ททท.ปลุกทั่วประเทศ45สำนักงานบูมโปรเจ็กต์5ภาค5คิดถึง
“คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ”อัดฉีดแรง5แคมเปญสร้างเงิน/งาน
นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เจาะลึกเที่ยวทั่วไทยหลังโควิดกับ “วิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปลุกสำนักงาน ททท.ทั่วประเทศ 45 แห่ง ผนึกพันธมิตรโหมขาย “5คิดถึง5ภาค” ไฮไลต์รุกตลาดคุณภาพกำลังซื้อสูง “คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ” ระดม 80 สนาม ร่วมวงปั๊มรายได้ 5 แคมเปญ “กรีนฟีราคาพิเศษ-ส่วนลดทั่วไทย5ก๊วน5ภาค-ออกรอบตัวปลิว-ไทยแลนด์ กอล์ฟ เฟสติวัล ออนไลน์ 2020-ฟรีแมสก์เซฟแคดดี้” ลดแบบไม่ยั้ง ตั้งเป้าดึงคนเข้าสนาม เร่งกระจายรายได้ทุกอาชีพเกี่ยวข้อง สต๊าฟ ร้านขายอุปกรณ์ อาหาร เครื่องดื่ม แคดดี้ พร้อมกับลุยขายเที่ยวภาคตะวันออก “อาหาร-ผลไม้” ห้ามพลาด“มหกรรมซีฟู้ดหน้าฝน” กรกฎาคม-สิงหาคม นี้
นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตอนเกิดไวรัสโควิด-19 ระยะแรกต้องปรับแผนกันอยู่ตลอดเวลา
เพราะกระทบกับเทศกาลสวนผลไม้ภาคตะวันออก ช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2563 จึงหันไปช่วยชาวสวนภาคตะวันออกในจังหวัดหลัก ๆ
ระยอง จันทบุรี ตราด
เปิดเว็บไซต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์บริการส่งทุเรียนและผลไม้ชนิดต่าง ๆ
จากสวนถึงบ้านคนทั่วประเทศ
จากนั้นเดือนพฤษภาคมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 (ศบค.) คลายล็อกดาวน์เฟสสาม ให้สนามกอล์ฟเปิดบริการ
ทางพัทยา ชลบุรี ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี จึงร่วมมือกับเจ้าของสนามกอล์ฟต่าง ๆ
เริ่มจัดแพกเกจกอล์ฟวางตลาดอีกครั้ง
รวมทั้งการเปิดให้เดินทางกันเองภายในพื้นที่ ททท.ภาคตะวันออกทั้ง 9 จังหวัด ก็เริ่ม
ทยอยสนับสนุนธุรกิจเอกชนท่องเที่ยว พอเดือนมิถุนายน ได้ปรับงบไตรมาส 3-4 เข้าไปสนับสนุนงบประมาณตอกย้ำแนวทางปฏิบัตินำมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเข้าไปใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งการคัดกรองผู้เข้าไปเยี่ยมเยือน คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เริ่มออกเดินทางเป็นหลัก จนนำไปสู่การคิดทำโครงการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด แนะเส้นทางท่องเที่ยววิถีใหม่ 5 แคมเปญ ประกอบด้วย
ททท. ในประเทศทั้ง 45 สำนักงาน บูม จัดโครงการ "คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ" กระตุ้นรายได้หลังโควิด19คลี่คลายลง
1.คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ
กระตุ้นตลาดกำลังซื้อสูงกลุ่มนักกอล์ฟโดยตรง 2.คิดถึงเมนูอาหารจานโปรด หรือ Food
Paradise 3.คิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ
: back to the Nature 4.คิดถึงความสุขกาย
สุขใจ สไตล์เมืองรอง 5.คิดถึงชุมชน Local
Culture
โดยททท.ในประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค ได้รับโจทย์รับผิดชอบภาคละ 1 แคมเปญ ทางภาคตะวันออกดูแลแคมเปญ “คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ” มอบหมายให้ ททท.ทั่วประเทศ 45 สำนักงาน ทำกิจกรรมกอล์ฟร่วมกับพันธมิตรจัดโปรโมชั่นเพื่อให้เกิดการกระจายตัวของคนเล่นกอล์ฟ และเม็ดเงินเข้าถึงอาชีพที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟ แคดดี้ ร้านอาหาร และอื่น ๆ
กลยุทธ์การกระตุ้นคิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟมาจาก
3 แนวคิดหลัก 1.เพื่อให้ธุรกิจสนามกอล์ฟอยู่รอด
มีกรีนฟีโปรโมชั่น ดึงคนเข้าสู่สนามก่อน 2.การเพิ่มค่าใช้จ่ายและสร้างรายได้ภายในสนามกอล์ฟ
กระจายไปยังร้านอาหารและเครื่องดื่ม การใช้จ่ายในสนามกอล์ฟ 3.การสร้างวิถีใหม่ New Normal การท่องเที่ยวกอล์ฟอย่างยั่งยืน
ทั้งเรื่องการกำหนดมาตรฐานราคา การดูแลรักษาระยะห่างระหว่างการเล่น (social
distancing)
ด้วยการนำดิจิทัล
ออนไลน์ และการไม่สัมผัสกัน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ
สามารถดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ ผู้ที่สนใจสามารถคลิกได้ที่ www.คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ.com เพื่อเข้าถึงทั้ง
5 แคมเปญ ได้แก่
1.คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟกรีนฟีราคาพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน-30 กันยายน นี้ ร่วมกับสนามกอล์ฟ 50-80 แห่ง เปิดเข้ามาจองกอล์ฟทางออนไลน์ผ่านแอพลิเคชั่น จะได้รับส่วนลดกรีนฟี 200-300 บาท/สนาม
