ททท.เพชรบุรีเปิดแผนขายท่องเที่ยวปี63บูมทัวร์วัดวังศิลปะงานพระนครคีรี-คิงเพาเวอร์ลุยโปรจองสินค้าล่วงหน้าก่อนบิน

ททท.เปิดแผนตลาดรุกขายเพชรบุรีเที่ยวเมืองท็อปเทน

บูม‘วัด-วัง-ศิลปวัฒนธรรม-งานพระนครคีรี’ดันรายได้โต

คิงเพาเวอร์อัดโปรแรงบริการจองสินค้าล่วงหน้าก่อนบิน

คิงเพาเวอร์แจกสนามบอลสวนศรีเมืองหนุน ศก.ชุมชน

ททท.ผนึกธกส.ผุด4โปรเจ็กต์ใหญ่ปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

ททท.บูมงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก12-22มี.ค.นี้

“บางจาก”ชวนบริจาคแต้มแปลงเป็นเงินช่วย15องค์กร

TCEBตั้งวันสต็อปไมซ์เซ็นเตอร์เซอร์วิสหนุนไทยแกร่ง

More Food&Funระยองเที่ยวดูงาน5ชุมชนสนุกล้ำ

ยุคหน้ากากแนะการ“ใส่และทิ้ง”หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี

“แอคคอร์-คาร์ลตัน”ไม่หวั่นโควิดเปิดโรงแรมใหม่ในไทย

บางกอกแอร์ขายทุกสินค้าทั้งบัตรเลาจน์-แอกซ่าประกัน

สนามบินอุดรเปิดแล้วบริการบขส.เข้าวังเวียง สปป.ลาว

นางสาวชมพู มฤศโชติ
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #เที่ยวงานพระนครคีรี  #ทททเพชรบุรี #MoreFunปักหมุด5จุดเที่ยวดูงานระยอง  #ThailandOk  

ช่วงที่ 1 เปิดจุดขายเมืองท็อปเท็นการท่องเที่ยวของไทยกับ “ชมพู มฤศโชติ” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี ตลุยทัวร์ “ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ” อุทยานแห่งชาติ วัด วัง ศิลปะวัฒนธรรม หาดทรายชายทะเล แล้วห้ามพลาด!! “งานพระนครคีรี-เมืองเพชร” ปีนี้เด็ดจริง ๆ 6-15 มีนาคม 2563 แต่งไทยขึ้นเขาวังได้ถึง 4 ทุ่ม ชิมอาหารถิ่น ขนมหวาน ยกมาทั้งจังหวัดกว่า 1,000 ร้าน ปี’63 แฟนคลับตลาดใหญ่ 4 กลุ่ม “มัลติเจน-ครอบครัว-วัยรุ่น-สูงวัย” นัดรวมพลเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเมืองเพชร เที่ยวสนุกและร่วมทำกิจกรรมปลูกป่าคืนธรรมชาติได้ทุกวัน  ยิ่งช่วงวันธรรมดายิ่งน่าเที่ยว ร่วมกับทุบสถิติรายปีก่อนทำไว้ราว 32,000 ล้านบาท

นางสาวชมพู มฤศโชติ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี เปิดเผยว่า  ในปี 2563 วางกลยุทธ์การขายท่องเที่ยวเมืองเพชรบุรี โดยนำจุดขายหลัก“ต้นน้ำ” ต้นน้ำแม่น้ำเพชรบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน “กลางน้ำ” อยู่บริเวณกลางเมือง มีวัดสำคัญ วัง ศิลปะวัฒนธรรม เช่น วัดใหญ่สุวรรณารามมีเรื่องราวเชื่อมโยงตั้งแต่สมัยอยุธยา “ปลายน้ำ” บ้านแหลม ออกปากอ่าวบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม บริเวณนี้ ททท.ภูมิภาคภาคกลางกับสำนักงานเพชรบุรี ได้ทำแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว “ไหว้พระข้ามถิ่น ได้บุญ ได้ศีล คูณ 2” ทำบุญบิณฑบาตรตอนเช้าตรงโฮมสเตย์ ซึ่งมีวัดเชื่อมมาถึงตัวเมือง เหมาะกับตลาดกลุ่มครอบครัว

                เพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้ามาติด 1 ใน 10 ของประเทศ สถิติปี 2562 เป็นคนไทยกว่า 8 ล้านคน ต่างชาติประมาณ 5 แสนคน รายได้รวมกว่า 32,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 % ปีนี้จะต้องดูสถานการณ์พยายามจะขยายการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและรายได้ ต้องประเมินเศรษฐกิจด้วยหลังจากต้นปีมีปัจจัยลบหลายอย่าง แต่ทาง ททท.เพชรบุรีกับผู้ประกอบการในพื้นที่ช่วยกันอย่างเต็มที่เพื่อรักษารายได้การท่องเที่ยวขยายตัวต่อไป

โดย ททท.วางเป้าหมายภาพรวมตลาดการท่องเที่ยวเพชรบุรี ปี 2563 มุ่งเน้นรุกเจาะกลุ่ม “Multi Gen” ได้แก่ กลุ่มแรก “ครอบครัว” ซึ่งมีคนหลายวัย พ่อ-แม่-ลูก-ปู่-ย่า-ตา-ยาย-ลูก เดินทางเที่ยวพร้อม ๆ กันได้ กลุ่มที่ 2 “วัยรุ่น Gen Y” เที่ยวบริเวณแก่งกระจาน หรือแต่งตัวสวย ๆ มาเที่ยวเขาวัง วัดใหญ่สุวรรณาราม และชายหาดชะอำ เป็นบรรยากาศทะเลชีล ๆ กลุ่มที่ 3 “สูงวัย” นิยมเที่ยวชุมชน ไฮไลต์ท่องเที่ยวสวนตาลเมืองเพชร เช่น สวนตาลลุงถนอม ต.ถ้ำรงค์ ตามหลักโภชนาการผลิตภัณฑ์จากตาลไม่ได้ดีต่อสุขภาพ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่นที่มีคนแวะมาเยี่ยมชมและศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก

               

                ผอ.ชมพูกล่าวว่า ไฮไลต์การท่องเที่ยวปีนี้คือ “งานพระนครคีรี-เมืองเพชร” เลื่อนจากเดือนกุมภาพันธ์มาจัดระหว่างวันที่ 6-15 มีนาคม 2563 ณ เขาวัง กับลานเฉลิมพระเกียรติ ร.4 เริ่มตั้งแต่ 17.00-23.00 น.พื้นที่กว้างมากสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละกว่า 10,000 คน ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงานตลอดงาน 15 วัน ราว 1.5 แสนคน กระจายรายได้อย่างทั่วถึงชุมชน ต่อเนื่องจนไปถึงชาวชะอำด้วย

งานนี้ ททท.เชิญชวนแต่งไทยมาเที่ยวโดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินชมแบ่งตามโซนคือ “ด้านบน” สามารถเดินขึ้นไปชมเขาวังยามค่ำคืนได้ตั้งแต่ 17.00-22.00 น. ซึ่งจะดูแลตามสภาพความเหมาะสมให้ขึ้นไปเดินได้จำนวนหลักพันคน เดินต่อเนื่องกันได้ถึงสามจุด ส่วน “ด้านล่าง” มีงานแสดงสกุลช่างเมืองเพชร สาธิติวิธีปั้น การวางลายโบราณ การแสดงศิลปะวัฒนธรรม ชมอุทยานประวัติศาสตร์เขาวัง ร้านค้า ร้านอาหารถิ่น ทั่วจังหวัดเข้าร่วมงานจำนวนนับ 1,000 ร้าน เด่น ๆ คือ ขนมหวานเมืองเพชร จะมีสาธิตการทำขนมหม้อแกง และขนมชิดต่าง ๆ แต่ละกิจกรรมสนุกสนานมาก

                ตลอดงานทุกฝ่ายที่รับผิดชอบการจัดงานได้รณรงค์มาตรการป้องกันฝุ่น และระหว่างงานก็ยังเพิ่มความเข้มข้นให้ผู้ประกอบการรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี

                สำหรับช่วงกลางวันก็ยังสามารถท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เชื่อมโยงกันได้ เช่น เขาหลวง หาดเจ้าสำราญ หาดชะอำ แม้แต่ Scenic Route ท่องเที่ยวประติมากรรมนาเกลือ อำเภอบ้านแหลม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้กำลังอยู่ในช่วงเก็บผลผลิตเกลือทั้งเม็ดเกลือ ดอกเกลือ หรือการท่องเที่ยวสวนตาลในชุมชน อำเภอบ้านลาด หลังจากนั้นช่วงเย็นก็มาเที่ยวงานพระนครคีรี แนะนำให้พักค้างคืนด้วย เพราะช่วงกลางคืนจะมีกิจกรรมจุดพลุบริเวณเขาวัง สวยงามตระการตา

                ผอ.ชมพูกล่าวว่าในเพชรบุรี นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวครบทุกสไตล์แล้ว ในอำเภอเมืองเพชรบุรี มีร้านขนมหวานขึ้นชื่อ สามารถเลือกช้อปชิมได้ ส่วนบริเวณชายหาดชะอำ หาดเจ้าสำราญ บางตะบูน อำเภอบ้านแหลม (บางตะบูนเบย์, เอกซีฟู้ด ,โอ้โหปูอร่อย) จะมีอาหารทะเลทุกชนิดสด รสชาติอร่อย ราคาไม่แรง อำเภอบ้านลาด เป็นแหล่งสวนตาลจะมีอาหารทำจากหัวตาล ยำ แกง ก็มีไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอาหารถิ่นต้นตำรับดั้งเดิม

                ส่วนการส่งเสริมหรือรณรงค์ “ปีท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” โดยมีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์สู่สังคม ททท.เพชรบุรีเริ่มทำมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนบางตะบูนวิทยา ปลูกป่าชายเลน ลด-โลก-เลอะ ทาง “เป็ก-ผลิตโชค” ก็เข้าทำกิจกรรมด้วย เรื่อยไปจนถึงการปลูกต้นโกงกางบ้านแหลม 2.การปลูกป่าโดยใช้ Seed Bom ของเขาพันธุรัตน์ ใช้วิธิยิงเมล็ดพันธุ์เข้าไปในป่า 3.อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิริธร มีกิจกรรมปลูกป่าชายเลน และช่วยกันเก็บขยะ

                สำหรับ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” จะยิ่งสนุกมาก เพราะมีสถานที่หลากหลาย สามารถขับรถท่องเที่ยวได้ตนเอง มาแล้วจะสนุก สะดวก สบาย ปลอดภัย หากเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แถบชายหาดชะอำจะค่อนข้างแออัดอยู่บ้าง จึงแนะนำให้มาเที่ยววันธรรมดา ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี จะดีต่อทั้งนักท่องเที่ยวและธรรมชาตินั่นเอง

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชูบริการจองสินค้าล่วงหน้าก่อนบินจัดโปรแรง

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดบริการใหม่ “บริการจองสินค้า ก่อนออกเดินทาง” จองสบายรับง่ายเมื่อบินกลับ โดยนักช้อปทุกคนสามารถจองสินค้าล่วงหน้าจากร้านค้าปลอดภาษีอากรขาเข้า  ได้ตรงบริเวณร้านดิวตี้ฟรีขาออก ได้สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท(สุทธิ) ต่อคน ไม่รวมเหล้า 1 ลิตร บุหรี่ 200 มวน

โดยมีโปรโมชั่นโดน ๆ รับคืนสุดคุ้มสูงสุด 4,200 บาท วันนี้-31 พฤษภาคม นี้ เมื่อซื้อแคชการ์ด 10,000 บาท จ่ายจริงเพียง 9,000 บาท ซื้อแคชการ์ด 17,000 บาท จ่ายเพียง 15,000 บาท คุ้มที่ 2 ยอดจองสินค้า 10,000 บาท ลูกค้าทั่วไปรับคูปองส่วนลด 400 บาท

                สำหรับริการ “จองสินค้า ก่อนออกเดินทาง” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ต้องการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า จะได้ไม่ต้องหิ้วสินค้าขึ้นเครื่องเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ให้เป็นภาระอีกต่อไป

เมื่อเดินทางขากลับถึงเมืองไทยสามารถมารับสินค้าที่จองซื้อไว้ได้ตรง “จุดรับสินค้า” อยู่ใกล้กับสายพานรับกระเป๋า ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ มี 3 จุด คือ จุดแรก อยู่ระหว่างสายพานรับกระเป๋าที่ 11 และ 12 จุดที่สอง อยู่ตรงข้ามสายพานรับกระเป๋าที่ 16 จุดที่สาม อยู่ระหว่างสายพานรับกระเป๋าที่ 20-21 และ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาเข้าะะหว่างประเทศ 1 ชั้น 1 มี 2 จุด จุดแรก อยู่ตรงข้ามสายพานรับกระเป๋าที่ 3 จุดที่สอง อยู่ตรงข้ามสายพานรับกระเป๋าที่ 5

               

ขั้นตอนการจองสินค้าล่วงหน้าก่อนเดินทาง ทำง่าย ๆ ได้ดังนี้

                1.เลือกสินค้าก่อนเดินทางมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท

                2.แจ้งพนักงานเพื่อขอใช้บริการจองสินค้าก่อนเดินทาง

                3.รับใบจองสินค้าจากพนักงานเพื่อนำมารับสินค้าที่จุดรับสินค้าขาเข้า เมื่อเดินทางกลับมาถึงไทย

                กติกาหลัก ๆ คือ ต้องสั่งจองล่วงหน้าจากร้านดิวตี้ฟรีขาเข้า ต้องมีกำหนดเดินทางเข้า-ออก จากสนามบินเดียวกัน ต้องเดินทางเข้าออกประเทศภายใน 30 วัน นับจากวันสั่งจองสินค้า

                โทร.สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-134-8888 ต่อ 6870

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์บุกแจกสนามบอลสวนศรีเมืองระยอง”

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เปิดเผยว่า ได้นำทีมเดินหน้ากิจกรรมเชิงกีฬาคืนประโยชน์สู่สังคม “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย : SPORT POWER”  ต้อนรับศักราชปี 2563 เริ่มด้วยโครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” มอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ขนาด 33 x 53 เมตร พร้อมห้องน้ำชุมชนระดับมาตรฐานสากล ณ สวนศรีเมือง จังหวัดระยอง โดยทำพิธีเปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา ตั้งเป้ามีส่วนร่วมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน พัฒนาเด็กเยาวชน วิถีชีวิตท้องถิ่น และการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ชาวจังหวัดระยอง โดยมีนายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีเมืองระยอง และพระเอกหนุ่ม ไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี รวมทั้งชาวระยองเข้าร่วมอย่างคับคั่ง นับเป็นหนึ่งในการรวมพลังกันเพื่อส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

นายอภิเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ทำโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้ได้ก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาด 7 คน ระดับมาตรฐานสากล เติมเต็มพื้นที่ออกกำลังกายภายใน “สวนศรีเมือง” สวนสาธารณะแห่งแรกของชาวระยอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประชาชนนิยมมาใช้บริการทั้งผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และผู้ที่รักการออกกำลังกายกลางแจ้ง จะได้รับประโยชน์โดยตรงอย่างหลากหลายทุกวัยทุกกลุ่ม

นอกจากส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมสีน้ำเงินแล้ว กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้ส่งมอบห้องน้ำชุมชน จากโครงการ “พลังคนไทย สุขา สุขใจ” สร้างสุขอนามัย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างการพัฒนาชุมชนเติบโตอย่างมีคุณภาพยั่งยืน

สำหรับโครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” นั้น กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2562 ประกาศส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมสีน้ำเงินทั่วประเทศรวม 60 สนาม ระหว่างปี 2560-2561 มอบเรียบร้อยแล้ว 40 สนาม ปี 2562 ได้ประกาศมอบอีก 20 สนาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทยอยทำแต่ละส่วน ประกอบด้วย 1.สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว 5 สนาม 2.กำลังก่อสร้าง 4 สนาม 3.เตรียมเข้าพื้นที่ 11 สนาม กำหนดจะทำให้แล้วเสร็จได้ภายในเมษายน 2563 และตามแผนงานโครงการSPORT POWER จะส่งมอบสนามฟุตบอลดังกล่าวให้ครบ 100 สนามภายในปี 2565

ทั้งนี้สนามฟุตบอล สวนศรีเมือง จังหวัดระยอง สร้างเสร็จเป็นลำดับที่ 27 เป็นโครงการต่อเนื่องที่ประกาศให้พื้นที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา

“นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย” รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวแสดงความขอบคุณกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่เข้ามาลงทุนพัฒนาสนามฟุตบอลและห้องน้ำในพื้นที่สวนสาธารณะศรีเมือง ซึ่งปัจจุบันชาวระยองส่วนใหญ่เข้ามาใช้สวนสาธารณะแห่งนี้ วันละประมาณ 3,500 คน เพื่อออกกำลังกายทั้ง การวิ่ง เล่นบาสเกตบอล เตะฟุตบอลกลางสนามหญ้า เป็นสวนสุขภาพของผู้สูงวัย หลังจากสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งใหม่ขนาด 7 คน เปิดบริการก็จะเป็นแรงดึงดูดให้สวนศรีเมือง เป็นศูนย์รวมใจของคนรักสุขภาพ อีกทั้งเป็นอีกช่องทางสำคัญในชุมชนเพื่อการสร้างพลัง ความรัก ความสามัคคี และลดปัญหายาเสพติด ได้เป็นอย่างดี

นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีเมืองระยอง ยืนยันว่า ชาวระยองรอคอยสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากลมานานแล้ว เพราะฟุตบอลเป็นกีฬายอดฮิตติดอันดับต้น ๆ ตอนนี้ในพื้นที่มีบริการเพียง 2 สนามเท่านั้น คือ สนามหญ้า และสนามคอนกรีต  ทุกปีจะต้องพักสนามหญ้าด้วยการปิดปรับปรุงซ่อมแซมสนามประมาณ 1 - 2 เดือน ที่ผ่านมาจึงมีสนามไม่เพียงพอ นับจากนี้เป็นต้นไปเมื่อมีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งใหม่ที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ส่งมอบให้ก็จะสามารถเล่นได้ทุกวันแล้ว ดังนั้นชาวเมืองระยองจะช่วยกันบริหารจัดการสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน ตามเจตนารมย์ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ในระยะยาว

ส่วนไฮไลท์วันส่งมอบและพิธีเปิดใช้สนามฟุตบอลหญ้าเทียมสีน้ำเงิน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ทางระยองได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษนั่นคือ ทางเทศบาลเมืองระยองนำพารามอเตอร์ขึ้นบินโชว์สร้างสีสันภายในงาน ทางด้านพระเอกหนุ่ม ไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี ได้ร่วมคิกออฟเตะฟุตบอล ประเดิมเปิดสนามฟุตบอลหญ้าเทียม เพื่อเป็นต้นแบบ และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทย หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งจัดการแข่งขันฟุตบอลแมทช์พิเศษระหว่าง ทีมพนักงานคิง เพาเวอร์ กับทีม VIP เทศบาลระยอง

ข่าวที่ 3 “ททท.ผนึกธกส.จัดท่องเที่ยวทั่วไทย4โปรเจ็กต์ใหญ่”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับผู้จัดการใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ถึงแนวทางในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวตลอดปี 2563 เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจจับมือกันสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ 4 โครงการ ประกอบด้วย

โครงการแรก กระตุ้น ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563 เช่น – การจัดสัมมนา - การศึกษาดูงาน (Team Building) – นำพนักงาน ธกส. จัดกิจกรรมฝึกอบรม เพื่อให้เกิดการเดินทางพักค้างกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

 โครงการที่ 2 ซ่อม-สร้าง เน้นการสร้างคนและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เช่น  ทำแผนพัฒนาบุคลากรในชุมชนของ ธกส. (ด้านภาษา ด้านการบริการ ด้านการปรับปรุงพื้นที่ เป็นต้น) – ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว และการทำ Content / Route / Theme เส้นทางกาแฟ Northern Arabica และ Southern Robusta โดยมีโปรแกรมการเดินทางแล้ว 4 งานใหญ่

งานแรก ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2563 จัดศึกษาดูงานแก่ผู้นำชุมชน ธกส. 300 คน ในพื้นที่ 3 ชุมชน 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมชนแหลมสัก จ.กระบี่ ชุมชนบ้านท่าดินแดง จ.พังงา และ ชุมชนสามช่องเหนือ จ.พังงา

งานที่ 2  ธกส. จะจัดประชุมใหญ่พนักงาน  1,000 คน ช่วงเดือนเมษายน 2563 (ก่อนหรือหลังสงกรานต์)

งานที่ 3 ธกส. จะจัดประชุม Team Building 10,000 คน วันที่ 2 เมษายน 2563

 งานที่ 4 ธกส. จะจัดประชุมข้ามภาคของพนักงาน ธกส. จำนวน 5 ภาค ๆ ละ 2,000 คน (รวม 10,000 คน) โดยลงพื้นที่ชุมชนของ ธกส.

ข่าวที่ 4 “ททท.บูมงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก12-22มี.ค.”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชวนเที่ยวงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2563 ระหว่าง 13 - 22 มีนาคม 2563 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จะทำพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป บริเวณถนนโรจนะ หน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า)

ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้พบกิจกรรมมากมาย โดยเฉพาะของกินอร่อย จากร้านอาหารถิ่น ในบรรยากาศสบาย ๆ บนถนนกินเส้น หน้าคุ้มขุนแถนตลอดสาย ตื่นตากับ กุ้งแม่น้ำอยุธยา ก๋วยเตี๋ยวเรือ ขนมจีน ผัดไทย ของดีจากทั้ง 16 อำเภอ และอื่น ๆ

                ส่วนกิจกรรมประจำวันมี 3 ไฮไลต์ ได้แก่ 1การจับสลากกาชาดลุ้นรับของรางวัล ในวันที่ 13-22 มีนาคม 2563 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 2. การประกวดร้องเพลงนักร้องเสียงทองจากทั้ง 16 อำเภอ ในวันที่ 14 และ 19 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ณ เวทีกลางงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 3.การประกวดMISS AYUTTHAYA ประจำปี 2562 วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม ณ เวทีกลางงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก

สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท. พระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3532 7301

ข่าวที่ 5 “บางจากชวนบริจาคแต้มแปลงเป็นเงินช่วย15องค์กร”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนสมาชิกผู้ถือบัตร สามารถเลือกบริจาคคะแนนสะสมให้แก่รายชื่อองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ร่วม “โครงการบัตรสมาชิกบางจาก เติมน้ำใจ ขับเคลื่อนการให้ไม่เคยหยุด”  ทั้งหมด 15 องค์กร ดังต่อไปนี้

สภากาชาดไทย มูลนิธิรามาธิบดี มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) มูลนิธิคุ้มครองเด็ก มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ มูลนิธิธรรมรักษ์ (โรคเอดส์ ลพบุรี) มูลนิธิแพทย์ชนบท มูลนิธิศุภนิมิต แห่งประเทศไทย มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มูลนิธิปวีณาหงส์สกุลเพื่อเด็กและสตรี มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิบ้านบางแคในพระอุปถัมภ์ฯ สถานสงเคราะห์เด็กและเยาวชน  มูลนิธิพระครูบาน้อย เขมปัญโญ (องค์กรสาธารณประโยชน์) มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

กติกาการบริจาคคะแนน 1. การบริจาคทุก 1 คะแนน มีมูลค่า 20 สตางค์ 2. คะแนนของท่านจะถูกหักจากคะแนนสะสมทันทีเมื่อกดปุ่มยืนยันการบริจาค 3. เมื่อยืนยันการบริจาคแล้วไม่สามารถยกเลิกการบริจาคและคืนคะแนนได้  4. บริษัท บางจากฯ สามารถเปลี่ยนแปลงมูลค่าคะแนนได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า 5. บริษัทฯ สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อองค์กรสาธารณประโยชน์  โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า  6. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่มีการให้บริการออกใบเสร็จสำหรับการแลกคะแนนสะสมเพื่อบริจาค

สามารถเลือกบริจาคคะแนนให้แก่องค์กรสาธารณประโยชน์ได้ 2 แบบ  ได้แก่

แบบที่ 1    บริจาคแบบตัดคะแนนสะสมทั้งหมดในวันที่ 30 พ.ย ของทุกปี  โดยสมาชิกสามารถเข้าร่วมการบริจาคได้จากการเข้าเมนูหน้าแก้ไขข้อมูลสมาชิกผ่านทางเว็บไซต์สมาชิกบัตรบางจาก

แบบที่ 2    บริจาคคะแนนเป็นรายครั้งตามความต้องการ  โดยเข้าเมนูตะกร้าบุญที่ Bangchak Mobile Application หรือ เว็บไซต์บัตรสมาชิกบางจาก

ข่าวที่ 6 “TCEBเร่งตั้งวันสต็อปไมซ์เซอร์วิสเซนเตอร์ดันธุรกิจแกร่ง”

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า  ได้ตั้งศูนย์ประสานการอำนวยความสะดวกธุรกิจไมซ์ หรือ One - Stop Service Center for MICEเพื่อเดินหน้ายกระดับงาน เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้ไมซ์ไทย สร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจไมซ์ โดยเตรียมจัดทำในรูปแบบเว็บไซต์เชื่อมโยงการให้บริการจัดงานไมซ์ผ่านระบบดิจิทัล ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ผู้จัดงาน เจ้าของงาน และผู้เข้าร่วมงาน สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์

One - Stop Service Center for MICE มีแนวทางดำเนินงานสำคัญ ดังนี้ 1.เชื่อมโยงการให้บริการจัดงานไมซ์ของหน่วยงานภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล เตรียมร่วมลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับระเบียบไมซ์โลจิสติกส์ เช่น กรมศุลกากร กรมการจัดหางาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2.ส่งเสริมให้มีผู้แทนในการอำนวยความสะดวกอุตสาหกรรมไมซ์ประจำหน่วยงานภาครัฐ 3.ยกระดับไมซ์โลจิสติกส์ด้านการเคลื่อน ย้ายสินค้าเพื่อการจัดงานไมซ์ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เผยแพร่ Prototype Manual ด้านไมซ์โลจิสติกส์ 4.ยกระดับมาตรการส่งเสริมการจัดงานไมซ์ ผลักดันให้เกิดมาตรการสิทธิประโยชน์เพื่อสร้างแรง จูงใจให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมไมซ์ และมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดงานไมซ์ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐร่วมปรับปรุงระเบียบและกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกการจัดงานไมซ์เป็นการเฉพาะ

                ช่วงที่ 2 เมืองไทยพลาดได้ไงไปปักหมุด More Food & Fun “ระยอง” ในชุมชนเพื่อท่องเที่ยวดูงาน สนุกสุด ๆ 5 จุด “ปากน้ำประแสร์-บ้านทะเลน้อย-มหาวิทยาลัยบ้านนอก-เรือนจำเขาไม้แก้ว-สวนเจ๊ดายายบุญชื่น” ตอนนี้ “ต้องรู้วิธีใส่และทิ้งหน้ากากอนามัย” ให้ถูกที่เพราะการสวมหน้ากากอนามัยออกนอกบ้านเป็นเรื่องสำคัญ และข่าวเด็ด ๆ “2แบรนด์ดังโลก แอคคอร์-คาร์ลตัน” ไม่หวั่นโควิด-19 ปักธงเปิดโรงแรมใหม่ในไทยแล้วจ้า ส่วน “บางกอกแอร์เวย์ส” ขายทุกผลิตภัณฑ์ทั้งบัตรเลาจน์สนามบิน แอกซ่าประกันภัย “สนามบินอุดรธานี” จับมือ บขส.เปิดบริการรถทัวร์สาย 9 เที่ยววังเวียง สสป.ลาว

@More Food&Fun ระยองท่องเที่ยวดูงาน5ชุมชนสนุกสุด”

More Food & Fun เที่ยวสนุก ดูงานยิ่งสนุกกว่า ในการเดินทางมา “จังหวัดระยอง” เมืองชายทะเลที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ยังคงรักษาเสน่ห์ชุมชนไว้ได้อย่างมีอัตลักษณ์เฉพาะ เลือกเลย 1 ใน 5 พื้นที่

ปักหมุดแรก “ชุมชนปากน้ำประแส-ทุ่งโปรงทอง” ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น. ชุมชนปากน้ำประแส เหมาะกับคนที่อยากมาศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน ตั้งอยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ที่นี่เป็นชุมชนประมง แหล่งค้าอาหารทะเล และแหล่งเกษตรกรรม นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือชมธรรมชาติ ดูระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของชุมชนปากน้ำประแส-ทุ่งโปรงทอง เดินชมวิถีชีวิตของชุมชนปากน้ำประแส ดูอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส สะพานประแสสิน เดินชมตลาดยามเช้าท่ามกลางเรือนไม้เก่าแก่สวย

ปักหมุดที่ 2 “หมู่บ้านท่องเที่ยวทะเลน้อย” ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง

เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พร้อมสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และภูมิปัญญาไทย ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านท่องเที่ยวทะเลน้อย ห้ามพลาดชม !! การปลูกผักกระชับปลอดสารพิษ ที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยการนำมาประกอบอาหารกลายเป็นเมนูยอดนิยม กับมีสินค้าภูมิท้องถิ่น เช่น กล้วย 3 น้ำ จากการปลูกโดยใช้น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย น้ำปลาบ้านทะเลน้อย กะปิเคย 100% ชมวิธีผลิตกับสาธิตเพาะปลูกผักกระชับ แถมค้างคืน โฮมสเตย์สัมผัสชีวิตแบบชาวท้องถิ่นสักคืนจะยิ่งดี

ปักหมุดที่ 3 “มหาวิทยาลัยบ้านนอก” ตั้งอยู่หมู่ 7 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง 21110 เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย เวลา 08.30-16.30 น. เป็นแหล่งท่องเที่ยวดูงาน อันเกิดจากชาวชุมชนบ้านจำรุง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ชาวบ้านมีแนวคิดที่อยากจะพัฒนาชุมชนให้เข็มแข็ง ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตรมาขาย และพัฒนาชุมชนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ แบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มชาวนา กลุ่มเกษตรพื้นบ้าน กลุ่มการผลิตน้ำปลา กะปิ เพื่อชวนนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม วิถีการเกษตร การปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร สไตล์พื้นบ้านแบบปลอดสารพิษ การสาธิตวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยให้บริการ

ปักหมุดที่ 4 เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว หมู่ 9 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เปิดทุก วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-12.00 น.เป็นเรือนจำที่สร้างอาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง โดยยึดหลักศาสตร์พระราชา มีหลักการบริหารจัดการทรัพยากร ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่างดีเยี่ยม ฝึกอาชีพออกเป็น 4 ฐาน ได้แก่ 1.ฐานปศุสัตว์และประมงน้ำจืด 2.ฐานผักปลอดสารพิษ 3. ฐานสาธิตเกษตรอินทรีย์ และ 4.ฐานศาสตร์พระราชา การทำเกษตรทฤษฎีใหม่

แต่ละฐานจะมุ่งเน้นการสอนและพัฒนาทักษะวิชาชีพแบบนำไปใช้ได้จริง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขังสามารถนำไปใช้ประกอบวิชาชีพได้หลังพ้นโทษแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือ ผลิตผลที่ได้จากการฝึกอบรมผู้ต้องขัง จะมีการนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ทางเรือนจำ เช่น การปลูกผัก การเลี้ยงสัตว์ การปลูกข้าว โดยเปิดแปลงนาสาธิตเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ดีต่อสุขภาพรวมทั้งการกรีดยาง ซึ่งทางเรือนจำมีการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ให้ผู้ต้องขังสามารถทำแผ่นยางได้ สินค้าที่นี่ส่งขายทั่วประเทศ

ปักหมุดที่ 5  สวนยายดา-เจ้บุญชื่น ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง 21000 เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ 08.00-17.00 น. เป็นสวนผลไม้แบบผสมผสาน มีการปลูกผลไม้หลายชนิด ภายในสวนร่มรื่นด้วยต้นไม้ ดอกไม้นาพันธุ์ เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่สามารถสัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกร การปลูก การเก็บผลผลิตได้อย่างใกล้ชิด ขายผลผลิตผลไม้สดและสินค้าแปรรูปราคาไม่แพง แล้วก็จะเปิดทัวร์สวนผลไม้ช่วงปลายเมษายน-มิถุนายนของทุกปี

More Food & Fun กิน เที่ยว  ดูงาน สนุก ในระยอง ตามจุดที่ปักหมุดไว้ให้แล้วทั้ง 5 แหล่ง มาได้ตลอดทั้งปี

@กรมอนามัยแนะวิธีการใส่-ทิ้งหน้ากากอนามัยถูกวิธี

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ประชาชนยังคงต้องดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวด้วยการสร้างสุขอนามัยที่ดี นอกจากการหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำแล้ว หากจำเป็นต้องไปในที่มีผู้คนหนาแน่นหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะร่วมกับผู้คนจำนวนมากควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการรับหรือแพร่กระจายเชื้อโรคในกรณีที่เจ็บป่วย รวมถึงผู้ประกอบกิจการร้านเสริมสวย ผู้สัมผัสอาหาร ต้องใส่ใจสุขอนามัยเป็นพิเศษ หากรู้สึกมีไข้ ไอ จาม หรือมีน้ำมูก ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเพื่อลดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น และเมื่อมีไข้สูงต่อเนื่อง ควรรีบไปพบแพทย์และหยุดพักผ่อน

“วิธีการเลือกหน้ากากอนามัย” ที่เหมาะสมให้พิจารณาด้านนอกและด้านในของหน้ากากให้ชัดเจน ต้องไม่มีกลิ่นผิดปกติ ไม่เปรอะเปื้อนและไม่มีตำหนิ ต้องคลุมจมูกและปาก สายคล้องหูต้องไม่ฉีกขาดและต้องไม่มีส่วนใดหลุดออกจากหน้ากาก แถบปรับกระชับดั้งจมูกต้องยึดแน่นและต้องไม่หลุดออกง่ายขณะใช้ ก่อนสวมหน้ากากควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และห้ามใช้หน้ากากร่วมกับคนอื่น การใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ให้นำด้านที่ดูดซับน้ำไว้ด้านในซึ่งจะมีลักษณะพื้นผิวนุ่มกว่า เพื่อดูดซับเหงื่อ น้ำมูก น้ำลาย จากการไอจาม และนำด้านมันที่ไม่ดูดซับน้ำไว้ด้านนอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นด้านที่มีสีเพื่อป้องกันการซึมซับของเหลวหรือละอองจากภายนอกเข้ามา

กรณี “หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว” หากเกิดการฉีกขาด ใส่แล้วไม่กระชับ หรือเปื้อนสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลายหรือเปียกน้ำ ให้เปลี่ยนใหม่ทันที

“วิธีการกำจัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว” หากเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้ทิ้งลงในถังขยะติดเชื้อที่มีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นชัดเจน ส่วนประชาชนทั่วไปให้ทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิด ที่สำคัญต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งทั้งก่อนใส่และหลังทิ้งหน้ากากอนามัยเพื่อสุขอนามัยที่ดี ซึ่งการล้างมือเป็นวิธีที่ง่ายและป้องกันโรคได้ดี โดยควรปฏิบัติอย่างถูกวิธีตาม 7 ขั้นตอน ดังนี้

 1) ฝ่ามือถูกัน 2) ฝ่ามือถูหลังมือ และนิ้วถูซอกนิ้ว 3) ฝ่ามือถูฝ่ามือและถูกซอกนิ้ว 4) หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5) ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ 6) ปลายนิ้วมือถูฝ่ามือ และ 7) ถูรอบข้อมือ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่หากไม่สะดวกในการล้างมือ สามารถใช้เจลล้างมือแทน ก็จะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้ดีเช่นกัน

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก“แอคคอร์-คาร์ลตันไม่หวั่นโควิดเปิดโรงแรมใหม่ในไทย”

นายแพทริค บาสเซ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือและมัลดีฟส์ เปิดเผยว่า เตรียมเปิดบริการโรงแรมโนโวเทลศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง มารีน่า เบย์ ทำเลติดทะเลแห่งใหม่ บนฝั่งแศรีราชา และเกาะสีชัง ใกล้กรุงเทพฯ และไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก จึงเหมาะกับนักธุรกิจ มีทั้งห้องพักรวม 273 ห้อง   เป็นห้องสวีท 235 ห้อง วิลล่า กับพูลวิลล่า 16 หลัง  จะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม มีบริการผู้เข้าพักไปยังเกาะสีชังด้วยสปีดโบ้ททั้งไปและกลับ จากท่าเรือส่วนตัวของโรงแรมที่ฝั่งศรีราชา

                ภายในบริเวณโรงแรมมีบริการครบทุกอย่าง และ 2 ห้องอาหาร คือ 1.ห้องฟูดเอ็กซ์เช้นจ์ ที่ถูกตกแต่งดีไซน์ทันสมัย มองเห็นวิวทะเล ให้บริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ อาหารไทยจานเด็ด ผัดไทกุ้งสด หมูดำคุโรบูตะสไตล์ญี่ปุ่น หอยนางรมฝรั่งเศสฟินเดอแคลร์ หรือสเต็กเนื้อออสเตรเลียนวากิวริบอาย 2.ห้องดิโอเรียนทัล – ห้องอาหารฮ่องกงสุดหรูใจกลางศรีราชา ให้บริการอาหารฮ่องกงและจีนสไตล์ดั้งเดิม ในบรรยากาศเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมทั้งมีห้องส่วนตัวไว้บริการ เมนูเด่นของร้าน เช่น เป็ดปักกิ่ง ปอเปี๊ยะสไตล์กวางตุ้ง ไก่แช่ไวน์ กระเพาะปลาผัด พระกระโดดกำแพง และอาหารทะเลสดใหม่ปรุงสไตล์ฮ่องกง

อีกทั้งยังเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของศรีราชาอย่างสวนสาธารณะเกาะลอย เกาะสีชัง สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และสนามกอล์ฟหลายแห่งอีกด้วย

ขณะที่ นายมาร์ค บุลเมอร์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท กล่าวว่า ได้เปิดตัวโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท แบรนด์คาร์ลตันแห่งแรกในไทย เป็นระดับอัปเปอร์อัปสเกล ขนาด 338 ห้องพัก ตามแผน มั่นใจการท่องเที่ยวไทยมีศักยภาพสูงพอถึงแม้จะเป็นช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คาดจะกระทบเพียงระยะสั้น เท่านั้น และพร้อมจะทุ่มเททำการตลาดอย่างหนัก ทำการตลาดอย่างหนัก โดยใช้ความแข็งแกร่งของแบรนด์ดึงดูดผู้เข้าพัก ด้วยทำเลที่ตั้งและชื่อเสียงของแบรนด์จะทำให้อนาคตของโรงแรมเติบโตอย่างเข้มแข็งในไทยได้

ข่าวที่ 2 “บางกอกแอร์ขายสารพัดทั้งบัตรเลาจน์-แอกซ่าประกัน”

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บางกอกแอร์เวย์ส จับมือ ช้อปปี้ จัดโปรโมชั่นฉลองแคมเปญ “Shopee 3.3” แจกบัตรใช้บริการฟรีห้องรับรองชั้นธุรกิจ มูลค่า 950 บาท ที่มีอยู่ในสนามบิน สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินเชียงรายและสนามบินสมุย ในชื่อ “บลู ริบบอน คลับ เลาจ์น”   บัตรฟรีดังกล่าวจะได้ก็ต่อเมื่อลูกค้าที่ซื้อบัตรแทนเงินสด (E-Gift Card) มูลค่า 5,000 บาท ระยะเวลาวันนี้ - 3 มีนาคม 2563  ให้ซื้อได้ 1 บัญชีผู้ใช้ซื้อได้สูงสุด 2 ใบ/วัน ซื้อได้ทาhttps://shopee.co.th/bangkokair หรือสอบถามโทร. 1771

นายจุลิน กอเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายขาย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ล่าสุดร่วมกับแอกซ่าประกันภัยขายประกันเดินทางให้ผู้โดยสารในการซื้อประกันภัยการเดินทางที่จองตั๋วโดยสารเครื่องบินแล้วซื้อเพิ่มเติมภายหลังได้อย่างสะดวกทางเว็บไซต์ www.bangkokair.com ตอกย้ำความมั่นใจในการท่องเที่ยวในทุกทริปได้ โดยครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) อีกทั้งมีสถานพยาบาลในเครือที่ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าทั่วโลกมากกว่า 39,000 แห่ง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ พร้อมบริการจัดหาผู้ช่วยแปลภาษา เมื่อเดินทางไปยังต่างประเทศ และสายด่วนแอกซ่าที่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ผู้โดยสารจะได้เงินชดเชยค่าโดยสารเต็มจำนวนกรณีโดนยกเลิกเที่ยวบิน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์) และจะได้รับความคุ้มครองสัมภาระส่วนตัว รวมถึงอุปกรณ์กีฬาและเครื่องดนตรีจากความเสียหายหรือสูญหายจากการขนย้ายและจากการชิงทรัพย์ มูลค่าสูงสุดถึง 20,000 บาทต่อกรมธรรม์

ข่าวที่สาม “สนามบินอุดรเปิดบริการบขส.เข้าวังเวียง สปป.ลาว”

นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ทางกรมท่าอากาศยาน และกรมขนส่งทางบก ร่วมมือกันเปิดบริการจุดจอดรถ บขส. ในสนามบินอุดรธานี เพื่อเพิ่มความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เส้นทาง Feeder Services สายที่ 9 อุดรธานี - เมืองวังเวียง สปป.ลาว เป็นเส้นทางรถโดยสารระหว่างประเทศ เชื่อมระหว่างเมืองไปยังชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวได้ เมื่อนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงอุดรธานีแล้วซื้อตั๋ว บขส.เดินทางไปยังเมืองวังเวียง สปป.ลาว ได้ทันที 

                รถ บขส.สายนี้จะผ่านบริการในระยะทาง 246 กิโลเมตร จากสนามบินอุดรธานี – หนองคาย - เมืองวังเวียง สปป.ลาว บริการทุกวัน ๆ ละ 1 เที่ยว ออกจาก บขส.แห่งที่ 1 เวลา 08.30 น. และสนามบินอุดรธานี เวลา 09.00 น. ค่าโดยสาร 320 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 042 221 489 และเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วสนามบินอุดรธานี โทร.095 765 1790

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.