“สนธยา คุณปลื้ม”เคลื่อนทัพ“PATTAYA MOVE ON-NEO PATTAYA” “พัทยา”เพิ่มSHA EXTRAฝ่าวงล้อมโควิดรอเปิดประเทศรับทัวร์ต่างชาติ

 “สนธยา คุณปลื้ม”เคลื่อนทัพ“PATTAYA MOVE ON-NEO PATTAYA”

“พัทยา”เพิ่มSHA EXTRAฝ่าวงล้อมโควิดรอเปิดประเทศรับทัวร์ต่างชาติ

“คิง เพาเวอร์”ชวนอยู่ที่ไหนก็ช้อปฟิน 2 ช่องทาง”ออนไลน์-แอพลิชั่น”

พูลแมนคิงเพาเวอร์เปิดห้องควิซีนจัดโปรฮ็อตสั่งซีฟู้ดแถมห้องพัก1คืน

“ททท.-ดุสิตธานี’นำ5โรงแรมรุกขายมหาโปรอะเมซิ่ง‘จองก่อนค่อยไป’

ททท.จัดแข่ง“Blogger the Series Live”ช่วยขายที่กิน/เที่ยว/พัก60ชุมชน

“TCEB-ม.เกษตร”ต่อยอดชิงสิทธิ์ดึงคอนเว็นชั่นจัดในไทย5อุตสาหกรรม

“พังงา”พร้อมชวนคนไปเที่ยวแล้ว“เขาหลัก-เกาะยาวใหญ่-เกาะยาวน้อย

โปรดฟัง!!“อาหารเสริม”จะควักเงินซื้อมากินต้องอ่านเพิ่มความเข้าใจก่อน

แกรนด์แอสเสทฯเปิดแผนปรับบริการครั้งใหญ่5โรงแรมพ้นวิกฤตต้นปี’65

“สายกาบินสกู๊ต”สิงคโปร์ชูฝูงบินใหม่A321neoฝ่าวิกฤตปั๊มเงิน26เส้นทาง

 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #PATTAYAMOVEON  #สนธยาคุณปลื้มนายกเมืองพัทยา #KingPower #TAT #PhuketSandbox #มหาโปรอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิมดุสิตธานี5โรงแรม  

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1680093668851351&id=100005522016696

 

ช่วงที่ 1 เจาะลึกปฏิบัติการท้าทายกับ “สนธยา คุณปลื้ม” นายกเมืองพัทยา นำทัพธุรกิจท่องเที่ยวฝ่าโควิดตามแผน “พัทยา มูฟ ออน” ลุ้นเลื่อนหรือลุยทำ 1 ก.ย.นี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อจากภูเก็ต สมุย กระบี่ พังงา กดปุ่มรับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน เร่งผสมผสานประยุกต์ใช้ต้นแบบ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์+สมุยพลัส” ทำคลอด SOP กับ Seal Route ระดมโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร เข้มด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุดด้วย SHA PLUS EXTRA คู่ขนานเดินหน้ายุทธศาสตร์ “นีโอ พัทยา” 3 โซน “นาเกลือ-พัทยาเหนือ/ใต้ จอมเทียน-เกาะล้าน” ตอนนี้งบผ่านสภาแล้ว ต้นปี’65 ได้เห็นโฉมใหม่สาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐาน พร้อมปลั๊กอินโตเคียงข้าง EEC

 

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า การวางแผนเปิดเมืองพัทยาต้อนรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นตอนภายใต้โครงการ “พัทยา มูฟ ออน : PATTAYA MOVE ON” โดยทางเมืองพัทยาได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้ประกอบการเอกชนในพื้นที่ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 โดยให้ทุกฝ่ายไปทำการบ้านส่วนสำคัญ 2 เรื่องหลัก

 

เรื่องที่ 1 คู่มือมาตรฐานปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย หรือ SOP : Standard Operating Procedure ซึ่งจะต้องให้เป็นไปตามความสมัครของใจของภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองพัทยา มีที่ใดต้องการเข้าร่วมโครงการ PATTAY MOVE ON

 

เรื่องที่ 2 เส้นทางการท่องเที่ยวที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการได้ภายในกติกาที่กำหนด หรือ Seal Route

 

ในการประชุมทุกฝ่ายร่วมกันเป็นครั้งแรกซึ่งผ่านมาแล้วเดือนเศษ ทางสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เข้ามาตรวจสอบดูรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการร่วมกับ ททท.คืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด ตอนนี้สรุปไประดับหนึ่งแล้ว ขั้นตอนขณะนี้ทางเอกชนพร้อมเสนอ SOP ให้ สสจ.เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติไฮไลต์คือ แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทย ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จะดำเนินการอย่างไร ขั้นตอนจากนี้ทาง สสจ.จะนำ SOP เข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรีต่อไป เพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อส่งต่อเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) พิจารณาอนุมัติ ก่อนเปิดเมืองพัทยา วันที่ 1 กันยายน 2564