2.คิดถึงก๊วนตีกอล์ฟส่วนลดทั่วไทย 5 ก๊วน 5 ภาค เมื่อสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ เข้าไปซื้อ 1 โค้ด ได้สิทธิ์ 5 สนาม มูลค่า 1,500 บาท เพื่อนำคูปองไปใช้เป็นส่วนลดทั้ง 5 ภาค เป้าหมายต้องการให้กระจายไปเล่นทั่วประเทศ แล้ว ททท.จะท็อปอัพเงินเข้าไปให้อีก 500 บาท เพื่อไปใช้ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เป็นแนวคิดใหม่ไม่ต้องสัมผัสโดยใช้เงินแต่ใช้การ์ดคูปองแทน เพราะตั้งแต่เดือนสิงหาคมจะทำ E-Wallet เพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายเงินโดยไม่ต้องสัมผัสกัน
3.คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟออกรอบตัวปลิว มีเครื่องมือบริหารจัดการทำเป็นการ์ด และ Cash Rate
4.Thailand Golf Festival Online 2020 เดิมจะจัด consumer fair แต่ปีนี้ทำไม่ได้ จึงหันมาทำแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด กรีนฟี กอล์ฟแพกเกจ ฟิตติ้งกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ ทุกอย่างจะเปิดให้ซื้อผ่านออนไลน์ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นี้
5.Free Mask Safe Caddy เพราะพนักงานแคดดี้ว่างงานมา 2-3 เดือน ขาดรายได้ไป ททท.จึงผลิตหน้ากากอนามัยให้แคดดี้นำไปขายคนมาเล่นกอล์ฟ ชิ้นละ 100 บาท แบ่งส่วนต่างจากต้นทุน 60 บาท/ชิ้น มอบเงินกองทุนให้แคดดี้
วัตถุประสงค์ของแคมเปญกอล์ฟทั้งหมด ททท.มุ่งกระตุ้นการเดินทางผ่านตีกอล์ฟ โดยได้รับความร่วมมือจากสนามกอล์ฟในแต่ละจังหวัด แต่ละแห่งจะเน้นใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตามเกณฑ์กระทรวงสาธารณสุขเป็นสำคัญระหว่างการออกรอบของนักกอล์ฟแต่ละก๊วนในแต่ละสนามแต่ละครั้ง
สำหรับแคมเปญคิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ ททท.แบ่งการจัดการออกเป็น 3 เฟส 3 กิจกรรม ประกอบด้วย เฟส 1 มิถุนายน-กรกฎาคม เน้น Clean & Green ช่วงเปิดสนามต้องการให้เห็นถึงความเขียว สะอาดสดใส เฟส 2 เดือนสิงหาคม ตามปกติจะเดือนแห่งวันแม่จึงนึกถึงสุภาพสตรี จัดทำเป็น Lady Golf เฟสที่ 3 กันยายน เป็นช่วงจัดเกษียน จึงจะทำ “เก๋ายกก๊วน” เดินหน้านำทั้ง 3 กิจกรรมมาใช้ผ่าน Cash Rate หรือเพิ่มมูลค่าการใช้จ่าย
เพื่อทำให้แคมเปญกอล์ฟตอบโจทย์ใหญ่เรื่อง
“การกระจายรายได้” ครอบคลุมไปถึงทุกกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ
แล้วสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจกระจายตัวขึ้นได้
ส่วนการลงพื้นที่สำรวจหลังสถานการณ์ไวรัสโควิดคลี่คลายลง
เช่น ระยอง ที่ผ่านมาบางโรงแรมเปิดต่อเนื่อง ส่วนจันทบุรี และตราด
ปิดตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด เพิ่งจะมาเปิดตอนรัฐบาลคลายล็อกเมื่อวันที่ 1
มิถุนายน 2563 ดังนั้นเบื้องต้นจึงต้องเร่ง “สร้างความมั่นใจ”
โดยทำระบบการจัดการที่ดี การคัดกรอง สวมหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ มาตรฐานSHA
: Safty & Health
Administration ให้ผู้ประกอบการโรงแรม
ร้านอาหารต่าง ๆเข้าร่วมรับมาตรฐานดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนการลงทะเบียน
ตรวจเตรียมรับสติ๊กเกอร์ SHA
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์มหานครชวนชิม&ชมสุริยุปราคาสกายวอล์ค
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์วิถีไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ใน “คิง เพาเวอร์ มหานคร” อาคารที่มีจุดชมวิวสูงที่สุดในกรุงเทพมหานครและประเทศไทย นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมจะเดินหน้าจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมความสุขในรูปแบบทั้งกินและสัมผัสได้อย่างต่อเนื่องด้วยบริการ 2 ไฮไลต์ ประกอบด้วย
ไฮไลต์แรก พบกันได้ที่ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” ห้องอาหารชั้น 76 สูงที่สุดในประเทศไทย กับ “ความสุขที่กินได้” ด้วยการรังสรรค์เมนูอาหารตลอดตั้งแต่เวลา 11.30 -01.00 น.ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ภายในห้องเพดานสูงขนาดที่นั่งเว้นระยะห่าง (Social distancing) สร้างความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข รองรับได้ครั้งละ 68 ที่นั่ง ในห้องตกแต่งหรูหราด้วยอุปกรณ์แต่ละชิ้นเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก สวยสะดุดตา แถมยังอบอวลด้วยกลิ่นอายอโรมาสร้างความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างดี
