ผู้นำททท.จัดทัพใหม่งัด4แผนเด็ดทลายวิกฤตไวรัสโควิด ขอรัฐ5หมื่นล้านเสริมสภาพคล่องท่องเที่ยวอุ้ม5มาตรการ
ผู้นำททท.จัดทัพใหม่งัด4แผนเด็ดทลายวิกฤตไวรัสโควิด
ขอรัฐ5หมื่นล้านเสริมสภาพคล่องท่องเที่ยวอุ้ม5มาตรการ
คิงเพาเวอร์เปิดมหกรรมโหวตMusic Powerวันนี้-3 เม.ย.63
คิงเพาเวอร์มหานครชูโปรวันสตรีสากลลดสกายวอล์ค30%
ททท.กระหน่ำจัดเที่ยวไทยเท่รับพลังบวกลดอื้อซ่าถึง11มี.ค.
ททท.อัดฉีดกดไลท์Thailand festivalลุ้นรับรางวัลหลักแสน
ร้านกาแฟอินทนิล บางจากคว้ารางวัล Best Coffeeแห่งปี
บีซีพีจีจับมือทีโอทีรุกใช้อินเตอร์เน็ตออฟติงส์หนุนพลังงาน
TCEBนำประชุมเมืองไทยภูมิใจช่วยชาติบุกไทยเที่ยวไทย
More Fun!สมุทรปราการจุดเมืองดอกกะเจ้า&มุมเที่ยวใหม่
แนะเคล็ดลับกินน้ำผึ้งมีประโยชน์สารพัดอย่างดีต่อสุขภาพ
รมว.ศักดิ์สยามตีกลับบินไทยขอกู้เงินเสริมสภาพคล่อง5หมื่นล้าน
ศูนย์วิจัยกสิกรชี้รายได้ท่องเที่ยวเจอโควิดสูญ4.1แสนล้าน
คอนเสิร์ตชนินทร์นนทนาครแจ้งแฟนคลับเลื่อนจัด18เม.ย.
เข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2563 เวลา 11.00-12.00
น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
ดร .ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
ช่วงที่ 1 เจาะลึก “ดร .ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทัพใหญ่แผนพลิกวิกฤตท่องเที่ยวสู้ผลกระทบไวรัสโควิด ดูแลความปลอดภัยควบคู่รักษาบรรยากาศท่องเที่ยวพร้อมประคองเศรษฐกิจให้รอดได้ โดยงัด 4 สูตรเด็ด 1.ระดม5บิ๊กพาร์ทเนอร์” แถวหน้าของเมืองไทย “กบข.-กพท.-ธกส.-แบงก์ออมสิน-SET” ปลุกสมาชิกเดินทาง จัดสัมมนา ศึกษาดูงาน ทั่วไทย 2.เปิดมหกรรมเที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย 3.ชงรัฐบาลเยียวยา 5 มาตรการ ขอด่วนสุด ๆ เงินเสริมสภาพคล่องอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 5 หมื่นล้านบาท พยุงธุรกิจให้ผ่านพ้นอันตรายช่วง 6 เดือนหน้า 4.เปิดแพลตฟอร์ม แอพลิเคชั่น พื้นที่ห้าง จัดมหกรรมโปรโมชั่น ตั๋ว ทัวร์ ห้องพัก สินค้าท่องเที่ยว พร้อมอัดฉีดแคมเปญ “บอกรัก ประเทศไทย” ส่วนการจัดอีเวนต์สงกรานต์ เตรียมปรับรูปแบบเน้นรณรงค์คนเดินทางกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่แทนเล่นสาดน้ำ
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ขณะนี้สถานการณ์หลังเหตุการณ์เกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมกราคมในช่วงเพิ่งเริ่มลดลงไป 1 % เดือนกุมภาพันธ์ ลดอีก 44
% ตัวเลขสะสมระหว่างมกราคม-ต้นเดือนมีนาคม นี้ 5.8 ล้านคน ลดลงไปแล้ว 33 %
จึงต้องหันมาวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดในประเทศแต่ก็ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมป้องกันการระบาดยกระดับเป็นระดับสูงสุด
อันเป็นจิตวิทยาที่จะส่งผลกระทบถึงการเดินทางในประเทศด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดภาวะการชะลอตัว
รวมทั้งปรับการเดินทางเส้นทางระยะใกล้ในรัศมี 200-300 กิโลเมตร
ใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมง
ททท.มีหน้าที่จะต้องขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจประเทศเดินหน้าต่อไปได้
จึงหารือกับพันธมิตรกลุ่มใหญ่หรือ Big Partner นำร่องเจรจากับ
5 องค์กร แบ่งเป็น กลุ่มแรก เจรจาจนได้ข้อสรุปแล้วได้แก่ 1.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 2.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
(กทบ.) 3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) กลุ่มที่ 2
อยู่ระหว่างการเจรจา ได้แก่ 4.ธนาคารออมสิน 5.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.หรือ SET)
ทั้งหมดพร้อมที่จะเคลื่อนพลตั้งแต่มีนาคม-พฤษภาคม 2563
