ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.จันทบุรีตุนรายได้ท่องเที่ยว2เดือนแรก2.5พันล้าน ระดมสวนผลไม้เปิดรอรับตลาดในประเทศเม.ย.-ก.ค.นี้


ททท.จันทบุรีตุนรายได้ท่องเที่ยว2เดือนแรก2.5พันล้าน
ระดมสวนผลไม้เปิดรอรับตลาดในประเทศเม.ย.-ก.ค.นี้

นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า
 ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี

 ฟังข่าวดีเรื่องท่องเที่ยวจาก “เสาวนีย์ คนกล้า” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี ตลาดในประเทศยังพึ่งได้ทำให้ 2 เดือนแรกปี’63 ตุนรายได้กระจายเข้าท้องถิ่นไว้ถึง 2,500 ล้านบาท เพิ่ม 20% ช่วงมีนาคม-กรกฎาคม นี้ ใช้กลยุทธ์แจกคูปองฟรี 200 บาท ดึงดูดแฟนคลับทัวร์สวนผลไม้ ช่วยกันสร้างเศรษฐกิจทำให้ชุมชนเข้มแข็ง พร้อมแนะนำสถานที่ขับรถเที่ยวกลุ่มเล็ก  ๆ มาได้ตลอด 365 วัน ตามคอนเซ็ปต์ “สุขทุกวัน ที่จันทบุรี”

นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวในประเทศสนใจเดินทางเข้ามาใช้บริการตามตัวเลขประมาณการณ์คร่าว ๆ  ช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้เยี่ยมเยือนกว่า 7 แสนคน เพิ่ม 12 % แบ่งเป็นคนไทย 650,000 คน-ครั้ง ต่างชาติ 50,000 คน สร้างรายได้กระจายเข้าท้องถิ่นประมาณ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 % โดยมีปัจจัยเสริมคือเทศกาลขึ้นเขาคิชฌกูฏส่วนปี 2562 มีนักท่องเที่ยวคนไทยรวมกว่า 3 ล้านคน-ครั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงไป 10 % โดยรวมสามารถสร้างรายได้ราว 10,000 ล้านบาท

ปี 2563 วางกลยุทธ์ส่งเสริมการเชิญชวนคนท่องเที่ยวโดยปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำความปลอดภัยทางสุขภาพตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ด้วยจุดเด่นของจันทบุรีสามารถขับรถเองหรือใช้รถสาธารณะเข้ามาเที่ยวได้ในรัศมีการเดินทาง 4 ชั่วโมง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมีให้เลือกทั้ง “ทะเล” บริเวณถนนเลียบภูเขาเลาะทะเล “เฉลิมบูรพาชลทิศ” ให้ไปพักผ่อนในหาดเจ้าหลาว แหลมสิงห์ อ่าวคุ้งกระเบน “เที่ยวเทศกาล” ขึ้นเขาคิชฌกูฎสามารถเดินทางได้จนถึงเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 “แหล่งท่องเที่ยวชุมชนริมน้ำจันทบูร” จะได้สัมผัสวิถีชีวิต  2 วัฒนธรรมทั้งพุทธและคริสต์ โดยเฉพาะโบสถ์พระแม่มารี มีชื่อเสียงด้านความสวยงามติดอันดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ” จุดสำคัญคือโครงการพระราชดำริคุ้งกระเบน เดินชมป่าชายเลนสวยงามที่สุดในประเทศไทย ควบคู่กับการทำกิจกรรม ปล่อยปู เขี่ยไข่ปู อนุรักษ์ธรรมชาติป่าชายเลน ทำอีแปะเป็นแหล่งอาศัยของปลา รวมทั้งมีชุมชนป่าชายเลนหลายแห่งมีกิจกรรมอนุรักษ์ปูไว้เป็นแหล่งอาหารทะเล ซึ่งในจันทบุรีมีความสดบริการอยู่หลายพื้นที่ ร้านอาหารมีมากมายทั้งทะเลและอาหารถิ่น เมนูเด็ด ๆ อย่าง ข้าวคลุกพริกเกลือ หมูชะมวง ก๋วยเตี๋ยวเรียง แนะนำร้านเก่าแก่สุดในอำเภอเมืองคือร้าน “จันทรโภชนา” มี 2 สาขา มีหลากหลายเมนูและปลอดภัยตามหลักโภชนาการด้วย