ทันทีที่ห้องอาหาร “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” กลับมาเปิดบริการใหม่หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงก็ได้นำเสนอเมนูอาหารตามอัตลักษณ์ตะวันออกพบตะวันตกไว้ให้ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานได้เลือกอย่างหลากหลายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป พร้อมจะนำเสนอโปรโมชั่นอาหารมื้อพิเศษสั่งได้ตั้งแต่ 11.30 น.สามารถสั่งเมนูสุดท้ายก่อนครัวปิดได้เวลา 22.15 น. แล้วสามารถนั่งประทานไปได้จนกว่าห้องอาหารจะปิดตอน 01.00 น. กับมื้อพิเศษประกอบด้วย 2 คอร์ส ได้แก่
“3 คอร์ส” 3 เมนูอร่อยอย่างมีคุณค่า ราคาเริ่มต้นคนละ 1,600 บาท++ เริ่มต้นเสิร์ฟจานแรก “คอหมูย่างพร้อมแตงกวาดอง : Pork Jowl/Cucumber/Spring Onion” ตามมาด้วยจานที่สอง สามารถเลือกได้ตามความชอบ จะเป็นเมนูเนื้อ “วากิวออสเตรเลียสเต็กริบอายราดซอสแจ่วสไตล์ไทยเข้มข้นครบรสเผ็ดเปรี้ยวหวานลงตัว :Australian Wagyu Ribeye” หรือเมนูปลา “ปลากระพงมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเข้มข้น :Seared Andaman Sea Bass” ปิดท้ายจานที่สามเมนูของหวาน “สับปะรดเคลือบน้ำตาล รับประทานคู่กับซอร์เบท์มะพร้าว : Roasted Pineapple”
“4 คอร์ส” 4 เมนูเพิ่มอรรถรส ราคาเริ่มต้นคนละ 1,800 บาท++ เริ่มเสิร์ฟจานแรก “แซลม่อนปรุงรสจากซอสสมุนไพร รองด้วยขนมปังย่าง : Salmon Rillettes” รสชาติมากด้วยความกลมกล่อม จานที่สอง “ฟัวกราส์ย่าง ลูกแพร์ เชอร์รี่ ขนมปังบริยอช : Pan Seared Foie Gras” จานที่สาม “ลาบเป็ดเสิร์ฟพร้อมกระหล่ำปลีดอง และข้าวเกรียบ : LARB PED-SPICY GRILLED DUCK SALAD” จานที่สี่ของหวานสร้างความสดชื่นด้วย “ช็อกโกแลต กล้วยอบ และเฮเซลนัท :Chocolate & Banana/Hazelnut”
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารรสเลิศตามสั่ง (A-la Carte) สลัด อาหารสุขภาพ และบริการชุดของว่างยามบ่าย สามารถเลือกสั่งได้ตามความชอบของแต่ละคน ราคาเริ่มต้นเมนูละหลักร้อยบาท ที่สามารถเติมความสุขทุกมื้อเมื่อได้มาลิ้มรสอัตลักษณ์อาหารสไตล์ผสมผสานกลิ่นอายตะวันออกพบตะวันตก ที่ห้อง “มหานคร แบงค็อก สกาย บาร์” ชั้น 76
ไฮไลต์ที่สอง “มหานคร สกาย วอล์ค” ชั้น 78 พบกับ “ความสุขที่สัมผัสได้” บนความสูงเสียดฟ้าจุดชมวิวสวยสุด ๆ ของกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา ในวันที่ฟ้าเปิดแสงแดดสว่างสดใสเมื่อได้มีโอกาสขึ้นมาชมวิวจะสามารถมองผ่านทะลุเห็นได้ถึงทิวเขาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ชลบุรี กันเลยทีเดียว ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563 ชวนมาร่วมกิจกรรมแปลกใหม่บนชั้นดาดฟ้าหรือรูฟท็อป (Rooftop) มหานคร สกาย วอล์ค เตรียมจัดกิจกรรมเด่น ๆ คือ
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563 คิง เพาเวอร์ มหานคร ร่วมกับสมาคมดาราศาสตร์ จัดกิจกรรมชมปรากฎการณ์ “สุริยุปราคา” บนรูฟท็อปดาดฟ้าชั้น 78 ได้ตลอดช่วงเวลา 13.30-16.00 น. โดยจะแจกแว่นสวมใส่เพื่อชมสุริยุปราคาให้แก่นักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตรปกติเพื่อขึ้นมาชมวิวทิวทัศน์ มหานคร สกาย วอล์ค ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับบัตรเข้าชม “มหานคร สกาย วอล์ค” ผู้ใหญ่ จ่ายคนละ 880 บาท เด็ก อายุต่ำกว่า 12 ปี กับผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายเพียงคนละ 250 บาทเท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตรเข้าชม “มหานคร สกาย วอล์ค” ซึ่งเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10.00-24.00 น.สามารถที่จะแวะชั้น 74 ในพื้นที่ห้องปรับอากาศผ่านกระจกใส (indoor) เพื่อเดินชมทัศนียภาพวิวกรุงเทพมหานคร จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ไปยังรูฟท็อปบาร์ดาดฟ้าเปิด (outdoor) ชั้น 78 ซึ่งมีทั้งบาร์เครื่องดื่ม อาหารว่าง และพื้นกระจกใสให้ผู้ที่ชื่นชอบความสูงได้ลงไปเดินชมวิวกรุงเทพฯ ด้านล่าง ซึ่งให้ความรู้สึกสนุกท้ายท้ายไปอีกแบบ แต่ละชั้นมีขีดความสามารถรองรับได้ครั้งละ 220 คน ส่วนการลงไปเดินบนพื้นกระจกใส มหานคร สกาย วอล์ค ได้รอบละ 10 คน
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์กระหน่ำลดช้อปออนไลน์โฮม&อิเลคทรอนิกส์60%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังคงกระหน่ำขายทางออนไลน์และคิง เพาเวอร์ แอพพลิเคชั่น ระหว่างวันนี้-23 มิถุนายน 2563 ช้อปด่วน ๆ “สินค้า HOME & ELECTRONICS” ลดสูงสุด 60% จัดเป็นมหกรรม BRAND OF THE WEEK ช้อปเครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในราคาสบายกระเป๋า เพียงแค่ใส่รหัสส่วนลด HMELJUN60 ก็จะได้เลือกซื้อสินค้าตามที่ต้องการ จ่ายเงินค่าสินค้าเสร็จเรียบร้อย นั่งรอรับได้เลยด้วยบริการส่งฟรีถึงบ้านทั่วประเทศ
สามารถใช้สิทธิพิเศษตลอดการช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์และแอพลิชั่น ด้วยSpecialDeal! 1.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน* 2.รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 18%* > http://bit.ly/2OzUV1k 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง > http://bit.ly/31yjocR (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ และรับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > http://bit.ly/2S4uJyi
ข่าวที่ 3 ททท.ลุย3แพกเกจปลุกเที่ยวไทยปั๊มเศรษฐกิจพุ่งครึ่งปีหลัง
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้วางแนวทางการเดินหน้าแคมเปญท่องเที่ยวหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
มีมติสนับสนุนงบประมาณกระตุ้นท่องเที่ยววงเงินรวม 22,400 ล้านบาท ระหว่าง1 กรกฎาคม- 31 ตุลาคม นี้
เพื่อทำให้ท่องเที่ยวขยับได้
เป็นแรงส่งเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวในระยะต่อไป โดยจะเร่งขับเคลื่อน 3 แพกเกจ ประกอบด้วย
แพกเกจ 1 “เราไปเที่ยวกัน”
เตรียมสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการห้องพักมีทั้งโรงแรมและโฮมสเตย์ ให้ได้ประมาณ 5
ล้านคืน
คาดจะมีนักท่องเที่ยวได้สิทธิ์ประมาณ 1
ล้านคนเศษ ใช้งบราว 18,000 ล้านบาท กระจายทั่วประเทศให้ผู้ประกอบการโรงแรม 24,700
แห่ง
ร้านอาหารที่จะได้รับประโยชน์อีกกว่า 36,755 แห่ง
โดยกำหนดให้สิทธิ์คนไทยอายุตั้งแต่
20 ปีขึ้นไป
รัฐบาลสนับสนุนร่วมจ่าย 40 % นักท่องเที่ยวจ่ายเอง
60 %ของค่าที่พัก
ราคาไม่เกิน 3,000 บาท/คืน
เป็นราคาห้องที่ให้ส่วนลดเรียบร้อย สูงสุดไม่เกิน 5 คืน/คน/สิทธิ์ แล้วรัฐบาลยังมี Co-Promotion
เป็นอีวอลเลต (E-Wallet)
ใส่เงินไว้ให้อีก 600 บาท/วัน/คน
เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหาร ซื้อของที่ระลึก เข้าชมแหล่งท่องเที่ยว
เงินจะเติมเข้ามาแต่ละคืน ๆ ละ 600 บาท
จะต้องรีบใช้ให้หมดในวันนั้น ๆ หากไม่ใช้เงินจะถูกดึงกลับคืนไป
ส่วนวิธีรับสิทธิประโยชน์จากแพกเกจนี้
คือ 1.เข้าไปลงทะเบียนรับโค้ดก่อน
2.จองห้องพักจากโรงแรมและโฮมสเตย์
เสนอขายผ่าน OTA รับสิทธิ์ 1 คน
ไม่เกิน 5 คืน
จองแล้วซื้อไปก่อนจากห้องลดราคาเรียบร้อยแล้ว สามารถที่จะแบ่งไปพักตามจังหวัดต่าง
ๆ ได้โดยไม่ต้องรวมการเที่ยวอยู่ในสถานที่เดียว แต่จะต้องท่องเที่ยวให้เสร็จภายใน 30
ตุลาคม นี้
ห้องพักที่เข้าร่วมโครงการ
1.โรงแรมจดทะเบียนถูกต้อง
2.โฮมสเตย์
ต้องจดทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สำหรับผู้ประกอบการหรือนักท่องเที่ยวที่ตกหล่นจากครั้งนี้
หลังมาตรการแรกที่ออกมา ต่อไปจะมีมาตรการอื่น ๆ
ตามออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการตกหล่นที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา
แพกเกจ 2 “เที่ยวปันสุข” การช่วยกลุ่มให้บริการเดินทาง
สายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ส 2 ล้านใบ
โดยจะอุดหนุนเงินค่าตั๋วโดยสาร 40 % ไป-กลับ
หรือรวมแล้วไม่เกิน 1,000 บาท/คน
ใช้งบ 2,000 ล้านบาท
ตั้งเป้ากระตุ้นคนมาเที่ยวในประเทศได้ถึง 2 ล้าน-ครั้ง
แพกเกจ 3 “กำลังใจ” ให้แพกเกจเดินทางท่องเที่ยวฟรีแก่กลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์หลัก
ๆ คือ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)กับโรงพยาบาลส่วนตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน หากไม่ใช่บุคลากรกลุ่มนี้
เป็นประชาชนทั่วไปก็มีแพกเกจอื่นให้เลือก ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน
ทั้งนี้ทางกระทรวงการคลังจะจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการเมื่อนักท่องเที่ยวไปใช้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผ่านช่องทางอิเลคทรอนิกส์เร่งจ่ายคืนภายในไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ส่วนผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวจะต้องเข้าไปดาวโหลดในแอพลิเคชั่น เป๋าตุง และเป๋าตัง ซึ่งจะมี ทั้ง E-Wallet และ E-Vochure อยู่ด้วย
ข่าวที่ 4 ททท.ชวนแข่งทำคลิปปลุกกระแสบอกรักเมืองไทย...ให้หายคิดถึง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ชวนร่วมสนุก ผลิตคลิป VDO เชิญชวนคนไทยทุกคนออกมาบอกรักเมืองไทย..ให้หายคิดถึง
กับกิจกรรม “บอกรักเมืองไทย”
เพียงถ่ายคลิปวิดีโอสั้นๆ
ที่แสดงถึงความรักและความคิดถึงที่มีต่อเมืองไทย ณ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok พร้อมใช้เพลงบอกรักเมืองไทยประกอบวิดีโอ
