TCEBงัดมาตรการเงินไมซ์ประชุมเมืองไทยฯรับเลย2หมื่นบาทยันปลุกเศรษฐกิจคึกพันล้าน-มหานครสกายบาร์จัดเต็มมินิคอนเสิร์ตโต๋22ต.ค.นี้

TCEBงัดมาตรการแจกไมซ์ประชุมเมืองไทยรับได้2หมื่นบาท

รัฐเทงบไมซ์200ล้านทำเงินสะพัดทั่วไทยปลายปีถึงพันล้าน

ลุยจับมือเร่งสร้าง“NEO พัทยา”ฮับจัดงานเมกะอีเวนต์โลก

คิงเพาเวอร์สกายบาร์เปิดแล้วโปรมื้อเที่ยง2คอร์สแค่850บ.

มหานครสกายบาร์จัดเต็มโชว์มินิคอนเสิร์ต”โต๋”22ต.ค.นี้

ททท.ปลุกแสโปรเจ็กต์”น้ำใจ”ขานรับตลาดทัวร์โลกยอดโต

บางจากแจกสิทธิ์สมาชิกบัตรรับของขวัญวันเกิดยาวข้ามปี

เที่ยวปิดเทอมเชียงใหม่”ไนท์ซาฟารี-ซู อควอเรียม”เลิศสุด

เซอร์ไพรส์!!การฝึกสมาธิช่วยการชะลอวัยอย่างเหลือเชื่อ

“รมช.ถาวร”จี้การบินไทยแก้ด่วน6เรื่องสั่งส่งการบ้านสิ้นปี

คลังเปิดชิมช้อปใช้เฟส2ทุ่มคืนเงินเพิ่ม20%แอพเป๋าตัง 2

รฟท.จ่อลงนามซีพีเดินหน้าสร้างรถไฟเร็วเชื่อม3สนามบิน

บางกอกแอร์ผนึกKTCให้โอนแต้มรับไมล์บินเพิ่มทันที50%

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว97 #เที่ยวกับกู๋  #TCEB # #  #  #  #

ช่วงที่ 1 ผู้นำทีเส็บ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ผนึกนายกเมืองพัทยาดันเมกะโปรเจ็กต์ NEO PATTAYA เทียบชั้นไมอามี ผนวกสร้าง EEC MICE ดึงเมกะอีเวนต์โลก อย่างแอร์โชว์ปักธงอู่ตะเภาปี 2567 เสนอจัด Tomorrowland มหกรรมดนตรีโลกมีผู้เข้าร่วมนับแสน ส่วน ครม.ไฟเขียวแล้วโปรเจ็กต์ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เทงบ 200 ล้านบาท อัดฉีดไมซ์ในประเทศ แจกหัวละ 20,000 บาท บริษัท ห้างร้าน องค์กร เดินสายจัดประชุมในประเทศ วันนี้-เมษายน 63 ทำโพลล์ได้เม็ดเงินไหลเข้าสู่เศรษฐกิจเกินกว่า 1,000 ล้านบาท

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า TCEB ได้ผนึกความร่วมมือกับทางเมืองพัทยาเพื่อสร้างตลาดไมซ์เขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) กับนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ประกาศยุทธศาสตร์ NEO PATTAYA เน้นการยกระดับเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณภาพ ยกชั้นเทียบกับไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ให้ความสำคัญมากกับการเปลี่ยนภาพลักษณ์พัทยา เพราะตามปกติพัทยาเดิมเคยเป็นเมืองเอนเตอร์เทนท์ แต่รัฐบาลให้ความสำคัญในฐานะเป็นที่พักอาศัยของนักลงทุนต่างชาติทั่วโลกที่เดินทางเข้ามา ทางเมืองเองเตรียมแผนงานโครงการขนาดใหญ่ด้านการจำกัดของเสีย ระบายน้ำ อย่างเป็นระบบด้วยงบประมาณมหาศาล

ส่วน TCEB ทำงานกับพัทยามากว่า 10 ปี โดยเน้นการตลาดกระตุ้นให้แต่ละเมืองไมซ์ ซิตี้ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น ลุกขึ้นมาพยายามดูแลมาตรการดูแลความปลอดภัย ทำโครงการทางด้านการจัดประชุมไมซ์ รักษามาตรฐานสถานที่จัดประชุม โดยได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทุกเรื่องรวมทั้งเรื่องบุคลากร พอขยายเป้าหมายพัทยาเป็นเมืองศูนย์กลางการเชื่อมโยงขึ้นเป็น EEC MICE โจทย์จะมีมากขึ้น ทางทีเส็บต้องดึงงานจาก 11 อุตสาหกรรม SCURVE สามารถทำการขายและตลาดได้มากสุด ทั้งการจัดประชุมและอีเวนต์ จึงต้องทำงานใกล้ชิดกับทั้งคณะกรรมการ EEC และเมืองพัทยา

