ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ภาคใต้ลั่นรักษารายได้ท่องเที่ยว8แสนล้าน ระดมเอกชนพลิกกลยุทธ์ลุยเจาะตลาดในประเทศ


ททท.ภาคใต้ลั่นรักษารายได้ท่องเที่ยว8แสนล้าน
ระดมเอกชนพลิกกลยุทธ์ลุยเจาะตลาดในประเทศ
คิงเพาเวอร์จัดBEST DEAL EVERฟรีคูปอง2พัน
ช้อปคิงเพาเวอร์แค่6-8พันบาทลดทันที 12-15%
ททท.งัดโปรเจ็กต์ประกวด10สไตล์เท่แจก5แสน
ททท.จัดโปรออนไลน์ปลุกทัวร์ในประเทศ102ล้าน
บางจากให้ใช้บัตรกรุงศรีจ่ายค่าน้ำมันลดถึง20%
เที่ยวใต้ที่สหกรณ์เกษตรนาโยงเพื่อชุมชนจ.ตรัง
 ทอท.สั่ง6สนามบินลุยตรวจขั้นสูงสุดโควิด-19
ตะลึง!ไชน่าเซาเทิร์นแอร์บินมาไทยแล้ว13มี.ค.นี้
ฮือฮา!อินดิโก้ขายบัตรอาหารเหลือแค่230บาท

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋ 

นิธี สีแพร ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์ภาคใต้กับ “นิธี สีแพร” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศรักษารายได้ 8 แสนล้านบาทไว้ให้ได้ ในฐานะเป็นพื้นที่นำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักเข้ามาค้ำยันเศรษฐกิจไทย เมื่อเจอวิกฤตผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จึงต้องเร่งระดมภาคธุรกิจปรับตัวครั้งใหญ่หันมาบุก “กำลังซื้อในประเทศ” พุ่งเป้ากระตุ้นคนใต้เที่ยวกันเองในภูมิภาค และปลุกคนกรุงกับรอบปริมณฑลกลับมาเดินทาง รอเวลาต่างชาติอีกหลายตลาดพร้อมคัมแบ็กเร็ว ๆ นี้ ทั้ง รัสเซีย ยุโรปตะวันออก ออสเตรเลีย ตอนนี้งัดทุกไม้ตายเปิดทุกช่องทางการขายไทยเที่ยวไทย โหมแคมเปญ “บอกรัก...ประเทศไทย” ด้วยโปรโมชั่นร้อนแรงลดถล่มทลายทุกเวที

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2563 จะต้องดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาให้มากที่สุด ภาคใต้ถือเป็นฐานสำคัญที่จะต้องทำรายได้ให้คงไว้ตามเป้า 8 แสนล้านบาท ใกล้เคียงเป้าหมายปี 2562 เน้นเพิ่มตลาดคนไทย ส่วนตลาดต่างประเทศอาจจะลดลงไปบ้าง ตามแผนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไป วางกลยุทธ์ทำตลาดเชิงรุกเนื่องจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มากพอสมควรโดยเฉพาะตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญ การผ่าทางรอด อันดับแรกจะต้องหาตลาดต่างประเทศอื่น ๆ เข้ามาทดแทน จากรัสเซีย ยุโรปตะวันออก แต่ก็จะต้องเวลาอีกสักระยะก่อนจะเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ส่วนออสเตรเลียสามารถทำได้ทันที กับตลาดคนไทยก็สำคัญจะต้องดึงเข้ามาท่องเที่ยวทดแทนต่างประเทศที่หายไป โดยจะเจาะ 2 กลุ่มใหญ่ 1.คนภาคใต้เดินทางท่องเที่ยวกันเองในภูมิภาค ปัจจุบันก็ยังคงจัดงานตามปกติ ทั้งด้านการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ดนตรี กีฬา 2.คนกรุงเทพฯและปริมณฑล ถึงแม้จะวิตกกังวลแต่ถ้าสถานการณ์ติดเชื้อคุมได้ความมั่นใจก็จะกลับมาเดินทางอีกครั้ง

ขณะนี้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในประเทศส่วนใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ 1.เลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่หันมาใช้รถขนาดเล็ก ลดจำนวนคนให้เหลือกลุ่มเล็ก ๆ 2.เลือกเดินทางท่องเที่ยวกับคนใกล้ชิด เพื่อความมั่นใจในการควบคุมการแพร่เชื้อไวรัส 3.เดินทางระยะใกล้มากขึ้น

ดังนั้น ททท.ภูมิภาคภาคใต้จะเน้นกระตุ้นตลาดในประเทศ เดินทางภายในภูมิภาคเดียวกันเป็นหลัก โดยพยายามให้เกิดการสื่อสารปากต่อปากบอกเล่าเรื่องราวกิจกรรมดี ๆ ของแต่ละจังหวัดในภาคใต้ เพราะคนส่วนหนึ่งพึ่งพาท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อป้องกันบรรเทาความเดือดร้อนที่อาจจะมีการเลิกจ้าง ดังนั้นจึงโหมประชาสัมพันธ์แคมเปญ “บอกรัก ประเทศไทย” พร้อมทั้งจัดส่งเสริมรายการนำเที่ยว คาราวานรถท่องเที่ยว รถยนต์ รถตู้ รถบัส บิ๊กไบค์ และการรับสมัคร “บล็อกเกอร์ใจกล้า” โชว์ให้เห็นถึงเมืองไทยพร้อมที่จะให้นักท่องเที่ยวไปได้ตลอด เชิญชวนคนไปรับพลัง สายลม แสงแดด อาบป่า อาบทะเล ต่าง ๆ เหล่านี้

