทำ 20 แห่ง ควบคู่การยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามครบวงจร ภายใต้งบ 9.54 ล้านบาท

ข่าวที่ 4 “ททท.ผนึกช้างใช้ป๋องเบียร์ชูแหล่งเที่ยวเจาะอังกฤษมาไทย”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลอนดอน รายงานว่า ได้ร่วมสนับสนุน กลุ่มช้าง Chang ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบินไทยในลอนดอน เตรียมทำแพกเกจนำภาพแหล่งท่องเที่ยวแหล่งไทยแสดงไว้ข้างกระป๋องเบียร์ช้าง เพื่อวางจำหน่ายในห้าง TESCO  ทั่วอังกฤษรวม 380 สาขา จำนวนทั้งสิ้น 39,000 แพคเกจ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รับสิทธิ์ลุ้น 10 รางวัล ในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมภายใต้โครงการ EATHAI VISITHAI ปี 2563 ที่ ททท.ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องใช้กระตุ้นตลาดในลอนดอน

ข่าวที่ 5 บางจาก-บีซีพีจีกอดคอคว้ารางวัลผู้นำพลังงานไทย

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากคว้ารางวัล Thailand Energy Award 2019 ด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการที่ไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (Off Grid) จากโครงการ Green Community Energy Management System, GEMS อนาคตการซื้อขายไฟฟ้า และสถานีบริการน้ำมันอัจฉริยะ ที่ติดตั้งในสถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาศรีนครินทร์ 
จากเวทีงาน Thailand Energy Awards 2019 ซึ่งกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน จัดขึ้น เป็นรางวัลการชื่นชมยกย่องผู้ที่มีผลงานดีเด่น เป็นตัวอย่างที่ดีแก่องค์กรต่างๆ และมีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานและพัฒนาพลังงานทดแทน โดยบางจากฯ ได้ร่วมจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ GEMS ดังกล่าวภายในงาน ณ BITEC บางนา 

ทางด้าน นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และฝ่ายบริหารบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่บริษัทคว้ารางวัล “Innovative Power Technology of the Year – Thailand”  จาก Asian Power นิตยสารพลังงานชั้นนำของเอเชีย ในฐานะบีซีพีจีเป็นผู้ริเริ่มทดลองซื้อขายแลกเปลี่ยนไฟฟ้ารูปแบบใหม่แบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer) ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนที่โครงการทาวน์ สุขุมวิท 77 (T77)  ประสบความสำเร็จเป็นโครงการแรกในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ข่าวที่ 6 “TCEBโกยงานคอนเว็นชั่นโลก18งานจัดในไทย5ปีหน้า”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า สรุปปีงบประมาณ 2562 ร่วมกับภาคีพันธมิตรจับมือกันร่วมประมูลสิทธิชิงงานประชุมนานาชาติ (convention) เข้ามาจัดในไทยได้ถึง 18 งาน  ทยอยเข้ามาจัดระหว่างปี 2563-2569 เริ่มปี 2563 รวม 6 งาน  ปี 2564 จำนวน 7 งาน  ปี 2565 จำนวน 4 งาน ปี 2569 จำนวน 1 งาน คาดจะมีผู้เดินทางมาร่วมประชุมจากต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 30,100 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2,540 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพไทยในฐานะผู้นำตลาดการประชุมนานาชาติของอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (พ.ศ. 2559-2561) 