ส่วนศักยภาพของไมซ์ทั้ง 4 หมวด  M-I-C-E ตลาดที่เหมาะกับพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงได้รับสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ได้รางวัลฟรีเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวหรือ I-Incentive ทำให้ศูนย์ประชุมต่าง ๆ ทั่วเมืองพัทยาอย่าง PEACEH รอยัลคลิฟฟ์ NICE สวนนงนุช มีโอกาสได้ให้บริการรองรับนักเดินทางกลุ่มขายตรงตลาดต่างประเทศครั้งละ 7,000-10,000 คนขึ้นไปได้ต่อเนื่องตลอดปี

แต่สิ่งสำคัญจะทำอย่างไรหลังทีเส็บได้รับนโยบายจากรัฐบาลให้สปริงบอร์ดให้ภาคอุตสาหกรรม S-CURVE ตัวอย่าง หุ่นยนต์/โรบ็อต โครงการเมืองการบินภาคตะวันออก : EASTERN AIRPORT CITY-ศูนย์ซ่อมอากาศยาน :Maintenance Repair and Overhaul -MRO ในสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา สิ่งสำคัญที่จะต้องนำเข้ามาคือ Trade Exhibition ที่จะเป็นบายโปรดักซ์จำนวนมาก ล่าสุดได้ไปหารือกับทางอังกฤษเจ้าของสิทธิ์จัดงาน AIR SHOW ตามลักษณะของสนามบินอู่ตะเภาในต่างประเทศมีน้อยมาก มีความเหมาะจะวางกลยุทธ์ให้อู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางการจัดงาน AIR SHOW เพราะอนาคตจะมีโรงงานผลิตชิ้นส่วน อุปกรณ์ อะไหล่ เครื่องบิน เพราะงานดังกล่าวจะมีกิจกรรมการเจรจาซื้อขายเครื่องบินและธุรกิจเกี่ยวข้องกับการบินทั้งหมด

ดังนั้นทีเส็บจะต้องเร่งทำพัทยาเป็นศูนย์รวมตลาด EXHIBITION โดยได้คุยกับทาง FRAN BUREAU เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดงานแอร์โชว์มาตลอดตั้งแต่ปี 2561-2562 พร้อม ๆ กับทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานแอร์โชว์นานาชาติแสดงความสนใจจะมาเมืองไทยกว่า 80 % ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากรัฐบาลจะต้องจัดให้มีเจ้าภาพดำเนินการโดยกระทรวง เช่น คมนาคม และกองทัพเรือเจ้าของสนามบินอู่ตะเภา ส่วนทีเส็บจะทำรูปแบบโดยตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมา ทำโครงการนี้แล้วเปิดให้เอกชนเสนอการประมูลเป็นออร์แกไนซ์แยกดำเนินการแต่ละส่วน ในภาพใหญ่การนำแอร์โชว์มาจัดในไทยไม่ต้องประมูลแข่งขัน รอเพียงสนามบินอู่ตะเภาเฟส 3 ก่อสร้างแล้วเสร็จก็สามารถลงมือทำ คาดจะจัดได้ภายปี 2567 เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความเป็นประเทศศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบิน

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า นอกจากความร่วมมือกับทางนายกเมืองพัทยา ผลักดันเมืองท่องเที่ยวคุณภาพ เมืองไมซ์ซิตี้ เมืองไมซ์ อีอีซี แล้ว ทีเส็บยังจับมือกับคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC-HDC) ที่มี ดร.อภิชาติ ทองอยู่ เป็นประธาน พร้อมกับผนึกกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในภาคตะวันออก 8 สถาบัน โดยมีมหาวิทยาลัยบูรพาเป็นศูนย์กลาง ขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรเข้าสู่ EEC ซึ่งอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า มีความต้องการแรงงานเข้าสู่ 11 อุตสาหกรรม S-CURVE รวมกว่า 4.5 แสนคน เพื่อสนับสนุนตั้งแต่ระดับบริหารเรื่อยไปถึงแรงงานภาคปฏิบัติ โดยอุตสาหกรรมไมซ์ต้องการไม่ต่ำกว่า 4 % ของทั้งหมดหรือราว 1.6 หมื่นคน แนวทางการผลิตบุคลากร จะประกอบด้วย

แนวทางแรก จะเปิดหลักสูตรเร่งรัดเป็นคอร์สสั้น ๆ เพื่อให้คนเข้าทำงานในกิจกรรมจัดประชุม สัมมนา สามารถนำคอร์สเหล่านี้ใส่เข้าไปตามสถาบันการศึกษาดังกล่าวได้

แนวทางที่ 2 การพัฒนาบุคลากรทักษะช่าง ได้ร่วมกับราชภัฎสัตหีบ เพราะการผลิตคนสู่อาชีพต่าง ๆ ปัจจุบันเปลี่ยนไปมากแล้ว เพราะผู้ที่จบการศึกษาปริญญาตรีได้รับประกาศนียบัตรแล้ว ก็สามารถไปเรียนเพิ่มวุฒิ แล้วเข้าทำงานตรงได้ เช่น จบวิศวกรรมสามารถเรียนคอร์สแพทย์ แล้วเข้าไปทำงานในโรงงานที่ต้องการได้ทันทีแถมได้เงินเดือนสูงขึ้นด้วย