จากผลการศึกษาวิจัยตอนนี้พบว่า การออกไปรับพลัง ท่องเที่ยวธรรมชาติด้วยวิธี อาบป่าจะสามารถฆ่าเซลมะเร็งได้เรียกว่า Forest Therapy หรือ อาบทะเล Ocean Therapy หรือการท่องเที่ยวไหว้พระ ดึงความมั่นใจกลับมา กำลังเริ่มประชาสัมพันธ์กับตลาดในประเทศเริ่มมีนาคมนี้เป็นต้นไป

ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการหลาย ๆ ราย เพื่อปรับแพกเกจท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในสถานการณ์ตอนนี้ อย่างกลุ่มบริษัทที่นิยมจัดคาราวานแรลลี่ ก็ให้หันมาเน้น แรลลี่ครอบครัว หมู่เพื่อน แทนคาราวานบัส เพราะ ททท.ได้ปรับกลยุทธ์ช่วยเอกชนทำการตลาดแบบครบวงจร ตั้งแต่ 1.ไปหาลูกค้ามาให้ ตอนนี้ผู้ว่าการ ททท.เดินสายคุยกับองค์กรขนาดใหญ่ อย่าง กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนหมู่บ้านและชุมเมืองแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แต่ละหน่วยงานมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ ทาง ททท.ภาคใต้ก็จะได้จัดทำแพกเกจเส้นทางท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการของพันธมิตรเหล่านี้ 2.เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ลงทุนโครงการบล็อกเกอร์ใจกล้า 3.กระตุ้นคนท้องถิ่นออกมาเล่าเรื่องเพื่อชวนคนไปเที่ยว 4.แนะนำการเดินทางท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย เช่น กิน ร้อน ช้อนกลาง การฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะ การตรวจอุณหภูมิก่อนขึ้นรถออกเดินทางท่องเที่ยว 5.จัดหาบริษัทกันการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งหมดเพื่อตอกย้ำว่าการเดินทางท่องเที่ยวกับ ททท.แล้วปลอดภัย

เพราะแนวทางการจัดทริปเดินทางนั้น ได้ยึดหลักความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการประกาศพระราชกิจจาเรื่องมาตรการดังกล่าวชัดเจน ส่งผลให้ต้องพิจารณาเลื่อนหรือชะลอการจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ บ้าง เช่น ช่วงมีนาคมเลื่อนการจัดงาน ไทยแลนด์ฟู้ดทรัค ส่วนเมษายน งานหลักคือสงกรานต์ ต้องปรับวิธีการจัดงาน มีการตรวจอุณหภูมิ มีอุปกรณ์ดูแลความสะอาด จัดอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอนนี้กำลังรวบรวมเพื่อกำหนดมาตรการ หากเป็นงานเทศกาลประเพณีก็จะเดินหน้าจัดตามปกติ ด้วยการยึดหลักความปลอดภัยในสุขภาพของคนส่วนใหญ่

สำหรับภาคใต้ช่วงเมษายน จะเน้นการท่องเที่ยวสงกรานต์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น สงกรานต์แห่นางดาน จ.นครศรีธรรมราช มิดไนท์สงกรานต์หาดใหญ่ สงกรานต์ ออน เดอะ บีช ที่เกาะสมุยและภูเก็ต ขณะเดียวกันที่ตรังจะชูเรื่องอาหาร จัดสงกรานต์ซีฟู้ด ดึงกิมมิกเด่น ๆ ในแต่ละจังหวัดออกมาผสมผสานทำการตลาด หรือแม้แต่อีเวนต์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา กระตุ้นคนออกมาทำเพื่อสุขภาพ เช่น ปั่นจักรยาน หรือ โยคะ ระนอง กระบี่ เป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบ “การท่องเที่ยวเพื่อรับพลังบวก” หรืออย่างกลุ่มสายมู จะทำแคมเปญ “มูให้สุด แล้วหยุดที่ภาคใต้” จะทำกับแบรนด์ไลลา ผู้นำสินค้าเครื่องประดับกับของขลัง จะจัดโปรแกรมชวนกันไปทำพิธีในภาคใต้ ช่วงเดือนพฤษภาคม นี้ หลังเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทยสงกรานต์เรียบร้อยแล้ว