โดยเฉพาะตลาดคอนเวนชั่นมีความสำคัญ ถือเป็นความสำเร็จตอกย้ำเรื่องศักยภาพของธุรกิจไมซ์ไทยในระดับนานาชาติทุกมิติ โดยไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการจัดงานระดับโลก บุคลากรมืออาชีพระดับสากลทั้งสมาคม องค์กร และสถาบันการศึกษาที่เข้มแข็ง นอกจากจะเป็นประโยชน์ที่จะได้มีโอกาสนำเสนอความเจริญก้าวหน้าเชิงวิชาการ การสร้างเครือข่ายแต่ละสาขาวิชาชีพในเวทีนานาชาติแล้ว ยังเปิดโอกาสให้บุคลากรในประเทศเข้าถึงองค์ความรู้ระดับสากล สร้างการเติบโตให้กับทุกอุตสาหกรรมผ่านเวทีการประชุมนานาชาติ ตลอดจนสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจ ทั้งจากการเดินทางมาประชุม การท่องเที่ยว และการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้านการจัดงานระดับโลก 

งานประชุมนานาชาติที่จะมาจัดในไทย ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมการแพทย์ การบิน การศึกษา เช่น 1.งานประชุม World Congress of Psychiatry 2020 โดยสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย คาดมีต่างชาติเข้าร่วม 8,000 คน 2.งานประชุม The Routes Asia Development Forum 2020 โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีผู้ร่วม 1,500 คน 3.งานประชุม World Diabetes Congress 2021 โดยสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ มีผู้ร่วม 8,000 คน 4.งานประชุม International Conference on Family Planning 2021 โดยราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย มีผู้เข้าร่วม 3,500 คน 

ปี 2563 ทีเส็บตั้งเป้านักเดินทางกลุ่มไมซ์ รวมทั้งสิ้น 37,781,000 คน สร้างรายได้กว่า 232,700 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1,386,000 คน สร้างรายได้ 105,600 ล้านบาท ตลาดในประเทศ 36,395,000 คน สร้างรายได้ 127,100 ล้านบาท

ขณะที่สมาคมการประชุมนานาชาติระดับโลกปี 2561 (International Congress and Convention Association - ICCA) ระบุอุตสาหกรรมไมซ์ไทยครองอันดับ 1 อาเซียนด้านการจัดประชุมนานาชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (ปี พ.ศ. 2559-2561) นำงานเข้ามาจัดเรียงลำดับแต่ละปีดังนี้ 174 งาน, 171 งาน และ 193 งาน และขึ้นเป็นอันดับ 4 เอเชีย จัดประชุมนานาชาติมากถึง 193 งาน รองจาก 1.ญี่ปุ่น 492 งาน 2. จีน 449 งาน 3.เกาหลี 273 งาน 

ช่วงที่ 2 ควงคู่รักไปวัดใจเที่ยวหน้าหนาวกับประสบการณ์ Go Local ขึ้นภู ดูวิว สัมผัสวิถีชุมชนคนเมืองเลย ที่ภูกระดึง-ภูเรือ-ภูลมโล ชมทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง เมเปิ้ลเปลี่ยนสี ส่วนใครที่ชอบเป็น “ตะคริวกลางคืน” ต้องอ่าน 3 วิธีช่วยได้ และข่าวลึก ๆ “แอร์เอเชีย” หันพึ่งแชทบอท AVAแทนคอลเซนเตอร์ ให้บริการ 24 ชั่วโมง โต้ตอบได้11 ภาษา “เซอร์ไพรส์บุรีรัมย์” AirBNBจัดเมืองเที่ยวติดอันดับ 3 ของโลกปี’63 “สุวรรณภูมิ” ปิดซ่อมรันเวย์ส 150 วัน เริ่ม 8 พ.ย.2562 “เรเนซองส์เกาะสมุย” เทโปรไฮซีซันขายห้องพักราคาพิเศษ 4 สไตล์

