“TCEB”ขานรับครม.เร่งปั้นคนไมซ์โตตามแผนASEAN MRA–TP
ไทยผลิตมืออาชีพ“อีเวนต์-อินเซนทีฟ”ดันอาเซียนขึ้นนำไมซ์โลก
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TCEB
อ่านทั้งหมดได้ในมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2814866
“TCEB” ตีปีกเดินหน้าลุยหลัง ครม.ไฟเขียวแผนพัฒนาบุคลากรไมซ์เดินสายทำงานได้ทั่วอาเซียน ตามข้อตลง ASEAN MRA–TP ไทยได้สิทธิเป็นเจ้าภาพผลิตเพิ่ม 2 สาขา “อีเวนต์และกิจกรรม MICE & Event Professionals” รุกอาชีพอินเซนทีฟเทรนด์ใหม่อนาคตทำรายได้งาม ตั้งเป้ากอดคอสมาชิกดันภูมิภาคอาเซียนผงาดขึ้นผู้นำอุตสาหกรรมไมซ์โลก ช่วงครึ่งปีหลังทีเส็บเร่งจับมือสถาบันวิชาชีพจัดทัพผลิตคนไมซ์ 5 สาขา สร้างโมเดลต้นแบบอาเซียนร่วมใช้ “มาตรฐานหลักสูตร-เกณฑ์วัดประเมินผล” โตไปด้วยกัน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเรื่อง “พิธีสารแก้ไขข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Mutual Recognition Arrangement on Tourism Professionals: ASEAN MRA - TP) ล่าสุดได้เพิ่มตำแหน่งงานบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอีก 2 สาขา คือ 1.สาขาไมซ์ : MICE Professionals และ 2.สาขาการจัดกิจกรรม :Event Professionals สอดคล้องตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนเดิมซึ่งมีเพียง 2 สาขา คือ สาขาที่พัก : Hotel Services และสาขาการเดินทาง : Travel Services)
จากนี้เป็นต้นไปทุกประเทศสมาชิกจะได้นำนโยบายไปปฏิบัติใช้ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั้งอาเซียน
ตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน หรือ “ASEAN MRA - TP” โดยเฉพาะประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบด้านการพัฒนาความสามารถตำแหน่งงาน
(Competency) ให้บุคลากรอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า
พร้อมจะเคลื่อนแรงงานเดินทางหมุนเวียนทำงานในอาเซียนเพิ่ม 2 ด้าน
ได้แก่ 1.บุคลากรด้านงานอีเวนต์ (Event) 2.บุคลากรด้านการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentive)
ส่วนอินโดนีเซียขอเป็นเจ้าภาพพัฒนาความสามารถตำแหน่งงาน 2 ด้านเช่นกัน คือ 1.การจัดประชุม
(Convention) และ 2.งานแสดงสินค้า (Exhibition)
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บเป็นองค์กรพร้อมจะทำหน้าที่ให้ความร่วมมือพัฒนาบุคลากรเอื้อให้เกิดการทำงานด้วยกันอย่างสะดวก คล่องตัว สร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งอาเซียน อีกทั้งโครงการนี้จะส่งผลดีต่อเนื่องถึงเรื่องเปิดเสรีการค้าและบริการของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคมากขึ้น รวมถึงจะร่วมผลักดันอาเซียนขึ้นเป็นผู้นำไมซ์ในระดับโลกต่อไป
สำหรับหน่วยงานผู้แทนประเทศไทยที่ร่วมดำเนินงานตามข้อตกลง ร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน
: ASEAN MRA - TP” ประกอบด้วย กรมการท่องเที่ยวทำหน้าที่ผู้ประสานงานหลัก
ซึ่งกำลังเพิ่มทีเส็บเข้าเป็นหนึ่งในหน่วยงานองค์ประกอบคณะกรรมการรับรองระดับชาติ หรือ
National Tourism Professionals Board (NTPB) เพื่อขยายขอบเขตการรับรองมาตรฐานบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
สาขา MICE และ Event Professionals อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต
บทบาทของทีเส็บขณะนี้เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักด้านพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ โดยจะทำหน้าที่รับผิดชอบการพัฒนาบุคลากร
สาขา Event Professionals อย่างเข้มแข็งควบคู่กันไปด้วย
ทางด้าน
“นางศุภวรรณ ตีระรัตน์” รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า ทีเส็บพร้อมทีมงานร่วมกันทำช่วงครึ่งปีหลักเร่งเดินหน้า
2 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการที่ 1 “พัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ”
ในอุตสาหกรรมไมซ์ประกอบไปด้วย การจัดงานประชุม แสดงสินค้า อีเวนต์
การบริหารสถานที่จัดงานหรือ Venue
Management แม้กระทั่งการประชุมองค์กรทั่ว ๆ ไป เพราะทั้งหมดเป็น
“วิชาชีพ” ซึ่งขณะนี้ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างให้ความสนใจ ประเทศไทยโดยทีเส็บจึงร่วมกับ
“สถาบันวิชาชีพ” (องค์การมหาชน) นำอาชีพต่าง ๆ
มาสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันเพิ่มสมรรถนะขานรับข้อตกลงของไทยกับสมาชิกอาเซียนเมื่อ
10 ปีก่อน ระบุไว้ชัดเจนว่าคนสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานใน 10 ประเทศได้อย่างกว้างขวาง ทีเส็บจึงมองหาช่องทางสร้างโอกาสให้คนไทยในอุตสาหกรรมไมซ์ไปทำงานประเทศอื่นได้ด้วย
แต่ตอนนี้ยังมีปัญหาอุปสรรคเรื่อง “การจ้างงาน” จึงต้องร่วมมือกับสมาคมเกี่ยวข้อง เช่น สมาคมจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) :TICA สมาคมจัดแสดงสินค้า :TEA สมาคมโรงแรมไทย : THA สมาคมจัดอีเวนต์หรือสมาคมจัดเทศกาล ร่วมพูดคุยกันถึง “มาตรฐาน” หรือตัวชี้วัดสากล เนื่องจากปัจจุบันเมื่อจ้างคนเข้ามาทำงานไม่นานก็ต้องให้พ้นตำแหน่งออกไป เพราะปฏิบัติงานไม่ได้ตามเกณฑ์ หรืออายุงานของพนักงานบางคนอยู่ในตำแหน่งยาวเกินไปไม่สามารถขยับไปแผนกอื่นได้
ทีเส็บหันจึงได้ร่วมกับสถาบันวิชาชีพ
(องค์การมหาชน) จับมือกันสร้าง “มาตรฐานหลักสูตรวิชาชีพ” โดยมีมาตรฐานวัดประเมินและสอบอย่างเป็นแบบแผนปฏิบัติ
เปิดโอกาสให้ “พนักงาน” เลือกใช้การสอบเป็นเกณฑ์ ส่วน “นายจ้าง” ก็สามารถประเมินขยับตำแหน่งพนักงานได้
ขณะนี้จึงได้เริ่มนำร่องแจ้งเกิดคุณวิชาชีพใหม่ในอุตสาหกรรมไมซ์เริ่มต้น 5 สาขา ประกอบด้วย
สาขาที่ 1
อาชีพจัดงานการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล หรือ “Incentive” ปัจจุบันในประเทศไทยมีคนทำอาชีพนี้อยู่จำนวนมาก
พื้นฐานมาจากบริษัทจัดนำเที่ยวต้องการยกระดับขยายตลาดมาสู่บริการธุรกิจอื่นด้วย
แม้แต่องค์กรเอกชนเองก็ต้องการจ้างบริษัทจัดนำเที่ยวทำโปรแกรมให้รางวัลพนักงานเพื่อเดินทางการท่องเที่ยวแทนโบนัสเพิ่มมากขึ้น
สาขาที่ 2 อาชีพการจัดประชุม ทุกวันนี้เนื้อหาการประชุมแต่ละงานมีสิ่งที่แตกต่างจากงานทั่วไป
สาขาที่ 3
อาชีพการแสดงสินค้า ซึ่งแต่ละงานกว่าจะจัดได้
ต้องมีระบบนิเวศน์ และผู้เกี่ยวข้องจากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมกันทำงาน
สาขาที่ 4
อาชีพการจัดงานอีเวนต์ ทุกวันนี้การเปิดตัวแสดงสินค้า
หรือจัดแต่งงานก็อยู่ในหมวดอีเวนต์ซึ่งตลาดเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สาขาที่ 5
อาชีพบริหารจัดการสถานที่จัดงาน
มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเทรนด์การเติบโตสูงขึ้นทั้งในประเทศและสมาชิกอาเซียน
นางศุภวรรณกล่าวว่ามาตรฐานทั้ง
5 อาชีพใหม่ มีระดับงานต่างกัน
อาจเริ่มจาก ตำแหน่ง “ผู้ประสานงาน” ขยับเป็น “ผู้จัดการ” ก้าวสู่ตำแหน่ง
“ผู้บริหารหรือผู้อำนวยการ” เปิดโอกาสให้บุคลากรที่มีความสามารถพัฒนาตนเองเติบโตในอาชีพอย่างมั่นคงได้
ขั้นตอนปัจจุบันนี้การพัฒนาทั้ง
5 อาชีพ ยังอยู่ “ระดับในประเทศ”
ซึ่งมี “หลักสูตร” กับ “ข้อการประเมิน” เรียบร้อยแล้ว แต่ยังขาดเรื่อง “การผลิต”
หรือ “คนที่จะมาประเมิน” คุณสมบัติหลัก ๆ ควรต้องเป็นผู้ประกอบการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีประสบการณ์หรืออายุงานพอสมควร
ทางทีเส็บจะได้เชิญผู้ประเมินมาคุมสอบ สัมภาษณ์บุคลากรแต่ละอาชีพโดยตรง
เมื่อสอบและฝึกอบรมแล้วจะทำให้แต่ละหน่วยงานรู้ถึงความสามารถของบุคลากรที่หน่วยงานต้องการจริง
จ้างงานกันได้ในระยะยาวต่อไป
ขั้นตอนต่อไปจะขยับไปสู่ “ระดับอาเซียน” หลังจากทีเส็บบุกเบิกทำโครงการ “มาตรฐานสถานประกอบการ หรือ “Thailand MICE Venue Standard :TMVS” แล้วยกระดับขึ้นเป็น “ASEAN MICE Venue Standard : AMVS” จนประเทศไทยได้รับเครดิตที่ดีมาก จึงเห็นโอกาสจะต่อยอดทำโครงการ “สมรรถนะวิชาชีพไมซ์” เพิ่มทั้ง 2 ประเภท คือ 1.Event Professional ความเป็นมืออาชีพด้านการบริหารอีเวนต์ 2.Incentive การบริหารจัดการเพื่อเป็นรางวัล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญแห่งเทรนด์อนาคต
เพราะทั้งภูมิภาคอาเซียน
และเอเชีย แปซิฟิก ตอนนี้ต่างก็เน้นจุดขายปลายทางเรื่องเมืองท่องเที่ยว ดังนั้นแทนที่ไทยจะไปแข่งกันขายแต่เฉพาะเรื่องเมืองท่องเที่ยว
ทีเส็บก็หันมาจับประเด็นเรื่อง “การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ Incentive Travel” แทน เพราะองค์กรต่าง ๆ
ต้องการให้รางวัลพนักงานแทนการจ่ายโบนัส แนวโน้มเทรนด์ธุรกิจจะเติบโตดีต่อเนื่องโดยเปลี่ยนไปสู่การให้
“ทริปเดินทางสร้างความประทับใจ” มากขึ้น
ปัจจุบันทั้งอาเซียนเห็นด้วยกับการสร้าง
“สมรรถนะคุณอาชีพ” โดยมีประเทศไทยเป็นต้นแบบ ช่วงปี 2564 ทีเส็บได้ทดลองทำอีเวนต์โปรเฟสชั่นแนลและอินเซนทีฟบ้างแล้ว
กระทั่งเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2564นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นำเข้าที่ประชุมโดยมีทีเส็บให้ข้อมูลรายละเอียด เพื่อขอการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กว่า 500 เสียง เห็นความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว
พร้อมใจกันยกมือสนับสนุนอย่างเต็มที่ เป็นผลดีต่อการพัฒนาบุคลากรไมซ์ของไทยและสมาชิกอาเซียนในอนาคตที่จะร่วมมือกันนำภูมิภาคขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมไมซ์ระดับนานาชาติได้อย่างยั่งยืน
โครงการที่ 2 “Re Opening : ยกเครื่องกิจกรรมใหม่ทั้งหมด” ใน 10 เมืองไมซ์ เตรียมต้อนรับการเปิดประเทศอีก 120 วันข้างหน้า โดยจะเริ่มจากสเกลขนาดเล็ก หรือเมืองที่มีความเสี่ยงน้อย ขยายไปจนเปิดได้ภายใน 120 วัน พร้อมกับนำโมเดลภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมไมซ์พื้นที่อื่น ๆ ซึ่งน่าจะทำได้ปลายปีช่วงฤดูเดินทางไฮซีซัน เริ่มตั้งแต่กันยาย-ธันวาคม 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 เพราะตอนนี้มีงานไมซ์จองคิวพร้อมจัดรออยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแต่ต้องรอฟังประกาศเปิดเมืองอีกครั้ง ก็สามารถเดินหน้าจัดได้ทันที ทั้งงานประชุมบริษัทขนาดใหญ่ (Corporate meeting) และการให้รางวัลพนักงานเดินทางฟรี (incentive) จากตลาดต่างประเทศ ที่จะทยอยเข้ามาภายใต้เงื่อนไขการปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขเน้นมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดทุก ๆ งาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น