ผอ.นิธิ กล่าวว่า การเพิ่มจุดขายธีม “More Inspire และ ชีพจรลงเซาท์” ก็เร่งเดินหน้าทำกับ 3 พันธมิตร ได้แก่ 1.ธนาคารกรุงเทพฯ นำผู้ถือบัตรเครดิตทำแคมเปญเชิญชวนสมาชิกเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ซื้อแพกเกจห้องพัก ร้านอาหาร ราคาสุดพิเศษ เช่น แคมเปญ กินหรูอยู่สบายที่ภูเก็ต กินหลากสไตล์หลายวัฒนธรรม 3 จังหวัดชายแดนใต้ 2.ร่วมกับซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ นำสินค้าของกินของใช้ของฝากในภาคใต้มาจัดงาน สอดแซกการทำโปรโมชั่นแหล่งท่องเที่ยว 3.จับมือกับทรู ซึ่งมีทั้ง ทรู วิชั่น, ทรู ไอดี และทรู แบล็คการ์ด เป็นกลุ่มกำลังซื้อ ทำโปรโมชั่นพิเศษ แจกลูกค้า เน้นการชวนเดินทางไปกินอาหารตามจังหวัดต่าง ๆ ผนวกการใช้ Music Marketing นำศิลปินเข้ามาสร้างแรงจูงใจชวนคนรุ่นใหม่มาเต้น Cover จะได้โชว์ให้เห็นความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว โดยให้สิทธิ์สมาชิกทรูเข้าไปกดรับสิทธิพิเศษ ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว สถานบริการต่าง ๆ ในภาคใต้

ส่วนการประมวลผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ในภาคใต้นั้น ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน หามาตรการต่าง ๆ มาช่วยนอกเหนือจากการทำตลาดเชิงรุก เบื้องต้นต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่น ตอกย้ำให้เห็นว่าภาคใต้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย สบายใจ โดยผู้ประกอบการจะต้องอดทน เพราะเป็นช่วง “ซ่อม-สร้าง” เอกชนจะต้องหันมาปรับปรุงสถานบริการ อบรมพนักงาน เรียนรู้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ส่วนรัฐก็กำลังทำมาตรการเสริมสภาพคล่อง

ทางด้านของ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ ก็ช่วยโหมการขายสินค้าท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Online Travel Agents :OTA มีหลายรายด้วยกัน จัดงานคอนซูเมอร์ แฟร์ มีโปรโมชั่นแรงทุกงาน ซื้อแล้วสามารถเก็บไว้ท่องเที่ยวได้ยาว เช่น ไทยเที่ยวไทย ที่ไบเทคบางนา ระหว่าง 5-8 มีนาคม 2563 งานเที่ยวทั่วไทย ที่สยามพารากอน ส่วน OTA ก็ทำร่วมกับ Traveloga, Klook, Click&Go เพื่อให้คนเข้ามาซื้อท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกทันท่วงที

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดBEST DEAL EVERรับฟรีคูปอง2พัน
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนมาช้อปในแคมเปญ “BEST DEAL EVER” สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับฟรี! คูปองเงินสดสูงสุด 2,000 บาท ระหว่างวันนี้30 เมษายน 2563 ที่ คิง เพาเวอร์ สาขาหลัก ๆ คือ รางน้ำ มหานคร  พัทยา และภูเก็ต เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ บัตรเครดิตร่วม คิง เพาเวอร์ – ไทยพาณิชย์ รับคูปองเงินสด บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ประเภทอื่นๆ รับคูปองเงินสด 800 บาท  จำกัดการซื้อสินค้าสูงสุด 20,000 บาท/คน/สาขา/ตลอดรายการ ก็รับไปเลยคูปองเงินสดสูงสุด 2,000 บาท คูปองที่ได้รับจะหมดอายุวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 

กติกาการช้อปแคมเปญนี้ 1.เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบเพิ่มเติม ณ จุดขาย 2.ใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ 3.สมาชิกที่ร่วมรายการจะต้องแสดงบัตรประชาชนคู่กับบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ในการเข้าร่วมรายการ

ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์แค่6-8พันบาทลดทันที12-15%

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมช้อปผ่านช่องทางออนไลน์กับ Online Sale ลดพิเศษทันที 12-15% เพียงแค่เข้าไปเลือกสินค้าแล้วสั่งซื้อทาง www.kingpower.com   ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1.เข้าไป Login เพื่อรับรหัสส่วนลดได้ที่ KingPower.com และ King Power Application  ตั้งแต่วันนี้ – 10 มีนาคม 2563 เท่านั้น

2.ช้อปครบ 6,000 บาท รับส่วนลด 12 % เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไปรับส่วนลดทันที 15%  

3.แบ่งชำระ 0% ผ่อนนานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ และผ่อน 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563

4.สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ทุกรายการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์สามารถสะสมกะรัตได้

ข่าวที่ 3 ททท.งัดโปรเจ็กต์ประกวด10สไตล์เที่ยวไทยเท่แจก5แสน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนสมัครเข้าร่วมโครงการตัวแทนนักท่องเที่ยว 10 สไตล์เท่ห์ๆ ร่วมทำภารกิจค้นหาและถ่ายทอดเรื่องราวท่องเที่ยวแตกต่างในไทย ในไสตล์ที่เป็นตัวเอง เข้าไปลงทะเบียนพร้อมสมัครร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2563 เท่านั้น โดยเข้าไปดูข้อมูลใน www.ไทยเท่10สไตล์.com เพื่อลุ้นรางวัลสำหรับภารกิจการแข่งขัน Most Inspiration award 10 รางวัล โดย 1 สไตล์จะมีผู้ชนะเพียง 1 รางวัล ๆ ละ 50,000 บาท รวมมูลค่า 500,000 บาท


