"รองนายกฯอนุทิน”นำTCEBจัดทัพไมซ์หลังโควิด-19
เปิดตลาดไทย-ต่างชาติลุ้นศบค.ปลดล็อกใหญ่12มิ.ย.
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#TCEBจัดทัพไมซ์หลังโควิด19
#รองนายกอนุทินผ่าแผนเปิดตลาดไทยต่างชาติ
#ลุ้นศบคปลดล็อกใหญ่12มิย63
รองนายกฯ “อนุทิน
ชาญวีรกุล” นำทีมผ่าอุตสาหกรรมไมซ์หลังโควิด-19 สั่งทุกหน่วยใช้วิถีใหม่ New Normal ลุยตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ด้านสาธารณสุขเปรย
รอฟังข่าวดี “ศบค.” 12 มิ.ย.นี้จ่อปลดล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ไมซ์เตรียมเฮ
ส่วน “TCEB” นำร่องไมซ์ในประเทศตอนนี้เริ่มมีงานทยอยกลับมาจัดแล้วกว่า
1,000 งาน ช่วงพ.ค.63-ต้นปี’64
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB”
ได้จัดสัมมนาในรูปแบบการประชุมเสมือนจริง (Virtual Conference) ในหัวข้อ “Post COVID 19 :วิถีชีวิตใหม่ กับการจัดระเบียบและขับเคลื่อนการสร้างความพร้อมกรุงเทพและเมืองหลักเพื่อการจัดงาน”
วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2563
เวลา 14.00-16.00 น.
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กำกับดูแล TCEB เปิดเผยระหว่างเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้ถึงนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ว่า
วันนี้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ
สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโลกได้เป็นอย่างดี ถึงสถานการณ์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งให้ภาคเอกชนจัดงานอย่างมั่นใจ ปลอดภัยต่อไป ส่วนรัฐบาลพยายามต่อสู้กับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ไทยมีศักยภาพในการคัดกรอง ค้นหา รักษา ผู้ป่วย
เป็นอย่างดี จะทำให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางที่คนต่างชาติจะมาท่องเที่ยว มาจัดงานไมซ์ครบวงจร
ประเทศไทยจะเดินหน้าไปอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะการคลี่คลายปัญหาโรคระบาดจะต้องควบคุมให้ได้
ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างระบาดวิทยากับเศรษฐกิจ
เพราะประเทศที่ทำได้ก็จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย
สิ่งที่ประเทศไทยจะต้องทำให้ได้คือ
หากมีผู้ติดเชื้อต้องสามารถนำมารักษา คัดกรอง ตามหลักทางการแพทย์
จึงขอให้มั่นใจมาตรการต่าง ๆ จะผ่อนคลายไปเรื่อย ๆ
ตามที่รัฐบาลได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถ
นับมาจนถึงวันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องมา 15 วันแล้ว
ส่วนใหญ่รับเชื้อมาจากต่างประเทศพอเข้ามาถึงก็ต้องเข้ารับการรักษาจนกว่าจะปลอดภัยพ้นจากภาวะติดเชื้อ
ล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุขคิดร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จับคู่ประเทศที่มีความสามารถทางการเดินทาง Travel Bubble เตรียมทำ MOU ตกลงแบบ Fix to fly ระหว่างกันอย่างเสรี เรียกว่า New Normal เพราะเรายังไม่สามารถเปิดเสรีข้ามชาติไปมาเหมือนแต่ก่อนได้
แต่ก็จะพยายามให้เดินทางได้มากสุดตามสภาวะการณ์ของแต่ละประเทศ
เราจะเลือกทำกับประเทศที่มีความปลอดภัย มีข้อปฏิบัติการคัดกรองโรค
ให้เป็นที่พึงพอใจของทั้ง 2 ประเทศ
ส่วนภาครัฐพยายามสนับสนุนกระตุ้นผู้ประกอบการไมซ์ใช้วิถีชีวิตใหม่
ระยะสั้น กระตุ้นโดยออกมาตรการต่าง ๆ หักรายจ่ายอบรมสัมมนาในประเทศ 2 เท่า ให้โวเชอร์20,000 บาทแก่ผู้จัดการประชุม สัมมนา ในประเทศ
ให้โรงแรม สถานประกอบการ นำค่าใช้จ่ายปรับปรุงมาหักภาษีนิติบุคคลได้ 1.5 เท่า
ขอความร่วมมือภาครัฐจัดประชุมสัมมนานอกสถานที่ในประเทศ เพื่อทำให้เกิดการฟื้นตัว
หมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
มาตรการเหล่านี้รัฐบาลให้ความใส่ใจสนับสนุน
รวมถึงสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มกำลัง เพราะไมซ์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างมาก
หลังจากเคยเข้าร่วมประชุมกับนานาชาติ ไทยมีโอกาสสูงมากที่ “ไทย” เป็นผู้นำตลาดไมซ์
มาใช้เป็นสถานที่ดำเนินกรรมต่าง ๆ เหล่านั้น คนมาครั้งละนับพันและหมื่นคน
จึงขอให้มั่นใจรัฐบาลทำมาจนถึงวันนี้ก็เพื่อทำให้ไทยมีความพร้อมด้านสาธารณสุข
สามารถเรียกได้ว่าปลอดเชื้อ สะอาด หากมีผู้เจ็บป่วย ดูแลรักษาให้หายอยู่อย่างสุขสบาย
ไม่ใช่อยู่แบบต่างชาติ
เห็นได้จากช่วงเกิดโควิดใหม่มีต่างชาติป่วย
20-30 คน
เราก็ดูแลรักษาเสมือนเป็นคนไทยคนหนึ่ง ให้ความสะดวกสบาย
ปรากฎว่าคนเหล่านี้เป็นชาวจีนที่ได้รับการดูแลรักษาจนหายกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ทำให้ประเทศจีนซึ้งใจเรื่องมิตรไมตรีของคนไทย หลังจากนั้นพอเกิดการระบาดมาก ๆ
ในไทย เช่น สนามมวย ผับบาร์ ไทยได้รับการสนับสนุนเวชภัณฑ์ยาจากจีนเป็นจำนวน
ทำให้พี่น้องคนไทยที่เข้ามารับการรักษาหาย
มีส่วนน้อยมากที่เสียชีวิตจากโรคประจำตัวอื่นๆ
ฉนั้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดอีกทั้งผมได้พบฑูตานุทูตประเทศต่าง ๆ พอทักทายกันคนของประเทศเขาอยากออกมาเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับแรก
จึงขอให้ผู้ประกอบการเตรียมรับมือให้ดี เพื่อไม่ให้เสียโอกาสอย่างมหาศาลนี้ไป
ผมเคยดำเนินธุรกิจมาก่อน
ต้องวางแผนล่วงหน้า รับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เพราะสิ่งที่สูญเสียไปเมื่อหลายเดือนก่อนจะไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน
แต่จะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่จะออกมารับสถานการณ์ New Normal เพราะตอนนี้คนจากทั่วโลกยอมรับมาตรฐานด้านสาธารณสุขของไทย
ที่จะได้รับความสะดวกสบาย ด้วยสัญชาติของนักธุรกิจเช่นผม เราจะมีความมั่นคง
เจริญก้าวหน้า ธุรกิจที่จะหลั่งไหลเข้าไทยชนิดหัวบันไดไม่แห้ง
หากแขกมาเยือนแล้วเราต้อนรับเขาไม่ได้เขาก็จะไปที่อื่น
ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
ขอให้ความมั่นใจกับผู้ที่ร่วมประชุมว่า
นายกรัฐมนตรีไม่ได้สบายใจกับสภาพการที่เกิดขึ้นกับประเทศ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาทุกวินาทีกอบกู้สิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาหลายเท่า
ขอให้มั่นใจรัฐบาลจะสนับสนุนพวกท่าน ทำให้มีผู้คนมากมายมาอุดหนุนพวกท่าน
หากมีเรื่องติดขัดประการใดขอให้ทำเรื่องชี้แจงมา
ทางเราจะได้ช่วยแก้ไขเพื่อให้กลับมาทำธุรกิจ
คำถาม-คำตอบ จากตัวแทนผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศ
กับรองนายกฯ อนุทิน
“นางละเอียด บุ้งสีทอง” นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่
ถามว่า - ทางกระทรวงมีนโยบายกระตุ้นการสัมมนาในประเทศจะเริ่มเมื่อไร
รองนายกฯ อนุทิน ตอบว่า วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563 ทางนายกรัฐมนตรี ผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น
เพราะวันนี้คงไม่มีใครบ้าจี้ออกไปประชุมต่างประเทศ
เพราะไม่ได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่จะทำคือประชุมในประเทศ
องคาพายพของหน่วยงานราชการอยากไปเที่ยว
ผมจึงมีความเชื่อว่าหากเราใช้เงินบาทอุดหนุนทั่วไทยก็คงไม่เสียดาย
ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้อานิสงกันถ้วนหน้า หากสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ พรบ.ฉุกเฉินลดความเข้มข้น
เปิดทางให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ได้
“ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์” นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่
จังหวัดนครราชสีมา
ถามว่า - การสร้างความเชื่อมั่นเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวและไมซ์
ในการนำงานขนาดใหญ่ลงพื้นที่
รองนายกอนุทิน ตอบว่า - พร้อมสนับสนุนหน่วยราชการจัดกลุ่มไปท่องเที่ยว
ประชุม สัมมนา ทั่วทุกแห่งในประเทศ และมั่นใจบริษัทธุรกิจเอกชนก็จะใช้แนวนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยรัฐบาลมีมาตรการทางภาษีสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อร่วมทำให้คนออกมาใช้จ่ายเงินอุดหนุนคนไทยด้วยกัน
โดยยืนยันผมไม่ชอบเลยพอถึงวันหยุดคนไทยต้องไปฮ็อกไกโด ฮ่องกง เป็นการฟุ่มเฟือย
ผมชอบจะตายที่จะไปโฮมสเตย์ ไปอยู่เมืองรอง ไปท้องนา
พอเช้ามาคุณลุงคุณป้าพาไปใส่บาตร อาบน้ำวัวควาย ไปทำขวัญนาค มันมีความสุขมาก
และคำว่า New Normal คือความสุขคืนสู่สามัญ
โดยเฉพาะนายกสมาคมอยู่เขาใหญ่อยู่แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อนผมไปเขาใหญ่เห็น พรีเมียมเอาท์เล็ต
มอลล์ต่าง ๆ คนเต็มไปหมด เห็นทุกคนใส่หน้ากากอนามัยเดินทางท่องเที่ยว
ผมไม่เคยคิดจะไปพักผ่อนต่างประเทศเลย 1.ไปไม่ได้อยู่แล้ว
2.ถ้าเราเอนจอยขับรถไปต่างจากสมัยก่อนผมขับเครื่องบินไป
ผมเป็นคนสเป็กสูง ตอนนี้ก็หันมาขับรถเที่ยว หากเราเดินทางสนุก
ก็ต้องช่วยเพื่อนร่วมชาติกันไว้ก่อน ทำให้เกิดวงจรธุรกิจได้ เที่ยวเมืองหลัก
เมืองรอง ใช้ชีวิตสมถะ มีระดับ มีคลาส สร้างค่านิยมนี้ขึ้นมาก็สามารถไปต่อได้
“นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม”
นายกสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต ถามว่า
- อยากวิงวอนให้ภูเก็ตเปิดสนามบินนานาชาติ
และพอเข้าถึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศนั้นมีโอกาสมากน้อยขนาดไหนที่จะทำ Test
On Arrival เหมือนไอส์แลนด์
รองนายกฯ