ใส่ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว และ #บอกรักเมืองไทย ลงในแคปชั่น
หลังจากนั้นแชร์วิดีโอไปยัง Facebook
หรือ Instagram พร้อมใส่ชื่อสถานที่ และ #บอกรักเมืองไทย ตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ
เพียงเท่านี้ก็มีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีร่วมเดินทางไปถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงบอกรักเมืองไทย
กับโต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร โดยสามารถชมวิดีโอตัวอย่างจาก KOL ของ
TikTok เช่น artymilk, golfandmom, classicnu,
iptik, kanbokeh เป็นต้น
เพียงพิมพ์ #บอกรักเมืองไทย
ในช่องค้นหาบนแอปพลิเคชัน TikTok
ร่วมสนุกกันได้ตั้งแต่ 19 มิถุนายน –
19 กรกฎาคม 2563 บนแอปพลิเคชัน TikTok และติดตามการประกาศผลผู้ชนะการประกวดบน
Facebook Page : Amazing Thailand ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2563
ติดตามข่าวสารของกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ทุกช่องทางสื่อสารออนไลน์ของ
ททท. (Facebook Page : Amazing Thailand, Instagram : @tourismthailand,
Official LINE Amazing Thailand และ Twitter Go2Thailand)
และ Instagram ของโต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร : @torsaksit
รวมทั้งยังสามารถดาวน์โหลดเพลงบอกรักเมืองไทย
เป็นเสียงรอสายได้ฟรีทั้ง 3 เครือข่ายมือถือ ไม่ว่าจะเป็น AIS Dtac และ
TrueMoveH ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตลอดช่วงการจัดกิจกรรมคนรักการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยเตรียมตัวให้พร้อม
แล้วออกมาบอกรักเมืองไทย ให้หายคิดถึงกันอีกครั้ง
ข่าวที่ 5 ททท.มอบใบรับรองSHAพระบรมมหาราชวังเที่ยวมั่นใจ
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มอบตราสัญลักษณ์ SHA ให้แก่พระบรมมหาราชวัง โดยพลอากาศตรี สุพิชัย
สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง
เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้ มีแพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข และ นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ร่วมพิธีฯ
ณ พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ได้ร่วมกันดำเนินโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้มาใช้บริการหลังจากสถานการณ์โควิด-19
อยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทาง
ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านการบริการและ ด้านสุขอนามัยให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข
สอดคล้องกับวิถีปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งไม่เพียงแค่
การนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีเหมือนอย่างที่เคยปฏิบัติกันมา
ยังมีความจำเป็นต้องลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคติดต่อไวรัสโควิด-19
เพื่อให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข
และได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดเวลาที่มาเยือนประเทศไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามได้เมื่อวันที่
7 มิถุนายน 2563 หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการต่าง ๆ
เป็นระยะพระบรมมหาราชวังได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเป็นอย่างดี
โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวัน เวลา 08.30 – 15.30 น. ชาวไทยเข้าชมได้ฟรี
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชมคนละ 500 บาท
ข่าวที่ 6 บางจากชูแก๊สโซฮอล์S EVO FAMITYเกรดพรีเมี่ยมราคาเดิม
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ของบางจากให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจึงได้ใช้นวัตกรรมพัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค
อาทิเช่น บางจากไฮพรีเมียมดีเซล S ที่มีค่าซีเทนสูงสุด น้ำมันหล่อลื่น Furio ที่มีค่า
API สูงสุด ผ่านการทดสอบในสนามแข่งระดับโลก
ล่าสุดบางจากได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มแก๊สโซฮอล์
S EVO FAMILY ได้แก่
แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E20 และ E85
โดยเฉพาะ E20
ที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมทั้งเป็นน้ำมันที่มีความคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภค
คาดการณ์ว่าน้ำมัน E20
จะเป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศไทยในอนาคตซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงพลังงาน
ประกอบกับเป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้มากกว่า
บางจากฯ จึงเน้นการยกระดับ E20 S EVO
ให้เป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียมแต่จำหน่ายราคาเดิมเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คนไทยในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า
นอกจากนั้นปัจจุบันแนวโน้มเครื่องยนต์ได้พัฒนาจากระบบ
PFI (Port Fuel Injection – เครื่องฉีดพอร์ตธรรมดา)
เป็นระบบ GDI (Gasoline Direct Injection - ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้) คาดว่าในอนาคตรถรุ่นใหม่ๆ
จะเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบ GDI
ทั้งหมด บางจากฯ จึงพัฒนา E20S EVO ให้รองรับเครื่องยนต์ระบบ
GDI และยังใช้ได้ดีกับรถเบนซินทุกรุ่น
ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ด้วย
ข่าวที่ 7 TCEBควงกรมอนามัยเช็คความพร้อมไบเทคลุยตลาดไมซ์เริ่ม27มิ.ย.นี้
นางศุภวรรณ
ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB”
เปิดเผยว่า ทันทีที่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 ทีเส็บเดินหน้าเร่งส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์ตามวิถีใหม่
New Normal ทั้งเรื่องศึกษาทำความเข้าใจมาตรการจัดงานไมซ์อย่างปลอดภัยของรัฐบาล
พร้อมร่วมกับสมาคมธุรกิจผลิตคู่มือจัดงานไมซ์ ครอบคลุมทุกเรื่องด้านการ จัดงานประชุมสัมมนา
การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมสมาคมวิชาชีพ รวมถึงการจัดงานแสดงสินค้า
และจัดงานอีเวนท์ในประเทศไทย สอดรับตามแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยของรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข
ปัจจุบันผู้ประกอบการสามารถนำไปปฎิบัติใช้ได้ทันทีเพื่อเตรียมความพร้อมของ สถานที่จัดงานและผู้จัดงานทุกทั่วประเทศเริ่มกลับมาทำธุรกิจได้โดยเร็วที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจนับจากนี้เป็นต้นไปคือ
“การสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในสุขอนามัย” ของการจัดงานให้แก่ผู้ใช้และผู้ให้บริการ
จึงต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งสถานที่จัดงาน ผู้จัดงาน
และผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งภาครัฐจะต้องร่วมทำงานกับเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อเดินหน้าธุรกิจให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติของรัฐบาล
สร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจไมซ์และการจัดงานเดินหน้าต่อไป
ตลอดช่วงที่ผ่านมาทีเส็บเข้าร่วมเป็น
“คณะกรรมการพัฒนาหลักเกณฑ์มาตรการและแนวทางการเตรียมความพร้อมเปิดกิจการหรือการจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาในสถานการณ์โควิด
19” โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนด้านสุขอนามัยของธุรกิจไมซ์ไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด
19 ในกลุ่มผู้ประกอบกิจการและสถานที่สาธารณะ กรณีผ่อนผันการดำเนินกิจการ
และเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการฯ
ซึ่งเป็นคณะทำงานลงมือปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
จัดทำข้อเสนอแนวทางการผ่อนปรนเปิดกิจการและกิจกรรมไมซ์โดยทำงานร่วมกับภาคเอกชน
เพื่อนำเสนอแนวทางต่อรัฐบาลจนมีแนวทางชัดเจน
และมีความพร้อมเตรียมการเปิดกิจกรรมของธุรกิจไมซ์ในวันนี้
สำหรับการจัดทำแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์
การจัดทำแนวทางเร่งการผ่อนปรนเปิดกิจการและกิจกรรมไมซ์นำเสนอต่อรัฐบาลนั้น
ทีเส็บทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) (TICA) สมาคมการแสดงสินค้า
(ไทย) (TEA) สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) และสมาคมโรงแรมไทย (THA) มาตลอด
ทางรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (ศบค.) ได้นำแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์นี้ไปประกอบร่วมกับหลักเกณฑ์พิจารณาด้านสาธารณสุขของกรมควบคุมโรค
และมาตรการด้านอนามัยของกรมอนามัยซึ่งใช้เป็นแนวทางหลัก
และประกาศเป็นมาตรการผ่อนปรนสำหรับการดำเนินธุรกิจไมซ์เป็นระยะจนถึงวันนี้
นางศุภวรรณ กล่าวว่า
ล่าสุดทีเส็บร่วมกับกรมอนามัยลงพื้นที่เยี่ยมชม “ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค”
เพื่อประเมินความพร้อมการอนุญาตจัดงานตามแบบประเมินปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สำหรับการจัดแสดงสินค้าของทาง ศบค.
ประกอบด้วยเกณฑ์การประเมิน 2 หัวข้อ คือ 1.การเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการหรือเจ้าของสถานที่ ด้านการบริหารจัดการ
และ 2.การประเมินระหว่างผู้ให้บริการ ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ
พนักงาน ผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดงาน
และทำความเข้าใจในหลักปฏิบัติกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้การจัดงานไมซ์เดินหน้าต่อไปอย่างความราบรื่นตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ควบคู่การดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพของประชาชน
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร
อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายยกระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัย ให้ความสำคัญด้านต่าง
ๆ ได้แก่ 1.ความสะอาด ปลอดภัยทั้งด้านสถานที่ อุปกรณ์ 2.การป้องกันสำหรับพนักงานหรือผู้จัดงาน และผู้เข้าร่วมงาน 3.การเฝ้าระวัง ให้คำปรึกษา แนะนำ สร้างแนวปฏิบัติมาตรฐานใหม่ (New
Normal) สำหรับสถานประกอบกิจการ
เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมงาน
สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สมดุลกับการป้องกันสุขภาพของประชาชนต่อไป
นางสาวปนิษฐา บุรี กรรมการผู้จัดการ
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กล่าวว่า ไบเทคเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการอีกครั้งโดยจะมีเริ่มจัดงานแรก
27 มิถุนายน 2563 โดยยึดมาตรฐานการเป็นต้นแบบการบริหารจัดการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ตามมาตรการที่รัฐกำหนด ซึ่งดำเนินกิจธุรกิจให้บริการด้านสถานที่จัดงานแสดงสินค้า
และห้องประชุมในไทยมากว่า 20 ปี อีกทั้งยังได้มาตรฐานการรับรองจาก
TMVS (Thailand MICE Venue Standard)
ติดต่อกันเป็นเวลานานกระทั่งขึ้นแท่นผู้นำศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมที่ดีที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก
ขยายพื้นที่จากเดิม 35,000 ตารางเมตร เป็น 70,000 ตารางเมตร เมื่อมีไวรัสโควิดเกิดขึ้นเริ่มคลี่คลายลง
ก็ไม่นิ่งนอนใจได้นำมาตรการหลักเข้ามาใช้ควบคุม 6 ข้อ ได้แก่
1.การบันทึกเข้า-ออกด้วยแพลทฟอร์มไทยชนะ
2.ตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิที่ 37.5 3. จำกัดจำนวนคน 1 คนต่อ 4 ตรม.
4.พ่นละอองฆ่าเชื้อในพื้นที่ 5. ยึดหลัก Physical Distancing และ
6. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในองค์กร
ช่วงที่
2 ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง
ขับรถไปปักหมุด More Fun เที่ยว “ทะเลสัตหีบ” ที่วัดญาณสังวร หาดเตยงาม และชเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร์
ต่อด้วยการเรียนรู้ “6 วิธีควบคุมความโกรธให้อยู่หมัด”
ห้ามพลาดข่าวเด็ด ๆ “การบินไทยทำคลิปย้ำผู้โดยสารเชื่อมั่น-EECคงสิทธิ์ให้สร้างศูนย์ซ่อมเครื่องอู่ตะเภา” ทางด้าน “ททท.ผนึกเอกชนจัดอะเมซิ่ง
ไทยแลนด์ แกรนด์ เซลส์” 15 ก.ค.-15
ก.ย.นี้
ขณะที่ “ไทยเวียดเจ็ต” สร้างความฮือฮาต้อนรับการกลับมาเปิดบินใหม่ในประเทศ
เทขายตั๋ว 5 แสนใบ ราคา 5 บาท 5 เส้นทาง ภาคใต้ และอีสาน
More Fun สบาย ๆ 3แห่งในสัตหีบ ชลบุรี
ถึงเวลาออกเดินทางใหม่อีกครั้ง
ตามเส้นทางสนุกสนาน More Fun เมืองทะเลในสัตหีบ
จังหวัดชลบุรี ขับรถเลาะไปเรื่อย ๆ
ปักหมุดแรก
“วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร” ท่องเที่ยวเชิงศาสนา
เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นศิริมงคล พระอารามหลวงชั้นเอก
รายล้อมด้วยความร่มรื่น บริเวณที่ต้องห้ามพลาดแวะเข้าไปชมคือ “ศาลานานาชาติ”
เป็นศูนย์รวมความโดดเด่นสถาปัตยกรรมแตกต่างไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย
หมุดที่สอง
ต้องไปชมความยิ่งใหญ่ของ “เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร” เรือรบขนาดใหญ่โตมโหฬาร
มีความสัมพันธ์กับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชาติไทย อันน่าภาคภูมิ
ที่อยู่ใกล้วิวทะเลสัตหีบ เปิดให้เยี่ยมชมฟรีทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น
หากไปเป็นหมู่คณะแล้วต้องการดูอู่ต่อเรือด้วย
ควรจะโทรศัพท์ไปประสานล่วงหน้าไว้ด้วยก็จะดีที่ 02-466-1180
หมุดที่สาม
ได้เวลาไปชีลกับโอโซนทะเล “หาดเตยงาม” น้ำใสทะเลสวย ทรายขาวละเอียอดทุกเม็ด
สายลมเย็น ๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์
ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ได้เสด็จนำธงราชนาวิกโยธินมาปักไว้เหนือก้อนหินใหญ่บริเวณชายหาดอ่าวเตยงามแห่งนี้
หลังจากที่พระองค์ได้ทรงเรือใบข้ามอ่าวด้วยพระองค์เอง
การเดินทางพักผ่อนสบาย
ๆ ขับรถง่าย ๆ ลองไปปักหมุด 3 แหล่งท่องเที่ยวสัตหีบกันครั้ง
แล้วจะสัมผัสความสุขอย่างสนุกสนานแบบ More
Fun เมืองไทย
6วิธีระงับความโกรธให้อยู่หมัดในช่วงสังคมยุ่งเหยิง
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจมีเรื่องเข้ามาทำให้เรารู้สึกโกรธ
หงุดหงิด หรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ลองมาดูวิธีจัดการกับความโกรธ
ให้อยู่หมัดด้วยวิธีต่อไปนี้
1. สังเกตตัวเอง -ให้รู้เท่าทันอารมณ์
ตนเองว่ากำลังจะโกรธ 2.
