เปิดใจ "ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์" รองผู้ว่าททท.คนใหม่ไฟแรง-จัดทัพสินค้ากรีนท่องเที่ยวชนบทปลุกเศรษฐกิจ-More Fun KUSATSU บางแสน
เปิดใจ ”ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”รองผู้ว่าททท.ยุคใหม่ไฟแรง
จัดทัพใหญ่สินค้าชนบทบุกตลาดโลกชูกรีนค้ำเศรษฐกิจไทย
คิงเพาเวอร์เทจัดDelights&Surprisesโกยเงินเข้าประเทศ
Shoot&Shareที่คิงเพาเวอร์รางน้ำลุ้นตั๋วบินฟรีสุราบายา
ททท.เท100เดียว4หมื่นสิทธิ์-วันธรรมดาช็อกโลกอันลิมิต
ททท.ดึงนักบิดโลกMOTOGPโหมโฆษณาเจาะ800ล้านคู่
บางจากลุยออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ชวนคนช้อป15-17ต.ค.62
MORE FUN!คุซัทสึออนเซนยกกุมมะญี่ปุ่นมาไว้บางแสน
คนวัยทำงานฟังให้ดีกินอย่างไรถึงจะทำให้สุขภาพดียาวๆ
ยูเนียนเพย์ปลุกจีนแห่ใช้เงินเที่ยวไทยพุ่งฉลองวันชาติ7วัน
ไปรษณีย์ไทยชวนสนุกกับ5จุดเช็คอินชลบุรี 9-13 ต.ค.62
ซีพีแลนด์ทุนใหญ่ปิ๊งอีสานผุดโรงแรมรับเทรนด์ใหม่มาแรง
เข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
#รวยด้วยข่าว97 #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว # # #MOTOGPบุรีรัมย์ #ช้างสเตเดี้ยม
#ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ #MoreFunKUSATSU
ช่วงที่ 1 เปิดใจ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”
นั่งรองผู้ว่าการคนใหม่ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) โชว์พลังคนรุ่นใหม่ จัดทัพใหญ่สินค้าปี 2563 ลุยพัฒนาโปรดักซ์ท่องเที่ยวชนบท Grass
Root ไปจนถึง Supper
Luxury เริ่มแล้วทั้ง 3
โปรเจ็กต์ “ชิม
ช้อป ใช้-100เดียวเที่ยวทั่วไทย-วันธรรมดาราคาช็อกโลก”
ต่อลมหายใจเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้คึกคัก ปีหน้าปลุกกระแส
“เพิ่มเงินออมชุมชน-ลดหนี้ครัวเรือน-คืนสันติสุขคนไทย” พ.ย.นี้นำทัพสินค้า Green
Tourism ประชันขายแข่งกับนานาชาติในงาน
WTM 2019 ผลักดันไทยผงาดผู้นำท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแห่งเอเชีย
 |
| นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งจะเดินหน้าศักราชใหม่ปีงบประมาณ
2563 เริ่มตุลาคม 2562
นี้เป็นต้นไป
สิ่งแรกที่ต้องเปิดรับฟังเสียง 2 กลุ่ม
ได้แก่ กลุ่มแรก
กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกถึงเทรนด์ความต้องการท่องเที่ยวเมืองไทย
กลุ่มที่ 2 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยปัจจุบันต้องเผชิญสถานการณ์แข่งขันรุนแรง
ททท.จึงต้องช่วยหาวิธีทำให้การพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวก้าวไปข้างหน้าแบบวินวินด้วยกันทุกฝ่าย
ปัจจัยสำคัญมากต่อการสร้างสรรสินค้าท่องเที่ยว
นอกจากส่งมอบด้วยใจแล้วต้องพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตอบโจทย์หลักของ
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.เรื่อง ROX : Return of Experience ประโยชน์ที่ทุกฝ่ายจะได้รับกลับคืน
ความประทับใจในประสบการณ์เป็นที่ตั้ง
ทำให้เกิดการแชร์สิ่งดีไปยังเครือข่ายรอบด้านเป็นคุณูปการกับอุตสาหกรรม ปี 2563
จะสร้างสินค้าภายใต้บริบท SDG
: Sustianable Development Global :การท่องเที่ยวที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบอย่างยั่งยืน
ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต้องเป็นหนึ่งในการทำให้เกิดความยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ตอนนี้จึงมองการนำการท่องเที่ยวเป็นช่องทางลดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ
ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างสันติสุข
ที่ผ่านมา
ททท.ได้ยกระดับพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวต่าง ๆ ตอบโจทย์มาพอสมควร
แต่ก็ต้องยกระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
ปี 2563
จะแบ่งหมวดสินค้าท่องเที่ยวเป็น 4 หมวดหลัก ประกอบด้วย
หมวดที่
1 สินค้าท่องเที่ยวศิลปะวัฒนธรรม
โดยมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ที่มีศิลปะ และภูมิศาสตร์เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ หมวดที่ 2 สินค้าท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หมวดที่
3
สินค้าท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ หมวดที่ 4
สินค้าท่องเที่ยวเชิงมูลค่า
โดยก่อนจะลงมือพัฒนาสินค้าต่าง
ๆ จะต้องมาดูถึงตลาดระยะใกล้และไกล ผนวกกับคู่แข่งของประเทศไทย
ตอนนี้มีข้ามมาหลากหลายพื้นที่มาก อย่าง มาเลเซีย ใช้สโลแกนเมืองหลากหลายวัฒนธรรม
ธรรมชาติ อาหาร เหมือนเมืองไทย กัมพูชา-เคลมว่าเป็นดาวรุ่งแห่งเอเชียตะวันออก
นิวซีแลนด์-ขายความเป็นธรรมชาติ ญี่ปุ่น- Omi the New Tokyo ชูขายเมืองหลวงบูรณาวัฒนธรรมความเก่ากับของใหม่ผสมผสานกันไปต้อนรับปี
2563
ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “จีน” เพิ่งจัดวันชาติเมื่อ 1 ตุลาคม 2562 ใช้แคมเปญความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอาหารถิ่นชูโรงการขาย
สิ่งเหล่านี้ในประเทศต่าง ๆ ก็มีจุดขายท่องเที่ยวคล้ายคลึงกับไทย
แต่ความได้เปรียบคือไทยเป็นศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวภูมิภาคมีวัฒนธรรม
กับความเป็นไทยและ Hospitality
ฉนั้นจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่าง
ส่วนอัตลักษณ์ชุมชนก็ยังคงขายยังต่อเนื่องในปี 2563 จะลงลึกมากถึงเซกเมนท์ ตัวอย่างที่ผ่านมานำเสนอการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม
พอสมควร ส่งมอบ Tourism Experience เสร็จเรียบร้อย
ขั้นตอนต่อไปจะยกระดับการขายท่องเที่ยวระดับ Glass root -วิถีชีวิตชนบทดั้งเดิม
โดยมีตัวชี้วัดในพื้นที่ความเป็นธรรมชาตินั้น ๆ เพื่อตอบโจทย์ SDG โดยเพิ่มตัวชี้วัดเข้าไป “ความสุขของชุมชนจากเงินออมในชนบท”
เพิ่มมากขึ้น สามารถตอบรัฐบาลได้ถึงนโยบายที่
ททท.นำเงินมาใช้สร้างสินค้าท่องเที่ยวในมิติเกี่ยวกับ
เงินออมต้องมากขึ้น-หนี้ครัวเรือนต้องลดลง”
จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เข้าไปเสริม
โดยให้ชาวชนบทรักษาวิถีดั้งเดิมโดยไม่ต้องปรุงแต่งพื้นถิ่นเพียงเพื่อต้องลุกขึ้นมาทำการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
เพราะจะได้ตอบโจทย์ Tourism Experience
นางสาวฐาปนีย์ย้ำว่า
ปี 2563 จะลงลึกเซกเมนท์สินค้าท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
นอกจากวิถีชีวิตชนบท วัฒนธรรม แล้ว ยังต้องเพิ่มเชิงมูลค่า ประกอบด้วย
1.ทำโครงการ
Luxperience ร่วมกับทุกภาคส่วน
ส่งเสริมนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินสูง โปรโมต การท่องเที่ยวกลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน
ช้อปปิ้ง
พยายามสร้างแบรนด์ท่องเที่ยวไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถออกแบบการท่องเที่ยวได้ไม่ว่าจะเป็น
“คู่รัก” ประเภทไหนเมื่อมาเมืองไทยจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ
2.สินค้าท่องเที่ยวของกลุ่มผู้สูงวัย
รักษาสุขภาพ ปี 2563 ฉลอง
ททท.ครบรอบ 60 ปี
เตรียมจัดทำมหกรรมการท่องเที่ยวโครงการ “60th Route 60
Limitedition for 60 Plus”
แนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับความต้องการของคนวัย 60 ปีขึ้นไป แต่บางคนอายุไม่ถึงก็สามารถใช้เส้นทางนี้ได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับ
Green Tourism ททท.จะต้องผนึกความร่วมมือกับผู้ประกอบการ
เพราะปี 2563 เป็นต้นไป
การท่องเที่ยวสีเขียวจะไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์อีกต่อไป
แต่จะเป็นความจริงของทั่วโลกต้องทำโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะการลงมือทำการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เนื่องจากตอนนี้หลายประเทศในแถบสหภาพยุโรปเริ่มปฏิบัติการต่อต้านการเลือกไปเที่ยวในประเทศที่ไม่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป
ให้ความสำคัญมาก ทาง ททท.จะไม่ยอมให้หลายประเทศมาแบนประเทศไทย
จึงต้องกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสาขาต่าง ๆ
ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตื่นตัวดูแลการลงทุนโดยดูแลสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามมาตรฐานสากล
ททท.เองก็จะปลุกกระแสโครงการ “ปีแห่งการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ”
เต็มรูปแบบ
ในเวทีประกาศรางวัลผู้ประกอบการท่องเที่ยวยอดเยี่ยม-กินรี
อวอร์ด ของ ททท.เมื่อวันท่องเที่ยวโลก 27 กันยายน 2562 ได้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว
จำนวนมาก ทำชื่อเสียง สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยว
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อีก 2 ปีหน้าจะมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลุ่มรักษาสิ่งแวดล้อมเข้ารับรางวัลกินรีเพิ่มขึ้น
อีกทั้ง ททท.ยังได้จัดทำโครงการท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกหลายกิจกรรมเข้าสู่ตลาดการขาย
เช่น Green A-LA-CARTE
เมนูท่องเที่ยวสีเขียว
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวสีเขียวผสมผสานกันไปได้ตามความชอบของแต่ละคน
เช่น สนใจเส้นทางเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ชอบกิจกรรมผจญภัยแบบโลดโผน ก็สามารถเลือกแล้วออกแบบเดินทางได้ทันที
หรือ Combo Set จะพุ่งเป้าทุกอย่างเป็นสีเขียว
ทั้งโรงแรม ที่พัก บริการโลจิสติกส์เดินทางทั้งโปรแกรม
โดย ททท.จะนำสินค้าท่องเที่ยว Green
Tourism World Travel Mart 2019 ที่กรุงลอนดอน
ระหว่าง 4-8 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งทั่วโลกจะนำเสนอการท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบอย่างยั่งยืน
เป็นธีมหลักของฝ่ายสินค้าท่องเที่ยวที่จะถือธงหลักไปปักทำการตลาดการขายในงานดังกล่าว
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
การนำสินค้าท่องเที่ยวต้อนรับศักราชใหม่ที่ ททท.พุ่งเป้าพัฒนาเข้าสู่ตลาดการขายตั้งแต่การท่องเที่ยวระดับฐานราก
Glass Root เรื่อยไปจนถึงหรูหราสุด
ๆ Luxprerience นั้น
มีสินค้าบางประเภทยังไม่ค่อยได้รับการรับรู้ก็ต้องทำตั้งแต่ต้นน้ำด้วยกลยุทธ์
ลงไปสำรวจใหม่อีกครั้งควบคู่กับทดสอบโปรดักท์สามารถนำมาขายได้จริง (product
testing) ส่วนกลุ่มสินค้าสามารถขึ้นหิ้งขายได้ด้วยตัวเอง
ททท.ก็จะผลักดันขายได้เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด
ททท.เพิ่งจะเปิดโครงการใหม่ “ททท.ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์” เป็นออนไลน์
ร่วมกับสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยว และ อพท.นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวพร้อมเดินทาง
ภายในดีพาร์ทเมนท์สโตร์ออนไลน์จะมีสินค้าวางไว้ในเชลท์ทั้ง 6 ชั้น นำเสนอแพกเกจท่องเที่ยว 4 หมวดหลักข้างต้น การเดินทาง-ระบบคมนาคม
สปาความงาม กินรี ร้านอาหาร สิทธิพิเศษ
ทั้งหมดคัดสรรสินค้าท่องเที่ยวที่มีคุณภาพจัดเต็มคุ้มค่าเมื่อเข้ามาเลือกซื้อสินค้าแต่ละอย่างจาก
ททท.