@หนาวนี้ชวนกันไปGo Local ขึ้นภูดูวิถีเมืองเลย

อากาศภาคเหนือเริ่มเย็นลง ไปปีนภูใกล้ชิดธรรมชาติกันที่เมืองรอง “จังหวัดเลย” อุทยานแห่งชาติ “ภูกระดึง” เปิดบ้านรอต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการผจญภัย รอวัดใจคู่รักที่ควงกันไต่เนินเขาระยะทาง 9 กม.ระหว่างสองข้างทางก็กินลมชมธรรมชาติป่าสน ต้นเมเปิ้ลแดงสดใส หรือจะขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดบนผายอดนิยมอย่าง ผาหมากดูก ผาเหยียบเมฆ ผานกแอ่น ผาจำศีล ผาแดง เลือกตามสบายสุดแต่ใจต้องการ
หรือจะไปปีนอีกสักแห่งที่ “ภูเรือ” ซึ่งมีลานหิน ป่าสน ดอกไม้ป่า และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอก สวยแปลกตา ก่อนจะไปบันทึกรูปสวย ๆ ของผาน้ำตกอย่าง ห้วยไผ่ กับถ้ำไทร 

ส่วน “ภูลมโล” ตอนนี้ลุ้นว่าดอกนางพญาโคร่งในพื้นที่สุดลูกหูลูกตากว่า 1,000 ไร่ สีชมพูเริ่มบานปกคลุมทั้งหุบเขาให้ได้ถ่ายรูปแชร์ไปชวนเพื่อน ๆ มาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น บริเวณนี้เปิดให้กางเต็นท์พักแรมได้อย่างใกล้ชิดธรรมชาติ

วางแผนท่องเที่ยวตามภูต่าง ๆ ในเมืองเลยสัก 3 วัน 

เริ่มวันแรก ลุยเก็บภาพ ทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง “ภูลมโล” แล้วขึ้น “ภูกระดึง” ท่ามกลางดงเมเปิลแดง แวะไปตามน้ำตกสวย ๆ อย่าง วังกวาง โผนพบ เพ็ญพบใหม่ ถ้ำใหญ่ กางเต็นต์นอนสักคืน 

วันที่สอง ไปชมไร่แมคาเดเมียที่ “ชุมชนปลาป่า” มุ่งหน้าขึ้น “ภูเรือ” ฟังเสียงน้ำตกไหลรินที่ ห้วยไผ่ ผาโหล่น้อย แล้วแวะพักเชียงคานเมืองเงียบสงบริมโขง 

วันที่สาม ไปชมคลื่นทะเลหมอกยามเช้าบน “ภูทอก” หรือจะปั่นจักรยาน เลียบชายโขง ชมบ้านไม้เก่าของชาวเชียงคา แบบไหนก็สุขได้ทั้งนั้น
ห้ามพลาด ซื้อผ้าฝ้าย มะขามแช่อิ่ม หน้ากากผีตาโขน ผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์เมืองเลยติดมือกลับมาเป็นของกิน ของใช้ ของระลึก ด้วยช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน

@ตะคริวกินตอนกลางคืนบรรเทาอาการได้ด้วย3วิธี

ตะคริว คืออาการหดเกร็งที่ทำให้กล้ามเนื้อปวดและเป็นก้อนแข็ง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยไม่สามารถบังคับได้ การเป็นตะคริวอาจจะเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนใดของร่างกายก็ได้ ในบางรายอาจมีอาการตะคริวที่ขา ในขณะนอนหลับตอนกลางคืนจนสะดุ้งตื่น หรือที่เรียกว่า ตะคริวกลางคืน (Nocturnal Leg Cramps) ซึ่งมักเกิดกับกล้ามเนื้อขาและพบได้บ่อยในคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดตะคริว แต่พบว่าบางรายอาจสัมพันธ์กับการที่นั่งอยู่เป็นเวลานานๆ หรือมีการใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นมากเกินไป หรือการยืนหรือทำงานบนพื้นแข็ง เช่น คอนกรีตเป็นเวลานาน หรือนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น นอกจากนี้พบว่าอาการตะคริวอาจสัมพันธ์กับภาวะต่างๆ ได้แก่ การตั้งครรภ์ ภาวะขาดน้ำ กลุ่มโรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โรคต่อมไร้ท่อ หรือการรับประทานยาบางประเภท เช่น ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น หากเกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมต่อไป