นับ 1-10 ใช้วิธีหายใจเข้าออกลึก
ๆ ช้า ๆ เพื่อชะลออารมณ์โกรธ 3.
เตือนตนเอง – ว่าเราไม่สามารถควบคุมสิ่งทุกอย่างได้ดั่งใจ 4. มองข้อดี -ของผู้อื่นและความดี
ของเขาในอดีตที่ผ่านมา 5.
ฝึกคิด ฝึกสมอง - สิ่งต่าง
ๆ ที่เกิดขึ้นในด้านบวก 6.
ฝึกให้อภัย -และการปล่อยวางทุกอย่างจะผ่านด้วยดี
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก บินไทยทำคลิปย้ำลูกค้าเชื่อมั่น-EECคงสิทธิ์ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา
การบินไทย
จัดทำคลิปวิดีโอเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์
เพื่อยืนยันกับลูกค้าถึงวิธีการนำตั๋วโดยสารที่จ่ายเงินซื้อไปแล้ว
กับคะแนนสะสมไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส :ROP สามารถที่จะเก็บไว้ใช้ได้
หลังจากศาลล้มละลายกลางยืนยันความชัดเจนการฟื้นฟื้นฟูกิจการ
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
ทางด้านนายคณิต
แสงสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ยังคงให้สิทธิการบินไทยเป็นเจ้าภาพหลักโครงการลงทุนศูนย์ซ่อมอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา
(MRO)
โดยได้จัดเตรียมพื้นที่ประมาณ 200 ไร่
เพื่อรองรับการพัฒนา
จากผลการศึกษาหากการบินไทยเข้ามาทำก็จะสร้างผลกำไรได้และสามารถสร้างรายได้ช่วยฟื้นฟูกิจการเร็วขึ้น
ข่าวที่สอง ททท.โหมเพิ่มรายได้อะเมซิ่งแกรนด์เซล15ก.ค.-15ก.ย.นี้
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า
ได้จัดประชุม
ร่วมกับพันธมิตรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กว่า 100 ราย เตรียมความพร้อมเดินหน้าจัดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2020 พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่าง 15 กรกฎาคม- 15 กันยายน 2563 ภายใต้แนวคิด “NON STOP SHOPPING” เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย การใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหลังวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ควบคู่การส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ไทยเป็น World Shopping Paradise และให้การชอปปิ้งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ
ตลอดโครงการจะเน้นการนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มประเภท
เช่น กลุ่มแฟชั่น กีฬา เทคโนโลยีการสื่อสาร ของตกแต่งบ้าน อาหาร โรงแรม สปา
และบริการด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ในราคาพิเศษ
พร้อมมอบของสมนาคุณและสิทธิพิเศษอีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
ข่าวที่สาม ไทยเวียดเจ็ตเทตั๋ว5แสนใบราคา5บาทบูมบินทั่วไทย5เมือง
ไทยเวียตเจ็ท สายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์
ประกาศเปิดบินใหม่ในประเทศ 5 เส้นทาง
สร้างความฮือฮาโดยเทขายตั๋วโดยสารราคาโปรโมชันพิเศษสุด ๆ ทุกเส้นทางเริ่มต้นเพียง 5
บาท 500,000 ใบ ช่วง 15-19 มิถุนายน 2563 ทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com ซื้อแล้วนำไปใช้เดินทางระหว่าง 1 กรกฎาคม - 31ธันวาคม 2563
พร้อมกับจัดกิจกรรมจับฉลากแจกรางวัล 'บินฟรี 5 เดือนกับไทยเวียตเจ็ท'
สำหรับเส้นทางกลับมาบินอีกครั้งตามโปรโมชั่นจะเป็นตั๋วโดยสารไป-กลับ
กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) สู่ ภาคใต้ 3 เส้นทาง คือ หาดใหญ่
นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และอีสาน 2 เส้นทาง คือ อุบลราชธานี
และขอนแก่น
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น