การท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อคือสวนผลไม้มีมหกรรม “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ตอนนี้เริ่มมีทุเรียนสดออกสู่ตลาดล็อตแรกแล้วคือพันธุ์พื้นเมือง เช่น พวงมณี ก้านยาว และพันธุ์ท้องถิ่นเป็นแหล่งปลูกส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งใน อำเภอท่าใหม่ อำเภอมะขาม อำเภอขลุง อำเภอเมือง อำเภอเขาบายศรี อำเภอสอยดาว ตอนนี้ทุเรียนผลผลิตรุ่นที่สอง จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนเมษายนนี้ไปจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 แต่จะมีปริมาณมากสุดคือเมษายน-พฤษภาคม รสชาติอร่อย ขณะนี้เข้าสู่ฤดูผลไม้ ทาง ททท.จันทบุรี จับมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจันทบุรี ระหว่างวันที่ 16 มีนาคม-16 พฤษภาคม 2563 กระตุ้นการท่องเที่ยวตามเป้าไม่ต่ำกว่า 2,000 คน จากการแจกคูปองส่วนลดมูลค่า 200 บาท ให้นักท่องเที่ยวที่มาพักโรงแรมต่าง ๆ ในจันทบุรีจะได้รับเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดการท่องเที่ยวสวนผลไม้ ร้านอาหารกว่า 30 ร้าน ซื้อของกินของฝาก จะมีรายชื่อพันธมิตรทั้งหมดอยู่ในคูปอง สามารถเข้าไปหารายละเอียดได้จากเพจ facebook ททท.จันทบุรี เพื่อหาข้อมูลการใช้คูปองส่วนลดเพื่อการท่องเที่ยวดังกล่าวตลอด 3 เดือนแห่งการทำโปรโมชั่น

ขณะที่การท่องเที่ยวจันทบุรีไม่มีข้อจำกัดสามารถท่องเที่ยวได้ตามสโลแกน “สุขทุกวัน ที่จันทบุรี” ท่องเที่ยวได้ตลอด 365 วันตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เที่ยวได้ทั้งวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ วันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ มา “ชม-ชิม-แชร์-แชะ-ชีล” ได้ตลอดเวลา

อีกทั้งยังจะขอเชิญชวนไปชมผลิตภัณฑ์ชุมชนต้องห้ามพลาดของชาวเมืองจันทบุรี คือ อย่างแรก “เสื่อจันทบูร” มีคุณสมบัติความเหนียวนุ่มพิเศษ ตอนนี้กลายเป็นสินค้าแฟชั่นที่มีดีไซน์ ทั้ง กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ผ้ารองจาน สียอดนิยมคือสีแดง มีจำหน่ายกระจายอยู่หลายแห่ง อย่าง ชุมชนบางสระเก้า ร้านท่าแฉลบ ร้านจันทรโภชนาก็นำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายด้วย หารือได้ง่าย อย่างที่ 2 ของกินแปรรูปคือ ทุเรียนทอดกรอบ ทุเรียนกวน มังคุด มีโอท็อปวิสาหกิจชุมชน อย่าง ร้านป้าแกลบ

ผอ.เสาวนีย์ยืนยันว่า จันทบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย โดย ททท.ยึดหลักปฏิบัติตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้ทุกคนทั้งภาคประชาชน นักท่องเที่ยว และคนที่เกี่ยวข้อง ใช้มาตการยึดหลักตามคำแนะนำมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยดูแล ป้องกัน ให้ความรู้ประชาชน รวมถึงตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย

กรณีตัวอย่าง หลายพื้นที่ท่องเที่ยวต้องพ่นฉีดยาฆ่าเชื้อด้วยในพื้นที่การท่องเที่ยวเทศกาลขึ้นเขาคิชกูฎ กำหนดข้อปฏิบัติให้ทุกคนร่วมกันทำอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่รถบริการในจุดรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว จะต้องทำความสะอาดเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ทั้งขาไปและกลับ วัดพวง วัดกระทิง บนเขาคิชกูฎ หรือพื้นที่ด่านพรมแดนก็มีมาตรการตรวจวัดไข้เช็คคนต่างชาติที่ผ่านเข้าออกทุกขั้นตอน เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่น ความมั่นใจ ในการเดินทางเข้าสู่จันทบุรีอย่างปลอดภัย

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “มูลนิธิวิชัยศรีวัฒนประภามอบรพ.บำราศ 20 ล้านรับมือโควิด-19

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำครอบครัว ได้นำมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา มอบ 20 ล้านบาท ให้สถาบันบำราศนราดูร สังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำทางวิชาการด้านโรคติดต่อ โรคติดเชื้อ เพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ช่วงที่คนไทยต้องร่วมต่อสู้กับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19  ในภาวะที่แพทย์และทีมงานต้องทำงานหนัก ท่ามกลางยกระดับการเฝ้าระวัง การควบคุมโรค ส่งผลถึงการขาดแคลนอุปกรณ์ และบุคลากร เงินส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ในการนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ , การปรับปรุงห้องพักผู้ป่วย และ เพื่อกองทุนสวัสดิการสำหรับเจ้าหน้าที่