ทางทีเส็บจึงเข้าไปสนับสนุนหลักสูตรไมซ์ กลุ่มอีเวนต์ ออร์แกไนเซอร์ ผู้จัดงานต่าง ๆ รวมไปถึงกลุ่มทางด้านวิชาชีพการสร้างและออกแบบบูธ เมื่อผ่านคอร์สการเรียนการสอนได้รับประกาศนียบัตรเรียบร้อยแล้วก็ใช้แสดงเพื่อเข้าทำงานได้ทันที โดยมีกลุ่มนำร่องที่จะทำงานได้อาจจะเป็นอีก 2-3 ปีหน้า ทางศูนย์ EEC-HDC จะต้องเร่งทำให้เปิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว

นายจิรุตถ์กล่าวว่าการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ทีเส็บทำโครงการสนับสนุนเงินแก่ผู้ประกอบการไมซ์ได้ครั้งละ 20,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2562 เป็นต้นไป เพราะค่าเงินบาทแข็งต้องหันมาปลุกกำลังซื้อในประเทศ กลุ่มที่ทำแล้วเห็นผลทันตาคือตลาดจัดประชุมของกลุ่มลูกค้าคอร์ปอเรต จัด Training, meeting, motivation trip ทางทีเส็บเสนอขอ ครม.ไป 5 โครงการ

ไฮไลต์คือโครงการ “ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 200 % ให้แก่บริษัทกลุ่มคอร์ปอเรตเพื่อช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายการนำทีมจัดงานประชุมภายในประเทศ และโครงการ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เปิดโอกาสให้บริษัทที่นำพนักงานไปจัดประชุมตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขนาดครั้งละตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป/ทริป เงื่อนไขจะต้องใช้บริษัทตัวแทนจัดงาน (Destination Management C) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับเงินสนับสนุนแล้วนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายการจัดงานประชุม เพื่อให้เห็นถึงวิธีการใช้เงินแล้วสามารถตรวจสอบได้

โดยทีเส็บได้จัดทำวิจัยแล้วพบว่า หากใช้งบประมาณลงทุน 200 ล้านบาท ทำโครงการกระตุ้นกลุ่มบริษัทหันมาจัดประชุมในประเทศแล้วได้รับเงินสนับสนุน 20,000 บาท/คน/ครั้ง จะได้เงินหมุนเวียนกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยคำนวณเฉพาะค่าเดินทาง ค่าที่พัก ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง และอื่น ๆ

ตอนนี้บริษัทที่จะจัดประชุมตามเงื่อนไขดังกล่าวสามารถติดต่อขอการสนับสนุนเงินดังกล่าวจากทีเส็บได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นไป จนถึงเดือนเมษายน 2563 ส่วนสมาชิกสมาคมจัดการแสดงสินค้าไทย/TEA สมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ(ไทย)/TICA สมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ/ICCA และสมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะมีข้อมูลบันทึกไว้ถึงแต่ละบริษัทที่เคยจัดประชุมจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับการจัดประชุม 2 วัน รับได้ 20,000 บาท โดยจะต้องเดินทางไปประชุมยังพื้นที่อื่น ๆ นอกกรุงเทพฯ โดยให้สิทธิ์บริษัทละ 1 สิทธิ์/ครั้ง ต้องการให้กระจายไปจัดหลาย ๆ เมือง  เนื่องจากปัจจุบันเอกชนจะนิยมเทเงินที่เหลือมาจัดพร้อมกันในช่วงปลายปี เม็ดเงินหมุนเวียนที่จะไปถึงฐานรากได้ครบ

ส่วนตลาดไมซ์ต่างประเทศจะมีโครงการสนับสนุนงบประมาณรองรับอยู่แล้วด้วยเช่นกัน

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ล่าสุดทีเส็บได้เสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดเมกะอีเวนต์รายการใหญ่ Tomorrowland มหกรรมดนตรี EDM ขนาดใหญ่สุดของโลก แต่เรื่องนี้จะยังคงต้องนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมเข้า ครม.ในโอกาสต่อไป หากได้จัดจะสามารถสร้างเมกะ เฟสติวัล ดนตรีให้ทั่วโลกได้รำลึกถึงได้เป็นอย่างดี เพราะจะมีคนเข้ามาครั้งละเป็นแสนคน นำเม็ดเงินเข้ามามากมาย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์แบงค็อกสกายบาร์เสิร์ฟโปรมื้อกลางวัน850บาท

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ แนะนำ ไปสัมผัส “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” มื้อกลางวันทุกวัน เวลา 11:00-15:00 น. ได้เริ่มเปิดบริการตั้งแต่ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป  ในห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย แลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ใจกลางสาทร ที่ตั้งอยู่บนชั้น 76 และ 77 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร ด้วยเมนูอาหารรสเลิศจากเชฟ Joshua Cameron พร้อมให้บริการคุณลูกค้าในรูปแบบเซ็ทเมนูอาหารกลางวัน (2 คอร์ส) ในราคาเริ่มต้นเพียง 850 บาทสุทธิ พร้อมด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงามของกรุงเทพฯ

สำหรับเมนูอาหารกลางวัน 2 คอร์ส มีอาหารเรียกน้ำย่อย เช่น แซลมอนนอร์เวย์หมักเกลือ สันคอหมูย่างจากจังหวัดน่าน หรือเมนูมังสวิรัติอย่างสลัดธัญพืช เสิร์ฟคู่กับเมนูอาหารจานหลักอย่างสันในหมูย่าง ข้าวหน้าปลากระพงอันดามัน หรือเมนูมังสวิรัติอย่างย็อคคีสไตล์ปารีส พร้อมให้บริการปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเป็นชาหรือกาแฟ

พร้อมเปิดตัว “Fall/Winter Collection 2019” คอลเลกชั่นเมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษ 10 ชนิด ที่ได้รับการสร้างสรรค์โดย Bennie and Dannie Sorum สองพี่น้อง Mixologist ชื่อดังชาวสวีเดน ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มชนิดใหม่ อาทิ กล้วยตากของไทย รวมทั้งการนำส่วนประกอบที่มีความซับซ้อนอย่างช็อคโกแลตจากฝรั่งเศส กาแฟสปาร์คลิ้ง หรือไวน์พริกไทยดำมาเป็นส่วนผสม

สำหรับ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ เปิดให้บริการทุกวันทั้งอาหารกลางวัน 11:00-15:00 น. และอาหารค่ำ 17:00-01:00 น.) ผู้ที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือ www.mahanakhonbangkokskybar.com หรือโทร.02-677-8722

ข่าวที่ 2 “มหานครสกายวอล์คโชว์มินิคอนเสิร์ต22ต.ค.นี้

คิง เพาเวอร์ มหานคร ชวนร่วมงาน “Mahanakhon’s Colourful Night of Music”ครั้งแรกของอะตอม ชนกันต์ และโต๋ ศักดิ์สิทธิ์ กับมินิคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มหานคร สกายวอล์ค ชั้น 78 คิง เพาเวอร์ มหานคร ในการแสดงมินิ คอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ณ มหานคร ณ ชมวิวชั้นดาดฟ้าสูง 314 เมตร พร้อมวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศา และเสียงเพลงฟังสบายจาก 2 หนุ่มสุดโรแมนติก ที่จะมาเติมเต็มสีสันยามค่ำคืนเหนือกรุงเทพฯ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คอนเสิร์ตเริ่ม 21:00 น. ไปจนถึงเที่ยงคืน

                Mahanakhon’s Colourful Night of Music ขายบัตรที่http://go.eventpop.me/MAHANAKHONS-COLORFUL-NIGHT-OF-MUSIC ราคาเริ่มต้นคนละ 1,100 บาท (ประเภทบัตรยืน) พร้อมรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว

สอบถามโปรโมชั่นที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhonหรือโทร.02-677-8721.

ข่าวที่ 3 “ททท.ปลุกกระแสโปรเจ็กต์น้ำใจรับมือทัวร์โลกยอดโต

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เปิดครงการ “น้ำใจ” รณรงค์ให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น ในปี 2562 จะถึง 41 ล้านคน ทำรายได้ 2.21 ล้านล้านบาท คิดเป็น 1 ใน 5 ของรายได้ทั้งหมด จึงมีนโยบายให้ร่วมกันทำ 4 ด้าน ได้แก่ 1.ยกระดับความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว (Safe) 2.ส่งเสริมความสะอาดในแหล่งท่องเที่ยว (Clean) 3.ส่งเสริมความเป็นธรรมในการท่องเที่ยว (Fair) รณรงค์และส่งเสริมผู้ประกอบการไม่ให้เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และ 4.ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรักษ์สิ่งแวดล้อม (Sustainability) ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community-Based Tourism) เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนและลดความเหลื่อมล้ำ

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  กล่าวว่า ททท. ขยายผลจัดทำโครงการเสริมสร้างเครือข่ายทางการท่องเที่ยวเจ้าบ้านที่ดี โดยจัดอบรมที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพให้บุคลากรระดับปฏิบัติในชุมชนทั่วประเทศ มุ่งเน้นให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน ดังนั้น โครงการ “น้ำใจ” จึงได้ร่วมกับพันธมิตรท่องเที่ยว 6 หน่วยงาน ได้แก่ สมาคมรถเช่าไทย สหกรณ์เดินรถพัทยา คลื่นวิทยุ จส.100 สวพ.91 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มอบเข็มกลัดน้ำใจให้พันธมิตรผู้ร่วมแสดงพลังน้ำใจ และมอบเกียรติบัตรพร้อมเข็มกลัดน้ำใจให้กับตัวอย่างเจ้าบ้านที่ดีที่เคยช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ในเหตุการณ์ต่างๆ  4 คน ได้แก่ นายชัด อุบลจินดา นายสุนทร อ่านเขียน นายประวิทย์ มีเพียรและนายอธิชนม์ ฉะฉ่ำ พร้อมกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ปล่อยขบวนรณรงค์ สร้างกระแสพลังน้ำใจกระจายไปยังแหล่งชุมชนต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ไปสู่ภาคประชาชนด้วย