ผู้ที่มีมั่นใจว่ามีทักษะเป็นนักท่องเที่ยว 1 ใน 10 สไตล์ ที่รีวิวเก่ง ถ่ายรูปสวย ทำคลิปเท่ห์ มีเวลาเดินทางท่องเที่ยว   3 วัน 2 คืน ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563  มีคุณสมบัติของผู้สมัครต้องเป็น Blogger ท่องเที่ยว / Influencer หรือ นักท่องเที่ยว ที่มีสไตล์ตามที่กำหนด ดังนี้

1.Hipster : มีวิถีชีวิต วิธีคิด และมุมมองที่ไม่เหมือนใคร เสพ ศิลปะ มีศิลปะในการถ่ายภาพ ชอบท่องเที่ยวธรรมชาติแบบเรียลๆไม่ปรุงแต่ง
2.Green Lover: นักเดินทางที่“เที่ยวด้วยใจคิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”รักและหวงแหนธรรมชาติทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว
3.Me myself & I : ผู้หญิงเที่ยวคนเดียว
4.Solo TravelerDigital Nomad : นักเดินทางที่รวมเรื่องงานเรื่องเที่ยวไว้ด้วยกัน จะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ขอแค่มี อินเทอร์เน็ต
5.Social Story : อัฟรูปเที่ยวลงโซเชียลให้เพื่อนๆ อิจฉา สถานที่ที่เลือกไปต้อง Wow ต้องเก๋อัพรูปขึ้นเมื่อไหร่ยอด like ต้องมา
6.Conqueror : นักเดินทางที่ชอบเป็นผู้พิชิต ชื่นชอบและหลงรักการท่องเที่ยวที่มีเป้าหมายและอุปสรรคยากๆ ที่ต้องใช้ความพยายามบากบั่นเพื่อไปให้ถึง
7.Voluntourist :เที่ยวแบบจิตอาสา เช่น ขึ้นดอยไปเป็นครูสอนหนังสือ หรือ อาสาสมัครในมูลนิธิเลี้ยงช้าง
8.Camera is My life : นักเดินทางที่บันทึกเรื่องราวการเดินทางด้วยภาพถ่าย ชอบถ่ายภาพธรรมชาติมากกว่าคน
9.Foodie :นักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับการตามล่าหาของอร่อยทั่วทุกที่ตั้งแต่ร้านโลคอลข้างทางยันร้านเหลาเก่าแก่ในตำนาน
10.Forever Young : นักเดินทางรุ่นใหญ่ ที่แซ่บส์ ซ่า สนุกสนานกับการใช้ชีวิตและอายุ 20 ปี ขึ้นไป (นับตั้งแต่วันที่สมัคร) รักการเดินทาง/ค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆมีทักษะในการใช้ Social media และสื่อออนไลน์ต่างๆมีความสามารถในการเล่าเรื่อง story telling เขียนรีวิวท่องเที่ยวมีความสามารถในการถ่ายรูป ทำคลิปวีดีโอ

เกณฑ์การคัดเลือก จะคัดตัวแทนนักท่องเที่ยว 10 สไตล์ สไตล์ละ 5 ทีม / ทีมละ 2 คน รวมทั้งสิ้น 50 ทีม จำนวน 100 คน

วิธีการสมัคร 1.ส่งภาพถ่ายของคุณและเพื่อน (ทีมละไม่เกิน 2 คน) Capture หน้าจำนวน Follower ในเพจ/โปรไฟล์ Facebook or IG ของคุณและเพื่อนเลือกสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นคุณ
2.เลือกภูมิภาค และ จังหวัด พร้อม Draft Trip idea concept 3 วัน 2 คืนเกณฑ์ การคัดเลือก 50 ทีมท้ายจากคณะกรรมการจะคัดเลือกจากผู้ที่มีสไตล์การท่องเที่ยวที่โดดเด่น 3.นำเสนอTrip Idea ที่สร้างนิยามใหม่ของการท่องเที่ยว มีมุมมองที่สดใหม่ Untold , Unseal ตอบโจทย์Amazing ไทยเท่ เมืองไทย สวยทุกที่ เท่ห์ทุกสไตล์

ภารกิจการแข่งขัน 1.ทุกทีมมีเวลาภารกิจให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางพร้อมกัน แต่ต้องเดินทางให้ภายในช่วงพฤกษภาคม-มิถุนายนเท่านั้น  โจทย์ที่จะต้องทำคือ 1.ทุกทีมเดินทางไปในจังหวัด ตามผลที่ได้รับการจับฉลากจากทางโครงการ 2.ต้องท่องเที่ยวอยู่ในจังหวัดนั้น ๆ 3 วัน 2 คืน แล้วออกแบบทริปเท่ๆ ตามเส้นทางท่องเที่ยวในภูมิภาคและจังหวัดที่จับฉลากได้ 1 ทริป เพื่อจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวไปกับคุณสร้างสรรค์สื่อประชาสัมพันธ์ต่อไป