หากไม่อยากเป็นตะคริวตอนกลางคืนหรือขณะนอนหลับ ควรนอนในท่าที่สบายผ่อนคลาย ใช้หมอนรองขาให้สูงจากเตียงประมาณ 10 เซนติเมตร ห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย รวมทั้งดื่มนมก่อนนอนเพื่อเพิ่มแคลเซียมและหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่ถ้าเป็นตะคริวขณะนอนหลับ สามารถดูแลให้ดีขึ้นได้ 3 วิธี ดังนี้

1. ยืดกล้ามเนื้อขา ยืดขาให้ตรง 2. กระดกปลายเท้าขึ้นค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง 3. นวดกล้ามเนื้อขาเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ จนอาการดีขึ้น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “แอร์เอเชียชูแชทบอทAVAบริการ24ชั่วโมง11ภาษา
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไทยแอร์เอเชีย จะเข้าสู่ดิจิทัลเต็มตัวโดยได้ลงทุนนำแชทบอท “น้องเอว่า” AVA Live Chat แทน คอลเซนเตอร์ ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้โดยสาร 24 ชม. โชว์ตอบโต้ได้ 11 ภาษา สามารถแก้ปัญหาให้ผู้โดยสารได้จริง  หลังจากพบสถิติปี 2561 ถึงปัจจุบัน แนวโน้มผู้โดยสารจะใช้บริการสอบถามข้อมูลผ่านคอลเซ็นเตอร์ลดลง ส่วนใหญ่หันไปใช้ออนไลน์ติดต่อสายการบินมากขึ้น 

เทคโนโลยีใหม่ที่จะให้บริการถามตอบอัตโนมัติ AVA (เอว่า) แชทบ็อท-Al เป็นพนักงานอัจฉริยะเสมือนจริงของแอร์เอเชีย ซึ่งผู้โดยสารสื่อสารด้วยได้ผ่าน www.AirAsia.com  คลิกเลือก “บริการความช่วยเหลือ” หรือผ่าน AirAsia mobile App เพื่อทำธุรกรรมต่างๆ ตรวจสอบสถานะเที่ยวบิน แก้ไขข้อมูลส่วนตัวผู้โดยสาร ซื้อบริการเสริมพิเศษ เช่น สั่งจองอาหารล่วงหน้า เลือกที่นั่ง และอื่น ๆ 

ข่าวที่สอง “เซอร์ไพรส์!!AirBNBให้บุรีรัมย์ติดเที่ยวอันดับ3โลกปี’63”
Airbnb รายงานการจัดอันดับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ 20 อันดับแรก เพื่อเลือกเดินทางเข้ามาปี 2563 ผลปรากฎว่ามีชื่อของ “จังหวัดบุรีรัมย์” ติดอันดับ 3 ในฐานะเมืองที่มีชื่อเสียง เป็นที่ตั้งของปราสาทหินเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อุดมไปด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติสวยงาม อีกทั้งยังสามารถอนุรักษ์โบราณสถานทางวัฒนธรรมให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ ไฮไลต์เดือนมีนาคม 2563 ยังจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันรถมอเตอร์ไซด์ความเร็วสูงโมโตจีพี ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม เซอร์กิต แนวโน้มปีหน้ามียอดนักท่องเที่ยวจองมาบุรีรัมย์เพิ่มขึ้น 383% 