ข่าวที่ 4 “บางจากแจกสิทธิ์สมาชิกบัตรรับของขวัญวันเกิดยาวข้ามปี

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนสมาชิกบัตรบางจากรับสิทธิ์ 2 ต่อ ในเดือนเกิด "Enjoy your Birthday” ที่ Bangchak Mobile Application!! ต่อเนื่องข้ามปีระหว่างวันนี้ – 30 เม.ย. 2563 รับทันที 2 ต่อ ดังนี้

ต่อที่ 1 Bonus Points รับคะแนนในเดือนเกิด ฟรี 50 คะแนน

ต่อที่ 2 Birthday Special Gift ใช้เพียง 50 คะแนน เลือกแลกรับส่วนลดพิเศษ ที่ร้านอินทนิล หรือ สพาร์ หรือ ศูนย์บริการรถยนต์ Wash Pro และ Green Wash (เลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง)

ขั้นตอนการรับสิทธิ์ Bonus Points และ Birthday Special Gift 1. ดาวน์โหลด Bangchak Mobile Application 2. เข้าสู่ระบบสมาชิก 3. กดหมวดโปรโมชั่นสำหรับคุณ 4. แอปพลิเคชั่นจะแสดง E-Coupon รับฟรี 50 คะแนน (โปรโมชั่นแสดงเมื่อตรงกับเดือนเกิดของสมาชิก) 5. สมาชิกสามารถกดรับสิทธิ์ได้ทันที (กดรับได้ภายในเดือนเกิดเท่านั้น) 6. ต่อที่ 2 Birthday Special Gift สมาชิกเลือกรับสิทธิ์อย่างใดอย่างหนึ่งและแสดงรหัสโปรโมชั่นกับพนักงานหน้าร้านเพื่อรับส่วนลด
 
เงื่อนไขรายการ

 1.Birthday Bonus Points จำกัดสิทธิ์ 1 สิทธิ์ต่อ 1 หมายเลขบัตรสมาชิกเท่านั้น 2.สมาชิกต้องกดรับสิทธิ์ Bonus Points ภายในเดือนเกิดเท่านั้น3.คะแนนพิเศษ 50 คะแนนจะถูกโอนเข้าบัตรสมาชิกอัตโนมัติภายในวันที่กดรับสิทธิ์ 4.หากเคยได้รับคะแนนพิเศษแล้ว จะไม่ได้รับคะแนนพิเศษซ้ำ 5.Birthday Special Gift จำกัดสิทธิ์ 1 สิทธิ์ต่อ 1 หมายเลขบัตรสมาชิกเท่านั้นและไม่สามารถใช้สิทธิ์ซ้ำได้ เลือกแลกรับส่วนลดพิเศษ ที่ร้านอินทนิล หรือ สพาร์ หรือ ศูนย์บริการรถยนต์ Wash Pro และ Green Wash (เลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง)

6.จำกัดจำนวนสิทธิ์สำหรับร้านอินทนิลและสพาร์รวมกันไม่เกิน 4,500 สิทธิ์/เดือน 7.จำกัดสิทธิ์ศูนย์บริการรถยนต์ Wash Pro และ Green Wash รวมกันไม่เกิน 500 สิทธิ์/เดือน 8.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์มอบสิทธิประโยชน์นี้ให้กับผู้สมัครสมาชิกใหม่หรือสมาชิกปัจจุบันที่ลงทะเบียนในฐานข้อมูลครบถ้วนภายในเดือนเกิดของสมาชิกเท่านั้น 9.หากสมาชิกที่เกิดในเดือนต้องการอัพเดทข้อมูลเพื่อรับสิทธิ์โปรโมชั่นเข้าระบบสมาชิกแล้วอัพเดทข้อมูลผ่าน 2 ช่องทาง (Bangchak Mobile Application และwww.bcpgreenmiles.com) 

สอบถามเพิ่มเติมที่ 1651 (กด 4) ตั้งแต่ 08.00-21.00 น.

                ช่วงที่ 2 เมืองไทยเที่ยวได้เลย ปิดเทอมนี้ควงลูก ๆ กับครอบครัวลัดฟ้าไปเชียงใหม่ ค้นหาความสนุกใน “ไนท์ ซาฟารี” และ “ซู อควอเรียม” อุโมงค์จำลองใต้ทะเลยาวที่สุดในเซาท์อีสต์เอเชีย ร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นน้ำลึกสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกวัน ส่วนสุขภาพต้องรู้ “ฝึกสมาธิช่วยชะลอวัย” ไม่ต้องเสียงตังค์ ทางด้านข่าวไฮไลต์แห่งสัปดาห์ “มหากาพย์การบินไทย” รมว.ถาวร เสนเนียม สั่งทำด่วน 6 เรื่องส่งการบ้านให้ตรวจก่อนสิ้นปี’62 โดยเฉพาะแผนซื้อฝูงบินใหม่ 38 ลำ “คลังเปิดชิมช้อปใช้เฟส 2” ทุ่มเพิ่มเงินคืน 20 % กระตุ้นคนรวย 2 ล้านคน ใช้เป๋าตัง2 “รฟท.จ่อลงนามซีพี 24 ต.ค.นี้” เดินหน้าสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ทางด้าน “บางกอกแอร์กอดคอ KTC” อัดฉีดคนใช้ไมล์โอนสิทธิ์รับแต้มสะสมเพิ่ม 50 %