 

ส่วนรายละเอียดสำคัญที่จะต้องบรรจุไว้ใน SOP ซึ่งมีลักษณะเป็น “เมืองหรือ Mainland” กับ “เกาะล้าน” ดังนั้นการทำ SOP กับ Seal Route จึงต่างจากเมืองเกาะอย่างภูเก็ต กับสมุย ตอนนี้มี เชียงใหม่ พังงา มีทั้งอุทยานแห่งชาติเขาหลัก เกาะยาว แต่เบื้องต้นพัทยาจะใช้ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” กับ “สมุย พลัส โมเดล” มาเป็นตัวอย่าง แล้วปรับใช้ให้เหมาะสมกับพัทยา

 

ดังนั้นใน “พัทยา มูฟ ออน” เบื้องต้นเปิด 3 พื้นที่เชื่อมโยง พัทยา สัตหีบ บางละมุง เป็น “แซนด์ บ็อกซ์” เหมือนภูเก็ตทั้งเกาะคงจะไม่ได้ เบื้องต้นจึงจะใช้วิธีทำ SOP 2 ส่วน คือ 1.กำหนดเส้นทางท่องเที่ยว 2.กำหนดสถานที่รับนักท่องเที่ยว ควบคู่กับการประเมินผลพื้นที่ท่องเที่ยวที่กำหนด Seal Route จะต้องมีแนวทางอย่างไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดทำเป็นผู้ให้คำปรึกษาเรื่องนี้ กับแนวทางการป้องกันควบคุมโรค

 

นายสนธยากล่าวว่า เรื่องการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในจังหวัดชลบุรี ฉีดไปแล้วประมาณ 350,000 คน อยู่ในลำดับ 5-6 ของประเทศหรือ เป็นด่านส่วนหน้าที่ที่ได้รับวัคซีน รวมทั้งเป็นพื้นที่นำร่องการเปิดเมือง ตามกำหนดเดิมจะต้องเปิดพัทยา มูฟ ออน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน “พัทยา” เป็นพื้นที่สีแดงเข้มที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิดสูง ก็อาจจะต้องรอดูสถานการณ์ แต่การเตรียมทำ SOP และ Seal Route กับ ททท.ก็ต้องเดินหน้าทำต่อไป

 

ถือเป็น “การเตรียมพร้อม” เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี พัทยา มูฟ ออน ก็จะได้สามารถลงมือปฏิบัติได้ทันที

 

นายสนธยากล่าวว่า การจัดเตรียมระบบคมนาคมช่องทางเข้า-ออก พัทยา ตอนนี้ยังคงไม่ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์เมืองเหมือนครั้งแรกที่เกิดโรคโควิดระบาดครั้งแรก แต่จะใช้การเปิดช่องทางนำนักท่องเที่ยวจากสนามบินตรงเข้าที่พัก รูปแบบจะคล้ายการทำ AQ : Alternative Quarantine หรือ SQ : State Quarantine เพื่อจะได้ไม่ไปรบกวนหรือกระทบกับ พัทยา มูฟ ออน

 

สำหรับ “โรงแรม/ที่พัก” ที่จะเข้าร่วมโครงการ “พัทยา มูฟ ออน” จะต้องได้รับมาตรฐานโดยใช้ชื่อว่า “SHA PLUS EXTRA” นอกจากจะเป็น “สถานประกอบการ” ที่ผ่านมาตรฐานเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแล้ว “ผู้ให้บริการ” ภายในโรงแรมที่พักฉีดวัคซีนแล้วเกิน 70 % จะต้องมีเพิ่มอีกเรื่องคือ “มีพื้นที่กำหนดให้ใช้บริการภายในโรงแรม” ด้วย ข้อนี้จะคล้ายกับสมุย พลัส ซึ่งกำหนดให้อยู่ในโรงแรมช่วงมาถึง 3 วันแรก เพื่อทำให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

ทางด้าน “สถานที่ท่องเที่ยว” แต่ละแห่งก็จะต้องเข้ามาตรฐาน SHA PLUS เป็นหลัก เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการ “พัทยา มูฟ ออน” และรับนักท่องเที่ยวในประเทศควบคู่กันได้ ด้วยวิธี “กำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนการเข้า-ออก สถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ” ซึ่งอาจจะต้องลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการ

 

นายสนธยา กล่าวว่า ระหว่างเปิดโครงการ “พัทยา มูฟ ออน” ก็ยังมีภารกิจหลักทำคู่ขนานกันไปคือ “นีโอ พัทยา : NEO PATTAYA” เป็นแผนยุทธศาสตร์หลักรองรับนโยบายพัฒนาประเทศอย่าง “เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก : EEC -Eastern Economic Corridor” ที่จะต้องพัฒนาสนามบิน และรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน จึงต้องเตรียมแผนงานรองรับไว้ ตามที่เมืองพัทยาแบ่งการรองรับไว้ 3 โซนหลัก ประกอบด้วย

 

1.โซนนาเกลือ พัฒนาให้เป็นย่านเมืองเก่า หรือ Old Town 2.โซนพัทยาเหนือ-ใต้ จอมเทียน 3.เกาะล้าน จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รอรับการเปิดประเทศ 120 วันข้างหน้า ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และยุทธศาสตร์ EEC

 

ควบคู่กับมาตรการ “ป้องกันควบคุมโรค” และนโยบายต่าง ๆ ของประเทศ เพราะเมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลาย พัทยาก็สามารถเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยว และอีอีซี ได้ทันที

 

โดยภาพรวมต้นปี 2565 จะได้เห็นโครงการ Neo Pattaya โซนแรก คือ โอลด์ ทาวน์ นาเกลือ ดำเนินการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่นเดียวกับ “เกาะล้าน” ก็จะมีเรื่องแผนพัฒนาการลงทุนหลากหลายด้าน ส่วนพัทยาเหนือ-ใต้ ก็จะปรับภูมิทัศน์ชายหาด กับสาธารณูปโภคปูพรมรับโครงการอื่นต่อไป

 

ภายใต้การใช้งบประมาณพัฒนาโครงการ Neo Pattaya 3 โซน ระหว่างปี 2563-2565 ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงชี้แจงรายละเอียดการใช้งบประมาณปี 2565 ต่อคณะอนุกรรมาธิการ และกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการทั้งสองชุดข้างต้นแล้ว จะทำให้การวางแผนพัฒนา Neo Pattaya เดินหน้าตามแผนได้ต่อไปจนสิ้นสุดกรอบงบประมาณโครงการ

 

สำหรับภาพโดยรวมทางเศรษฐกิจและธุรกิจท่องเที่ยวในพัทยา ณ วันนี้ตัวเลขการเติบโตลดลงไปถึง 75 % ตามสภาพและสถานการณ์ และหากในอนาคตเมื่อสามารถเดินหน้าเปิดเมืองพัทยารับท่องเที่ยวได้ โดยจะเริ่มจาก 2 กลุ่มแรก ได้แก่ 1.ตลาดในประเทศ 2.ไมซ์ ซิตี้ เน้นรับกลุ่มประชุม-สัมมนา  และการจัดงาน PATTAY TRAVEL MART, PATTAYA MUSIC FESTIVAL และกิจกรรมอื่น ๆ แต่ตอนนี้ผลจากสถานการณ์โควิดระบาดจึงต้องเลื่อนกิจกรรมและงานต่าง ๆ ออกไปก่อน แต่ก็จะต้องเตรียมทุกอย่างรอไว้ก่อนสถานการณ์กลับสู่ปกติ ก็พร้อมจัดได้

 

ขณะที่แผนตลาดเจาะกำลังซื้อนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ เช่น “กลุ่มตลาดเฉพาะ” หรือ niche market ก็ยังคงอยู่ในแผนดำเนินการ เป็นระยะยาวทำไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด เพื่อขยายโอกาสพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวแถวหน้าของโลกต่อไป

 

นายสนธยากล่าวว่าขณะนี้พัทยาถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ตามนโยบายรัฐบาลประกาศงดเดินทางชั่วคราว ยกเว้นผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางเข้า-ออก พัทยา ก็ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมีเอกสารแสดงถึงความจำเป็นการมายังชลบุรี ซึ่งตั้งจุดตรวจแต่ละพื้นที่ เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงขอให้ร่วมมือกันปฏิบัติตามจนกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ปกติต่อไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”ชวนอยู่ที่ไหนก็ช้อปฟิน2ช่องทาง”ออนไลน์-แอพลิชั่น”

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดมหกรรม “อยู่ไหนก็ ช้อป ฟิน” ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็ช้อปได้ทุกโปรโมชั่น สุดคุ้มจาก คิง เพาเวอร์ ผ่าน 2 ช่องทาง

 

1.King Power Online  ช้อปได้ทุกวัน ทุกเวลา ตลอด 24 ชม.  ที่ www.kingpower.com และ คิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชัน

 

2.King Power Call to Shop กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป! บริการ Shopping Assistant ผู้ช่วยช้อปส่วนตัว อยู่บ้านก็ช้อปได้ เก็บครบทุกช้อปปิงลิสต์ โทร. 02-338-7870 ตั้งแต่เวลา 9:00 – 21:00 น.

 

ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ ปฏิบัติตามมาตรการดูแลป้องกันตามที่ภาครัฐกำหนด อย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และพร้อมให้ความร่วมมือดำเนินการตามมาตรการยกระดับการควบคุมโรค เพื่อให้สังคมไทยผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม King Power Contact Centre 1631

 

ข่าวที่ 2 พูลแมนคิงเพาเวอร์เปิดห้องควิซีนจัดโปรฮ็อตสั่งซีฟู้ดแถมห้องพัก1คืน

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำเสนอดีลพิเศษที่โรงแรม “พูลแมน คิง เพาเวอร์” เมื่อกับโปรโมชั่นคุ้มสุดคุ้ม

1. สั่งชุดอาหารทะเล Seafood Platter สำหรับ 2 คน รับฟรีห้องพักดีลักซ์ 1 คืน รวมอาหารเช้า เพียง 2,699 บาทสุทธิ  ลด 10% สมาชิกคิง เพาเวอร์ ใส่รหัส  KP  ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2564  คลิก https://bit.ly/3eEf17I  

 

2.ส่งฟรี 10 กิโลเมตร ไม่จำกัดออร์เดอร์ เมื่อสั่งโฮมเมดพิซซ่า 🍕 กลับบ้าน อิ่มอร่อยในวันหยุด วันทำงาน หรือวันไหน ๆ  จากห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ

ผ่านแอปโรบินฮู้ด คลิกสั่ง https://bit.ly/3egAiUO  โทร.สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 680 9999

               

ข่าวที่ 3 “ททท.-ดุสิตธานี’นำ5โรงแรมขายมหาโปรอะเมซิ่ง‘จองก่อนค่อยไป’

 

นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการ ภูมิภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับพันธมิตรกลุ่มดุสิตธานี ทำโปรโมชั่นห้องพักในโครงการ “มหาโปร อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ด้วยแคมเปญ  ‘จองก่อนค่อยไป’ เสิร์ฟแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์เปิดให้จองห้องพักก่อนได้ทางเว็บไซต์ ‘เที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม’  มอบดีลที่พักราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 1,055 บาท/ห้อง/คืน  

 

สามารถเลือกจองห้องพักได้จากโรงแรมในเครือที่เข้าร่วมโครงการ  5 แห่ง ประกอบด้วย 1.ดุสิตธานี ลากูน่าภูเก็ต            2.ดุสิต หัวหิน 3.ดุสิต สวีท ราชดำริ กรุงเทพ 4.ดุสิตธานี พัทยา และ 5.ดุสิตธานี ดีทูเชียงใหม่

 

ซึ่งทางกลุ่มดุสิตธานีได้ปรับปรุงทั้งพื้นที่ และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อมอบประสบการณ์เข้าพักที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดด้วยตราสัญลักษณ์ SHA และ SHA Plus+

 

เน้นให้นักท่องเที่ยวทำการจองที่พักไว้ก่อน แล้วค่อยเดินทางจริงในภายหลัง พร้อมเน้นย้ำ เที่ยววิถีใหม่สุขใจแบบ New Normal เที่ยวอย่างรับผิดชอบ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

 

ผอ.จุฑาทิพย์ ย้ำว่า ททท. ได้จัดทำโครงการ “มหาโปรเที่ยวไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั่วประเทศที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) กว่า 100 ราย ร่วมกิจกรรมการตลาดออนไลน์ โดยได้รวบรวมส่วนลดมากมายมาไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเดินทางจองก่อน เดินทางทีหลัง เมื่อสถานการณ์กลับมาปกติ สามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ เที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม http://bit.ly/3rRuG8d  ได้ทุกวัน

 

ข่าวที่ 4 ททท.เปิดแข่ง“Blogger the Series Live นี้เพื่อชุมชน”ช่วยขายที่กิน/เที่ยว/พัก60ชุมชน

 

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่ปงระเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จัดทำโครงการ “Blogger the Series Live นี้ เพื่อชุมชน” เปิดแข่งขันโดยให้กลุ่มบล็อกเกอร์ ผู้มีอิทธิพล (influencer) สายกินสายอาหาร มาแข่งกันไลฟ์สด Live Streaming  ลุ้นรับเงินรางวัลกว่า 4 แสนบาท เน้นสินค้าชุมชนที่ได้รับรางวัลแล้วสมัครเข้าร่วมโครงการ ททท. 60 ชุมชน นำเสนอทั้งที่กิน ที่เที่ยว และที่พัก

 

กำหนดจัดการแข่งขันในวันที่ 8 เดือน 8 เวลา 08.08 น. โดยจะตัดสินผู้ชนะจากยอดการเข้าถึง (Reach) นับทุก ๆ  1 การไลฟ์ที่ส่งเข้าแข่งขัน ผู้ชนะมีสิทธิ์รับ 33 รางวัล มูลค่ากว่า 400,000 บาท ได้แก่ 1.ชนะเลิศ 1 รางวัล จะได้รับเงิน 50,000 บาท 2.รองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัล จะได้รับเงิน 30,000 บาท 3.รองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล จะได้รับเงิน 20,000 บาท และรางวัลชมเชยอีก 30 รางวัล จะได้รับเงินรางวัลละ 10,000 บาท

 

สนใจสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 4 สิงหาคม 2564 โดยกรอกใบสมัครได้ที่ https://forms.gle/55VeVjTtjB44UMXn7 หรือสอบถามรายละเอียดโครงการและกิจกรรมเพิ่มเติมที่เพจเฟซบุ๊กโครงการ : TheLocallicious

 

สำหรับโครงการการ “Blogger the Series Live นี้ เพื่อชุมชน” มีชุมชนสนใจเข้าร่วมทั้งหมด 60 ชุมชน จาก 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย

 

กลุ่มที่ 1 ชุมชนได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย : Thailand Tourism Awards 

กลุ่มที่ 2 ชุมชนที่ได้รับรางวัลสุดยอด 100 หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว

กลุ่มที่ 3 ชุมชน Thailand Rural Tourism Awards 2020 จากทั่วประเทศ เช่น ชุมชนท่องเที่ยวตำบลภูเขาทอง จังหวัดนราธิวาส ชุมชนชนเผ่าไทกวนบ้านนาถ่อน จังหวัดนครพนม ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว จังหวัดจันทบุรี ชุมชนบ้านบึงไม้ จังหวัดสระบุรี ชุมชนบ้านวังส้มซ่า จังหวัดพิษณุโลก

 

ข่าวที่ “TCEB-ม.เกษตร”ต่อยอดชิงสิทธิ์ดึงคอนเว็นชั่นจัดในไทย5อุตสาหกรรม

 นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับคุณปัณพร วงษ์จันทร์เพ็ญ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสมาชิกภาพและประชาสัมพันธ์ สมาคมส่งเสริม​การประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ “TICA” ทิก้า จัดประชุมทางไกลผ่านออนไลน์กับคณะผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์อาหารจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน นำโดย ศ. เกียรติคุณ ดร.อรอนงค์ นัยวิกุล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และ รศ.ดร.อนุวัตร แจ้งชัด คณบดี

 

ร่วมหารือเรื่องแผนกลยุทธ์ต่อยอดงานดึงงาน “การประชุมนานาชาติ : Conventions” 5 สาขาหลัก ได้แก่ วิทยาศาสตร์ อาหาร กฎหมาย การเกษตร การแพทย์ และหุ่นยนต์ จากทั้งในประเทศและนานาชาติมาจัดที่ประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า ซึ่งนับเป็นหนึ่งกิจกรรมต่อยอดการทำงานของทีเส็บร่วมกับภาคีพันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยงานคอนเวนชั่น

 

อีกทั้งยังได้หารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาให้ “เกิดการประมูลสิทธิ์และเพิ่มจำนวนงาน” ประชุมวิชาการนานาชาติทางด้านอาหารในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น พร้อมจะยกระดับงานประชุมวิชาชีพด้านอาหารในประเทศให้มีศักยภาพเป็นงานระดับนานาชาติในอนาคตต่อไป

 

เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมครั้งนี้แล้ว ฝ่ายคอนเว็นชั่นของทีเส็บได้วางแผนจัดการประชุมร่วมกับกับผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ๆ ในโอกาสต่อไป เน้นการทำงานเชิงบูรณาการกับภาคีพันธมิตรทุกกลุ่มเร่งผลักดันงานคอนเว็นชั่น ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศกลับมาเติบโตได้เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างกลับสู่ปกติ

 

                ช่วงที่ 2 เตรียมเปิดประสบการณ์ย้อนเวลาไป “เที่ยวพังงา” กันอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ ที่ “เขาหลัก” ธรรมชาติสวย ๆ รออยู่ “เกาะยาวใหญ่” ปะการังกำลังโบกไหว้ใต้น้ำ “เกาะยาวน้อย” หมู่บ้านประมง เตรียมกระชังกุ้งมังกร กับวิถีชีวิตใหม่ คอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน ส่วนคนที่ชอบซื้อ “อาหารเสริม” ฟังคุณหมอ “บอกให้เพิ่มความเข้าใจก่อนเสียงตังค์ซื้อมากิน” และข่าวต้นแบบธุรกิจที่มีแผนฟื้นกิจการเชิงบวก “แกรนด์แอสเสทฯ” ปรับบริการครั้งใหญ่ 5 โรงแรมในกรุงและเมืองท่องเที่ยว คาดฟื้นได้ต้นปี 65 และ “สายการบินสกู๊ต สิงคโปร์” งัดใช้ฝูงบินใหม่ แอร์บัส A321neo เปิดปฐมฤกษ์มายังกรุงเทพฯแล้ว รอดูความสำเร็จทั่วเอเชียอีก 26 เส้นทาง

 

“พังงา” พร้อมชวนคนไปเที่ยวแล้วที่“เขาหลัก-เกาะยาวใหญ่-ยาวน้อย

 

เมืองท่องเที่ยวเล็ก ๆ ในฝั่งทะเลอันดามัน “พังงา”  กำลังเตรียมเปิดเมืองชวนกลับไปท่องเที่ยวอีกครั้งด้วยคอนเซ็ปต์ “พังงาพร้อม” ตามนโยบายรัฐบาลที่จะให้ทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวก่อน 3 พื้นที่ ได้แก่เขาหลัก เกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย 

 

            สถานที่แรก “เขาหลัก” สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาหลัก – ลำรู่ ตอนนี้ทรัพยากรทางธรรมชาติ สิ่งมีชีวิต ป่าไม้ ชายทะเล และความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต บนบก ติดทะเล เริ่มฟื้นตัวกลับมาอุดมสมบูรณ์รอรับนักท่องเที่ยวอยู่ เมื่อโควิดจางหาย ทุกอย่างพร้อม ก็ห้ามพลาดมาเที่ยวกัน

           

จุดเช็คอินต้องห้ามพลาดในเขาหลักแนะนำ 9 แห่ง  คือ 1. หาดทรายสีดำ 2. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล 3. พิพิธภัณฑ์สึนามิระหว่างประเทศ  4. น้ำตกโตนช่องฟ้า 5. ชายหาดบริเวณเขาหลัก 6. ร้านระเบียงเล ณ บางสัก 7. จิบกาแฟ ขี่ช้างที่ Asia Safari Park 8. ล่องแพไม้ไผ่น้ำตกวังเคียงคู่ 9. ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขาหลักภูวิว

สถานที่ 2 “เกาะยาวใหญ่” เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตหมู่บ้านชาวประมง ไฮไลต์คือ “บ้านแหลมล้าน หรือแหลมหัวล้าน”  ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะยาวใหญ่ ปลายแหลมยื่นลงสู่ทะเล ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝนหรือหน้าแล้งพื้นที่โล้นเตียนโล่งแทบไม่มีต้นไม้งอกงามขึ้นมาได้เลย มีเพียงต้นหญ้าที่งอกออกมาเป็นหย่อม ๆ แต่ก็มีชาวบ้านอาศัยอยู่มาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปสัมผัสชีวิตของพวกเขาได้ 2 วัน 1 คืน คือ

วันแรก  ลองนั่งเรือชมเหลากูดูหรือกูดู พิธีโอบกอดต้นไม้ใหญ่กลางหมู่บ้าน จากนั้นก็ตะลอนไปเล่นน้ำทะเลที่เกาะนอก แวะดูแหล่งเพาะเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชัง แล้วไปเดินเอาท้าวสัมผัสทรายละเอียดบนสันหลังมังกรหรือทะเลแหวก

 

วันที่สอง เรียนรู้วิถีชาวบ้านได้ชื่อว่าเป็น “ตู้กับข้าวใบใหญ่” บนเกาะยาวที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 2,000 ไร่ ชมบ้านโบราณ  ชิมอาหารพื้นเมือง อุดหนุนสินค้าโอท็อปชุมชนนำวัสดุจากใบเตยทะเล หรือจะล่องเรือไปชมป่าเกาะและท่าเรือทับโป๊ะ แวะสูดโอโซน แหลมหาด รอดูกองทัพปูมดแดง กับหาหอยชักตีน

สถานที่ 3 “เกาะยาวน้อย”  ตรงบริเวณ “หาดท่าเขา” มีจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุดบนเกาะ ส่วนที่ “หาดป่าทราย” มีหาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศร่มรื่น ที่ “อ่าวปะการัง” ก็ม็ปะการังโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้เห็นช่วงน้ำลง บวกกับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งของเกาะ และ “หาดโล๊ะหา” เป็นแห่งกระชังเพาะกุ้งมังกร หรือบ่อน้ำจืดในทะเลซึ่งเป็นคลังอาหารของนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ บนเกาะยาวน้อยได้ เช่น ชมการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ การทำผ้าบาติก การทำผลตภัณฑ์ จากกะลามะพร้าว หรือตามชาวประมงไปดูการวางและกู้อวน การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชัง หรือจะเล่นน้ำ ดำดูปะการัง มีความสนุกให้ได้ทำทุกวัน

“พังงาพร้อม” นักท่องเที่ยวก็เตรียมตัวไว้ให้พร้อม แล้วชวนครอบครัว เพื่อนฝูง แวะมาเยี่ยมชาวพังงากันในอนาคตอันใกล้นี้

 

โปรดฟัง!!“อาหารเสริม”จะควักเงินซื้อกินต้องอ่านเพิ่มความเข้าใจก่อน

 

            แพทย์มหาวิทยาลัยมหิดลกับหมอโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้คำแนะนำเรื่อง “ก่อนรับประทานอาหารเสริม ควรเพิ่มความเข้าใจ” ให้ชัดเจนก่อน เพราะในยุคที่หลาย ๆ คนได้ใช้ช่วงเวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน ทำให้ขาดเวลาในการดูแลสุขภาพ   จึงอาจต้องการตัวช่วยในการมีสุขภาพดี หรือต้องการเสริมสร้างสุขภาพด้านต่าง ๆ ประกอบกับการได้รับสื่อโฆษณา  บางผลิตภัณฑ์อาจเกินจริง เช่น สามารถลดน้ำหนักรักษาโรคได้ ทำให้ผิวขาวขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน

 

ข้อมูลเหล่านั้นอาจไม่เป็นความจริงทั้งหมดผู้บริโภคจึงควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนก่อนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ทั้งเรื่องของประโยชน์  ที่จะได้รับ ความจำเป็น ระยะเวลาในการกิน และมีผลเสียหรือไม่ อย่างไร

 

          อาหารเสริม คำว่า "เสริม" นั้นบอกความหมายอยู่แล้วว่า เพิ่ม เติม ต่อเติม หรือหนุน อาหารเสริมจึงอาจใช้ในกรณีที่บางคนได้รับสารอาหารไม่เพียงพอหรือขาดไป อาหารเสริมจึงไม่ใช่ยา ไม่มีสรรพคุณในการบำบัด บรรเทา รักษา เปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือการทำงานของร่างกาย ส่วนสรรพคุณอื่น ๆ คือเรื่องของการที่จะให้กับคนที่จำเป็นต้องได้รับสารอาหาร หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ผู้บริโภคจึงต้องพิจารณาให้ดีก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ตามข้อแนะนำดังนี้

 

1.  ควรศึกษาข้อมูลของฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างถูกต้องและครบถ้วน

 

2.  ผลิตภัณฑ์นั้นต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงาน สถาบันที่เชื่อถือได้ เรียบร้อยแล้ว

 

3.  ควรกินในปริมาณที่กำหนดเพราะการกินวิตามินหรืออาหารเสริมเยอะ ๆ อาจมีผลต่อร่างกายเนื่องจากสามารถไปตกค้างและสะสมในร่างกายได้

 

4.  เลือกวิตามินกลุ่มที่ละลายน้ำจะปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่า เพราะไม่มีการสะสมตกค้างในร่างกาย ได้แก่ วิตามินบี และวิตามินซี

 

5.  หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะวิตามินบางชนิดแพทย์ไม่แนะนำให้กิน เช่น คนไข้มีปัญหาโรคไต ไม่แนะนำให้ซื้อวิตามินเสริมที่เป็นวิตามินเอ เพราะจะทำให้เกิดภาวะวิตามินคั่งในตับและเกิดผลเสียต่อร่างกายได้

 

6.  รับประทานอาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดการสะสมในร่างกาย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

แกรนด์แอสเสทฯเปิดแผนปรับใหญ่5โรงแรมพ้นวิกฤตต้นปี’65

 

นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทในกลุ่มแกรนด์ แอสเสทฯ ได้แก่ บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้เสนอขายทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แกรนด์ รอยัล ออคิด โฮสพีทาลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการ   ซื้อคืน หรือ GROREIT พร้อมเปิดขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) มูลค่า 4,500 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์และจัดจำหน่าย และนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรกเมื่อ 21 กรกฎาคม 2564

 

โดยมีแผนพัฒนาปรับปรุงโรงแรมในเครือทั้ง 5 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธีปรับกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตให้ได้ เช่น นำเสนอขายแพ็กเกจ Staycation และ Work from Hotel เชิญชวนให้ลูกค้าหันมาเลือกจองห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมเปลี่ยนเป็นสถานที่ทำงาน และภายในสิงหาคมนี้พนักงานจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนครบทั้ง 5 โรงแรม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ให้บริการและนักท่องเที่ยว

 

คาดการณ์ไตรมาส 4 ปี 2564 ไปจนถึงต้นปีหน้า 2565 โรงแรมทั้ง 5 แห่ง จะมีผลการดำเนินการกลับมาสร้างรายได้ดีขึ้นตามลำดับต่อไป

 

 

ขณะเดียวกันโรงแรมในเครือทั้งหมดเตรียมทยอยปรับปรุงด้าน ๆ ดังนี้

 

1.รอยัล ออคิด เชอราตัน จะปรับปรุงร้านอาหารริมน้ำใหม่ บรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาะ จะเพิ่มความหลากหลายของเมนูอาหารทะเลและบาร์ริมน้ำ

 

2.เดอะเวสติน แกรนด์ สุขุมวิท จะปรับปรุงห้องอาหารคิซโซะ เพิ่มเมนูอาหารเพื่อคนรักสุขภาพ  ส่วนของบาร์จะพื้นที่ใช้งานเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ใจกลางกรุงให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

 

3.ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท จะปรับบริการนำ “ร้านข้าว” ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มาเปิดในโรงแรมบริเวณชั้น 4

 

4.เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา เตรียมเปิดบริการบีชบาร์ใหม่ มีเพิ่มบริการอาหารญี่ปุ่นนำมาจากห้องอาหารคิซโซะ ของโรงแรมเดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท   

 

5.เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า จะปรับเป็น “ห้องออนเซ็นพูลวิลล่าส่วนตัว” แช่ออนเซ็นในห้องพักกลางวิวธรรมชาติ

 

สำหรับ “สเปคตรัม” รูฟท็อปบาร์ใจกลางสุขุมวิท จะเน้นเจาะตลาดกลุ่มเจนวาย และกลุ่มเพศสภาพ LGBTQ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่นิยมใช้บริการสถานที่มีระดับเทรนด์ใหม่ ๆ

 

ข่าวที่สอง “สายกาบินสกู๊ต”โชว์แผนฝ่าวิกฤตนำฝูงบินใหม่A321neoปั๊มเงิน26เส้นทาง

 

นายแคมป์เบล วิลสัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินสกู๊ต  ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กล่าวว่า พร้อมจะกลับมาเปิดบินบริการทยอยกลับมาให้บริการบิน ไป-กลับ สิงคโปร์ สู่ปลายทางในอาเซียน เอเชีย ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2564 เบื้องต้น 26 เส้นทาง พร้อมฝูงบินใหม่ แอร์บัส A321neo เป็นแบบช่องทางเดินเดียว มีที่นั่งชั้นประหยัดทั้งหมด 236 ที่นั่ง/ลำ ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เรียบร้อยแล้ว เส้นทาง สิงคโปร์-สุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564

ตามแผนเดือนสิงหาคม 2564 สายการบินสกู๊ตจะเริ่มให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A321neo เส้นทางบิน ไป-กลับ สิงคโปร์ สู่เมืองปลายทางในอาเซียน ได้แก่ เซบู (ฟิลิปปินส์) โฮจิมินห์ (เวียดนาม)

ทั้งนี้สายการบินสกู๊ต ตั้งเป้าใช้สมรรถนะของฝูงบินใหม่ แอร์บัส A321neo ซึ่งมีพิสัยการบินสูงสุดถึง 2,620 ไมล์ทะเล หรือ 4,852 กิโลเมตร (มากกว่าเครื่องบินรุ่น A320neo ประมาณ 270 ไมล์ทะเล) สามารถให้บริการบินระยะสั้นจนถึงระยะกลางต่อเนื่องได้มากสุดถึง 6 ชั่วโมง ต่างจากฝูงบิน A320 มีรอบการบินต่อเนื่องได้ 4-5 ชั่วโมง ฝูงบินใหม่จึงเหมาะรองรับแผนเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางใหม่ในอนาคตต่อไป

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.