การส่งงาน 1.ผลิต Viral Clip เพื่อสร้างแรงบันดาลใจกระตุ้นการเดินทางเที่ยวไทยเท่ 2.ผลิต รูปภาพย่างน้อย 20 ภาพโปรโมทและสร้างแรงบันดาลใจ หลังจากที่ทีมงาน อัพโหลดเสร็จเรียบร้อย ทางทีมงานจะทำการแจ้งอัพโหลดสำเร็จผ่านทางอีเมล พร้อมแนบ Link หน้า Blog ของผู้เข้าแข่งขัน และทางโทรศัพท์ เพื่อแจ้งให้ทุกทีมเริ่มทำการโปรโมทบทความทริปไอเดีย Video clip, Photo โดยการ Share จาก Blog ของโครงการไปยังช่องทางต่างๆของตัวเองเป็นเวลา 20 วัน นับตั้งแต่วันที่ทีมงานได้อัพโหลดลงสื่อ

การตัดสินและรางวัล จากคะแนน 100% แบ่งเป็น  จากคณะกรรมการ60%   Social Engagement Shares, Comments, tags, tweets & retweets 40%
วิธีการนับคะแนน Social Media จะนับจาก Blog , Facebook , YouTube ของโครงการเท่านั้น


นายนพดล ภาคพรต   รองผู้ว่าด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จับมือกับพันธมิตรกว่า 20 ราย ทำโปรโมชั่นแรง ๆ กระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2563 ได้จัดโครงการส่งเสริมกิจกรรมการตลาดออนไลน์ Amazing ไทยเท่ ปี 2563 ภายใต้แนวคิดแนวคิด “เที่ยวเมืองไทย สไตล์ไหนก็เท่” ปลุกกำลังการซื้อขายสินค้าบริการท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค เน้นการสื่อสารผ่านออนไลน์สอดคล้องกับพฤติกรรมคนไทยนิยมใช้ออนไลน์มกว่า 75% หรือราว 52 ล้านคน  นำเที่ยว กิจกรรม ที่พัก ร้านอาหาร เก๋ ๆ   มาให้เลือกกว่า 100 รายการ  ตั้งเป้าจะสร้างรายได้หมุนเวียนจากตลาดในประเทศกว่า 102 ล้านบาท

ททท.ได้คัดโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่สุดกว่า 100 รายการ ครอบคลุมทุกตลาด ทุกสไตล์ ตามความชอบ ทั้งกลุ่มชอบเที่ยวคนเดียว (solo traveler) ชอบเที่ยวแบบแก๊งสาวโสด (single) กลุ่มคนรักน้องหมา (dog lover) กลุ่มท่องเที่ยวสายสปอร์ต สายสุขภาพ (sport – health and wellness) กลุ่มคู่รัก (buddy moon – baby moon) กลุ่มเที่ยวสองวัย หรือ วัยเกษียณ (Split-Gen, Retirement)  
               
วิธีรับสิทธิ์โปรโมชั่นออนไลน์ในโครงการของ ททท. จะต้อง แอด LINE : @Tiewthaitay และลงทะเบียนเพื่อรับคูปองส่วนลดได้กว่า 50 รายการ (ร้านอาหาร คาเฟ่ ) กิจกรรม โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน พร้อมส่วนลด ได้ที่ www.เที่ยวไทยเท่.com  ตั้งแต่วันนี้ - กันยายน 2563

ไฮไลต์หลัก ๆ ประกอบด้วย โปรแกรม Digital Detox Program แคมป์สำหรับคนเบื่อโซเชียลมาพักตา พักใจ รักษาสุขภาพ ในภาคใต้กับการกิน super food  หรือภาคกลาง ชวนเล่นโยคะบนเซิร์ฟบอร์ด ภาคเหนือจัดเต็มการ เรียนรู้เรื่องราว และ Shopping ผ้าไหม 100 ปี ทำสปาโกโก้ ภาคอีสานจัด แคมปิ้ง chef table แบบ pop up dining หรือเจาะลึก เรื่องกัญชาเพื่อการท่องเที่ยว  ภาคตะวันออก ไปสนุกกันให้เต็มที่กับ Free Dive Program พร้อมช่างภาพใต้น้ำส่วนตัว ล่องเรือ HYPE ลำใหม่ล่าสุด ชิม The Most Instragrammable Cocktail อัพลง social เก๋ ๆ

ส่วนโปรโมชั่นสุดพิเศษที่จะมามอบให้กับนักท่องเที่ยวตลอดโครงการ ตั้งแต่วันนี้-กันยายน 2563 สมาชิกบัตรเครดิต KTC รับสิทธิ์ “บิน เที่ยว พัก” ฟรีรวมกว่า 200,000 บาท เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวในประเทศ เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพ็กเกจท่องเที่ยว รถเช่า ผ่านช่องทาง KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050 ของรางวัลมีจำนวนจำกัด)

สำหรับพันธมิตรรายอื่น ๆ  ที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ นกแอร์ แจกโค้ดส่วนลดตั๋วเครื่องบินสุดพิเศษให้ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 21 จังหวัด Traveloka มอบโปรโมชั่นส่วนลดโรงแรมกว่า 70% และโค้ดส่วนลดเพิ่ม สูงสุด 100 บาท  Xperience บริการรถรับส่งสนามบิน บริการเช่ารถ Klook มอบส่วนลดสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยว ทั้งร้านสปา ร้านอาหาร บัตรสวนน้ำ แพ็คเกจกิจกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ Agoda ลดที่พักสูงสุดกว่า 80% พร้อมต่อที่สองแจกโค้ดส่วนลด 100 บาท