สำหรับชั้นที่
6 ใน “ททท.ดีพาร์ทเมนท์
สโตร์” เป็นชั้นวางขายสิทธิพิเศษร่วมกับพันธมิตร เช่น โครงการของรัฐบาล “ชิม ช้อป
ใช้” กระตุ้นให้คนลุกขึ้นท่องเที่ยวเมืองไทย ผ่านถุงเงินที่ 1 ใช้ตามสิทธิที่ได้รับ 1,000 บาท ถุงเงินที่ 2 ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแล้วรับ Cash Back คืนสูงสุด 15 % จากมูลค่าที่ใช้ไป ดังนั้น
ททท.จะนำสินค้าที่มีอยู่มาต่อยอดกระตุ้นใช้เงินเพิ่มด้วยธีมแคมเปญ
“ถึงเวลาเที่ยวให้ทั่วไทย” 2 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการแรก “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก (mass
tourism) กำหนดขาย 4
ครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
2562
รวมทั้งยังเปิดให้กลุ่มคนลงทะเบียนโครงการ ชิม ช้อป ใช้
นำเงินมาใช้กับโครงการนี้ได้เช่นกัน เพราะเมื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก จ่ายแค่
100 บาท
แล้วก็น่าจะต้องเพิ่มการใช้เงินระหว่างท่องเที่ยวได้อีก
ทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โครงการที่
2
วันธรรมดาราคาช็อกโลก
ระหว่างจันทร์-พฤหัสบดี ของแต่ละสัปดาห์ ราคาลดมากกว่า 70 % รวมถึงซูเปอร์ยอร์ชเที่ยวหรูหราก็ลดด้วยกว่า 60 % ที่จะมาปลุกกระแสเที่ยวในประเทศอย่างคึกคัก
เพราะตามปกติคนไทยจะเลือกท่องเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ แต่โครงการนี้จะกระตุ้นคนที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงื่อนเวลา
เช่น กลุ่มผู้สูงวัย คนรุ่นใหม่ทำงานอิสระ ครอบครัวปิดเทอม
ททท.ต้องการให้ชวนกันไปเที่ยววันธรรมดา จึงได้จัดมหกรรมเน้นราคาช็อกโลกขึ้นมา
โดยจะให้สิทธิพิเศษเช่นเดียวกัน โดยไม่จำกัดจำนวน ช่วงเวลาใช้สิทธิอยู่ในช่วงตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม
นี้ แล้วกลุ่ม ชิม ช้อป ใช้ก็ร่วมกับกิจกรรมนี้ได้เช่นกัน
สำหรับวิธีการลงทะเบียนเข้าร่วม
2 โครงการนั้น
ททท.จะจัดทำ มินิเว็บไซต์ โครงการแรก “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย”
ไว้ใน www.tourismthailand.org
เปิดให้เข้ามาลงชื่อใช้สิทธิได้วันละ 10,000 สิทธิ์ ในราคาสิทธิละ 100 บาท เมื่อได้รับการยืนยันก็นำไปใช้ได้มีทั้ง
ตั๋วเครื่องบิน ห้องพักโรงแรม บัตรรับประทานอาหาร บัตรทำสปา จะอยู่ในโปรแกรมดังกล่าว
รวมแล้วทั้งโครงการจะได้รับประมาณ 40,000 สิทธิ์
ส่วน “วันธรรมดาราคาช็อกโลก” จะไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ แต่บางแห่งจะกำหนดโควต้า เช่น
ซูเปอร์ยอร์ช อาจจะให้เพียง 200 สิทธิ์แรกเท่านั้น
หรือวันละ 3 สิทธิ์
โดยแต่ละสินค้าจะมีเงื่อนไขระบุไว้ชัดเจน จึงขอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์
ททท.ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ปลายปี
2562 ททท.จะใช้หลัก 365 เมืองไทยเที่ยวได้ทั้ง 356 วัน พื้นที่ไหน ๆ เมืองหลัก เมืองรอง
ก็สามารถไปท่องเที่ยวได้ทุกวัน ทุกฤดู หน้าฝน หน้าหนาว หน้าร้อน
โดยจะจัดลำดับการลงพื้นที่สำรวจเพื่อนำมาเสนอขายต่อไป ในวันที่ 24 ตุลาคม นี้จะมีพระราชพิธีทางชลมารค
ทางกระทรวงวัฒนธรรม เตรียมนำเรือจำลองที่ใช้ในพระราชพิธี พยุหยาตราทางชลมารค
มาจัดแสดงบริเวณท้องสนามหลวง เพื่อให้นักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติได้ชม
ตั้งแต่ 24 ตุลาคม -11 พฤศจิกายน 2562
ระหว่าง
9-11 พฤศจิกายน 2562
ททท.จะเป็นเจ้าภาพจัดงานลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่
บริเวณ สวนสันติชัยปราการกรุงเทพมหานคร พร้อม ๆ กับเอกชนก็จัดด้วยเช่นกัน
สุดท้ายปลายปีไปเจอกันที่งาน Countdown
สุดอลังการทั่วทุกภาคของประเทศ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์เทลดDelights&Surprisesฉลอง30ปี”
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา
ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า คิง
เพาเวอร์ จัดแคมเปญพิเศษแห่งปี “Delights
and Surprises celebrate 30 years of remarkable journey ยิ่งช้อป
ยิ่งคุ้ม ได้ลุ้นบินฟรี 30 เส้นทาง”
ระหว่าง 1-31 ตุลาคมนี้ ที่ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา
และภูเก็ต หรือร่วมช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ www.kingpower.com รวมถึง
KING POWER Application (iOS และ Android)
จัดทำแคมเปญขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 30 และต้อนรับฤดูท่องเที่ยวช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคมนี้
ซึ่งปลายปี 2562
แนวโน้มนักท่องเที่ยวคนไทยไปต่างประเทศยังเติบโตต่อเนื่องจากการเก็บข้อมูลจะสูง 2