อนุทิน ตอบว่า - ผมได้ตอบไปแล้วถึงการจับคู่ paring คงหนีไม่พ้นจีน ทำแล้วกำไรมหาศาล
เพราะชาวจีนมีจำนวนนับพันล้านคน วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563 จะนำเสนอที่ประชุม ศบค.เปิดสนามบินภูเก็ตซึ่งอยู่ในกระบวนการแล้ว
ส่วนผู้ประกอบการต้องถือหลักมาตรฐานความปลอดภัยไว้ด้วย ต้องแนะนำให้ทุกคน สวมหน้ากากอนามัย
ลดการติดเชื้อให้ผู้ป่วยเหลือจำนวนไม่มาก มั่นใจภูเก็ตมีความพร้อม
แล้วใช้โอกาสนี้ทำให้พื้นที่สะอาด เพราะปัจจุบันแทบไม่มี PM 2.5 หาดสะอาด และเมื่อเปิดอิสระได้แล้วจะต้องคิดทำอย่างไรรักษาความสะอาดสวยงามนี้ไว้
“ผู้เข้าร่วมสัมมนา”
ตั้งคำถามกับคุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม TCEB ถึงบทบาทของทีเส็บที่จะพัฒนาไมซ์ในระยะยาว
รองผอ.ศุภวรรณ ตอบว่า -ตามปกติ
TCEB จะไปนำงานจากต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทย
ในระยะยาวเมื่อทั่วโลกเปิดก็จะมุ่งให้แต่ละงานเข้ามาจัดอย่างมีคุณภาพ
โดยกระจายการจัดงานไปยังหัวเมืองเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาค ขณะนี้ได้เตรียมเมืองต่าง ๆ
ไว้พร้อมแล้วการขยายสู่ 5 ไมซ์ ซิตี้
สธ.ย้ำ12มิ.ย.ไมซ์รอข่าวดีศบค.ปลดล็อกประชุมพันคน
นายแพทย์จักรวัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข
(สธ.) กล่าวว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าทำมาตรการสร้างความปลอดภัยไร้โควิด
ตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิดแพร่ระบาด โดยทำหน้าที่ เฝ้าระวัง สอบสวน
โรคติดต่อ ไม่ติดต่อ สิ่งแวดล้อม ในส่วนอุตสาหกรรมไมซ์เองอาจได้รับผลกระทบพอสมควร
แต่ขณะนี้รัฐเองเริ่มผ่อนคลายในช่วงจังหวะคนไทยเริ่มไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว
ตามหลักการกรมควบคุมโรคมีส่วนร่วมทำข้อเสนอ
ดังต่อไปนี้
ส่วนแรก มาตรการควบคุมดูแล 1.ผ่อนคลาย วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน นี้ จะเสนอ ศบค.ผ่อนคลายต่อเนื่องเฟสที่สี่
2.ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
3.ความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
ส่วนที่สอง ความพร้อม 1.ผู้ประกอบการ พร้อมจะปรับตัวด้านใด 2.ผู้ใช้บริการ(ลูกค้า) พร้อมเข้าไปใช้อย่างปลอดภัย
ลดการแพร่เชื้อ 3.ภาครัฐหน่วยงานกำกับดูแล
ซึ่งทางทีเส็บกระตือรือร้น เตรียมมาตรการจัดระเบียบ ส่วนที่สาม กิจการ ขนาดเล็ก
ขยายไปยังขนาดกลาง ขนาดใหญ่ หากมีความเสี่ยงสูงจะพิจารณาทีหลัง
กลุ่มที่ 1 ผ่อนคลายทันที กลุ่ม 2 ผ่อนคลายและแนวทางปฏิบัติ กลุ่มที่ 3 มีแนวทางและต้องทำสำรวจ กลุ่มที่ 4 ก่อนจะเปิดต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น
ตามหลักการแล้วทาง สธ.อยากให้โรงแรม
สถานที่จัดประชุม ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 5 ข้อ
คือ 1.ทำความสะอาด 2.ให้ผู้เข้าไปใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย 3.มีจุดบริการแอลกอฮอล์ เจลทำความสะอาดมือ 4.เว้นระยะห่างทางสังคม 1 เมตรขึ้นไป 5.การลดความแออัด ซึ่ง 2 ข้อหลังช่วงเปิดระยะแรก ๆ อาจจะมีปัญหาพอสมควร