ทางด้าน นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า เงินที่ได้รับการสนับสนุนจาก คิง เพาเวอร์ ในสถานการณ์การรับมือต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 ทางสถาบันฯ จะนำไปใช้เตรียมพร้อมรับมือการระบาดในระยะที่ 3 เรียบร้อย ซึ่งเน้นการคัดกรองผู้ป่วยทุกกรณี ที่เข้ามารับการรักษาที่สถาบันฯ หากมีอาการคล้าย เข้าข่าย จะถูกแยกกลุ่มทันที ถึงแม้เป็นเพียง “ไข้หวัด” ให้ตระหนักว่าเป็น COVID-19 เพราะอาการผู้ติดเชื้อจะเหมือนไข้หวัดทุกประการ และผู้ป่วยที่มีการ Confirm Case แล้วจะแยกตามอาการ เบา หนัก และวิกฤติ
ดังนั้นเงินที่จะได้รับจากคิง เพาเวอร์ จะสามารถเพิ่มศักยภาพการเตรียมการรองรับผู้ป่วยได้อย่างดี ในภาระกิจแรกคือเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้ติดเชื้อโรคนี้ไม่ให้ปะปนกับการดูแลผู้ป่วยโรคอื่นๆ ตลอดจนการจัดเตรียมห้องแยกโรค รวมถึงการดูแลสวัสดิการบุคลากรทางการแพทย์

คิง เพาเวอร์ มหานคร รายงานว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้รับการยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ คิง เพาเวอร์ มหานคร ส่งตรวจคัดกรอง ที่สถาบันบำราศนราดูร หลังมีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวัง เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ขณะนี้จึงสั่งปิดอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ทันทีไปจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2563 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายพร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์สากลทุกขั้นตอน ตามราละเอียดการดำเนินการ ดังนี้

1.สั่งปิดอาคารทันทีแล้ว ตั้งแต่ 13 มีนาคม ต่อเนื่อง 14 วัน ถึง วันที่ 27 มีนาคม 2563 เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย และทำการ ฉีด พ่น อบ ฆ่าเชื้อ ทุกพื้นที่ในอาคารเฝ้าระวัง

2.ติดตามอาการพนักงานที่มีปฏิสัมพันธ์ การพูดคุย ใกล้ชิด สัมผัส ใช้สถานที่ หรืออุปกรณ์ร่วมกับพนักงานดังกล่าวแล้วอย่างใกล้ชิดและให้หยุดปฏิบัติงาน 14 วัน ตั้งแต่ วันที่ 13 มีนาคม 2563

3.อำนวยความสะดวกแจ้งปิดบริการและยินยอมการคืนสิทธิ์แก่ลูกค้าที่จองใช้บริการล่วงหน้าสำหรับ มหานคร สกายวอล์ค และ ห้องอาหาร มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่โทร 02-677-8721

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คิง เพาเวอร์ มหานคร ตระหนักดีถึงข้อกังวลและความรับผิดชอบต่อสังคม จึงมีความพยายามอย่างยิ่งในการควบคุม ป้องกัน อย่างเข้มงวด ด้วยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า พนักงานเป็นสำคัญ


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติเข้ามาในไทยลดลง จึงได้นำข้อมูลการท่องเที่ยวธรรมชาติมานำเสนอคนไทยด้วยภาพรวมสวยในรูปแบบ Pantone 9 สถานที่ท่องเที่ยวสีเขียว ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีป่าสีเขียวตลอดทั้งปี ช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกสดชื่น ทั้งแหล่งพักผ่อนสไตล์ป่า น้ำตก ภูเขา

ททท.จึงได้นำแหล่งท่องเที่ยวบอกเล่าด้วยภาพสไตล์ Pantone สีเขียว 9 แห่ง มานำเสนอ ได้แก่ 1.น้ำตกก้อหลวง จ.ลำพูน 2.อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.พิษณุโลก 3.เทือกเขาโมโจกู จ.กำแพงเพชร 4.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 5.เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี 6.ภูป่าเปาะ จ.เลย 7.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี 8.ป่าฮาลาบารา จ.นราธิวาส 9.อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จ.ปัตตานี

สำหรับ Pantone สีเขียว คือสไตล์การเล่นเฉดสีที่เป็นเทรนด์เกี่ยวกับสีพิเศษสำหรับพิมพ์เพื่อเจาะจงให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ข่าวที่ 4 บางจากใช้ร้านอินทนิล600แห่งขายหน้ากากอนามัยธงฟ้า
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ หน้ากากอนามัยนับเป็นสิ่งจำเป็น จึงได้นำเครือข่ายร้านกาแฟอินทนิลที่กระจายอยู่ในและนอกปั๊มบางจากทั่วประเทศ 600 สาขา เป็นช่องทางจำหน่ายหน้ากากอนามัยธงฟ้าของกรมการค้าภายใน เพื่อให้กระจายสู่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ทางร้านอินทนิลจะเริ่มจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาซองละ 10 บาท บรรจุ 4 ชิ้น ที่ร้านอินทนิลที่ตั้งอยู่ในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจากเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคม เวลา 14:00 - 17:00 น. และทยอยขายในร้านอินทนิลต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม เวลา 14:00 - 17:00 น.ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กอินทนิล (www.facebook.com/inthanincoffee/) ขอจำกัดสิทธิ์การซื้อ 1 คนต่อ 1 ซอง โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักฐานการซื้อด้วย