ช่วงหลัก คือ เมษายน และไตรมาสสุดท้ายของทุกปี ที่มีวันหยุดยาวและปิดเทอม สอดคล้องกับการแคมเปญที่จัดขึ้นครั้งนี้
ไฮไลท์สำคัญคือจะเปิดให้ได้ลุ้นทริปท่องเที่ยวในฝัน
เมื่อช้อปครบทุก 5,000 บาท รับทันทีคูปองลุ้นเที่ยวฟรีกับ 30 เมืองทั่วโลก เช่น
ตุรกี มอสโคว ลอนดอน ปารีส โรม นาโกย่า คุนหมิง บาหลี และรับทันที ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ เมื่อช้อปครบ 50,000 บาท
รวมทั้งเมื่อช้อปครบทุก 30,000 บาท
รับสิทธ์ลุ้น Carat Rewards มูลค่ารวม 3,000,000 บาท พิเศษ!! ช้อประหว่างวันที่ 17-20
ตุลาคมนี้ ลด30% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงร่วมลุ้นรางวัลอื่นๆ
อีกมากมายภายในงานตลอดเดือนตุลาคมนี้
พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จากพันธมิตรการท่องเที่ยว เช่น ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ
(กรุงเทพฯ-สิงคโปร์) เริ่มต้นเพียง 1,240 บาท, (กรุงเทฯ-ไทเป)
เริ่ม 3,645 บาท รวมถึง แพ็กเกจทัวร์ตุรกี 8 วัน 6 คืน
เริ่มต้นเพียง 22,900 บาท และอื่น ๆ ลดราคาสูงสุด 60% พิเศษ!!
17-20 ตุลาคม พิเศษที่มากกว่าคุ้ม รับส่วนลดพิเศษเฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมรายการ 30%
ข่าวที่ 2 “สนุกกับคิงเพาเวอร์ Shoot&Shareลุ้นตั๋วบินฟรีสุราบายา
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ชวนนักช้อปร่วมสนุกแบบคุ้มสุดๆ ฉลองครบรอบ 30 ปี
คิง เพาเวอร์ กับแคมเปญ King
Power Delights And Surprises 2019
โดยร่วมกิจกรรมพิเศษ มาถ่ายรูปสไตล์นักเดินทางสุดเก๋ในงาน
เพื่อลุ้นบินฟรี!
พิเศษ! ตั้งแต่วันนี้ - 20
ตุลาคม 2562 เพียงแวะมาที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ถ่ายรูปแล้วลุ้นตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ – สุราบายา รวม 2
รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่งกับกิจกรรม Shoot & Share ได้ง่ายๆ
ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ
1. ถ่ายรูปในงาน
และเขียนแคปชั่นเรื่องราวการเดินทางสุดประทับใจในแบบคุณ
2. ติด
Hashtag#KingPowerDelightsAndSurprises #MyTravelDNA #ยิ่งช้อปยิ่งคุ้มได้ลุ้นบินฟรี
3. โพสต์ลง
Facebook ของคุณ และตั้งค่าเป็น Public โพสต์ที่โดนใจทีมงาน
จะได้รับตั๋วเครื่องบิน ไป - กลับ กรุงเทพฯ – สุราบายา รางวัลละ 2
ที่นั่ง รวม 2 รางวัล
ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 28
ตุลาคม ทาง https://www.facebook.com/Kingpowerofficial
และมาช้อปกับโปรโมชั่นพิเศษเพื่อนักเดินทางอีกมากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 31
ตุลาคม 2562 ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) มีมติอนุมัติให้
ททท.เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวต่อเนื่องจากโครงการ “ชิม ช้อป ใช้”
ซึ่งเตรียมเปิดตัวธีม “ถึงเวลาเที่ยวให้ทั่วไทย” กับ 2 โครงการ คือ “100 เดียวเที่ยวทั่วไทยกับวันธรรมดาราคาช็อกโลก”
ททท.เปิดมินิเว็บไซต์ไว้ใน www.tourismthailand.org
ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปลงทะเบียนตั้งแต่
17 ตุลาคม 2562
ตามขั้นตอนจะต้องใช้เลขบัตรประชาชนผ่านออนไลน์
แต่จะลดขั้นตอนความยุ่งยากเรื่องการตรวจสอบข้อมูลเรื่องต่าง ๆ
ที่เคยใช้กับชิมช้อปใช้ลง เพื่อให้เข้าไปใช้สิทธิ์ได้ต่อเนื่อง
โดยให้สิทธิ์ลงทะเบียนก่อนได้รับสิทธิก่อน
กับโครงการใหม่ซึ่งจะแถลงรายละเอียดทั้งหมด 17 ตุลาคมนี้ เพื่อให้นำไปใช้ได้ 4 รอบ ช่วงวันที่ 11, 12 พฤศจิกายน และ 11, 12 ธันวาคม 2562 ประกอบด้วย
โครงการแรก “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” เน้นกลุ่มคนทั่วไป (mass) ลงทะเบียนได้ 4 รอบ ช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ จำนวนรอบละ 10,000
สิทธิ์/วัน รวมทั้งหมดไม่เกิน 40,000
สิทธิ์ เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน
ห้องพัก บัตรรับประทานอาหาร บัตรทำสปา ราคา 100 เดียว และอื่น ๆ ไม่รวมแพกเกจท่องเที่ยว
โดย
ททท.เตรียมจัดสรรงบประมาณตามมติครม.รวม 63.5 ล้านบาท นำไปสนับสนุน 20 % ของวงเงินแต่ละสิทธิ์
ให้แก่เอกชนท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ผลิตภัณฑ์ราคา 1,000 บาท นำมาเข้าร่วมขายราคาเพียง 100 บาท ก็จะได้งบสนับสนุนจาก ททท.200 บาท/สิทธิ์
โครงการที่ 2 “วันธรรมดาราคาช็อกโลก”
ททท.ได้เชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวลดราคาให้มากถึง 70 % กระตุ้นคนเที่ยว
เมื่อลงทะเบียนเลือกไปเที่ยววันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ของแต่ละสัปดาห์
จึงไม่ได้จำกัดจำนวน แต่ราคาจะถูกสุด ๆ แม้กระทั่งนั่งเรือซูเปอร์ยอร์ชก็อาจจะได้ส่วนลดถึง