รูปแบบการเคลื่อนพลของแต่ละองค์กรขนาดใหญ่ ตัวอย่าง
“กลุ่มสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ”
มีกองทุนกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 73,000 กองทุน
ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลซึ่งแบ่งบางส่วนไว้ทำกิจกรรมส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวด้วย
2 วัตถุประสงค์ คือ 1.เสริมสร้างแรงบันดาลใจ
พาไปศึกษาดูงานพื้นที่ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการท่องเที่ยว 2.ไปดูความสำเร็จเพื่อนำมาปรับปรุงหมู่บ้านโดยใช้เงินกองทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทางด้าน “กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ” มีสมาชิกจำนวนกว่า 3.6 ล้านคน ททท.ได้หารือกับภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว
จัดส่วนลดแพกเกจการเดินทางในประเทศ เสนอไปยัง Big Partner เพื่อให้สมาชิกของแต่ละองค์กรเลือกเที่ยวในประเทศ
พักค้างอย่างน้อยคนละ 1 คืน ก็จะช่วยผู้ประกอบการชดเชยตลาดต่างประเทศที่หายไปได้
สำหรับธนาคารออมสิน
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ จะมุ่งกระตุ้นตลาดจัดประชุมสัมมนา
เนื่องจากมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ททท.เองหวังพึ่งหน่วยงานภาครัฐจัดประชุมสัมมนา
ศึกษาดูงาน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นในช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาพคล่องทางรายได้เพราะต้องเผชิญวิกฤตผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศออกมาเดินทางท่องเที่ยว
จัดประชุม ศึกษาดูงาน ด้วย ตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เร่งหารือกับพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.)
คุยกันไปในระดับหนึ่งแล้วเพื่อจะปลดล็อกระเบียบให้เจ้าหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเดินทางศึกษาดูงานในประเทศข้ามพื้นที่ไขว้กันไปมาได้
ก็จะยิ่งสร้างความคึกคักกับเศรษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างมาก
เมื่อได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วจะประกาศอีกครั้งในโอกาสต่อไป
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่าการจัดทำข้อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
พิจารณานั้นได้รวบรวมข้อมูลความเห็นของภาคเอกชนในเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (workshop) ตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้จัดขึ้นโดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมระดมความเห็น
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้น
ททท.ก็นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าหารือกับกระทรวงการคลัง
จนได้มาตรการชัดเจนในระดับหนึ่งแล้ว ประกอบด้วย 1.มาตรการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
2.มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างพนักงานภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด
3.มาตรการภาษีเพื่อพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 4.มาตรการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเพื่อจูงใจให้ธุรกิจสามารถรักษาแรงงานในระบบไว้ให้ได้
5.มาตรการพัฒนาบุคลากร
โดยต้องการเห็นมากที่สุดคือการเยียวยาช่วยเหลือลดความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ประกอบการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากไวรัสโควิด-19 ตอนนี้มีประมาณ 1.5 แสนราย
ตอนนี้ไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ก็มีต้นทุน มีพนักงาน ต้องรับผิดชอบ