@เที่ยวปิดเทอมลั้ลลาได้ในไนซาฟารี-อควอเรียม เชียงใหม่

สนุกต้อนรับปิดเทอมในเมืองเหนือ “เชียงใหม่” ไปกันเลย “เชียงใหม่ ไนต์ ซาฟารี” ตื่นตากับการแปลงโฉมธรรมชาติให้กลายเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่า ในป่าเขียวขจี มีรถรางบริการนั่งชมรอบพื้นที่ พร้อมไกด์เสียงใสๆ เล่าเรื่องตลอดเส้นทาง  2 โซน โซนแรก “สะวันน่า ซาฟารี” ละลานตากับสัตว์ป่าที่เริงร่าอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้าง กับ โซนที่สอง “Predator Prawl” ดูวิถีแห่งการล่าของเหล่าสัตว์ใหญ่เจ้าป่า อย่าง เสือ สิงโต หมีขอ ไฮยีน่า  สารพัดสัตว์นักล่า ต่อไปถึง Jagual Trail Zone เส้นทางเดินชมความเป็นอยู่ของสัตว์ตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่รอบทเลสาบ

ห้ามพลาด ! โซนโชว์พิเศษ วิถีของนักล่ายามค่ำคืนในคอนเซ็ปต์ Night Predator Show ดูแบบใกล้ชิดติดจอรวมเหล่าสัตว์ เสือ สิงโต หมีขอ ไฮยีน่า เม่น นากใหญ่ขนเรียบ หมูป่า และดูเสือโคร่งกับเจ้าสิงห์โตเต้นระบำ กระโดดไกล กระโดดสูง ภายใต้การควบคุมของครูฝึกไทเกอร์แมน และอำลากันด้วย การดูโชว์ “ซาฟารี แดนซ์” กับ น้ำพุดนตรี หรือที่เรียกกันติดปากว่า Music Fountain with Water Screen

บัตรเข้าชม แบ่งตามรายการ 1.เดินชมสัตว์ 11.00-21.30 น.เด็ก 25 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท นั่งรถชมสัตว์กลางวัน 15.00-16.00 น. เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท นั่งรถชมสัตว์กลางคืน 18.00-21.00 น.เด็ก 125 บาท ผู้ใหญ่ 300 บาท ผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป โชว์บัตรประชาชน ได้ส่วนลด 50 %

ต่อด้วย “เชียงใหม่ ซู อควอเรียม” พาเด็ก ๆ ไปสร้างเสียงหัวเราะ บันทึกความทรงจำดี ๆ ในศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำครบวงจรและอุโมงค์ใต้น้ำกว้างและยาวสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในมีปลาน้ำจืดกับปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์รวมแล้วกว่า 250 สายพันธุ์ มีมากกว่า 25,000 ตัว ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ แจ้งไปก่อนล่วงหน้า 1 วัน เพื่อร่วมกิจกรรมชวนดำลงสู่อุโมงค์น้ำสำรวจโลกใต้ทะเลแบบผิวน้ำหรือ Snorkeling Explorer และน้ำลึก หรือ Scuba Explorer มีบริการวันละ 2 เวลา คือช่วง 10.30 น.และ 13.30 น.

บัตรเข้าชมอควอเรียม คนไทย เด็ก 150 บาท ผู้ใหญ่ 220 บาท ต่างชาติ เด็ก 280 บาท ผู้ใหญ่ 370 บาท รวมค่าเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ไว้แล้ว ฟรีสำหรับเด็กความสูงต่ำกว่า 90 ซม. ส่วนค่าร่วมกิจกรรมดำผิวน้ำคนละ 1,000 บาท ดำน้ำลึกคนละ 4,290 บาท

เที่ยวเมืองไทย...ไม่ต้องเดี๋ยว...ไปเที่ยวกันได้เลย ทั้ง 365 วัน

@การฝึกสมาธิช่วยชะลอวัยได้จริง

ในยุคนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพมากมายที่สามารถช่วยให้อายุยืนได้ โดยเฉพาะข้อมูลการฝึกสมาธิและการนั่งสมาธิ ไม่เพียงแต่เป็นการฝึกปฏิบัติที่ใช้ความตั้งมั่น จดจ่อ แน่วแน่อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หากยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ช่วยผ่อนคลายความเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการทำสิ่งต่างๆ ตลอดจนบรรเทาโรคให้ดีขึ้น รวมไปถึงยังช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย ทำให้เกิดผลมากมายดังนี้