สำหรับการจัดแสดงสินค้าและสัมมนา
หลักเตรียมความพร้อมหากต้องจัดประชุม 50-200 คน/ครั้ง
ทางโรงแรมต้องประเมินก่อนว่าจะต้องปลอดภัยกับทุกคนที่เข้าร่วมประชุม แล้วต้องใช้คู่มือเป็นมาตรฐานหลัก
โดยให้โรงแรมลงทะเบียนก่อนทุกครั้ง เพิ่มมาตรการเสริม การเช็คอิน-เช็คเอาท์ เพราะจะเป็นหลักฐานการสอบสวนได้อย่างทันท่วงที
การลงทะเบียนก็มี 2 ส่วน คือ เจ้าของสถานที่ กับ ผู้จัดแสดงสินค้า
แต่ละครั้ง จะต้องมีกระบวนการทำให้เกิดความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อได้
พร้อมทั้งมีมาตรการเสริมคือ การคัดกรองอาการป่วย อาการไอ น้ำมูกไหล
หากเป็นกิจการที่มีคนเข้ามาใช้จำนวนมาก จะต้องมีหน่วยพยาบาล ซักประวัติเพิ่มเติม
หากป่วยต้องซักเพิ่มอีก 3-4 ข้อ
เคยเดินทางต่างประเทศ สัมผัสคนที่สงสัยเป็นโควิดหรือไม่ คัดกรองแล้วนำส่งโรงพยาบาล
นางศุภวรรณ ตอบเสริมว่า ทีเส็บได้นำแนวทางมาตรการของรัฐ
ทำความร่วมมือด้าน สร้างความเข้าใจ จัดทำคู่มือ ในองค์กรไม่เกิน 200 คน กับจัดแสดงสินค้าไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร
ขณะนี้การเตรียมความพร้อมของผู้จัดและสถานที่จัดงาน ทุกฝ่ายได้ช่วยกันทำคู่มือด้านสุขอนามัยความสะอาด
หรือ hygine
ทำคู่มือการประชุม ก่อนเข้างาน
การเตรียมสถานที่ สามารถแท็กประวัติคนเข้าร่วมงาน ระยะห่างการนั่ง
สวมหน้ากากอนามัย หรือแม้แต่งานแสดงสินค้ามีความซับซ้อน
ตั้งแต่เซ็ตอัพนำอุปกรณ์เข้าไป จึงต้องเตรียมตั้งแต่ก่อนเข้างาน ผ่านศูนย์ประชุม
มีระบบคัดกรองในสถานที่ พอมาถึงงานต้องเริ่มคัดกรองใหม่อีกรอบ
ตอนนี้สถานที่จัดประชุมต่าง
ๆ ผ่านการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดประชุมระดับประเทศ (Thailand MICE Venue
Standard) ได้แก่ ห้องประชุม 397 แห่ง 1,083 ห้อง จัดนิทรรศการแสดง 29 ฮอลล์ 25 แห่ง
สถานที่จัดประชุมอีเวนต์พิเศษ 31 แห่ง ล่าสุดศูนย์ประชุมแสดงสินค้าอิมแพ็คเมืองทองธานี
จังหวัดนนทบุรี ได้เตรียมความพร้อมให้ตรวจสอบเพราะจะเริ่มเปิดสถานที่รองรับการจัดประชุมแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
นายแพทย์จักรรัฐ
เพิ่มเติมคือแอพลิเคชั่น นอกจากจะคัดกรองแล้ว
ยังผนวกการโปรโมชั่นควบคู่กันไปได้ด้วย
เป็นการสร้างวิถีใหม่ในการเข้าชมบูธแต่ละครั้ง
ผู้เข้าร่วมสัมมนาตั้งคำถามนายแพทย์จักรรัฐ
ดังนี้
1.ความกังวลการแพร่ระบาดจากชาวต่างชาติ
มีสัญญาณจากกรมควบคุมโรคถึงเรื่องการเปิดประเทศเพื่อรับชาวต่างชาติอย่างไร
นายแพทย์จักรรัฐตอบว่า - อันดับแรกคือการเลือกประเทศคู่ค้าที่มีระบบป้องกันโรคมีจำนวนผู้ป่วยน้อย
เช่น ไต้หวัน และมีครบการปฏิบัติครบทั้ง 5 มาตรการ
ซึ่งจะเป็นกลุ่มประเทศที่มีโอกาสเข้ามาเมืองไทย
แต่ทั้งหมดต้องอาศัยการบริหารจัดการผ่านแดนทำงานร่วมกัน
รวมถึงต้องพิจารณาจากประเทศที่มีความเสี่ยงภายในประเทศนั้นถึงการติดเชื้อ เช่น
ญี่ปุ่น เริ่มมีการทำ Bubble หรือจับคู่ประเทศกันบ้างแล้ว
ส่วนการจัดไมซ์ต้องรอดูอีกสักระยะ
2-3 เดือน จะต้องมีตัวอย่างหรือโมเดลที่จะต้องทำ
อันดับแรก เมื่อต่างชาติเข้ามาเพื่อป้องกันเป็นภาระ ต้องมีประกันสุขภาพ วันศุกร์ที่
12 มิถุนายน นี้
ทาง ศบค.จะประชุมผ่อนคลายเฟส 4 ทาง