ทั้งนี้ ร้านอินทนิล แบรนด์กาแฟรักษ์โลก บริหารงานโดย บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในกลุ่มบางจากฯ มีสาขาในประเทศไทย 600 สาขา และในต่างประเทศ 8 สาขา  ปี 2562 รายได้รวม 1,000 ล้านบาท ปี 2564 วางแผนจะขยายให้ครบ 1,000 สาขา

ข่าวที่ 5 “บีบีจีไอเครือบางจากขายเอทานอลเร่งผลิตเจลป้องโควิด”
นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ได้สนองนโยบายกระทรวงพลังงานและกรมสรรพสามิตทันทีที่มีมติปลดล็อกเอทานอลเพื่อนำไปผลิตเจล-แอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพื่อใช้ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือ COVID-19 เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้และสามารถบริการแก่ภาคประชาชนได้อย่างทั่วถึง

ทางบีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ จึงร่วมกันผลิตเอทานอลในเกรดอุตสาหกรรมและจำหน่ายแก่โรงงานผู้ประกอบการที่มีความต้องการ โดยมีโรงงานเอทานอลในกลุ่ม ได้แก่ บริษัท บางจาก ไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด  และบริษัท เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ติดตั้งระบบผสมและจ่ายเอทานอล พร้อมทดสอบประสิทธิภาพของระบบ เริ่มจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา เพื่อนำไปทำเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ตามที่กรมสรรพสามิตอนุญาช่วงระยะเวลา 6 เดือน ระหว่างวันนี้-วันที่ 30 กันยายน 2563

ผู้ประกอบการที่ประสงค์สั่งซื้อสารตั้งต้นทำเจลล้างมือ สามารถดูข้อกำหนดและขั้นตอนการสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ของ บีบีจีไอ www.bbgigroup.com

ข่าวที่ 6 8โครงการต้นแบบพอเพียงรร.ตชด.บ้านแพรกตะคร้อหัวหิน”

                สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ “มูลนิธิปิดทองหลังพระ” รายงานว่า ขณะนี้มี โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแพรกตระคร้อ ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นตัวอย่างของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ด้วยการนำโครงการสำคัญ 8 โครงการเข้าไปสนับสนุนการเรียนการสอน เอื้อทั้งกับโรงเรียน และชุมชนควบคู่กัน โดยครูผู้สอนต้องมีความรู้ในโครงการเและพร้อมที่จะพี่เลี้ยงให้กับเด็กและชาวบ้านในพื้นที่ จัดการเรียนการสอนระดับอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  มีนักเรียนทั้งหมด 265คน โดยปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ 8 โครงการ ได้แก่

1.โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน กิจกรรมโครงการ  เพื่อประกอบเลี้ยงเป็นอาหารกลางวันให้กับนักเรียน ทั้งการปลูกพืชผัก เลี้ยงสุกร เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ เห็ดนางฟ้า กิจกรรมไม้ผล  นำผลผลิตมาประกอบเลี้ยง และเป็นอาหารเสริมให้กับนักเรียน  กิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร  

2.โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา กิจกรรมห้องสมุด  กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในโรงเรียน  มีการจัดหนังสือที่น่าสนใจ กิจกรรมสอนเสริมเพื่อทบทวนบทเรียน  และเพิ่มเติมความรู้เสริมจากบทเรียน  ที่ส่งผลให้ผลการทดสอบทางการศึกษา   ขั้นพื้นฐานมีผลคะแนนดีขึ้น

3.โครงการนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ มีการตรวจเยี่ยมบ้านนักเรียน  และผู้ปกครอง  อยู่สม่ำเสมอ  ติดตามผลการเรียน  แนะนำการปฏิบัติตนในการเป็นนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ 

4.โครงการส่งเสริมสหกรณ์ กิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าเรียนรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ให้กับนักเรียน  เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้หลักการสหกรณ์  และเข้าใจขั้นตอน  ตลอดจนวิธีการเกี่ยวกับสหกรณ์ร้านค้า  มีการนำผลผลิตจากโครงการเกษตรมาขายผ่านกิจกรรมสหกรณ์  นำผลิตภัณฑ์ชุมชน  ผู้ปกครองมาขายในร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนตาม  โอกาส  และฤดูกาลด้วย

5.โครงการฝึกอาชีพ การทอผ้าพื้นเมืองกี่เอว  และการตัดผมชาย  หญิง  มีการดำเนินกิจกรรมโครงการโดยจัดการเรียนรู้ในชั่วโมงการเรียนรู้ฝึกอาชีพ

6.โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน ตรวจคัดกรองนักเรียนอยู่สม่ำเสมอ  และได้มีการให้บริการน้ำดื่มที่มีการหยดสารละลายไอโอดีนอยู่ในจุดบริการน้ำดื่มของโรงเรียน

7.โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ ปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนุรักษ์ดิน  ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน  ติดป้ายพันธุ์ไม้ในโรงเรียน  ปลูกต้นไม้เพิ่มในโอกาสต่าง ๆ ในบริเวณพื้นที่ของโรงเรียน  และดูแลรักษาต้นไม้ให้เจริญเติบโต

8.โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร “สุขศาลาพระราชทาน  “ ส่งเสริมโภชนาการของนักเรียน ประชาชนในพื้นที่โรงเรียน  ดูแลสุขภาพอนามัยแม่และเด็กก่อนที่จะได้รับการศึกษาในโรงเรียน ติดตามตรวจเยี่ยมบ้านนักเรียน  และประชาชนในเขตบริการเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี  โดยการแนะนำและให้ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ

และยังได้มีการขยายผลโครงการตามพระราชดำริในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้คนรักถิ่นฐานบ้านเกิดและมีโอกาสใช้ความรู้พัฒนาท้องถิ่น และลดการอพยพแรงงานหนุ่มสาวเข้าเมือง

                ช่วงที่ 2 ลองไปล่องเรือชมสวนไอเดียเก๋  “ทุ่งดอกจำปี” ในกรุงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร “หนองแขมบางขุนเทียน” แหล่งแปรรูปน้ำหอมจากพันธุ์ไม้ไทยพื้นบ้าน ทำกิจกรรมกับชาวสวนขนาดกว่า 600 ไร่แล้วซื้อของดีกลับบ้าน จากนั้นก็หันมาเรียนรู้ “5วิธีสร้างภูมิป้องกันโควิดกับหมอบรรจบ” และเกาะติด “คมนาคมใช้ 6 มาตรการเร่งด่วน” ช่วยสายการบินไทยและต่างชาติบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ขณะที่ “สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง” งัด Terminal Sceening ตรวจการเข้า-ออก ทุกคนทุกจุดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

@เที่ยวสวนจำปีไอเดียเก๋สหกรณ์หนองแขมบางขุนเทียน

เส้นทางการเรียนรู้ทางธรรมชาติชานเมืองที่ไปแล้วจะต้องตื่นตาก็ต้องยกให้ “สวนจำปี” วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพของสหกรณ์การเกษตรหนองแขมบางขุนเทียน จำกัด ด้วยการรวมตัวของชาวบ้านกว่า 30 ราย นำพื้นที่ราว 600 ไร่  สรรสร้างไอเดียดี ๆ เหมาะกับผู้ที่รักการปลูกต้นไม้ไทยพื้นบ้าน สามารถนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปขายและส่งออกต่างประเทศ 

พอไปถึงชาวสหกรณ์หนองแขมบางขุนเทียนจะมีเรื่องเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดความเป็นมาของสวนขนาดมหึมาในกรุงเทพฯ แล้วก็จะจัดกลุ่มให้ลงเรือล่องชมสวน ทำกิจกรรม เก็บดอกจำปี เรียนรู้สรรพคุณพันธุ์ไม้ไทยพื้นบ้าน 

ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมจึงจะได้ฟังเสมอ ๆ คือ สมัยก่อนพอถึงหน้าแล้งดอกจำราคาตกต่ำ จึงต้องมองหาวิธีนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีสินค้าหลักเป็นไฮไลต์คือสกัดเป็น “น้ำหอมดอกจำปี 100 %” ควบคู่กับการสกัดน้ำมันหอมระเหยทำเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย ทั้งแชมพู ครีมอาบน้ำ สมุนไพรดับกลิ่นเท้า-กลิ่นกาย แต่ละอย่างก็มีสรรพต่างกัน

ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดได้การรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) รวมถึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้ามาตรฐานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จดลิขสิทธิ์จำหน่ยภายใต้ตรา “ดอกจำปีคู่” จดลิขสิทธิ์ทางปัญญาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

ก่อนกลับต้องห้ามพลาด ! ซื้อผลิตภัณฑ์ดอกจำปีแปรรูปของชาวสวนมาฝากคนในครอบครัว หรือเพื่อนฝูงได้