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศรุนแรงมากขึ้น
จึงต้องช่วยหาเงินมาเสริมสภาพคล่องให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนเข้ามาหล่อเลี้ยง
วงเงินที่รัฐจะใช้ในการเสริมสภาพคล่องธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงเร่งด่วนตอนนี้
ตามที่ได้พูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันสินเชื่อในสถานการณ์ปกติมีอยู่ 650,000
ล้านบาท แต่ตอนนี้ต้องใส่เงินฉุกเฉินเข้าไปช่วยระยะสั้นไม่น่าจะต่ำกว่า
50,000 ล้านบาท
โดยจัดลำดับความสำคัญที่สุดคือ
“เสริมสภาพคล่อง” เพราะนักท่องเที่ยวหายไป อย่างบริษัทนำเที่ยวจีนหายไปมากถึง 90 %
ความเป็นไปได้ที่ ททท.รวบรวมแล้วเสนอรัฐบาล 2 เรื่อง
ประกอบด้วย 1.การยืดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2.นำเงินใหม่เข้าไปค้ำยันธุรกิจให้รอดวิกฤตก่อนเบื้องต้น
โดยภาพรวมแล้วผู้ประกอบการแต่ละรายอาจจะไม่ต้องการใช้เงินจำนวนมาก
แต่ใส่เงินเข้าไปช่วยตามขนาดจริงขององค์กร แบ่งเป็น ขนาดเล็ก-S: Small รายละ 5 ล้านบาท ขนาดกลาง-M : Medium รายละ
10 ล้านบาท ขนาดใหญ่-L : Large รายละ 15
ล้านบาท ในระยะเวลา 6 เดือน
เพื่อประคองกิจการให้อยู่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการมากที่สุด
เนื่องจากหลายบริษัทไม่มีลูกค้า ต้องลดการจ้างงาน
และให้หยุดงานโดยไม่จ่ายเงินเดือน
สำหรับช่องทางการนำสินค้าท่องเที่ยวแต่ละหมวดออกมาวางขาย
ทั้งตั๋วเครื่องบินของสายการบิน ห้องพักโรงแรม
แพกเกจท่องเที่ยวของบริษัทตัวแทนนำเที่ยว บัตรเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
ผลิตภัณฑ์ช้อปปิ้ง นั้น ภาคเอกชนแสดงความร่วมใจกันทำโปรโมชั่น
ทางททท.ก็รวบรวมบางส่วนมาวางขายบน ททท.ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าเสนอพื้นที่ให้จัดงาน
ขณะนี้
ททท.มีแผนทำแคมเปญการขายภายใต้ธีม “บอกรักประเทศไทย”
ได้ดีที่สุดทางหนึ่งในสถานการณ์เศรษฐกิจและช่วงวิกฤตจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ออกบูธ ออกงาน
ขายโวเชอร์ เป็นช่องทางให้มีเงินทุนหมุนเวียนเข้ามายังผู้ประกอบการ
ส่วนการทำตลาดอย่างเข้มข้นอีกช่องทางคือร่วมมือกับทาง Online Travel Agents
:OTA ให้เอกชนมาขายบนออนไลน์โดยไม่ได้ต้องเสียเงิน
ททท.ได้เจรจากับกลุ่มออนไลน์ชั้นนำ รวมทั้งแอพลิเคชั่น TAKTHAI รวมทั้งเปิดแพลตฟอร์มของ ททท.เพื่อดึงคนที่ชะลอการเดินทางไปต่างประเทศหันมาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น
ตอนนี้
ททท.ได้ทำสำรวจความต้องการของคนไทย เพราะหากคนยังกลัวก็อาจจะยังไม่อยากเดินทาง
จึงต้องทำตลาดอย่างมีขั้นตอนบนพื้นฐานของการสร้างความเชื่อมั่น
แล้วจึงกระตุ้นให้คนออกเดินทางท่องเที่ยว ตอนนี้ประเมินระดับความสนใจท่องเที่ยวของตลาดในประเทศ
1-5 นั้น อยู่ในระดับ 3 คือ
ผู้คนยังลังเลที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว
เราก็หวังว่าจะเปลี่ยนใจให้เที่ยวกันได้ตั้งแต่ปลายมีนาคม ต่อเนื่องถึงเมษายน
ช่วงสงกรานต์ ซึ่ง ททท.ทำการกระตุ้นผ่านทุกช่องทางทั้งออฟไลน์ ออนไลน์
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า
ได้นำแนวทางการปฎิบัติของกระทรวงสาธารณสุขมาประเมินการจัดเมกะอีเวนต์หรือเลื่อนและชะลอการจัดงานต่าง
ๆ เพราะ ททท.มีรูปแบบการจัดกิจกรรมหลายรูปแบบทั้ง จัดเอง หรือสนับสนุนให้องค์กรจัด
จึงต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน เช่น แหล่งที่มาของตลาดนักท่องเที่ยว
ลักษณะของกิจกรรมมีการสัมผัสกันมากน้อยขนาดไหน
หรือกิจกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ต้องเลื่อนไป โดยใช้เกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข แล้ว
ททท.มาออกเกณฑ์การพิจารณาระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า
ช่วงมีนาคม-พฤษภาคม นี้
อย่างไรก็ตาม
ททท.จะยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลักสำคัญที่สุด
ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาบรรยากาศการท่องเที่ยวเอาไว้ด้วย อย่างการจัดงานประเพณี
วัฒนธรรม ต่าง ๆ
ททท.อยากให้มีไว้แต่ปรับเปลี่ยนลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรคด้วย
ส่วนการจัดงานสงกรานต์กำลังหารือกับทางกระทรวงสาธารณสุข จะจัดรูปแบบใด
จะงดสาดน้ำหรือไม่ แต่การรักษาวัฒนธรรมอันดี เรื่องการเดินทางกลับบ้าน
รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ก็ยังคงสามารถทำได้ ผนวกกับเรื่องน้ำแล้ง ปีนี้
ททท.ได้รณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด ดูแลสิ่งแวดล้อม
การตัดสินใจเรื่องการจัดงานสงกรานต์จะต้องรอสรุปอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
เพราะต้องทำทั้งภารกิจรักษาสุขภาพความปลอดภัยของทุกคนควบคู่กับการรักษาบรรยากาศการท่องเที่ยวเดินหน้าไปด้วยกันให้ได้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์เปิดโหวต Music
Powerวันนี้-3 เม.ย.63”
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ได้จัดกิจกรรม “Music
Power” จัดประกวดเครื่องเป่านานาชาติ
จึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมโหวตให้กับวงดุริยางค์ผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของใน
"การประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว - Thailand International
Wind Symphony Competition King’s Cup 2020 (TIWSC)"
เข้ามามากดโหวตวงที่คุณชื่นชอบกันได้ ตั้งแต่วันนี้ - 3
เมษายน 2563 โหวตได้เลยที่ https://www.tiwscvote.com/home
เพื่อเป็นกำลังใจ
และเพื่อชิงรางวัล Popular Vote โดยมีรายละเอียดรางวัลสำหรับผู้ชนะ Popular
Vote ดังนี้ 1. วง class A,B คลาสละ 1 รางวัล ๆ ละ 100,000
บาท 2. วง class C,D คลาสละ 1 รางวัล ๆ ละ 30,000 บาท
สามารถโหวตทีมที่ชื่นชอบผ่าน
Social media account แต่ละ Log in (1 Log in ต่อการโหวต Class A/B/C/D Class ละ 1 ทีม)
ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์มหานครชูโปรวันสตรีสากลลดบัตรสกายวอล์ค30%”
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ จัดโปรโมชั่นคืนความสุขในวันสตรีสากล ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร”
ให้สุภาพสตรีรับส่วนลด 30% เมื่อทำการซื้อบัตรขึ้นชมมหานคร สกายวอล์ค ในวันที่ 8
มีนาคม 2563 โดยขอชวนสาวสตรองค์ทุกท่านมาทดสอบความกล้า
ท้าความสูงกันบนพื้นกระจกลอยฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ชั้น 78 บัตรของผู้ใหญ่
ราคาเพียงคนละ 616 บาท (ไม่รวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากปกติ 880
บาทพร้อมรับสิทธิ์ซื้อ 1 แก้วฟรี 1 แก้ว
กับเครื่องดื่มม็อกเทลเมนูพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะอย่าง “เดอะ
เลดี้ (The Lady)” และ “วันเดอร์ วูแมน (Wonder
Woman)” ในราคาเพียงแก้วละ 290++ บาท** เฉพาะวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม
2563 นี้เท่านั้น
สำหรับ
“มหานคร สกายวอล์ค” เปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืน
(ซื้อบัตรเพื่อขึ้นชมรอบสุดท้ายได้ก่อนเวลา 23:00 น.)
สามารถเดินทางได้สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อสถานีช่องนนทรี
ทางออกหมายเลข 3 หรือติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของคิง เพาเวอร์ มหานคร
เพิ่มที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhon
ข่าวที่ 3 “ททท.กระหน่ำจัดเที่ยวไทยเท่รับพลังบวกลดอื้อซ่าถึง11มี.ค.”
นายนพดล
ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยว่า
ได้ร่วม บริษัท สยาม พารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และผู้ประกอบการภาคเอกชน
จัดมหกรรมท่องเที่ยวแคมเปญ “ไทยเที่ยวไทย คือไทยเท่ เที่ยวไทยรับพลังบวก”
ระหว่างวันนี้- 11 มีนาคม 2563 ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว 114 ราย
นำเสนอสินค้าและบริการราคาสุดพิเศษ อาทิ
ตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 599 บาท/เที่ยว แพ็คเกจบัตรที่พักจากโรงแรมชั้นนำทั่วไทยกว่า
100 แห่ง เริ่มต้นเพียง 700 บาท/คืน บัตรรับประทานอาหารจากโรงแรมชั้นนำทั่วประเทศ
โดยมีกว่า
100 บริษัท มาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวฟรี
เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการคนไทย และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
ซึ่งผู้ร่วมงานจะได้รับข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุด
พร้อมทั้งได้รับเกียรติจาก
ดร.คฑา ชินบัญชร เป็นพรีเซ็นเตอร์
เที่ยวไทยรับพลังบวก มาร่วมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้านศาสนสถาน และธรรมชาติ ทั้ง 5 ภูมิภาคทั่วไทย
ภายในงานยังอัดแน่นด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ
จาก Klook แอพพลิเคชั่นรวมไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว รวมถึง
ร้านอาหารชั้นนำ แพคเกจทัวร์ เรือท่องเที่ยว สปา ดำน้ำ
และพิเศษสุดรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3,200 บาท หรือ สิทธิประโยชน์แบบคุ้มค่าจากบัตรเครดิต
ไทยพาณิชย์ บัตรเครดิตซิตี้ บัตรเครดิตกรุงศรี บัตรเครดิตเคทีซี
และบัตรเครดิตธนาคารออมสิน เข้าร่วมมอบสิทธิประโยชน์อย่างคับคั่ง
เป็นงานที่จะดึงดูดกำลังซื้อในประเทศได้พอสมควร
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้จัดกิจกรรมมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับ Thailand Festival เชิญชวนให้กดไลท์แฟนเพจ
Thailand festival และแสดงหลักฐานใต้โพสต์กิจกรรม
จากนั้นแชร์หน้ากิจกรรมไปยัง Facebook ส่วนตัว พร้อม #ThailandFestival
เปิดเป็นสาธารณะ
ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับแพ็กเกจที่พักสุดว้าวมูลค่ารวมกว่า 22,400
บาท สามารถเข้าร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ –
31 มีนาคม 2563 จะประกาศรายชื่อผู้โชคดี
วันที่ 7 เมษายน และให้ผู้โชคดียืนยันสิทธิ์รับรางวัล ได้ภายในวันที่
14 เมษายน นี้
วิธีร่วมสนุกอย่างง่าย
ๆ เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น คือ 1.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องกดไลก์แฟนเพจ
Thailand Festival 2.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องแคปหน้าจอ
และโพสต์หลักฐานลงใต้โพสต์กิจกรรมบน Facebook 3.ผู้ร่วมกิจกรรมต้องแชร์โพสต์กิจกรรมไปยัง Facebook ส่วนตัว
และ Hash Tag #ThailandFestival พร้อมเปิดเป็นสาธารณะ (Public)
โดยมีกติกาหลัก
ๆ คือ 1.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องกดไลค์แฟนเพจ Thailand
festival และแสดงหลักฐานใต้โพสต์กิจกรรม 2.ผู้ร่วมกิจกรรมต้องแชร์หน้ากิจกรรมไปยัง
Facebook ส่วนตัว และ Hash Tag #ThailandFestival พร้อมเปิดเป็นสาธารณะ (Pubilc) 3.สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 2 – 31 มีนาคม
พ.ศ. 2563 4.สงวนสิทธิ์ 1 ท่านต่อ 1 รางวัลเท่านั้น 5.รางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด
ของรางวัลอื่นหรือโอนสิทธิ์ให้กับบุคคลอื่นได้ 6.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสามารถใช้ภาพหรือข้อมูลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้
เพื่อการประชาสัมพันธ์โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
7.หากตรวจพบว่าผู้ร่วมกิจกรรมท่านใดมีเจตนาทุจริต ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม
จะทำการตัดสิทธิ์ทันที 8.การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาดและสิ้นสุด
9.การรับของรางวัลโครงการจะทำการนัดหมายมารับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(สำนักงานใหญ่) หรือจัดส่งของรางวัลไปทางไปรษณีย์ไทย ตามชื่อ ที่อยู่ที่ให้ไว้
ตามความเหมาะสม
นายวิษณุ
วงศ์สุมิตร ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจกาแฟและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท บางจาก รีเทล
จำกัด ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ล่าสุดร้านกาแฟอินทนิลคว้ารางวัล Best Coffee - Inthanin Coffee ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้ในฐานะที่เป็นร้านกาแฟยอดนิยม จากนายภิญญา
นิตยาเกษตรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET
โดยมีนายวุฒิไกร
ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
ทำหน้าที่ประกาศผลร้านค้ายอดนิยม Get Awards 2019 สุดยอดร้านอาหารแห่งปี
เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี GET Application ประเทศไทย ณ ศูนย์การค้า EmQuatier
นายบัณฑิต
สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่าได้ทำพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อการพัฒนา Internet
of Energy ด้วยเทคโนโลยี 5G
กับนายรังสรรค์
จันทร์นฤกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่
หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัล
อินเตอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) มาใช้ในการบริหารจัดการพลังงานสะอาดร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ
อาทิ Blockchain AI และอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนเครือข่าย 5G
ณ ห้องประชุมใหญ่ ทีโอที
สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ
โดยมี
นายพิพัฒน์ ขันทอง กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด
(มหาชน) เป็นประธาน
และสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อการพัฒนา Internet
of Energy ด้วยเทคโนโลยี 5G
ส่วนเงื่อนไขการรับรางวัล
ภายหลังจากประกาศรายชื่อผู้โชคดีจะต้องติดต่อเพื่อยืนยันตัวตนภายในวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 โดยส่งสำเนาบัตรประชาชนมาที่ E-Mail
: info.thaifest@gmail.com จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น.
ข่าวที่ 7 “TCEBนำประชุมเมืองไทยภูมิใจช่วยชาติบุกไทยเที่ยวไทย”
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้นำแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย
ภูมิใจช่วยชาติ” ร่วมกระตุ้นการเดินทางใช้จ่ายเงินในงาน “ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่
54 ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ตั้งเป้าดึงกลุ่มเอกชนในงานที่มาขายสินค้าและบริการทั้งโรงแรม รีสอร์ท
บริษัทนำเที่ยวภายในประเทศ สปา สายการบิน กว่า 1,100 ราย รวมทั้งองค์กรธุรกิจที่
เข้ามาขอรับการสนับสนุนการจัดประชุมและจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศ
ซึ่งทาง
TCEB พร้อมสิทธิประโยชน์แคมเปญ “ประชุมเมืองไทย
ภูมิใจช่วยชาติ” ให้องค์กรบริษัทเอกชน หรือตัวแทนบริษัทจัดกิจกรรมและการเดินทาง (Destination
Management Company - DMC) ที่พร้อมจัดกิจกรรมภายในประเทศ
ที่ปฎิบัติตามกติกามารับเงินได้ครั้งละ 20,000 บาท/ครั้ง/ทริป
ด้วยเงื่อนไขดังนี้
1.มีผู้เดินทางครั้งละ40 คนขึ้นไป 2.พักค้างคืนอย่างน้อย
1 คืน 3.เลือกจัดกิจกรรมประเภทใดประเภทหนึ่งจาก 6 ประเภทนี้
ได้แก่ การจัดประชุม (Meetings) การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentive
Travel) การอบรมสัมมนา (Trainings / Seminars) กิจกรรมนอกสถานที่ทำการของบริษัท (Outings) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์
(Team buildings) และ กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) 4.ต้องจัดกิจกรรมข้ามจังหวัดกับที่ตั้งของบริษัท
หากมีความพร้อมตามกติกาทั้ง
4 ข้อ เข้ามาสมัครพร้อมลงทะเบียนได้ทันทีที่ www.thaimiceconnect.com
ภายในวันที่ 30 มิถุนายน และกำหนดจัดงานภายใน 31 กรกฎาคม 2563 นี้
TCEB
พร้อมตอบทุกข้อสงสัย โทรถามได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(สำนักภูมิภาค) 02-694-6000 หรือได้ที่บูธทีเส็บภายในงานไทยเที่ยวไทย
ตั้งอยู่บริเวณโถงด้านหน้าทางเข้างาน ฮอลล์ EH 103
ช่วงที่ 2
จุดนัดพบของนักเดินทางที่ชื่นชอบปักหมุดเช็คอินแหล่งท่องเที่ยวใหม่
ๆ ใกล้กรุงเทพฯ เปิดแล้วที่ “สวนดอกกะเจ้า” หรือ “Dok
Kachao in the city” สวนดอกไม้เปิดใหม่ล่าสุด ในอำเภอพระประแดง
จังหวัดสมุทรปราการ เชิญชวนให้มาตื่นตาตื่นใจกับอาณาจักรเมืองดอกไม้สีสันสดใสกว่า 3
ล้านดอก และพืชพันธุ์ไม้กว่า 3 แสนต้น
บนพื้นที่กว่า 7 ไร่
แถมทัศนียภาพก็งามด้วยวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดให้เข้าไปเที่ยวได้ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. โดยคิดค่าเข้าชมสำหรับคนไทย 200
บาท เด็ก 100 บาท ต่างชาติ 300 บาท
แนะนำเรื่องกการเดินทางไปเช็คอินแหล่งท่องเที่ยวในสวนดอกกะเจ้า
นักท่องเที่ยวต้องมาทางเรือเท่านั้น
1.
จากฝั่งกรุงเทพให้มาที่ ท่าเรือวัดคลองเตยนอก หรือ
ท่าเรือกรมศุลกากรส่งออก(ท่าภาษี) ข้ามมาฝั่งบางกะเจ้า ขึ้นที่ โป๊ะสวนดอกกะเจ้า
2.ขับรถมาที่
บางกะเจ้า พระประแดง จอดแล้วมาขึ้นท่าเรือกำนันขาว หรือท่าเรือแพเจี๊ยบ
หรือท่าวัดบางกะเจ้านอก หรือท่าวัดบางน้ำผึ้งนอก
สอบถามเพิ่มเติม
ที่ สวนดอกกะเจ้า โทร.089-894-3214 , 081-793-6991 หรือ
ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร.038-514-009
ในบริเวณไม่ไกลกันก็สามารถแวะชีล
ๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ตลาดเก๋ ๆ ร้านอาหารชิค ๆ
“ถนนมรกต”
ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางดอกไม้ ลัดเลาะไปตามถนนสีเขียวเส้นทางจักรยาน
อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดบางน้ำผึ้ง เต็มไปด้วยภาพเพ้นท์ดอกไม้สวย ๆ
ยิ่งเข้าไปลึกถึงด้านถนนลาดยางปกติธรรมดา แต่ที่น่าทึ่งคือนักท่องเที่ยวจะได้เห็นการเพ้นท์ลวยลายน่ารัก
ๆ เหมาะจะถ่ายรูปแชร์เพื่อชวนคนมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
“ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง”
ที่ชาวบางน้ำผึ้งกับองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง
ฟื้นฟูวิถีชีวิตดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ แปลงโฉมเป็นตลาดขายสินค้าของชุมชนบางน้ำผึ้ง
และพระประแดง มีสินค้าสารพัดอย่างอัตลักษณ์ท้องถิ่น
ทั้งของกินของใช้ของฝากละลานตา
ภายในจัดเป็นซุ้มให้เดินชิมช้อปชมกว่า 2 กิโลเมตร ขนานไปกับคลองซอยสายเล็ก
ๆ แตกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาในพื้นที่ที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน
“บ้าน
บ้าน บางกระเจ้า” ร้านอร่อยตั้งอยู่ที่ ต.บางกระสอบ
ติดแม่น้ำเจ้าพระยาตัวร้านตกแต่งด้วยไม้ และอิฐในสไตล์คันทรีให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
และอบอุ่น ตามคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่อยากให้ลูกค้าที่มามีความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
ในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถมอาหารยังรสชาติอร่อยราคาสบายกระเป๋า
แนะนำว่าเมื่อมาถึงต้องสั่งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ 2 อย่างนี้คือ น้ำเสาวรสโซดา น้ำพั้นซ์โซดา แวะร้านเดียวได้ชิมทั้งอาหาร
และคาเฟ่ซึ่งเปิดบริการ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 11.00 - 21.00 น. ส่วนวันศุกร์
- วันอาทิตย์ เปิดเวลา 08.00 - 22.00 น.
เที่ยใกล้
เที่ยวง่าย มาได้เลย “บางกะเจ้า” อินเทรนด์กับจุดเช็คอินใหม่ “สวนดอกกะเจ้า”
และเที่ยวมุมใหม่ ตลาดเก๋ ๆ บางน้ำผึ้ง เรื่อยไปจนถึง บ้าน
@กินน้ำผึ้งมีประโยชน์สารพัดอย่างดีต่อสุขภาพ
ด้วยกลิ่นหอม ๆ
รสชาติหวานๆ ของน้ำผึ้งซึ่งให้ประโยชน์มากมาย ที่จะบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง สำหรับผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลาย
ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
มีมากมายดังนี้
1. ช่วยลดความดันโลหิต น้ำผึ้งมีสารแอนติออกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนก่อนนอน
เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้
2. ลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ไขมันไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันที่พบในเลือด
ซึ่งถ้าในเลือดมีระดับสูง จะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
การทานน้ำผึ้งจะช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายได้
3. เพิ่มภูมิคุ้มกัน ในน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
และมีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทานก่อนนอนทุคืน
จะทำให้คุณมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
4. ช่วยให้นอนหลับสบาย ในน้ำผึ้งมีสารทริปโตเฟน
ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย และทำให้รู้สึกง่วงนอน นอกจากนี้ในน้ำผึ้งยังมีสารไกลโคเจน
จะช่วยให้คุณนอนหลับสบาย ไม่ตื่นกลางดึก
5. ช่วยเผาผลาญไขมัน แต่ควรทานแต่พอดีๆ ไม่มากเกินไป
เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลพอสมควร
6. ลดอาการไอ และเจ็บคอ ใครที่ไอ หรือเจ็บคอบ่อยๆ ลองผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นดื่มก่อนนอนทุกคืน อาการไอและเจ็บคอจะค่อยๆ ดีขึ้น
7. ชะลอความแก่ สารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอความแก่
ซึ่งในน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สาวๆ คนไหนยังไม่อยากแก่
ต้องทานน้ำผึ้งก่อนนอนทุกวัน
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
“รมว.ศักดิ์สยามตีกลับบินไทยขอกู้เงินเสริมสภาพคล่อง5หมื่นล้าน”
นายศักดิ์สยาม
ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
ฝ่ายบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) นำโดยนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) ยกทีมผู้บริหารการบินไทยและบินไทยสมายล์แอร์เวย์ส
มาขอพบเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 เพื่อเสนอแผนขอเสริมสภาพคล่องวงเงิน
50,000 ล้านบาทโดยขอให้รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้
จากที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันสูงผนวกกับได้รับผลกระทบกับไวรัสโควิด-19
แต่เมื่อได้พิจารณาข้อมูลที่นำมาเสนอแล้วก็มีนโยบายให้การบินไทยกลับไปจัดทำรายละเอียดมาเสนอใหม่ภายใน
1 สัปดาห์
เนื่องจากแผนไม่สอดคล้องกัน
คือ
ปัจจุบันการบินไทยลดเที่ยวบินลงเป็นจำนวนมากเพราะผู้โดยสารชะลอการเดินทางจากผลกระทบโควิด-19 แต่ค่าใช้จ่ายกลับไม่ได้ลดลงยังมีใช้จ่ายเดือนละกว่า 13,000 ล้านบาท
และประเมินตัวเลขแล้วการบินไทยยังสภาพคล่องเพียงพออยู่ได้อีกหลายเดือน
ข่าวที่สอง “ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ท่องเที่ยวสาหัสรายได้หายกว่า4.1แสนล้าน”
นางสาวณัฐพร
ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
เปิดเผยว่า ได้ประเมินสถานการณ์จีดีพีประเทศไทยปี 2563 จะขยายตัวเหลือ 0.5% จากประมาณการเดิม 2.7%
เนื่องจากผลกระทบรุนแรงของการระบาดของไวรัสโควิด-19
ในจีน ที่มีแนวโน้มจะควบคุมปริมาณผู้ติดเชื้อได้ในระยะ 1-2
เดือนข้างหน้า ขณะที่ในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอิตาลีและเกาหลีใต้สามารถควบคุมได้ในไตรมาส
2 และในไทย
ยังไม่ปรากฎจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาสั้น ๆ
ส่วนผลกระทบหนักสุดคือการท่องเที่ยว
คาดรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปมากถึง 4.1 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.4% ของจีดีพี จำนวนนักท่องเที่ยวจะหายไป
8.3 ล้านคน ลดลง 20.8% จากปีก่อน
อีกทั้งการค้าระหว่างประเทศของไทยที่การส่งออกจะหดตัวลึกขึ้นเป็น -5.6% จากเดิมที่ประเมินไว้แค่ -1.0%
ทางด้านการบริโภคและลงทุนในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลงเช่นกัน
เพราะผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายและเดินทางออกนอกบ้าน
ทำให้ธุรกิจค้าปลีกไทยปีนี้น่าจะได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท
ข่าวที่สาม
“คอนเสิร์ตชนินทร์นนทนาครแจ้งแฟนคลับเลื่อนจัด18เม.ย.”
ศิลปินดัง “ชรินทร์ นนทนาคร” ฝากแฟนคลับ ที่เตรียมตัวมาร่วมมหกรรมคอนเสิร์ต “ชรินทร์ อิน
คอนเสิร์ต” ที่มีความจำเป็นต้องเลื่อนการจัดงาน “70ปีที่รักกัน”จากเดิม
วันเสาร์ที่ 7 มีนาคมไปเป็น วันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2563 เวลา 14.00น.ณ
หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงจากการระบาดไวรัสโควิด-19
ส่วนบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตจะเริ่มขายบัตร เวลา 11.00 น.และลด10% ในการแสดง “ชรินทร์ อิน คอนเสิร์ต หมายเลข19“ 70 ปี
ที่โลกไม่ลืม ซึ่งในครั้งต่อไปยังคงจัดตามกำหนดปกติ คือวันเสาร์ที่ 11 และ วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมใหญ่
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเกตเมเจอร์
18 เมษายน 2563
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น