Thai Rent a car ลดตั๋วรถเช่าราคาเริ่มต้น 650 บาท/วัน และcash voucher ลด 30% Thairoute.com แจกโค้ดส่วนลด 30 บาท สำหรับลูกค้าจองตั๋วเดินทางรถบัสทั่วประเทศ 

ส่วนโปรโมชั่นอื่น ๆ ก็ยังมีให้เลือกอีกหลากหลาย ได้แก่  SuriyanChandra at Ayutthaya, เจ้าพระยาครุยส์, Andaman Passion, The Islander มอบส่วนลดทริปสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวของโครงการ Local Pillow, Local Alike ให้ส่วนลดสัมผัสประสบการณ์แบบชุมชน กินอาหารท้องถิ่น แบบ authentic และสุดท้าย ลูกค้า True มีสิทธิ์รับส่วนลดสูงสุด 40% สำหรับร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ
               
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญร่วมกับทางบัตรเครดิตธนาคารกรุงศรี เชิญชวนผู้ใช้น้ำมันมาเติมให้สุด ณ จุดนี้ กับบัตรเครดิต กรุงศรี รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 20% ระหว่างวันนี้ - 30 เม.ย. 63 โดยสามารถรับเครดิตเงินคืน โดยไม่ต้องลงทะเบียน พอยต์เพิ่มค่า รับคุ้มทุกสัปดาห์ รับเครดิตเงินคืนภายใน 7 วัน

            การรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 20 % คำนวณจากการเติมน้ำมันครบ 800 บาท/สลิปผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ซิกเนเจอร์ หรือบัตรเครดิต สยามทาคาชิมายะ ไฟน์เนส - อินวิเทชั่น โอนลี่ พร้อมแลกพอยต์ครบตามกำหนด จะได้เครดิตเงินคืนจะรวมเป็น 24 บาท + 136 บาท = 160 บาท  (จากยอดเติมน้ำมันครบ 800 บาท x 20%) พร้อมกับอีก 2 สิทธิพิเศษ คือ

พิเศษที่ 1: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3%*  ไม่ต้องลงทะเบียนเมื่อเติมน้ำมันบางจากครบทุก 800 บาท/เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืนทันที บัตรเครดิต กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ซิกเนเจอร์,บัตรเครดิต สยามทาคาชิมายะ ไฟน์เนส - อินวิเทชั่น โอนลี่ ลด 3%       บัตรเครดิต กรุงศรี  ซิกเนเจอร์,บัตรเครดิต สยามทาคาชิมายะ ไฟน์เนส,บัตรเครดิต กรุงศรี คอร์ปอเรท การ์ด,บัตรเครดิต ทีซีซี พริวิเลจ การ์ด,บัตรเครดิตกรุงศรี โฮมโปร คอร์ปอเรท การ์ด ลดอีก 2% และบัตรเครดิต กรุงศรี ประเภทอื่น ๆ ลด 1%      

โดยจำกัดการคำนวณรายการเครดิตเงืนคืนสำหรับยอดการเติมน้ำมันสูงสุด 4,800 บาท/1 หมายเลขบัตรหลัก/1 รอบบัญชี โดยคำนวณยอดใช้จ่ายจากทั้งบัตรหลักและบัตรเสริมรวมกัน

พิเศษ 2: แลกพอยต์รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม  17%** เพียงเติมน้ำมันครบ 800 บาท/สลิป + 1,200 พอยต์ = รับเครดิตเงินคืน 136 บาท  แลกพอยต์หลังรูดทำรายการภายในวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ทำรายการ (ฟรีค่าบริการ) ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน UChoose เท่านั้น (โดยพิมพ์คำค้นหาโปรโมชั่นว่า “BCP”) โดยรอรับข้อความตอบกลับยืนยันการหักพอยต์ถือว่าเข้าร่วมรายการสำเร็จ)
           
จำกัดการแลกพอยต์สูงสุด 1 ครั้ง/บัญชีบัตรหลัก/สัปดาห์ (นับจันทร์-อาทิตย์) โดยเครดิตเงินคืนจะโอนเข้าบัญชีบัตรหลักภายใน 7 วันหลังจากวันที่ทำรายการ

                ช่วงที่ 2

@ล่องใต้ไปชมสหกรณ์การเกษตรนาโยงเพื่อชุมชน จ.ตรัง
ยุคนี้คนไทยต้องช่วยกัน ออกเดินทางไปใช้ในประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว สัมมนา ศึกษาดูงาน ล่องใต้ไปชมไร่นาสวนผสมเพื่อชุมชน “สหกรณ์การเกษตรนาโยง จำกัด” ที่ตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ที่มีความโดดเด่นด้าน “การพัฒนาอาชีพ” เป็นศูนย์รวมธุรกิจการขายสินค้า มีบริการพลังงานเชื้อเพลิงแก่สมาชิก มีกิจกรรมต้อนรับผู้ศึกษาดูงาน ไฮไลต์คือ “วงจรการทำนา” ตั้งแต่เริ่มเตรียมดิน เพาะเมล็ดกล้า ดูแล ไปจนถึงเก็บเกี่ยว ทำอย่างไรจึงได้ผลผลิตมีคุณภาพ ขายได้ราคาดี พร้อมกับตามไปดู “การทำไร่นาสวนผสมในแปลงสหกรณ์”

ด้วยประสบการณ์ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2533 ผ่านมา 30 ปี จากจุดเริ่มการรวมตัวกันของสมาชิกเพียง 156 คน ที่สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสปลดหนี้ จนก่อสร้างตัวเป็นสหกรณ์อันดับต้น ๆ ที่มีความเข้มแข็ง กลายเป็นศูนย์ศึกษาดูงานของกลุ่มจัดประชุม สัมมนา ภายในประเทศ อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

ภายในสหกรณ์การเกษตรนาโยง ลงทุนสร้างห้องประชุม รองรับงานสัมมนาได้พร้อม ๆ กัน ภายในตัวอาคารครั้งละ 400 คน ด้านนอกอาคารเปิดโล่งก็รองรับได้อีกถึง 1,000 คน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม ของทุกปี จะเป็นช่วงที่เหมาะจะเดินทางไปดูงาน กับกิจกรรมเรียนการไถนาด้วยรถไถ ปักดำกล้าข้าวด้วยแรงงานคน

ดูงานเสร็จก็ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวไร่กาแฟ สามารถไปชมการปลูกกาแฟโรบัสต้าในสวนยางพารา บริเวณเทือกเขาบรรทัด หรือจะไปดูกรรมวิธีการทอผ้าของกลุ่ม “ทอผ้านาหมื่นศรี” ดูการทำข้าวหลามของกลุ่มสาธิตตำบลโคกสะบ้า ดูแล้วก็ควักเงินช่วยกันซื้อผลิตภัณฑ์อุดหนุนชาวบ้านในพื้นที่ หากมีเวลาก็เดินทางไปเที่ยวต่ออีกสักนิดได้ที่ อุทยานนกน้ำคลองลำซาน

ออกเดินทางไป “บอกรัก...ประเทศไทย” ด้วยการท่องเที่ยว ศึกษา ดูงาน จัดประชุม ในบรรยากาศท้องถิ่นพื้นบ้านที่ “สหกรณ์การเกษตรนาโยง” สอบถามเพิ่มที่ 075-299-509 , 093-781-9154 หรือ www.nayongcorp.com

@วิถีคนเมืองต้องตื่นตัวเลี่ยง5ข้อสร้างสุขภาพสุดแย่


ต้องยอมรับว่าการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ต้องต่อสู้เพื่อแข่งขันกับ "เวลา" เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้น นี่คือ  5 วิธีที่จะอยู่ในเมืองสไตล์ที่สามารถให้คุณหลีกเลี่ยงจากสุขภาพสุดแย่ได้


1. เลือกที่จะอดทานอาหารเช้า
เพราะ“ อาหารเช้า” เป็นมือที่สำคัญที่สุด อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อแรกที่ร่างกายได้รับพลังงานหลังจากหิวมานาน (ระหว่างการนอนหลับ) ดังนั้นบ่อยครั้งที่คุณเลือกที่จะอดทานอาหารเช้ามันนำไปสู่ความจริงที่ว่าร่างกายมีพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้การทำงานของสมองช้าลงและอาจมีผลกระทบต่อการทำงานในชีวิตประจำวันของคุณ


2. ดื่มน้ำน้อยไปสุขภาพก็ไปเหมือนกัน
ร่างกายส่วนใหญ่ของเราเป็นน้ำ 70% ดังนั้นการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตรจะช่วยให้ร่างกายรักษาไขมันและกำจัดสารพิษ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้นนอกจากนี้น้ำเป็นส่วนสำคัญของผิวหนังดวงตาและระบบขับถ่ายภายในสำหรับการทำงานปกติ เกิดอะไรขึ้นถ้าร่างกายของเราขาดน้ำมันจะนำไปสู่ภาวะเลือดคั่งเกิน (hyperemia) ความผิดปกติของการไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ติดตามในภายหลัง

3. นั่งในตำแหน่งเดียวกันเป็นเวลานาน
ออฟฟิศซินโดรมหรือโรคกล้ามเนื้อและการอักเสบที่เกิดจากการนั่งหรือทำงานในตำแหน่งเดียวกันมานาน สิ่งนี้มักเกิดขึ้นกับผู้มีรายได้สูง เนื่องจากการใช้ชีวิตที่ต้องนั่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมงต่อวันทำให้กล้ามเนื้อมือนิ้วมือไหล่และหลังล้าเมื่อยล้าไม่รวมกับความเมื่อยล้าของดวงตาและสภาวะความเครียดที่อาจเกิดขึ้น เมื่อรู้สิ่งนี้โดยไม่รู้ตัวคุณควรลุกขึ้นและขยับร่างกาย

4. ทำงานล่วงเวลาติดกันทุกวัน
แม้ว่าจะได้รับรายได้จำนวนมาก แต่ทำงานล่วงเวลาทุกวันสิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว ลองนึกภาพรถยนต์ว่าขนาดของรถยังคงต้องหยุดหรือตรวจสอบสภาพของเครื่องยนต์ ร่างกายมนุษย์จะแตกหักแค่ไหนหากต้องทำงานตลอดเวลา สำหรับชาว Thai Health เรายินดีจะแนนำว่า คุณควรแบ่งปันเวลาทำงานของคุณ จัดตารางเวลาและกำหนดความสำคัญของงานเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องอยู่ในออฟฟิศอีกวัน จนทำให้เกิดสุขภาพที่ไม่ดี

5. เข้านอนดึกเป็นประจำ
นอกเหนือจากการจราจรติดขัดจนกว่าคุณจะกลับบ้าน การเล่นแชทออนไลน์ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน หากคุณนอนดึกสมองของเราจะพักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลง อารมณ์จะแกว่งอยู่ตลอดเวลา

            ถึงเวลาหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทั้ง 5 อย่าง เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ทอท.สั่ง6สนามบินตั้งอุปกรณ์ตรวจขั้นสูงสุดโควิด-19
                ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ จึงต้องยกระดับคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มงวดในสนามบินหลัก 6 แห่งได้แก่

สุวรรณภูมิ -ทสภ.ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน มีเจ้าหน้าที่จากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการร่วมประจำจุดคัดกรอง 4 จุด ได้แก่ (1) จุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 3 (2) จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 3 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row T) (3) จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 2 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row W) (4) จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 1 (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row A)

ดอนเมือง -ได้เพิ่มมาตรการตรวจผู้โดยสารระหว่างประเทศทุกเที่ยวบินอย่างเข้มงวด โดยติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยระบบอินฟราเรด (Thermoscan)  2 จุด ตรงแนวทางเดินด้านทิศเหนือ ใกล้อาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 2 (Pier 2) และแนวทางเดินด้านทิศใต้ ใกล้กับอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 3 (Pier 3) อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1

ภูเก็ต- ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนบริเวณหน้าจุดตรวจลงตราหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และจัดเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู บริเวณหน้าจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และที่ ทชม.ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน ณ บริเวณด้านหลังจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ

หาดใหญ่กับเชียงราย - ได้จัดหลุมจอดเฉพาะให้เที่ยวบินที่มาจากต่างประเทศทุกเที่ยวบิน พร้อมติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสาร ที่หาดใหญ่ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนบริเวณพื้นที่ หน้าด่านควบคุมโรค ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ส่วนเชียงรายตั้งอยู่บริเวณหน้าพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า

                ทั้งนี้ทุกสนามบินของ ทอท.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (Emergency Operation Center : EOC) ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น ตม. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ศุลกากร ตามสั่งการกระทรวงคมนาคม โดยจะมีการประชุมร่วมกันทุกวัน เพื่อประสานงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และใช้ประโยชน์จากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (Advance Passenger Processing System : APPS) ซึ่ง ทอท.และ ตม.ได้ติดตั้งและใช้งานมาตั้งแต่ปี 2558 มาช่วยคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ข่าวที่สอง ตะลึง!ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ลั่นเปิดบินมาไทยแล้ว13มี.ค.นี้
สายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ส รายงานว่า พร้อมจะเปิดบริการบินตามปกติ ไป-กลับ เซินเจิ้น-กรุงเทพฯ อีกครั้ง เริ่ม 13 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หลังจากถูกระงับท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะใช้เครื่องบินแอร์บัส A320 ให้บริการทุกวันทั้งไปและกลับ
ซึ่งทางไชน่า เซาท์เทิร์นฯ วางแผนเปิดให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีเที่ยวบินบริการจากเซินเจิ้นกว่า 460 เที่ยว พร้อมจะกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินที่ถูกระงับเพิ่มขึ้น ยืนยันทางเจ้าหน้าที่ระดมฉีดยาฆ่าเชื้อโรคบนเครื่องบินโดยสารที่สนามบินนานาชาติไหโข่วเหม่ยหลาน (Haikou Meilan International Airport) ในเมืองไหโข่ว มณฑลไห่หนาน ทางสายการบินพร้อมจะเพิ่มมาตรการควบคุมและป้องกันเชื้อไวรัสโควิดโดยฉีดยาฆ่าเชื้อโรคภายในห้องโดยสารทันทีหลังแต่ละเที่ยวบินเสร็จสิ้น

ข่าวที่สาม “อินดิโก้ขายบัตรอาหารเหลือแค่230บาทในงานเที่ยวไทย

โรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ ร่วมขายในงานไทยเที่ยวไทย ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (BITEC) บูธหมายเลข G01-03, G48-50 วันที่ 8 มีนาคม นี้ และที่งานไทยเที่ยวไทย คือไทยเท่ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน (Siam Paragon) ชั้น 1 ลานแฟชั่นฮออล์ วันนี้– 11 มีนาคม  โดย ห้องพักราคาเริ่มต้นเพียง 3,900 บาทถ้วนต่อคืน รวมอาหารเช้า ส่วนบัตรรับประทานอาหารราคาเริ่มต้นเพียง 230 บาทถ้วนเท่านั้น

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai