บิ๊กททท.โชว์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่“เที่ยวไทยอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม-EvenMore” ชูแคมเปญหนึ่งเดียวตลาดไทย-ต่างชาตินำร่อง“ภูเก็ตโมเดล”รับเอเชีย/ยุโรป
บิ๊กททท.โชว์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่“เที่ยวไทยอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม-EvenMore”
ชูแคมเปญหนึ่งเดียวตลาดไทย-ต่างชาตินำร่อง“ภูเก็ตโมเดล”รับเอเชีย/ยุโรป
“คิงเพาเวอร์ศรีวารี”ชวนช้อป/กิน/เช็คอินแจกแลกลดเสาร์20-อาทิตย์21มี.ค.นี้
คิงเพาเวอร์กระหน่ำSPRING UP TO SUMMERไลฟ์สไตล์&บิวตี้ลด 30-45%
ททท.ชงครม.รอบสอง2โครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย”รอ23มี.ค.64
ททท.ยึดเขื่อนขุนด่านปลุกเที่ยวLifestyle Eat East@นครนายก20-21มี.ค.นี้
“TCEB”รุกทำโปรเจ็กต์MICE Winnovationเร่งธุรกิจใช้ไฮเทคฟื้นตลาดไมซ์
นครนายก!!เที่ยวสนุก”สายมูวัดมณีวงศ์-เอาท์ดอร์Eco Eyes-สายกินมะยงชิด
ประโยชน์ของการหันมาทำดิจิทัลดีท็อกซ์ได้เวลาล้างพิษให้ผู้คนที่ติดโซเชียล
ศบค.เคลียร์ท่องเที่ยว2เรื่อง“เที่ยวสงกรานต์-เลิกกัก14วันรับต่างชาติหลังต.ค.
ดิวานาสปาจับมือคนดังนุ่น/ศิริพันธ์ดันCSRช่วยชุมชน-Divana Urban Forest
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม
2564
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ # #
ช่วงที่
1 พร้อมบุกเต็มเหนี่ยว
“นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดประวัติศาสตร์ครั้งแรกใช้แคมเปญเดียวทั้งตลาดในและต่างประเทศ
“เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม : AMAZING THAILAND NOW EVEN MORE
AMAZING” เผยท่าทีประเทศไทยเปิดรับชาวโลก
กระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติพร้อมกัน โดยสบโอกาสใช้ “วัคซีน เชนเจอร์” หลัง
ศบค.จ่อปลดล็อกกักตัวเข้าออกประเทศ 14 วัน
จัดทัพซัพพลายไซซ์ร่วมด้วยล้างปัญหาใต้พรม
เปิดแหล่งเที่ยวเก่าและเปิดจุดใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม นำร่องทำ “ภูเก็ต โมเดล”
ขณะที่ 2
รองผู้ว่า “ยุโรป-เอเชีย” กอดคอบุกตลาดเต็มที่
นายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ทิศทางการเพิ่มความเข้มข้นด้านสื่อสารการตลาดเพื่อให้คนออกเดินทางมากขึ้นหลังสถานการณ์ระบาดต่อเนื่องระลอกสองคลี่คลายลง
เตรียมทำโครงการ “เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม”
ทำให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว
เพราะมีปัจจัยหลักคือวัคซีนเป็นตัวเปลี่ยนเกมหรือ Vaccine Changer รวมถึงสัญญาณจากรัฐบาลไทยกับการเตรียมตัวเข้าสู่โหมดการเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางต่างชาติ
ดังนั้นผมจึงเสนอให้
“เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ให้เป็นคำที่ใหญ่มากยิ่งกว่าอันหมายถึง
“การเปิดตัวประเทศไทยใหม่” อีกครั้ง จากการ เปิดประเทศ มีวัคซีน พาสปอร์ต
ขณะนี้มีสัญญาณชัดเจนแล้วจำนวนการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าไทยลดการกักตัวเหลือเพียง
7 วัน
จากปกติ 14 วัน
ผนวกกับจะมีข่าวดีเพิ่ม โดย ททท.พูดคุยศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.)
ตั้งเป้าเสนอกักตัวให้อยู่ภายในห้องพักเหลือเพียง 1 วัน ส่วนอีก 6 วัน
สามารถออกมาใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมตามพื้นที่อื่น ๆ ได้
ฉนั้นจึงได้ขยายแนวคิดนำโครงการ
“เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม”
ใช้สื่อสารกับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกไปพร้อม ๆ กัน ภายใต้ชื่อ AMAZING THAILAND NOW EVEN MORE
AMAZING ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้วยความหมายเดียวกัน
ทำให้เกิดปรากฏการณ์
เรื่องที่ 1 จะเป็นครั้งแรก
ที่ใช้แคมเปญเดียวกันทั้งตลาดในกับต่างประเทศ เดินทางผนวกกันได้อย่างลงตัว
เรื่องที่ 2
ท่องเที่ยวไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม จะเป็นคำใหญ่มากขับเคลื่อนองคาพยพ
ทำให้เมืองไทยกลับมายิ่งใหญ่ด้านท่องเที่ยวเมื่อรัฐบาลประกาศเปิดประเทศแล้ว
เนื้อหาของโครงการหรือแคมเปญ
“เที่ยวไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” จะไม่ได้จำกัดวงอยู่เฉพาะเพียงแค่
“การโฆษณาประชาสัมพันธ์” เท่านั้น หากแต่เป็น “ท่าทีของประเทศ”
เลยเมื่อจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ซึ่งเห็นสัญญาณแล้วหลังจากรัฐบาลปลดล็อกมาตรการกักตัวเข้าประเทศจาก 14 เหลือ
7
แต่เงื่อนไขนี้ก็ยังสร้างความลำบากใจต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาหลังเปิดประเทศ
ดังนั้น ททท.จึงต้องขอให้พิจารณาทยอยทำเป็นเฟส 2 กักตัวลดเหลือ 4 วัน
เฟส 3 ลดเหลือ
3 วัน
กระทั่งเหลือ 1 วัน
ส่วนอีก 6 วัน
ใช้พื้นที่ทั่วไปอยู่ในโรงแรมได้ แต่ลดการพบปะผู้คนก็ยังมาตรฐานนี้ไว้
นายธเนศวร์กล่าวว่า
กรณีการกักตัว 14 วัน
เป็นเงื่อนไขที่ยากต่อการเจรจาที่จะทำตลาดนำเข้าต่างชาติ หากเหลือ 1+6 วัน
ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ททท.จะทำการขายท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้นด้วย
โดยเฉพาะกลุ่มประเทศระยะใกล้แถบอาเซียน เอเชีย ผ่อนคลายความอึดอัดไปได้
เมื่อรัฐบาลส่งสัญญาณที่ดีผ่อนคลายลงเรื่อย ๆ บทบาทของ ททท.ก็ต้องลุยทำให้โครงการ
“อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ได้อัพเกรดการท่องเที่ยวกลายเป็นแคมเปญระดับประเทศ
ส่งสัญญาณไปยังซัพพลายไซซ์ทุกส่วนของประเทศ ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
ที่หมักหมมอยู่ต้องได้รับการแก้ไข ขณะนี้ ททท.เดิมเกมเรียบร้อยแล้ว
รวมทั้ง
ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.หารือผ่านมาทาง ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ ททท.แล้ว ให้ใช้ “ภูเก็ต โมเดล” นำร่องทำโครงการ “เที่ยวเมืองไทย
อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ส่งแรงกระเพื่อมไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ
ให้ปฏิบัติตามกัน
สำหรับรายละเอียดความอะเมซิ่งของเมืองไทยที่จะเกิดขึ้นจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใหม่
2 ส่วน
คือ
ส่วนที่ 1 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเดิม
จะต้องพ้นจากปัญหาที่หมักหมมแบบเดิม ๆ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการ เช่น
ปัญหาขยะล้นเกาะ แนวคิดนี้ได้ส่งสัญญาณไปแล้ว เจ้าของแหล่งท่องเที่ยว
ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ค่อนข้างตื่นตัวกันมาก
ส่วนที่ 2 แหล่งท่องเที่ยวค้นพบใหม่
(กิ๊ก)
ช่วงไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเองกลับมางดงามมากกว่าเดิมมาก
ๆ
นายธเนศวร์กล่าวว่า
หัวใจสำคัญที่สุดการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงใหม่ในแหล่งท่องเที่ยวเดิมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่
ที่มุ่งหวังให้ทางฝั่ง “ซัพพลาย ไซซ์”
หรือเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปด้วยกันคือ
เรื่องที่
1
ททท.ต้องเริ่มคุยกับผู้ประกอบการทุกส่วน
เพราะขณะนี้มีความต้องการจากนักท่องเที่ยวสนใจไปตามสถานที่เดิมซึ่งเคยเข้าไปเที่ยวมาก่อน
โดยปักธง “ภูเก็ต” ในฐานะเมืองโมเดลต้นแบบ เมื่อเร็ว ๆ
นี้ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เอกชนท่องเที่ยว ผู้บริหาร
ททท.ชุดใหญ่ลงพื้นที่ภูเก็ต ไปพบปะแลกเปลี่ยนแนวคิด รับฟังไอเดียซึ่งกันและกัน
เพื่อนำมาปรับใช้ให้ได้ พิสูจน์ด้วยแนวคิด AREA QUARANTINE
การลงมือทำ
“ภูเก็ต โมเดล” ครั้งนี้ จะแตกต่างจากทุกครั้งนั่นคือ ทั้งระดับท้องถิ่น จังหวัด
หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วนต้องร่วมกันทำอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น
เจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างอุทยานแห่งชาติ
หรือการดูแลรักษาเมืองให้สะอาดปลอดภัย คือเทศบาลเมือง กับจังหวัด
การจัดการเรื่องขยะ การปล่อยน้ำเสียของโรงแรมหรือโรงงานอุตสาหกรรม
ปล่อยลงทะเลหรือสถานที่สาธารณะ แต่ละเรื่องจะต้องได้รับการจัดการใหม่ทั้งหมด
ท่าทีการตอบรับจากประชุมร่วมกันของ
ททท.กับทุกภาคส่วนในภูเก็ต
เห็นถึงความตื่นตัวของทุกฝ่ายตระหนักแล้วเมื่อปิดประเทศมาปีเศษ
ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจพื้นที่และภาพใหญ่ของประเทศหนักรุนแรงจริง
เพราะฉนั้นถ้าต้องการกลับมาเปิดประเทศใหม่ เท่ากับมาเริ่มต้นชีวิตกันใหม่
เรื่องที่
2 การกลับมาเปิดประเทศใหม่อีกครั้ง
นักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศกลุ่มเดิม ๆ อาจจะยังไม่ได้เฮโลเดินทางเข้ามาทันที
เพราะสายการบินนานาชาติก็ยังไม่ได้เปิดบินระหว่างประเทศแบบ 100 % หรือรัฐบาลของแต่ละประเทศก็ยังไม่ได้อนุญาตให้คนของตนเองเดินทางต่างประเทศได้ครั้งละมาก
ๆ ยังคงมีมาตรการไม่อนุญาตให้ออกต่างประเทศ
ททท.จึงประเมินสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มทยอยเข้ามาช่วงไตรมาส
3 และ 4 ปี 2564 แนวโน้ม
ยุโรปมีท่าทีจะหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเมืองไทยก่อนตลาดอื่น
ดังนั้นจะต้องรีบทำให้เห็นถึงความอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ตัวอย่าง กรุงเทพฯ
สิ่งแรกต้องเห็นเรื่องความสะอาด การจัดแบบวิถีใหม่ New Normal
เครื่องหมายตราสัญลักษณ์ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA : Amazing Thailand Safety and Health
Administration โดยเฉพาะ Next SHA เฟส 2 ต้องเข้มแข็ง
เข้มข้น มากกว่าเดิม
สิ่งที่
ททท.กำลังทำทั้งหมดอยู่ในขณะนี้คือเรื่องที่จะผลักดันโครงการ “เที่ยวเมืองไทย
อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมอย่างสมบูรณ์
นายธเนศวร์กล่าวว่า
จะเริ่มผลิตภาพยนตร์โฆษณาตั้งแต่ เมษายน 2564 เป็นต้นไป ภายใต้แคมเปญ
“เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม” ทยอยสู่สาธารณะทั้งในประเทศและทั่วโลก
หลังจากลงมือทำทีเซอร์ก่อนผลิตหนังโฆษณา ททท.พบว่าจะมีคำหนึ่งปรากฎขึ้นคือ
“เที่ยวให้สะใจ : Prevent Traveller”
นักท่องเที่ยวต่างประเทศวัยรุ่น Millenial กลุ่มใหญ่สะท้อนความรู้สึกดังกล่าวออกมา
ต้องการพุ่งมายังเมืองไทยเพื่อพบสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติ ความสะอาด
เป็นระเบียบเรียบร้อย ความสนุกสนานของอะเมซิ่ง ไทยแลนด์
เรื่องสำคัญที่สุด
คือจะต้องย้ำเน้นกระตุ้นคนไทยด้วยกันให้ทำหน้าที่ “เจ้าบ้านต้อนรับแขกต่างเมือง”
ให้ดีด้วย
พยายามจะอธิบายความรู้สึกของคนในท้องถิ่นทั่วประเทศควบคู่กันไปด้วยว่านักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากจะเข้ามาเยี่ยมเยือนพวกท้องถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวของไทย
ย้ำให้ชัดเจนว่านักท่องเที่ยวทั้งหมดผ่านการฉีดวัคซีนโควิดมาเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการทำกลยุทธ์เชื่อมโยงตลาดต่างประเทศช่วงครึ่งปีหลังนั้น
รองผู้ว่าการแต่ละคนผู้รับผิดชอบตลาดแต่ละทวีป
ทั้งระยะใกล้และไกลจะเน้นรุกเจาะตลาดหลักในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุข กับ องค์การอนามัยโลก ระบุไว้
ตัวอย่าง
คุณศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป พุ่งเป้ารุกประเทศหลัก
สหราชอาณาจักร (UK)
กับอิสราเอล
เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำรวมทั้งประชากรได้รับวัคซีนเกินกว่าครึ่งแล้ว
แต่อีกหลายประเทศในแถบยุโรปจะต้องใช้เกณฑ์การเข้าถึงวัคซีนเป็นปัจจัยหลัก
เนื่องจากยังคงมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกระจายอยู่พอสมควร
หรือคุณฉัททันต์
กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย ก็เล็งเห็นศักยภาพที่จะบุกใน สิงคโปร์
ฮ่องกง เวียดนาม
กลยุทธ์การทำงานของฝ่ายสื่อสารการตลาดด้วยเครื่องสื่อสารโฆษณานั้นจะต้อง
“เลือกรายตลาด”
นำสิ่งที่ผู้บริโภคชื่นชอบมานำเสนอให้สอดคล้องกับระหว่างสินค้ากับความต้องการตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว
โดยใช้ทำงานอย่างใกล้ชิดรวมทั้งทักษะความเชี่ยวชาญของผมซึ่งเคยทำตลาดต่างประเทศมาก่อน
ส่วนตลาดในประเทศ
ได้ “คุณกฤษณะ แก้วธำรงค์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ
ททท.เป็นแม่ทัพใหญ่นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย
เรื่องของการอำนวยความสะดวกขับเคลื่อนการเดินทาง ประกอบด้วย 1.ทางอากาศ
คุยกับสายการบิน เพื่อออกโปรโมชั่นตั๋วโดยสาร เช่น ไทย แอร์ เอเชีย
มีตั๋วบุฟเฟต์วางขายเที่ยวไทย 2.ทางบก ขับรถเที่ยว เป็นเทรนด์ใหม่ขับรถท่องเที่ยวด้วยตนเอง
ก็จับมือกับค่ายน้ำมันรายใหญ่
3.การเปิดตัวพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ
ในวันที่ 22 มีนาคม
2564 นั่งคุยกับทุกฝ่ายเพื่อพูดคุยคัดกรองสินค้าท่องเที่ยวอะเมซิ่ง
ยิ่งกว่าเดิม มาปล่อยในตลาด ก่อนหน้าได้หารือในที่ประชุมร่วมกันหลายครั้งแล้ว ตัวอย่าง
แหล่งท่องเที่ยวเก่าที่ปรับปรุงใหม่ ด้วยการจัดระเบียบ
พัฒนาคนท้องถิ่นให้มีมาตรฐานบริการสูงขึ้น หยิบยกมาพูดในกรอบอะเมซิ่ง
ยิ่งกว่าเดิมได้ หรือ แหล่งท่องเที่ยวสดเปิดใหม่จริง ๆ อย่าง สนามบินเบตง
สกายวอร์ลอัยเวงค์ เบตง หรือ สกายวอล์ค เชียงคาน จ.เลย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสได้
หรือเทรนด์ยอดนิยมของคนไทย
เส้นทางใหม่ ๆ สาย “มูเตลู” การไหว้พระ เสริมบุญบารมี ตามวัดดัง ๆ แถบภาคอีสาน
หรือไหว้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช
จะเป็นอีกแนวช่วยเคลื่อนนักท่องเที่ยวออกเดินทาง
เมืองไทย
จากนี้เป็นต้นไป จะอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
สามารถกระตุ้นตลาดทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ศรีวารี”ชวนช้อป/กิน/เช็คอิน
แจกแลกลดเสาร์20-อาทิตย์21มี.ค.นี้
คิง
เพาเวอร์ ศรีวารี พร้อมมอบประสบการณ์ดี ๆ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ กับ “King
Power SHOP &HOP Weekend Market ไม่มีไฟลต์บิน
ก็ช้อปมันส์ กินฟิน เช็คอินได้ สัปดาห์นี้วันเสาร์ที่ 20-อาทิตที่ 21 มีนาคม 2564 เปิดบริการ 10.00-21.00 น. มีมหกรรมลดราคา 30 % พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย
ภายในงาน
“ช้อปมันส์!”
ในตลาดนัดติดแอร์มีกว่า 50 ร้านค้าดังยอดฮิต ให้เลือกทั้งเสื้อผ้า
เครื่องประดับ และอีกมากมาย พบกับสินค้าลดกว่า 30 % รับคูปองส่วนลดรวม 7,000 บาท ฟรีคูปองอาหารไทย เทสต์ ฮับ 300 บาท เมื่อช้อปปิ้งครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จรับเงิน
กินฟิน!
30 ร้านดังในตำนาน ตรงบริเวณ Thai
Taste Hub @Srivaree พิเศษรับเพิ่มคูปองทานอาหารอีก
50 บาท
เมื่อซื้อบัตรรับประทานอาหารที่ไทย เทสต์ ฮับ เมนูแนะนำต้องห้ามพลาด สมศักดิ์ปูอบ Y
บีทีเอสกรุงธนบุรี, PINN , กุ้งเผาอยุธยา, ละมัยหอยทอดเยาวราช, KIN
TO GO, TOKYO BEAN, BAAN by Chefton,
ผัดไทยไฟทะลุ ปีกุน, Table 38 Patissserie, ก๊วยจั๊บฮ่องเต้, สุกี้เมาเวอริค,
ขนมเบื้องแม่ประภา, หน่ำเตียง, รองเมืองเกาเหลา, All Coco, ครัวเชียงคานดอทคอม, กุยช่ายเหล่าหอเจี๊ยะ by
เจ๊น้อย, ขนมครกประมวล มีศิลป์,
เอี๊ยงออเฮ่าชือ
เช็คอิน! สวนดอกไม้และคาเฟ่ดังจาก Boonta Flowers
& Cafe’ กว่า 2000
ดอก
และลานสเก็ตแห่งใหม่ในพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร
และการเล่นเซิร์ฟสเก็ต ทั้งแบบฝึกหัดและมืออาชีพ ได้ตั้งแต่ 11.00-22.00 น.
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์กระหน่ำSPRING
UP TO SUMMERไลฟ์สไตล์&บิวตี้ลด30-45%
ชวนกันมาช้อป
ที่คิง เพาเวอร์ กับแคมเปญฮ็อตสุด ๆ “SPRING UP TO SUMMER” ระหว่างวันนี้
24 มีนาคม 2564 กับโปรโมชั่นสินค้า 2
กลุ่ม กลุ่มแรก สินค้าท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ TRAVEL &
LIFESTYLE Sale Up To 30% Off”
สามารถเข้าไปรหัสส่วนลดเพื่อใช้ได้ที่ www.kingpower.com และ
แอปพลิเคชัน KING POWER เพื่อรับทันทีส่วนลดสูงสุด 30%
โดยไม่มียอดขั้นต่ำในการสั่งซื้อกับสินค้าที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น
กลุ่มที่สอง
สินค้าความสวยความงาม BEAUTY Buy 3 Get Up To 45% Off เมื่อช้อปครบ 3 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลดสูงสุด 45%
รายการส่งเสริมการขายนี้เฉพาะสั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น
โปรโมชั่น
“SPRING UP TO SUMMER” ทั้ง 2
รายการ ลูกค้าสามารถแบ่งชำระ 0% ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ได้นานสูงสุด 10
เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ และนานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.-
(สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ
วิธีการสั่งซื้อสินค้าผ่อนชำระ
ง่าย ๆ แค่ลูกค้าคลิกสมัครสมาชิกผ่านทาง www.kingpower.com และทำการล็อคอินก่อนการใช้รหัสส่วนลดดังกล่าว
โดยไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration, บัตรส่วนลดอื่นๆ
E-Purse, E-Cash, Gift Voucher, Cash Voucher ทุกประเภท
และโปรโมชั่นอื่นๆ
สมาชิกบัตรคิง
เพาเวอร์ ทุกรายการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์สามารถสะสมกะรัตได้
ข่าวที่ 3 ททท.ชงครม.รอบสอง2โครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย”รอผล23มี.ค.64
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้
ททท.พร้อมรับรายละเอียด 2
โครงการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งภายในวันอังคารที่
23
มีนาคม 2564
คือ 1.เราเที่ยวด้วยกัน
ขยายเฟส 3
เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวในประเทศจองห้องพักได้ 2 ล้านคืนพัก 2.ทัวร์เที่ยวไทย เปลี่ยนจากเที่ยวไทยวัยเก๋า
เปิดให้นักท่องเที่ยวอายุ 18
ปีขึ้นไป ใช้สิทธิ์ซื้อแพกเกจทัวร์ผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยวได้ตามเงื่อนไข
ล่าสุด ททท.ได้ชี้แจงคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้
ชุดของ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
เป็นประธาน แล้วถึงความร่วมระหว่าง ททท.กับธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนรายละเอียดของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ได้เพิ่มความรัดกุมปิดช่องปัญหาทุจริตให้ได้ในเฟส 3 เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยว
ทั้งนี้มีรายงานว่า มาตรการป้องกันการทุจริตโครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน”
ที่รัฐจะต้องนำเงินกู้มาสนับสนุนโดยจ่ายค่าห้องพักให้นักท่องเที่ยว 40 % และโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย”
รัฐจะจ่ายสมทบให้บริษัทนำเที่ยว 5,000 บาท/คน
นั้น อาจต้องใช้วิธีสแกนลักษณะเฉพาะของแต่ละคน
หรือใช้ระบบซิมการ์ดที่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของนักท่องเที่ยวที่เดินทางจริง
เนื่องจากเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1-2 ททท.ต้องแบกภาระเพิ่มในการเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความเอาผิดโรงแรมและร้านค้าที่ร่วมกันทุจริตจำนวนรวมกว่า
500 ราย ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต้องส่งทีมกองปราบเข้ามาทำคดีและยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนเอาผิด
ซึ่งกลายเป็นปัญหาใหม่ตามมา
ข่าวที่ 4
ททท.ยึดเขื่อนขุนด่านปลุกท่องเที่ยวLifestyle Eat East@นครนายก20-21มี.ค.
นายสกล ทองคำ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานนครนายก เปิดเผยว่า ร่วมกัน 5 พันธมิตรหลัก คือ ททท. จังหวัดนครนายก เขื่อนขุนด่านปราการชล สาธารณสุขจังหวัดนครนายก และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก จัดงาน “Lifestyle Eat East@นครนายก-เทศกาลกินกุ้งกินปลา และของดีเมืองนครนายก” ระหว่างวันที่ 20-21
มีนาคม 2564 เวลา 15.30-23.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ เขื่อนขุนด่านปราการชล
ลักษณะของการจัดกิจกรรมจะจัดในรูปแบบของมหกรรมอาหารจำหน่ายอาหารเมนูกุ้ง-ปลา และของดีของฝากจากจังหวัดนครนายก
โดยรวบรวมร้านอาหารจากกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง-ปลาในพื้นที่
และสินค้าชุมชนจากกลุ่มชุมชนที่มีเอกลักษณ์ในท้องที่ เพลิดเพลินไปกับการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่จะมาสร้างสีสันภายในงานคือ
คณะลิเกชื่อดัง ศรรามน้ำเพชร และวงดนตรีวงข้าวเปลือก
การจัดงานครั้งนี้เพื่อ 4 เป้าหมายหลัก
1. สร้างกระแสการท่องเที่ยวนครนายก
2.กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกเพิ่มมากขึ้น 3.เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจกระจายอย่างทั่วถึงทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
4.ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการนครนายก ทั้ง
โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร
สินค้าของฝากของที่ระลึกที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
Covid-19 โดยเน้นตามรูปแบบวิถีปกติใหม่ (New
Normal) ภายใต้มาตรการสาธารณสุขและมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวตอกย้ำการท่องเที่ยวที่สะอาด
สะดวก ปลอดภัย
และผู้คนในพื้นที่ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี
สำหรับกิจกรรมพิเศษเข้าชมงานท่องเที่ยวฟรีที่บริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล 20-21
มีนาคม 2564 โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชมงานแบ่งเป็นรอบ
ๆ รอบละไม่เกิน 300 คน เว้นระยะห่างทางสังคม และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ตอกย้ำความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความสุขและสนุกจากการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และปลอดโรค เมื่อมาเที่ยวงาน
ข่าวที่ 5 “TCEB”รุกทำโปรเจ็กต์MICE Winnovationเร่งธุรกิจใช้ไฮเทคฟื้นตลาดครบวงจร
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
เตรียมจัดทำโครงการ MICE Winnovation -Winning with the Innovation
สนับสนุนเงินเพื่อการจัดหานวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพหรือยกระดับการจัดงานไมซ์
เชื่อมโยงเข้ากับการนำมาวางขายในตลาด หรือ Marketplace เพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์ได้พบปะกับผู้ให้บริการนวัตกรรมทางเทคโนลยี
ประการสำคัญโครงการนี้จะช่วยขับเคลื่อน
1.สร้างเครือข่ายธุรกิจเรื่องการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐานราก
2.สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย
3.ต่อยอดธุรกิจใหแตกต่างจากคู่แข่ง
และมีความเป็นสากลมากขึ้น 4.ช่วยสนับสนุนผู้ประอบการให้เข้าถึงบริการของภาครัฐด้านการส่งเสริมได้อย่างสะดวก
และสามารถเลือกใช้บริการได้ตรงตามความต้องการควบคู่กันไปด้วย
ช่วงที่ 2 ชวนกันออกเที่ยวให้สนุกที่ “นครนายก”
โดนใจไลฟ์สไตล์ใหม่ เริ่มจาก “สายมู” ต้องไป “วัด มณีวงศ์”
ตื่นตาประติมากรรมสุดอลังการถ้ำพญานาค 1,000 หัว “สายเอาท์ดอร์” พลาดได้ไงแลนด์มาร์คใหม่ Eco
Eyes Village กลางทุ่งนา 30 ไร่ ดงเรียนรู้พันธุ์ไม้ 77 จังหวัด เดินเขาวงกตขึ้นหอคอย
เรียนรู้วิถีพอเพียง “สายกิน” ตลุยสวนมะยงชิด และร้านตามหา ล่าของอร่อยใส่ท้อง
ส่วนการดูแลสุขภาพยุคนี้ต้องทำ “ดิจิทัลดีท็อกซ์” ล้างพิษโซเชียลออกจากตัว
ส่วนข่าวฮ็อต ๆ “ศบค.เคลียร์ท่องเที่ยวชัด2เรื่อง” สงกรานต์ห้ามสาดน้ำ ปลดล็อกต่างชาติหลัง 1
ต.ค.64 เลิกมาตรการกักตัว 14 วัน จับคู่ขายทัวร์ประเทศเสี่ยงต่ำ และ
“ดิวานาเวลเนสสปา” ลุกจับมือคนดัง “นุ่น-ศิริพันธ์”
เจ้าของโมเดลรักสิ่งแวดล้อมร่วมกันทำซีเอสอาร์ดึงชุมชนมีส่วนร่วมสร้างผลิตภัณฑ์สุขภาพ
นครนายก!!เที่ยวสนุก”สายมูวัดมณีวงศ์-สายเอาท์ดอร์Eco Eyes-สายกินมะยงชิด
เมื่อโควิดคลี่คลายหลายจังหวัดเริ่มเปิดเมืองต้อนนักเดินทาง
สายมู สายกิน สายเที่ยว แบบ FUN FIN
แนะนำไป “นครนายก” ตอนนี้มีแหล่งเช็คอินสนุก ๆ รออยู่แล้ว
“สายมูเตลู”
ตอนนี้ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ “วัดมณีวงศ์” อยู่แถวดงละคร
แลนด์มากใหม่ให้ไปชมประติมาถ้ำที่มีพญานาคนับ 1,000 หัว
ซึ่งเกิดจากหลวงพี่ต่อฝันเห็นพญานาคแล้วให้สร้างถ้ำแห่งนี้ขึ้นมาในวัด
จ้างช่างปูนปั้นมาจากกาญจนบุรี ชัยนาท
สร้างถ้ำปูนปั้นภายในออกแบบเป็นหัวพญานาครูปต่าง ๆ
โดยมีรูปหล่อหุ่นขี้ผึ้งเกจิอาจารย์ดังของเมืองไทยเกือบทุกองค์เรียงรายอยู่ตามซอกมุมต่าง
ๆ ด้วย นักท่องเที่ยวจะบอกกันปากต่อปาก
เพื่อมาชมความงามที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ เฉลี่ยวันธรรมดา 3,00-5,000 คน วันเสาร์-อาทิตย์ ยอดคนเข้าชมทะลุ 10,000
คน กระทั่งเคยมีสถิติมามากที่สุดถึง 30,000
คน
“สายเอาท์ดอร์”
เที่ยวธรรมชาติทุ่งโล่งกลางแจ้ง
แนะนำให้แวะมาที่ “Eco
Eyes Village” กลางทุ่งนาในอำเภอเมืองนครนายก
ดีไซน์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติแห่งใหม่สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบพาครอบครัวมาศึกษาเรียนรู้ต้นไม้ต่าง
ๆ โดยเฉพาะต้นไม้ประจำ 77
จังหวัด
พร้อมจัดทำเส้นทางปูนเป็นถนนดีไซน์ให้กลุ่มเป้าหมายหลักเด็กตาบอดได้ใช้ประโยชน์
กับมีหอคอยชมเขาวงกตที่จะนำทางไปสู่ป่าธรรมชาติ
ปลูกพันธุ์ไม้สลับกับการเลี้ยงไก่ไข่ ตามวิถีพอเพียง การปลูกผักอินทรีย์
การสอนทำน้ำหมักจากพืชผัก และ ห้องประชุมนอกสถานที่ทั้งในโถงโล่งกว้าง
โชว์ดีไซน์การนำไม้ไผ่มาตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสวยงาม
เควิน ลูกเจ้าของ Eco Eyes
Village นครนายก ลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง เพิ่งเรียนจบกฎหมายจากอังกฤษมาหมาด
ๆ ทายาทเจ้าของธุรกิจเหล็ก บริษัท นวสยาม จำกัด อาสามาดูแลสถานที่แห่งนี้ ซึ่งนำพื้นที่กลางทุ่งนากว่า
30 ไร่ เนรมิตให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติในเชิง CSR
เพื่อให้เด็กและคนตาบอดมาใช้บริการศึกษาธรรมชาติ
จุดไฮไลต์ใน
Eco Eyes Village
คือ “Eco Café’”
มีเมนูกาแฟซิกเนเจอร์ให้เลือกกว่า 10
รายการ เน้นกาแฟผสมผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหลาย ซึ่งดีต่อสุขภาพ
แถมรสชาติอร่อยเป็นอัตลักษณ์เฉพาะ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ ข้าว พืช ผัก
ออร์แกนิกวางขาย ตามที่เควินย้ำว่าในอนาคตจะให้ชาวบ้านในชุมชนรอบโครงการ
นำสินค้ามาวางขายนักท่องเที่ยว
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธุรกิจกับชุมชนเติบโตไปด้วยกัน
“สายกิน”
ตรงดิ่งไปยังร้านอาหารที่ชื่อ “ตามหา”
ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ เป็นเรือนชั้นเดียวบริการในห้องแอร์ เสิร์ฟเมนูอาหารไทย
เสิร์ฟเมนูยอดนิยมของร้านตามหาก็มี กุ้งเผา ต้มยำปลา ยำ ห่อหมกทะเล และอื่น ๆ ด้านหลังของร้านเป็นสวนมะยงชิด ผลผลิตรุ่นสุดท้ายกำลังสุกช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ก็น่าจะสิ้นฤดูกาล
ตอนนี้จึงยังพอมีวางขายราคากิโลกรัมละ 50-70 บาท
ตรงข้ามร้านอาหารตามหาเป็น
“สวนบุญล้อม” คุณน้อง เจ้าของสวนเล่าว่า
เป็นสวนตัวอย่างปลูกมะยงชิดมานานกว่า 40 ปี พื้นที่ 10 ไร่ มีประมาณ 300 ต้น ผลผลิตตอนนี้ยังมีวางขาย ราคาจะแตกต่างกันตามขนาดเล็กใหญ่
กิโลกรัมละ 170-200 บาท
รวมทั้งยังมี มะยงชิดแปรรูป เป็นแบบกวนคล้ายมะม่วง กับแช่อิ่ม รสชาติอร่อย
เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ต่างก็แวะอุดหนุน
วันเดียวก็สามารถเที่ยวได้ทั่วนครนายก
ทั้งสายมู-สายเอาท์ดอร์ สายกิน แล้วยังบุกมาชิมมะยงชิดได้ถึงสวนต้นตำรับ
ออกมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม จริง ๆ
ประโยชน์ของการหันมาทำดิจิทัลดีท็อกซ์ล้างพิษคนติดโซเชียล
คนไทยเราเดินมาถึงยุคต้องทำ
“ดิจิทัลดีท็อกซ์” หรือการกำหนดตนเองให้อยู่ห่างจากการใช้งานโซเชียลมีเดีย
รวมถึงการพึ่งพาเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ระยะหนึ่งนั่นเอง
แล้วทำไมเราจึงควรถอยห่างจากสื่อดิจิทัลนานๆ ครั้ง
ก็เพราะประโยชน์ดีๆเหล่านี้เลย!
1.ช่วยฟื้นฟูสัมพันธภาพกับคนใกล้ชิด : เพราะการใช้อุปกรณ์สื่อสารระหว่างทำงาน หรือระหว่างอยู่กับเพื่อนฝูง
ครอบครัว ล้วนเป็นตัวทำลายบรรยากาศของการสนทนาทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
2.ช่วยลดความเครียดได้ : เพราะการเปิดรับข้อมูลข่าวสารหรือความคิดเห็นต่างๆ ที่มากเกินไป
อาจเป็นบ่อเกิดแห่งความเครียดได้
ดังนั้นวิธีจัดการแก้ปัญหาที่ง่ายและตรงประเด็นที่สุดก็คือ
การหยุดพักการเปิดรับสื่อในโลกออนไลน์นั่นเอง
3.มีเวลาให้กับตัวเองได้มากขึ้น : เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อื่นๆ กับร่างกายและจิตใจ เช่น การออกกำลังกาย
หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี
4.ปลุกความคิดสร้างสรรค์ : ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
5.นอนหลับได้เต็มอิ่ม : และเป็นการนอนที่มีคุณภาพ โดยไม่มีสิ่งใดรบกวน
6.ช่วยฟื้นฟูสุขภาพกาย : แม้การพักร้อนจากโลกออนไลน์จะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื้อรังต่างๆ อาทิ ปวดหลัง
ปวดคอ ปวดศีรษะ หรือ อาการเกี่ยวกับดวงตาต่างๆ ได้อย่างถาวร แต่ก็เป็นการบรรเทาได้
7.ช่วยฟื้นฟูสุขภาพใจ : การหยุดตนเองจากการเปิดรับข้อมูลข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว
แล้วหันไปสนใจกับการสื่อสารกับคนรอบข้าง ช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวได้
8.เพิ่มสมาธิ : ในการจดจ่อหรือให้ความสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากขึ้น
9.เพิ่มทักษะคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา : เนื่องจากการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป มีแนวโน้มทำให้เราเลือกที่จะไม่ดึงศักยภาพของสมองและความขบคิดวิเคราะห์ของตนมาใช้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก ศบค.เคลียร์ท่องเที่ยว2เรื่อง“เที่ยวสงกรานต์-เลิกกักตัวต่างชาติ14วันหลังต.ค.64
นายแพทย์ทวีสิน
วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ศบค.) รายงานว่าได้รับมอบจากนายกรัฐมนตรี
มติที่ประชุม ศบค. โดยมีไฮไลต์มาตรการที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการท่องเที่ยว 2
เรื่องหลัก คือ
เรื่องที่
1 การจัดกิจกรรมสงกรานต์
มีมติชัดเจนให้แต่ละจังหวัดส่งเสริมการท่องเที่ยวปีใหม่ไทยด้วย “วิถีไทยดั้งเดิม”
สามารถรดน้ำดำหัว ขอพรผู้ใหญ่ ผ่านภาชนะ โดยไม่น้ำไปปะพรมแล้วเช็ดน้ำให้แห้ง
และสรงน้ำพระ หลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมในพื้นที่คับแคบ
ควรจัดในสถานที่เปิดโล่งอากาศถ่ายเทได้ดี แต่ขอให้งดเล่นสาดน้ำ งดจัดคอนเสิร์ต
งดกิจกรรมสัมผัสกันใกล้ชิด ปะแป้ง ปาร์ตี้โฟม
เรื่องที่
2 ลดระยะเวลาการกักตัว
ด้วยการให้ปรับรูปแบบสถานที่กักกันผู้ที่เดินทางเข้าออกประเทศ เฟส 1 ยังให้คงรูปแบบระหว่าง 1 เมษายน -30 มิถุนายน
2564 หลัง 1 เมษายน
นี้ จะผ่อนคลายโดยให้แสดงเอกสารใบยืนยันผ่านการตรวจโควิดอย่างเดียวได้
แล้วจากนั้นจะให้ไปสิ้นสุดมาตรการกักตัวได้ในเฟส 3 หลังเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ประเทศไทยอาจจะไม่ต้องกักตัวการเข้าออกอีกต่อไป
แต่ใช้จับคู่ประเทศที่จะเปิดรับเข้ามาหรือ Travel Bubble
อนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาระยะสั้นเพื่อประชุมสามารถใช้ห้องประชุมต่าง
ๆ ได้ พร้อมทั้งลดระยะเวลากักตัวคนที่เข้ามาไทยทั้งคนฉีดและไม่ฉีดวัคซีน
คนทั่วไปจาก 14 เหลือ 10 วัน มาตรการเฟสสอง เริ่ม 1 กรกฎาคม
ต่างชาติที่พักในโรงแรมสามารถมารับประทานตามห้องอาหารต่าง ๆ และใช้บริการนวดสปาได้
แล้วพอถึงวันที่
1 ตุลาคม 2564
เข้าสู่เฟส 3 อาจไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป
เบื้องต้นจะเปิดรับคนจากประเทศเสี่ยงต่ำทยอยเดินทางเข้ามาได้ แต่
ศบค.เองตอนนี้ยังคงมีความกังวลใจ กรณีต้นทางที่มาจากประเทศที่มีโควิดกลายพันธุ์
อาจจำเป็นที่ ศบค.สามารถกำหนดให้กักตัว 14 วันได้เป็นกรณีไป
ทั้งนี้
ศบค.พบสถิติมีคนไทยเดินทางเข้าออกสูงสุดแล้วเข้ากักตัว 7 ครั้ง
ต่อไปหากพบลักษณะดังกล่าวอาจจะต้องให้ออกค่าใช้จ่ายเอง เพื่อลดภาระของรัฐลง
ข่าวที่สอง ดิวานาสปาจับมือคนดังนุ่น/ศิริพันธ์ดันCSRชุมชน-DivanaUrban Forest
นายตี๋-พัฒนพงษ์
รานุรักษ์ กับนายตง-ธเนศ จิระเสวกดิลกจับมือกับ “นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา
เปิดแคมเปญการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้โลกได้จดจำ “อยู่ดี
ไปด้วยกัน : Divana Urban Forest”
เชื่อมโยงวัตถุดิบชุมชนต่างจังหวัดทั่วไทย เข้ากับธุรกิจแบรนด์ดัง ดิวานา เวลเนส
สปา ซึ่งมีความเป็นคนเมือง ผสมผสานการการช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน
โดยไม่ต้องรอให้รวยหรือมียิ่งใหญ่ คนไทยก็สามารถช่วยกันได้ สินค้าราคาเริ่มต้น 85
บาท พร้อมโปรโมชั่นชุดขึ้นบ้านใหม่
บรรจุอยู่ในกระเช้าไม้สาน มีทั้งน้ำยาถูพื้น ล้างจาน ซักผ้า ราคาพิเศษ 299 บาท จากปกติ 599 บาท และทุกการช้อปครบ 1,000 บาท ทางแบรนด์จะร่วมบริจาคผลิตภัณฑ์ขนาด 500
มล.ส่งต่อให้แก่ สันติภาวัน
สถานที่พำนักภิกษุอาพาธระยะท้าย โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด ลพบุรี ที่ดูแลเด็กวัย 4 ขวบ จำนวนกว่า 100 คน
สำหรับ
Divana Urban Forest ถือเป็นโมเดล Ecosystem ของการอยู่ดี ไปด้วยกัน
ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันระหว่างป่ากับเมือง ด้วยการนำของดีจากธรรมชาติมาผลิตเป็นสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้าน
4 ผลิตภัณฑ์
ได้แก่
1.น้ำยาทำความสะอาดพื้น
กลิ่น Blossom Summer ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้
97 %
2.น้ำยาล้างจาน
สูตรอ่อนโยนกลิ่น Orange Garden ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้
97 %
3.น้ำยาซักผ้า สูตรอ่อนโยนกลิ่น In the Wood
ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้ 99 %
4.น้ำยาปรับผ้านุ่ม
สูตรอ่อนโยนกลิ่น In the Wood
ช่วยถนอมใยผ้า ยืดอายุผ้า สามารถทนแรงซักได้มากกว่า 20 ครั้ง มีไวไฟเบอร์จากธรรมชาติป้องกันสิ่งสกปรกกระเด็นติดเสื้อผ้า
คนความร้อนสูง
โครงการนี้
“นุ่น-ศิรพันธ์” นั่งเป็น CEO ลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง
ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง คือลงพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิด
ทำความเข้าใจกับแต่ละชุมชน เพื่อนำวัตถุดิบมาใช้ในกระบวนการผลิต
เรื่อยไปจนถึงการผลิตแล้วส่งมอบให้สถานที่ต่าง ๆ เช่น วัด มูลนิธิ สปา และอื่น ๆ
โดยจะมีกระดาษให้แต่ละคนเขียนบอกว่าจะให้ “ส่งต่อ ผลิตภัณฑ์”
ดังกล่าวไปให้ใครหรือหน่วยงานใดได้บ้าง
สั่งซื้อได้ทางออนไลน์
www.divanaurbanforest.com,
FB Divana Urban Forest, IG divanaurbanforest, LINE @ divanaurbanforest หรือโทร.087-454-9696
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น