60 % เช่นกัน
โดยจะสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ตลอดจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้
โดย
ททท.จะใช้งบประมาณที่ได้รับอนุมัติ 52.5 ล้านบาท
ทุ่มทำประชาสัมพันธ์แคมเปญโปรโมชั่นของเอกชนที่นำมาเข้าร่วมโครงการต่อเนื่องตลอด
ดร.ยุทธศักดิ์
ย้ำว่า ททท.จะใช้เงินที่ได้รับจากรัฐบาลอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
เพื่อมาต่อยอดกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้ง 2 โครงการ
โดยเฉพาะโครงการแรก “ชิม ช้อป ใช้” ที่เปิดให้คนไทย 10 ล้านคน ลงทะเบียนได้จนถึงพฤศจิกายนนี้
ถึงแม้ขณะนี้จะเต็มแล้วก็ตาม
ยังคงติดตามเข้าไปลงทะเบียนได้เพราะช่วงแรกอาจมีผู้โดนตัดสิทธิ์ไปตามเงื่อนไขกระทรวงการคลัง
ตามเป้าหมายการลงทุนในโครงการ ชิม ช้อป ใช้ นั้นลงทุนหมื่นล้านบาท
จะสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท หรือสร้างรายได้เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3
%
ข่าวที่ 3 “ททท.ดึงนักบิดโลกโมโตจีพีผลิตVDOบูมท่องเที่ยว”
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ในจัดการแข่งขัน โมโตจีพี
เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ณ สนามช้าง
อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
ระหว่าง 4-6 ตุลาคม มีนักแข่งดังของโลกอย่าง ฮอร์เก
ลอเรนโซ ยอดนักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า
คาล ครัทช์โลว นักบิดอังกฤษจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า สมเกียรติ จันทรา
ดาวรุ่งไทยวัย 20 ปี จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ได้ร่วมกันถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาในกรุงเทพฯ
กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬามอเตอร์สปอร์ตยอดนิยม “โมโตจีพี” เขาถึงแฟน ๆ ทั่วโลกกว่า 800 ล้านคู่
ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ททท. วางเป้าหมายเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทยด้านท่องเที่ยวและวัฒนธรรม
นำทีมโดยนักบิดที่มีชื่อเสียงอย่าง ลอเรนโซ รวมถึง ครัทช์โลว ภายใต้แนวคิด “FROM
ROAD TO ROOF”(จากท้องถนนสู่หลังคากรุงเทพฯ) เดินเรื่องถ่ายทำบนถนนใจกลางกรุงเทพฯ กับนักบิด “ลอเรนโซ และ ครัทช์โลวขึ้นบิดบนรถแข่ง Honda RC213V เคียงข้างสมเกียรติ ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน
ต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกคนสู่เมืองไทย ก่อนจะไปจบกันบนดาดฟ้าชั้น 78 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร หนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย และแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ
เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม เป็นคิวถ่ายทำบริเวณ ชั้น 78 ของ มหานคร
สกายวอล์ค จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ความสูง 314 เมตร ซึ่งมีจุดเด่นสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพมหานคร แบบ 360 องศา และมีพื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ บรรยากาศการต้อนรับเริ่มด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยต้อนรับนักแข่ง
ช่วงการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 จะส่งผลต่อเนื่องให้เกิดปัจจัยบวกกระตุ้นการท่องเที่ยว
และตัวเลขเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว ส่วนวีดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านการแข่งขัน “โมโตจีพี” ดังกล่าว จะเผยแพร่ทางออนไลน์ของ
MotoGP.com และสื่อมวลชนทั่วโลกก่อนเข้าสู่การแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019
ผู้สนับสนุนหลักการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ได้แก่ ททท. บริษัท
ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย,
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, บริษัท
ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
จำกัด จับมือกับ ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์จัดการแข่งขัน โมโตจีพี
ถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา เพื่อโปรโมทการแข่งขัน “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019
ข่าวที่ 4
“บางจากโหมการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์คล้ายทุน
15-17
ต.ค.นี้
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม
2562 มอบโอกาสการลงทุนโดยได้เตรียมเสนอขาย
“หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์มีลักษณะคล้ายทุน” ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท
ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นก่อนกำหนดและสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด
ๆ
โดยชำระคืนเงินต้นเพียงครั้งเดียวเมื่อเลิกบริษัท
หรือเมื่อผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นก็ก่อนกำหนดตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป
หรือตามเงื่อนไกขที่กำหนดในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้
ปัจจุบันอันดับความน่าเชื่อของ
บมจ.บางจากฯ ผู้ออกหุ้นกู้ Stable
A และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ BBB+/Stable โดยบริษัท
ทริสเรทติ้ง จำกัด
เตรียมเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท
จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท
และทวีคูณครั้งละ 100,000
บาท เสนอขายหุ้นกู้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ
ผู้ลงทุนทั่วไป
ระบุจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน
โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกบั้พร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใด
ๆ ก็ได้ ในแก่ผู้ถือหุ้นกู้โดยไม่จำกัดระยะเวลา และจำนวนครั้ง
ตามดุลพินิจของผู้ออกหุ้นกู้เพียงผู้เดียว
ทางบางจาก ได้แต่งตั้ง ธ.กรุงเทพ
ธ.กรุงไทย ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ และ บล. ภัทร
เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ดังกล่าว หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2335-4371, 0-2335-4499, 0-2335-8550
ช่วงที่ 2 เที่ยวไปด้วยกัน MORE FUN สุดเซอร์ไพรส์กับ “คุซํทสึ ออนเซน”
ยกต้นตำรับวัฒนธรรมอาบน้ำแร่แช่น้ำนมจากเมืองกุมมะ ญี่ปุ่น มาไว้ในบางแสน
พร้อมกับความสุขแบบสบายกระเป๋า เมนูแดนปลาดิบ โรงเตี๊ยมชากาแฟ ของหวาน นวดสปา
เรียนต่อยมวยไทย แล้วหันมาดูแลสุขภาพสำหรับ “คนวัยทำงาน” กินอย่างไรอายุยืน ส่วนข่าวร้อนรู้แล้วดีอย่าง
“ยูเนียนเพย์ปลุกจีนแห่ใช้เที่ยวเงินในไทย” 1-7 ตุลาคม 2562” ช่วงหยุดยาววันชาติจีน “9-13 ต.ค.นี้” ห้ามพลาด ไปรษณ์ไทย” ชวนไปสนุกกับ 5
จุดเช็คอินในชลบุรี
ส่วน “ซี.พี.แลนด์” ทุนใหญ่ปิ๊งขยายโรงแรมในอีสานขานรับเทรนด์ตลาดพันธุ์ใหม่มีไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเอง
@
More Fun !!คุซัทสึออนเซ็นยกกุมมะญี่ปุ่นมาไว้บางแสน
การไปพักผ่อนแปลกใหม่ในบางแสน
กับประสบการณ์ดี๊ดีในการอาบน้ำแร่แช่น้ำนม “คุซัทซึ ออนเซน” (KUSATSU ONSEN
CHOLBURI)
ตามแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมญี่ปุ่น ที่เจ้าของ “ธนิต วิรัชพันธุ์” นำที่ดินราว 3 ไร่ เทลงไป50 ล้านบาท
เนรมิตออนเซนแยกชายและหญิงโดยยกต้นแบบจากเมืองคุซัทสึ จังหวัดกุมมะ
ต้นตำรับมาไว้ในบางแสน ผสมผสานเข้ากับบริการนวดแบบครบวงจรทั้งนวดไทย สปา สครับ
ความงาม
โซนออนชาย
มีบ่อร้อน 3 บ่อเย็น 1
ถังไม้ 1 ซาวน่า 1 สตรีม 1
โซนออนเซนหญิง มีบ่อร้อน 2 บ่อเย็น 1 ถังไม้ 2 ซาวน่า
ตามปกติบ่อออนเซนจะใช้เวลาบำบัดระบบน้ำประมาณบ่อละ 15 นาที นำไม้สนนำเข้ามาใช้
และติดตั้งระบบเทคโนโลยีล้ำสมัยยุคล่าสุดจากอเมริกาฆ่าเชื้อโดยคลอรีนบวกโอโซนกับยูวี
เท่ากับฆ่าเชื้อ 3 ชั้น
ชั้นแรกฆ่าด้วยคลอรีน ชั้น 2 ต้องผ่านยูวี
ชั้น 3 ก่อนปล่อยลงบ่อออนเซนให้ผู้ใช้บริการจะต้องใส่โอโซนซึ่งเป็นออกซิเจนล้วน
ๆ เข้าไป ตามมาตรฐานอเมริกาซึ่งบังคับหากทำระบบสปาต้องมียูวี
ซึ่งระบบดังกล่าวราคาสูงต้องติดทั้งหมด 6 เครื่อง
บ่อร้อนจะแยกเป็น
2 ประเภท คือ 1.นำผงผลึกแร่(คล้ายเกลือไทย) จากเมืองคุซัทซึ
โดยนำน้ำออนเซนทำให้ตกผลึกแล้วนำมาป่นเป็นผง 2.บ่อน้ำนม เป็นซิกเนเจอร์ มาจากเมืองเดียวกัน
ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ
เหตุผลที่เลือกเมืองคุซัทซึอยู่ในจังหวัดกุมมะของญี่ปุ่นเพราะเป็นออนเซนดังติด 1
ใน 3 ทุกปี
ราคาบริการออนเซนเพียงคนละ
490 บาท
อยู่ได้ตลอดทั้งวัน
สามารถหมุนเวียนใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการได้ทั้งหมดโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มใน
ร้านกาแฟ ร้านอาหาร นวด แล้วกลับไปลงแช่ออนเซนใหม่จนกว่าจะหมดวัน
เพราะต้องการให้ลูกค้าอยู่นานที่สุด เพื่อให้คุ้มค่าการบริการ
เฉลี่ยคนจะอยู่ประมาณ 6 ชั่วโมง แถมมีห้อง
V.I.P.ปิดใช้เป็นส่วนตัวมีทุกอย่างครบ
พื้นที่เกือบ 100 ตารางเมตร
มีบ่อร้อน บ่อเย็น ห้องน้ำ อ่างน้ำ ซาวน่า โซนรับประทานอาหาร ราคาเหมาห้อง 2,490
บาท/2ชั่วโมง วันธรรมดาจะเปิดบริการ 11.00 –
23.00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10.00 -24.00 น.
ออนเซนเป็นแพกเกจออนเซน
+ นวด หรือซื้อสองอย่างคู่กันก็จ่ายคนละ 740 บาท ตอนนี้กำลังเพิ่มโปรโมชั่นแรง ๆ
ดึงมาใช้บริการวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ในแต่ละสัปดาห์
เพื่อกระตุ้นคนมาเที่ยวเพิ่มขึ้น มากกว่าปกติจะหมุนเวียนเข้ามาเฉลี่ย 50 คน/วัน จึงรุกไปเจาะกลุ่ม
บริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานหลายร้อยคน อย่าง Wisdom หรือพนักงานโรงพยาบาล
โดยจะคำนึงถึงขีดความสามารถการรองรับสอดคล้องกับลูกค้าตลาดคุณภาพ
สำหรับดีไซน์ออนเซนเน้นการยกออนเซนคุซัทซึ
เมืองกุมมะ มาไว้ในบางแสน เริ่มตั้งแต่สีแดง เสามีทั้งหมด 33 ต้น ลงทุนถึง 3 แสนบาท มีศาลไม้ เทพเจ้าอัญเชิญมาจากญี่ปุ่น
ตึกโครงสร้างจำลองแบบญี่ปุ่นมาทั้งหมด เช่น บรรยากาศในร้านกาแฟ
ให้อารมณ์เหมือนโรงเตี๊ยมญี่ปุ่น
ต้องการให้ที่นี่เป็นแลนด์มาร์กบางแสนในสไตล์ญี่ปุ่น
ซึ่งมีต่างชาติเข้ามาใช้บริการอย่างชาวสวิสเซอร์แลนด์ หรือช่วงแข่งรถ
พอเสิร์ซเข้าไปดูในออนไลน์ ก็เห็นความแปลกใหม่ เช่น มีอาคารต่อยมวย
โดนใจนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก
จึงอยากเชิญชวนคนทั่วไปที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ
ปวดเมื่อยตามร่างกาย การหมุนเวียนเลือดลม
คนไม่เคยแช่ออนเซนระยะแรกอาจจะรู้สึกเวียนหัว ตอนลงบ่อร้อน บ่อเย็น
เพราะน้ำแร่ออนเซนจะทำหน้าที่ช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนเลือดในระยะเริ่มต้นให้ร่างกาย
สร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วย
นอกเหนือจากประโยชน์ทางร่างกายแล้ว
ยังมีผลต่อจิตใจ ระหว่างแช่ออนเซนจะอยู่ในบรรยากาศเงียบ ๆ ได้อยู่กับตัวเอง
มีทั้งสมาธิและความโปร่งโล่ง
ตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไปจัดทำไฮไลต์
Lady day ทุกวันพุธ
หรือนำไปเล่นเกมในเว็บไซต์ www.เที่ยวตะวันออก.com ตอนนี้ขีดความสามารถการรองรับการแช่ออนเซ็นแต่ละรอบหมุนเวียนได้ทั้งวันประมาณ
100 คน
ส่วนการบริการสอนมวยไทยใช้ชื่อค่ายของพุ่มพันธ์ม่วง
ขณะนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้หญิงสูงถึง 80 % เพราะสามารถออกกำลังกายทุกส่วน แขน ขา เอว
กระชับกล้ามเนื้อ โดยรวมเผาผลาญไขมันได้ถึง 800-1,000 แคลอรี่/ชั่วโมง
ค่ายเวทีมวยไทยจะเปิดทุกวันแต่จัดเป็นคลาส
เริ่มคลาสแรก 10.00 น. คิดค่าสอน 2
แบบ คือ 1.ครั้งละ 390 บาท 2.รายเดือนมาใช้สถานที่เรียนกับครูได้ทุกวัน
3,900 บาท แล้วก็ยังมีการเรียนการสอนแบบส่วนตัวด้วย
ความพิเศษของมวยคือสามารถเล่นได้ทุกวัน สนุก คลายเครียด
เปรียบเทียบแล้วดีกว่าการเล่นเวต โดยรวมแล้วพื้นที่โซนต่อยมวยไทยมีขนาด 400
ตารางเมตร รองรับได้ครั้งละ 60
คน
สำหรับอุปกรณ์มีเวที กระสอบทราย
นวม มีอุปกรณ์ทำพิเศษขึ้นมาเป็นไม้ฝึกความไวของประสาทสายตา
และกระสอบทรายที่โชว์พลังหมัดและการเตะซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทางค่ายคิดค้นทำขึ้นมาเองมีแห่งเดียวในประเทศไทย
ปัจจุบันชาวต่างชาตินิยมเข้ามาเรียนต่อยมวยไม่ต่ำกว่า 20 % คนไทย 80 % อายุ 25-40 ปี และวัยสูงสุดที่เคยมาเรียนอายุมากถึง 62
ปี
มาเที่ยวสไตล์ More Fun กันเลย “คุซัทสึ บางแสน ชลบุรี”
ใช้บริการแล้วจะรู้ว่าออนเซ็นดีต่อสุขภาพและจิตใจจริง ๆ
@กินอย่างไรในวัยทำงานเพื่อให้สุขภาพดีตลอดไป
วัยทำงานเป็นวัยที่ต้องเผชิญความเครียดมากขึ้นส่งผลให้สนใจเรื่องสุขภาพน้อยลงโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เพื่อให้การกินดีมีผลดีต่อสุขภาพของเรา
เริ่มต้นจากการกำหนดปริมาณ
“ข้าว” เลี่ยงของมัน ๆ ล้างปาก ด้วยผลไม้เท่านั้น ด้วยการปฎิบัติดังนี้
อาหารจานหลัก 1.กินข้าวไม่เกิน
3 ทัพพี (ผู้ชาย) 2
ทัพพี (ผู้หญฺิง) ควรมีเมนูผักทุกมื้อ
เลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมันและและผลไม้หวานน้อยดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม
อาหารว่าง -กิน ผลไม้หรือนมถั่วเหลืองหวานน้อย
ถั่ว งาและเมล็ดพืช (ไม่เกิน 1 ฝ่ามือ)
สิ่งที่ควรรู้ 1. เลิกปรุงอาหารแบบจัดหนัก 2. น้ำปลาหวานหรือกะปิที่จิ้มกับผลไม้
ควรกินไม่เกินสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง เพราะมีน้ำตาลหรือโซเดียมมากไป
3.ควรกินอาหารมื้อหลักให้อิ่มเพื่อลดความหิวระหว่างวัน-
หลีกเลี่ยงการกินน้ำราดจากการเมนูผัดทอด เพราะมีทั้งน้ำมันและเกลือสูง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ยูเนียนเพย์ปลุกจีนทัวร์วันชาติเพิ่มยอดใช้เงินในไทย”
นายเหวินฮุ่ย
หยาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ยูเนี่ยนเพย์ผนึกความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) กระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเพื่อใช้จ่ายเงินให้มากสุดผ่านบัตรและชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด
ช่วงวันชาติจีน 1-7 ตุลาคม
2562 สอดคล้องตามผลสำรวจล่าสุดที่สถาบันวิจัยการท่องเที่ยวของจีน
(China Tourism Academy) และ Ctrip ตอกย้ำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปทั่วโลก
สถิติปี 2561 มีสูงถึง
150 ล้านทริป อันดับ
1 มาเที่ยวเมืองไทย
และกรุงเทพฯ มากที่สุด
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.กล่าวว่า โครงการขยายความร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลกอย่างยูเนี่ยนเพย์เพิ่มการใช้จ่ายจากตลาดในช่วงวันชาติจีนปีนี้จะมาไทยราว
190,000 คน โดยมีแรงจูงใจให้ใช้เงินในไทยสูงขึ้นด้วยสิทธิพิเศษต่าง ๆ พร้อมเครดิตเงินคืน
และรางวัลต่างๆ จากยูเนี่ยนเพย์ ซึ่งปัจจุบันบัตรสามารถใช้ในโรงแรม
สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้าปลีก ร้านอาหารดังทั่วไทย
รวมถึงจุดรับชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดกว่า 30,000 จุด ปีนี้ยังเตรียมขยายเพิ่มตาม ร้านอาหารและเครื่องดื่มในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป เทสโก้โลตัส และสตาร์บัคส์
ส่วนในไทยชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดผ่านธนาคารกรุงเทพ
เปิดให้ร้านค้าทำธุรกิจกรรมผ่านแอพลิเคชั่น BeWallet ของธนาคารกรุงเทพ
แอพลิเคชั่นยูเนี่ยนเพย์ และแอพลิเคชั่นอื่นๆ
เช่น NETSPay และ Sacombank Wallet
ช่าวที่สอง “ไปรษณีย์ไทยปลุก5จุดเช็คอินติดเครื่องชล9-13ต.ค.
ไปรษณีย์ไทย ชวนนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ชลบุรีห้ามพลาดกับการเข้าร่วมสนุก
5 จุดเช็คอินมีครบทั้ง ชิม ช้อป แชะ แน่นอนแล้วติดแฮชแท็กสำเผยแพร่ในสื่อออนไลน์
Social Media #ไปรษณีย์ไทย
#ไปรษณีย์ชวนปักหมุด5จุดสุดฟิน #ไปรษณีย์ไทยยกพลมาหาเธอ #ชิมช้อปแชะกับไปรษณีย์ไทย
จุดที่ 1 เจพาร์ค ศรีราชา
นิฮอน มูระ พิกัด: ถนนศรีราชา-หนองค้อ ต.สุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา
ใกล้กับทางหลวงหมายเลข 7 เป็นCommunity Mall ที่จำลองหมู่บ้านของชาวญี่ปุ่นสมัยเมจิมาวางไว้ที่ศรีราชา
จุดที่ 2 ตลาดประมง
ท่าเรือพลี พิกัด: เลียบชายฝั่งทะเลชลบุรี
อ.เมือง จ.ชลบุรี
ชุมชนที่ได้ว่าเป็นมหานครแห่งชุมชนประมงจัดทำเป็นถนนคนเดิน บริการเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น
ด้วยการยกทะเลขึ้นมาขายบนบกมาปรุงรสแซ่บให้นักท่องเที่ยวเดินชมตลาดแวะชิมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั้งกุ้ง
หอย ปู ปลา
จุดที่ 3 Clay Crown พิกัด: เลี่ยงหนองมน
บางแสน จังหวัดชลบุรี บุกไปสัมผัสคาเฟ่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่
สไตล์บ้านสวนยุโรปวินเทจที่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ
ไม่ว่าจะถ่ายภาพมุมไหนก็สวยถูกใจ มีอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม สั่งได้ตลอด
จุดที่ 4 เมืองน้ำแข็งพัทยา FROST
Magical Ice Of Siam Pattaya พิกัด: ก่อนเข้าพัทยา ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ the
regent school
เย็นสุด ๆ ในพัทยาด้วยอุณหภูมิ -10 องศา กับประติมากรรมน้ำแข็งและดื่มด่ำกับความพิเศษของโดมน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนที่มีบาร์น้ำแข็ง
เครื่องดื่มเย็นฉ่ำ
จุดที่ 5 เทอมินอล21
พัทยา พิกัด: วงเวียนปลาโลมา วันที่ 9-13 ตุลาคม 2562 แวะไปชมมหกรรมงาน “ไปรษณีย์ติดเครื่องชล”
ลุ้นรางวัล แวะอุดหนุนร้านค้าชิคๆ รับส่วนลดเมื่อใช้บริการไปรษณีย์ไทยได้เพียบ
ข่าวที่สาม “ซีพีแลนด์บุกขยายโรงแรมในอีสานเล็งเจาะไลฟ์สไตล์เทรนด์ใหม่
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท
ซี.พี.แลนด์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า เดินหน้าการลงทุนโรงแรมทั่วประเทศมีทั้งเปิดแล้วและกำลังก่อสร้างรวม
9 จังหวัด ประมาณ 2,000
ห้อง ตลอดปี 2562 ก็มี ฟอร์จูน บุรีรัมย์ กับพิษณุโลก ปี 2563
เตรียมเปิดโรงแรมฟอร์จูน ซีวิว ระยอง และจะเพิ่มโดยสร้างใหม่และซื้อโรงแรมเก่ามาปรับปรุง
แนวโน้มการลงทุนโรงแรมในอีสานมีอนาคตที่ดี
ส่วนทางภาคใต้ในหาดใหญ่ สงขลา เหมาะในการลงทุนธุรกิจโรงแรมที่พัก
รวมทั้งต้องเน้นห้องพักที่รองรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่มีไลฟ์สไตล์มากขึ้น
การลงทุนจึงเน้นเจาะเฉพาะกลุ่มมากขึ้น (niche market)
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น