-ผู้ที่ฝึกสมาธิจะมีอายุเซลล์เด็กกว่าอายุจริงถึง 12 ปี

-กระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการชะลอชรา เช่น

- เมลาโทนิน ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการนอนหลับและสารต้านอนุมูลอิสระได้ถึง 98-300%

- DHEA ซึ่งเป็นฮอร์โมนต้านริ้วรอยได้ถึง 44-90%

- ลดการผลิตคอร์ติซอล ฮอร์โมนเครียดที่ทำให้ชั้นผิวบางลงและอักเสบเรื้อรังได้ถึง 47%

- เพิ่มการทำงานของเอรไซม์เทโลเมอเรสถึง 33% ช่วยสร้างและเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ ยิ่งยาว ยิ่งดูอ่อนเยาว์

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “รมช.ถาวรจี้การบินไทยทำ6เรื่องด่วนต้องเสร็จสิ้นปี’62

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแล บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ติดตามความคืบหน้าในการจัดทำแผนธุรกิจหลายครั้ง โดยไม่กังวลถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ขาดทุนสะสมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดมีนโยบายให้คณะกรรมการ (บอร์ด) และฝ่ายบริหารเร่งปฏิบัติ 6 เรื่องหลัก ดังนี้

1.จัดทำแผนฟื้นฟูและแผนบริหารธุรกิจฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และรายงานผลประกอบการทุกเดือน 2.รายงานความคืบหน้าการทบทวนการจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ ทุกเดือนจนกว่าแผนจะแล้วเสร็จ 3.ให้พิจารณาแผนการบริหารจัดการและโครงสร้างบริษัทอย่างละเอียด รอบด้าน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ 4.รายงานสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ปัญหาพร้อมสภาวะกระแสเงินสดทุกเดือน 5.รายงานความคืบหน้าเรื่องการลงทุนในศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) อู่ตะเภา (ชลบุรี-ระยอง) ทุก 15 วัน 6.รายงานแนวทางแก้ไขปัญหายืดเยื้อภายในองค์กร ซึ่งกระทบต่อต้นทุน การหารายได้ ผลประกอบการ เช่น การขายเครื่องบินที่ปลดระวางแล้ว การกำหนดเส้นทางบิน มาตรการขายตั๋วเครื่องบิน และอื่น ๆ

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้จัดทำแผนระยะสั้นเพื่อสร้างผลสัมฤทธิ์ 4 เรื่อง คือ 1.เพิ่มรายได้จากการขายตั๋วช่วงไฮซีซันปี 2562ให้มากที่สุด เน้นการขายผ่านออนไลน์ 2.ลดค่าใช้จ่าย โดยจะยกเลิก หรือเลื่อนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป หารือพนักงานลดวันทำงาน ลดค่าล่วงเวลาลง 3.ปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับงาน 4.เร่งวิเคราะห์ตลาดและเส้นทางบินในบริษัทปัจจุบันเพื่อนำไปทำแผนจัดซื้อฝูงบินใหม่ตามจำนวนอย่างเหมาะสม

ส่วนแผนระยะยาว 1.แผนลงทุนในศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) อู่ตะเภา (ชลบุรี-ระยอง) มีพันธมิตรคือแอร์บัสปลายปีนี้เตรียมลงทุน เรื่องดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขานรับเทคโนโลยีใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 2.จัดการทรัพย์สินที่ไม่เกิดประโยชน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3.ผลักดันให้ไทยสมายล์ ซึ่งการบินไทยถือหุ้น 100 % บริหารการใช้ฝูงบินตั้งแต่ไฮซีซันปีนี้เป็นต้นไปทำให้ได้วันละ 10.30 ชั่วโมง เพื่อปลดล็อกขาดทุนให้สำเร็จภายในปี 2563

นายสุเมธยืนยันว่า สำหรับแผนจัดหาฝูงบินใหม่ 38 ลำ ต้องนำกลับมาวิเคราะห์ความสมดุลระหว่าง เส้นทางบิน การตลาด การแข่งขัน สภาพเศรษฐกิจ การแข่งขัน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกการบินไทยในระยะยาว ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารมีมติการบินไทยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ 24 กันยายน 2562 ตอนนี้ตั้งเป้าจะทำให้เสร็จภายในสิ้นปี 2562

ข่าวที่สอง “คลังรุกชิมช้อปใช้เฟส2เน้นเป๋าตัง2แจกเงินคืนเพิ่ม20%

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า ขณะนี้การขยาย “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นทางนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ( ครม.) วันที่ 22 ตุลาคม นี้ เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนราว 2 ล้านคน ในช่วงกลางวันแทน พร้อมกับเดินหน้าโครงการทันที โดยจะไม่แจกเงิน 1,000 บาท แต่จะเน้นเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้เงินคืนสูงสุดถึง 20 % เพราะต้องการเจาะกลุ่มกำลังซื้อสูงเข้ามาใช้แอพลิเคชั่น เป๋าตัง2 มากขึ้น ตัวอย่างเช่นคนที่ใช้จ่าย 30,000 บาท รับเงินคืน 15% ใช้จ่ายเงินมากกว่า 30,000- 50,000 บาท อาจได้รับเงินคืนเพิ่มเป็นขั้นบันไดถึง 20% สิทธิดังกล่าวนี้คนที่ลงทะเบียนเฟสแรกไว้ก็จะได้รับด้วยเช่นกัน หากใช้จ่ายตามเงื่อนไขใหม่ที่กำหนดไว้ อีกทั้งจะขยายเวลาทั้งโครงการไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จากเดิมให้แค่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562

ส่วนเรื่องงบโครงการ ชิม ช้อป ใช้ เฟส 2 คลังจะใช้วงเงินของเดิมตามที่เคยขอ ครม.ไว้เฟสแรก 19,000 ล้านบาท ตอนนี้เพิ่งใช้ไปเพียง 10,000 ล้านบาท ยังเหลือวงเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท ทั้งเพื่อลดภาระงบประมาณแผ่นดิน ควบคู่กับการใช้มาตรการดังกล่าวกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศช่วงปลายปีให้คึกคัก

ข่าวที่สาม “รฟท.ลั่นจ่อลงนามซีพีเดินหน้ารถไฟ3สนามบิน25ต.ค.นี้

นายจิรุจตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า มติที่ประชุมบอร์ด รฟท. มอบหมายให้ผู้ว่า รฟท. ทำหน้าที่เป็นผู้ลงนามโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) กำหนดร่วมลงนามกับกลุ่มซีพีวันที่ 25 ตุลาคมนี้

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) “กพอ.” เปิดเผยว่า มติการประชุม กพอ. ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบเรื่องกรอบระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่สาธารณูปโภคโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน ช่วงสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กิโลเมตร (ก.ม.) นั้น รฟท. พร้อมส่งพื้นที่ แต่ให้เร่งรัดส่งพื้นที่ช่วงสถานีสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 170 ก.ม. ภายใน 1 ปี 3 เดือน หรือหลังการลงนามแล้วเต็มที่ไม่เกิน 2 ปี ช่วงสถานีพญาไท-ดอนเมือง ระยะทาง 22 ก.ม. ให้เร่งรัดพร้อมส่งพื้นที่ภายใน 2 ปี 3 เดือน หรือไม่เกิน 4 ปี

เพื่อเปิดบริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้ทันตามกำหนด คือ ช่วงสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ปี 2566-67 ช่วงสถานีพญาไท-ดอนเมือง ปี 2567-68 แต่หากมีเหตุจำเป็นไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนด ก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะสามารถขยายเวลาให้เอกชนทำงานต่อไปได้โดยไม่ต้องจ่ายชดเชย เนื่องจากเอกชนรับทราบเงื่อนไขการลงทุนครั้งนี้จะต้องแบกรับต้นทุนบวกความเสี่ยงทั้งหมดนั่นเอง

ข่าวที่สี่ “บางกอกแอร์ผนึกKTCโอนสิทธิ์แลกแต้มแจกไมล์เพิ่ม50%

บางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า ร่วมกับ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) “เคทีซี” จัดโปรโมชั่น “Happy บินไวได้เพิ่ม 50% กับบัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS” โดยผู้ถือบัตรเครดิตดังกล่าวทุกประเภท สามารถบินกับบางกอกแอร์เวย์สได้ไวกว่าเดิมด้วยข้อเสนอพิเศษ 1.รับคะแนนสะสมฟลายเออร์โบนัสเพิ่ม 50% เพียงโอนคะแนน KTC FOREVER เป็นคะแนนสะสมฟลายเออร์โบนัสในระยะเวลาที่กำหนด ทุก 750 คะแนนของ KTC FOREVER จะเท่ากับคะแนนสะสมฟลายเออร์โบนัส 750 คะแนน 

สมาชิกสนใจโอนผ่านช่องทาง KTC Mobile, KTC Online หรือ KTC PHONE 02 123 5000 ของเคทีซีได้ระหว่างวันนี้– 16 พฤศจิกายน 2562 ผู้ที่โอนคะแนนสูงสุด 9 คนแรก ลุ้นรับบัตรกำนัลที่พัก 3 วัน 2 คืน จากโรงแรมเครือดุสิตธานี ได้แก่ ดุสิตธานี มัลดีฟส์, ลากูน่า ภูเก็ต, กระบี่ บีช รีสอร์ต, หัวหิน, พัทยา และเครือดุสิตปริ๊นเซส ที่ มูนไรส์ บีช รีสอร์ท ฟู้โกว๊ก, ศรีนครินทร์ กรุงเทพ, เชียงใหม่  โทร. 1771 ทุกวัน เวลา 08.00 – 20.00 น.

รวมทั้งมีโปรโมชั่นให้ผู้สมัครใหม่บัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS วันนี้ - 31 ธันวาคม 2562 รับคะแนนฟลายเออร์โบนัสพิเศษ 1,000 คะแนน สมัครได้ที่ KTC Phone โทร 02 123 5000 หรือhttps://flyerbonus.bangkokair.com/th/ktc-bangkokairways/

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.