ข่าวที่สาม “สุวรรณภูมิปิดซ่อมรันเวย์150วันเริ่ม8พ.ย.62”
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”  เปิดเผยว่า ตามที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้มีการดำเนินโครงการงานซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งฝั่งตะวันออก (Runway 01R-19L) และทางขับออกด่วน (Rapid Exit Taxiway) ซึ่งแผนดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2562 - 2565 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะที่ 2 จึงเตรียมปิดเพื่อปรับปรุงเริ่ม 8 พฤศจิกายน 2562 - 6 เมษายน 2563 รวม 150 วัน จะปรับปรุงพื้นผิวช่วงเวลา เวลา 01.30 - 08.30 น. ปรับรันเวย์ระยะทาง 1,100 เมตร และบริเวณแท็กซี่เวย์ด่วน B3, B5, B7, B8, B10 และ B11 รื้อพื้นผิวเดิมออกบางส่วน และปูพื้นผิวใหม่ด้วยเอสฟัสต์ ซึ่งจะทำให้พื้นผิวรันเวย์กับแท็กซี่เวย์มีความคงทน แข็งแรงยิ่งขึ้น สามารถรองรับการขึ้น-ลงของเที่ยวบินในอนาคตได้เต็มประสิทธิภาพ  

ส่วนช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ระหว่าง 25 ธันวาคม 2562 - 6 มกราคม 2563 และวันหยุดเทศกาลตรุษจีน 18 - 31 มกราคม 2563 จะงดปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก เนื่องจากมีเที่ยวบินคับคั่ง และมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก 

โครงการปิดซ่อมพื้นผิวรันเวย์และแท็กซี่เวย์ ระยะที่ 2 นั้น ทอท.เสนอให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) พิจารณาเห็นชอบเรียบร้อยแล้วเมื่อ 30 สิงหาคม 2562 รวมทั้งแจ้ง กพท. เพื่อออกประกาศ AIP Supplement ให้นักบินและผู้เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับแผนการดำเนินการดังกล่าวเมื่อ 26 กันยายน 2562 

ข่าวที่สี่ “เรเนซองส์สมุยเทโปรไฮซีซันห้องพักสุดพิเศษ4สไตล์”

เรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา รายงานว่า ได้จัดทำโปรโมชั่นห้องพักพร้อมอาหารและทัวร์เกาะสมุยราคาพิเศษในแคมเปญ ‘Discover This Way’ ชวนลูกค้าร่วมสร้างประสบการณ์ค้นหาตัวตนและมนต์เสน่ห์แต่ละท้องถิ่นเสริมสร้างประสบการณ์มุมใหม่ระหว่างการเดินทางของนักท่องเที่ยวและส่งต่อความประทับใจให้ลูกค้าที่จองเข้าพักช่วงฤดูท่องเที่ยว ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2563 เงื่อนไขจะต้องจองขั้นต่ำ 2 คืนขึ้นไป จองออนไลน์ได้ที่ http://bit.ly/DISCOVERTHISWAY  ประกอบด้วย

1.ห้อง Deluxe Balcony ราคา 6,666 บาท+++ ต่อห้องต่อคืน 2.ห้อง Deluxe Seaview ราคา 7,777 บาท+++ ต่อห้องต่อคืน 3.ห้อง Pool Villa Garden ราคา 8,888 บาท+++ ต่อห้องต่อคืน และ 4.ห้อง Beachfront Pool Villa ราคา 9,999 บาท+++ ต่อห้องต่อคืน เป็นราคาที่รวมฟรีแบบครบจบทุกอย่างสำหรับ 2 คน/ห้อง/คืน ได้แก่ 

•ฟรีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ทุกวันที่ห้องบานานา ลีฟ •ฟรีเครื่องดื่มต้อนรับ 2 คน •ฟรี Navigator's tour 3 ชั่วโมงพาเที่ยวรอบเกาะสมุย เช่น วัดราชธรรมารามพระธาตุเจดีย์ศิลางู สวนมะพร้าวสมุยบ้านกรูด อาร์ตคาเฟ่ใจกลางสมุย  •ฟรี Navigator’s table อาหารชุดดินเนอร์ โดยเหล่าเชฟจะนำเสนอเมนูอาหารท้องถิ่นให้ได้ชิมกันถึงโต๊ะอาหารที่ห้องบานานา ลีฟ และ •ฟรีเช็คเอาท์สายได้ถึง 14.00 น.

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai