ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทอท.ถอดรหัสแผนเดินหน้าธุรกิจ6สนามบินหลังโควิด-ลุยทำS-CURV2ปูพรมรายได้Non Aero

บิ๊กทอท.ถอดรหัสแผนเดินหน้าธุรกิจ6สนามบินอินเตอร์หลังโควิด

ส่งสัญญาณฟื้นตัวปี’66ลุยทำS-CURV2ปูพรมเพิ่มรายได้Non Aero

“คิงเพาเวอร์”ทั่วกรุงได้ใบรับรองมาตรฐานปลอดภัยสัญลักษณ์SHA

“คิงเพาเวอร์”แจกสิทธิพิเศษFreeTrail 5%ช้อปครบเป็นสมาชิกทันที

ผู้นำททท.ย้ำโปรเจ็กต์3แพกเกจท่องเที่ยวไทยเพิ่มสิทธิ์”เที่ยวปันสุข”

ททท.ขอนแก่นหนุนเอกชนเปิดเวทีจัดใหญ่4CEOVirtualTalk27มิ.ย.

ททท.ผนึกพัทยาขาย"TAT Hot Deal@Pattaya Chonburi"ลด50%

บางจากปั้นE20 S EVOบุกชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำมันคุณภาพแห่งอนาคต

มูลนิธิปิดทองฯรับซื้อทุเรียนคุณภาพ3จังหวัดแดนใต้วันแรกเฉียดล้าน

เที่ยวไทยต้องรีบไปราชบุรีลุยชมตลาดกินอาหารถิ่นลุคใหม่ในร้านเก๋ๆ

4อภิมหาเศรษฐีเมืองไทยรวมตัวเปิดเมกะโปรเจ็กต์เมืองการบินEEC

โรงแรมเคพีแกรนด์จันทบุรีอัดโปรแรงห้องพักหลังโควิด650บาท/คืน

 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  

 

            ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 

ช่วงที่ 1 เจาะลึก “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ”กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” แก้โจทย์ยากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ธุรกิจสนามบินจะขับเคลื่อนอย่างไร มาตรการ “เยียวยา” คู่สัญญารายเล็ก-รายใหญ่ 3 เฟส “จัดเก็บส่วนแบ่งรายได้ตามจริง-ยืดหนี้” เรื่อยไปจนถึงทางเลือกให้คู่ค้าบอกเลิกสัญญาได้ถ้ากิจการไปไม่ไหวจริง ๆ ส่วน ทอท.ชี้ผู้โดยสารและรายได้จะฟื้นตัวต้องรอหลังปี’65 จึงขอลุยใช้หมัดเด็ดลงทุน S-CURV 2 “เพิ่มรายได้อนาคต” จากการสร้างธุรกิจ Non Aero 3 โครงการ “Cargo Certify Hub-เมืองการบิน-ดิจิทัล แพลตฟอร์ม” เปิดในจังหวะอีก 3 ปีหน้าสถานการณ์การบินของไทยและทั่วโลกฟื้นตัวพอดี

 

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า วิกฤตสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หนักหนา ก่อนเกิดไวรัสระบาดตามปีงบประมาณ 2562 ระหว่าง 1 ตุลาคม 2561-30 กันยายน 2562 สนามบินของ ทอท.มีผู้โดยสารรวมปีละ 142 ล้านคน ต่อมาในปีงบประมาณ 2563 ระหว่าง 1 ตุลาคม 2562 -30 กันยายน 2563 ระหว่างระยะ 4 เดือนแรก ตุลาคม 2562-มกราคม 2563 ทำรายได้โกยเงินไว้เป็นจำนวนมาก เป็นฤดูการเดินทางตั้งแต่ตุลาคม ต่อด้วย คริสต์มาส ปีใหม่ ตรุษจีน แล้วจึงมาเกิดไวรัสโควิดระบาดตั้งแต่ปลายมกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน แล้วก็ยังเหลือเวลาจะจบปีงบประมาณอีก เดือน กรกฎาคม-กันยายน นี้

 

โดยภาพรวมตลอดปีงบประมาณ 2563 ยืนยัน ผลการดำเนินงานของ ทอท.จะไม่ขาดทุน เพราะโกยเงินไว้จำนวนมากช่วงการเดินทางหนาแน่น 4 เดือนแรก ซึ่งสามารถหล่อเลี้ยงกิจการได้ตลอดทั้งปีช่วงที่เหลือ 8 เดือนหลัง แต่จำนวนผู้โดยสารรวมก็จะเหลือประมาณ 69 ล้านคน (จากปี 2562 ทำไว้ 142 ล้านคน) ลดลงไปจากปีก่อนวิกฤตกว่า 51 %

 

ส่วนปีงบประมาณ 2564 สถานการณ์แนวโน้มจะแย่ลงกว่าปี 2563 ปัจจัยหลักที่จะต้องลุ้นต่อไปคือ “วัคซีนป้องกันโรคระบาดไวรัสโควิด-19” หากช่วง 4 เดือนนี้มีความชัดเจน ประมาณการณ์กิจการสนามบินของ ทอท.ต่างกันแบบหน้ามือกับหลังมือ เพราะถ้ามีวัคซีนออกมาไม่ทันช่วงฤดูการเดินทางหนาแน่น (peak season) ระหว่างตุลาคม 2563-กุมภาพันธ์ 2564 สถานการณ์ธุรกิจสนามบินก็จะหนักแล้วแต่สภาพความเป็นจริง

 

จากนั้นปี 2565 ประเมินผู้โดยสารจะเริ่มกลับมาแต่ยังคงติดลบ 23 % (ใช้ฐานสถิติปี 2562) แล้วจะเริ่มฟื้นตัวได้ตุลาคม 2565 ดังนั้นวิกฤตจากไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ ทอท.ประมาณ 2-3 ปี

 

สำหรับการผันแปรของ “รายได้” จะลดลงสัดส่วนเปอร์เซนต์มากว่าเล็กน้อย เพราะรายได้จาก “ผู้โดยสารในประเทศ” (domestic) เก็บค่าภาษีสนามบิน (Passenger Service Charge :PSC)  100 บาท/คน ผู้โดยสารต่างประเทศ  (international) 700 บาท/คน ผลจากผู้โดยสารระหว่างประเทศหายไปต่ำสุดเมื่อเดือนเมษายน 2563 มีเพียง 2,500 คน/วัน เมื่อรัฐบาลเปิดล็อกดาวน์ให้บินในประเทศได้ทั้ง 6 สนามบิน เพิ่งจะมีผู้โดยสารกลับมาใช้บริการรวม 40,000 คนเศษ/วัน (ในประเทศ 38,000 คน จากต่างประเทศ1,500-2,000คน) ไกลจากเดิมที่เคยทำได้ 400,000 คน/วัน

ฉนั้น “ผู้โดยสาร” กับ “รายได้” เหตุการณ์ครั้งนี้รายได้ที่หายไปคือผู้โดยสารระหว่างประเทศซึ่งเคยได้ค่า PSC 700 บาท/คน แต่พอเริ่มฟื้นตัวรายได้หลักมาจากผู้โดยสารในประเทศคือ 100 บาท/คน แต่พอได้รายได้เชิงพาณิชย์มาบรรเทาได้

 

ดร.นิตินัยกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการภายในสนามบินของ ทอท.แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

 

1.ธุรกิจที่เกี่ยวกับการบิน (Aero) ดูแลเรื่องการนำเครื่องบินขึ้น-ลง (landing) หลุมจอด (parking) ถ้าสายการบินใดไม่บินก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายจอดฟรี ส่วนสายการบินที่เปิดบริการบินก็เก็บ 50 % และยืดหนี้สินให้ไปเริ่มกลับมาจ่ายหลังธันวาคมนี้เป็นต้นไป และลดค่าเช่าอื่น ๆ

 

2.รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (Non Aero) แบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่

 

ช่วงที่ 1 กว่าผู้โดยสารจะกลับมาปกติเดือนตุลาคม 2565 ดังนั้นสิ้นมีนาคม 2565 จะไม่เก็บ Minimum Qaurantee จากส่วนแบ่งรายได้ แต่จะเก็บตามจริง คือมียอดขายเท่าไรก็แบ่ง ทอท.15-20 % บางสัญญาที่ทำกับผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง นาย ก.ไก่ ที่ชนะประมูลขายได้ 100 บาท ก็แบ่ง ทอท.20 บาท แบ่งกันตามหลัก Revenue Sharing ต่างจากกรณี Minimum Qaurantee คือไม่ว่าคู่สัญญาจะค้าขายได้เท่าไรก็ไม่สนใจ ทอท.จะขอเก็บตามข้อตกลงสัญญา แต่เมื่อเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 จึงเลือกใช้ขายได้มากก็แบ่งมากขายได้น้อยก็แบ่งน้อยตามสภาพความเป็นจริง โดยจะใช้วิธีดังกล่าวไปถึง 31 มีนาคม 2565

 

ช่วงที่ 2 จะเริ่มเก็บตาม Minimum Qaurantee ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ทอท.จะกลับมาเก็บส่วนแบ่งรายได้จากคู่สัญญาตามปกติอัตราเดียวกับปีก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ทั้ง ๆ ที่ผู้โดยสารยังกลับมาไม่เท่าเดิม

 

ช่วงที่ 3 ปรับขึ้น Minimum Qaurantee ตามการเติบโตของผู้โดยสารและเงินเฟ้อแต่ละปี หรือ Back to the Gain เพราะสถานการณ์ปัจจุบันทุกอย่าง Back to Zero เพราะฉนั้นช่วงเวลาที่ยังอยู่ในช่วงธุรกิจต่าง ๆ ในสนามบินต้องปรับตัวจากก้นเหวถึงปากเหว จึงต้องใช้วิธีใครปีนขึ้นมาได้เยอะก็เก็บเยอะ ใครปีนได้น้อยก็เก็บน้อย เก็บรายได้ตามสภาพจริง ทอท.จะไม่ซ้ำเติมผู้ประกอบการ แต่พอปี 2565 เป็นต้นไป จึงจะเริ่มเก็บตามเงื่อนไขปกติไปจนกว่าจะครบสัญญา

 

ดร.นิตินัยกล่าวว่าการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างผู้ชนะสัมปทานดิวตี้ฟรี นั้น ทอท.ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์คือ สามารถบอกเลิกสัญญากับ ทอท.ได้ล่วงหน้า แบ่งเป็น “ผู้ประกอบการรายเล็ก” แจ้ง ทอท.ล่วงหน้า 45 วัน “ผู้ประกอบการรายใหญ่” แจ้ง ทอท.ล่วงหน้า 90 วัน เปรียบเทียบแล้วคล้ายคลึงกับการเช่าหอพักจะต้องบอกกันล่วงหน้า ซึ่งระยะเวลา 45-90 วันนั้น ก็เพื่อให้ ทอท.ไปหาผู้ประกอบการรายใหม่มาใส่พื้นที่เดิมที่คู่สัญญาหายไป

 

สำหรับ “ผู้ประกอบการรายใหญ่” พอถึงสิ้นปีนี้แล้วนักท่องเที่ยวจีนก็ยังไม่เดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย แล้วจะ “จ่ายค่าเช่า” โดยไม่มีความหวังหรือจะขอพักธุรกิจไว้ก่อน เพื่อรอการกลับมาของลูกค้า ถ้าหากผู้ประกอบการคิดอย่างเราคือพักการดำเนินธุรกิจไว้ก่อนแล้วกลับมาทำใหม่ทีหลัง ผมเองก็คิดเหมือนกันว่า เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวก็ขอยกเลิกก่อนดีไหม เมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาจึงค่อยเข้าพื้นที่มาประกอบการใหม่

 

ไม่ว่าผู้ประกอบการรายเล็กหรือรายใหญ่ก็คิดแบบเดียวกันนี้เหมือนกัน เพราะผู้ประกอบการพอมองออกกว่าตลาดต่างประเทศจะกลับมายังต้องรออีกหลายเดือน จึงทำให้ ทอท.ต้องออกมาบอกว่า เมื่อขายไม่ได้หรือขายได้เท่าไรก็แบ่งรายได้เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการก็จะยกเลิกกันหมด ก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการทำหนังสือขอยกเลิกมาพอสมควร ทาง ทอท.เองมองว่าหากโควิดจบลงจะนำร้านค้ามาใส่ตามพื้นที่ทันได้อย่างไร จึงต้องรักษาผู้ประกอบการรายเล็ก รายใหญ่ โดยใช้มาตราการช่วยเหลือ เยียวยา อย่างไร

 

สำหรับเรื่องของ “คิง เพาเวอร์” หรือรายอื่น ๆ ทอท.ก็แล้วแต่การตัดสินใจของเขา เพราะหากคู่สัญญาดีดลูกคิดแล้วไม่คุ้ม อย่างกรณีคิงเพาเวอร์เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ตามระเบียบที่มีรองรับคือ ก็ต้องทำบอกเลิกสัญญากับ ทอท.ล่วงหน้า 90 วัน แล้วจากนั้น ทอท.ก็เปิดประมูลใหม่ ซึ่งครั้งที่แล้วเสนอ “ผลตอบแทนรายได้” ไว้ห่างจากคู่แข่งที่เข้าร่วมประมูลห่างกัน 1 เท่า แต่ถ้าเป็นช่วงนี้หากจะต้องประมูลใหม่ ทอท.ก็หนักใจ

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์องค์กร ทอท.เป็นหลักไว้ 1.ประมูลใหม่ผู้ที่สนใจจะใส่ซองเสนอผลตอบแทนเท่าเดิมหรือไม่ 2.ในภาวะขณะนี้จะได้ราคานั้นหรือเปล่า

 

แต่อย่างไรก็ตามทางเลือกของ “ผู้ประกอบการในสนามบิน ทอท.” ก็มีโอกาสจะบอกเลิกสัญญาตามระเบียบได้ หากคำนวณแล้วไปต่อไม่ได้ เพราะ ทอท.เองก็ไม่อยากไปเดาอะไร ขณะนี้ยังไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เกิดขึ้น

 

ดร.นิตินัยยืนยันว่าระหว่างประคองธุรกิจและพันธมิตรให้อยู่รอดได้ ก่อนหน้านี้เคยมีแผนขยายการลงทุนตามสเต็ปในลักษณะ S-CURV 1-2-3 ตอนนี้เข้าสู่การพัฒนาตามแผน S-CURV ลูกที่ 2 เป็นเรื่อง “เมืองการบิน” กับ “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” เป็นแนวคิดของ ทอท.ก่อนโควิดว่าจะทำมาหากินอย่างไรต่อไป เมื่อขีดความสามารถทางการรองรับผู้โดยสารเต็มแล้ว เดิมปี 2567 โดยก่อนหน้านี้จึงต้องคิดเตรียมแผนตามโจทย์ที่จะต้องแก้ช่วง 5 ปีไว้ คือ ระหว่างปี 2563-2567 ทอท.ควรจะทำอะไรบ้าง

 

คำตอบคือ ช่วง 5 ปีดังกล่าว เข้าสู่ S-CURV 2 คือเดินหน้าทำ 3 โครงการ คือ 1.Cargo Certify Hub ป้องกันสินค้าเน่าเสียโดยการทำมาตรฐานรับรองขนส่งสินค้าทางอากาศ 2.เมืองการบิน :Airport City 3.ดิจิทัล แพลตฟอร์ม โดยได้เปิดตัว AOT Platform เป็นการสร้างรายได้จาก S-CURV ลูกที่2 มาไว้ใช้ค้ำยัน S-CURV ลูกที่ 1 ซึ่งจะจบลงในปี 2562 ผลจาก Slot หรือช่วงเวลาที่จะให้เที่ยวบินขึ้น-ลง เต็มพอดี

 

แต่พอเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทอท.ก็ยังคงทำ S-CURV 2 ต่อไป เพราะใช้เสาเข็มคนละต้นกับ S-CURV 1 โดยผลของโควิดไม่ได้กระทบ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับจำนวนผู้โดยสารมากนัก สถานการณ์อีก 3 ปีข้างหน้า ก็จะมีความต้องการของ “ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น” แต่ในช่วงนี้เมื่อจำนวนผู้โดยสารย้อนหลังกลับไปก็จะเน้นเรื่องมาตรฐานบริการให้ดียิ่งขึ้น ส่วน S-CURV 2 ก็ทำต่อไปเพื่อปูทางสร้างธุรกิจอื่นเข้ามาเพิ่มเพื่อ “หารายได้” จากกิจการที่ไม่ได้มาจากการบินโดยตรงหรือ Non Aero รองรับไว้

 

ดร.นิตินัย ย้ำว่า ประเมินสถานการณ์ปลายปี 2564-2565 ก็จะมีรายได้จาก 3 โครงการ ทยอยเข้ามา เสริมทัพกับตลาดการเดินทางที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกตินั่นเอง

 

ข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ทั่วกรุงได้ใบรับรองมาตรฐานปลอดภัยสัญลักษณ์SHA

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่าขณะนี้สถานประกอบการร้านค้าของ คิง เพาเวอร์ ได้การรับรองในโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing Thailand Safety & Healthy Administration : SHA” ซึ่งเป็นโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบหมายให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดทำตราสัญลักษณ์ใบรับรองมอบให้สถานประกอบการที่ปฏิบัติตามคู่มือด้านความปลอดภัยในสุขอนามัย เพื่อตอกย้ำและสร้างความมั่นใจในความพร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการ

 

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เป็นตัวแทนมอบตราสัญลักษณ์ในโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ให้ธุรกิจในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เพื่อการันตีและร่วมยืนยันถึงมาตรฐานสุขอนามัย ให้สถานประกอบการส่วนหลัก ๆ ได้แก่ 1.ร้านค้าปลอดอากร และศูนย์อาหาร Thai Taste Hub ชั้น 3   คิง เพาเวอร์ รางน้ำ 2.โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ  3.ภัตตราคารรามายณะ 4.มหานคร สกายวอล์ค และห้องอาหารมหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ในอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติ เดินทางเข้าใช้บริการหลังสถานการณ์โควิด-19

 

การได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ครั้งนี้ เนื่องจากสถานประกอบการทุกแห่งข้างต้นใน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ผ่านการพิจารณาจาก 3 องค์ประกอบหลัก ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทั้งทางด้านสุขลักษณะอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในอาคาร การจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค มาตรการของพนักงานผู้ปฏิบัติการมีระบบการป้องกันที่ดี ส่งผลให้โดยภาพรวมสามารถสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวตามวิถีใหม่ ซึ่งเน้นเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยเป็นหัวใจสำคัญของผู้ใช้บริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

“ศิริพร อารยะฐากูร” รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ในฐานะที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก ได้เตรียมพร้อมทุกธุรกิจในเครือเน้นการยกระดับความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างสูงสุดเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการ King Power Care Power สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นธุรกิจท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ ขณะนี้ได้รวมพลังกันยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ส่งเสริมให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ครอบคลุมทุกมิติทั้งด้านสุขอนามัยของพนักงานผู้ให้บริการ ความสะอาดปลอดภัยทุกพื้นที่ การคัดกรองดูแลลูกค้าผู้ใช้บริการ   

 

ทั้งนี้นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท.ให้เกียรติมอบตราสัญลักษณ์ใบรับรอง SHA โดยมี ศิริพร อารยะฐากูร” รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นตัวแทนรับมอบเมื่อเร็ว ๆ นี้

 

                ดังนั้นจึงขอเชิญชวนนักช้อปชาวไทยและต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย เดินทางมาใช้บริการตามสถานประกอบการต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ด้วยความสบายใจพกพาความมั่นใจมาจับจ่ายใช้สอยเงินอย่างคุ้มค่าให้เต็มที่ ทุกแห่งทั้งที่ร้านจำหน่ายสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม โซนไลฟ์สไตล์ และอื่น ๆ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์แจกสิทธิพิเศษFreeTrail 5%ช้อปครบเป็นสมาชิกทันที

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้สิทธิพิเศษเป็น Free Trial 5% ลูกค้าคนไทย ระยะเวลารับสิทธิ์ วันที่ 25 – 30 มิถุนายน 2563 โดยมีกติกาเข้าร่วมแคมเปญดังนี้

 

1.สงวนสิทธิ์ในการให้สถานะสมาชิก Free Trial 5% แก่ผู้ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ หรือหมดสถานะสมาชิกแล้วเท่านั้น

2.รายการส่งเสริมการขายนี้ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่ วันที่ 25 – 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น

3.ส่วนลดสมาชิก Free Trial 5% สามารถใช้ซื้อสินค้า Duty Free และสินค้าป้ายฟ้าได้ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ยกเว้นแผนกสุรา และบุหรี่

4.ลูกค้าที่ลงทะเบียนรับสถานะสมาชิก Free Trial 5% สามารถสะสมยอดซื้อได้ 30 วัน หลังจากวันที่ลงทะเบียน สะสมยอดซื้อครบ 1,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก NAVY (ส่วนลด 5%), สะสมยอดซื้อครบ 6,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก SCARLET (ส่วนลด 10%), สะสมยอดซื้อครบ 60,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก ONYX (ส่วนลด 15%)

 

5.สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ ที่ได้รับจากรายการส่งเสริมการขายนี้ มีอายุสมาชิก 1 ปี

6.นับการสะสมยอดซื้อจากการซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา (ไม่รวมยอดซื้อผ่าน www.kingpower.com)

7.ยอดซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้าแผนกสุรา และบุหรี่ จะไม่นับรวมเป็นยอดสะสมในรายการส่งเสริมการขายนี้

8.รับสถานะเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ ภายใน 5 วันทำการ หลังจากสะสมยอดซื้อตามเงื่อนไข

9.คะแนนกะรัตรีวอร์ดที่เกิดจากการซื้อสินค้าจะถูกนำมาสะสมย้อนหลังเมื่อลูกค้าได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์แล้ว

10.ผู้ที่ได้รับสถานะเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ จากรายการส่งเสริมการขายนี้ จะไม่ได้รับคูปอง ON TOP และ Welcome Package

 

ข่าวที่ 3 ททท.ย้ำโปรเจ็กต์3แพกเกจเที่ยวไทยเพิ่มสิทธิ์เที่ยวปันสุข

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ 3 แพกเกจ คือ เราไปเที่ยวกัน เที่ยวปันสุข กำลังใจ ขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้วโดยธนาคารกรุงไทยเดินหน้าจัดทำแพลตฟอร์มแล้วเสร็จแล้ว 80% เตรียมให้ผู้ที่สนใจได้ลงทะเบียนทั้ง 3 แพ็กเกจ   ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนหารือกับธุรกิจเอกชนเพื่อซ้อมใช้งานก่อน ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ 100% โดยจะต้องรอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มิถุนายน นี้ อนุมัติเปิดโครงการได้วันที่ 1 กรกฎาคม 2563

 

ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาลงทะเบียนตามแผนใหม่จะให้ได้คนละ 2 สิทธิ์ คือตนเองและคนอื่นอีก 1 คน ตามเงื่อนไข ช่วงเวลา วิธีเดินทาง เลือกที่พัก ต้องเหมือนกัน สิทธิ์ที่จะได้รับหากเป็น “เที่ยวปันสุข” ต้องลงทะเบียนในแอพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ส่วนลดห้องพัก 40 % ในราคาห้องไม่เกิน 3,000 บาท/คืน พร้อมโปรโมชั่นเสริมเป็น  E-Vocher อีกคนละ 600 บาท/วัน เพื่อนำไปใช้เรื่องอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมท่องเที่ยว แต่ถ้าใช้ไม่หมดเงินจะคืนเข้าระบบไปไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้