@หมอบรรจบแจก 5 วิธี ปลุกภูมิสู้COVID19
ผศ.นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล แนะนำคนไทยไม่อยู่อย่างจนตรอก ดูแลตนเอง ห่วงหาเพื่อนร่วมชาติ พากันรอดไปพร้อมกัน ไวรัสหรือสู้มะเร็ง ภูมิต้านทานเป็นตัวกำหนด นักวิจัยเจอนัล ริเลย์ฉีดเซลล์มะเร็งเข้าหนู 3 กลุ่ม : กลุ่มแรก ช็อตไฟฟ้าตลอด ไม่มีทางสู้ อยู่อย่างจนตรอก เกิดมะเร็ง 73% กลุ่มสอง กินๆนอนๆเฉยๆ เกิดมะเร็ง 54% กลุ่มสาม ช็อตไฟฟ้าแต่มีเสียงกริ่งก่อนช็อต หนูจึงกระโดดทุกครั้งที่ช็อด เกิดมะเร็ง 37%
แสดงว่าเครียดจนตรอกภูมิคุ้มกันตกต่ำสุด การกิน ๆ นอน ๆ เหมือนไม่รู้เรื่องราวภูมิฯตกต่ำรองลงมา ส่วนเครียดแต่ต่อสู้หาทางออก กลับปลุกภูมิคุ้มกันได้

            1.เลิกตื่นตระหนกกับหน้ากากอนามัยขาดตลาดลองทำเองขึ้นมาใช้

            2.สร้างภูมิสู้ไวรัส เพราะธรรมชาติของ Covid-19 เราต้องทำให้เชื้อพบในตัวเรานั้นภูมิต้านทานแข็งแกร่งกว่าให้ทำดังนี้ 1.นอนให้พอ หลับก่อน 5 ทุ่ม Growth hormone ในตัวจะช่วยเรา
2.กิน Vitamin C ปลุก NK cell ได้ดี มะขามป้อม ฝรั่ง ส่วน CD4+ CD8+ กระเทียม หัวหอมช่วยได้เยอะ 3.ยาละลายเสมหะกลุ่ม NAC กับวิตามินชนิดอมที่มี Zinc ช่วยเยื่อเมือกหายใจ 4.ปลุกภูมิด้วย Homeopathy ประเทศอินเดียระดมป้องกันด้วยวิธีนี้ แพทย์บูรณาการในไทยเรามีใช้แล้ว ทั้ง Bryonia, Gelsemium, Influencinum กิน 1 ครั้งเสริมภูมิได้ 1 เดือน

3.Social distance คืออยู่สงบในที่ตั้ง ลดการสัมผัสโรค ถ้าต้องปฏิสัมพันธ์ให้รักษาระยะห่าง 1 เมตร

.           4.ใจสงบ กลับมาสร้างครอบครัวสุขสันต์ ทำงานอดิเรก ถ้าอยากช่วยสังคมลองนั่งทำหน้ากากผ้า เจือจานผู้อื่น

5.สวดมนต์ สถานการณ์นี้เคยเกิดขึ้นเมื่อพุทธกาลที่เมืองเวสาลี ผู้คนไม่อยู่ในศีลธรรม ขี้โกง เอารัดเอาเปรียบกัน ด่าทอ เกลียดชังกัน สุดท้ายเกิดภัยแล้ง โรคห่าระบาด แล้วอมนุษย์ก็เข้าเมืองมา กินซากศพและฆ่าคน พระพุทธเจ้าโปรดให้สวด “พระปริตร” และประพรมน้ำมนต์ไปทั่ว อมนุษย์จึงหนีไปตามเส้นทางธรรมชาติ แล้วฝนตกห่าใหญ่เจ็ดวันเจ็ดคืน เมืองจึงฟื้นกลับขึ้นมา

ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ครม.ไฟเขียวคมนาคมอุ้มการบิน6มาตรการเร่งด่วน”
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 17 มีนาคม 2563 เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบของสายการบินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 6 มาตรการ ประกอบด้วย
1.มาตรการลดค่าใช้จ่ายของสายการบิน 4 ด้าน ให้มีผลตั้งแต่1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
1.1. ปรับลดค่าบริการท่าอากาศยานที่สายการบินถูกเรียกเก็บจากผู้ประกอบการท่าอากาศยาน  ประกอบด้วย ค่าบริการการขึ้น – ลงอากาศยาน (Landing charge) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ลดลงอัตรา 50% สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ทำการบินเข้าหรืออกประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมถึงปรับลดค่าใช้จ่ายที่ท่าอากาศยานอย่างอื่น ซึ่งมีผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการสายการบินสัญชาติไทยตามความเหมาะสม อาทิ ค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน เป็นต้น
1.2 ปรับลดค่าบริการเดินอากาศ (Air navigation service charge) ที่ถูกเรียกเก็บจากผู้ให้บริการเดินอากาศ ในอัตรา 50% สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ และลดลงในอัตรา 20% สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ทำการบินเข้าหรือออกประเทศกลุ่มเสี่ยง
1.3 ปรับลดค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ (Regulatory fee) ที่เรียกเก็บจากสายการบินตามจำนวนผู้โดยสาร จากอัตราคนละ 15 บาท ลดลงเป็นคนละ 10 บาท สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ทำการบินเข้าหรือออกกประเทศกลุ่มเสี่ยง
1.4 ขอขยายการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น จากเดิมมีผลถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 เป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2563
2.มาตรการอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ของสายการบิน ดังนี้
2.1 ด้านการจัดสรรเวลาการบิน ผ่อนผันการตัดสิทธิในฤดูกาลถัดไปให้สายการบินที่ยกเลิกเที่ยวบินจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยจะไม่ถูกนำมาใช้คำนวณเงื่อนไขการทำการบินของเวลาการบินต่อเนื่องที่ได้รับการจัดสรร เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของสายการบิน รวมถึงประสานงานหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินในต่างประเทศที่สายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบิน อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น เพื่อขอคงสิทธิในเวลาการบินที่ได้รับจัดสรรเดิม
2.2 ด้านการกำกับดูแลทางเศรษฐกิจ ทบทวนหลักเกณฑ์การขอจัดสรรเส้นทางบินใหม่ในเส้นทางภายในประเทศและปรับปรุงกระบวนการพิจารณาจัดสรรเส้นทางให้รวดเร็วขึ้น และเจรจาสิทธิการบินในเส้นทางระหว่างประเทศ ที่สายการบินของไทยมีศักยภาพในอนาคต อาทิ อินเดีย ปากีสถาน เกาหลีใต้ เป็นต้น
3.มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางทางอากาศ ได้แก่ ออกประกาศรองรับสิทธิของสายการบินในการปฏิเสธผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และประชาสัมพันธ์มาตรการด้านการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทางอากาศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางทางอากาศ อาทิ กระบวนการคัดกรองผู้ป่วย วิธีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในห้องโดยสาร เป็นต้น
4.มาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ
5.มาตรการทางการเงิน ได้แก่ ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ (Credit terms) ค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนที่สายการบินถูกเรียกเก็บจากผู้ประกอบการท่าอากาศยาน ผู้ให้บริการการเดินอากาศ และผู้ประกอบการจำหน่ายและบริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ สายการบิน โรงแรม ภาคบริการต่าง ๆ เป็นต้น
6.มาตรการอื่น ๆ ได้แก่ ลดค่าเช่าพื้นที่ลง 50% จากราคาค่าเช่าที่เพิ่งปรับขึ้นสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของผู้โดยสารตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยที่อัตราการจัดเก็บค่าเช่าหลังหักส่วนลดต้องไม่ต่ำกว่าอัตรา ที่กรมธนารักษ์กำหนด เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – สิงหาคม 2563
นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ครม. ยังมีมติเห็นชอบเงินอุดหนุนจากภาครัฐ (PSO) รวมอีกกว่า 200 ล้านบาท เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากไวรัสโควิด -19 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงประกอบด้วยกรมท่าอากาศยาน (ทย.) 159 ล้านบาท และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) 53.1 ล้านบาท จากการนำรถโดยสาร (รถทัวร์) ไปให้บริการรับส่งผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อชดเชยค่าบริการระหว่าง 7 มีนาคม-4 มิถุนายน 2563
ข่าวที่สอง “ใช้Terminal Screeningตรวจคนรับส่งผู้โดยสาร

สนามบินสุวรรณภูมิ ประกาศเพิ่มการใช้มาตรการใหม่ Terminal Screening คัดกรองกับผู้ที่มารับและส่ง ซึ่งเป็นผู้ที่จะผ่านเข้ามาในอาคารผู้โดยสารทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 มาตรการชุดใหม่นี้จะปฏิบัติอย่างจริงจังตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 10.00 น.

ด้วยวิธีปิดประตูเข้า - ออก อาคารผู้โดยสารบางส่วน และกำหนดให้มีจุดคัดกรอง ณ ประตูเข้า - ออกที่เปิดใช้งาน ดังนี้

1. ห้องโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เปิดใช้งานประตูหมายเลข 2, 4, 7 และ 9

2. พื้นที่ชั้น 3 ยังคงเปิดใช้งานช่องทางเชื่อมอาคารจอดรถยนต์ ประตู หมายเลข 3 และ 8 ตามเดิม

3. ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2

             - เปิดใช้งานประตูหมายเลข 5 เฉพาะการผ่านเข้า และเปิดการใช้งานประตูหมายเลข 3, 4, 6, 7 , 8 และ 10 สำหรับการผ่านออกเท่านั้น

4. พื้นที่ชั้น 1 เปิดใช้งานประตูหมายเลข 3 และ 8

5. พื้นที่ชั้นใต้ดิน B1 กำหนดทางเข้าและออกอย่างละ 1 ช่องทาง

กรณีตรวจพบผู้โดยสารมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้พักรอ 3 - 5 นาที ก่อนตรวจซ้ำ ซึ่งหากตรวจซ้ำสองครั้งยังพบอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าค่าที่กำหนด จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอาคาร และประสานสายการบินที่ผู้โดยสารสำรองที่นั่งไว้

รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์ร่วมกันประเมินอาการ เพื่อพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางหรือไม่

ส่วนในกรณีที่ไม่ใช่ผู้โดยสาร อาทิ ผู้ใช้บริการ ผู้ที่มารับ - ส่ง ผู้ปฏิบัติงาน ฯลฯ หากตรวจวัดแล้วพบว่าอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าค่าที่กำหนด จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอาคาร

ทั้งนี้ กระบวนการหรือขั้นตอนคัดกรองดังกล่าวอาจกระทบกับเวลาหรือเที่ยวบิน ทสภ. จึงขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาสนามบินเพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน  ทอท.จึงขออภัยในความไม่สะดวก

ข่าวที่สาม “ดอนเมืองใช้ Terminal Screeningเต็มรูปแบบทุกจุด”
สนามบินดอนเมือง (ทดม.) เริ่มใช้มาตรการ Terminal Screening คัดกรองผู้ที่จะผ่านเข้ามาในอาคารผู้โดยสารทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 เริ่มตั้งแต่ 19 มีนาคม 2563 ต่อเนื่องไปจนกว่าจะประกาศยกเลิก โดย ขอจำกัดช่องทางเข้า - ออกอาคารผู้โดยสาร เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่จะผ่านเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสาร (Terminal Screening) ต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าภายในอาคารทุกคน ทดม.จึงปิดประตูทางเข้า - ออก อาคารผู้โดยสารบางส่วนและกำหนดให้มีจุดคัดกรอง ณ ประตูทางเข้าที่เปิดใช้งาน ดังนี้

อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ทดม.

- พื้นที่จอดรถชั้นใต้ดิน กำหนดใช้ช่องทางเข้า-ออกจากอาคารผู้โดยสาร ด้านทิศเหนือและทิศใต้ อย่างละ 1 ช่องทาง รวม 2 ช่องทาง

- ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ชั้น 1 เปิดใช้งานประตู 1 และ 6 เฉพาะการผ่านเข้าและประตู 2,7 และ 8 เฉพาะการผ่านออก โดยปิดการใช้งานประตู 3,4 และ 5

- ห้องโถงผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 3 เปิดใช้งานประตู 1 เฉพาะการผ่านเข้า และประตู 5,7 และ 8 เฉพาะการผ่านออก โดยปิดการใช้งานประตู 2,3,4 และ 6

อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ทดม.

 - ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชั้น 1 เปิดใช้งานประตู 15 เฉพาะการผ่านเข้า และประตู 10 และ 12 เฉพาะการผ่านออก โดยปิดการใช้งานประตู 9,11 และ 14

- ห้องโถงผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ชั้น 3 เปิดใช้งานประตู 11 และ 15 เฉพาะการ ผ่านเข้า และประตู 14 เฉพาะการผ่านออก โดยปิดการใช้งานประตู 9,10 และ 12

ทางเชื่อมอาคารจอดรถ 7 ชั้น กำหนดช่องทางการเข้า-ออก ดังนี้
     - ชั้น 1 (ไปจุดจอดแท็กซี่ อาคาร 2) กำหนดการใช้งานเฉพาะการผ่านออก
     - ชั้น 2 และชั้น 3 เปิดตามปกติ
     - ชั้น 4 ปิดการใช้งาน

สำหรับการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงสูง ให้เข้าจอดที่อาคารเทียบอากาศยานหมายเลข 6 (Pier 6) ซึ่งเป็นหลุมจอดอากาศยานที่แยกออกมาจากอาคารผู้โดยสารปกติ (Isolated Building)

กรณีตรวจพบบุคคลใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้พักรอ และทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง ซึ่งหากยังตรวจพบอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าค่าที่กำหนด จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอาคาร สำหรับผู้โดยสาร ทดม.จะประสานทางสายการบินที่ผู้โดยสารสำรองที่นั่งไว้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์ร่วมกันประเมินอาการ เพื่อพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางหรือไม่
หากพบเห็นปัญหาการให้บริการ หรือปัญหาอื่น ๆ สามารถแจ้งไปยัง AOT Contact Center 1722 หรือศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม.โทร 0 2535 1192 ตลอด 24 ชั่วโมง

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai