TCEBจัดทัพต่อยอดTHAILAND
7 MICEเฟส2
ดันชุมชน14จังหวัดปั้น115สินค้าโกยรายได้ปี’63
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์
#เที่ยวกับกู๋
#THAILAND7MICE2 #TCEB
TCEB เดินหน้าลุยต่อยอด
THAILAND 7 MICE เฟส
2 โหมโรงระดมเส้นทางไมซ์ชุมชนสายใหม่
115 ผลิตภัณฑ์
กระตุ้นนักเดินทางไมซ์ในและต่างประเทศจัดประชุมเมืองไทยกระจายรายได้ 14 จังหวัดอู้ฟู่เริ่ม
ต.ค.62 เป็นต้นไป
จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” |
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ได้เดินหน้าโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019
เฟส 2 เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
2562 เป็นต้นไป
โดยได้คัดเลือกเส้นทางไมซ์สายใหม่ที่มากด้วยแนวคิดเชิงสร้างสรรค์มากถึง 115
ผลิตภัณฑ์ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพิ่มโอกาสทางการตลาด
นำเสนอสินค้าพร้อมบริการใหม่ ๆ ประการสำคัญจะรายได้เข้าชุมชนแหล่งผลิตครอบคลุมถึง 14
จังหวัด ประกอบด้วย 2 กลุ่ม
1.ไมซ์ซิตี้
5 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต
ขอนแก่น 2.เมืองรองเชื่อมโยง
9 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร
อุดรธานี เชียงราย ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สงขลา และนครศรีธรรมราช รวมทั้งจะกระตุ้นให้กลุ่มผู้ซื้อเลือกมาจัดนำงานมาจัดในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป
ส่วนโครงการ
Thailand 7 MICE Magnificent Themes เฟส 1
ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ดังตัวอย่างชุมชนดังต่อไปนี้คือ 1.บ้านหัวฝาย
อ.ชนบท จ.ขอนแก่น มีกลุ่มนักเดินทางไมซ์มาเยือนมากขึ้นทั้งคนไทยและต่างชาติ ขนาดกลุ่มละ
30-300 คน สร้างรายได้เข้าชุมชนได้ผลิตหม่อนไหมและทอผ้าแบบเต็มกำลัง
ได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันต่างๆ แถมชุมชนยังมีความเข้าใจไมซ์มากขึ้น 2.ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย
พัทยา ผลตอบรับดีเกินคาดมีนักเดินทางไมซ์ไทยและต่างชาติเข้าไปใช้บริการเติบโตมากถึง
200% 3.ไร่วานิช
จ.ภูเก็ต กลายเป็นสถานที่จัดกิจกรรม Team Building ให้โรงแรมและรีสอร์ทต่าง ๆ ทั่วภูเก็ต
เช่น The Charm Resort and Spa และมีกิจกรรมเชิงอาหารจากหน่วยงานราชการของภูเก็ต
นำอาหารถิ่นของเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนไปบริการผู้เข้าประชุม 300
คน
ทีเส็บจึงตั้งเป้าผลักดัน Thailand 7
MICE Magnificent Themes 2019 เฟส 2 ทำให้ทั้ง 115
ผลิตภัณฑ์ จะประสบความสำเร็จ
ตลาดไมซ์ชุมชนเติบโตและกระจายรายได้ถึงมือชาวบ้านอย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับ 7 Themes ประกอบด้วย 1. การผจญภัย
(Exhilarating Adventures) 2.นำเสนออาหารไทยทุกการจัดงานที่หลากหลาย
(Culinary Journeys) 3. กิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์
(CSR and Green Meetings) 4. ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (Fascinating
History and Culture) 5. การสร้างทีมเวิร์ค (Treasured Team
Building) 6. การจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ (Lavish
Luxury) 7. กิจกรรมบรรยากาศชายหาด (Beach Bliss) แต่ละธีมจะมีไอคอนสื่อถึงกิจกรรมต่างๆ
เช่น ไอคอนรูปคลื่นสื่อถึงธีมชายหาด
ปี 2562 มีกิจกรรมไฮไลท์แต่ละธีมต่างกันดังนี้
1.ธีมการผจญภัย ชูกีฬาทางน้ำที่อมรา วอเตอร์
สปอร์ต พัทยา ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่เกี่ยวกับการพายเรือแพดเดิลบอร์ด
เรือใบ และกีฬาทางน้ำอื่นๆ ในทะเลพัทยา และทำกิจกรรม CSR ช่วยเก็บขยะกับทางชุมชน
2.ธีมนำเสนออาหารไทยทุกการจัดงานอย่างหลากหลาย ไฮไลต์ที่บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์
บ้านหล่อโย จ.เชียงราย จะได้เรียนรู้การทำอาหารพื้นบ้านของชนเผ่าอาข่า
3.ธีม CSR กับการประชุมเชิงอนุรักษ์
ชูโครงการปักจิตปักใจ จ.เชียงใหม่ ร่วมเรียนรู้และให้โอกาสผู้พิการทางสายตา
4.ธีมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ลองลงมือเขียนไห เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานเก่าแก่
ณ โฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมบ้านเชียงและวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร
บ้านเชียงก้าวหน้า จ.อุดรธานี
5.ธีมสร้างทีมเวิร์ค แนะนำสวนเกษตรมีกิน
จ.ขอนแก่น ผู้จัดสัมมนาสามารถแบ่งกลุ่มแข่งขันทำอาหารพื้นบ้าน เช่น แข่งขันตำส้มตำ
และอื่น ๆ
6.ธีมการจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ แนะนำ Spectrum
Rooftop Lounge and Bar กรุงเทพฯ สถานที่จัดงานแบบพิเศษบนดาดฟ้าที่สามารถชมวิวตึกระฟ้าของเมืองหลวงยามค่ำคืน
7.ธีมกิจกรรมบรรยากาศชายหาด
แนะนำไฮไลท์ที่ห้ามพลาด ก็คือ เกาะเฮ จ.ภูเก็ต
นางสาวกฤษณี
ศรีษะทิน ประธานฝ่ายพัฒนาศักยภาพ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) “TICA” กล่าวว่า
ในฐานะวิทยากรด้านเวิร์กชอปโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes
2019 ปีนี้ได้เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมทั้งเมืองไมซ์ซิตี้และเมืองรองทุกพื้นที่ทุกจังหวัด
เล็งเห็นถึงประโยชน์มากมายที่เกิดขึ้นแก่ทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์
กลุ่มที่ 2 ชุมชนยังสามารถพัฒนาตัวเอง
ต่อยอดการบริการ ด้วยการนำเอกลักษณ์หรือจุดเด่นท้องถิ่นมาบอกเล่าให้คนอื่นได้รับรู้
กลุ่มที่ 3 นักเดินทางไมซ์ต่างประเทศนั้น
ส่วนใหญ่ล้วนเคยเดินทางมาเมืองไทยแล้วต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากกว่าเข้าร่วมประชุมสัมมนา
แต่ได้ทดลองทำจริง ได้เรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ด้วย
นายภูริวัจน์
ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ขณะนี้ สทน.เน้นขับเคลื่อนเมืองทางภาคใต้ซึ่งมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ร่ำรวยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่น่าสนใจ
โดยได้เดินทางทดสอบเส้นทางสายไมซ์ใหม่ในสงขลา นครศรีธรรมราชข ได้สิ่งใหม่ ๆ
เพิ่มขึ้นทั้งความรู้ คอนเนคชั่น กิจกรรม โดยมีสมาชิก 90%
มีลูกค้าเป็นบริษัทและคอร์ปอเรทอยู่โดยส่วนใหญ่จัดการประชุม (Meeting) และอินเซนทีฟ
(Incentive) เป็นหลัก สามารถเชื่อมโยงเข้าร่วมโครงการไมซ์เฟสสองกับทีเส็บได้อย่างมีคุณภาพ
นายประเสริฐ
ฤทธิ์รักษา ประธานเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนชุมชนหรือเจ้าของพื้นที่ผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 ปีนี้ ได้ต้อนรับกลุ่มตลาดไมซ์คุณภาพซึ่งเข้ามาช่วยสร้างโอกาสให้กลุ่มท่องเที่ยวชุมชน ช่วยกระจายรายได้
เพราะภูเก็ตมีจุดขายมากกว่าทะเลนั่นคือ มีชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมที่ยังคงรักษารากเหง้าและวิถีชีวิตเอาไว้ให้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกหลายจุด
ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมด้วยการเปิดบ้านต้อนรับนักเดินทางไมซ์ หรือชวนมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือทำ CSR รวมทั้งชาวไร่สับปะรดต่อยอดการขายได้ โดยนำผลผลิตแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม
หรืออาหารว่างเสริมระหว่างการประชุม ส่วนสวนยางพาราดีไซน์พื้นที่ร่มรื่นปรับให้เป็นสถานที่จัดงานได้
ซึ่งผู้นำชุมชนเน้น 3 เรื่องหลัก คือ สะดวก สะอาด ปลอดภัย
ขณะเดียวกันก็ได้ปลูกจิตสำนึกคนในชุมชนให้ตระหนักอย่างมากเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมใจกันปฏิเสธพลาสติกอย่างสิ้นเชิง เน้นใช้วัสดุและภาชนะรักษ์โลก
และรณรงค์ให้กลุ่มไมซ์ร่วมอนุรักษ์คืนชะนีสู่ป่า ทำธนาคารปูม้า ปลูกหญ้าทะเล ช่วยเพิ่มห่วงโซ่อาหารสู่วงจรชีวิตพะยูน
และอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่จะดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น