 

ส่วนแพกเกจ “เราไปเที่ยวกัน” รับสิทธิ์เป็นส่วนลดค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน 40 % และแพกเกจ “กำลังใจ” ให้ฟรีแก่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) กับบุคลากรโรงพยาบาลส่วนตำบล (รพ.สต.) จะต้องรอวิธีดดำเนินการที่ชัดเจนอีกครั้ง

 

ข่าวที่ 4 ททท.ผนึกพัทยาขาย"TAT Hot Deal @Pattaya Chonburi"ลด50%

 

นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับเมืองพัทยา และพันธมิตรการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก สมาคมแหล่งท่องเที่ยวชลบุรี สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชมรมสปาเมืองพัทยา และชมรมร้านอาหารเมืองพัทยา จัดกิจกรรมสุดพิเศษภายใต้ชื่อ  TAT Hot Deal @Pattaya Chonburi” จัดโปรโมชั่นมอบส่วนลด 50 % ให้นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาพักผ่อนในพัทยา และชลบุรีมากกว่า 8,000 สิทธิ์ จองด่วนๆ ผ่านเว็บดัง Shopee เริ่ม 1 ก.ค.-15 ก.ย.63 เก็บโวเชอร์ไว้ใช้ยาวถึง 24 ธ.ค.นี้

 

 

“TAT Hot Deal @ Pattaya Chonburi” เป็นกิจกรรมการมอบส่วนลด Hot Deal 50 % ซึ่งมีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเข้าร่วมทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร และสปา รวมกว่า 100 แห่ง 

 

นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ Voucher สินค้าและบริการทั้ง 4 ประเภทผ่านทาง Online Platform ของ Shopee ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม -15 กันยายน 2563 พร้อมทั้งต้องทำการยืนยันสิทธิ์ไปยังโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือสปา ที่ได้ซื้อ Voucher ภายใน 7 วันหลังการซื้อ

 

สำหรับการยืนยันสิทธิ์ไปยังสถานประกอบการที่ซื้อ Voucher นักท่องเที่ยวสามารถเลือกวันเดินทางไปใช้บริการได้ ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม – 24 ธันวาคม 2563 

 

                นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำเมืองพัทยาที่รับผิดชอบเกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวสาธารณะ  บริเวณชายหาด เช่น พัทยา จอมเทียน และชายหาดอื่น ๆ รองรับนักท่องเที่ยวตามแนวทาง New Normal เพื่อสร้างมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และสร้างความเชื่อมั่นให้นักเดินทางที่มาพักผ่อน

 

อีกทั้งสถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังให้ความร่วมมือกับเมืองพัทยาเป็นอย่างดี เกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งขณะนี้คลี่คลายจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทางเมืองพัทยาวางแผนจะจัดกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวต่อไป

 

นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก และนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่าในฐานะตัวแทนพันธมิตรที่ร่วมจัดกิจกรรม TAT Hot Deal @ Pattaya Chonburi พร้อมใจกันจับมือกับ ททท. กระตุ้นกำลังซื้อการท่องเที่ยวตลาดในประเทศเข้ามาอุดหนุนธุรกิจเมืองพัทยา และชลบุรี โดยให้ส่วนลดพิเศษสูงถึง 50 %  จากผู้ประกอบการโรงแรมทุกระดับราคา แหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม ร้านอาหารที่มีบรรยากาศสวยงาม อาหารทะเลอร่อย สปาที่ได้มาตรฐาน

 

การจัดกิจกรรม TAT Hot Deal @ Pattaya Chonburi  ครั้งนี้ ททท.คาดการณ์จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาท และจะช่วยกระตุ้นส่วนแบ่งตลาดคนไทยซึ่งแต่ละปีมีประมาณ 20% ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเที่ยวในประเทศ ในอนาคตจะได้หันมาเที่ยวพัทยาและชลบุรีเติบโตเพิ่มมากขึ้นต่อไป

 

 

ข่าวที่ 5 ททท.ขอนแก่นหนุนเปิดเวที 4 CEO Virtual Talk 27มิ.ย.นี้

นางสาวศิริวรรณ สีหาราช ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า ททท.ขอนแก่น ผนึกกำลังกับหอการค้า สำนักงานส่วเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เปิดเวทีสัมมนาออนไลน์ ในหัวข้อ "เศรษฐกิจไทยจะไปต่ออย่างไร … หลัง COVID 19  : “CEO Virtual Talk: Creative Digital Economy & Tourism, from Global to Local” ความท้าทายและบริบทใหม่ของเศรษฐกิจไทยหลังโควิด 19  จากภาพใหญ่ สู่ภาพเมืองดำเนินรายการโดย คุณกิตติ สิงหาปัดร่วมติดตามชมได้ในวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2563 ระหว่างเวลา 15.00 – 16.15 น.สนใจเข้าชมได้ทาง Facebook Live : TAT Khonkaen / หอการค้าจังหวัดขอนแก่น / TCDC Khonkaen / depa

 

งานนี้ได้รับเกียรติจาก  มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองจาก 4 CEO ผู้คร่ำหวอดในแวดวง เศรษฐกิจ ดิจิทัลและเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยว จะมาร่วมพูดคุยพร้อมกันในเวทีเดียวกัน ประกอบด้วย- คุณยุทธศักดิ์ สุภสร   ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

- คุณกลินท์ สารสิน  ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

- คุณอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล   ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)

- ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ

 

ข่าวที่ 6 บางจากปั้นE20 S EVOชิงส่วนตลาดน้ำมันคุณภาพแห่งอนาคต

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้พัฒนาผลิตภัณฑ์แก๊สโซฮอล์ E20 S EVO ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาดขึ้น 100% มีอัตราเร่งเครื่องสูงขึ้น 56% ซึ่งรับรู้ได้ตั้งแต่เติมถังแรก และราคาเท่าเดิมคุ้มค่าเงิน ถือเป็นการสร้างความสุขตอบแทนผู้บริโภคหลังโควิด-19 คลี่คลาย และต้อนรับการกลับมาเดินทางบนท้องถนนอีกครั้ง ขณะนี้เริ่มจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ในสถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ 1,200 แห่ง

 

สำหรับการปรับสูตรแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO ยังสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่เตรียมประกาศให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐานกลุ่มเบนซิน บางจากตั้งเป้าอนาคตจะเหลือหัวจ่ายน้ำมันหลัก กลุ่มเบนซิน คือ แก๊สโซฮอล์ E20 S EVO และแก๊สโซฮอล์ 95 ส่วนกลุ่มดีเซลจะเหลือดีเซล B10 ,ดีเซล B7 และดีเซลพรีเมียม จะช่วยลดภาระการลงทุนหัวจ่ายน้ำมัน เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่สถานีบริการน้ำมันมีหัวจ่ายน้ำมันมากถึง 10 ผลิตภัณฑ์

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า โดยภาพรวมปีนี้ความต้องการใช้น้ำมันช่วง 4 เดือนแรก ลดลง 8-9% แต่การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ E20 ลดลงน้อยว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยการใช้ E20 ลด 4-5% เท่านั้น ขณะที่บางจากขายแก๊สโซฮอล์ E20 ผ่านสถานีบริการ 25% ของยอดขายน้ำมันกลุ่มเบนซิน สูงกว่าตลาดทั่วไปจำหน่าย22-23%

 

ข่าวที่ 7 มูลนิธิปิดทองฯรับซื้อทุเรียนคุณภาพ3จังหวัดแดนใต้31รายเฉียดล้าน

 

                นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่า ในระหว่างลงพื้นที่โครงการทุเรียนคุณภาพ 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ยะลา นราธิวาส ) เป็นวันแรก เมื่อ 18 มิถุนายน 2563  ตามที่จังหวัดยะลาร่วมกับปิดทองหลังพระฯ ใช้ศูนย์รวบรวมและคัดแยกทุเรียน ที่ทำการยางแห่งประเทศไทย ยะลา ปรากฏว่าเกษตรกรทยอยนำทุเรียนมาจำหน่ายต่อเนื่องรวม 31 ราย ผลผลิตทุเรียนรวมทั้งสิ้น 9,998 กิโลกรัม เป็นเงินรวม 853,360 บาท  และการรับวันแรกมีเกษตรกรจากตำบลบาเจอะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา คนเดียวสามารถขายโดยได้รับเงินไปกว่าแสนบาท

 

งานนี้ทางปิดทองหลังพระฯ รับซื้อทุเรียนคุณภาพเกรด เอบี ราคากิโลกรัมละ 100 บาท รวม 4,930 กิโลกรัม เป็นเงิน 493,000   บาท เกรดซี ราคากิโลกรัมละ 80 บาท 2,814 กิโลกรัม เป็นเงิน 225,120 บาท ส่วนทุเรียนตกไซส์ก็รับซื้อราคากิโลกรัมละ 60 บาท สูงกว่าราคาตลาดทั่วไปทุกระดับคุณภาพ

 

ทั้งนี้ ทุเรียนคุณภาพเกรด เอบี และซี ทั้งหมดบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด จะดำเนินการส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป

               

                สำหรับการส่งเสริมทุเรียนคุณภาพ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทางปิดทองหลังพระฯ ทำครั้งนี้เป็นปีที่ 2  โดยร่วมกับจังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี รวมทั้งเกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเกษตรกรชาวสวนทุเรียนช่วยปรับปรุงคุณภาพการปลูกและดูแลบำรุงต้นทุเรียนเดิมของเกษตรกรให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน GAP ถือเป็นความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ จากการที่เกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนคุณภาพเกรด เอบี ได้มากถึง 85 %

 

 

ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยให้หายคิดถึง ตั้งเข็มไมล์รถทริปนี้ขับไป “ราชบุรี” แวะชม “ตลาดหลักห้า” วิถีชุมชนริมน้ำกว่า 150 ปี แล้วไปกินของอร่อยที่ร้าน Octospider อำเภอบางแพ ต่อด้วยร้าน “อัลปาก้า ราชบุรี” อำเภอโพธาราม ของดีของอร่อยรออยู่ ส่วนการกินผักในชีวิตประจำเตือนไว้เลยนะ “ผัก6ชนิดกินดิบ ๆ บ่อยไม่ดี” และ “4อภิมหาเศรษฐีไทย” รวมตัวกันเปิดเมกะโปรเจ็กต์ “เมืองการบินในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือEEC” ส่วน “โรงแรม เค พี แกรนด์ จันทบุรี” ต้อนรับการกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งด้วยโปรโมชั่นแรง ๆ ห้องพักคืนละ 650 บาท พักได้ห้องละ 2 คน

 

เที่ยวไทยในราชบุรีชมตลาดกินอาหารถิ่นลุคใหม่ในร้านเก๋ๆ

 

ตั้งเข็มไมล์รถมุ่งหน้าสู่ “จังหวัดราชบุรี” เป้าหมายแรก ขอแวะ “ตลาดน้ำหลักห้า” ชุมชนริมน้ำที่อยู่มานานกว่า 150 ปี อยู่บริเวณรอยต่อ อ.บ้านแพร้ว จ.สมุทรสาคร กับ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ตอนนี้ฟื้นฟูตลาดขึ้นมาใหม่ หลังจากเคยถูกทอดทิ้งมาสักพักหลังการเดินทางน้ำซบเซาคนหันมาใช้ถนนที่สะดวกสบายมากถึง พอท่องเที่ยวบูมตลาดก็พลอยคึกคักตามไปด้วย เป็นตลาดของคนท้องถิ่น ซึ่งเปิดบริการแค่ครึ่งวันเท่านั้น ตั้งแต่ ตี 4 จนถึง เที่ยงวัน

 

ภายในตลาดมีอาหารการกิน อาหารถิ่น ละลานตา ทั้งของคาว หวาน วัตถุดิบพื้นบ้านต่าง ๆ แต่สิ่งที่เสริมเสน่ห์คือ “วิถีชีวิตริมคลอง” ชีวิตที่อยู่กับสายน้ำสงบ ร่มเย็น

 

ส่วนร้านอาหารเทรนดี้แนวชิค ๆ ในราชบุรี แนะนำ “ร้าน Octospider อยู่ในซอยวัดเตาอิฐ บนถนนเพชรเกษม อ.บางแพ เปิด 10 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ร้านนี้สถาปัตยกรรมโดดเด่น ได้ชาวอิตาลีเป็นผู้ออกแบบทรงกล่องสี่เหลี่ยมยาว 3 อาคาร ตั้งอยู่กลางน้ำ ทรงคล้ายยานอวกาศ ใช้ผนังกระจก ทำให้มองเห็นวิรอบทิศทาง ส่วนเมนูอาหารอร่อย ๆ ก็มี ยำตะไคร้กุ้งกรอบ ไก่นอนรัง แกงคั่วหมูย่าง ผัดพริกขิงปลาดุกฟู ส้มตำทะเลทอด ขาหมูเยอรมัน สำหรับราคาสบายกระเป๋า

 

ร้านอัลปาก้า ราชบุรี : Alpaca Ratchaburi ที่ตำบลบ้านเลือก อ.โพธาราม อยู่ติด ซี.เจ.สปอร์ตคลับ เป็นอีกร้านที่ขอแนะนำ มีพื้นที่รองรับทั้งแบบในห้องแอร์เย็น ๆ และเอาท์ดอร์กลางแจ้ง ตกแต่งร้านกาแฟเก๋มาก มีสัตว์สวย ๆ อย่างหงส์ จิ้งโจ้แคระ นกแก้วมาคอร์ และอัลปาก้า ให้ทอดสายตาชมเพลิน ๆ ช่วงรออาหารและเครื่องดื่ม เมนูแนะนำต้องห้ามพลาดสั่ง คือ สเต็กแซลมอน ขาหมูเยอรมัน หมึกหอมนึ่งมะนาว เมี่ยงกุ้งสด ยำผักบุ้งทอดกรอบ

 

จะรอช้าไปทำไม รีบขับรถเที่ยวเมืองไทย กันดีกว่า

 

ผัก 6 ชนิดกินดิบ ๆ มากเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพ

 

ถึงแม้ว่าการกินผักสดจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีคุณค่าสารอาหารอยู่ครบ เพราะเมื่อผักปรุงสุกจะสูญเสียวิตามินไป 30-50% แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยคะว่าผักบางชนิดต้องปรุงสุกเพื่อลดสารพิษตามธรรมชาติ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูพร้อมน้องข้าวกล้องได้เลยค่า

 

1. ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี

ในผักตระกูลกะหล่ำหากทานแบบดิบ จะมีสารกอยโตรเจน ซึ่งเป็นสารที่ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนจากเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ จนอาจทำให้เกิดโรคคอหอยพอกได้ ดังนั้นผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์จึงไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบ แต่กอยโตรเจนจะสลายได้อย่างรวดเร็วเมื่อโดนความร้อน ดังนั้นจึงควรบริโภคกะหล่ำปลีแบบปรุงสุกจะดีกว่า

 

2. หน่อไม้

ในหน่อไม้สดมีสารกลูโคไซด์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ ซึ่งมีพิษต่อร่างกาย หากร่างกายได้รับสารตัวนี้ในปริมาณมาก จะเข้าไปจับกับฮีโมโกลบิน อาจทำให้เกิดการขาดออกซิเจน หมดสติ และเสียชีวิตได้

 

3. ถั่วงอก -มักมีการปนเปื้อนแบคทีเรียซาลโมเนลลาและอีโคไล คนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ คนตั้งครรภ์ และเด็กเล็กไม่ควรทานแบบดิบ

 

4. ผักโขม -มีกรดออกซาลิกที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม จริงๆ แล้วคนทั่วไปทานแบบดิบได้ แต่คนที่มีภาวะขาดธาตุเหล็กและแคลเซียมต้องระวัง

 

5. ถั่วฝักยาว  - มีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์สูง ทำให้ท้องอืดได้ และยังดูดซึมสารเคมียาฆ่าแมลงมากกว่าผักทั่วไป หากต้องทานแบบดิบ ควรหั่นเป็นท่อนๆ แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนทานแบบดิบ

 

6. ผักไชยา -มีสารกลูโคไซด์ซึ่งจะปล่อยสารพิษจำพวกไซยาไนด์ออกมา ควรนำไปต้มหรือผัดอย่างน้อย  1 นาที เพื่อลดสารพิษให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

 

ข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “4เศรษฐีเมืองไทยรวมตัวเปิดเมกะโปรเจ็กต์เมืองการบินEEC

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวัน 23 มิถุนายน 2563 มหาเศรษฐีแถวหน้าของเมืองไทยรวมตัวกันเปิดตัวเมกะโปรเจ็กต์การลงทุน “โครงการสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก” ในนาม บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ประกาศเดินหน้าลุยยกระดับสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ให้เป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ของกรุงเทพฯ และศูนย์กลางทางการบินและประตูเศรษฐกิจสู่เอเชีย นำโดยนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ปรึกษาประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ   บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

 

บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้า BBS)  เกิดจากความร่วมมือจาก               3 บริษัทเอกชนใหญ่ ได้แก่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ทุ่มเงินร่วมกันลงทุนรวมกว่า 290,000 ล้านบาท

 

ส่วนรายละเอียดโครงการ พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก จะแบ่งเป็น

 

ภาครัฐรับผิดชอบดูแล  1.ทางวิ่งมาตรฐาน 2 ทางวิ่ง ความยาว 3,500 เมตร ซึ่งสามารถให้อากาศยานขึ้นลงทั้ง 2 ทางวิ่งอย่างอิสระต่อกัน และสามารถรองรับเครื่องบินพาณิชย์ได้ทุกขนาด 2.หลุมจอดเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 124 หลุมจอด 3.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO Complex) ระยะแรก 500 ไร่ 4.งานสนับสนุนอื่นๆ บนพื้นที่ ขนาด 1,400 ไร่  ประกอบด้วย ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศ โรงผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น โรงผลิตน้ำประปาและบำบัดน้ำเสีย และบริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยาน และจะมีการก่อสร้าง Air Traffic Control Tower หรืออาคารหอบังคับการบิน โดย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด สามารถให้บริการการขึ้นลงของอากาศยานได้สูงสุด 70 เที่ยว/ชั่วโมง

 

                ภาคเอกชนดูแล ประกอบด้วย 1.ส่วนของอาคารผู้โดยสาร หลังที่ 3 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทุกระยะแล้ว จะมีขนาดพื้นที่กว่า 450,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 60 ล้านคน/ปี ภายในอาคารมีการติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทันสมัย เช่น ระบบการ Check-in อัตโนมัติ (Smart Airport) ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automate People Mover, APM)  คลังสินค้า 2.Cargo Village และ Free Trade Zone ที่มีขนาดพื้นที่กว่า 470,000 ตารางเมตร ประมาณการขีดความสามารถรองรับการขนส่งสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ากว่า 3 ล้านตัน/ปี 3.ศูนย์ขนส่งภาคพื้นดิน (Ground Transportation Center, GTC) มีขนาดพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร เพื่อให้การเดินทางในรูปแบบต่างๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง รถบัส แท็กซี่ สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ได้อย่างรวดเร็วและไร้รอยต่อ 5.พื้นที่กิจกรรมด้านอุตสาหกรรมการบินที่เกี่ยวข้อง

 

รวมทั้งองค์ประกอบที่ดำเนินกิจกรรมเชิงพาณิชย์และส่งเสริมการเป็น Aviation Hub ของโครงการ คือ Commercial Gateway ขนาดพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร จัดเป็นพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี ร้านค้าและภัตตาคาร โรงแรม รวมทั้ง Business Park และ Airport City ซึ่งมีขนาดพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางเมตร ประกอบด้วย ศูนย์การค้า ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า อาคารพักอาศัยและอาคารสำนักงาน

 

บริษัทฯ ทำแผนการพัฒนาโครงการแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้

                    ระยะที่ 1 มีอาคารผู้โดยสารขนาดพื้นที่กว่า 157,000 ตารางเมตร พื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์  อาคารจอดรถ ศูนย์ขนส่งภาคพื้นดิน และหลุมจอดอากาศยาน 60 หลุมจอด คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี พ.ศ. 2567 สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 15.9 ล้านคนต่อปี

 

                  ระยะที่ 2 อาคารผู้โดยสารมีพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 107,000 ตารางเมตร พร้อมทั้งติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) และระบบทางเดินเลื่อน รวมทั้งเพิ่มหลุมจอดอากาศยานอีก 16 หลุมจอด คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี พ.ศ.2573 โดยประมาณการว่า จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด30 ล้านคนต่อปี 

 

                   ระยะที่ 3 เป็นการต่อขยายอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติมจากระยะที่ 2 กว่า 107,000 ตารางเมตร เพิ่มจำนวนรถขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) อีก 1 ขบวน รวมทั้งเพิ่มหลุมจอดอากาศยานอีก 34 หลุมจอด คาดว่าจะ แล้วเสร็จประมาณปี พ.ศ. 2585 ประมาณการรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 45 ล้านคนต่อปี

 

                   ระยะที่ 4 หรือระยะสุดท้าย มีพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังที่สองเพิ่มขึ้นกว่า 82,000 ตารางเมตร พร้อมทั้งติดตั้งระบบ Check-in แบบอัตโนมัติ รวมทั้งเพิ่มหลุมจอดอากาศยานอีก 14 หลุมจอด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี พ.ศ. 2598 ประมาณการรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 60 ล้านคนต่อปี

 

โรงแรม เค พี แกรนด์ จันทบุรีอัดโปรแรงหลังโควิดคืนละแค่650บาท

โรงแรม เค พี แกรนด์ จันทบุรี กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบอีกครั้งแล้วตั้งแต่ 28 มิถุนายน 2563 จึงขอชวนคนไทยมาพักผ่อนได้โดยลงทะเบียนใช้สิทธิ์ “เที่ยวปันสุข” หรือจะมาเองก็ได้ ในราคาสุดพิเศษ 650 บาท/ห้อง/คืน เท่านั้น พักได้ห้องละถึง 2 คน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยว ชุมชนริมน้ำ เมืองผลไม้ หาดทรายสวยๆ รอต้อนรับทุกวัน

ห้องพักของ เค พี แกรนด์ จันทบุรี รับรอง สะอาด ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย SHA ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ชุมชนริมน้ำจันทบูร , โบสถ์คาทอลิค , วัดไผ่ล้อม , ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว  และห่างสถานีขนส่ง (บขส.) เพียง 1 กม.

 

สอบถามเพิ่มเติมโดย Inbox เข้าไปยังเพจเฟสบุค KP Grand Hotel โรงแรม เคพีแกรนด์ จันทบุรี หรือ  Line Id : @kpgrand ️ 082-7168475 , 0-3932-3201-5 

 

ส่วนหน่วยงานใดสนใจจัดประชุมสัมมนาสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ฝ่ายขาย 081-4425876 081-6215433 088-2030390

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai