เปิดใจ“วณิชชา วัฒนพงศ์”แกนนำSMEท่องเที่ยวเปิดเทรนด์เที่ยวจันทบุรีปี’64 ถอดบทเรียน“โอเอซีสซีเวิลด์”นำธุรกิจรอดวิกฤตโควิด
“วณิชชา วัฒนพงศ์”แกนนำSMEท่องเที่ยวเปิดเทรนด์เที่ยวจันทบุรีปี’64
ถอดบทเรียน“โอเอซีสซีเวิลด์”ธุรกิจSMEภูธรหัวใจแกร่งรอดวิกฤตโควิด
คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าGADGETSชูดิจิทัลเทรนด์สุดล้ำลุยขายมี.ค.64
แบรนด์มหานครบูมแฟชั่นHype street looksรับตลาดเซิร์ฟสเก็ตสุดคูล
ททท.บูมจัดกระบี่นาคาเฟสต์ชูดนตรีกีฬาฮ็อตปั๊มรายได้19-21
มี.ค.64
ททท.หนุนจัดสงกรานต์บุรีรัมย์ดูดเงินเข้าอีสานใต้10วันเฉียด 2 พันล้าน
More Fun!!ปราจีนบุรีเด็ดใหม่สตาร์แค็คตัส/ออนเดอะทรี/นานาคาเฟ่
แพทย์ยันคนไทยมั่นใจฉีดวัคซีนกันโควิดการผลิตกับทดสอบผ่าน3ระยะ
สิงคโปร์แอร์นำร่องTRAVELPASSรายแรกของโลกไฟลต์ลอนดอน15มี.ค.
โชว์โลมาภูเก็ตลดใหญ่รับครอบครัวปิดเทอมเดือนสงกรานต์ตลอดเม.ย.
มาเจสติกจัดโปรแรงแพกเกจเที่ยวทะเลพัทยา/ตราด/หัวหินเริ่ม2,800บ.
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #โอเอซีสซีเวิลด์จันทบุรี
ช่วงที่ 1 เกาะติดธุรกิจหัวใจแกร่ง “วณิชชา วัฒนพงศ์” เจ้าของโอเอซีส ซีเวิลด์
จันทบุรี และที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวจันทบุรี ถอดโมเดลตัวอย่างธุรกิจ SMEs ต่างจังหวัดรอดได้ต้องสู้ยิบตาด้วย
3 ปัจจัย “สร้างกลไกบริหาร-ความรักในธุรกิจ-สายป่านการเงิน”
ตอนนี้กลับมาเปิดบริการแล้ว วอนรัฐใช้กลไกช่วยเอกชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ให้ถูกเวลา
ส่วนโลมาสีชมพู หัวบาก ทั้งสินสมุทร พุดซ้อน พร้อมทำงานเต็มที่
กำลังรอนักท่องเที่ยว“ป้อนอาหาร-เล่นน้ำด้วยกัน” ราคาสุดพิเศษลดถล่มทลายถึง 31
ธ.ค.นี้ กลุ่มทุเรียน เลิฟเวอร์ ห้ามพลาด!!
ต้นเม.ย.นี้ ตลุยกิน 30 สวนผลไม้ ตะลอนเที่ยวทะเล น้ำตก
ภูเขา More Fun วิถีใหม่ฟินสุด ๆ
วณิชชา วัฒนพงศ์ เจ้าของโอเอซิส
ซีเวิลด์ และที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรี เปิดเผยว่า
ขณะนี้โอเอซีสซีเวิลด์ จันทบุรี ซึ่งอยู่คู่กับนักท่องเที่ยวมากว่า 30 ปี ขณะนี้กลับมาเปิดให้บริการท่องเที่ยวโลมาแล้ว
โดยมีโลมาแสนรู้รวม 11 ตัว 2 สายพันธุ์
คือ สายพันธุ์หัวบากกับสีชมพู แต่ละตัวจะมีชื่อซึ่งจำชื่อของตัวเองได้
เมื่อนักท่องเที่ยวเรียกก็จะมีปฏิสัมพันธ์สื่อสารกันได้ หลัก ๆ
นักท่องเที่ยวจะได้ร่วม 2 กิจกรรมหลัก ๆ คือ 1.ป้อนอาหาร มีแพกเกจ อาหารโลมาเฉพาะเป็นปลาสด กระป๋องละ 100 บาท และ 2.ลงว่ายน้ำกับโลมาสายพันธุ์หัวบาก
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนนี้จัดทำราคาพิเศษสุด ๆ เหลือเพียงคนละ 999 บาท
จากปกติ 2,500 บาท เป็นโปรโมชั่นเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31
ธันวาคม 2564
เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมเพิ่มมากขึ้น
ทางโอเอซีสมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทำพื้นที่รักษาระยะห่างทางสังคม
เปิดให้นักท่องเที่ยวชมโชว์โลมาได้ครั้งละไม่เกิน 400 คน
จากเดิมเข้าได้ถึง 1,000 คน (ที่นั่ง)
ส่วนการเล่นน้ำกับโลมาจำกัดรอบละไม่เกิน 10 คนเท่านั้น
จึงจะขอรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวโทรศัพท์จองล่วงหน้าก่อนเข้ามาใช้บริการได้ที่ 039-499-222
เพื่อแจ้งรอบที่จะเข้าทำกิจกรรมแต่ละครั้ง
สามารถจองล่วงหน้ายาวได้ด้วย
ส่วนการท่องเที่ยวชีวิตวิถีใหม่หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง
ทางโอเอซิสมีบริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวนั่นก็คือ
สามารถป้อนอาหารโลมาผ่านทางออนไลน์ได้
โดยจะมีไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊คแล้วทางโค้ชจะคอยป้อนแทนนักท่องเที่ยวที่ซื้อแล้วต้องการให้อาหารโลมาแต่ละครั้ง
โดยมีความพิเศษคือ สามารถระบุชื่อโลมาแต่ละตัวที่ต้องการให้อาหารได้ เช่น สินสมุทร
พุดซ้อน เป็นพระเอกนางเอกในโซนโชว์โลมา ด้วย
หรือ 2.จองซื้ออาหารทางออนไลน์
แล้วช่วงเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อรับประสบการณ์ตรงตามปกติในโอเอซีสก็แจ้งรับอาหารไปป้อนโลมาได้เช่นกัน
ขณะที่สถานการณ์ตอบรับของ
“นักท่องเที่ยวตลาดในประเทศ” ช่วงวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ เฉลี่ยวันละประมาณ 100 คน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์
หรือเทศกาลวันหยุดนักขัตฤกษ์ หยุดยาวต่อเนื่อง ซึ่งมีตั้งแต่ตรุษจีน เฉลี่ยวันละ 400-500
คน ภาพรวมยังมีปริมาณน้อยอยู่ แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าคนเริ่มมั่นใจในการออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง
“ตลอดช่วงการหยุดตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกแรกต้องล็อกดาวน์ หยุดบริการชั่วคราวปี2563 และเจอกับระลอกสองปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
มีนักท่องเที่ยวที่มีความผูกพันกับโลมาของโอเอซีส ส่งกำลังใจมาเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่เคยมาเป็นครอบครัว
เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายแล้วผนวกกับสถานประกอบการท่องเที่ยวแต่ละประเภทในจันทบุรีตื่นตัวเข้ามาร่วมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยที่ได้ตราสัญลักษณ์
SHA :Amazing Thailand Safety and Health Administration เป็นจำนวนมาก
ยิ่งช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้คนเข้ามาใช้บริการ
เพราะทุกการเดินทางของแต่ละคนสามารถกระจายเม็ดเงิน สร้างงาน สร้างรายได้
กระจายสู่เครือข่ายการท่องเที่ยวตั้งแต่ระดับชุมชน แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
ไปจนถึงโรงแรมที่พักขนาดใหญ่ จึงต้องการปลุกกระแสออกมาเที่ยวเพื่อช่วยกันให้ผู้ประกอบการฟื้นตัวดำเนินธุรกิจพร้อมให้บริการได้เหมือนเดิมต่อไป
นางวณิชชากล่าวว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวทุกอย่างในจันทบุรีเปิดบริการ
95 % แล้ว ทั้งทะเล หาดทราย ชายหาด ภูเขา น้ำตก โรงแรม
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่เก๋ ๆ พลอยเหล็กเพชร วีว่าฟาร์ม เชิญมาใช้บริการได้ทุกวัน
จากนั้น “สวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยว”
จะเริ่มทยอยเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป เท่ากับเปิดครบ 100 % แล้ว
สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ภายในเวลา 15-30 นาที
และท่องเที่ยวได้ทุกอำเภอ
ตอนนี้ทั้งสวนทุเรียน
มังคุด ลองกอง เงาะ และผลไม้ขึ้นชื่อชนิดต่าง ๆ ของจันทบุรี กำลังติดดอก
ผลผลิตแต่ละชนิดโดยเฉพาะทุเรียนมีทุกอำเภอ มีมากกว่า 30 สวน จะเริ่มสุกรับประทานได้ต้อนรับสงกรานต์นี้
ลักษณะของสวนคล้ายกันเป็นคนท้องถิ่นเกษตรตัวจริง
อีกทั้งผลไม้จะสุกครบทุกชนิดพร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เมษายน-พฤษภาคม นี้
โปรแกรมแนะนำนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยว
“โอเอซิส” เสร็จเรียบร้อย ในรัศมีการเดินทางเพียง 10 นาที จะมีผลไม้ให้แวะเยี่ยมชม ในอำเภอพลิ้ว 3-4 แห่ง
บนถนนเส้นทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ตรงอำเภอท่าใหม่ก็มีอีก 6-7 สวน
หรือต่างอำเภอก็มีสวนผลไม้กระจายอยู่ครบทุกแห่ง
สามารถวางแผนการเดินทางโดยเข้าไปดูข้อมูลจาก Page Facebook ของ
ททท.จันทบุรี หรือสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรี
จะมีข้อมูลอัพเดทอยู่ตลอดเวลา
ปี 2564 ทุเรียนสุกเร็วกว่าทุกปีเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เพราะสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นมาเร็วทำให้ล็อตแรกออกสู่ตลาดบ้างแล้ว ราคา 100-200 บาท/กก. เปรียบเทียบแล้วจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ขณะนี้เจ้าของสวนผลไม้ในจันทบุรีได้ประชุมกับทาง
ททท.พร้อมทั้งกำหนดมาตรการรับนักท่องเที่ยวที่เข้าชมสวนผลไม้
ตั้งแต่การสวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ ประการสำคัญ การเว้นระยะห่าง
เดิมเคยจัดบุฟเฟต์ผลไม้ ปีนี้จะต้องเปลี่ยนรูปแบบไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น 1.โปรโมชั่นกินทุเรียนบุฟเฟต์แบบอิ่มละกี่บาท
นั้นก็คงต้องเปลี่ยนไป เป็น “ซื้อตามความพอใจ” ในราคาที่แต่ละสวนกำหนด
ตามคุณภาพที่ชอบแกะทุเรียนรับประทานได้ทันที
เพื่อสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวทุกคน
นางวณิชชา
กล่าวว่าโอเอซีส เองต้องเผชิญความท้าทายถือเป็นตัวอย่างการฝ่าวิกฤตโควิด-19 มาได้ ด้วยโมเดลการเผชิญหน้าตามความเป็นจริง
ของธุรกิจที่เรียกได้ว่าเป็น ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs วันนั้นมีทางออก “เพียงทางเดียว” เท่านั้นคือ “ต้องสู้แล้วรอดให้ได้”
เนื่องจากโอเอซีสเป็นแหล่งท่องเที่ยวโชว์โลมาและฟาร์มสัตว์ ปัจจัยหลักคือ
ปัจจัยที่ 1
ค่าใช้จ่ายเหมือนปกติไม่ว่าจะปิดหรือเปิดบริการ ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะค่าอาหารโลมา และสัตว์อื่น ๆ
จะมีหรือไม่มีวิกฤตโควิดต้นทุนก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะสัตว์ต้องกินอาหารตามปกติ
ซึ่งจะต้องใช้กลไกการบริหารที่รอบคอบระมัดระวังพอสมควร
ปัจจัยที่ 2 ใจต้องสู้ปักหมุดหมายไว้คือรอดให้ได้เท่านั้น ด้วยการใช้ทักษะของนักธุรกิจต่างจังหวัด ตัดสินใจนำทรัพย์สินเป็นที่ดิน 1 แปลง ไปขายเพื่อนำเงินมาพยุงกิจการ ประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ และต้องดูแลพนักงานทุกคนด้วย 3.ต้องผ่าปัญหาเชิงรุก เพราะต้องเจอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สองรอบ รอบแรกต้นปี 2563 รอบสองปลายปีเดือนธันวาคม 2563 แต่ละครั้งสภาพปัญหาก็แตกต่างกัน
หัวใจสำคัญการฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระลอกแรกผ่านพ้นมาได้คือ
“แบรนด์โอเอซีสอยู่ในใจของลูกค้า” ด้วยบริการอย่างมิตรและคุณภาพ อยู่กับนักท่องเที่ยวมานานกว่า
30 ปี จึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนที่เคยเดินทางมาใช้บริการ
เมื่อเกิดวิกฤตก็ได้ความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวและคนรู้จักช่วยกันโพสต์ผ่านโซเชียล
มีเดีย แล้วก็แชร์ต่อไปกันเยอะมาก
ส่วนระลอกสอง
“เน้นหารายได้วิถีใหม่” เพื่อมาเป็นค่าอาหารโลมา อาหารสัตว์
และเม็ดเงินรักษาการจ้างงานน้อง ๆ กอดคอช่วยกันมาตลอด โดยหันมาเปิดช่องทาง
“การขายผ่านออนไลน์” ถึงแม้จะเดินทางมาไม่ได้ หรือไม่พร้อมเพราะสภาพเศรษฐกิจ
ดังนั้นจึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมผ่านออนไลน์ถึงกิจกรรมความน่ารักของโลมาโอเอซีส
การผ่าทางรอดของโอเอซีสกับสถานการณ์ระบาดของโควิดทั้ง 2 ครั้ง ถือเป็นการปรับตัวจากประสบการณ์แลกเปลี่ยนกับ “ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยว” ที่ช่วยอย่างเต็มที่ ทุก ๆ วัน เป็นการใช้ความจริงใจซื่อสัตย์ต่อลูกค้ามาตลอดเป็นพลังฝ่ามรสุมมาได้จนถึงวันนี้
ปัจจัยที่ 3 “สายป่านทางการเงิน” ของผู้ประกอบการ SMEs เป็นหัวใจสำคัญอย่างมาก เมื่อมองย้อนวิกฤตกลับไปจะพบคำตอบชัดเจนว่า
หากขาดเงินทุนสำรองหรือเจอวิกฤต SMEs
เกือบทุกรายต้องลำบากแน่ ๆ บางรายอาจถึงทางตัน แต่โอเอซีสเราไม่ยอมแพ้
ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอกกับทุกภาคส่วนคือ
เมื่อธุรกิจ SMEs ของประเทศต้องเจอวิกฤต
“ความช่วยเหลือ” อย่างแรกคือ “มาตรการช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน”
ประคองให้ผ่านพ้นความยากลำบากในช่วงหลังจากนี้ไปให้ได้อีก 1-2 ปี ตัวอย่างมาตรการรัฐบาลเรื่องการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft
Loan) มาตั้งแต่ปี 2563
แต่
“กลไกการเข้าถึงเงินทุน”
อาจจะไม่เข้าถึงทุกส่วนหรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่ต้องเจอภาวะยากลำบากอยู่แล้ว
“การเข้าถึงเงิน” ซึ่งมีกฎเกณฑ์ กติกา ต่าง ๆ กับ “ระยะเวลา” พิจารณาปล่อยเงินกู้
“ไม่ทันท่วงที” จึงไม่สามารถช่วยผู้ประกอบการได้ในเวลานี้ เดี๋ยวนี้
และเป็นเม็ดเงินที่มากพอ
หรือแม้กระทั่งกฎเกณฑ์ที่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือด้วยซ้ำไป
ในฐานะผู้ประกอบการ
SMEs จึงอยากขอความกรุณาถ้าเป็นไปได้ ในการให้
“ความช่วยเหลือภาคธุรกิจ” ช่วยผสมผสาน ปลดล็อกเงื่อนไขแรกก่อนนั่นคือ
“กลไกให้ธุรกิจเข้าถึงเงินกู้ก่อน” ผสมสานกับอัตราดอกเบี้ยและการระยะเวลาชำระคืน
ช่วยผ่อนกฎเกณฑ์ กติกา รวมถึง “มองเจตนาเจ้าของกิจการ SMEs”
เพราะทุกรายต้องการอยู่รอด โดยดูแลกลไกช่วยให้เศรษฐกิจก้าวต่อไปได้ เพื่อให้น้อง ๆ
พนักงานมีงาน มีอาชีพ อยู่ได้ต่อไปด้วย
เพราะพนักงานมีเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าซึ่งแต่ละคนผ่านการสั่งสมประสบการณ์และใช้เวลาสร้างองค์ความรู้
จึงต้องรักษาพวกเขาไว้
เพราะเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาจะได้มีบุคลากรมืออาชีพไว้ให้บริการ
จึงอยากจะส่งเสียงไปถึงผู้เกี่ยวข้องในฐานะ
“ภาคธุรกิจ” ที่ส่งเงินประกันสังคมร่วมกับพนักงานอย่างมีวินัยมาตลอด
พอมาถึงวันที่เราต้องเผชิญวิกฤตรุนแรง รัฐหรือหน่วยงานเกี่ยวข้องจะมี “ช่องทางไหน”
ช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่อง
ก็อาจจะเป็นอีกแนวทางที่ดีกว่าการรอแต่เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพียงอย่างเดียว
วันนี้โอเอซีส ซีเวิลด์ มุ่งมั่นทุ่มเทตั้งเป้าหมายจะต้อง “รอดวิกฤต” ครั้งนี้ให้ได้ แล้วกลับมายืนหยัดเป็นส่วนหนึ่งช่วยจังหวัดจันทบุรีและประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเติบโตไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์พาเหรดGADGETSดิจิทัลเทรนด์สุดล้ำลุยขายมี.ค.64
คิง เพาเวอร์ คัดสรร GADGETS UPDATE สินค้าคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดัง มาให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝาก หรือของใช้ส่วนตัว เทรนด์ล้ำๆ มาให้เลือกช้อปผ่านทางหน้าร้าน ออนไลน์www.kingpower.com และแอพลิเคชั่น คิง เพาเวอร์ ดังนี้
1.FUJI X-T200 NEW COLOR BLACK -X-T200 Kit 15-45 mm. คุณสมบัติระดับมืออาชีพอยู่แค่ปลายนิ้ว
กับตัวกล้องมิเรอร์เลสที่มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด มาพร้อมช่องมองภาพ EVF ให้ความละเอียดสูง ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 8 ภาพต่อวินาที
ที่ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ด้วยหน้าจอ LCD แบบกว้างพร้อมระบบสัมผัสและปรับหมุนจอได้
2.NESTLE THAI -NESPRESSO GRAN LATTISSIMA WHITE & BLACK
COLOR เครื่องชงกาแฟที่สามารถสร้างสรรค์เมนูกาแฟนมได้หลากหลายภายใต้ฟังก์ชันการใช้งานที่แสนง่ายในปุ่มเดียว
ไม่ว่าจะเป็น คาปูชิโน่ ลาเต้ แฟลตไวท์ ฟองนม และอื่นๆ อีกมากมาย
มาพร้อมระบบล้างอุปกรณ์ในตัว อีกทั้งยังมีดีไซน์กะทัดรัด เรียบหรู
ตามแบบฉบับของเครื่องตระกูล Lattissima พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาแสนพิเศษกับคนที่คุณรักได้จากที่บ้าน
3.JBL JBL T225 -หูฟังไร้สายแบบ Earbuds จาก JBL เชื่อมต่อโดย Bluetooth 5.0 แบบแยกอิสระซ้ายขวา
สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว มีความเสถียร ให้สัญญาณที่คมชัด ใช้งานต่อเนื่อง 5
ชั่วโมง และยังชาร์จเพิ่มจากเคสได้ถึง 4 ครั้ง
รวมแล้วใช้งานได้ยาวนาน 25 ชั่วโมง ใช้ฟังเพลงได้ยาวๆ
หรือจะใช้สนทนาโทรศัพท์ก็ไม่มีปัญหา ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ
4.JBL -JBL PARTYBOX ON THE GO ลำโพง Bluetooth ไร้สายสำหรับปาร์ตี้ เอกลักษณ์ของเสียงแบบ JBL Pro Sound สนุกได้ทั้ง Indoor และ Outdoor การันตีความสุดยอดกับรางวัล Red Dot Award 2020 มาพร้อมไมค์ไร้สาย
2 ตัว ร้องเพลงแบบไม่มีลิมิต รับสัญญาณได้ไกลถึง 10 เมตร กันน้ำระดับ IPX4 พกพาเคลื่อนย้ายง่าย
ด้วยสายสะพายที่พาลำโพงไปกับคุณได้ทุกที่ทุกเวลา
5.DIVOOM DITOO
PLUS - ลำโพงพกพาขนาดกะทัดรัด ที่มาพร้อมกับ Driver DSP คุณภาพเสียงคมชัดรอบทิศทาง 360 องศา
รองรับแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ สามารถใช้งานต่อเนื่องยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง รองรับ Bluetooth 5.0 โดยเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ถึง
10 เมตร น้ำหนักเบาเพียง 505 กรัมเท่านั้น
6.DIVOOM SLING BAG - กระเป๋าสะพายข้าง ขนาดเล็กเหมาะแก่การพกพาในชีวิตประจำวัน
ให้คุณสามารถออกแบบ Pixel Art & Animation เปลี่ยนแปลงรูปภาพ
ข้อความสไลด์บนหน้าจอ หรือแสดงโลโก้ของ Team, Memes, Emoji และอื่นๆ
ได้ เปิดใช้งานด้วยการเชื่อมต่อกับเพาเวอร์แบงก์ และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Bluetooth
5.0
แบรนด์มหานคร (MAHANAKHON) ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ภายใต้ธุรกิจ คิง
เพาเวอร์ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่น
ขานรับกระแสคนรุ่นใหม่ในประเทศ จึงเอาใจสายสตรีตแฟชั่น
Hype street looks ด้วย “หมวก” ทรงบัคเก็ตสุดคูล “เสื้อผ้า” ชุดลำลองสกรีนลายสุดเท่
สะดวกต่อการเคลื่อนไหว รวมไปถึง “รองเท้า” สนีกเกอร์พื้นแบนสวมใส่สบาย แต่สไตล์ก็ยังต้องมี
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป อาจทำให้การเล่นเซิร์ฟสเก็ตต้องสะดุด
อาจไม่สนุก
ผลิตภัณฑ์แฟชั่นของแบรนด์มหานครครั้งนี้
พร้อมจะตอบสนองนักเล่นเซิร์ฟสเก็ตที่ชื่นชอบกีฬาที่สามารถบ่งบอกไลฟ์สไตล์และตัวตน ไปพร้อม
ๆ กันได้ ไล่ตั้งแต่ลายบอร์ดที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของเจ้าของ
ไปจนถึงเสื้อผ้าหรือแอคเซสซอรีต่างๆ ที่ผ่านการคิดมาแล้วตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทำให้การเล่นเซิร์ฟสเก็ตถูกยกระดับให้น่าหลงใหลขึ้นไปอีก “แบรนด์มหานคร”
เลือกช้อปสินค้า Hype street looks
แบรนด์มหานคร เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับทุกไลฟ์สไตล์ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/mahanakhonshopbkk
Instagram: https://www.instagram.com/mahanakhonshop_bkk/
Line: @mahanakhonshop_bkk
ข่าวที่ 3 ททท.บูมจัดกระบี่นาคาเฟสต์ชูดนตรีกีฬาฮ็อตปั๊มรายได้19-21 มี.ค.64
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ จังหวัดกระบี่ ลุยจัดงาน “กระบี่ นาคา เฟสต์ 2564 : KRABI NAGA FEST 2021” ระหว่าง 19-21 มีนาคม 2564 เวลา 16.00 - 23.00 น. ณ หาดคลองม่วง กระบี่ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงดนตรีผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น
เพิ่มสีสันจัดลานกีฬาเทรนด์ใหม่อย่างเซิร์ฟสเก็ต เซิร์ฟบอร์ด แพดเดิ้ลบอร์ด
เข้าไปด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยววิถีใหม่ กระตุ้นการรับรู้อย่างเข้าใจพื้นที่ท่องเที่ยว
รวมทั้งมีเป้าหมายหลักเรื่องกระตุ้นการเดินทางและเพิ่มค่าใช้จ่าย
สร้างงานสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น ช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายหลังวิกฤติโควิด-19
กิจกรรมภายจะได้สัมผัสการท่องเที่ยววิถีใหม่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ประกอบด้วย เรื่องการ “ได้ชม” และรับฟังเพลงจากศิลปินสุดอาร์ต ยอดนิยมจากเมืองไทย “เชียร์” และร่วมกิจกรรมกีฬาสุดฮิตทั้งเซิร์ฟสเก็ต สเก็ตบอร์ด และแพดเดิ้ลบอร์ด “ชิมและช้อป” อาหารเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่คัดสรรของดีมีคุณภาพ ของโรงแรมที่มีชื่อดังในกระบี่นำสินค้ามาออกร้านขายตลอดงาน
ข่าวที่ 4 ททท.หนุนจัดสงกรานต์บุรีรัมย์ดูดเงินเข้าอีสานใต้10วันเฉียด2พันล้าน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นำ ททท.และหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน จัดเทศกาล “อะเมซิ่ง สงกรานต์บุรีรัมย์ พรีเซ็นเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง : AMAZING SONGKRAN BURIRAM PRESENTED BY CHANG ต่อเนื่องยาวระหว่างวันที่ 6 -15 เมษายน 2564 ที่บุรีรัมย์ วางคอนเซ็ปต์ให้เป็น สุดยอดงานสงกรานต์แนวคิดใหม่ ยิ่งใหญ่ที่สุด ปลอดภัยที่สุด และสนุกสนานที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สาดแสง สาดสี สาดของดี บุรีรัมย์ แต่ไม่สาดน้ำ” สร้างความมั่นใจควบคู่การสร้างต้นแบบใช้งานเทศกาลท่องเที่ยวรายการใหญ่ฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับมามีความมั่นคงแข็งแรงนับจากนี้เป็นต้นไป
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ร่วมสนับสนุนงาน Amazing Songkran Buriram ประเมินตลอดสงกรานต์ 10 วัน จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าพ้นที่ในพื้นที่ได้กว่า 400,000 คน สร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่บุรีรัมย์และแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงรวมกว่า 1,936 ล้านบาท มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 2,200 บาท/คน/วัน และ ระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 2.2 วัน/ทริป
ด้วยการใช้กลยุทธ์อีเวนต์การตลาดส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านเทศกาลงานสงกรานต์ ตามรูปแบบเกมเปลี่ยนวิกฤต (Game Changer) กระตุ้นการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยและชาวต่างชาติเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการควบคุม บริหารจัดการด้านสาธารณสุข ของไทย โดย ททท. ยังคงดำเนินการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้หลักการผ่อนคลายตามมาตรการของ ศบค. และแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า
ภายในงานจะมีกิจกรรมเด่น ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกทุกวันได้แก่ 1.ขบวนจักรยาน
“บุรีรัมย์ ไบค์ไนท์” ประดับไฟแสงสีสวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปอวดลงในโซเชียลมีเดีย 2.เทศกาลประกวดโคมไฟ
จะให้แต่ละอำเภอนำไอเดียคิดประดิษฐ์โคมไฟมาประกวดกัน
ดึงความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เห็นโคมไฟที่สะท้อนความเป็นวิถีชาวบุรีรัมย์ 3.บุรีรัมย์
สตรีทฟู้ด จะมีอาหารขึ้นชื่อของบุรีรัมย์มากมายหลากหลายเมนูมารวมไว้ในงานเดียว พร้อมกับการขายสินค้าพื้นถิ่น
ของดีบุรีรัมย์ เพื่อตอบสนองนักท่องเที่ยวครบทุกเรื่อง
ช่วงที่ 2 ออกไปเที่ยวด้วยกัน ที่ “ปราจีนบุรี” เปิดจุดเช็คอินใหม่ ๆ แล้วจะได้รู้ว่าวิกฤตโควิด-19 ทำให้SMEท่องเที่ยวมีโอกาสอย่างที่ “สตาร์แค็คตัส-นานาคาเฟ่ แอนด์เรสเตอรองส์-On the Tree” มีจุดขายใหม่มาชวนไปเที่ยว ส่วนเรื่องสุขภาพ คุณหมอโรงพยาบาลรามาธิบดี นำข้อมูลมายืนยันความมั่นใจคนไทยที่จะฉีดวัคซีน ขั้นตอนการผลิตและทดสอบผ่านฉลุยมาแล้ว 3 ระยะ เกาะติดข่าว “สิงคโปร์แอร์ไลน์สใช้ IATA TRAVEL PASS” รายแรกของโลกเริ่ม 15 มี.ค.64 “โชว์โลมาภูเก็ต” ลดค่าเข้าชมรับปิดเทอมตลอด เม.ย.นี้ และ “มาเจสติก แทรเวล” มีโปรใหม่แพกเกจเที่ยวทะเลอ่าวไทย เกาะช้าง ตราด ชะอำ หัวหิน ลดรัว ๆ เริ่มต้นจ่ายแค่คนละ 2,800 บาท
More
Fun!!ปราจีนบุรีเด็ดใหม่สตาร์แค็คตัส/ออนเดอะทรี/นานาคาเฟ่
วันแรก
ทีมสำรวจเติมประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งใหม่ ล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ ช่วงเช้าไปราว 2
ชั่วโมง ก็ถึงสถานที่แรก “สตาร์
แค็คตัส” สวนตะบองเพชรในครัวเรือนของ “คุณพ่อถวิล-โอ/ลูกสาว-โคล่า/ลูกเขย-หลาน ๆ”
ช่วยกันออกแบบที่ดินติดบริเวณบ้านพักอาศัยในซอยให้กลายเป็น “เรือนแค็คตัส”
สวนตะบองเพชรที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมของผู้คนทุกวัยจำนวนหลายพันต้น
ใช้เวลาบ่มเพาะนานกว่า 5 ปี
จนกลายเป็นธุรกิจขนาดเล็กในครัวเรือน อาชีพทำเงินหล่อเลี้ยงครอบครัว อยู่ได้สบาย ๆ
ยิ่งในช่วงสถานการณ์ที่ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบจากพิษไวรัสโควิด-19 เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติหดหาย ทว่า
“สตาร์ แค็คตัส” กลับทำรายได้เติบโตเป็นสองเท่าสวนทางวิกฤต
เพราะนักเล่นตะบองเพชรแห่แหนกันสั่งซื้อทางออนไลน์
สนนราคามีหลากหลายตั้งแต่ต้นละหลัก 100 -40,000 บาท ทำรายได้วันธรรมดา 30,000-40,000 บาท เสาร์-อาทิตย์เฉียดหลักแสนบาท
“สตาร์
แค็คตัส”แหล่งเที่ยวครอบครัวสวนตะบองเพ็ดโตสวนโควิด
“โอ”
มีหน้าที่ทำคราฟตัดต่อสายพันธุ์ตะบองเพ็ด โดยการนำช่อดอกของ “ต้นพันธุ์”
มาต่อลงบนตอตะบองเพ็ด แล้วขายได้ราคา หากเป็นต้นพันธุ์ราคาประมาณ 500-1,000 บาท ส่วนตอที่นำมาใช้ต่อดอกคิดราคา 50-100
บาท/ตอ
ขึ้นอยู่กับความสูงของตอซึ่งจะต้องใช้เวลาเลี้ยงนานกว่าจะโต
“โอกับโคล่า”
สองสามีภรรยาช่วยกันบอกเล่าเรื่อง เคล็ดลับการเลี้ยงตะบองเพชรให้เติบโตสวยงาม คือ
“ต้องใช้เวลา” และ “อดทนรอคอย” กว่าจะได้ตะบองเพชรที่ เห็นแต่ละต้นสวย ๆ
ต้องใช้เวลาเลี้ยงราว 5 ปี
นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยี่ยมชมได้ มีสอนฟรีทำ D.I.Y.วิธีต่อดอกกับตอแค็คตัสเพื่อนำกลับไปเลี้ยงเองที่บ้านได้
“พ่อถวิล”
กล่าวปิดท้ายให้ว่าหลังเกษียณก็หันมาทำสวนแค็คตัสอย่างจริงจังนานกว่า 10 ปี ตอนนี้ส่งไม้ต่อให้ลูกสาว/ลูกเขย
กับหลาน ๆ ทำเป็นอาชีพต่อไป
เป็นอีกหนึ่งโมเดลแห่ง “ความพอเพียง” ของครอบครัว “สตาร์ แค็คตัส” ปราจีนบุรี
แวะ“มาชิมกัญ”ที่บ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรเมนูดัง“กิน/ดื่ม”กัญชา
จากสวนสตาร์
แค็คตัส เราขับรถกันไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง แวะร้าน “บ้านเล่าเรื่อง” ครัวอาหารสมุนไพรไทยในเครือของอภัยภูเบศร์
ตอนนี้กลายเป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวไปแล้ว ด้วยเมนูดึงดูดความสนใจ “มาชิมกัญ”
แต่ละเมนูจะมีส่วนผสมของ “กัญชา” พืชยอดฮิตของคนไทยในตอนนี้ “คุณป้อม”
ผู้จัดการร้านทยอยให้บริกรยกมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ มีทั้ง ขนมปังหน้าหมูคึกคัก
ไข่เจียวมีกัน ผัดกระเพราสุขใจ เทมปุระแป๊ะยิ้ม พิซซ่าอารมณ์ดี ต้มแซ่บซดเพลิน
ทุกเมนูมีส่วนผสมของใบกัญชาแบบปรุงสุกรวมอยู่ด้วยในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
คุณป้อมยืนยันว่า
ตอนนี้สนนราคา “ใบกัญชาสด” กิโลกรัมละ 4,000 บาท ส่วน “กัญชาป่นแห้ง” กิโลกรัมละทะลุ 10,000
บาท
ส่วนอาหารที่มีส่วนผสมของใบกัญชากระแสตอบรับดีมาก
มีนักท่องเที่ยวแวะมาอุดหนุนเต็มร้านทุกวัน
นอกจากอาหารแล้ว
ยังมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ “น้ำกัญชาปั่นผสมน้ำส้ม”
และของหวานที่หยิบขายมือเป็นละวิง คือ คุ้กกี้กัญชา 1 ซอง มีประมาณ 6 ชิ้น ราคา 60 บาท กับเค้กกัญญา ราคากล่องละ 30 บาท
รับประทานอาหาร
“มาชิมกัญ” ที่บ้านเล่าเรื่อง เสร็จเรียบร้อยแล้วไปต่อเลยจร้าที่ “On
the Tree Cafe” ซึ่งทาง “คุณแอ้ม-ธนพล”
เจ้าของเป็นคนออกแบบและสร้างซิปไลน์ (สะพานห้อยโหนบนต้นไม้สุดหวาดเสียว)
มาแล้วทั่วประเทศ ทั้งที่ดอยตุง เกาะช้าง ตราด พัทยา หัวหิน
ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2563 ขยายมาสร้างแห่งใหม่กลางสวนผลไม้
สวนกระท้อนกับมะยงชิด ปราจีนบุรี ในพื้นที่รวม 18 ไร่
แต่บังเอิญเจอโควิดระลอกใหม่จึงเงียบเหงาอยู่พักใหญ่
ตั้งแต่มีนาคม
2564 เป็นต้นไป “On
the Tree Cafe”
เริ่มกลับมาเปิดให้บริการแล้ว แวะมาเช็คอินอุดหนุนกันได้ ภายในจะมีไฮไลต์คือ
“ซิปไลน์” บนต้นไม้ชวนให้ลองปีนสักครั้ง ตอนนี้มีโปรโมชั่น คนละ 100 บาท ซื้อ 2 แถม 1 ด้านล่างสร้างซุ้มนั่งชีล
ๆ พร้อมเสิร์ฟกาแฟสูตรเก๋ ๆ ซิกเนเจอร์คือ “อเมริกาโน่ออเรนจ์”
ของรับประทานหลักคือ “เฟรนซ์ฟราย” เป็นเมนูยอดฮิตของเด็ก ๆ
ที่พ่อแม่พามากับครอบครัว กับ “ส้มตำ” ที่คนท้องถิ่นแถบนี้นิยมสั่ง
“On The Tree” คาเฟ่ดื่มกาแฟบนต้นไม้สูง150เมตร
“แอ้ม”
บอกว่าอนาคตจะขยายเพิ่มให้ได้ตามมาตรฐานบริการของซิปไลน์สไตล์ On the Tree ตอนนี้ขอดูกระแสตอบรับของตลาด
ปัจจุบันยังเป็นลูกค้าในพื้นที่ กลุ่มครอบครัว กับข้าราชการ
จึงกำลังเชื่อมโยงการขายเพิ่มกลุ่มเอาท์บาวนด์เศรษฐีที่เคยเที่ยวนอกหันมารวมตัวกัน
“ปั่นจักรยานท่องเที่ยวชุมชน“ ระยะทางรอบปราจีนบุรีประมาณ 30 กม.
เริ่มมีกลุ่มนักปั่นซึ่งเคยเป็นลูกค้าเก่าซึ่งเคยซื้อทัวร์ไปปั่นจักรยานในต่างประเทศเข้ามาร่วมปั่นอุดหนุนธุรกิจท้องถิ่นในปราจีนบุรี
วันนี้ตะลอนสำรวจ
3 แห่งแล้ว
ขอแว้บไปเช็คอินห้องพักก่อนที่ “เดอะ มัลดีฟ ปราจีน”
รีสอร์ตสไตล์แคมป์ที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาออกแบบเป็นห้องพักตั้งอยู่ริมทะเลสาบริมน้ำ
ภายในห้องมีแอร์เย็นฉ่ำเผื่อคนขี้ร้อนไว้ด้วย
พร้อมกับมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานรีสอร์ต
ไฮไลต์ด้านหน้าห้องพักจะมีระเบียงยื่นไปกลางน้ำ รวมทั้งมีเตียงตาข่ายให้นอนรับลมเย็น
ๆ นั่งหรือเอนหลังชมวิวได้จากบนเตียงนอน
มองเห็นวิวธรรมชาติทะลุผ่านทะเลสาบไปสุดลูกหูลูกตา
“นานาคาเฟ่
แอนด์ เรสเตอรองส์” แลนด์มาร์คใหม่ปราจีนฯ
ก่อนเข้านอนแวะไป
“ดินเนอร์” กินมื้อค่ำท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งกว้างที่ “นานา คาเฟ่ แอนด์
เรสเตอรองส์” ประจันตคาม แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของปราจีนบุรี
เปลี่ยนฉากธรรมชาติไปตามฤดูกาล
แพทย์ย้ำคนไทยฉีดวัคซีนโควิดปลอดภัยผลิตทดสอบผ่านคลินิก3ระยะ
อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ
ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
2019 หรือ วัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นคาดว่าจะเป็น
การทำให้การระบาดใหญ่สงบลง และมีบริษัทยาผู้ผลิตวัคซีนจากหลายแห่งทั่วโลก
ขณะนี้มีวัคซีนมากกว่า 40 ชนิดที่อยู่ในระหว่างการทดลองในมนุษย์
และมากกว่า 150 ชนิดที่อยู่ในขั้นทดลองในห้องปฏิบัติการหรือทดลองในสัตว์
โดยสามารถติดตามความคืบหน้าได้จากเว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลก
โดยทั่วไปการพัฒนาวัคซีนอาจใช้เวลาหลายปีอาจถึงหลายสิบปี
เนื่องด้วยความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 นั้น มีการอนุญาตให้พัฒนาอย่างเร่งด่วน
เราอาจได้ยินข่าวว่าวัคซีนแต่ละชนิดนั้นคืบหน้าไปถึงระยะใดแล้ว
ระยะพรีคลินิก ทดสอบในห้องปฏิบัติการและสัตว์ทดลอง เช่น หนู
โดยจะผ่านระยะนี้ไปได้หากมีผลการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันดี
และพบว่าปลอดภัยกับสัตว์ทดลอง
ระยะคลินิกระดับ 1 ระยะนี้มักใช้คนที่สุขภาพดีอายุ 18-55 ปี น้อยกว่าร้อยคนทดสอบความปลอดภัยของปริมาณวัคซีนในระดับต่าง ๆ
โดยอาสาสมัครคนแรก ๆ จะได้ปริมาณวัคซีนต่ำก่อน เมื่อพบว่าปลอดภัย อาสาสมัครคนหลัง
ๆ ก็จะได้วัคซีนปริมาณมากขึ้น จนทราบปริมาณวัคซีนที่เหมาะสม
โดยมีการติดตามอาสาสมัครอย่างใกล้ชิดผ่านคณะกรรมการกำกับดูแล
ระยะคลินิกระดับ 2 เป็นระยะที่ใช้อาสาสมัครมากขึ้นหลายร้อยคน
เพื่อดูความปลอดภัยและระดับภูมิคุ้มกันว่าถึงหรือไม่
ระยะคลินิกระดับ 3 เป็นระยะที่ทดสอบว่าวัคซีนสามารถใช้ป้องกันโรคได้หรือไม่
โดยมีการทดลองแบบอำพราง (blinded study) หมายถึงอาสาสมัครบางส่วนจะได้รับวัคซีนจริง
บางส่วนได้รับวัคซีนหลอกหรือวัคซีนโรคอื่น หลังจากติดตามอาสาสมัครไประยะหนึ่ง
หากมีอาการผิดปกติจะนำมาทำการทดสอบว่าเป็นโรคหรือไม่
เพื่อที่จะดูประสิทธิภาพของวัคซีนว่าสามารถป้องกันโรคได้มากน้อยเท่าใดในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริงเทียบกับอีกกลุ่ม
สำหรับการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 นั้น มีการรวมระยะคลินิกทั้ง 3ให้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำเอกสารยุ่งยาก ซับซ้อนระหว่างรอแต่ละขั้น และยังมีการใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนของโคโรนาไวรัสตัวอื่นที่เคยมี
การระบาดก่อนหน้านี้คือ เมอร์สโควี (MERS-CoV) และ
ซาร์โควีหนึ่ง (SARS-CoV-1) ทำให้พัฒนาได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก สิงคโปร์แอร์นำร่องTRAVELPASSรายแรกของโลกไฟลต์ลอนดอน15มี.ค.
สิงคโปร์
แอร์ไลน์ส (SIA) รายงานว่า
เตรียมนำแอพลิเคชั่นรับรองสุขภาพแบบดิจิทัลหรือ IATA Travel Pass โหลดใช้บนมือถือครั้งแรก กับผู้โดยสารกลุ่มแรกในเที่ยวบินนำร่องครั้งแรก
ที่จะบินจากสิงคโปร์สู่ลอนดอน อังกฤษ ระหว่วันที่ 15-28 มีนาคม
2564 นับเป็นสายการบินแรกของโลกที่นำร่องใช้ระบบดังกล่าว
หากเที่ยวบินนี้ประสบความสำเร็จ
ภายในกลางปี 2564 ทาง สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส จะรวบรวมกระบวนการตรวจสอบสุขภาพดิจิทัล
โดยใช้ IATA TRAVEL PASS เป็นกรอบให้บริการตรวจผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศกับเที่ยวบินสู่ทั่วโลกด้วย
นางโจแอน
ตัน รักษาการรองประธานอาวุโสฝ่ายวางแผนการตลาด สิงคโปร์ แอร์ไลน์ กล่าวว่า
การทดลองใช้ IATA TRAVEL PASS ช่วงระยะแรกสามารถช่วยให้สายการบินขับเคลื่อนมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างปลอดภัย
สะดวกสบาย ในการตรวจรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และสถานะสุขภาพของ
ผู้โดยสาร รวมถึงสถานะการฉีดวัคซีนในอนาคตของผู้โดยสารทุกคนปรับตัวตามวิถีชีวิตใหม่
New Normal ช่วยสร้างประสบการณ์แก่ผู้โดยสารของสิงคโปร์
แอร์ไลน์ส ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นในระยะยาว
สำหรับ IATA Travel
Pass เป็นโครงการของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International
Air Transport Association :IATA) ตอนนี้ผ่านการทดลองกระบวนการทดสอบระยะที่
2 เพื่อนำมาให้ผู้โดยสารทั่วโลกใช้สมาร์ทโฟนดาวโหลดแอปพลิเคชัน
ทราเวล พาสส์ จากการสร้างบัญชีดิจิทัลของตัวเองขึ้นมาเป็นบัญชีประจำตัวของแต่ละคนอย่างแม่นยำจากการผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดจากแล็บที่ได้การรับรองขึ้นทะเบียนถูกต้องเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล
แอพลิเคชั่นบนมือถือประจำตัวของผู้โดยสารแต่ละคน
จะประกอบด้วย 1.รูปโปรไฟล์ 2.ข้อมูลหนังสือเดินทาง
(PASSPORT) 3.ข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินของเจ้าของบัญชี
ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ
เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนการเดินทางในเที่ยวบินดังกล่าว
ผู้โดยสารของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส
สามารถจองตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านทางออนไลน์กับคลินิกในสิงคโปร์ที่เข้าร่วมโครงการ
7 แห่ง โดยการลงทะเบียนที่คลินิก โดยใช้บัญชีดิจิทัล
และข้อมูลเที่ยวบินที่ปรากฎบนแอพลิเคชั่น รวมถึงสามารถดูผลการตรวจหาเชื้อ และยืนยันสถานะการบิน
ผ่านทางแอปได้โดยตรง
ส่วนระบบลงทะเบียน
Timatic ตามมาตรฐานไออาตานั้น ทางสายการบิน
และบริษัทท่องเที่ยวสามารถใช้เพื่อตรวจสอบเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารคนนั้น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลสุดท้าย เกี่ยวกับการทดสอบโควิด
และเงื่อนไขอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกบนแอพลิเคชั่นดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องแสดงสถานะที่ได้รับการยืนยันในแอพลิเคชั่น
ต่อเจ้าหน้าที่เช็คอินในสนามบินชางงี สิงคโปร์ ก่อนจะขึ้นเที่ยวบินขาออก อีกทั้งผู้โดยสารจำเป็นต้องแสดงเอกสารรับรองสุขภาพที่เป็นกระดาษ
ซึ่งออกโดยคลินิกในการไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดปัจจุบันของรัฐบาลสิงคโปร์
ข่าวที่สอง โชว์โลมาภูเก็ตลดใหญ่รับปิดเทอมเดือนสงกรานต์ตลอด
เม.ย.นี้
โชว์โลมาภูเก็ต จัดโปรโมชั่นพิเศษ
ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวชวนกันเที่ยวปิดเทอมและสงกรานต์เดือนเมษายน 2564 เปิดให้เข้าชมโชว์โลมาที่ดีที่สุดในเอเชีย
ด้วยการซื้อบัตร VIP ผู้ใหญ่ 500
บาท/คน เด็ก 400 บาท/คน หากจองและชำระเงินเที่ยวช่วงวันธรรมดาพฤหัสบดี
ลดทันที ผู้ใหญ่เหลือ 300 บาท/คน เด็ก 200 บาท/คน
(แถวที่นั่งที่กำหนด)
โชว์โลมาภูเก็ต
เปิดบริการ เสาร์-อาทิตย์ รอบเวลา 14.00 น. ชมการแสดง 45 นาที
ส่วนบริการว่ายน้ำกับโลมาแสนรู้ลด 30% เหลือเพียง 2,450
บาท จากราคา 3,500 บาท สนใจเข้าชมแนะนำจองตั๋วล่วงหน้า
ผ่านช่องทางเพจ Facebook คลิกจอง m.me/dolphinbayphuket หรือโทร. 099-313 7666
ข่าวที่สาม มาเจสติกจัดโปรแรงแพกเกจเที่ยวทะเลพัทยา/ตราด/หัวหินเริ่มแค่2,800บาท
บริษัท
มาเจสติก แทรเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมมือกับ ไทยสมายล์
และโรงแรมเครือเซนทารา
จัดต่อเนื่องแพกเกจบินไปเที่ยวพร้อมที่พักโรงแรมเชนเที่ยวทั่วไทย 4 ภาค ราคาเริ่มต้น 2,550 บาท ล่าสุดกลางเดือนมีนาคม 2564 มีโปรโมชั่นแพกเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักเมืองชายทะเลมานำเสนอ
จองได้ตั้งแต่วันนี้ -30 เมษายน
2564 ซื้อแล้วเก็บไว้ใช้ท่องเที่ยวได้จนถึง
31 ตุลาคม 2564
โดยเฉพาะแพกเกจท่องเที่ยวคลายร้อนเมือง
สัมผัสประสบการณ์ทะเลอ่าวไทยสวย ๆ หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ธรรมชาติฟื้นตัว
นักท่องเที่ยวยังไม่แออัดมากนัก เลือกซื้อแพกเกจท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน
รวมห้องพัก 1 คืน
และอาหารเช้าสำหรับ 2 คน ทุกทริป
ได้จากโปรโมชั่นดังต่อไปนี้
แพกเกจเที่ยวทะเลอ่าวไทย
“ภาคตะวันออก” แพกเกจ 2 วัน 1 คืน
“พัทยา” พักฮิลตัน 3,900 บาท/คน/ทริป หรือจะเลือกพักโรงแรมในเครือเซนทารา
ราคาเริ่มต้น 2 วัน 1 คืน 2,800
บาท/คน/ทริป
เลือกซื้อได้ที่“ศรีราชา/พัทยา” พัก เซนทรา บาย เซนทารา มาริส รีสอร์ต “เกาะช้าง”
พักเซนทารา เกาะช้าง ทรอปิคานา รีสอร์ต “ตราด” พักเซนทารา ชาน ทะเล รีสอร์ต วิลล่า
ตราด
แพกเกจเที่ยวทะเลอ่าวไทย
“ภาคใต้” เริ่มปักหมุดที่ “ชะอำ” พักเซนทรา บาย เซนทาราคา ชะอำ บีช รีสอร์ต และ“หัวหิน” พักฮิลตัน 3,900 บาท
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น