สธ.เสนอเรื่องไมซ์ต้องรอฟังข่าวดี ในฐานะไมซ์เป็นตัวแทนสำคัญผลักดันการเข้าสู่ New
Normal อาจจะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดบูธให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
แล้วขยายการจัดประชุมเป็นจำนวนหลัก 1,000 คนขึ้นไปได้
2.จะทำอย่างไรเพื่อจำกัดความเสี่ยงที่จะเกิดในระลอกที่สอง
นายแพทย์จักรรัฐ ตอบว่า - มีหลายทวีปทั้งอเมริกา ยุโรป มีเสรีภาพสูง
จึงใช้วิธียอมรับการสูญเสียชีวิตค่อนข้างสูงมาก
แต่ไทยเป็นเอเชียใช้หลักซีลประเทศลดความเสี่ยง โดยนำเข้าห้องความดันหากเกิน 100
คนขึ้นไป การรักษาพยาบาลค่อนข้างยาก
ตามหลักการจึงต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ทางสาธารณสุขจึง 1.เตรียมห้องปฎิบัติการไว้เพิ่มขึ้น 2.ต้องให้ความมั่นใจแก่ผู้จัดการ การคัดกรอง
ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยให้มากขึ้น ตรวจมาแล้วกว่า 10,000
คน มั่นใจเราซีลได้ดี ส่วนการจำกัดความเสี่ยง
มี 3 ส่วน คือ
ผู้ประกอบการ-ผู้ใช้บริการ-ภาครัฐ ส่วนที่ 4 New Normal รอคิวเข้าชมสินค้าเป็นรอบ
โดยลงทะเบียนล่วงหน้ามาแล้วเข้างานได้ตามรอบ เจรจาธุรกิจเสร็จแล้วก็รีบกลับไป
ทั้งนี้ผู้ประกอบการ-จะต้องทำหน้าที่คัดกรองผู้เข้าร่วมงานอย่างดี
ส่วนผู้ใช้บริการ ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยกันทั้งประเทศ ภาครัฐ
การควบคุมป้องกันก็ทำได้อย่างเข้มแข็ง ทุกวันนี้เราได้รับคำชื่นชมที่คนไทยทั้งประเทศให้ความร่วมมือจนผู้ป่วยเป็น
0 สามารถนำจุดเด่นดังกล่าวไปบอกทั่วโลกว่าไทยทำได้ดี
ทางกรมควบคุมโรคจะใช้ช่วง 3 เดือนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนข้อจำกัดข้อสุดท้าย การประชุม
สัมมนา ในประเทศ หน่วยราชการเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้รายได้โรงแรมและอื่น ๆ ฟื้นตัว
เพื่อลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ จะต้องเพิ่มประเด็นดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563
3.ตอนนี้การเปิดกิจกรรมเมื่อคนเข้าไปร่วมงาน
สแกนแอพลิเคชั่น ไทยชนะ/หมอชนะ 1.สถานที่จัดงานสแกนคัดกรองขั้นต้น
2.ผู้จัดงานต้องบริหารจัดการไทยชนะด้วย
เพื่อช่วยหากกรณีเกิดปัญหากับผู้เข้าร่วมงาน ในการสืบค้น
เพื่อป้องกันและควบคุมทุกอย่างไม่ให้ไมซ์กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
TCEBปลุกสมาร์ตไมซ์ขานรับตลาดวิถีใหม่ครึ่งปีหลัง
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า TCEB วางแผนรองรับสถานการณ์โควิด-19 แบ่งเป็น 3 เฟส โดยมีเฟสการตอบสนองเยียวยา
ตั้งศูนย์ข้อมูลไมซ์เป็นแห่งเดียวอัพเดทข้อมูลสาธารณสุข ตามแนวปฏิบัติ 2 แนวทาง คือ ใช้เทคโนโลยี face to face
online ปรับเพิ่มทักษะด้วย
e-learning
และมาตรฐานความปลอดภัยสุขอนามัย ทำโครงการ “ประชุมปลอดภัย ไร้โควิด” สนับสนุนเงินงบประมาณเอกชนไมซ์
30,000 บาท/ราย รวมถึงทำงานร่วม
สวทช.DEPA
เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา และ ร่วมกับ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข
จัดทำคู่มือปฏิบัติ ถึงแม้งานจะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ก็พยายามกระจายไปยังไมซ์
ซิตี้ 5 แห่ง
สถานการณ์ขณะนี้ ทีเส็บ ภาคเอกชน ภาครัฐ
ประมวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจหายไปจากอุตสาหกรรมไมซ์พอสมควร
หากวงจรการผ่อนปรนกลับมาเร็วธุรกิจก็จะฟื้นตัวได้เร็ว เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการ
สถานที่จัดประชุมทั่วประเทศเองก็พร้อมจัดงาน
ในวิกฤตครั้งไมซ์ยังคงมีโอกาสทางธุรกิจเหลืออยู่
ตามคาดการณ์หากเปิดล็อกดาวน์ได้ตั้งแต่พฤษภาคม 2563-ต้นปี 2564 มีงานจัดประชุมรออยู่กว่า 1,000 งาน จากการสอบถามโรงแรม ศูนย์ประชุม ซึ่งเลื่อนจัดแล้วเริ่มกลับมาจองใหม่
จำนนงานมากที่สุดคือ การจัดประชุม แสดงสินค้า จัดอีเวนต์
ดังนั้นการพัฒนาไมซ์วิถีใหม่ New Normal จึงขอกล่าวถึงเรื่อง 1.Smart Mice ทั้งดิจิทัล แอพลิเคชั่น กับนวัตกรรมใหม่ ๆ ช่วงต่างชาติเดินทางเข้าไม่ได้ หรือคนไทยยังเดินทางได้ไม่มาก 2.ไมซ์ถูกสุขอนามัยและมาตรฐานสร้างความมั่นใจให้คนมาใช้บริการ 3.Content Economy ต้องเน้นการสร้างประสบการณ์ชุมชนท้องถิ่น การได้รับผ่อนปรนจัดงานในพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร เร็ว ๆ นี้ไมซ์จะได้รับการผ่อนปรนเต็มรูปแบบ 4.การนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมสร้างศักยภาพไมซ์
ส่วนการทำ “ตลาดต่างประเทศ” ไทยพร้อมแต่ต่างชาติอาจจะยังไม่พร้อม แต่ทีเส็บได้ทำกิจกรรมต่อเนื่องเพราะคู่แข่งอาเซียน เอเชีย ก็พยายามช่วงชิงกันอย่างมาก จึงวางแผนจะทำโร้ดโชว์คิดทำแคมเปญไว้แล้ว
ทางด้าน“ตลาดในประเทศ”
จัดงานกระตุ้น มาตรฐานสถานที่ และผู้ประกอบการ อยู่อย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การเจาะตลาดไทยช่วยไทย โดยทำแคมเปญโครงการ “ไมซ์ทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ”
จะเริ่มตั้งแต่กรกฎาคม 2563 กลับมาเปิดตัวโครงการ
“ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” รณรงค์ทั่วประเทศทั้งภาครัฐ เอกชน
ลุกขึ้นมาจัดประชุม ดูงาน ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยทีเส็บจะให้เงินสนับสนุนผ่านช่องทาง
โรงแรม DMC อัดฉีดในภูมิภาคกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
เกษตร อาหาร เพื่อให้คนเข้าไปดูงาน
โดยเฉพาะงานแสดงสินค้ากระจายทั่วทุกภูมิภาค
การจัดประชุมอย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อให้นำมาตรฐานของกรมอนามัยไปใช้
เดิมแคมเปญนี้จะจบเดือนมิถุนายนนี้ แต่กำลังต่ออายุออกไป แล้วตอนนี้ก็ทำงานร่วมกับทางสถาบันการศึกษา144
แห่ง ร่วมทำงาน Job Fair หางานและสถานที่ฝึกงานให้นักศึกษาจบใหม่มีโอกาสเข้ามาเลือกงานตามต้องการ
สำหรับสถิติที่
TCEB นำทีมสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์เข้าประเทศ
ตลอดปี 2562 มูลค่ารวม 210,000
ล้านบาท สร้างผลลัพธ์ในระบบเศรษฐกิจ
(economic impact) 559,840
ล้านบาท (ไมซ์ในประเทศ 279,330 ล้านบาท ไมซ์ต่างประเทศ 280,510 ล้านบาท) คิดเป็น 3.27 % ของจีดีพีประเทศ จ้างงาน 321,918 อัตรา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น